Share

บทที่ 631

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
“โอ้? ผู้ใดกันที่มีฝีมือร้ายกาจถึงเพียงนี้ ถึงกับทำร้ายท่านได้?”

เติ้งหม่างสีหน้าเคร่งขรึมกล่าวว่า “คู่ต่อสู้ของข้ามิใช่มนุษย์ หากแต่เป็นสัตว์ร้ายมหึมาแสนดุร้าย!”

ฉินซูสีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย เอ่ยถามต่อ “แถบนี้มีสัตว์ร้ายออกอาละวาดด้วยหรือ?”

“มีสิ ทั้งยังมีอยู่มิใช่น้อยเลย สัตว์ร้ายเหล่านั้นแต่ละตัวล้วนมีรูปร่างใหญ่โต พละกำลังมหาศาล”

เติ้งหม่างหัวเราะขมขื่น กล่าวต่อไปว่า “โดยปกติพวกเรามิก่อกวนพวกมันหรอก ก่อนหน้านี้สองสามวันมีสัตว์ร้ายตัวหนึ่งบุกรุกเข้ามาในค่ายกองทัพหนานเยวี่ย ทำร้ายทหารไปมิใช่น้อย ข้าจึงนำคนไปล้อมปราบ แต่คาดมิถึงว่านอกจากจะสังหารมันมิได้ ยังถูกมันทำร้ายเสียเอง”

กล่าวถึงตรงนี้ สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความขมขื่น

ฉินซูหรี่ดวงตาลง ครุ่นคิดในใจ

สัตว์ร้ายเหล่านั้น เกรงว่าจะเป็นทายาทของสัตว์วิญญาณในยุคบำเพ็ญเพียรในอดีต มิฉะนั้นรูปร่างของพวกมันจะใหญ่โตถึงเพียงนี้ได้อย่างไร

ในเวลานี้เอง ตงฟางไป๋ก็กล่าวเสียงทุ้มต่ำ “หัวหน้าใหญ่ มีคนกำลังมาจากทางนั้นขอรับ!”

ฉินซูมองตามทิศทางที่เขาชี้ไป เห็นเพียงกลุ่มคนจำนวนมากเดินออกมาจากซอกเขาเบื้องหน้า

ในหมู่พวกเขา มีคนจำนวนมิใช่น้อย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 632

    หูก่วงเซิงยังมิทันกล่าวจบประโยค ก็สังเกตเห็นสองพี่น้องตงฟางไป๋ จึงอุทานออกมาด้วยความตกตะลึงสองพี่น้องตงฟางไป๋ฝืนทำใจให้สงบ มิตอบโต้หูก่วงเซิงแต่อย่างใดเติ้งหม่างเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “หูก่วงเซิง เจ้ารู้จักผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้มีพระคุณของข้าด้วยรึ?”“ผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้มีพระคุณของท่าน?”หูก่วงเซิงสีหน้างุนงง กล่าวว่า “ท่านแม่ทัพเติ้ง สองคนนั้นคือคนสนิทขององค์รัชทายาทที่รอวันปลดฉินซู ไฉนยามนี้กลับกลายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้มีพระคุณของท่านไปได้ ท่านแม่ทัพเติ้ง ท่านมิได้ถูกพวกมันหลอกลวงแล้วหรือขอรับ?”เติ้งหม่างสีหน้าตึงเครียด ตวาดเสียงดัง “บังอาจ หูก่วงเซิง เจ้ามันมีดีแต่ปาก ถึงคราวตายอยู่รอมร่อ ยังกล้ายุแหย่ให้พวกเราแตกคอกันอีก!”“ท่านแม่ทัพเติ้ง สิ่งที่ข้ากล่าวล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น อีกทั้งในตอนกลางวันก็เป็นพวกมันที่นำพลธนูมาคุ้มกันข้า ข้าถึงกล้านำทหารม้าบุกทะลวงทัพหลังของพวกท่าน หากท่านมิเชื่อ ก็ลองสอบถามจากผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านดูก็ได้”เมื่อเห็นท่าทางหนักแน่นของหูก่วงเซิง เติ้งหม่างก็อดมิได้ที่จะคลางแคลงใจเขามองไปยังฉินซู กำลังจะเอ่ยถามฉินซูกลับกล่าวแทรก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 633

    เติ้งหม่างชักดาบออกมา เตรียมเงื้อฟัน!หูก่วงเซิงตกใจจนแทบสิ้นสติ รีบกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพเติ้ง ข้ากล่าวแต่ความจริงทั้งสิ้น จริงสิ สองคนนั้นน่าจะรู้เรื่องราวมากกว่าข้า เพราะธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้าล้วนเป็นฝีมือการคิดค้นขององค์รัชทายาทที่รอวันปลดฉินซู!”เติ้งหม่างหันไปมองตงฟางไป๋ เอ่ยถามอย่างเกรงอกเกรงใจ “ท่านทั้งสอง สิ่งที่หูก่วงเซิงกล่าว เป็นความจริงหรือไม่?”ตงฟางไป๋พยักหน้า “เป็นความจริง!”“ข้ามิคาดคิดมาก่อนว่า องค์รัชทายาทผู้รอวันปลดที่ร่ำลือกันว่าไร้ความสามารถจะสามารถคิดค้นอาวุธยุทโธปกรณ์ร้ายกาจถึงเพียงนี้ได้!” เติ้งหม่างรำพึงรำพันแล้วถามต่อ “พวกท่านสองพี่น้อง ทราบถึงโครงสร้างของธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้าหรือไม่?”ตงฟางไป๋ยักไหล่ “เรื่องลับสุดยอดเช่นนั้น พวกเราจะล่วงรู้ได้อย่างไร”เติ้งหม่างถอนหายใจด้วยความผิดหวังเล็กน้อย จากนั้นก็จ้องมองหูก่วงเซิงด้วยสายตาเย็นเยียบหูก่วงเซิงในใจพลันรู้สึกหนาวเยือก ความรู้สึกถึงลางร้ายพลันบังเกิด เขาเอ่ยถามเสียงสั่นเครือ “ท่าน… ท่านแม่ทัพเติ้ง ไยท่านจ้องมองข้าเช่นนี้เล่าขอรับ?”“หึ แม้ระเบิดสายฟ้าและธนูทดกำลังจะเป็นผลงานการคิดค้นของฉินซู

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 634

    “หากเป็นจริงดังว่า เรื่องที่เจ้ากล่าวมาก็ย่อมมีหนทางเป็นไปได้ ทว่า… ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้อย่างไร?”คำพูดของเติ้งหม่างบ่งบอกว่าใจของเขาเริ่มโอนเอียงไปแล้วท้ายที่สุดหากเป็นดังที่หูก่วงเซิงกล่าว มิเพียงแต่จะสามารถยึดครองเมืองเจียวโจวได้ หากแต่ถึงเวลานั้นยังอาจฉวยโอกาสที่ต้าเหยียนระส่ำระสาย บุกยึดครองเมืองต่าง ๆ ได้อีกหลายเมืองในคราวเดียวหากเป็นเช่นนั้น เติ้งหม่างผู้นี้ก็จะได้รับการจารึกชื่อในหน้าประวัติศาสตร์ และจะได้รับการสรรเสริญจากอนุชนหนานเยวี่ยไปชั่วกาลนานหูก่วงเซิงกล่าวอย่างหนักแน่น “ข้าน้อยสามารถเขียนสาส์นฉบับหนึ่งให้คนนำไปส่งมอบแก่ท่านอ๋องฉู่ได้ จากนั้นค่อยเชิญพระองค์มาพบท่านแม่ทัพเพื่อหารือเป็นการส่วนตัว เช่นนี้แล้ว ท่านคงเชื่อใจข้าได้แล้วกระมัง?”“ดี ตกลงตามนั้น หากสำเร็จลุล่วง ข้ามิเพียงแต่จะปล่อยเจ้าไป หากแต่จะปูนบำเหน็จทองคำหมื่นตำลึงแก่เจ้า รับรองว่าชีวิตบั้นปลายของเจ้าจะสุขสบายไร้กังวล!” เติ้งหม่างโบกมืออย่างองอาจพร้อมด้วยสีหน้าเปี่ยมสุขหูก่วงเซิงพยักหน้ารัว ๆ เขาหาได้ใส่ใจทองคำหมื่นตำลึงเหล่านั้นไม่ เพียงแต่หวังเพียงว่าจะช่วยเหลืออ๋องฉู่ในการช่วงชิงบัลลังก์ให้สำเร็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 635

    ชิวก่วนประสานมือรับคำ ก่อนจะเตรียมเดินออกไปสั่งการในเวลานี้เอง ทหารนายหนึ่งก็เดินเข้ามา ประสานมือกล่าวอย่างนอบน้อม “ท่านแม่ทัพใหญ่ ด้านนอกมีสตรีผู้หนึ่งมาขอพบ บอกว่ามีธุระสำคัญจะหารือกับท่านขอรับ”ฉงชูโม่ขมวดคิ้วมุ่น แต่คล้ายกับนึกกระไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงกล่าวว่า “เชิญนางเข้ามาเถิด”ครู่หนึ่งต่อมา สตรีผู้หนึ่งรูปโฉมงดงามก็ถูกนำตัวเข้ามานางคือมู่หรงจื่อเยียน!ฉงชูโม่เหลือบมองนางผาดหนึ่ง ก่อนจะเชิดคางขึ้นเล็กน้อย “ว่ามา มีธุระอันใดกับข้า?”“ก่อนที่องค์รัชทายาทจะออกจากเมือง พระองค์ฝากฝังให้ข้านำสาส์นฉบับนี้มามอบให้แก่ท่าน”มู่หรงจื่อเยียนกล่าวพลางหยิบสาส์นฉบับหนึ่งออกมาจากอกเสื้อและยื่นให้อีกฝ่ายฉงชูโม่คลี่สาส์นออกอ่าน เพียงชั่วครู่ นางก็มีสีหน้าประหลาดใจอย่างยิ่ง!เมื่ออ่านสาส์นจบ นางก็ร้อนรนใจราวกับมดในกระทะร้อน เมื่อเห็นดังนั้น ชิวก่วนก็รีบเอ่ยถาม “ท่านแม่ทัพใหญ่ องค์รัชทายาททรงมีพระราชสาส์นมาว่ากระไรหรือขอรับ?”“พระองค์...”ฉงชูโม่กำลังจะเอ่ยปาก ทว่าเมื่อนึกถึงความสำคัญของเรื่องนี้ นางจึงกล้ำกลืนคำกล่าวที่ริมฝีปากกลับลงไปนางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ กล่าวว่า “องค์รัชทายา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 636

    มู่หรงจื่อเยียนขมวดคิ้วเรียวงามเล็กน้อย และถามกลับ “วรยุทธ์ของฉินซูเป็นเช่นไร ท่านกลับมิรู้หรือ?”ฉงชูโม่สั่นศีรษะเล็กน้อย “ข้าเพียงแต่สงสัยว่าเขาลอบฝึกวรยุทธ์อยู่ลับ ๆ แต่วรยุทธ์ที่แท้จริงของเขานั้นเป็นเช่นไรข้าก็มิอาจทราบได้จริง ๆ แต่เมื่อฟังจากคำพูดของเจ้า ดูท่าเจ้าจะรู้เรื่องราวอยู่มิใช่น้อย ช่วยเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่?”“ข้ารู้เพียงแต่ว่าฉินซูสามารถใช้ฝ่ามือเพียงข้างเดียวสังหารคนให้แหลกเหลวเป็นจุณได้ วรยุทธ์จะแข็งแกร่งถึงเพียงใด ท่านก็ลองคิดเอาเองเถิด”“เจ้าว่ากระไรนะ? ฝ่ามือเดียวสังหารคนให้แหลกเหลวเป็นจุณ?” ฉงชูโม่ตกตะลึงจนตาค้าง แม้แต่ยังสงสัยว่าตนเองหูฝาดไปหรือไม่“ถูกต้อง หนานกงจื่อชินและเหล่าผู้อาวุโสแห่งหอดารารักษ์ ล้วนแล้วแต่ต้องมาสิ้นชีพด้วยน้ำมือของฉินซู อีกทั้งเขายังหลบหนีจากการไล่ล่าของเจ้าสำนักหอดารารักษ์มาได้สำเร็จ”“ฮึก!!!”ฉงชูโม่อดมิได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นเยียบเข้าไปเต็มปอดวรยุทธ์ของหนานกงจื่อชินมิอาจเทียบเคียงได้ แม้แต่วรยุทธ์ของผู้อาวุโสแห่งหอดารารักษ์ นางก็ยังมิได้ล่วงรู้มากนักแต่วรยุทธ์ของเจ้าสำนักหอดารารักษ์นั้น เทียบเคียงได้กับหัวหน้าโหรหลวงภายใต้ก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 637

    “ข้าเองก็หวังให้เป็นเช่นนั้น อย่างน้อยข้าก็ยังมีโอกาสที่จะได้เป็นฮองเฮา”ฉงชูโม่นึกปลาบปลื้มใจ ความรู้สึกหดหู่ใจก่อนหน้านี้พลันมลายหายสิ้นไปมิน้อยนางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย มองมู่หรงจื่อเยียนอย่างเย่อหยิ่ง “หึ เจ้าเป็นเพียงท่านหญิงต่างแคว้น จะเป็นฮองเฮาแห่งต้าเหยียนได้อย่างไร เจ้าได้รับความรักความเมตตาจากฉินซู ก็ควรจะพอใจได้แล้ว”“เช่นนั้นในวันหน้าหากท่านได้เป็นฮองเฮา ท่านต้องเมตตาดูแลข้ามาก ๆ ข้ามิอยากจะถูกสตรีคนอื่น ๆ ของฉินซูข่มเหงรังแก”ฉงชูโม่ตบหน้าอก กล่าวอย่างองอาจ “ตราบใดที่เจ้ามิคิดเป็นศัตรูกับข้า ในภายภาคหน้าข้าจะคุ้มครองเจ้าเอง!”“ฮิ ๆ เช่นนั้นข้าก็ต้องขอขอบคุณพี่หญิงชูโม่ล่วงหน้าแล้วเจ้าค่ะ”มู่หรงจื่อเยียนยิ้มหวาน คารวะฉงชูโม่เล็กน้อยฉงชูโม่กระแอมไอสองครั้ง ทำสีหน้าให้สงบลง กล่าวว่า “เรื่องพวกนี้ยังมิเกิดขึ้น อย่าเพิ่งกล่าวถึงมันเลย หวังเพียงเขาจะกลับมาในเร็ววัน อย่าให้ข้าต้องพะว้าพะวังเป็นห่วงเขาทุกเมื่อเชื่อวันเลย”“วางใจเถิด วรยุทธ์ของฉินซูแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น มิว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคใด เขาก็จะต้องเอาตัวรอดมาได้อย่างปลอดภัยแน่นอน”“หวังให้เป็นเช่นนั้นเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 638

    “ระเบิดสายฟ้า!!”เมื่อเห็นลูกกลม ๆ ที่ฉินซูหยิบออกมา ตงฟางไป๋ก็อุทานออกมาด้วยความตกใจเดิมทีเขาคิดว่า ระเบิดสายฟ้าชนิดนี้ฉินซูคงใช้จนหมดแล้วฉินซูหัวเราะในลำคอ “ไปเถิด ทำการลับ ๆ หน่อย ขู่ขวัญให้พวกเติ้งหม่างตกใจกลัวไปซะ!”“น้อมรับบัญชา!”ตงฟางไป๋และตงฟางโซ่วรับระเบิดสายฟ้ามา ก่อนจะหันหลังเดินจากไปพวกเขาทั้งสองจากไปได้มินาน โจวฉางก็เดินเข้ามาเขาก้าวเข้าไปคำนับฉินซูอย่างนอบน้อม “ท่านผู้อาวุโสตงฟาง ท่านแม่ทัพใหญ่มีเรื่องจะเรียนเชิญท่านไปพบขอรับ”“อืม!”ฉินซูขานรับคำ ก่อนจะติดตามโจวฉางไปยังกระโจมทหารของเติ้งหม่างภายในกระโจมทหาร หูก่วงเซิงก็ยังคงอยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน เขายังให้เกียรติฉินซูด้วยการคารวะคำนับเล็กน้อยฉินซูมิได้ชายตามองเขาแม้แต่ผาดเดียว หากแต่หันไปเอ่ยถามเติ้งหม่าง “ท่านแม่ทัพเติ้งเชิญข้ามาพบมีธุระอันใดหรือ?”เติ้งหม่างกล่าวอย่างนอบน้อม “เป็นดังที่ท่านผู้อาวุโสกล่าวไม่มีผิด ข้าน้อยมีเรื่องบางประการใคร่ขอคำชี้แนะจากท่าน”ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย เป็นสัญญาณให้เขาว่าต่อไป“เรื่องราวเป็นเช่นนี้ เมื่อครู่พวกเรานับพลทหารแต่ละกอง แม้เมื่อคืนจะประสบกับความพ่ายแพ้ยับเยิน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 639

    “ต่อให้กองทัพต้าเหยียนจะจงใจแสร้งทำทีเพื่อขู่ขวัญพวกเรา ท่านสามารถต้านทานระเบิดสายฟ้าและธนูทดกำลังได้หรือไม่เล่า? หากมิอาจทำได้ การยกทัพกลับในยามนี้ อีกทั้งการทูลรายงานเรื่องราวนี้ต่อจักรพรรดิแห่งหนานเยวี่ยของท่านย่อมเป็นหนทางที่ดีที่สุดหากยังคงดึงดันอยู่ที่นี่ต่อแล้วต้องเผชิญหน้ากับการซุ่มโจมตีของกองทัพต้าเหยียนอีกครา เกรงว่ากำลังพลนับแสนในมือของท่านจะต้องสูญเสียไปอีกมิใช่น้อย ถึงเวลานั้นท่านจะชี้แจงต่อจักรพรรดิของท่านอย่างไร?”ในที่สุดเติ้งหม่างก็พยักหน้าตามการโน้มน้าวอย่างมีหลักการของฉินซู“ท่านผู้อาวุโสช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล หลังจากกลับถึงราชสำนัก ข้าจะทูลขอให้แต่งตั้งท่านผู้อาวุโสเป็นกุนซือให้จงได้ ถึงเวลานั้นเราทั้งสองจะร่วมมือกัน บดขยี้กองทัพต้าเหยียนให้สิ้นซาก และความแค้นอันใหญ่หลวงของท่านผู้อาวุโสก็จะได้รับการสะสางเสียที”ในใจฉินซูพลันปลาบปลื้มใจ ทว่าสีหน้าภายนอกกลับสงบนิ่งราวกับผิวน้ำในทะเลสาบ“ตราบใดที่ล้างแค้นได้ การเป็นกุนซือให้พวกท่านก็มิใช่เรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรง”เติ้งหม่างปลาบปลื้มยินดีเป็นอย่างยิ่ง “ดีเหลือเกินที่ท่านผู้อาวุโสตอบรับเช่นนั้น ขอท่านโปรดวางใจ ฝ

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 670

    “องค์รัชทายาท ทางนั้นมีกระไรผิดปกติหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ชิวก่วนเห็นฉินซูขมวดคิ้วมองไปยังฝูงชนฝั่งซ้ายก็เอ่ยถามขึ้นฉินซูยิ้มบาง ๆ “ไม่มีกระไร ออกเดินทางเถิด”เขาควบม้าเดินนำหน้าไปช้า ๆเมื่อครู่เขารับรู้ถึงกลิ่นอายสังหารเฉียบคมมาจากฝูงชน ทว่ามิได้ใส่ใจกระไรมากนักด้วยวรยุทธ์ในปัจจุบันของเขา ตราบใดที่มิใช่ยอดฝีมือระดับเดียวกับเจ้าสำนักหอดารารักษ์ เขาก็มั่นใจว่าจะรับมือได้เมื่อนึกถึงเจ้าสำนักหอดารารักษ์ ฉินซูก็รู้สึกเหนื่อยใจเล็กน้อย เพราะอีกมินานเขาก็ต้องเดินทางไปเป่ยเยี่ยนตามสัญญาแล้วเขาอดมิได้ที่จะพึมพำในใจ “มิรู้ว่าไปถึงหอดารารักษ์แล้ว นางปีศาจซ่างกวนอวิ๋นซีจะถลกหนังข้าหรือไม่ เฮ้อ หวังว่าก่อนเดินทางหัวหน้าโหรหลวงจะให้ของกำนัลที่มิคาดฝันแก่ข้าบ้าง”ฉินซูแทบจะมั่นใจได้ว่า วรยุทธ์ของเหลยเจิ้นนั้นมิได้ด้อยกว่าซ่างกวนอวิ๋นซีเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงฝากความหวังไว้กับหัวหน้าโหรหลวงเป็นส่วนใหญ่ หวังว่าอีกฝ่ายจะให้ของวิเศษไว้ป้องกันตัวบ้างจากนั้นเขาก็นึกถึงกู้เสวี่ยเจี้ยน และหวนถึงช่วงเวลาที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยกันในถ้ำอย่างสงบและไร้กังวลในเวลาเดียวกันท่ามกลางฝูงชน จ้าวอวี้เสวียนเอ่ยลอ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 669

    ฉินซูเรียกแม่ทัพนายกองทัพหลักมา สั่งการเรื่องต่าง ๆ ที่จะตามมาให้พวกเขาเรียบร้อยแล้ว จึงหันไปสั่งชิวก่วนว่า “จงไปจัดสรรเงินจากคลังหลวงมาหนึ่งล้านตำลึง และเสบียงอาหารหนึ่งหมื่นต้าน เพื่อเป็นรางวัลแก่ทหารทั้งสามทัพ ส่วนที่เหลือทั้งหมดให้บรรจุหีบขนกลับหลงเฉิง!”“ข้าน้อยรับพระบัญชา!”แม่ทัพนายกองที่เหลือต่างก็ดีใจจนเนื้อเต้น คุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วกล่าวพร้อมกันว่า “ข้าน้อยขอขอบพระทัยองค์รัชทายาท!”เที่ยงวันนั้น ฉินซูก็พาชิวก่วนและทหารชั้นยอดห้าพันนายขนเงินและสิ่งของอื่น ๆ จากคลังหลวงแคว้นหนานเยวี่ยออกจากพระราชสถาน และเตรียมตัวเดินทางกลับต้าเหยียนทว่าเพิ่งออกมาจากพระราชสถาน ฉินซูก็พบว่าข้างนอกเต็มไปด้วยราษฎรแคว้นหนานเยวี่ยเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินซูก็อดมิได้ที่จะขมวดคิ้ว นึกว่าราษฎรเหล่านั้นจะมาขว้างปาไข่เน่าใส่ตนแต่กลับพบว่า ทันทีที่เขาก้าวออกมา ราษฎรเหล่านั้นก็พากันคุกเข่าลงฉินซูชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามหลิวผู่ว่า “เกิดกระไรขึ้นกับพวกเขา?”หลิวผู่ตอบด้วยความเคารพ “องค์รัชทายาท พระองค์ทรงมีพระบัญชาให้ยกเว้นภาษีและการเกณฑ์แรงงานในแคว้นหนานเยวี่ยเป็นเวลาสามปี ราษฎรเหล่านี้จึงตั้งใ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 668

    เพียงใช้กลอุบายเล็กน้อยก็ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยได้สำเร็จ เพียงยกมือขึ้นก็สามารถตบยอดฝีมือระดับปฐพีให้กลายเป็นหมอกเลือดได้หากองค์รัชทายาทเช่นนี้มิได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป สวรรค์ก็ไร้แววอย่างแท้จริงในเวลานี้ ชิวก่วนมีแต่ความคิดที่จะติดตามรับใช้ฉินซูเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วเขาก็ไม่มีความต้องการอื่นใดอีกฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้ามิได้ออกรบอยู่บ่อย ๆ มิจำเป็นต้องให้เจ้ามาคอยรับใช้ใกล้ชิด ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดี ราชสำนักต้าเหยียนของข้าจะมิทำให้เจ้าผิดหวังแน่นอน”เมื่อชิวก่วนเห็นฉินซูปฏิเสธ ในใจก็อดมิได้ที่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่เมื่อคิดอีกที ในภายภาคหน้าราชสำนักต้าเหยียนก็คงต้องฟังคำสั่งของฉินซูอยู่ดีมิใช่หรือ?นั่นหมายความว่า ตราบใดที่ตนตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ จักรพรรดิองค์ต่อไปนี้ก็จะมิทำให้ตนต้องลำบากเมื่อคิดได้ดังนั้น ชิวก่วนก็เผยสีหน้ายินดีปรีดาในทันทีพร้อมพยักหน้ารัว “องค์รัชทายาทโปรดวางพระทัย ข้าน้อยจะทุ่มเทสุดกำลังจนกว่าชีวิตจะหาไม่พ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูมองชิวก่วนด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็มิได้พูดสิ่งใดอีกเขามองไปรอบ ๆ แล้วสั่งการ “ทำความสะอาดเสียหน่อยเถิด ข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 667

    ตบฝ่ามือทีเดียวก็ทำให้คนกลายเป็นหมอกเลือด แม้แต่ยอดฝีมือระดับสวรรค์ก็ทำมิได้ แต่ฉินซูกลับทำได้อย่างง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ หากมิใช่ผีแล้วจะเป็นกระไรไปได้เล่า?จอมยุทธ์หลายคนใช้วิชาตัวเบา พยายามเหาะข้ามหลังคาเพื่อหนีเอาตัวรอดทว่าร่างของพวกเขาเพิ่งจะทะยานขึ้นไปในอากาศ กระแสพลังฝ่ามืออันน่าสะพรึงกลัวจนขนลุกก็พุ่งเข้ามาพวกเขายังมิทันได้ร้องขอชีวิต ก็ถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดไปเสียแล้วดังนั้นการต่อสู้ที่ดูเหมือนจะเป็นการล้อมโจมตี กลับกลายเป็นการสังหารหมู่แต่เพียงฝ่ายเดียว!ในเวลานี้ ผู้ที่ตายด้วยน้ำมือของฉินซูมีจำนวนมากถึงยี่สิบสามสิบคนซึ่งในจำนวนนั้นยังมียอดฝีมือระดับปฐพีอยู่มิน้อย“องค์รัชทายาท ข้าน้อยผิดไปแล้ว ขอร้อง ได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วย!”ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเห็นฝ่ามือของฉินซูกำลังพุ่งตรงมา ก็ตกใจจนรีบคุกเข่าลงร้องขอชีวิตฉินซูเก็บมือกลับจริง แล้วหันไปตบอีกคนที่หมายจะหนีจนตายตกไปหลายคนสังเกตเห็นภาพนั้น เมื่อเห็นว่าหนีไปก็ไร้หวัง พวกเขาจึงพากันเลียนแบบชายวัยกลางคน คุกเข่าลงร้องขอชีวิต“องค์รัชทายาท พวกข้าน้อยยอมแล้ว พวกข้าน้อยยอมแพ้แต่โดยดีแล้ว ขอพระองค์โปรดไว้ชีวิตพ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 666

    เมื่อเห็นการโจมตีที่ทรงพลัง เหล่าชาวยุทธภพหนานเยวี่ยก็อุทานด้วยความทึ่ง“สมแล้วที่เป็นเจ้าสำนักดาบพิฆาต วิชาดาบช่างทรงพลังยิ่งนัก!”“นึกมิถึงเลยว่า เพียงขั้นกลางระดับปฐพี กลับสามารถระเบิดพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงเช่นนี้ออกมาได้ วิชาดาบพิฆาตสมชื่อจริง ๆ”“กระบวนท่าของเขา แม้แต่ยอดฝีมือระดับสวรรค์ก็คงมิกล้ารับดาบโดยตรงกระมัง?”“รัชทายาทผู้รอวันปลดนี่ต้องตายแน่ พวกเราคงมาเสียเที่ยวแล้ว”“...”ท่ามกลางเสียงอุทานของฝูงชน ฉินซูกลับเดินทอดน่องสบายอารมณ์ และตบฝ่ามือออกไปช้า ๆเมื่อเห็นภาพนั้น บางคนก็หัวเราะเยาะขึ้นมาทันที“รัชทายาทผู้รอวันปลดนี่คิดจะรับดาบด้วยมือเปล่ารึ? ช่างมิรู้ประสีประสาจริง ๆ!”“รนหาที่ตายก็ดีแล้ว อย่างน้อยความแค้นของแคว้นหนานเยวี่ยของพวกเราจะได้ถูกชำระล้าง”คนอื่น ๆ กำลังจะเอ่ยปากถมถุยตาม ทว่าบัดนั้นเอง...'ปุ้ง!'หลังจากสิ้นเสียงแผ่วเบา ร่างกำยำของเจ้าสำนักดาบพิฆาตก็ระเบิดออกเป็นหมอกเลือด!ทุกคนตกตะลึงกับภาพอันน่าเหลือเชื่อนี้ ต่างยืนงงงันอยู่กับที่ราวกับถูกสาปให้กลายเป็นหินรวมถึงชิวก่วนและพรรคพวกด้วยเช่นกัน!ตบฝ่ามือเดียวทำให้จอมยุทธ์ระดับปฐพีขั้นกลางกลา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 665

    แต่ในวินาทีต่อมา รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็แข็งค้างในทันที ร่างกายสั่นสะท้านก่อนจะหงายหลังล้มตึง!แม้แต่ถานซินหลานที่อยู่ข้าง ๆ ก็มิรอด พลันล้มลงจมกองเลือดด้วยสีหน้าคับแค้นใจร่างของศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองเต็มไปด้วยรอยเข็มเล็ก ๆ นับมิถ้วนเลือดสีดำสนิทราวกับหมึกค่อย ๆ ไหลซึมออกมาจากบาดแผลเล็กจิ๋วเหล่านั้นทั้งสองสงสัยจนถึงลมหายใจเฮือกสุดท้ายว่า ฉินซูมิได้ขยับนิ้วแม้แต่น้อย เหตุใดเข็มพิษเหล่านั้นถึงพุ่งกลับมาเองโดยไร้สาเหตุเมื่อเดินออกจากตรอก เสียงฝีเท้าอึกทึกก็ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ พร้อมกับเสียงกีบม้าบาดหู“ใครมาทะเลาะวิวาทกันแถวนี่?”กลุ่มทหารก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าฉินซูพร้อมกับเสียงตวาดดังลั่นคนที่อยู่บนหลังม้าสวมชุดเกราะพร้อมถือหอกยาว ชิวก่วนนั่นเอง!เมื่อเขาเห็นฉินซูก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบลงจากม้าเพื่อทำความเคารพ“คารวะองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูโบกมือ กล่าว “พวกเจ้ามาได้อย่างไร?”“ข้าน้อยลาดตระเวนยามวิกาลอยู่ทางฝั่งใต้ของเมือง และได้ยินเสียงเคลื่อนไหวทางนี้จึงนำคนมาพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท ข้างนอกอันตราย พระองค์เสด็จกลับเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“คนอื่น ๆ อุตส่าห์เดินทางมา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 664

    ฉินซูสะบัดแขน ภาพเหตุการณ์พลันหยุดนิ่ง!เห็นเพียงปลายกระบี่ของมือกระบี่ชุดดำถูกสกัดไว้ด้วยนิ้วชี้ของฉินซู!ปราณแห่งกระบี่รุนแรงที่แผ่ซ่านไปทั่วเมื่อครู่นั้นได้พลันอันตรธานหายไปในบัดดลมือกระบี่ชุดดำเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดผวาในฐานะมือกระบี่ระดับปฐพีขั้นต้น เขาไร้คู่ต่อสู้ในหนานเยวี่ย ทว่าการโจมตีเต็มกำลังในครั้งนี้ กลับถูกอีกฝ่ายปัดป้องได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังใช้นิ้วเพียงนิ้วเดียวสกัดกระบี่ที่ทำจากเหล็กกล้าได้หากมิได้เห็นกับตา ใครเล่าจะเชื่อว่าภาพเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเรื่องจริง?“เจ้า อ่อนแอเกินไป!”น้ำเสียงเหยียดหยามของฉินซูดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียง 'กร๊อบ กร๊อบ' ดังขึ้นสองครา กระบี่ยาวในมือมือกระบี่ชุดดำพลันหักเป็นท่อน ๆมือกระบี่ชุดดำได้สติกลับมาในทันทีพร้อมหมายจะถอยหนี ทว่าบัดนี้กลับรู้สึกถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ทะลวงออกมาจากกระบี่ที่หักนั้น“แย่แล้ว!”รูม่านตาของเขาหดเล็กลงในทันใด ในใจร้องเตือนลางร้ายแต่เขายังมิทันได้ตอบสนองอะไร ร่างทั้งร่างก็ถูกพละกำลังมหาศาลอัดกระแทกจนกระเด็นออกไปส่วนแขนข้างที่เขากำกระบี่ไว้ก็กลายเป็นหมอกโลหิตไปแล้ว'โค

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 663

    ในเวลานี้ ฉินซูกำลังยืนไพล่หลังอยู่บนกำแพงเมืองพระราชวัง มองไปยังแสงไฟนับหมื่นดวงภายในเมืองถัวเฉิง!บัดนี้เขายึดครองแคว้นหนานเยวี่ยได้สำเร็จอย่างราบรื่น ทำให้เขารู้สึกราวกับเป็นราชันแห่งใต้หล้าในขณะนั้นเอง เขาสังเกตเห็นที่ประตูเมืองเบื้องล่าง กลุ่มทหารกำลังคุมตัวชายหลายคนเดินกลับมาเขาถามด้วยความสงสัย “ชิวก่วน พวกนั้นเป็นใคร?”ชิวก่วนตอบด้วยความหนักใจเล็กน้อย “ทูลองค์รัชทายาท ว่ากันว่าพวกนั้นเป็นชาวยุทธภพหนานเยวี่ย พวกเขาได้ยินว่าจ้าวควงตายด้วยน้ำมือของพระองค์ จึงมาที่ยังถัวเฉิงเพื่อลอบปลงพระชนม์แก้แค้นให้แก่ราชวงศ์จ้าวพ่ะย่ะค่ะยามนี้มิทราบแน่ชัดว่าในถัวเฉิงมีผู้ที่มีเจตนาร้ายซุ่มซ่อนตัวรอโอกาสลงมือมากน้อยเพียงใดฉะนั้นขอองค์รัชทายาทโปรดอย่าได้เสด็จออกไปข้างนอกในยามวิกาลเป็นอันขาดพ่ะย่ะค่ะ พระราชวังมีกำแพงสูงคูเมืองลึก อีกทั้งยังมีทหารรักษาการณ์แน่นหนา พวกชาวยุทธภพเหล่านั้นไม่มีทางบุกเข้ามาได้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินซูก็หัวเราะอย่างสนใจ “ในเมื่อชาวยุทธภพหนานเยวี่ยอยากจะสังหารข้า เช่นนั้นข้าก็จะให้โอกาสพวกเขาสักครา!”ชิวก่วนชะงักไป แล้วรีบห้ามปราม “เช่นนั้นมิคว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 662

    “ท่านอาจารย์ องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน ฉินซู นำทัพบุกยึดถัวเฉิง เสด็จและเชื้อพระวงศ์ทั้งหมดถูกสังหารด้วยน้ำมือของเขา ทหารรักษาการณ์ในแคว้นก็ยอมจำนนหมดแล้ว บัดนี้ศิษย์เหลือตัวคนเดียว ไร้ซึ่งกำลังและพวกพ้อง ขอท่านอาจารย์โปรดออกหน้าช่วยศิษย์ล้างแค้นให้วงศ์ตระกูลด้วยเถิดเจ้าค่ะ!”จ้าวอวี้เสวียนคุกเข่าลงกับพื้น กล่าวจบก็ร่ำไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเศร้าโศกเมื่อได้ยินเช่นนั้น ซู่เสวียนก็ขมวดคิ้วพลางมองจ้าวอวี้เสวียนด้วยความมิพอใจเล็กน้อย“อวี้เสวียน ในเมื่อเจ้าได้เข้าสู่วิถีแห่งสำนักแล้วก็ควรตัดขาดจากตัณหา มุ่งมั่นบำเพ็ญเพียรเพียงอย่างเดียว เจ้าลืมคำสั่งสอนของอาจารย์ก่อนหน้านี้สิ้นแล้วหรือ?”จ้าวอวี้เสวียนกล่าวทั้งน้ำตา “ท่านอาจารย์ คำพูดของท่าน ศิษย์จดจำไว้ในใจเสมอ เพียงแต่ญาติสนิททั้งตระกูลถูกสังหารอย่างอนาถ ความแค้นใหญ่หลวงเช่นนี้หากมิได้ชำระ เกรงว่าภายหน้าต่อไปจะกินมิได้นอนมิหลับ ไหนเลยจะมีจิตตั้งมั่นบำเพ็ญเพียรบรรลุเซียนได้”“เจ้า… เฮ้อ!”ซู่เสวียนถอนหายใจยาว และหันหลังกลับไปด้วยความผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเห็นเช่นนั้น จ้าวอวี้เสวียนก็อ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ท่านอาจารย์ โปรดช่วยศิษย์ด้ว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status