แชร์

บทที่ 584

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
“สำเร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท สำเร็จแล้ว!”

เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีของสวี่จิ้นดังมาถึงห้องรับรองกรมโยธาธิการก่อนที่ตัวเขาจะเดินออกมาเสียอีก

ทุกคนรับรู้ได้ถึงความตื่นเต้นของเขาจากเสียงนั้น

หวังฉือและคนอื่น ๆ ลุกขึ้นยืนทันที และต่างหันขวับไปมองที่ประตู!

ขณะที่พวกเขากำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ สวี่จิ้นก็เดินเข้ามาในที่สุด

ในมือเขาถือธนูรูปทรงแปลกตาอยู่หนึ่งคัน

นั่นคือธนูทดกำลังที่ฉินซูเป็นผู้ 'ออกแบบ' !

เมื่อเห็นธนูคันนี้ สีหน้าของฉินซูก็พลันฉายแววประหลาดใจอย่างอดมิได้

เขาคิดมิถึงว่ากรมโยธาธิการจะว่องไวถึงเพียงนี้ มิถึงสามชั่วยามก็สร้างธนูคันนี้เสร็จแล้ว

สวี่จิ้นเดินเข้ามาและประคองส่งธนูให้กับฉินซู

ฉินซูรับมาตรวจสอบอย่างละเอียด

ทุกส่วนไม่มีปัญหาใด ๆ ความยืดหยุ่นของสายธนูก็เป็นไปตามที่คาดหวัง!

เขาจึงเอ่ยชมเชยว่า “ใต้เท้าสวี่ กรมโยธาธิการของท่านช่างมากฝีมือยิ่งนัก สามารถสร้างธนูคันนี้เสร็จได้ในเวลาอันสั้น”

สวี่จิ้นกล่าวด้วยความถ่อมตนว่า “องค์รัชทายาทกล่าวชมเกินไปพ่ะย่ะค่ะ กรมโยธาธิการของเรามีช่างฝีมือประสบการณ์เฟื่องฟูที่สุดในใต้หล้า และยังมีจำนวนมิน้อยทีเดียว ขอทูลตามตรงมิป
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 585

    เขาชะโงกหน้ามอง ทันใดนั้นก็ต้องตกตะลึงตาค้าง!เนี่ยหงรีบถามว่า “ใต้เท้าสวี่ ท่านทำหน้าแบบนั้น ลูกธนูขององค์รัชทายาทมิพลาดเป้าใช่หรือไม่?”“เอ่อ… พวก… พวกท่านลองมาดูเองดีกว่า”เสียงของสวี่จิ้นสั่นเครือ ใบหน้าฉายแววซับซ้อนเมื่อเห็นเช่นนั้น เนี่ยหง เหวินเยวี่ยนซาน และคนอื่น ๆ ก็เดินเข้าไปดูเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า พวกเขาทั้งหมดก็นิ่งอึ้งอยู่กับที่!ปรากฏว่าลูกธนูมิเพียงแต่ยิงถูกหุ่นไล่กาเท่านั้น แต่ยังทะลุลำต้นของต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังหุ่นไล่กาไปอีกด้วย!หัวลูกธนูแหลมคมทะลุออกมาจากด้านหลังของลำต้น!ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณเท่าปากชามทีเดียว!เวลาผ่านไปนานพอสมควร เหวินเยวี่ยนซานจึงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “คุณพระคุณเจ้า นี่มัน... มันทรงพลังเกินไปแล้ว!”“นั่นสิ จากจุดที่องค์รัชทายาทประทับอยู่ห่างออกไปประมาณห้าสิบก้าว ยังยิงทะลุลำต้นได้ขนาดนี้ หากยิงโดนคนละก็ ต้องทะลุร่างกายเป็นรูโหว่แน่”“หากระยะห้าสิบก้าวสามารถทะลุลำต้นได้ ระยะร้อยก้าวก็น่าจะฝังลึกเข้าไปในลำต้นได้กระมัง?”“องค์รัชทายาท พระองค์ลองถอยหลังไปอีกสักสิบก้าวได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูยักไหล่ “พวกท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 586

    หวังฉือและเนี่ยหงตื่นเต้นมาก พวกเขามองฉินซูด้วยสายตาราวกับมองเทพเจ้า!ตอนนี้ธนูที่ใช้การในสนามรบมีระยะยิงไกลสุดเพียงสามสิบก้าว แต่ธนูทดกำลังที่ฉินซูออกแบบมามีระยะยิงที่น่าทึ่งมากหากสามารถผลิตธนูชนิดนี้ไปใช้ในสนามรบได้เป็นจำนวนมาก ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในสนามรบได้อย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น หากกองทหารรักษาการณ์ชายแดนทางใต้สามารถใช้ธนูทดกำลังนี้ขับไล่พวกนอกด่านแคว้นหนานเยวี่ยได้ ฉินซูก็จะเป็นคนแรกที่ได้รับเกียรติยศแน่นอน!เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หวังฉือจึงรีบถามสวี่จิ้นว่า “ใต้เท้าสวี่ กรมโยธาธิการของท่านสามารถผลิตธนูทดกำลังได้หนึ่งหมื่นคันภายในระยะเวลาเท่าไร?”สวี่จิ้นมุมปากกระตุกเล็กน้อย “ใต้เท้าหวังอย่าล้อเล่นหน่อยเลย การจะผลิตธนูทดกำลังหนึ่งหมื่นคัน ท่านรู้หรือไม่ว่าต้องใช้วัสดุมากมายเพียงใด?”“กรมโยธาธิการของท่านจะขาดแคลนวัสดุได้อย่างไร?”“เฮ้อ สายธนูนี้ต้องถักทอด้วยวัสดุที่เหนียวมาก มิฉะนั้น ยิงไปมิกี่ครั้ง สายธนูก็ขาดแล้ว”“นั่นหมายความว่า ปัญหาหลักอยู่ที่การผลิตสายธนูใช่หรือไม่?”สวี่จิ้นพยักหน้า “ถูกต้องแล้ว หากแก้ปัญหาเรื่องวัสดุสำหรับทำสายธนูได้ กรมโยธาธิการของเราสา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 587

    สวี่จิ้นอธิบายว่า "องค์รัชทายาท เครื่องยิงธนูนี้ทรงพลังมาก สามารถยิงได้ไกลถึงร้อยกว่าจั้งทีเดียว ถือเป็นอาวุธสังหารที่ทรงพลังที่สุดในสนามรบเลยก็ว่าได้พ่ะย่ะค่ะ""เครื่องยิงธนูเช่นนี้คนเดียวจะใช้งานมิได้ใช่หรือไม่""ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ เครื่องยิงธนูนี้ต้องใช้คนหลายคนในการหมุนรอกเพื่อยิง เครื่องยิงธนูเครื่องหนึ่งจะต้องใช้คนประมาณสิบคนพ่ะย่ะค่ะ"ฉินซูเอื้อมมือไปสัมผัสสายธนูเส้นหนาของเครื่องยิงธนูแล้วถามว่า "สายธนูของเครื่องยิงธนูหนึ่งเครื่อง สามารถนำไปทำเป็นสายธนูทดกำลังได้กี่คัน?"สวี่จิ้นถึงกับตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับ "สายธนูของเครื่องยิงธนูค่อนข้างยาว หากจะนำไปทำเป็นสายธนูของธนูทดกำลัง คาดว่าน่าจะทำได้ประมาณหนึ่งร้อยคันพ่ะย่ะค่ะ""เช่นนั้นก็หมายความว่า หากเราถอดสายธนูของเครื่องยิงธนูทั้งห้าเครื่องออก ก็สามารถผลิตธนูทดกำลังได้เพิ่มอีกห้าร้อยคันใช่หรือไม่""จะว่าเช่นนั้นก็มิผิดพ่ะย่ะค่ะ แต่เครื่องยิงธนูเหล่านี้เป็นอาวุธสำคัญที่ใช้ข่มขวัญศัตรู หากจะถอดสายธนูออก..."เขายังมิทันพูดจบ ฉินซูก็ขัดจังหวะ "การยิงเครื่องยิงธนูแต่ละครั้งต้องใช้เวลามิใช่น้อย ๆ และยังต้องใช้กำลังคนจำนวน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 588

    ห้องทรงพระอักษรฉินอู๋ต้าวกำลังพิจารณาธนูทดกำลังในมือของเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจเขาเลิกคิ้วถาม "ขุนนางสวี่ ธนูทดกำลังนี้มีพลังมากอย่างที่เจ้าว่าจริงหรือ?""ทูลฝ่าบาท เป็นความจริงแท้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยได้ทดลองยิงด้วยตนเองหลายครั้ง ด้วยพละกำลังแขนของข้าน้อย ยังยิงสังหารศัตรูได้ไกลถึงแปดสิบจั้งพ่ะย่ะค่ะ!""แปดสิบจั้ง?!"ฉินอู๋ต้าวยังมิเชื่อ "ขุนนางสวี่ เจ้าล้อเล่นใช่หรือไม่ ธนูที่ทหารใช้กันทั่วไป ยังยิงได้ไกลสุดแค่ห้าสิบจั้งเท่านั้นตัวข้ายอมรับว่า ธนูทดกำลังนี้รูปร่างดูแปลกตาดูก็รู้ว่ามิใช่ของธรรมดา แต่ด้วยพละกำลังแขนของเจ้ายังยิงได้ถึงแปดสิบจั้งหากทหารนำไปใช้ มิยิงไปไกลถึงร้อยจั้งเลยรึ? เป็นไปมิได้"สวี่จิ้นรู้สึกอับจนหันทาง จึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม "หากฝ่าบาทมิทรงเชื่อ ก็ลองทดลองยิงด้วยพระองค์สักคราเถิดพ่ะย่ะค่ะ""ก็ได้ เฉาฉุน ไปหยิบลูกธนูมาสองสามดอก แล้วตามข้าไปที่สวนหลังวัง""พ่ะย่ะค่ะ!"เฉาฉุนรับคำแล้วรีบไปหยิบลูกธนูมาสองสามดอกเมื่อพวกเขามาถึงสวนหลังวังฉินอู๋ต้าวหยิบลูกธนูมาหนึ่งดอกมาขึ้นสายกับธนูทดกำลังเขาใช้แรงดึงเพียงเล็กน้อย สายธนูก็ถูกง้างออกแล้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 589

    เฉาฉุนกล่าวยิ้ม ๆ "ยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท มีอาวุธที่ทรงพลังเช่นนี้ การเอาชนะพวกคนนอกด่านคงขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น อีกมินานแคว้นหนานเยวี่ยคงมิกล้ารุกรานต้าเหยียนของเราไปอีกนานแน่พ่ะย่ะค่ะ!""ยังเร็วไปที่จะกล่าวเช่นนั้น ขึ้นอยู่กับว่ากรมโยธาธิการจะผลิตธนูทดกำลังได้มากน้อยเพียงใด!"......โรงเตี๊ยมเทียนเวยมู่หรงฟู่มองชายชราสองคนที่อยู่ตรงหน้า และเอ่ยถามด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “พวกท่านทั้งสอง… เป็นคนของหอดารารักษ์จริง ๆ หรือ? ไฉนข้าจึงมิเคยเห็นหน้าค่าตาของพวกท่านมาก่อน?""ทูลองค์ชาย พวกข้าน้อยเพิ่งเข้าร่วมหอดารารักษ์ได้มินาน และมีสัญลักษณ์หอดารารักษ์เป็นเครื่องพิสูจน์ ขนาดนี้แล้ว ท่านยังมิเชื่ออีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?"คูมู่รู้สึกเบื่อหน่าย หากมิใช่เพราะพระบัญชาของจักรพรรดิ เขาคงมิอยากมาที่โรงเตี๊ยมเทียนเวยแห่งนี้"หึ หากมิใช่เพราะสัญลักษณ์ของหอดารารักษ์ ข้าก็มิเสียเวลามาพบพวกท่านหรอก ว่ามาสิ เจ้าสำนักหอดารารักษ์มาหาข้าด้วยเรื่องใด?""มิใช่ท่านเจ้าสำนัก แต่เป็นพระบิดาของท่านที่ฝากข้าน้อยส่งจดหมายมาให้พ่ะย่ะค่ะ"คูมู่พูดจบก็หยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ"จดหมายของเสด็จพ่อร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 590

    หลายวันต่อมาทั้งในและนอกเมืองหลงเฉิงสงบสุข ไม่มีคดีเด็กสาวหายตัวไปอีกทำให้พวกหวังฉือต่างโล่งใจฉินซูเองก็เดินทางไปยังสำนักหอดูดาวหลวง เพื่อถามไถ่เกี่ยวกับร่างหยินสุดขั้วกับหัวหน้าโหรหลวง จึงได้ทราบว่าเหลยเจิ้นรู้เรื่องนี้น้อยมากเช่นกันด้วยความมืดแปดด้าน ฉินซูจึงกลับไปยังตำหนักบูรพาฝั่งกรมโยธาธิการเองก็เร่งผลิตธนูทดกำลังอย่างขันแข็งจนแทบไม่มีเวลาพักวันหนึ่ง หิมะโปรยปรายลงมาทั่วเมืองหลงเฉิงมินาน พื้นดินก็ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ทำให้ทั้งเมืองดูงดงามราวกับภาพวาดฉินซูกำลังชื่นชมทิวทัศน์อยู่ที่ลานหลังตำหนักบูรพาเขาหันไปทางขอบฟ้าทิศใต้ แล้วเอ่ยพึมพำกับตนเอง"หิมะตกแล้ว มิรู้ว่าสถานการณ์รบที่เมืองเจียวโจวเป็นอย่างไรบ้าง ชูโม่คงมิเป็นกระไรกระมัง"ตงฟางไป๋สาวเท้าก้าวเข้ามา "องค์รัชทายาท ใต้เท้าเหวิน เสนาบดีกรมกลาโหมขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ"ฉินซูหน้าเปลี่ยนสีไปทันที "เชิญเขาไปที่ห้องรับรอง ตัวข้าจะไปเดี๋ยวนี้""พ่ะย่ะค่ะ!"สักครู่ต่อมา ในห้องรับรองของตำหนักบูรพาเหวินเยวี่ยนซานเดินเข้ามาพร้อมกับอากาศเย็นเยียบเขาคารวะฉินซู ก่อนจะกล่าวด้วยความนอบน้อม "คารวะองค์รัชทายาท""ใต้เ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 591

    “นี่คือระเบิดสายฟ้า ใต้เท้าสวี่ กรมโยธาธิการของท่านทำเจ้าสิ่งนี้ได้เร็วใช่หรือไม่?“ทูลองค์รัชทายาท ขอบังอาจถามว่า ส่วนประกอบของระเบิดสายฟ้าคือ...”“ดินปืนและลูกเหล็กขนาดเล็ก หรือจะใช้เศษเหล็กก็ได้”ฉินชูพูดจบก็ดึงเชือกจุดชนวนออก แล้วเทดินปืนภายในลูกกลมออกมาภายในนั้นมีลูกเหล็กขนาดเล็กจำนวนมากปะปนกับเม็ดผลึกสีขาวเล็กน้อยสวี่จิ้นเอามือสัมผัสแล้วดมดู “องค์รัชทายาท เม็ดสีขาวนี้คือสิ่งใดหรือพ่ะย่ะค่ะ??”ฉินซูตอบสั้น ๆ ว่า “น้ำตาลทรายขาว!”"น้ำตาลทรายขาว?"ใต้เท้าสวี่รู้สึกประหลาดใจ เขาเพิ่งจะเคยเห็นน้ำตาลผสมอยู่ในดินปืนเป็นครั้งแรกเหวินเยวี่ยนซานถามต่อว่า “ใต้เท้าสวี่ กรมโยธาธิการคงมีดินปืนเหลือเฟือใช่หรือไม่?”“จะบอกว่าเหลือเฟือคงมิได้ เพราะดินปืนผสมยากเป็นทุนเดิม โรงดอกไม้ไฟยังเหลือดินปืนสำหรับทำดอกไม้ไฟอยู่บ้าง แต่ข้าน้อยมิเข้าใจว่าเหตุใดพระองค์จึงใส่น้ำตาลทรายขาวลงในดินปืนด้วย?”“น้ำตาลจะทำปฏิกิริยากับดินปืน ทำให้แรงระเบิดเพิ่มขึ้น!”เหวินเยวี่ยนซานและสวี่จิ้นมิเข้าใจเรื่องปฏิกิริยา แต่พวกเขาเข้าใจในสิ่งที่ฉินซูพูดการใส่น้ำตาลทรายขาวลงในดินปืนทำให้ระเบิดรุนแรงขึ้น!เ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 592

    ฉินซูพยักหน้า "แม้ว่าอานุภาพจะลดลงไปบ้าง แต่ก็เพียงพอให้นำไปใช้สังหารศัตรูได้"สวี่จิ้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น "เศษเหล็กอะไรพวกนี้มีอยู่มากพอสมควร หากมิพอพวกข้าน้อยสามารถหาซื้อจากร้านตีเหล็กข้างนอกได้ ขอเพียงมีดินปืนเพียงพอ ช่างฝีมือกรมของโรงดอกไม้ไฟในกรมโยธาธิการสามารถเวียนกันทำงานได้จนถึงรุ่งเช้า อย่างน้อยวันหนึ่งก็สามารถทำขึ้นมาได้หลายร้อยถึงหนึ่งพันลูกพ่ะย่ะค่ะ!""เช่นนั้นก็ใช้กระบอกไม้ไผ่ ตัวข้าให้เวลาพวกท่านสองวัน ทำได้เท่าไรเท่านั้น ต้องเร็วและพลังทำลายล้างก็ต้องมิน้อยเกินไป""องค์รัชทายาทโปรดวางพระทัย ข้าน้อยจะมิทำให้พระองค์ผิดหวังพ่ะย่ะค่ะ"เลือดนักสู้ในตัวสวี่จิ้นพลุ่งพล่าน เมื่อได้เห็นพลานุภาพของระเบิดสายฟ้า มันคืออาวุธสังหารแห่งสนามรบ และทรงพลังกว่าธนูทดกำลังหลายเท่าเขารีบจัดแจงให้คนไปตัดไม้ไผ่และซื้อน้ำตาลทรายขาวกับเศษเหล็กส่วนฉินซูบอกอัตราส่วนของน้ำตาลทรายขาวกับดินปืนแก่สวี่จิ้นหนึ่งชั่วยามต่อมาระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่ลูกแรกพร้อมแล้วสวี่จิ้นรีบนำระเบิดสายฟ้าไปให้ฉินซูดูอย่างอดรนทนมิไหว"องค์รัชทายาท ทำสำเร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ ขอพระองค์โปรดทอดพระเนตรด้วยพ่

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 702

    เซวียหมิงมองไปยังทิศทางที่ฉินซูและพรรคพวกจากไปพลางพึมพำกับตัวเอง“คิดมิถึงเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สามารถกลืนกินปราณเลือดอาถรรพ์ได้ จีอันหรือ? ข้าจะจำเจ้าเอาไว้!”“แล้วก็ฉินซู เจ้าคอยข้าก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนอยู่ต่อมิไหว จะตายก็มิได้!”“แค่นี้ก็น่าจะพอให้ข้าใช้แล้ว”เขาพูดพลางมองลูกแก้วสีแดงอมม่วงในมือภายในลูกแก้วนั้นคือปราณเลือดอาถรรพ์จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ของเขาคือต้องการหามหาปุโรหิตแห่งสำนักจันทราโรหิต เพื่อขอยืมปราณเลือดอาถรรพ์มาใช้แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณนี้ ก็เห็นเฉินซีถูกฉงชูโม่ล่อลวงไปแล้ว ส่วนสาวกของสำนักจันทราโรหิตก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เขาจึงฉวยโอกาสจัดการสาวกที่เหลือของสำนักจันทราโรหิต จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำจนได้พบกับแท่นบูชาต่อมาก็ฉวยโอกาสที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมิทันระวังจัดการอีกฝ่ายจนสลบไป และเก็บรวบรวมปราณเลือดอาถรรพ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายจากนั้นเซวียหมิงก็หันหลังเดินออกจากที่นี่ไปเช่นกันขณะที่เขาเดินผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเท้าเหยียบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเมื่อก้มลงมอง ก็พบว่าเป็นขลุ่ยกระดูกสีขาวบริสุทธิ์เขายกมันขึ้นมาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 701

    ในเวลานี้ แสงสีเลือดใต้รอยแตกของผนึกได้หายไปหมดจนแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดจีอันลูบก้นพลางเดินเข้ามาเขาหยิบกระดาษยันต์สีเหลืองสองแผ่นออกมาจากอกเสื้อแล้วแปะลงบนรอยแตกของผนึกนั้นลงไปจากนั้นก็เดินไปข้าง ๆ ยกก้อนหินขนาดใหญ่กว่าวัวทั้งตัวขึ้นมาวางทับกระดาษยันต์ทั้งสองแผ่นนั้นไว้ฉินซูได้แต่มองตาค้าง ก้อนหินนั้นอย่างน้อยก็หนักสักตันสองตันกระมัง แต่จีอันกลับยกมันขึ้นมาได้ด้วยมือเปล่าเขามองด้วยความสงสัยเต็มใบหน้าแล้วถามว่า “จีอัน ตอนนี้เจ้าอยู่ระดับใด?”“ข้าน้อยมิรู้ อาจารย์มิได้บอกข้าน้อย”“มิจริงน่า? ระดับของตัวเจ้าเอง เจ้าจะมิรู้ได้อย่างไร?”จีอันพยักหน้าอย่างซื่อ ๆ แล้วถามกลับว่า “ปราณบริสุทธิ์ภายในของท่านเข้มข้นและประหลาดถึงเพียงนี้ พระองค์เล่าอยู่ระดับใด?”ฉินซูยักไหล่ “ข้าก็มิแน่ใจ”“หึ มิพูดก็ช่าง ท่านแข็งแกร่งเพียงนี้ อาจารย์คงแก่จนเลอะเลือนแล้ว ถึงให้ข้าน้อยลงใต้มาคุ้มครองท่าน”จีอันบ่นพึมพำแล้วย่อเข่าลง จากนั้นร่างก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดุจกระสุนปืนใหญ่ ชั่วพริบตาก็กระโจนขึ้นไปข้างบนฉินซูอดสงสัยมิได้ว่า เจ้านี่น่าจะเลือกเส้นทางสายฝึกกาย มิฉะนั้นจะหนังหนาถึงเพียงนี้ได้อย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 700

    ท่ามกลางสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของฉินซู ร่างของจีอันก็พุ่งลงไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ กระแทกเข้ากับพื้นหุบเหวลึกเบื้องล่าง'ปัง' เสียงดังสนั่น พื้นดินถูกกระแทกจนเกิดหลุมขนาดใหญ่แต่จีอันกลับมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!พลันเห็นเขาปีนขึ้นมาจากหลุมแล้วตบ ๆ ปัดฝุ่นออกจากตัวอย่างมิยี่หระราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเห็นภาพนั้น ฉินซูยกย่องเขาอย่างสุดซึ้ง ถามด้วยความสงสัยว่า “ชูโม่ จีอันผู้นี้หนังหนาไปหน่อยกระมัง? เขาอยู่ระดับใดหรือ?”“หม่อมฉันก็มิแน่ใจ แต่ในบรรดาศิษย์ทั้งเจ็ดคนของหัวหน้าโหรหลวงเขาแข็งแกร่งที่สุดแล้วเพคะ”“เช่นนี้นี่เอง เจ้าอยู่ดูแลตู๋กูโฉ่วเยวี่ยที่นี่ไปนะ ข้าจะลงไปช่วยเขา”ฉินซูพูดจบก็กระโดดลงไปเช่นกันต่างจากจีอัน ฉินซูในยามนี้ราวกับขนนกเบาหวิวที่ลอยลงไปอย่างแผ่วเบาเมื่อมาถึงก้นหุบเหว เขาก็ตกใจเมื่อพบว่าพื้นของแท่นบูชานี้เต็มไปด้วยอักขระเวทสีแดงในยามนี้อักขระเวทเหล่านี้ล้วนเปล่งแสงสีแดงเลือด ทั้งมีเสน่ห์แบบลึกลับและทั้งแปลกประหลาดจีอันมองฉินซูผาดหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านคอยอยู่ตรงนั้น อย่าเข้ามา”พูดจบเขาก็สาวเท้าเข้าไปหาแสงโลหิตนั้นอย่างรวดเร็ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 699

    แรงกดดันน่าสะพรึงกลัวที่แฝงอยู่ในนั้น แม้จะอยู่ห่างไกลก็ยังรับรู้ได้อย่างชัดเจนฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ประหลาด เกรงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว มิควรอยู่ที่นี่แล้ว รีบไปกันก่อนเถิด”“มิได้ ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยยังอยู่ที่เขาหัวสิงห์ ที่นั่นต้องเกิดเรื่องกระไรขึ้นแน่ รีบไปดูกันเถิดเพคะ”ฉงชูโม่ยังมิทันจะพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปยังทิศทางของเขาหัวสิงห์แล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินซูก็จำต้องตามไปด้วยเมื่อสังเกตว่าความเร็วของฉงชูโม่เร็วกว่าเดิมมาก ฉินซูก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ มิได้เจอกันนาน พลังของเจ้าเพิ่มขึ้นเร็วถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”“หม่อมฉันกินโอสถลับของสำนักหอดูดาวหลวง โอสถลูกกลอนนั้นสามารถเพิ่มความคล่องแคล่วของกระบวนท่าได้เพคะ”“เช่นนี้นี่เอง!”ฉินซูจดจำเรื่องนี้ไว้ในใจเงียบ ๆทั้งสองใช้ทักษะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วราวกับภูตผี เพียงแค่ชั่วครู่ก็มาถึงตีนเขาหัวสิงห์เมื่อเงยหน้ามอง แสงสีแดงฉานที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ายังคงแรงกล้ามิได้เจือจางลงแม้แต่น้อย ในความว่างเปล่านั้นเต็มไปด้วยเมฆดำและเสียงฟ้าร้องดังสนั่นเมื่อเห็นสถานการณ์อันน่าพิศวงนี้ ฉินซูก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 698

    ฉินซูกล่าวด้วยท่าทางจริงจังว่า “เฮ้อ เจ้าอย่าได้หึงหวงนักเลย เจ้าเป็นถึงพระชายาองค์รัชทายาทของข้านะ”“ถุย ใครเขาตอบตกลงเป็นพระชายาองค์รัชทายาทของท่านกัน อย่าแม้แต่จะคิดเชียว”“ชูโม่อย่าล้อเล่นสิ ข้าพูดจริงนะ เจ้ายังมิเข้าใจความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าอีกหรือ?”ฉงชูโม่หยุดเดิน พลันหันขวับกลับไปกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉินซู หากท่านมิอยากให้ฝ่าบาททรงระแวง ท่านก็ควรกลืนคำพูดเมื่อครู่นี้กลับลงท้องไปเสีย”ฉินซูขมวดคิ้ว “ข้าชอบเจ้า แล้วมันผิดด้วยหรือ?”เมื่อเห็นฉินซูแสดงความในใจ ฉงชูโม่ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกยินดีเล็กน้อย แต่ก็ยังคงส่ายหน้าพลางอธิบายอย่างอดทน“ผิดสิเพคะ ท่านลองไตร่ตรองดู ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท กลับคิดจะรับแม่ทัพขั้นหนึ่งมาเป็นพระชายาองค์รัชทายาท หากองค์จักรพรรดิทรงทราบเรื่องนี้ พระองค์จะทรงรู้สึกอย่างไร? อย่าลืมว่าเรื่องวันชุนเฟินปีหน้ายังมิจบสิ้น ดังนั้นมิว่าจะมองอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้เพคะ”“แต่… แต่ข้าได้ยึดครองหนานเยวี่ยทั้งหมดมาเป็นของต้าเหยียน ด้วยความดีความชอบเช่นนี้ การรับเจ้ามาเป็นพระชายาองค์รัชทายาทก็มิ...”ยังมิทันที่ฉินซูจะพูดจบ เขาก็เข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 697

    เมื่อเห็นว่าศพแห้งทำกระไรฉินซูมิได้ เสียงขลุ่ยของเฉินซีก็เปลี่ยนทำนองกะทันหัน ศพแห้งเหล่านั้นหันหลังวิ่งหนีป่าราบทันที“ชีวิตน้อย ๆ ของเจ้ากับศพแห้งเหล่านี้ ข้าจะเอาไปทั้งหมด!”เมื่อฉินซูพูดจบ ก็ตบฝ่ามือใส่เฉินซีรูม่านตาของเฉินซีหดเล็กลง ยังมิทันได้ลงมือก็ 'ฟู่' ถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดในทันใดเมื่อเห็นเช่นนั้น ชายชุดดำก็ใจหายวาบ รีบวิ่งหนีสุดชีวิตโดยมิลังเลฉินซูหัวเราะเย็นชา จากนั้นก็โบกมือชายชุดดำวิ่งออกไปได้มิไกลนัก ร่างก็ชะงักกึก จากนั้นก็ถูกแรงดึงดูดลากให้ลอยกลับไปยังมิทันเข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น คอของเขาก็ถูกฉินซูบีบเอาไว้เสียแล้ว“บัดนี้เพิ่งคิดจะหนี มิคิดว่าสายเกินไปหน่อยรึ?” ฉินซูมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยชายชุดดำตกใจจนหน้าซีดเผือด กล่าวด้วยความยากลำบากว่า “อย่า อย่าฆ่าข้าเลย....”“ใครส่งเจ้ามา?”“ประ… ประมุขแห่งยุทธภพหนานเยวี่ย”ฉินซูหัวเราะเย็นชา “สำเนียงหลงเฉิงของเจ้าชัดถ้อยชัดคำเช่นนี้ ใกล้ตายแล้วยังคิดจะหลอกข้าอีกรึ? ในเมื่อเจ้ามิรู้สำนึก ข้าก็จะให้เจ้ารู้จักสิ่งที่เรียกว่าตายทั้งเป็น”เมื่อเขาพูดจบ ก็จิ้มไปที่จุดตันจงบนหน้าอกของชายชุดดำอย่างแรงเสี้ยวขณะต่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 696

    ชายชุดดำพยักหน้าขึงขัง “ข้าเห็นกับตาตัวเอง จะเป็นเรื่องเท็จได้อย่างไร”เฉินซีกลับหัวเราะแล้วส่ายหน้า กล่าวอย่างมิเห็นด้วยว่า “ตบยอดฝีมือระดับสวรรค์ให้กลายเป็นหมอกเลือดด้วยฝ่ามือเดียว เป็นไปได้อย่างไร ข้าว่านี่เป็นเพียงกลอุบายพวกภาพมายาเท่านั้น”ชายชุดดำคิดดูแล้วก็เห็นด้วยเฉินซีมองฉินซูอย่างดูถูก “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด ยามนี้ข้างกายข้ามียอดฝีมือระดับสวรรค์เพิ่มมาอีกคน เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เจ้ายังมิรีบยอมจำนนแต่โดยดีอีก รอกระไรอยู่เล่า?”“ใช่แล้ว ฉินซู เจ้าฆ่าตัวตายไปเสียยังดีเสียกว่า เช่นนั้นจะได้มิต้องทนทุกข์ทรมานมากนัก”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “พวกเจ้าสองคนพูดมากเกินไปแล้ว!”พูดจบ เขาก็หันกลับไปถามฉงชูโม่ว่า “จะเก็บไว้สอบปากคำหรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็ชะงักไปแต่แล้วก็ส่ายหน้าส่วนเฉินซีโกรธขึ้งจนแค่นหัวเราะออกมาแทน “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด เจ้านี่ช่างปากกล้าเหลือเกิน สงสัยจะอวดอ้างเกินจริงเสียแล้วกระมัง ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก ข้าก็จะให้เจ้าได้เห็นวิธีการอันน่าสะพรึงกลัวของสำนักจันทราโรหิตของข้า!”จากนั้นเขาก็หยิบขลุ่ยกระดูกออกมาจากอกเสื้อก่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 695

    เจ้าห้าเป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์อย่างแท้จริง แต่กลับถูกฉินซูตบจนมิเหลือซาก แสดงให้เห็นชัดเจนว่าวรยุทธ์ของฉินซูน่าสะพรึงกลัวเพียงใดในฐานะที่เป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์เช่นกัน เขาใช้วิชาตัวเบาหลบหนีอย่างสุดกำลัง ความเร็วยิ่งยวดจนน่าตกใจเช่นกันชั่วขณะหนึ่ง ฉินซูถึงกับตามมิทันได้ในทันทีแต่ยามนี้ฉินซูตั้งเป้าอีกฝ่ายไว้อย่างแน่วแน่ และไล่หลังตามติดไปอย่างมิยอมปล่อยหลังจากไล่ล่ากันไปได้ครึ่งชั่วยาม อีกด้านหนึ่งก็มีเสียงบันดาลดังขึ้นว่า “สารเลว หากมีฝีมือก็อย่าหนี ข้าจะให้เจ้าได้เห็นฤทธิ์เดชของสำนักจันทราโรหิตของข้าเสียบ้าง!”“หากเจ้ามีฝีมือก็อย่าตามมาสิ!”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ ฉินซูก็มิได้ไล่ตามชายชุดดำคนนั้นต่อไป แต่กลับพุ่งไปยังต้นทางของเสียงนั้นมินานนัก ร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏแก่สายตาฉินซูกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ ถามด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ เกิดอันใดขึ้น?”“องค์รัชทายาท ไฉนท่านจึงมาอยู่ที่นี่?” ฉงชูโม่หยุดชะงักอย่างอดมิได้นางล่อเฉินซีลงมาจากเขาหัวสิงห์ได้สำเร็จ แต่กลับสลัดอีกฝ่ายมิหลุดมินึกเลยว่าเมื่อวิ่งมาถึงที่นี่ กลับมาเจอเข้ากับฉินซูเมื่อเห็นนางหยุด เฉินซีก็หัวเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 694

    ด้วยปฏิกิริยาที่รวดเร็วยิ่งยวด ชายชุดดำคว้าลูกธนูที่ชิวก่วนยิงออกมาไว้ในมือได้แต่เขามองข้ามปัญหาที่ร้ายแรงไปอย่างหนึ่ง นั่นคือลูกธนูนั้นผูกติดอยู่กับระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่ยังมิทันสิ้นถ้อยคำดูแคลนของเขา ระเบิดสายฟ้าก็ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงร่างของเขากระเด็นออกไปทันทีพร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่น กระแทกลงพื้นดินที่อยู่ไกลออกไปอย่างแรงแขนขวาและแก้มครึ่งซีกของเขาถูกระเบิดจนเนื้อตัวเหวอะหวะ อาภรณ์ขาดวิ่นทั้งตัว ดูน่าสังเวชอย่างยิ่งเมื่อเห็นภาพนั้น สหายของเขามีสีหน้าตกตะลึง รีบถามว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นกระไรหรือไม่?”“แค่ก ๆ ...ยังมิตาย บัดซบ ข้าประมาทไปหน่อย”ชายชุดดำที่ถูกเรียกว่าเจ้าห้าสบถแล้วตะเกียกตะกายลุกขึ้น“เจ้าถ่วงเวลาเจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลดนั่นไว้ ข้าจะจัดการเจ้าสารเลวนั่นแล้วไปช่วยเจ้า!”เมื่อเจ้าห้าพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งเข้าใส่ชิวก่วนเมื่อเห็นเช่นนั้น ชิวก่วนก็หนังตากระตุกอย่างอดมิได้ รีบง้างธนูใส่ศรเตรียมยิงแต่ฉินซูกลับกล่าวว่า “อีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือ หากมันตั้งรับ ลูกธนูของเจ้าก็ทำกระไรมันมิได้ จงหลบไปอยู่ห่าง ๆ”ขณะพูด ฉินซูก็กระโดดตัวลอยพุ่งเข้าหาเจ้าห้าทันทีเมื่อ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status