อาการคนจะคลั่งรัก
Writer : Aile'N
ตอนที่ 2
หลังจากที่โทรไปกรี๊ดกับผู้จัดการอย่างชนินแล้ว อีกฝ่ายก็ดูจะยังไม่พอใจ อยากซักไซ้ต่อจึงนัดเธอมายังร้านประจำ โต๊ะวีไอพีชั้นสองในเวลาสามทุ่มเป็นโต๊ะประจำที่เรามักจะมาสังสรรค์กันแทบจะทุกวัน วันนี้ก็เช่นกัน
"แรงมาก! เจอกันไม่ถึงวันก็จูบกันแล้ว ไม้เรียวอยู่ไหน กูจะตีให้ก้นลายเลยเชียว!" หลังซักไปซักมาจนได้รู้ว่าเพื่อนรักเสียจูบให้คู่ดูตัวที่เพิ่งเจอ ชนินก็ชี้หน้าด่าพลางเอาอีกมือทาบอก ฟังผ่านโทรศัพท์ว่าตกใจมากแล้วได้ฟังต่อหน้าอีกครั้งก็ยังตกใจไม่หายกับการกระทำมือไวใจเร็วของอีกฝ่าย
"โอ้ย แม่! ถ้ามึงได้เห็นเขานะ กลัวจะรีบจับกูใส่พานถวายน่ะสิไม่ว่า" ร่างบางแหวกลับอย่างหน่ายๆ กับท่าทีเกินเบอร์ เป็นเดือดเป็นร้อนเหมือนเห็นเธอเป็นเด็กน้อยหัดมีความรัก
"พูดซะอยากเห็นเลย ถ้าทำให้มึงเป็นได้ขนาดนี้ ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ พามาทำความรู้จักหน่อยดิ นะๆ" ร่างสูงโปร่งของผู้จัดการแปลงร่างด้วยความเร็วแสง กระแซะเข้ามาเกาะแขนทำตาปิ๊งๆ ประจบประแจงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
"ใจเย็นน่า ยังไงก็ได้เจอแน่" พรีนรินทร์บอกพลางยกยิ้มน้อยๆ ตราบใดที่ราเชนทร์ยังไม่หายไปจากรอบตัวเธอยังไงชนินก็ต้องได้เจอในสักวัน และเธอมั่นใจว่ายังไงเขาก็จะไม่หายไปอย่างแน่นอน..
ชนินยอมรามือเมื่อคาดคั้นยังไงเพื่อนก็บอกให้รอไปก่อน ทั้งคู่นั่งดื่มกินกันไปเรื่อยๆ เนื่องจากนัดกันมาเพราะอยากรู้เรื่องส่วนตัววันนี้ชนินจึงไม่ได้นัดเพื่อนในกลุ่มคนอื่นๆ มา เลยมีกันแค่สองคน แต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ไม่เหงาเพราะมีเพื่อนขาประจำของผับที่ไม่ได้สนิทแค่เคยเห็นหน้าค่าตาเคยพูดคุยเวลามาดื่มแวะเวียนเข้ามาทักทายไม่ขาดสาย พรีนรินทร์กับชนินนอกจากจะเป็นคนดังแล้วยังเป็นสายปาร์ตี้เฟรนลี่เลยทำให้เป็นที่รู้จักของผู้คนมากหน้าหลายตา มีแต่คนอยากเข้ามาทำความรู้จัก
"พวกมึง! นั่นมัน...น้องพรีนป้ะ?"
อีกฟากหนึ่งของโต๊ะวีไอพีเบอร์สาม หนุ่มหล่อทรงจีนสะกิดเพื่อนนั่งข้างจนกางเกงแทบขาด เมื่อหันไปเจอสาวสวยคนหนึ่งที่คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นนางแบบสาวคนดังสุดเซ็กซี่ที่พวกเขากำลังติดตามไอจีอยู่ เสียงทักของเพื่อนเรียกความสนใจของบุคคลที่สามที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามให้หันมาสนใจแทบจะในทันที ครั้นเมื่อมองตามไปก็เห็นว่าใช่พรีนรินทร์จริงๆ
"เออ ใช่จริงด้วยว่ะ โคตรโชคดีเลย ตัวจริงอย่างสวย" ภูมิและเจย์สองหนุ่มไทยจีนถึงกับนั่งก้นไม่ติดพื้นเมื่อแน่ใจว่าใช่พรีนรินทร์นางแบบสาวสวยจริงๆ ตัวจริงสวยมาก ไม่คิดว่าจะได้เจอง่ายขนาดนี้
"มึง ไปขอชนแก้วกัน!" ภูมิที่เป็นแฟนคลับตัวยงของร่างบางเร่งเร้าเพื่อนอยากจะไปทำความรู้จักกับอีกฝ่าย เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอกันแบบนี้อีกเมื่อไร
"จะดีเหรอวะ เขามาเที่ยวกับเพื่อน ก็ต้องอยากมีความเป็นส่วนตัวป้ะ" เจย์มีท่าทีลังเล พวกเขาสามคนนี่ก็ถือว่าอายุไม่น้อยแถมมีเมียมีลูกแล้ว หน้าที่การงานก็มีหน้ามีตา จะทำอะไรก็ต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี แต่เหมือนภูมิจะสลัดสิ่งเหล่านั้นทิ้งไปตั้งแต่ที่เห็นร่างบางจนไม่อยากรับฟังอะไรแล้ว
"แต่กูก็เห็นคนอื่นเข้าไปทักเยอะแยะ ไม่เป็นไรมั้ง พวกเราก็ไปในฐานะแฟนคลับไง" ชายหนุ่มวัยสามสิบห้าหน้าตาคมเข้มงอแงอยากไปไม่ต่างจากเด็กสามขวบอยากได้ของเล่น
"ไม่ต้องไปหรอก" เสียงกดต่ำดังขึ้นจากอีกฝากหนึ่งของโต๊ะทำคนฟังต่างหันไปมองด้วยความสงสัย เพราะ 'ราเชนทร์' ที่ทนมองเพื่อนทำท่าทางอุบาทว์ๆ เหมือนเด็กน้อยไม่ไหวพูดขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ มันไปกินรังแตนที่ไหนมาวะ...?
"ไอ้นี่...ไม่ได้จะบังเอิญเจอกันได้ง่ายๆ นะเว้ย" ภูมิงอแงใส่เพื่อนที่ไม่มีใครเห็นดีเห็นงามจะไปด้วยสักคน ก็รู้หรอกว่าราเชนทร์มันไม่อินกับพวกดาราคนดังแต่ก็ไม่เห็นจะต้องอารมณ์เสียขนาดนี้ก็ได้ไหม
"เดี๋ยวกูเรียกเขามาเอง" ราเชนทร์พูดโดยที่ยังไม่ละสายตาไปจากคนสวยขาที่กำลังนั่งโยกตัวไปมาตามจังหวะเพลงอย่างเย้ายวน สิ่งที่ภูมิไม่รู้คือเขาไม่ได้หงุดหงิดให้มัน แต่กำลังไม่พอใจร่างบางที่ถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนทั้งชายและหญิงต่างหาก!
"ฮะ!?" สองหนุ่มหันมองหน้าคนพูดคอแทบเคล็ด
"อะไรของมึงเนี่ย? มึงรู้จักเขาเหรอ!?" คราวนี้สองหนุ่มนั่งก้นไม่ติดพื้นยิ่งกว่าเดิม เมื่อเพื่อนรักพูดเหมือนกับว่ารู้จักพรีนรินทร์โดยที่พวกเขาสองคนไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
ราเชนทร์ไม่ตอบคำถาม เพียงกดโทรศัพท์โทรออกเบอร์ที่เพิ่งบันทึกไว้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าและจ้องมองเจ้าของเครื่องไม่ละสายตา
ร่างบางที่กำลังจะยกแก้วขึ้นดื่มเหลือบมองโทรศัพท์ที่ส่องแสงสว่างอยู่บนโต๊ะด้านหน้าด้วยความแปลกใจหลังเห็นชื่อที่บันทึกไว้ ครั้นจะกดรับตรงนี้ก็คงจะคุยกันไม่รู้เรื่องเพราะเสียงเพลงดัง เธอเลยตั้งใจลุกไปรับสายในห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล เธอชอบห้องน้ำที่นี่มากเพราะถูกสร้างแบบป้องกันเสียงรบกวนจากด้านนอกในกรณีที่ลูกค้าต้องการคุยโทรศัพท์ เผื่อใครมีธุระด่วนโทรมาจะได้ไม่ต้องออกไปรับนอกร้านให้เสียเวลา
"ฮัลโหลค่ะ" เมื่อเคลียร์เสียงตัวเองและเสียงรบกวนจากภายนอกได้แล้ว พรีนรินทร์ก็รับสายด้วยหัวใจพองโต เธอยังจำสัมผัสลึกซึ้งของเราในโรงหนังได้อยู่และคงจะสลัดทิ้งไม่ได้ง่ายๆ
("คนสวยครับ มาดื่มด้วยกันหน่อยไหม ผมอยู่โต๊ะสาม")
"คะ? คุณราเชนทร์อยู่ที่นี่เหรอคะ" คำสรรพนามที่เสียงทุ้มใช้เรียกกันว่าน่าตกใจแล้วแต่ประโยคถัดมาน่าตกใจยิ่งกว่า เพราะนอกจากเขาจะอยู่ที่นี่แล้วเขายังเห็นเธอก่อนด้วย ไม่รู้ว่าเผลอแสดงท่าทางไม่ดีออกไปให้เขาเห็นหรือเปล่า เสียงเขาจึงฟังดูนิ่งแปลกๆ
("อยากรู้ก็เดินมาสิครับ") ราเชนทร์ไม่ตอบคำถาม แต่เลือกที่จะหลอกล่อให้ร่างบางออกมาดูด้วยตาตัวเอง
พรีนรินทร์ยังคงตกใจไม่หาย แต่ก็ยอมเดินออกมาชะเง้อคอมองไปยังโต๊ะวีไอพีเบอร์สาม จนได้สบตากับเขาจริงๆ ราเชนทร์ยกยิ้มมุมปากอย่างขบขันท่าทางตื่นๆ ของร่างบาง ก่อนกดวางสายและรอให้เธอเดินมาหา
ร่างบางยิ้มให้เขาตามมารยาททั้งที่ในใจอยากจะร้องกรี๊ดและวิ่งไปลากชนินมาดูหน้า 'ว่าที่สามี' ในอนาคตอันใกล้ แต่ภายนอกทำเพียงเดินสวยๆ ไปบอกเพื่อนว่าเจอคนรู้จักขอไปนั่งคุยด้วยสักพัก และถือแก้วเหล้าเดินมาหาสามหนุ่มที่โต๊ะสาม
เธอยิ้มให้เพื่อนร่วมโต๊ะของร่างสูงเล็กน้อย ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งที่ว่างข้างๆ เขา ตวัดขาไขว้ห้างโชว์เรียวขาขาวไปหนึ่งกรุบ ภูมิกับเจย์ตอนนี้นั่งตัวแข็งค้างเป็นรูปปั้นไปแล้ว ยิ่งได้รับรอยยิ้มหวานๆ จากร่างบางสติก็ยิ่งเตลิด
"บังเอิญจังเลยนะคะ" พรีนทักทายร่างสูงพร้อมรอยยิ้มหวาน ดีใจที่ตอนกลางวันได้เจอแล้วตอนค่ำก็ยังได้เจออีก แกล้งเมาให้เขาไปส่งดีไหมนะ...
"ครับ นี่ภูมิกับเจย์ เพื่อนผมเอง" ราเชนทร์แนะนำเพื่อนๆ ให้ร่างบางรู้จัก แอบยืดอกอย่างภาคภูมิใจนิดๆ ไม่ได้แม้จะเพิ่งรู้จักคนสวยได้ไม่ถึงวัน
"สวัสดีค่ะ พรีนนะคะ" พรีนรินทร์แนะนำตัวเองสั้นๆ ชายสูงอายุ(?)แก๊งนี้งานดีทุกคน สามคนสามสไตล์ ภูมิหล่อแบบคมเข้มไทยๆ ดูสุภาพเรียบร้อย เจย์ขาวตี๋เมดอินไชน่าแน่นอน ส่วนราเชนทร์คือนิยามของประโยคนี้ 'Daddy ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ' ยามนิ่งดูเคร่งขรึมน่ายำเกรง แต่เวลายิ้ม...รอยยิ้มกับแววตาจะแพรวพราวเจ้าเล่ห์มีเสน่ห์มาก อารมณ์แบบทั้งน่าค้นหาและน่าถอยห่างในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่าเธอชอบผู้ชายแบบนี้เสียด้วยสิ
"....ครับ ทำไมรู้จักกันได้ล่ะครับ ไม่เห็นรู้เลย" ภูมิที่พยายามประกอบสติกลับคืนเข้าร่าง ชี้นิ้วสั่นๆ สลับไปมาระหว่างทั้งสองคน ในใจก่นด่าเพื่อนสารพัดที่รู้จักร่างบางแล้วไม่ยอมปริปากบอกอะไรเพื่อนเลย
"บังเอิญน่ะค่ะ" เสียงหวานตอบเลี่ยง ไม่อยากบอกว่าถูกจับคู่ดูตัวเนื่องจากมันดูเพ้อเจ้อ เพราะคนระดับเธอหาแฟนได้ไม่ยาก ขนาดอยู่เฉยๆ ก็ยังมีเข้ามาไม่ขาดสาย ไม่จำเป็นต้องนัดดูตัวกับใครเลยด้วยซ้ำ พูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อ
"กำลังคุยๆ กันอยู่" ร่างสูงสำทับสถานะของเขาและเธออย่างชัดเจนว่าไม่ได้เป็นแค่คนรู้จักทั่วไป เรียกได้ว่าออกตัวแรงจนเพื่อนสองคนนั่งเหวอ ตกใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"ฮะ!? ตั้งแต่เมื่อไรวะ ทำไมมึงไม่เห็นบอกอะไรพวกกูเลยเนี่ย" สองหนุ่มช็อกหนัก ทั้งสองคนรู้จักกันก็ว่าน่าตกใจแล้ว นี่ดันอยู่ในตำแหน่งคนคุยอีก เลือกไม่ถูกเลยว่าควรตกใจเรื่องไหนก่อนดี
"ไม่จำเป็น" ร่างสูงกดยิ้มเยาะเพื่อนอย่างผู้ชนะ ทำเอาพวกนั้นเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันไม่หยุดโดยเฉพาะภูมิ เขาอยากเค้นถามมากกว่านี้อีก แต่ไม่อยากแสดงออกมากต่อหน้าสาว แค่นี้ภาพลักษณ์ก็ไม่เหลือแล้ว
"มานานหรือยังครับ" เสียงทุ้มเอ่ยถามคนข้างกาย หลังมัวคุยแต่กับเพื่อนอยู่นาน ตอนนี้จะมีใครน่าสนใจไปกว่าคนสวยอีก แน่นอนว่าไม่มี
"ตั้งแต่สองทุ่มค่ะ คุณมานานหรือยังคะ ทำไมพรีนไม่สังเกตเห็นเลย" ร่างบางตอบและถามกลับบ้าง จริงๆ ก็ไม่แปลกหรอกที่เธอจะไม่เห็น ปกติมาดื่มเธอสนใจโต๊ะรอบข้างเสียที่ไหน
"ไม่แปลก พรีนมีผู้คนล้อมรอบตัวเยอะแยะ" พอพูดมาถึงตรงนี้ราเชนทร์ก็กลับไปทำหน้านิ่งเสียงห้วนอีกแล้ว
"หงุดหงิดอะไรเหรอคะ" ร่างบางถามยิ้มๆ อาการของเขาเด่นชัดว่ากำลังไม่พอใจเรื่องที่เธอถูกผู้คนล้อมหน้าล้อมหลัง
"นั่นสิ ผมไม่มีสิทธิ์ไม่พอใจนี่นะ" รับบทนางขี้น้อยใจหนึ่ง เป็นเอ็นดู!
"เพิ่งรู้นะคะเนี่ยว่าผู้ชายอายุสามสิบห้าก็ขี้น้อยใจเหมือนกัน" เสียงหวานกล่าวเย้าอย่างขบขัน ท่าทางแบบนั้นมันน่ารักน้อยเสียที่ไหน กะทำให้หลงจนโง่หัวไม่ขึ้นเลยหรือไงกัน
"ผมแค่ไม่พอใจ...นิดหน่อย" คนถูกล้อกระแอมไอในลำคอ ก่อนแก้ตัวเสียงอ้อมแอ้ม ไม่พอใจนิดหน่อย? ยังคิ้วผูกโบขนาดนี้ ถ้าไม่พอใจมากจะขนาดไหนกัน
"เรื่องอะไรเหรอคะ?" พรีนรินทร์ถามจี้อย่างได้ใจ แสร้งทำเป็นไม่รู้ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก แค่อยากได้ยินจากปากเขาเท่านั้น
"ทุกคนที่เข้าใกล้คุณ" คราวนี้ราเชนทร์ตอบตรงไปตรงมาอย่างจริงจัง คนรอฟังที่คิดว่าตัวเองมีภูมิต้านทานดีกลับรู้สึกเขินได้ง่ายๆ
"พรีนห้ามพวกเขาไม่ได้นี่คะ พรีนไม่อยากถูกมองว่าดังแล้วหยิ่ง แต่...ถ้าคุณไม่สบายใจ พรีนจะพยายามไม่เข้าใกล้ใครจนเกินไป โอเคไหมคะ" คนเสน่ห์แรงเสนอทางออกสำหรับเรื่องนี้ ที่เธอเฟรนลี่ไปทั่วก็เพราะเป็นคนสาธารณะและครองสถานะโสด แต่ถ้ามันทำให้คนคุยที่มีแนวโน้มว่าจะเลื่อนสถานะเป็นแฟนไม่พอใจ เธอก็ยินดีจะปรับตัวเพื่อเขา
"พรีนกำลังตามใจผม ทำให้ผมนิสัยเสีย" ราเชนทร์เข้าใจดีว่าการเป็นคนมีชื่อเสียงมันเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพบเจอและพูดคุยกับผู้คนมากมาย แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ชอบใจ ยิ่งได้ยินว่าร่างบางพยายามจะเปลี่ยนเพื่อเขา เขาก็ยิ่งอยากเอาแต่ใจมากขึ้นไปอีก
"พรีนไม่ได้ตามใจทุกคนหรอกนะคะ" คนสวยขาช้อนสายตาหวานฉ่ำขึ้นมองร่างสูงอย่างมีนัยยะ มือเรียวบางวางทาบลงบนหน้าขาแกร่งพร้อมกับลูบไปมาเบาๆ ทั้งคู่สร้างโลกขึ้นมาอีกหนึ่งใบที่มีเพียงสองคน ส่วนเพื่อนร่วมโต๊ะก็กลายเป็นอากาศไปโดยปริยาย
พรีนรินทร์นั่งดื่มกับสามหนุ่มไปเรื่อยๆ จนแอลกอฮอล์เริ่มออกฤทธิ์ เธอเริ่มเมาแต่ไม่ได้เมาถึงกับขาดสติจำอะไรไม่ได้ เธอยังคงมีสติครบถ้วน เพียงแต่แก้มแดงเรื่อ ดวงตาฉ่ำเยิ้ม และนั่งโอนเอนไปบ้างก็เท่านั้น
"คุณราเชนทร์..." ร่างสูงก้มลงมองคนเมาที่เอ่ยเรียกตนด้วยน้ำเสียงลากยาวกว่าปกติ ก็เห็นว่าคนน้องนั่งมองเขาด้วยสายตาที่เหมือนมีอะไรอยากพูด เขาจึงโน้มตัวลงไปฟังใกล้ๆ
"ว่าไงครับ?"
"..." พรีนไม่ตอบรับในทันที เอาแต่นั่งมองสำรวจความดูดีของคนพี่อย่างคับข้องใจ
"ทำไม...คุณถึงยอมไปนัดดูตัวล่ะคะ ทั้งที่คนอย่างคุณน่าจะหาแฟนได้ไม่ยาก" นั่นแหละคือสิ่งที่เธอสงสัย ทำไมราเชนทร์ถึงยังต้องไปดูตัวอยู่อีกทั้งที่เขาสมบูรณ์แบบรอบด้านเสียขนาดนี้ แถมอายุก็มากแล้ว ไม่น่าจะครองตัวโสดมาจนถึงตอนนี้ได้ สรุปก็คือเธอยังไม่อยากจะเชื่อว่าคนระดับเขาจะตกมาถึงมือเธอได้ มันยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งอีก
"...เพราะอีกฝ่ายคือคุณ" ราเชนทร์ยกยิ้มมุมปาก ก่อนตอบชัดอย่างตรงไปตรงมา มันอาจจะดูรุกเร็วไปเสียหน่อย แต่ทำไมเขาจะต้องชักช้าในเมื่ออายุขนาดนี้แล้ว และเธอก็เป็นผู้หญิงที่ตรงใจตรงสเปก ขืนชักช้าหมาคาบไปแดกพอดี
..
..
..
..
มาค่ะ อิจฉาตาร้อนไปพร้อมๆ กัน 555
อาการคนจะคลั่งรักWriter : Aile'Nตอนที่ 3"...เพราะอีกฝ่ายคือคุณ"ร่างบางนิ่งอึ้งกับคำตอบที่ไม่คาดคิด เธอไม่รู้ว่าเขาจะรู้ก่อนมาเจอกันว่าคู่ดูตัวคือใคร แต่ก็คงเป็นแม่เธอนั่นแหละที่เป็นคนบอกฝ่ายแม่ของเขา"พรีน...อยากจูบคุณอีกแล้วสิ" พรีนรินทร์พูดสิ่งที่คิดออกมา อีกฝ่ายน่ารักเกินไปจนเธออดใจไม่ไหว การที่เขาพูดแบบนั้นอย่างจริงจัง ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยจะไปไหนพ้น"งั้นกลับกันครับ" ร่างสูงชวนเธอกลับในทันทีเพราะเขาเองก็รู้สึกไม่ต่างกันราเชนทร์หันไปลาเพื่อน ก่อนประคองร่างโงนเงนของเธอไปเอากระเป๋าที่โต๊ะรวมถึงไปบอกลาเพื่อนด้วย ชนินแทบอยากจะกรี๊ดให้ดังยิ่งกว่าเสียงเพลงเมื่อได้เห็นหน้าคู่ดูตัวของเพื่อนรัก เพราะใครจะคาดคิดว่าจะเป็นนักธุรกิจหนุ่มชื่อดังที่ตัวเองกำลังติดตามไอจีอยู่ จะมีก็แต่พรีนรินทร์นั่นแหละที่ไม่รู้จักคนดังอย่างเขา!"อื้ออ..." เมื่อมาถึงรถ อยู่ในที่ลับตาคน ร่างบางก็ถูกอุ้มขึ้นมานั่งตักก่อนที่มือหนาจะรั้งท้ายทอยของเธอเข้ามาจูบ ร่างบางให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งคู่จูบนัวแลกลิ้นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร"คะ คุณ...พอก่อนค่ะ พรีน...หายใจไม่ทัน" พรีนรินทร์เป็นฝ่ายยอมแพ้อีกครั้ง เธอหอบหาย
อาการคนจะคลั่งรักWriter : Aile'Nตอนที่ 4"อะ" ดอกไม้ช่อโตถูกยื่นมาตรงหน้าด้วยฝีมือของชนินทำพรีนรินทร์ผงะไปเล็กน้อยด้วยความตกใจ เพราะมันช่อกว่าตัวเธออีก "หืม? ของใครอะ" เธอทำหน้างง ไม่รู้ว่าใครส่งมาให้ถึงได้เล่นใหญ่ขนาดนี้ "ดูเอาเอง หมั่นไส้!" ชนินเบ้ปากก่อนยัดดอกไม้ช่อใหญ่ใส่อ้อมแขนเพื่อน โชคดีที่น้ำหนักไม่ได้มากมายตามขนาด ไม่อย่างนั้นเธออาจจะหงายหลังล้มตึงได้'ตั้งใจทำงานนะครับ' (ราเชนทร์) ข้อความในการ์ดที่แนบมาทำร่างบางยิ้มกว้างจนหน้าบาน ก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปขอบคุณอัปลงไอจีอย่างอดใจไม่ไหว เธอทิ้งเป็นปริศนาไว้ ไม่ได้แท็กเพราะไม่มีไอจีเขา มีแต่ไลน์เลยตั้งใจว่าจะส่งไปขอบคุณเขาในไลน์ด้วย แต่ชะงักไปก่อนเมื่อได้ยินเสียงเพื่อน "ไม่ใช่แค่นี้นะ พ่อหนุ่มในฝันของมึงยังส่งรถฟู้ดทรัคมาเอาใจด้วย จอดอยู่ข้างหน้านู่น" ชนินจีบปากจีบคอด้วยความหมั่นไส้...นี่มันพฤติกรรมของพวกคนคลั่งรักชัดๆ เจอกันวันเดียวเป็นได้ขนาดนี้เชียว...? "คุณราเชนทร์น่ะเหรอ" "เออ กูแจ้งทีมงานไปแล้วว่ามีป๋าเลี้ยง อยากกินก็ไปต่อแถว ไม่เสิร์ฟเนาะ" บอกเพียงเท่านั้นร่างสูงกว่าก็สบัดหน้าหนีเพราะทนมองไม่ได้ มันอิจฉ
อาการคนจะคลั่งรักWriter : Aile'Nตอนที่ 5พรีนรินทร์ไม่ได้พูดเล่น เธอให้ราเชนทร์แวะส่งเธอที่คอนโดเพื่อเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นเพื่อไปค้างกับเขาจริงๆ ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปนานแค่ไหนเลยเอาไปแค่ไม่กี่ชุด ถ้าไม่พอค่อยซื้อใหม่หรือกลับมาเอาที่ห้องวันหลัง เมื่อมาถึงเพนเฮ้าส์สุดหรูของชายหนุ่มที่เพิ่งเลื่อนสถานะมาเป็นแฟนหมาดๆ ร่างบางที่ทำงานมาทั้งวันก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวใหญ่อย่างเหนื่อยๆ คิดว่าจะนั่งพักให้หายเหนื่อยหายมึนสักหน่อยค่อยไปอาบน้ำ ไอ้เราก็ชิลเก่งซะด้วย ทั้งที่เพิ่งเข้าห้องคนอื่นมาเป็นครั้งที่สองเองแท้ๆ "เจ็บเท้าเหรอครับ ผมดูหน่อยนะ" ร่างสูงของราเชนทร์ที่เดินตามเข้ามาวางกระเป๋าสัมภาระของเธอที่อาสาถือให้ลงบนโต๊ะหน้าโซฟา ก่อนนั่งลงบนพรมตรงหน้า จับข้อเท้าสวยที่เริ่มบวมแดงไปวางบนหน้าขาตัวเองและพินิจมองอย่างสำรวจ "อุ๊ย ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้อง!" นาทีนั้นร่างบางสะดุ้งตกใจเตรียมจะชักขากลับ เพราะถึงเธอจะทำตัวสบายในห้องเขาแค่ไหน เธอก็ไม่คิดจะให้เขามาทำอะไรแบบนี้ให้ นี่มันมากเกินไป ไม่คิดเลยว่าเขาจะสังเกตเห็นด้วย ซ้ำยังไม่ยอมให้เธอชักขากลับอีกต่างหาก "อย่าดื้อครับ ผมดูหน่อย" เสียงทุ้มคล้ายจ
อาการคนจะคลั่งรักWriter : Aile'Nตอนที่ 6วันนี้พรีนรินทร์มีถ่ายแบบแบรนด์น้ำหอมชื่อดังที่เธอเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ร่วมกับนักแสดงสาวรุ่นน้องที่มีชื่อว่า 'ยี่หวา' เธอไม่ได้รู้จักยี่หวาเป็นการส่วนตัว ไม่เคยร่วมงานแต่เคยเจอบ้างตามงานต่างๆ เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่เธอกับอีกฝ่ายได้ร่วมงานกันอย่างจริงจัง ด้วยภาพลักษณ์ที่แตกต่างกันทางแบรนด์จึงวางตัวเธอไว้พรีเซนต์น้ำหอมกลิ่นเซ็กซี่แรงๆ ในขณะที่ยี่หวาออกไปทางกลิ่นหวานๆ ใสๆ ตามภาพลักษณ์ พรีนมาถึงสตูดิโอก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อเตรียมตัวแต่งหน้าทำผม โดยมีราเชนทร์ขับรถมาส่งท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของทีมงานที่เดินขวักไขว่อยู่แถวนั้น ชนินมาถึงก่อนแล้วเธอจึงเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายด้านใน ทักทายทีมงานอย่างเป็นกันเองก่อนจะถูกพาไปแต่งหน้าทำผม สักพักใหญ่ๆ เรียกได้ว่าเกือบจะสายนักแสดงรุ่นน้องก็มาถึง อีกฝ่ายเอ่ยทักเธอเล็กน้อย ก่อนจะมานั่งแต่งหน้าอยู่ข้างกัน "อุ๊ยๆ อย่าว่าพี่เสือกเลยนะคะ แต่ตามันเห็นเอง กับคุณราเชนทร์เนี่ยหวานกันจริงๆ เลยนะคะ อิจฉานะเนี่ย เมื่อกี้ก็มาส่ง เห็นไกลๆ ยังหล่อเลย" พี่ช่างทำผมจีบปากจีบคอแซวขึ้นมาอย่างมีจริตเมื่อเห็นพรีนริน
อาการคนจะคลั่งรักWriter : Aile'Nบทนำ"เอ้า ชนนน!!""เฮ้ยๆ เบาหน่อยอีเจ๊ พรุ่งนี้นัดดูตัวไม่ใช่หรือไง"แก้วของเหลวสีอำพันถูกคว้าไว้ได้แค่แก้วเปล่าที่หลงเหลือเพียงน้ำแข็งก้อนเล็ก เพราะถูกหญิงสาวร่างเพรียวบางกระดกดื่มรวดเดียวหมดแก้ว'พรีน' หรือ 'พรีนรินทร์' นางแบบเซ็กซี่สตาร์เบอร์ต้นของวงการที่ถูกคนเป็นผู้จัดการพ่วงตำแหน่งเพื่อนสนิทเรียกว่า 'เจ๊' ยักไหล่อย่างไม่แยแส แม้จะดื่มหนักจนเริ่มเมาได้ที่เพราะอายุใกล้จะเลขสามในปีหน้าแล้วแต่พรีนยังครองตัวโสดและใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย กลางวันทำงาน กลางคืนสังสรรค์แทบจะทุกวัน ทั้งที่เพื่อนๆ ที่อายุเท่ากันหลายคนต่างเริ่มสร้างครอบครัวมีลูกมีสามีกันหมดแล้ว แต่เธอยังคงใช้ชีวิตสุดโต่งแบบนี้ไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมายเพราะเหตุนี้เองพ่อกับแม่ของเธอถึงกลุ้มใจเป็นอย่างมาก ลูกสาวคนเดียวที่อายุกำลังจะแตะเลขสามในอีกหนึ่งปียังไม่มีวี่แววว่าจะคบใครจริงจัง ไม่ต้องนึกถึงเรื่องแต่งงานเลยในเมื่อแฟนยังไม่มี แล้วเมื่อไรพวกท่านจะได้อุ้มหลาน ด้วยทนให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ไหว คนเป็นแม่จึงตั้งตัวเป็นผู้สืบเสาะหาลูกเขยมาให้ลูกสาวเอง เรื่องฐานะชาติตระกูลนั้นพวกท่านไม่สนใจ ขอเพีย
อาการคนจะคลั่งรักWriter : Aile'Nตอนที่ 1"เรา...จะไปไหนกันเหรอคะ" คล้อยหลังแม่ๆ ไป ภายในโต๊ะอาหารก็เหลือแค่หนุ่มสาวสองคน พรีนเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อนเมื่อร่างสูงเอาแต่นั่งจ้องหน้าเธอเงียบๆ มองขนาดนี้เก็บกลับบ้านเลยก็ได้นะคะ เต็มใจสุดๆ! "พรีนอยากไปไหนครับ" น้ำเสียงทุ้มต่ำเรียกชื่อเล่นของเธออย่างสนิทสนม ใบหน้าหล่อคมดูกรุ้มกริ่มคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม เนี่ย...แล้วแบบนี้จะไม่ให้ใจสั่นยังไงไหว! "ไม่รู้สิคะ เหลือเวลาแค่ครึ่งวันเอง ถ้าง่ายๆ ใกล้ๆ ก็คงดูหนัง ไม่ก็ช็อปปิงล่ะมั้งคะ" ชีวิตผีเสื้อราตรีแทบจะนึกสถานที่อื่นไม่ออกนอกจากผับบาร์ แต่นี่มันก็กลางวันแสกๆ คงไม่มีผับที่ไหนเปิด ถึงเปิดเธอก็คงไม่ชวนเขาเข้าผับตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันหรอก เสียภาพลักษณ์หมด "แล้วคุณราเชนทร์ล่ะคะ มีที่ๆ อยากไปหรือเปล่า" เธอเลือกที่จะถามกลับ เพราะราเชนทร์อาจจะมีสถานที่ดีๆ แนะนำก็ได้ วัดจากความหล่อและออร่าความรวยแล้ว เขาน่าจะเคยเดทกับผู้หญิงมาไม่น้อย "ผมตามใจพรีน" คำตอบที่เป็นเหมือนหมัดฮุกลงกลางใจทำคนฟังชะงัก ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ เขาจะหยอดทุกประโยคไม่ได้ไหม หัวใจจะวายเอา! "...ดูหนังก็ได้ค่ะ ช่วงนี้พรีนทำงานเยอะ ไม