Share

บทที่ 2

ทิพชยาไม่ได้ตั้งใจทำให้บิดาหดหู่ เธอพูดทุกอย่างออกมาจากความรู้สึกที่แท้จริง แต่ดูเหมือนว่ายาซาโน่จะไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น

“ทำไม...พ่อทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ”

หญิงสาวเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้าของบิดา ชายวัยกลางคนผละไปนั่งที่เก้าอี้นวมตัวใหญ่หลังโต๊ะทำงานและกล่าวเสียงเครียด

“ใช่...โคเลสนิกกำลังประสบความสำเร็จในอาชีพใหม่ของเขา...เขาเคยเป็นนักมวยที่พ่อปั้นมากับมือ แต่ตอนนี้เขาไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แทมมี่”

“มีอะไรอย่างนั้นหรือคะพ่อ หนูแค่รู้สึกว่าช่วงเวลาสองปีที่หนูไปเรียนออกแบบที่ลอนดอนมันมีอะไรเกิดขึ้นมากมายที่นี่”

ดวงหน้างามของสาววัยยี่สิบปีบริบูรณ์เต็มไปด้วยความใคร่รู้ซึ่งเธอไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของครอบครัว

ทิพชยาเคยอยู่ใกล้ชิดกับงานที่บริษัทของยาซาโน่ เธอรู้จักนักมวยทุกคนในสังกัดและ...ใช่ โดยเฉพาะโคเลสนิก หนุ่มรัสเซียตัวโตเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลบรูเน็ตและผิวสีแทนจัดบนเรือนร่างกำยำ สิ่งที่ทำให้เธอจดจำเขาได้ขึ้นใจคือลักยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าหล่อเหลายามเขาหันมายังเธอทุกครั้ง

ตอนนั้นเธอเป็นเด็กสาววัยสิบแปดปีที่ไม่ได้แค่วุ่นวายหรือหมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ยามว่างเธอมักจะไปที่ค่ายมวยของบิดาชานกรุงแอตแลนตาบ่อยครั้ง เธอมีความสุขกับการไปคอยแอบดูการฝึกซ้อมอย่างหนักของนักมวยในสังกัดของยาซาโน่ ซึ่งมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เธอเก็บเขาเอาไปไว้ในความฝันและไม่เคยบอกใคร

โคเลสนิก รอชนีเชนโก...นักมวยหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรวัยยี่สิบสองซึ่งเดินทางไกลมาจากรัสเซีย เขาไม่ได้มีฝีมือแค่ในเรื่องหมัดมวย แต่ยังขโมยหัวใจของเธอไปโดยไม่มีใครรู้เรื่องนี้ที่เธอเก็บงำมันเอาไว้กระทั่งเดินทางไปเรียนต่อทางด้านดีไซเนอร์ที่ลอนดอน

ยาซาโน่เหลือบมองบุตรสาวที่นั่งลงบนเก้าอี้อีกฝั่งของโต๊ะ ทิพชยาเติบโตขึ้นมากจนเขาคิดว่าเธอพร้อมที่จะรับฟังปัญหาไม่ว่าจะหนักหน่วงแค่ไหน

“เมื่อก่อนคีธเคยเป็นนักมวยในสังกัดที่พ่อพยายามผลักดันเขาจนกลายเป็นนักมวยอาชีพที่มีชื่อเสียงในวงการได้สำเร็จ ใคร ๆ ก็ต้องการตัวเขา เพราะคีธไม่ใช่แค่นักมวยที่มีฝีมือเตะต่อยธรรมดา แต่เขายังเป็นคนหน้าตาหล่อเหลาและมีเสน่ห์จนบริษัทโฆษณาพยายามทาบทามให้เขารับงานเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่คีธมีนิสัยไม่เหมือนใคร เขาแตกต่างจากคนอื่นตรงที่เป็นคนเอาจริงเอาจังและไม่เคยหลงใหลได้ปลื้มกับชื่อเสียงเงินทองที่กำลังวิ่งเข้ามาชนเขา ถ้าจะทำอะไรคีธก็จะเลือกทำเพียงอย่างเดียวที่ตั้งใจ เขาไม่ชอบทำอะไรหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ตอนนั้นเขากำลังถึงจุดที่เรียกได้ว่า เกือบจะพีคที่สุดแล้วในชีวิต ตอนนั้นเมื่อสองปีที่แล้ว เป็นเวลาที่ลูกเดินทางไปเรียนต่อที่ลอนดอน เขากำลังจะประสบความสำเร็จในการขึ้นชกท้าชิงกับนักมวยดังที่สุดของวงการ คีธหวังจะโค่นบัลลังแชมป์โลกและชิงเข็มขัดมาให้ได้...ถ้าไม่เกิดเรื่องร้าย ๆ ขึ้นกับเขาเสียก่อน”

“เรื่องร้าย ๆ ...อย่างนั้นหรือคะ?”

“คีธถูกจับได้ว่าเขาใช้สารกระตุ้นหลังขึ้นชกชิงแชมป์โลก ทุกคนช็อค และวงการมวยอเมริกาก็ช็อคกับเหตุการณ์ในวันนั้น พ่อพยายามทำความเข้าใจคีธและคิดว่าเขาคงต้องการเป็นแชมป์โลกที่ทุกคนจะยอมรับ”

“แล้วหลังจากนั้นล่ะคะคุณพ่อ”

“หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น โคเลสนิก รอชนีเชนโกก็หายหน้าไปจากวงการมวยสมัครเล่นของอเมริกา เขาขอลาออกจากสังกัดของเราและบอกกับพ่อเพียงสั้น ๆ ว่าจะเดินทางกลับไปรัสเซีย พ่อคิดว่าเขาคงหลบไปรักษาแผลใจที่มันเกิดจากการกระทำของเขาเอง พ่อไม่ขัดขวางเขาหรอกนะ คีธหายไปนานและเมื่อปีที่แล้วเขาก็กลับเข้าสู่วงการมวยสมัครเล่นในฐานะโปรโมเตอร์เจ้าของอาคิลลาที่ดึงตัวนักมวยดังในสังกัดบริษัทของเราไปเกือบหมด”

“ทำไมคีธทำแบบนั้นล่ะคะคุณพ่อ?”

ทิพชยาเอียงหน้าสวยหวานซึ่งบัดนี้มีแต่ความกังขาต่อสิ่งที่ได้ยิน

“เขาคงโกรธพ่อกระมัง” ยาซาโน่ยักไหล่เบา ๆ เขายังกล่าวต่อด้วยท่าทีตึงเครียด

“เขาคิดว่าพ่อไม่ได้ปกป้องเขาตอนนั้นในฐานะโปรโมเตอร์ที่ผลักดันเขามาตลอดก่อนการชิงแชมป์โลก เขาคิดว่าพ่อหักหลังเขาและไม่ต้องการให้เขาได้รับชัยชนะในการแข่งขัน...แทมมี่...ลูกก็รู้ว่าพ่อเป็นยังไง ทุ่มเทมากแค่ไหนกับงานโปรโมเตอร์”

ชายวัยกลางคนประสานมือไว้บนโต๊ะ ดวงตาคู่นั้นจ้องมองทิพชยาราวกับจะเรียกร้องความเป็นธรรม

“หนูเข้าใจคุณพ่อเสมอค่ะ แต่...ทำไมคุณพ่อต้องเรียกหนูกลับมาจากลอนดอนกระทันหันด้วยล่ะคะ?”

“เพราะพ่อคิดว่าลูกจะช่วยพ่อได้”

“หนูหรือคะ?” ทิพชยาชี้นิ้วเข้าหาตัวและหรี่นัยน์ตาคู่หวานขณะบิดาของเธอพยักหน้า

“แทมมี่...ลูกคือความหวังเดียวที่พ่อยังเหลืออยู่ ลูกจะช่วยกอบกู้ทุกอย่างกลับคืนมาได้”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status