แชร์

ตอนที่ 1

อาการคนจะคลั่งรัก

Writer : Aile'N

ตอนที่ 1

"เรา...จะไปไหนกันเหรอคะ" คล้อยหลังแม่ๆ ไป ภายในโต๊ะอาหารก็เหลือแค่หนุ่มสาวสองคน พรีนเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อนเมื่อร่างสูงเอาแต่นั่งจ้องหน้าเธอเงียบๆ มองขนาดนี้เก็บกลับบ้านเลยก็ได้นะคะ เต็มใจสุดๆ! 

"พรีนอยากไปไหนครับ" น้ำเสียงทุ้มต่ำเรียกชื่อเล่นของเธออย่างสนิทสนม ใบหน้าหล่อคมดูกรุ้มกริ่มคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม เนี่ย...แล้วแบบนี้จะไม่ให้ใจสั่นยังไงไหว! 

"ไม่รู้สิคะ เหลือเวลาแค่ครึ่งวันเอง ถ้าง่ายๆ ใกล้ๆ ก็คงดูหนัง ไม่ก็ช็อปปิงล่ะมั้งคะ" ชีวิตผีเสื้อราตรีแทบจะนึกสถานที่อื่นไม่ออกนอกจากผับบาร์ แต่นี่มันก็กลางวันแสกๆ คงไม่มีผับที่ไหนเปิด ถึงเปิดเธอก็คงไม่ชวนเขาเข้าผับตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันหรอก เสียภาพลักษณ์หมด 

"แล้วคุณราเชนทร์ล่ะคะ มีที่ๆ อยากไปหรือเปล่า" เธอเลือกที่จะถามกลับ เพราะราเชนทร์อาจจะมีสถานที่ดีๆ แนะนำก็ได้ วัดจากความหล่อและออร่าความรวยแล้ว เขาน่าจะเคยเดทกับผู้หญิงมาไม่น้อย 

"ผมตามใจพรีน" คำตอบที่เป็นเหมือนหมัดฮุกลงกลางใจทำคนฟังชะงัก ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ เขาจะหยอดทุกประโยคไม่ได้ไหม หัวใจจะวายเอา! 

"...ดูหนังก็ได้ค่ะ ช่วงนี้พรีนทำงานเยอะ ไม่ค่อยได้คลายเครียดเท่าไร" แม้ภายในใจจะตะโกน ฟหกด่าสว! แต่ภายนอกร่างบางเพียงยิ้มเอียงอายแต่พองามเท่านั้น เธอเสนอกิจกรรมสำหรับ 'เดทแรก' อย่างคนทั่วไป ทั้งที่จริงไม่ได้ชอบดูหนังเลยสักนิด ความต้องการจริงๆ คืออยากชวนขึ้นเตียงเลย แต่เกรงใจ... 

"ครับ" ร่างสูงตอบรับอย่างว่าง่าย เขาใช้แบล็คการ์ดจ่ายค่าอาหารทั้งหมดก่อนจะลุกขึ้น เธอจึงลุกตาม 

"คะ?" พรีนเอียงคอสงสัย เมื่อเห็นราเชนทร์ยกแขนให้ ตอนแรกเธอไม่เข้าใจจนกระทั่งได้ฟังคำตอบ 

"เดทไงครับ" ร่างสูงยิ้มหล่อ การกระทำที่เธอแอบมองว่าเชยเพราะมักจะเห็นตามละครทั่วไป แต่พอถูกปฏิบัติจากคนระดับนี้เธอกลับไม่ติดขัดแม้แต่น้อย มือบางค่อยๆ สอดเข้าไปคล้องลำแขนแกร่งที่ขนาดมีเสื้อผ้าขวางกั้น เธอก็ยังสัมผัสได้ถึงความแข็งแรงและกล้ามเนื้อกำยำของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน 

ระหว่างทางเดินจากร้านอาหารไปโรงหนังที่อยู่ชั้นบนสุดของห้างฯ หรู พรีนรินทร์เห็นว่ามีคนแอบถ่ายรูปเราสองคนไปไม่น้อย แต่ถ้าถามว่าแคร์ไหม กลัวเป็นข่าวหรือเปล่า บอกเลยว่าไม่! ยิ่งอยากให้ถ่ายเยอะๆ เลยด้วยซ้ำ ทุกคนจะได้รู้ว่า 'ผู้ชายคนนี้เป็นของฉันจ้า!' 

เพราะไม่ค่อยชอบดูหนังร่างบางจึงไม่มีข้อมูลหนังที่กำลังเข้าฉายอยู่ในตอนนี้เลย พอราเชนทร์ให้เลือกเธอจึงเลือกสุ่มๆ เอาจากโปสเตอร์ที่ดูแล้วค่อนข้างน่าสนุก เป็นแนวไซไฟวิทยาศาสตร์เพื่อเอาใจร่างสูง ด้วยคิด(เอาเอง)ว่าเขาน่าจะชอบแนวนี้ 

เราซื้อป๊อบคอร์นถังใหญ่กับน้ำอัดลมเพียงหนึ่งแก้วเนื่องจากราเชนทร์บอกว่าเขาไม่ชอบน้ำอัดลมกับอาหารจำพวกฟาสฟู้ดส์เท่าไร เราได้ที่นั่งช่วงตรงกลางเยื้องมาทางด้านหลัง ภายในโรงมีคนเข้ามาดูพอประมาณ ไม่เยอะแต่ก็ไม่น้อยจนเกินไป 

ระหว่างเธอและเขายังไม่มีบทสนทนาใดเกิดขึ้น เพียงนั่งเงียบดูโฆษณาไปเรื่อยๆ รอหนังฉาย ร่างบางแอบมองคนข้างกายเป็นระยะ เธอยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนอย่างราเชนทร์ที่ดูหล่อ รวย สมบูรณ์แบบไปทุกอย่างจะมาเป็นคู่ดูตัวของเธอ ไม่ได้การ...กลับไปต้องไปคุยกับคุณนายแม่หน่อยแล้วว่าไปสรรหาผู้ชายคนนี้มาจากไหน โคตรจะถูกใจ หล่อมากไม่ไหว! 

"ผมคิดค่ามองนะ" เสียงทุ้มเอ่ยพอให้ได้ยินกันสองคน เขาไม่ได้หันหน้ามาตอนพูดบ่งบอกว่ารู้ตัวว่าถูกมองอยู่ตลอด แน่สิ! เธอเล่นจ้องด้วยความต้องการที่อยากจะ 'เอามาเป็นผัว' ให้ได้แบบนี้ใครจะไม่รู้ตัวบ้าง แต่รู้แล้วไม่กลัวเธอนี่สิน่าสนใจ 

"พรีนยอมให้มองกลับนะคะ เราจะได้หายกัน" เธอกล่าวและยิ้มอย่างท้าทายเมื่ออีกฝ่ายหันมามอง เขายิ้มตอบ แววตามีความพึงพอใจฉายชัดยิ่งทำให้เธอได้ใจ แม้ภายนอกเราจะแสดงออกต่อกันอย่างเรียบง่าย แต่ภายในไม่ต่างจากไฟกับน้ำมัน ถ้าน้ำมันราดลงมาเปลวไฟก็พร้อมจะลุกโชนและเผาไหม้ทุกอย่างจนมอดไหม้... 

"ผมไม่มองอย่างเดียวหรอกนะครับ" เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอก่อนเอ่ย นัยน์ตาคมแพรวพราวสะท้อนแสงไฟจากหน้าจอผืนใหญ่ แม้อยู่ในที่มืดกลับมองเห็นได้อย่างชัดเจน 

"พรีนก็ไม่ได้อยากทำแค่มองเหมือนกันค่ะ" ร่างบางท้าทายกลับอย่างไม่เกรงกลัว ไม่เพียงแค่รูปลักษณ์เท่านั้นที่ทำให้เธอคลั่งไคล้ บางอย่างที่ซ่อนอยู่ในคำพูดและแววตาของราเชนทร์ก็ทำให้เธอคลั่งได้เหมือนกัน  

เราสองคนไม่ได้พูดอะไรต่อ เมื่อหนังเริ่มฉาย...แต่ไอ้ที่คิดว่าเป็นหนังไซไฟสุดมัน พอเริ่มเข้ากลางเรื่องกลับมีฉากเลิฟซีนมากพอๆ กับฉากบู๊ ถึงว่าตอนเข้าโรงพนักงานขอตรวจบัตรประชาชนด้วย และการได้นั่งดูกับคนที่เธอถูกใจอย่างเขามันทำให้เธอคิดดีไม่ได้เลย... 

จิตใจไม่รักดีมันคอยแต่จะจินตนาการว่าเธอกับร่างสูงได้โรมรันเข้าหากันอย่างในหนัง เธอไม่ได้ลามกนะอย่าเข้าใจผิดๆ เอ่อ...อาจจะมีนิดหนึ่งก็ได้ในกรณีที่ได้เจอผู้ชายที่ถูกใจ และถึงแม้เธอจะเที่ยวทุกวันแต่ก็ทำเพียงสังสรรค์กับเพื่อนๆ เท่านั้น แทบจะไม่ได้จุบจิบกับใครเลย แห้งเหี่ยวสุดๆ! 

"อื้อ...อ่า.." 

พรีนรินทร์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ตาค้างกับฉากเข้าด้ายเข้าเข็มอันดุเดือด ยิ่งเป็นนักแสดงฮอลลีวูดยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะแสดงดีและสมจริงขนาดไหน แก้มเนียนร้อนผ่าว เสียววูบวาบทั่วช่องท้องจนเริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้ ครั้นหันไปมองร่างสูง กลับเห็นว่าเขาเพียงนั่งดูนิ่งๆ เป็นเธอเสียเองที่เก็บอาการวาบหวามไว้ไม่อยู่ เลยหาอะไรทำด้วยการจดจ่อกินป๊อบคอร์นแทน 

หมับ! 

มือเล็กที่กำลังหยิบป๊อบคอร์นถูกมือใหญ่กว่าคว้าจับ เธอชะงักมองหน้าเขาอย่างสงสัย ราเชนทร์ไม่พูดอะไรเพียงดึงเข้าหาตัวและอ้าปากกินป๊อบคอร์นจากปลายนิ้วของเธอ อุณหภูมิร้อนผ่าวและความนุ่มหยุ่นจากริมฝีปากที่ปลายนิ้วได้สัมผัสแผ่ซ่านความร้อนรุ่มมาให้ ยิ่งดวงตาคมมองสบกันอย่างสื่อความหมายสายตาของเธอก็เหมือนถูกตรึงให้หยุดอยู่ที่เขา 

อันตราย...!! 

"...อะ อร่อยมั้ยคะ" เสียงหวานเอ่ยถามอย่างเพ้อๆ นั่นไม่ใช่คำถามที่อยากจะถามเลยด้วยซ้ำ! รู้ตัวอีกทีก็ถามออกไปแล้ว ขายหน้าจริงๆ! 

"ครับ แต่คงจะอร่อยกว่า..." ราเชนทร์ตอบรับด้วยรอยยิ้มนุ่มลึก ก่อนหยุดคำพูดต่อไปไว้เพื่อไล่สายตาจากดวงตากลมโตเลื่อนต่ำลงมายังริมฝีปากสีชมพูสด 

"...ถ้าได้กินจากตรงนี้"  มือแกร่งที่สวมนาฬิการาคาแพงและอุดมไปด้วยเส้นเลือดนูนเด่นเอื้อมมาหา ก่อนใช้นิ้วโป้งคลึงริมฝีปากบางเล็กและช้อนดวงตาขึ้นมองสบตากันด้วยแววตาล้ำลึก 

คนถูกมองสะท้านไปทั้งใจ ไม่ได้กลัวแต่ถูกใจจนห้ามตัวเองไว้ไม่อยู่...เธอมองตาเขากลับอย่างท้าทาย มือที่ถูกปล่อยเป็นอิสระนานแล้วเอื้อมไปหยิบป๊อบคอร์นขึ้นมาอีกครั้ง และคาบมันไว้ที่ริมฝีปาก ทุกอย่างเป็นไปอย่างอ้อยอิ่ง ตกอยู่ในภวังค์ราวกับโลกทั้งใบมีแค่เราสองคน แม้หนังที่กำลังฉายจะเสียงดังเพราะอยู่ในช่วงบู๊สนั่น ทว่าเสียงรบกวนเหล่านั้นกลับไม่เข้าหูคนทั้งสองที่กำลังนั่งมองตากันอย่างลึกซึ้งอยู่ในตอนนี้เลย 

ตาคมมองริมฝีปากสีอ่อนที่คาบป๊อบคอร์นรออย่างพึงพอใจ ตอนแรกเขาเพียงหยอกเย้าร่างบางเล่น ไม่คิดว่าจะถูกยั่วกลับแบบนี้ แล้วเขาจะปฏิเสธได้ยังไงกันล่ะ... 

ใบหน้าหล่อคมเลื่อนเข้าไปใกล้ เกลี่ยปลายจมูกกับจมูกสวยเบาๆ อย่างหยอกเย้า ก่อนจะค่อยๆ แนบริมฝีปากลงไปแย่งชิงป็อบคอร์นมาไว้ในปาก ทว่ากลับไม่หยุดอยู่แค่นั้น ริมฝีปากร้อนบดจูบปากนิ่ม ดูดดึงอย่างอ่อนโยนและเชื่องช้าก่อนจะทวีความร้อนแรงขึ้นเมื่อร่างบางรุกจูบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ 

"อะ อื้อออ" 

มือใหญ่ประคองใบหน้าสวยไว้เต็มฝ่ามือ ปรับองศาให้จูบถนัดมากขึ้น ในขณะที่มืออีกข้างลูบไล้ไหล่เนียนเรื่อยลงไปถึงเอวคอด สำรวจและบีบคลึงเบาๆ อย่างพึงพอใจ พรีนรินทร์เป็นเซ็กซี่สตาร์ที่มีผิวพรรรณและสัดส่วนเย้ายวนสมตำแหน่งเบอร์ต้น ขนาดนั่งเฉยๆ นิ่งๆ ยังสะกดสายตา เขาเป็นนักธุรกิจก็จริง แต่กระแสความโด่งดังของร่างบางก็ผ่านหูผ่านตามาไม่น้อย เพื่อนๆ ของเขาเป็นแฟนตัวยงของเธอเชียวล่ะ แต่ตอนนี้...คงต้องแสดงความเสียใจกับพวกมันด้วยที่จะต้องอกหัก เพราะเธอกำลังจะเป็นของเขา! 

พรีนไม่ได้ล่วงรู้เลยว่าอีกฝ่ายคิดกับเธอแบบไหน รู้แค่เพียงว่าตอนนี้เธอจะไม่ยอมเสียเปรียบ สองมือเรียวบางยกขึ้นลูบไล้แผ่นอกกำยำผ่านเนื้อผ้าอย่างสำรวจและจงใจ เธอแอบสอดนิ้วเข้าไปในช่องวางระหว่างกระดุมก่อนแตะผิวเนื้อร้อนระอุของร่างสูงอย่างแผ่วเบาและยั่วเย้า ขณะเดียวกันกลีบปากที่ถูกดูดดึงจนเริ่มชาก็สู้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ 

"อื้อ..อึก" 

กระทั่งไม่สามารถสู้ความช่ำชองของคนอายุมากกว่าได้ ร่างบางจึงเป็นฝ่ายล่าถอย ผละออกมาหอบหายใจ ขืนจูบนานกว่านี้เธอต้องหน้ามืดเพราะขาดออกซิเจนแน่ๆ 

"พะ พอแล้วค่ะ...พรีนไม่ไหว" เสียงหวานหอบกระเส่าละล่ำละลักบอก พร้อมยกมือขึ้นปิดปากร่างสูงไว้ เมื่อเขาทำท่าจะรังแกเธอซ้ำอีก ให้ตาย เธอพ่ายแพ้อย่างหมดสภาพเลย

ผู้ชายคนนี้...จูบเก่งเกินไปแล้ว! 

"ขอโทษครับ...ผมอดใจไม่ไหว" ราเชนทร์ยอมรับอย่างไม่เขินอาย คนอายกลับเป็นอีกคนที่ได้รับฟัง แถมยังถูกมองด้วยแววตาลุ่มหลง 

เราผละออกจากกันอย่างเก้อเขิน เลือดลมสูบฉีด ใจเต้นแรงจนไม่รับรู้เนื้อเรื่องของหนังที่กำลังฉาย กระทั่งหนังจบทุกคนก็ต่างทยอยออกจากโรงหนังพร้อมพูดคุยกันถึงเรื่องราวที่เพิ่งดูจบไป ยกเว้นหนุ่มสาวสองคนที่เดินออกมาหลังสุดที่ไม่ปริปากพูดอะไรกันเลยสักคำ 

"อยากไปไหนอีกไหมครับ" ราเชนทร์เป็นฝ่ายถามขึ้น เขาหันไปมองคนข้างกายก่อนที่จะชะงักไปเมื่อมองเห็นริมฝีปากแดงช้ำอันเกิดจากฝีมือตน แต่แทนที่จะเห็นใจ เขากลับอยากรังแกซ้ำให้บวมมากกว่านี้ เกินเยียวยาแล้วจริงๆ 

"เอ่อ พรีนว่าจะแวะซื้อของหน่อยน่ะค่ะ คุณราเชนทร์จะกลับก่อนก็ได้นะคะ" ร่างบางพูดลองเชิงไปอย่างนั้น ความจริงเธออยากอยู่กับอีกฝ่ายให้นานกว่านี้เลยยกเรื่องซื้อของขึ้นมาอ้าง และทำทีเป็นไล่ให้เขากลับอย่างเกรงใจ จริงๆ กำลังวัดใจเขาต่างหากว่าเขาจะกลับหรือไปกับเธอ 

"ผมว่างครับ" คำตอบสั้นๆ ที่ตีความหมายได้ว่าอีกฝ่ายเสนอตัวจะไปด้วยกันทำคนฟังแอบยิ้มกริ่ม พยักหน้ารับเมื่อเขาผายมือให้เดินนำไปยังร้านที่ต้องการ 

ความจริงก่อนหน้านี้พรีนเคยเล็งๆ กระเป๋ากับแหวนเพชรคอลเล็กชันใหม่ของแบรนด์ที่ชอบไว้แต่ยังไม่มีโอกาสได้มาซื้อ เธอจึงใช้โอกาสนี้เสียเลย ร่างสองร่างที่สวยหล่อเหมาะสมกันเดินเข้าไปยังร้านจิวเวลรี่ชื่อดังเป็นที่สนใจของพนักงานและลูกค้าที่อยู่ในร้านไม่น้อย บ้างก็แอบถ่ายรูปและซุบซิบกัน แต่ทั้งคู่กลับไม่ได้สนใจ พรีนรินทร์เป็นคนมีชื่อเสียงเธอคุ้นชินกับสถานการณ์แบบนี้ดี ราเชนทร์เองก็ไม่ต่างกัน ถึงไม่ใช่ดาราแต่เขาก็เป็นนักธุรกิจชื่อดังที่ออกงานสังคมอยู่บ่อยครั้ง ขอแค่ไม่รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวหรือสร้างความเดือดร้อน เขาก็เลือกที่จะปล่อยผ่าน 

"สวัสดีค่ะคุณพรีน ไม่เจอเสียนาน วันนี้สนใจตัวไหนดีคะ" พนักงานทักทายร่างบางอย่างคุ้นเคยพลางมองเลยไปยังหนุ่มหล่อที่เดินตามมาอย่างอึ้งๆ เธอยิ้มรับและกวาดสายตามองเครื่องเพชรผ่านตู้กระจกที่แข่งกันอวดโฉม เปล่งประกายระยิบระยับสะท้อนแสงไฟจนแสบตา 

"สนใจแหวนคอลเล็กชันใหม่ค่ะ ขอดูทั้งหมดเลยนะคะ" เสียงหวานดึงสติพนักงานสาวที่มัวแต่ยืนอึ้งในความหล่อเหลาของคนข้างกายเธอ อีกฝ่ายยิ้มแห้งๆ รีบพยักหน้ารับและผละออกไปเอาแหวนคอลเล็กชันใหม่ของร้านมาวางเรียงรายให้ร่างบางเลือก 

พรีนรินทร์มองแหวนเพชรรูปทรงต่างๆ ด้วยแววตาวาววับ เธอเป็นคนชอบใส่และสะสมเครื่องประดับโดยเฉพาะแหวน เธอมาอุดหนุนแบรนด์นี้เป็นประจำด้วยดีไซน์เรียบหรูและสวยถูกใจ ไม่ว่าจะออกมากี่คอลเล็กชันเธอก็แวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดจนกลายเป็นลูกค้าวีไอพีในที่สุด 

"อืม...อันนี้ก็สวย อันนี้ก็ดี" เสียงหวานพึมพำกับตัวเองอย่างคิดไม่ตก เธอถูกใจแหวนเพชรสองวงแต่ไม่อยากจ่ายเงินซื้อทีเดียวพร้อมกันเพราะราคาแรงไม่ใช่เล่น 

"คุณราเชนทร์คิดว่าวงไหนดีคะ" พอไม่รู้จะเอายังไง พรีนจึงหันไปถามคนข้างๆ เพื่อให้เขาช่วยเลือกโดยใส่แหวนทั้งสองวงโชว์ให้เขาดูด้วย 

"ทั้งสอง...วงอื่นด้วยก็ได้นะครับ ผมจ่ายเอง" ร่างสูงว่าพร้อมล้วงเอาแบล็คการ์ดพรีเมี่ยมออกมาวางสร้างความตื่นตะลึงให้ทั้งพรีนและพนักงานที่ได้ยินได้เห็นถึงความใจป้ำและร่ำรวยของเขา 

"ได้ยังไงล่ะคะ ของพรีน พรีนก็ต้องจ่ายเองสิ" ตั้งสติได้พรีนรินทร์ก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธ แม้ในใจจะร้องกรี๊ดนำไปแล้ว แต่ภายนอกยังคงไว้ซึ่งความเกรงใจเพราะไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เขาต้องมาจ่ายให้ แค่มาเดินด้วยก็ดีแล้ว 

"ผมซื้อให้ ถือว่าเป็นของขวัญสำหรับเดทแรก" ราเชนทร์บอกง่ายๆ อย่างไม่คิดอะไร แม้แหวนสองวงจะมีราคาถึงเจ็ดหลัก ร่างบางได้แต่มองเขาตาปริบๆ ในขณะที่เหล่าพนักงานต่างขวยเขินแทนจนตัวบิดไปมา 

"คุณราเชนทร์ใจดีกับสาวๆ ที่เดทด้วยทุกคนเลยหรือเปล่าคะ" เสียงหวานถามลองเชิง เพราะความใจดีนี้เขาอาจจะทำเป็นปกติกับผู้หญิงทุกคนที่เดทด้วย ถึงได้ดูเหมือนไม่รู้สึกอะไรแม้จะเสียเงินเป็นล้าน 

"เปล่าครับ...แค่พรีนคนเดียว" คำตอบอย่างตรงไปตรงมาทำคนฟังแก้มแดงเรื่อ ใจเต้นแรง แม้จะมีเปอร์เซ็นต์เป็นไปได้ที่เขาอาจจะโกหก แต่เธอกลับเลือกที่จะเชื่อ... 

"ขอบคุณนะคะ แต่พรีนให้คุณจ่ายแค่วงเดียวก็พอค่ะ อีกวงพรีนจ่ายเอง" เมื่อเขาพูดถึงขนาดนี้ร่างบางก็ไม่ปฏิเสธ แต่ก็ยังเกรงใจไม่ให้เขาจ่ายทั้งหมด ดีที่ราเชนทร์ยอมว่าง่ายไม่ดึงดันจะจ่ายให้ทั้งสองวง ไม่ทำให้ลำบากใจ ยิ่งเพิ่มคะแนนความพึงพอใจของเธอที่มีต่อเขามากขึ้นไปอีก 

พรีนรินทร์เดินพาคู่ดูตัวมาช้อปต่อที่ร้านกระเป๋าแบรนด์เนม ราเชนทร์เสนอตัวจะจ่ายให้อีกแต่เธอเกรงใจไม่ยอมรับ เถียงกันไปมาจนเขายอมล่าถอยเพราะเธอขู่ไปว่าถ้าไม่ยอมให้เธอจ่ายเอง เธอจะไม่ยอมมาเจอเขาอีก ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะผู้ชายนิสัยรวยอะ ชอบมากกกกก แต่เพิ่งจะรู้จักกันไหม รอเป็นแฟนก่อนเถอะ จะขูดรีดให้หมดตัวเลยคอยดู! 

"ขับรถดีๆ นะคะ" 

"เช่นกันครับ" 

เดทแรกจบลงอย่างเรียบง่าย พรีนขับรถมาเองจึงไม่จำเป็นต้องให้ร่างสูงไปส่ง แม้เขาจะอยากไปส่งก็ตาม ก่อนจากเราแลกช่องทางการติดต่อกันไว้เพราะต่างฝ่ายต่างอยากจะสานต่อความสัมพันธ์ ลับสายตาผู้ชายร่างบางก็รีบโทรไปกรี๊ดกับผู้จัดการอย่างอดใจไม่ไหว เมื่อคืนอีกฝ่ายอวยพรให้เจอผู้ชายที่ไม่เหมือนคนก่อนๆ และก็เป็นอย่างที่พูดไว้ สมพรปากจริงๆ!

..

..

..

..

แกก็ออกตัวแรงเกิ๊น!

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status