และตั้งแต่มาอยู่บ้านสวน ร่างกายอาจยังไม่ฟื้นตัว แต่นางก็ชอบบรรยากาศที่สดชื่น และความเงียบสงบ ซึ่งด้วยห่างไกลผู้คน ดังนั้นสถานการณ์ภายนอกเรือนหลังนี้ นางจึงไม่รู้สิ่งใด อาหารการกินเรียกว่าต้องพึ่งตนเองอย่างเต็มที่ เป็นบ่ายวันนี้ ที่หญิงสาวเก็บมะเขือหลายลูก กับมันฝรั่งมาได้เล็กน้อย แล้วต้องนั่งพักผ่อนหลบแสงแดด นางมีอาการผิดปกติ พอประเมินจากสิ่งที่ตนรู้ก็ใจหาย อนิจจา ไม่ใช่แค่บทในหน้านิยายเขียนไว้เช่นนี้ แต่เจ้าของร่างก็จงใจให้เกิดเรื่องราวที่ชวนปวดหัว หากคาดการไม่ผิด เกือบสองเดือนที่ผ่านมา นางมีเลือดเนื้อเชื้อไขของตงเยี่ยหรงในร่างกายแล้ว โอ้... น้ำแกงควบคุมการตั้งครรภ์ก็ไม่ได้ผล ยาจากโลกปัจจุบันที่กินไปจนหมดแผงยังช่วยไม่ได้อีก เหตุนี้ทำให้รู้ว่าไม่ใช่แค่สวรรค์ขีดเส้นชีวิตนาง แต่ตัวละครเดิมผู้เป็นเจ้าของร่างก็ปรารถนาให้ตนมีทายาทสกุลตง เพื่อที่ซ่างเป่าเหลียนจะไม่ตกเป็นภรรยาชายชาวต่างแคว้นนั่นเอง นอกเหนือจากนั้น วิชาแพทย์ที่มี นางไม่อาจใช้สำหรับการส่งเสริมให้ชีวิตผู้อื่นถึงแก่ความตาย เรื่องนี้นับว่าชวนให้ฉงนยิ่ง หญิงสาวนั่งพักนานอยู่ทีเดียว จึงได้ยิ
จากคณิกากลายเป็นหมอเหลียน หวังตันดีใจยิ่งที่จะได้พบกับซ่างเป่าเหลียน ระยะเวลาที่ผ่านมา นางห่วงหญิงสาวจับใจ แม้ทราบข่าวต่างๆ ผ่านทางโจวซ่งว่านางปลอดภัย เพียงแต่อ่อนเพลียบ่อยๆ และอาหารการกินนั้น ก็ไม่ถูกปากนักสักเท่าใด “ข้าเตรียมทั้งผลไม้แห้ง ลูกอมน้ำตาลกรวด แล้วก็หมูน้ำค้าง ยังมีเนื้อกวางตากแห้งด้วย ยังไงต้องขุนฮูหยินให้มีน้ำมีนวลที่สุด” สิงตู้เหยาได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะกิ๊ก “ป้าหวัง... ข้าไม่ได้หูฝาดใช่หรือไม่ หลายวันที่ผ่านมา เห็นท่านใช้เงินซื้อทั้งเสื้อผ้า อาหารแห้ง มากมาย ตอนนี้ก็บอกว่าจะเอาทั้งหมดไปให้นายหญิง อุ๊ย ไม่ใช่สิ ตงฮูหยิน” สาวใช้ว่าอย่างนั้น หวังตันก็มองมาที่อีกฝ่าย และเอ่ยว่า “ข้าก็รักของข้า นางดีถึงเพียงนั้น อีกอย่าง เจ้าก็เห็นด้วยสองตา แม่ทัพตงมาถึงที่นี่ด้วยตนเอง แล้วยังเอ่อ... คอยจัดแจงทุกอย่างราวกับพ่อบ้านแสนดีผู้หนึ่ง เฮ้อ... เสียอยู่อย่างเดียว” หวังตันว่าแล้วก็หยุดไว้ เป็นตอนนั้นที่โจวซ่งต่อไป “ป้าหวัง... แม่ทัพตงแค่อยากให้ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ ข้าเชื่อว่า การที่ฮูหยินได้พบกับเขาครั้งนี้ จะต้องเป็นการต่อแขน
มารดาของลูกเต่าน้อย อึดใจเดียวกัน คนที่ไม่มีแรงก็หมายจะจู่โจมหญิงสาว และด้วยความไม่ทันระวังตัว เขาเลยได้ขโมยจูบนางอย่างรวดเร็ว โอ้ แม้แต่ตงเยี่ยหรงก็แปลกใจ เขาควรหยาบคาย หื่นกระหายกว่านี้ ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้น คือรสจูบอันหวานละมุน และเปี่ยมด้วยแรงสิเน่หา ฝ่ายซ่างเป่าเหลียนตกใจเช่นกัน แทนที่นางจะปฏิเสธ กลับกลายว่าเผลอใจไปชั่วขณะ เรียกว่าเผลอใจหรือ อันที่จริงนางเองก็ต้องการสัมผัสที่หวานละมุนของเขาเช่นกัน! ตงเยี่ยหรงยิ่งได้ใจใหญ่ บดเบียดริมฝีปาก และไถถูลากไปมาช้าๆ ขณะเดียวกันในหัวก็คิดถึงเรื่องที่ผ่านมาแต่เดิมเขาออกปากไล่นางสารพัด สั่งให้คนพาไปส่งเมืองหวางอิน กำชับว่าต้องเร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืน หากสุดท้ายกลับเป็นนางที่ยื่นมือไปยุ่งกับน้องสาวของฟ่านเทียนโหว จนถูกพวกนั้นทำร้ายบาดเจ็บ เรื่องนี้เขาเลยแค้นจัด อีกทั้งแทนที่นางจะรีบซ่อนตัว ไม่เปิดเผยความสามารถใดๆ ทางการแพทย์ แต่ก็เป็นพวกดื้อรั้นไม่เลิก เขาเลยทนไม่ไหว ต้องมาทำตัวเป็นนายพรานชื่ออาเทียน เพื่อดูแลนางอย่างใกล้ชิด ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีทั้ง หวังตัน โจวซ่ง แล้วก็ลูกชายคนที่สี่ เจี้ยนจาง แต่ตงเยี่
เด็กในท้องต้องการบิดา ซ่างเป่าเหลียนไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ของตงเยี่ยหรง และเหตุการณ์ต่อจากนั้น เขาไม่ได้ล่วงเกินนางอีก เพียงแค่เอ่ยว่า “หากหมอเหลียนพร้อมเมื่อใด ข้าจะเป็นบิดาให้ลูกเต่าน้อยในท้องให้เจ้าเอง” หญิงสาวร้องไห้ไม่ได้ หัวเราะไม่ออกเลยทีเดียว คนอย่างตงเยี่ยหรง มักมีเรื่องให้นางต้องปวดหัวได้เสมอ กระทั่งอยู่ในช่วงทำอาหารเย็น ซ่างเป่าเหลียนก็พยายามเลี่ยงไม่อยู่ใกล้ๆ ตงเยี่ยหรง และฝ่ายเขาเล่นบทเป็นนายพรายชื่ออาเทียนอยู่เช่นนั้น กระทั่งอาหารเรียบร้อย ซึ่งเขาก็เพิ่งขึ้นมาจากลำธาร อาบน้ำเนื้อตัวหอม เสื้อผ้ายังสวมใส่ไม่เรียบร้อย ก็ย่องเข้ามาหานาง ด้วยอดใจไม่ไหวอยากกอดรัด เย้าหยอกพอให้หายคิดถึง อีกทั้งได้กลิ่นไข่ผัดมะเขือ แล้วยังมีแป้งทอดคลุกน้ำตาลและงา ทว่าก้าวไม่ทันได้เข้าใกล้หญิงสาว เขาก็เห็นบางสิ่งที่ผิดสังเกต กู่! และสัตว์พิษชนิดนี้ เลี้ยงโดยสกุลฟ่าน เจ้าของมันจะเป็นใครได้หากไม่ใช่รั่วจิ้ง น้องสาวของฟ่านเทียนโหว ศัตรูของแม่ทัพหนุ่ม “หมอเหลียน อย่าขยับตัว” เขาบอก และเป็นคนตัวโตที่ใช้ผ้าพันเอวสอบตวัดใส่กู่นับสิบตัวที่กำลังม
สามีแพ้ท้อง เมื่อคืนเกิดความยุ่งยากต่อซ่างเป่าเหลียนมาก นางให้ยาแก่คนตัวโตในปริมาณที่ประเมินแล้วว่าเขาจะไม่แพ้ หรือส่งผลเป็นอันตรายต่อเขา ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา ชายหนุ่มจับไข้ แล้วละเมอลุกขึ้นเดินไปมา “ข้าไม่เคยเป็นเช่นนี้ บางทีอาจเพราะอยู่ใกล้ชิดหมอเหลียน และห่วงเจ้าเกินไป จึงมีอาการดั่งคนแพ้ท้อง” หญิงสาวมองเขาตาโตทีเดียว ผู้ชายคนนี้กล่าวคำพูดราวกับกำลังหลอกเด็กเล็กๆ “แพ้ท้อง เทียนเกอ สมองท่านคงมีปัญหา ผู้ชายจะแพ้ท้องแทนข้า ก็อาจเป็นไปได้ หากคนผู้นั้นควรเป็นสามี มิใช่ชายแปลกหน้า” เขาทำหัวคิ้วชนกัน และพ่นลมหายใจร้อนๆ ออกมา “ก็มันเป็นไปแล้ว ข้าแพ้ท้องจริงๆ หมอเหลียนดูมิออกหรือ กินอาหารลำบาก อยากกินของเปรี้ยว และเผ็ด ของหวานก็ชอบ แล้วยังเป็นไข้ง่ายด้วย” บอกนางอย่างนั้น ก็ล้มตัวลงนอนต่อ และเขายังมีอาการของโรคแทรกซ้อน หญิงสาวต้องเปิดมิติหีบยาเทพธิดาของตน ตรวจสอบโรคเขาอย่างเร่งด่วน พบว่าตงเยี่ยหรงถูกวางยามานาน พิษมันไม่ได้กระจายทั่วทั้งร่าง แต่ก็ส่งผลให้เขามีอาการปวดศีรษะ สลับโรคนอนไม่หลับ นี่คงเป็นเหตุผลทำให้เขาเครียดง่าย บ
อึดใจต่อมา เขาเริ่มซอยนิ้ว และมันลงลึกจับใจ ซึ่งในจังหวะที่เคลื่อนเข้าออก สลับการคว้านไปมานั้น ทำให้ซ่างเป่าเหลียนแทบขาดใจ “เทียนเกอ... หากยังไม่หยุดมือ ขะ ข้าจะโกรธท่านแล้ว” นางเป็นคนปากกับใจไม่ตรงกันตั้งแต่ยามใด บอกเขาอย่างนั้น แต่กลับทำเรื่องน่าละอาย ไม่หยุด ที่สำคัญ ซ่างเป่าเหลียนไม่ได้เผลอใจ แต่ร่างกายสั่นสะท้าน ทั้งตอบรับตงเยี่ยหรงอย่างที่นางนึกเกลียดตนเอง ที่กลายเป็นคนเช่นนี้ ฮึ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้คงต้องโทษ ตงเยี่ยหรง บุรุษที่เป็นโจรหื่นกาม อีกทั้งทำทุกวิถีทางเพื่อหลอกล่อนาง “อื้อ... อ่าส์ ดี ๆ ๆ ดูดรัวๆ แล้วตอดรัดนิ้วข้า ทำให้แรงขึ้นกว่านี้สักนิด จากนั้นข้าจะส่งบิดาของคนแซ่ตงเข้าไปในร่างกายหมอเหลียน” เอ๋... เหตุใดหนอ คำพูดเขายามนี้ หาได้เหมือนคนละเมอ หรือ ใกล้เคียงกับคนกำลังเพ้อเพราะผิดไข้ ซ่างเป่าเหลียนไม่ได้โง่ นางดูออก แต่ก็นั่นแหละ เป็นนางที่กำลังกระโจนเข้าใส่กองไฟราคะ อยากไรก็ตามนางไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่เขากำลังปรนเปรอ เรียกว่าความสุขนั้นย่อมได้ และเป็นความต้องการของนางด้วย ลึก ๆ แล้ว
แม่เลี้ยงของคุณชายสี่ สองวันต่อมา ซ่างเป่าเหลียนตั้งใจจะไปทำอาหาร ทว่าตอนนี้นางไม่เหลือแรงใดๆ เมื่อเช้ามืดลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายได้ คนตัวโตก็โผล่เข้ามาหา แล้วป้อนน้ำผึ้งให้นาง และมีผลไม้สองสามชนิด ได้กินแล้วก็ชอบใจ ทว่าแทนที่จะได้ไปทำสิ่งอื่น เขากับยิ้มหวาน ดวงตาคมคู่นั้นพราวระยับ “เกออยากจูบหมอเหลียน” เสียงผู้ชายตัวโตฟังแล้ว ก็เคลิ้มได้เลย นางไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำตัวให้ต้องว้าวุ่นใจเช่นนี้ “จูบเท่านั้นใช่หรือไม่”ถามเขา ทั้งที่รู้ว่าความต้องการของชายหนุ่มยกมากกว่านั้น “อันที่จริงเกออยากจูบอย่างเดียวเท่านั้น แต่กลัวเหลียนเหลียน... น้อยใจ ขอบอกรักด้วยได้หรือไม่ ทั้งตัวเจ้าแล้วก็ลูกเต่าน้อยในท้อง” และยามนี้ เขาแทนตัวเองว่า เกอ ช่างน่ารักยิ่ง ฝ่ายนางก็ไม่เกี่ยง อย่างไรแม้ร่างกายนี้ยังอายุน้อย ทว่าในโลกแห่งความจริงอายุนางกับเขานับว่าใกล้เคียง ดูเหมือนว่า เขาในอีกบทบาทยามเป็นจอมทัพจะบ้าอำนาจแสนเผด็จการสักหน่อย ทว่าเมื่ออยู่กับนางที่นี่ ตงเยี่ยหรงถอดยศและตำแหน่ง เรื่องใดๆ ที่หนักอึ้ง เขาวางไว้ข้างหลัง ดังนั้นจึงเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่นางแอบเผลอไผ
รสหวานของฮูหยิน หวังตันเตรียมของหลายอย่างสำหรับการดูแลคนตั้งครรภ์ ส่วนสิงตู้เหยาในช่วงเวลาเพียงไม่นานนางเติบโตขึ้น เรียกว่าจากเด็กหญิง ได้กลายเป็นเด็กสาวแล้ว นอกจากนั้นยังรู้จักรักสวยรักงามมาก สาวใช้เขินอายโจวซ่งบ่อยครั้ง ทั้งยังชอบมาขอยืมชาดทาปาก และดินสอเขียนคิ้วของหวังตันเพื่อเติมหน้าให้ตนงดงามด้วย ส่วนหนุ่มๆ ทั้งสาม เรียกได้ว่าหายไปตลอดทั้งวัน พอกลับมา ก็มีเนื้อสัตว์มาให้ทำไว้เป็นอาหาร ทั้งเนื้อแห้ง แล้วรมควันเก็บไว้กิน “เช่นนี้ ข้าคงไม่ต้องเดินทางไปเมืองหวางอินแล้วสินะ” ซ่างเป่าเหลียนถามหวังตัน และอีกฝ่ายก็ไม่ได้อย่างปิดบังสิ่งใดอีก “อาเหลียน บอกตามตรง บ้านเมืองกำลังเข้าสู่สงคราม ยามนี้แคว้นเจียงหนานของเราย่อมต้องเจอเรื่องร้ายแรงเป็นแน่ เมืองหวางอิน แม้จะปลอดภัยแต่เกรงว่า อาหารการกินคงลำบากมิได้ ซ่อนตัวอยู่ที่นี่ จนเด็กน้อยคลอดออกมาเสียก่อนเถิด เรื่องนี้ย่อมจำเป็นยิ่ง” หวังตันกล่าวเช่นนั้น ด้วยประเมินว่าฝ่ายฟ่านเทียนโหวคงไม่ยกกำลังผ่านเส้นทางเมืองนี่ ฝ่ายสิงตู้เหยามีบางสิ่งที่ยังคาใจ ด้วยนางเป็นคนต้มน้ำแกงคุมกำเนิดให้ซ่างเป่
“ไม่ทันได้เข้าหอ แต่เสี่ยวเหยา ก็ช่วยข้าด้วยมือและปากของเจ้าได้” “ทะ ท่านเอาเปรียบข้า” “แล้วเสี่ยวเหยายอมหรือไม่”เขาถาม และเตรียมจะจูบอย่างจริงจังมากว่าเดิม “ข้าจะเป็นสตรีคนเดียวของท่าน และท่านก็จะเป็นสามีของข้า เป็นพ่อของลูก เช่นนี้ ยังต้องถามสิ่งใดอีก” ยามนี้คนที่น่าเป็นห่วงไม่ใช่ซ่างเป่าเหลียน หากเป็นสามีของนาง ซึ่งสลบไปหนที่สามแล้ว กระทั่งฟื้นคืนสติเขาก็คำรามเสียงดัง และให้คนไปถามหมอหลวง ทั้งหมอตำแยที่เตรียมการช่วยคลอดผู้เป็นภรรยา หูซีเกอเดินมาถึงหน้าของชายหนุ่ม ก็เข่าอ่อนลงไปนั่งบทพื้น “ท่านแม่ทัพคลอดแล้วขอรับ และฮูหยินฝากให้มาบอกท่านว่า หากไม่ดื่มหรือกินอะไรสักก่อน ห้ามเข้าไปดูหน้าลูกเด็ดขาด” “เหลียนเหลียนใจร้ายกับข้าเช่นนั้นหรือ” เขาว่า และใจอยากจะพุ่งเข้าไปประตูด้านในที่นางคลอดบุตร แต่ยามนี้มีทั้งเจี้ยนจาง และก็หวังตันขวางเอาไว้ “รักษาสุขภาพด้วยเถิดบิดา ไม่อย่างนั้นน้องชายข้า จะมีใครอุ้มและสอนเขาขี่ม้า และยิงธนูเล่า” “ไอ้ลูกเวร นั่นเจ้าแช่งข้าหรือ” ตงเยี่ยหรงพอมีแรงก็ชี้หน้าเจี้ยนจา
ตอนพิเศษ 2ลูกแฝดของท่านแม่ทัพ ยามนี้ ซ่างเป่าเหลียนอดหัวเราะไม่ได้ คนตัวโตกำลังว้าวุ่นใจหนัก ตั้งแต่มาอยู่เมืองหลวงที่จวนแม่ทัพ ตงเยี่ยหรง ก็ใช้เวลาส่วนมากอยู่กับนาง พอรู้ว่าเด็กในท้องเป็นฝาแฝด (หญิงสาวใช้เครื่องตรวจจากหีบยาเทพธิดา) เขาก็เฝ้าโทษตัวเองว่า เป็นพวกมักมากไม่รู้จักหักห้ามใจ ด้วยชวนนางอุ่นเตียงแบบไม่มีวันพัก “เหลียนเหลียน... ข้าผิดต่อเจ้า และสองแฝดนัก หักโหมเช่นนี้ เด็กน้อยอาจได้รับการกระทำกระเทือน” “ผิดต่อข้า... และสองแฝด” เขาบอกแล้วก็ลงไปนั่งคุกเข่า และใช้หูแนบกับครรภ์ของนาง ตั้งใจฟังเสียงของลูกที่อยู่ข้างใน “อีกไม่นานพวกเขาก็คลอด หากพวกเขาไม่แข็งแรง นั่นย่อมหมายความว่า ฟ้าดินโทษข้าผู้แซ่ตงแล้ว” น้ำเสียงเขาฟังแล้วก็เศร้าสร้อย หัวคิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากัน ยามนี้ตงเยี่ยหรงคงมีความเครียดมิน้อย หญิงสาวมองเขา ยิ่งใกล้ชิด ก็สัมผัสได้ถึงความเอาใจใส่ของบุรุษผู้นี้ เขาอบอุ่นพึ่งพาได้ ที่สำคัญรักนางมาก จนบางครั้งอาจมากเกินกว่าคนปกติไปสักหน่อย “อย่าได้กล่าวเช่นนั้น หรงเกอชอบสิ่งใด ภรรยาท่านก็ปรารถนามีความสุขด้วย บางครั้งโลดโผนไปบ้าง นั่
เมื่อขึ้นมาจากน้ำได้ และถูกจับโยนขึ้นหลังม้า โดยที่ร่างสูงใหญ่ประกบด้านหลัง เสียงหายใจของคนตัวโตเป็นจังหวะที่มั่นคง ร่างกายเขาแผ่ไอสังหารออกมาเป็นระยะๆ ยามนั้นนางคิดว่าเขาคงอยากหักกระดูกนาง ไม่ก็จับไปเซ่นไหว้ภูตผี สำหรับทำสงคราม หากความคิดทุกอย่างจบลงที่ เขากล่าวเสียงเข้มๆ ข้างหู “เป็นเจ้าใช่ไหม ที่มากับแม่บ้านหวัง แล้วเหตุใดถึงตกอยู่ในพวกมือสังหาร หรือเป็นสายลับให้กับพวกกบฏ” เมื่อนางไม่ตอบ มือใหญ่จึงบีบลำคอระหง เขาออกแรงหนักอยู่สักหน่อย และนั่นจึงทำให้ซ่างเป่าเหลียนเกิดความกลัวจับใจ “มดปลวกยังมีค่ามากกว่าชีวิตเจ้า” เสียงเขา และการแสดงออกนั้น ทำให้หญิงสาว นิ่งค้างและหัวสมองว่างเปล่า โอ้ โชคดีเท่าใด ที่นางไม่ได้เข้าหอกับไคซีผู้เป็นเจ้าบ่าว หาไม่แล้วการมีพ่อสามีที่เผด็จการ ทั้งชอบใช้กำลัง ย่อมเป็นเรื่องเลวร้ายยิ่ง “ผะ ผู้น้อย ไม่ทราบสิ่งใด หลังจากพลัดหลงกับครอบครัว ก็ถูกต้อนไปเป็นเชลย แล้วเมื่ออยู่ตลาดผ้า ก็หลงทาง จนถูกจับเป็นตัวประกัน” “หึๆ ๆ เจ้ามีประโยชน์อันใดแก่พวกนั้น มันถึงคิดจับตัวไว้ หรือว่าเป็นความงามรึ” น้
การเป็นอยู่ที่ค่ายเชลยลำบากไม่น้อย แต่ซ่างเป่าเหลียนที่แกล้งทำเป็นสติไม่ดี ทำให้นางไม่ถูกรังแกหรือข่มเหงจากผู้อื่น วันนี้นางออกมาด้านนอก หวังตันต้องการแรงงาน ช่วยขนของจากตลาด และสิ่งที่อีกฝ่ายจัดหาคือ เกลือ น้ำตาล แล้วก็เครื่องปรุงสำหรับทำอาหาร แล้วยังด้าย ผ้าต่างๆ นอกจากนั้นก็ของอื่นๆ ซึ่งทหารในค่ายฝากมาซื้ออีกหลายสิบรายการ ขณะที่ซ่างเป่าเหลียนรออยู่ที่ด้านข้างร้านขายของ ก็เป็นตอนนั้นที่ นางเห็นว่าตนพอจะมีโอกาสหลบหนี นางใช้ความคิดอยู่ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น จึงล้วงเข้าไปในแขนเสื้อตน ในนั้นนางซ่อนเข็มเงินเอาไว้ “เมื่อครู่เจ้าทำสิ่งใด” คนที่ถามคือ สิงตู้เหยา ด้วยมั่นใจว่าซ่างเป่าเหลียนหยิบของบางออกมาจากแขนเสื้อ และกำลังซ่อนไว้ ฝ่ายซ่างเป่าเหลียนไม่ตอบ นางใช้ความเร็วอย่างที่สุด แทงเข็มเงินเข้าที่ลำคอด้านข้างของสิงตู้เหยา ชั่วพริบตาเดียว ร่างของสิงตู้เหยาจึงโงนเงนไปมา ก่อนค่อยๆ ทรุดลงไปบนพื้น “จะ เจ้า... แกล้งความจำเสื่อม แล้วยังทำร้ายคนของแม่ทัพตง” สิงตู้เหยาพูดได้เท่านั้น นางก็สลบไป และนั่นคือโอกาสอันดีของซ่างเป่าเหลียน สองขานางรีบ
ตอนพิเศษ 1คำแนะนำก่อนอ่านเนื้อหาในตอนพิเศษนี้เล่าเรื่องซ่างเป่าเหลียนตามฉบับนิยายที่แพทย์หญิงห้องฉุกเฉิน(เป่าเหลียน)เคยอ่านผ่านตา เป็นตอนเสริมเพื่อเพิ่มความบันเทิง*** ดังนั้นบางส่วนจะไม่ต่อเนื่องกับนิยายเล่มหลัก ฉันจำได้ว่าอ่านนิยายที่มีแม่ทัพตงผู้เก่งกาจ กลายเป็นทรราชเมื่อนานมาแล้ว ทว่าช่วงนี้ได้ฝันต่อเนื่องถึงตัวละครที่ชอบบ่อยครั้ง ดูเหมือนว่า อีกมุมหนึ่งเขามีความเผด็จการ ทั้งยังเข้าขั้นแบดบอย แบบฉบับที่ฉันไม่เคยสัมผัสมาก่อน อีกอย่างทรราชแซ่ตง ช่างน่าค้นหากว่านิยายฉบับเดิมเสียอีก แน่นอนว่าในบางครั้งฉันอยากเป็นตัวละครอย่างซ่างเป่าเหลียน ที่ได้ท้าทายอำนาจเขา อีกอย่างสตรีผู้นี้ยังมีชื่อที่เหมือนฉันด้วย ซึ่งในขณะที่หลับๆ ตื่นๆ บนเตียงของผู้ป่วย ฉันได้เข้าไปโลดแล่นในเรื่องราวโลกคู่ขนาน มีตงเยี่ยหรงเป็นแม่ทัพใหญ่ และคือผู้พ่อสามีของซ่างเป่าเหลียนเรื่องราวในนิยาย หญิงสาวที่สวมชุดเจ้าสาวเกิดความเครียดจัด เท่าที่นางรับรู้ ยามนี้เดินทางมาจวนจะถึงเรือนหอแล้ว ทว่ากับมีเรื่องชวนให้นางต้องประสบเหตุร้ายครั้งใหญ่ สาเหตุนั้นอาจเป็นเพราะนางรักคนที่ไม่ควรรัก หรือไม่คงเกิดจาก นาง
กระทั่งเจี้ยนจางกล่าวเข้ามา และบอกว่า “บิดามาถึงแล้ว ท่านแม่...” ซ่างเป่าเหลียนดีใจ ผิดแต่ครรภ์ของนางใหญ่ขึ้นมาก จะให้รีบขยับตัวแล้วออกไปพบชายหนุ่มอย่างที่ใจปรารถนานั้นก็หาทำได้อย่างรวดเร็วไม่ “แล้วเหตุใด แม่ทัพตงยังเป็นตาแก่อืดอาด ไม่มาให้ข้าเห็นหน้าเสียที” เสียงนางเขียวสักหน่อย และไม่นาน เขาก็อุ้มเด็กทารกหญิงมา ท่าทางเขาทะมัดทะแมงทีเดียว ไม่ได้มีทีท่าเหมือนคนไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน “ลูกของรั่วจิ้ง... นางขี้เหร่เสียจริง” คำพูดเขาทำให้ ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงหัวเราะร่วน และเห็นจะเป็นจริง เด็กทารกหญิงหน้าตาผิดจากมารดา แต่อ้วนท้วนสมบูรณ์ ทั้งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเสียงดังไม่เกรงกลัวใคร “ท่านไม่รังเกียจนาง หรือคิดทำร้าย ข้าก็เบาใจ” “เหลียนเหลียน นี่ภรรยาเห็นว่าข้าเป็นคนเช่นไร ถึงจะกินคนได้ และนี่เป็นเพียงตัวอ่อนเล็กๆ ข้าหาใช่คนอำมหิตสักหน่อย” เขาว่าจบก็ส่งทารกให้หูซีเกอรับไป จากนั้นก็เข้ามาหาผู้เป็นภรรยา คนอื่นที่อยู่บริเวณนั้น ต่างรู้หน้าที่จึงค่อยๆ ถอยห่างออกไป “นอกจากยามนี้ ข้าได้ชัยชนะ ทั้งปราบกองกำลังของอี้อ๋องเรียบร้อย ยังมีข่
บอกรักลูกเมีย ไคซีไม่รู้ว่าเขาพลาดตรงไหน ทั้งที่หนีจากสกุลฟ่าน มาอยู่ในพื้นของตน และตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ สักระยะ ก่อนหาทางเดินทางไปให้ไกลจากอำนาจอี้อ๋อง หากสุดท้ายเขาก็ถูกแว้งกัดจนได้ ยามนี้พอกลับเข้าป้อมสกุลไค ก็ไม่มีเงาซ่างเป่าเหลียนแล้ว ส่วนรั่วจิ้งทั้งที่พึ่งคลอดลูก นางกับตัดช่องน้อยพอตัว คงเพราะกลัวมีภัยถึงตัวจึงชิงดื่มยาพิษตายตามพี่ชายไป ไคซีคลุ้มคลั่งหนัก เขาพาคนของตนที่ยังรอดชีวิต ออกตามหาซ่างเป่าเหลียน ใช้เวลาเข้าวันที่สาม คนของเขานั้นเหลือไม่ถึงยี่สิบชีวิต บ้างก็หลบหนีไป บ้างบาดเจ็บหนักจนทนพิษไม่ไหว ยามนี้ สิ่งที่เขาคาดไม่ถึง คณะของซ่างเป่าเหลียนเดินทางเข้าใกล้เมืองหลวงทุกที ซึ่งแทนที่จะถูกคนของอี้อ๋องเข้าสกัดแล้วจับกุม กลับกลายเป็นว่ารถม้าของนางผ่านทุกด่านได้อย่างไม่ติดขัด ความรู้สึกของชายหนุ่มยามนี้ เต็มไปด้วยความกลัว หรือเป็นไปได้ว่า แผ่นดินนี้สิ้นอี้อ๋องแล้ว ทั้งที่อีกฝ่ายพึ่งก้าวขึ้นบัลลังก์ได้ยังไม่ถึงครึ่งเดือนด้วยซ้ำ ไคซีมองไปยังรถม้าที่กำลังมุ่งหน้าไปเรื่อยๆ และเขาก็เร่งฝีเท้าม้า ควบทะยานมันอย่างเอาเป็นเอาตายหวังสกัดไม่ให้ซ
จางเจี้ยนสวมรอยเป็นไคซีต่อไป แล้วพาขบวนเล็กๆ ของซ่างเป่าเหลียนออกไปด้านนอกป้อมลับด้วยทางใต้ดิน การเดินทางไม่ได้ยาก หรือน่าหวาดหวั่นเกินไป เพราะมีอุโมงค์ยาวพาออกไปนอกพื้นที่ กระทั่งหมดเตรียมขึ้นรถม้าไปให้ไกลพื้นที่การต่อสู้ ร่างเด็กชายก็ปรากฏพร้อมมือสังหารกลุ่มหนึ่ง “เสี่ยวหรานหรอกหรือ” สิงตู้เหยาคันไม้คันมือ นางชอบเด็ก แต่เด็กปีศาจก่อเรื่องไม่หยุดหย่อนเช่นนี้ สมควรได้รับโทษ “หมอเหลียน ข้ารู้ว่าท่านอยู่ในรถม้า โปรดแสดงตัว และมอบน้องสาวให้ข้าเสียเถอะ” ฝ่ายสิงตู้เหยาเข้ามารายงานสถานการณ์ด้านนอกต่อนายหญิงที่รถม้า และขออนุญาต จัดการเด็กชาย “อย่าให้เกิดสิ่งใดรุนแรง เราต้องผ่านพื้นที่นี้ให้ได้ ลดการสูญเสีย เพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทาง” ซ่างเป่าเหลียนบอกสิงตู้เหยา “บ่าวย่อมเชื่อฟังนายหญิง” พูดจบ สิงตู้เหยาจึงก้าวมาอยู่ตรงหน้าเด็กชาย “เสี่ยวหราน... น้องสาวเจ้านั้น นายหญิงส่งไปร่ำเรียนวิชาต่างๆ ที่สำนักนางชี บนเขาไป๋ซาน ไฉนยังมาตามที่นี่อีก และเท่าที่ข้าจำได้ เจ้าหายตัวไปพร้อมทำเรื่องผิดต่อนายหญิง” “เจี่ย
ทั้งใต้หล้านี้ ข้ากลัวคนผู้เดียว หลายวันผ่านไปกระทั่งถึงช่วงเวลาที่รั่วจิ้งคลอด ความโกลาหลต่างๆ ก็เกิดขึ้น ภายนอกป้อมลับ มีกองกำลังจะบุกเข้ามา คือกลุ่มคนที่เครียดแค้นต่อไคซี และฟ่านเทียนโหว หากยังนับว่าดีที่ มีมือสังหารช่วยตึงกำลังไว้ ยามนั้นโจวซ่งได้ส่งสัญญาณขอหน่วยเสริม พร้อมจัดเตรียมรถม้าสำหรับการหลบหนีของซ่างเป่าเหลียน “ฮูหยิน นับแต่ก้าวจากค่ายทหารของแม่ทัพตงครั้งนั้น ไม่หน้าเชื่อว่า อยู่ที่ใดก็ต้องเดินทางเสมอ” ซ่างเป่าเหลียนหันมาทางหวังตันแล้วตอบว่า “ฟ้าลิขิตไว้เช่นนี้ จำที่ข้าบอกไว้ได้หรือไม่ เมื่อกลับเมืองหลวงเมื่อใด ที่นั่นทุกคนจะอยู่อย่างสงบ และไม่ต้องลำบากหลบหนีศัตรูแน่นอน” “ฮูหยินมั่นใจเช่นนั้น ว่าเราจะได้ไปเมืองหลวง ข้าก็ตั้งตารอจริงๆ ทว่ายามนี้ แคว้นเจียงหนานมีอี้อ๋องเป็นใหญ่ เรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ หรือ” “ได้สิ แม่ทัพตงจะเป็นคนพลิกสถานการณ์จากร้ายกลายเป็นดี เขาไม่ลืมคำพูดที่ให้ไว้กับข้าแน่นอน” หญิงสาวว่า แล้วมองไปยังรั่วจิ้ง อีกฝ่ายซึ่งมีอาหารเจ็บครรภ์ก่อนหน้านี้ ดูเหมือนสงบลง อีกทั้งนางใกล้คลอดเต็มที “ข