“แม็กเซ็น...ได้โปรด...กอดฉันนะคะ”
มีนาเว้าวอน เสียงหวานนั้นสะท้อนเข้าไปทำลายความอดกลั้นของชายหนุ่มให้พังทลาย แม็กเซ็นยิ่งจูบเธอหนักหน่วง ในกายของเขาเหมือนมีความร้อนแล่นพล่านไปในทุกอณูเส้นเลือด มันสูบฉีดแรงและทำให้เขาเจ็บร้าวที่กลางลำตัว
ใยค่ำคืนนี้จึงผ่านไปอย่างเชื่องช้า แม้แต่ร่างกายแข็งแกร่งของเขาก็เหมือนไร้เรี่ยวสิ้นแรงไปเสียอย่างนั้น ไม่มีแรงจะพาตัวเองออกห่างจากร่างนุ่มนิ่มที่บดเบียดอยู่ด้านล่าง
หมดสิ้นความพยายามแม้แต่จะถอนริมฝีปากออกจากจุมพิตบนเรียวปากอิ่มที่เรียกร้องเขาอยู่ตลอดเวลา
“มีนา...”
และแล้วความอดทนของเขาก็ป่นเป็นผงเหมือนแก้วแตกละเอียด ใบหน้าคร้ามเข้มเลื่อนจากจากริมฝีปากฉ่ำระเรื่อยลงมาที่คางมนและซุกไซ้ลำคอหญิงสาวที่กลิ่นน้ำมันหอมนั้นเย้ายวนจนกลบกลิ่นแอลกอฮอล์ในลมหายใจของเธอได้หมด มือหนานั้นไม่หยุดอยู่นิ่ง แต่ลูบไล้ไปตามสีข้างก่อนจะหยุดลงที่เนินทรวงอวบอิ่มใต้เนื้อผ้าของชุดสีชมพูกุหลาบ
เขาบีบเคล้นมันเบา ๆ และเริ่มหนักมือขึ้นเมื่อความนุ่มหยุ่นนั้นดีดเด้งสู้ฝ่ามือหนาใหญ่ นานแล้วที่แม็กเซ็นไม่ได้สัมผัสกับความเย้ายวนและนุ่มนวลเช่นนี้ เขาควรระวังตัวเองกับผู้หญิงแปลกหน้าแต่กลับกลายเป็นว่ามันช่างน่าตื่นเต้นจนเขาหักห้ามตัวเองไม่ไหว
“อา...อืม”
มีนาครางออกมาอย่างรันจวนใจเมื่อมือของเขาทำหน้าที่ของมันอย่างสัตย์ซื่อ ด้วยการดึงชุดสวยออกจากเรือนร่างคอดเว้าราวกับนาฬิกาทรายขณะที่ใบหน้าคมคายยังคงวนเวียนจูบซับไปตามนวลผิวสีชมพู แม็กเซ็นบอกตัวเองว่าเขาไม่ได้อยู่ในอาการมึนเมา เมื่อตอนหัวค่ำที่ภัตตาคารเขาแค่ดื่มไวน์ไปเพียงแก้วเดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้ร่างกายของเขากำลังร้อนรุ่มถึงจุดสุดขีด เหมือนน้ำเดือดที่มีร่างกายอันเย้ายวนของหญิงสาวเป็นเชื้อฟืนเติมไฟโหมไหม้ให้น้ำร้อนทะลุถึงร้อยองศา
“มีนา...โอ...พระเจ้า”
เขาหยัดกายขึ้นมองหญิงสาวชัด ๆ เธอยังบิดตัวไปมาและครางเสียงลึกในลำคอเป็นระยะ ท่าทีนั้นช่างเซ็กซี่ มีนาดูเหมือนนางเอกหนังเอวีอย่างไรอย่างนั้น บนเรือนร่างของเธอตอนนี้มีเพียงบราลูกไม้กับแพนตี้ตัวจิ๋วกางกั้นสายตาของชายหนุ่มจากความลึกลับที่เขากำลังจะเข้าไปค้นหา
เขาอยากจะลุกหนีไปเสีย แต่พลังดึงดูดจากความยั่วยวนอันล้นเหลือตรงหน้าทำให้ร่างสูงใหญ่แทบไม่อาจละสายตาไปจากหญิงสาวได้ แม็กเซ็นถอนใจหนัก เขาไม่อาจบังคับตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่านาทีข้างหน้าจะเกิดอะไร หรือพรุ่งนี้เขากับมีนา หญิงสาวแปลกหน้าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน ขอแค่ผ่านค่ำคืนนี้ไปเขาก็พร้อมจะยอมรับทุกอย่างที่จะบังเกิด
“มีนา...ผมไม่รู้เลยว่าคุณเป็นใคร บ้านของคุณอยู่ที่ไหน แต่...โอ...พระเจ้า...คุณกำลังทำให้ผมคลั่ง” ชายหนุ่มทาบทับตัวเองลงบนร่างบอบบางอีกหน คราวนี้เขาสอดมือเข้าไปด้านหลังของหญิงสาวแล้วค่อย ๆ ปลดตะขอบราเซียซึ่งมีเพียงตะขอเดียวที่เกาะเกี่ยวผ้าลูกไม้แสนสวยไว้ด้วยกัน
ทันทีที่มันหลุดออกจากเรือนร่างอ้อนแอ้น ความอวบใหญ่ของโนมเนื้อทั้งสองก็โดดเด้งขึ้นมาท้าทายสายตาคู่นั้น ความอวบอัดนั้นไม่สมกับสัดส่วนเล็กบางของเธอเลยสักนิด เขาค่อย ๆ วางฝ่ามือที่ว่าใหญ่แล้วแต่ก็ยังกอบกุมปทุมถันทั้งสองไว้ได้แทบไม่หมด
“คุณคะ...ฉันหนาว....อา...ได้โปรด”
มีนาเว้าวอนอย่างปราศจากความอาย ตรงข้ามยิ่งท้าทายเขาด้วยการยกแผ่นหลังให้เรือนร่างแอ่นเข้าหา ปลายถันแต่งแต้มด้วยสีชมพูนั้นเย้ายวนยิ่งนัก แม็กเซ็นก้มลงไปหาและไล้ปลายลิ้นไปรอบ ๆ ติ่งเนื้ออ่อนไหวทั้งซ้ายขวาจนหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“อ๊ะ...อา...อา”
เสียงหวานยั่วยุให้เขาครอบครองมันไว้ในปากหยักหนาในที่สุด ปลายลิ้นร้อนดุนดัน ริมฝีปากดูดดุนจนร่างน้อยบิดเร่า ยิ่งเธอขยับตัวมากเท่าไหร่ ทุกสัดส่วนอวบอัดก็ยิ่งบดเบียดโดยเฉพาะแก่นกายที่ถูกเสียดสีจนมันตื่นตัวเต็มที่ แม็กเซ็นดูดดื่มความหอมหวานจากปลายถันสีชมพู บดจูบไปรอบทรวงอิ่มท่าทุกอณูเต้นระริกและเขาก็รับรู้ได้จากอาการขนลุกขนชันของหญิงสาว
จนกระทั่งป่านนี้เธอก็ยังสะลืมสะลือและดูจะเต็มใจกับทุกสัมผัสที่เขามอบให้ไม่รู้จักอิ่ม “อา...อือ” มีนาสอดปลายนิ้วเข้าไปขยุ้มเรือนผมสีน้ำตาลเข้มของเขา แอ่นร่างและส่ายหน้าอกไปมาเมื่อแม็กเซ็นดูดกลืนยอดอกของเธอด้วยความหิวกระหาย เธอคงไม่มีสติสัมปชัญญะใด ๆ นอกจากการรับรู้ถึงรสชิวหาที่เขาป้อนปรนเปรอให้และความสุขสมเอ่อท้นแทบสำลัก แม็กเซ็นเองก็หูอื้อตาลาย แม้รู้อยู่แก่ใจว่านี่เป็นการเอาเปรียบผู้หญิงอย่างร้ายกาจทว่าเสน่ห์ของสาวสวยแปลกหน้าก็ทำให้เขาซาบซ่านชนิดหยุดยั้งตัวเองไว้ไม่อยู่
“มีน...นี่เธอจะดื่มมากเกินไปแล้วนะ”เสียงเอ็ดอึงที่ดังอยู่ข้างหูหญิงสาวร่างเล็กในชุดกระโปรงสีกุหลาบดูเหมือนจะเบากว่าเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มอยู่รอบไนต์คลับและไม่อาจหยุดยั้งคนฟังให้หยุดการกระทำของตัวเองได้ ปูนิ่มนั่งส่ายหัวดิกขณะมองมีนาเพื่อนสนิทของเธอที่กระดกแก้วไวน์เข้าปากคราวแล้วคราวเล่าจนแก้มเนียนทั้งสองข้างเป็นสีแดงสุกปลั่ง“ฉันไม่ได้เมานะ ปู...ก็แค่ไวน์เอง”มีนาเถียงแต่ยังรินน้ำสีแดงเข้มใส่แก้วตรงหน้าจนหมดขวด“พอเถอะน่า มีน” ปูนิ่มเตือนและแตะแขนเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างเธอท่ามกลางคนมากมายภายในไนต์คลับกลางกรุงลอส แองเจลิสที่บ้างก็ลุกขึ้นขยับตามจังหวะดนตรี บ้างก็เป็นหนุ่มสาวที่นั่งก่ายกอดตามวิถีของชาวตะวันตกปูนิ่มถอนหายใจและคิดไม่ออกว่าจะห้ามเพื่อนของเธอซึ่งเริ่มอยู่ในอาการมึนเมาเช่นไรดี ปกติ มีนา ซึ่งเป็นเพื่อนชาวไทยที่เธอสนิทด้วยที่สุดไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้ แต่ความเครียดบางอย่างที่เธอรู้ว่ากำลังรุมเร้าเพื่อนสนิททำให้ปูนิ่มตัดสินใจชวนกันออกมาท่องราตรีบ้างเพื่อคลายความหม่นหมองในหัวใจ“มีน...ฉันว่าเธอควรจะพอได้แล้วนะ”เสียงของปูนิ่มไม่ได้ดังไปกว่าเสียงเพลงรอบ ๆ ทว่าคราวนี้กลับทำให้
“อ้วก!”หญิงสาวสำรอกเอาสิ่งที่เธอพยายามเก็บกลั้นไว้ก่อนออกจากไนต์คลับเพื่อจะได้ปลดปล่อยมันในตรอกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสถานบันเทิงที่เธอวิ่งออกมา มีนายันฝ่ามือกับผนังตึกและก้มลงมองบนพื้นก็เห็นแต่สิ่งที่เธอกระดกมันเข้าไปในปากแก้วแล้วแก้วเล่าตั้งแต่หัวค่ำในท้องของเธอร้อนไปหมด มันไม่มีอะไรอยู่เลยนอกจากน้ำสีทับทิมที่เธออยากกินให้ลืมทุกสิ่งที่เกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น เซบาสเตียน มิลเลอร์ หนุ่มหล่อพ่อรวยที่หลอกล้วงเอาหัวใจของเธอไปทำลายด้วยความเจ้าชู้“เฮ้...สาวน้อย เป็นอะไรไปน่ะ ไม่สบายหรือจ๊ะ?”เสียงห้าวที่ดังขึ้นเบื้องหลังทำให้มีนาหยุดชะงัก เธอมีอาการอ่อนเพลียจากการอาเจียนอย่างเห็นได้ชัด ร่างเล็กค่อย ๆ หันกลับไปมองก็พบว่ามีชายอเมริกันผิวขาวตัวโตในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สวมแจ็คเก็ตมีฮู๊ดยืนห่างจากเธอไม่กี่ก้าว เขามองมาและยื่นหน้าเข้ามาใกล้เหมือนอยากรู้“ไม่ค่ะ...ฉันไม่เป็นอะไร ฉันจะกลับแล้วล่ะค่ะ” / “แน่หรือ...ไม่เป็นไรแน่หรือ...ให้ฉันช่วยเธอดีมั้ย หน้าตาเธอดูไม่ดีเลยนะสาวน้อย”ชายคนนั้นทำให้เธอตระหนกด้วยการก้าวพรวดเข้ามาและยื้อแขนเธอไว้“เอ๊ะ! ปล่อยนะ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร” มีนา
แต่...เธอเป็นใครกัน เขาเกิดความใคร่รู้ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก่อนที่ความสงสัยนั้นจะแล่นลิ่วไปไกลเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน ร่างสูงปิดประตูและรีบวิ่งกลับไปนั่งฝั่งคนขับ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายขณะสตาร์ทเครื่องยนต์“ครับ...ผมแม็กเซ็น...ใช่ครับ ผมกำลังจะกลับ เรื่องขยายอู่รื้อซากเรือที่ตุรกีค่อยคุยกันพรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน”แม็กเซ็นกล่าวจบก็วางโทรศัพท์ลงข้างตัวและอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหญิงสาวชาวเอเชีย เจ้าของใบหน้าแสนสวยที่นอนอยู่บนเบาะข้าง ๆ ซึ่งเธอมีอาการงัวเงียขึ้นมาเป็นบางครั้ง ปกติเขาไม่ชอบออกมาท่องราตรีจนดึกดื่น แต่คืนนี้มีเหตุจำเป็นต้องออกมารับรองแขกซึ่งเป็นหุ้นส่วนของบริษัทที่เขารั้งตำแหน่งประธานกรรมการเพื่อตกลงเรื่องการทำโปรเจ็คใหญ่ของบริษัทอย่างไม่อาจเลี่ยงหลังจากทานอาหารในภัตตาคารหรูและพูดคุยกันจนเห็นว่าเวลาล่วงไปจนใกล้เที่ยงคืนแล้วเขาก็เตรียมตัวจะกลับไปพักผ่อนแต่ก็ดันมาเห็นภาพที่ทำให้เขาไม่อาจนิ่งเฉยได้ นั่นคือผู้ชายตัวโตที่กำลังยื้อยึดผู้หญิงร่างเล็กคนหนึ่งซึ่งกลับกลายเป็นว่าเขาต้องพาเธอคนนั้นกลับมาที่รถด้วยเพราะเธอเมามายจนหมดรูป“คุณ...นี่คุณ” แม็กเซ็นเรียกหญิงสาวอี
ชายหนุ่มค่อย ๆ วางร่างเล็กบอบบางลงบนเตียงขนาดใหญ่ เขาต้องช่วยดึงชายกระโปรงของชุดสีกุหลาบที่เลิกขึ้นไปถึงต้นขาขาวเนียนของหญิงสาวซึ่งเธอยังบิดตัวไปมาบนที่นอนหนานุ่ม แม็กเซ็นทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ และรู้สึกมึนงงเล็ก ๆ กับการกระทำของตัวเองในเหตุการณ์ที่ไม่เคยประสบพบ โตมาจนเป็นหนุ่มอายุตั้งสามสิบถึงจะเคยควงผู้หญิงก็ไม่เคยพาใครคนไหนมาที่บ้านและถึงขนาดเข้ามาในห้องนอนของเขาแม้แต่คนเดียว เขายังนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนหัวค่ำ ไม่ได้ตั้งใจสักนิดที่จะแอบอ้างตัวว่าเป็นแฟนกับผู้หญิงคนนี้ที่เมามายแทบไม่ได้สติ แต่เขาเห็นว่าเธอกำลังถูกรังแกและแค่คิดว่าจะช่วยไว้ก็เท่านั้น แม็กเซ็นถอนหายใจทว่าก็อดไม่ได้ที่จะหันไปพิศมองดวงหน้าหวานซึ่งดวงตากลมโตคู่นั้นยังกระพริบถี่ ๆ และริมฝีปากอิ่มสวยยังพึมพำเหมือนว่าสติอันน้อยนิดยังคงทำงานอยู่ ผู้หญิงสวย ๆ แบบนี้เมาพับอยู่ข้างถนนก็เหมือนอาหารโอชะให้พวกเสือสิงห์คาบไปขย้ำก็เท่านั้น เขาคิดในใจแต่ก่อนที่จะลุกขึ้นก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงกระแอมของเธอดังขึ้น“แค่ก...แค่ก” “มีน่า คุณเป็นอะไร” ร่างสูงโถมตัวเข้าหาจนหลงลืมไปว่าเขาอยู่ในท่าคร่อมร่างหญิงสาวเอาไว้ เธอไอออกมาและเกือบสำ
“แม็กเซ็น...ได้โปรด...กอดฉันนะคะ”มีนาเว้าวอน เสียงหวานนั้นสะท้อนเข้าไปทำลายความอดกลั้นของชายหนุ่มให้พังทลาย แม็กเซ็นยิ่งจูบเธอหนักหน่วง ในกายของเขาเหมือนมีความร้อนแล่นพล่านไปในทุกอณูเส้นเลือด มันสูบฉีดแรงและทำให้เขาเจ็บร้าวที่กลางลำตัวใยค่ำคืนนี้จึงผ่านไปอย่างเชื่องช้า แม้แต่ร่างกายแข็งแกร่งของเขาก็เหมือนไร้เรี่ยวสิ้นแรงไปเสียอย่างนั้น ไม่มีแรงจะพาตัวเองออกห่างจากร่างนุ่มนิ่มที่บดเบียดอยู่ด้านล่างหมดสิ้นความพยายามแม้แต่จะถอนริมฝีปากออกจากจุมพิตบนเรียวปากอิ่มที่เรียกร้องเขาอยู่ตลอดเวลา“มีนา...”และแล้วความอดทนของเขาก็ป่นเป็นผงเหมือนแก้วแตกละเอียด ใบหน้าคร้ามเข้มเลื่อนจากจากริมฝีปากฉ่ำระเรื่อยลงมาที่คางมนและซุกไซ้ลำคอหญิงสาวที่กลิ่นน้ำมันหอมนั้นเย้ายวนจนกลบกลิ่นแอลกอฮอล์ในลมหายใจของเธอได้หมด มือหนานั้นไม่หยุดอยู่นิ่ง แต่ลูบไล้ไปตามสีข้างก่อนจะหยุดลงที่เนินทรวงอวบอิ่มใต้เนื้อผ้าของชุดสีชมพูกุหลาบเขาบีบเคล้นมันเบา ๆ และเริ่มหนักมือขึ้นเมื่อความนุ่มหยุ่นนั้นดีดเด้งสู้ฝ่ามือหนาใหญ่ นานแล้วที่แม็กเซ็นไม่ได้สัมผัสกับความเย้ายวนและนุ่มนวลเช่นนี้ เขาควรระวังตัวเองกับผู้หญิงแปลกหน้าแต่กลับก
ชายหนุ่มค่อย ๆ วางร่างเล็กบอบบางลงบนเตียงขนาดใหญ่ เขาต้องช่วยดึงชายกระโปรงของชุดสีกุหลาบที่เลิกขึ้นไปถึงต้นขาขาวเนียนของหญิงสาวซึ่งเธอยังบิดตัวไปมาบนที่นอนหนานุ่ม แม็กเซ็นทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ และรู้สึกมึนงงเล็ก ๆ กับการกระทำของตัวเองในเหตุการณ์ที่ไม่เคยประสบพบ โตมาจนเป็นหนุ่มอายุตั้งสามสิบถึงจะเคยควงผู้หญิงก็ไม่เคยพาใครคนไหนมาที่บ้านและถึงขนาดเข้ามาในห้องนอนของเขาแม้แต่คนเดียว เขายังนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนหัวค่ำ ไม่ได้ตั้งใจสักนิดที่จะแอบอ้างตัวว่าเป็นแฟนกับผู้หญิงคนนี้ที่เมามายแทบไม่ได้สติ แต่เขาเห็นว่าเธอกำลังถูกรังแกและแค่คิดว่าจะช่วยไว้ก็เท่านั้น แม็กเซ็นถอนหายใจทว่าก็อดไม่ได้ที่จะหันไปพิศมองดวงหน้าหวานซึ่งดวงตากลมโตคู่นั้นยังกระพริบถี่ ๆ และริมฝีปากอิ่มสวยยังพึมพำเหมือนว่าสติอันน้อยนิดยังคงทำงานอยู่ ผู้หญิงสวย ๆ แบบนี้เมาพับอยู่ข้างถนนก็เหมือนอาหารโอชะให้พวกเสือสิงห์คาบไปขย้ำก็เท่านั้น เขาคิดในใจแต่ก่อนที่จะลุกขึ้นก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงกระแอมของเธอดังขึ้น“แค่ก...แค่ก” “มีน่า คุณเป็นอะไร” ร่างสูงโถมตัวเข้าหาจนหลงลืมไปว่าเขาอยู่ในท่าคร่อมร่างหญิงสาวเอาไว้ เธอไอออกมาและเกือบสำ
แต่...เธอเป็นใครกัน เขาเกิดความใคร่รู้ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก่อนที่ความสงสัยนั้นจะแล่นลิ่วไปไกลเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน ร่างสูงปิดประตูและรีบวิ่งกลับไปนั่งฝั่งคนขับ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายขณะสตาร์ทเครื่องยนต์“ครับ...ผมแม็กเซ็น...ใช่ครับ ผมกำลังจะกลับ เรื่องขยายอู่รื้อซากเรือที่ตุรกีค่อยคุยกันพรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน”แม็กเซ็นกล่าวจบก็วางโทรศัพท์ลงข้างตัวและอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหญิงสาวชาวเอเชีย เจ้าของใบหน้าแสนสวยที่นอนอยู่บนเบาะข้าง ๆ ซึ่งเธอมีอาการงัวเงียขึ้นมาเป็นบางครั้ง ปกติเขาไม่ชอบออกมาท่องราตรีจนดึกดื่น แต่คืนนี้มีเหตุจำเป็นต้องออกมารับรองแขกซึ่งเป็นหุ้นส่วนของบริษัทที่เขารั้งตำแหน่งประธานกรรมการเพื่อตกลงเรื่องการทำโปรเจ็คใหญ่ของบริษัทอย่างไม่อาจเลี่ยงหลังจากทานอาหารในภัตตาคารหรูและพูดคุยกันจนเห็นว่าเวลาล่วงไปจนใกล้เที่ยงคืนแล้วเขาก็เตรียมตัวจะกลับไปพักผ่อนแต่ก็ดันมาเห็นภาพที่ทำให้เขาไม่อาจนิ่งเฉยได้ นั่นคือผู้ชายตัวโตที่กำลังยื้อยึดผู้หญิงร่างเล็กคนหนึ่งซึ่งกลับกลายเป็นว่าเขาต้องพาเธอคนนั้นกลับมาที่รถด้วยเพราะเธอเมามายจนหมดรูป“คุณ...นี่คุณ” แม็กเซ็นเรียกหญิงสาวอี
“อ้วก!”หญิงสาวสำรอกเอาสิ่งที่เธอพยายามเก็บกลั้นไว้ก่อนออกจากไนต์คลับเพื่อจะได้ปลดปล่อยมันในตรอกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสถานบันเทิงที่เธอวิ่งออกมา มีนายันฝ่ามือกับผนังตึกและก้มลงมองบนพื้นก็เห็นแต่สิ่งที่เธอกระดกมันเข้าไปในปากแก้วแล้วแก้วเล่าตั้งแต่หัวค่ำในท้องของเธอร้อนไปหมด มันไม่มีอะไรอยู่เลยนอกจากน้ำสีทับทิมที่เธออยากกินให้ลืมทุกสิ่งที่เกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น เซบาสเตียน มิลเลอร์ หนุ่มหล่อพ่อรวยที่หลอกล้วงเอาหัวใจของเธอไปทำลายด้วยความเจ้าชู้“เฮ้...สาวน้อย เป็นอะไรไปน่ะ ไม่สบายหรือจ๊ะ?”เสียงห้าวที่ดังขึ้นเบื้องหลังทำให้มีนาหยุดชะงัก เธอมีอาการอ่อนเพลียจากการอาเจียนอย่างเห็นได้ชัด ร่างเล็กค่อย ๆ หันกลับไปมองก็พบว่ามีชายอเมริกันผิวขาวตัวโตในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สวมแจ็คเก็ตมีฮู๊ดยืนห่างจากเธอไม่กี่ก้าว เขามองมาและยื่นหน้าเข้ามาใกล้เหมือนอยากรู้“ไม่ค่ะ...ฉันไม่เป็นอะไร ฉันจะกลับแล้วล่ะค่ะ” / “แน่หรือ...ไม่เป็นไรแน่หรือ...ให้ฉันช่วยเธอดีมั้ย หน้าตาเธอดูไม่ดีเลยนะสาวน้อย”ชายคนนั้นทำให้เธอตระหนกด้วยการก้าวพรวดเข้ามาและยื้อแขนเธอไว้“เอ๊ะ! ปล่อยนะ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร” มีนา
“มีน...นี่เธอจะดื่มมากเกินไปแล้วนะ”เสียงเอ็ดอึงที่ดังอยู่ข้างหูหญิงสาวร่างเล็กในชุดกระโปรงสีกุหลาบดูเหมือนจะเบากว่าเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มอยู่รอบไนต์คลับและไม่อาจหยุดยั้งคนฟังให้หยุดการกระทำของตัวเองได้ ปูนิ่มนั่งส่ายหัวดิกขณะมองมีนาเพื่อนสนิทของเธอที่กระดกแก้วไวน์เข้าปากคราวแล้วคราวเล่าจนแก้มเนียนทั้งสองข้างเป็นสีแดงสุกปลั่ง“ฉันไม่ได้เมานะ ปู...ก็แค่ไวน์เอง”มีนาเถียงแต่ยังรินน้ำสีแดงเข้มใส่แก้วตรงหน้าจนหมดขวด“พอเถอะน่า มีน” ปูนิ่มเตือนและแตะแขนเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างเธอท่ามกลางคนมากมายภายในไนต์คลับกลางกรุงลอส แองเจลิสที่บ้างก็ลุกขึ้นขยับตามจังหวะดนตรี บ้างก็เป็นหนุ่มสาวที่นั่งก่ายกอดตามวิถีของชาวตะวันตกปูนิ่มถอนหายใจและคิดไม่ออกว่าจะห้ามเพื่อนของเธอซึ่งเริ่มอยู่ในอาการมึนเมาเช่นไรดี ปกติ มีนา ซึ่งเป็นเพื่อนชาวไทยที่เธอสนิทด้วยที่สุดไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้ แต่ความเครียดบางอย่างที่เธอรู้ว่ากำลังรุมเร้าเพื่อนสนิททำให้ปูนิ่มตัดสินใจชวนกันออกมาท่องราตรีบ้างเพื่อคลายความหม่นหมองในหัวใจ“มีน...ฉันว่าเธอควรจะพอได้แล้วนะ”เสียงของปูนิ่มไม่ได้ดังไปกว่าเสียงเพลงรอบ ๆ ทว่าคราวนี้กลับทำให้