แชร์

บทที่ 555

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
เขาคุกเข่าลง กล่าวกับฉินอู๋ต้าว “เสด็จพ่อ คนทั้งสองนี้มาจากหอดารารักษ์ พวกเขามาเพื่อก่อกวนราชวงศ์ต้าเหยียน เสด็จพ่อทรงอย่าได้หลงกลพวกเขาพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินหยางเข้าใจทันที

หากโยงเรื่องนี้ไปถึงเป่ยเยี่ยนและหอดารารักษ์ วิกฤตนี้ย่อมคลี่คลายได้!

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็รีบพูด “น้องสี่พูดถูก เสด็จพ่อ หอดารารักษ์คือสุนัขรับใช้ของราชสำนักเป่ยเยี่ยน การส่งคนทั้งสองมาก็เพื่อยุแหย่ให้เราแตกแยก พวกเขาจะได้ฉวยโอกาส ขอเสด็จพ่อทรงโปรดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ อย่าได้หลงกลคนชั่วพ่ะย่ะค่ะ”

“องค์รัชทายาท ท่านช่างต่ำช้า สมคบกับหอดารารักษ์ ท่านกำลังทรยศแคว้น!”

“ขอเสด็จพ่อโปรดถอดถอนองค์รัชทายาท จับขังคุก และนำคนของหอดารารักษ์ไปประหารด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินหยางและฉินหงพูดด้วยความลนลาน

ฉินซูหัวเราะเย็นเยือก “พวกเจ้ามิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตา ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เย่ชางสิง เจ้านำจดหมายที่ติดต่อกับฉินหยางออกมาเสียสิ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินหยางก็หน้าซีด พลันเหงื่อผุดท่วมแผ่นหลัง

เย่ชางสิงมีสีหน้าลำบากใจ “องค์รัชทายาท จดหมายเหล่านั้นข้าน้อยมิได้นำมา หากกลับไปนำมาคงต้องใช้เวลาสองวันพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินซูหน้าแหย

เย่ชางสิง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 556

    จูฟางตกใจ พลันรีบพูด “ฝ่าบาท ข้าน้อยเป็นหัวหน้าโจรสลัดที่เหยี่ยนโจว ก่อนหน้านี้ได้ยินคนบอกว่า มีเรือสินค้าจากเหลียงโจวขนเสบียงข้าวแปดพันต้านและเงินหกแสนตำลึงลงใต้เพื่อบรรเทาภัยพิบัติและเป็นคนกลุ่มนี้เองที่ส่งข่าวแก่สายลับกลุ่มผีพรายของเราในครานี้พ่ะย่ะค่ะพวกเขายังบอกใบ้แก่พวกข้าน้อยว่า เรือลำนั้นไม่มีทหารคุ้มกัน อีกทั้งยังบอกว่าทางการเหยี่ยนโจวจะมิยุ่ง ให้พวกเรากระทำการได้อย่างเต็มที่ภายหลังข้าน้อยสืบดู ก็เป็นเช่นที่พวกเขาว่า ข้าน้อยจึงคิดจะปล้นเรือลำนั้น ขอฝ่าบาททรงเมตตาข้าน้อยด้วยเถิด ข้าน้อยเพิ่งทำผิดเป็นครั้งแรกพ่ะย่ะค่ะ”เขาพูดจบก็ก้มหัวคนอื่น ๆ ต่างขอความเมตตา“ขอฝ่าบาททรงเมตตา ข้าน้อยเป็นคนสนิทของท่านอ๋องซิ่น เพียงแต่ทำตามคำสั่งเท่านั้น ข้าน้อยหาได้มีความผิดไม่พ่ะย่ะค่ะ”“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท นี่เป็นคำสั่งของท่านอ๋องฉี พวกเราแค่ทำตามเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”ฉินหยางโกรธจัด “พวกเจ้าใส่ร้ายข้า ข้าสั่งพวกเจ้าไปปล้นเรือเมื่อใด พวกเจ้ามันชั่วช้าสามานย์ยิ่งกว่าหมูกว่าหมา มีหน้ามาใส่ร้ายข้า หรือพวกเจ้ามิอยากมีชีวิตอยู่กันแล้ว!”ฉินอู๋ต้าวถามคนเหล่านั้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 1

    ราชวงศ์ต้าเหยียน ชานเมืองหลงเฉิง เขาต้าอวี่“ตายซะ!”เสียงคำรามดังกึกก้อง ดาบคมกริบที่มีแสงเย็นเฉียบแทงเข้าหาหัวใจของฉินซูเร็วยิ่งกว่าสายฟ้า“คุ้มกันองค์รัชทายาท!”ราชองครักษ์หลายนายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉินซูตะโกนลั่นด้วยความโกรธ พลางชักดาบขึ้นสู้ในขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้กัน ฉินซูมีแววตาเลื่อนลอย‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น?‘‘เมื่อกี้ข้ายังอยู่กับเทพีสงครามผู้งดงามในห้องอยู่เลยมิใช่หรือ?’‘ไฉนจู่ ๆ ข้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?‘ขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่นั้น จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดศีรษะแปลบ ความทรงจำที่มิใช่ของตัวเองไหลเข้ามาในสมองราวกับน้ำป่าไหลหลาก!ราชวงศ์ต้าเหยียน... รัชทายาท…‘(สะอึก!) นี่ข้าข้ามมิติมาแถมยังกลายเป็นองค์รัชทายาทของราชวงศ์ต้าเหยียนไปแล้วจริง ๆ หรือนี่!‘ฉินซูตื่นตัวอย่างรวดเร็ว มิคิดมิฝันว่าการข้ามมิติที่เคยอ่านในนิยายจะเกิดขึ้นจริงกับตัวเองในขณะที่เขากำลังประหลาดใจ เหล่าราชองครักษ์ก็ถูกมือสังหารฟันลงไปกองกับพื้น(เสียงชักดาบออกมาพร้อมกัน)มือสังหารสวมหน้ากากเจ็ดหรือแปดคนถือดาบล้อมรอบเขาไว้หนึ่งในนั้นตะโกนอย่างเย็นชา “ฉินซู ถึงขนาดนี้แล้ว เจ้ายังมิยอมฆ่าตัวตายอีก รอหาอะไ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 2

    เห็นสระเลือดอยู่มิไกลเบื้องหน้า!ฉินเหยี่ยนพูดด้วยความมิเชื่อ “เลือดพวกนี้ หรือว่าเป็นของคนพี่สี่?”คนสนิทคนหนึ่งโบกมือแล้วสั่งคนที่อยู่ข้างหลังว่า “ไปสำรวจบริเวณรอบ ๆ เดี๋ยวนี้!”เหล่าบรรดาองครักษ์แยกย้าย!หลังจากนั้นมินานพวกเขาก็รีบวิ่งกลับ แต่ละคนส่ายหัวแล้วพูดว่า “องค์ชาย นอกจากที่นี่แล้วไม่มีร่องรอยเลือดที่อื่นเลยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วและพึมพำ “เป็นไปได้อย่างไร? หรือว่าพวกเขาทั้งหมดถูกไอ้สารเลวฉินซูนั่นฆ่าตายหมดแล้ว?”“องค์ชาย พวกที่ท่านอ๋องซิ่นส่งมาล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น องค์รัชทายาทมัวเมาในสุราเคล้านารีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่มีกำลังพอที่จะฆ่าคนพวกนั้นได้ กระหม่อมจึงมั่นใจว่า ต้องมียอดฝีมือคอยแอบช่วยเหลืออยู่เป็นแน่ มิเช่นนั้น องค์รัชทายาทย่อมมิอาจอยู่รอดปล่อยภัยได้แน่พ่ะย่ะค่ะ!”หลังจากได้ยินสิ่งนี้ฉินเหยี่ยนก็พยักหน้าช้า ๆ “ตัวข้าก็สงสัยอยู่ว่า เหตุใดฉินซูถึงกล้าฆ่าเฉินฉวิน ที่แท้เขาอาศัยความช่วยเหลือจากยอดฝีมือในเงามืด เดิมทีข้าวางแผนที่จะรอให้คนของอ๋องซิ่นฆ่าฉินซูแล้วคอยจับมือสังหารเหล่านั้น ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!”“เช่นนั้นเราควรทำอย่างไรดีหรือพ่ะย่ะค่ะ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 3

    ในพระตำหนักจินหลวนอันอันสง่างามและโอ่อ่าฉินอู๋ต้าว จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ต้าเหยียน สวมฉลองพระองค์ลายมังกร นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรพระพักตร์ดูสง่างาม มิมีแววโกรธแต่ยังดูทรงอำนาจมิว่าจะเป็นขมับที่ขาวโพลน หรือรอยย่นสามเส้นบนหน้าผาก ล้วนแต่บอกเล่าถึงความเหนื่อยล้าจากการทรงงานราชการตลอดทั้งวันใต้บันไดหยก มีเก้าอี้ไม้หนานมู่เนื้อทองสองตัวอยู่ทางซ้ายและขวา มีชายชราสองคนนั่งอยู่บนเก้าอี้เหล่านั้นคนทางซ้ายสวมชุดขุนนางสีม่วง และเข็มขัดสีทองลายดอกไม้เลื้อยรอบเอวแม้ว่าเขาจะอายุเกินเจ็ดสิบปีแล้วแต่เขาก็เต็มไปด้วยพลังและกระปรี้กระเปร่า!มิใช่ใครอื่นนอกจากผู้อาวุโสแห่งสำนักขุนนางใหญ่!คนทางขวามีอายุเท่าเว่ยเจิงสวมชุดนักปราชญ์ บนคางมีหนวดเคราสีเทายาวประมาณสามนิ้ว ในมือถือเข็มทิศหยกขาวไว้เสื้อคลุมสีเทาของเขาปักลวดลายของกลุ่มดาวหมีใหญ่ทั้งเจ็ดดวง!แววตาของเขาดูลึกซึ้งและสงบ แต่การเคลื่อนไหวเฉียบคมราวกับสามารถมองทะลุทุกสิ่งในใต้หล้าได้ในพริบตามิใช่ใครอื่นนอกจากเหลยเจิ้น หัวหน้าโหรหลวงแห่งสำนักหอดูดาวหลวง!ชายสองคนนี้เป็นทั้งขุนนางที่มีอิทธิพลอย่างมากในราชวงศ์ต้าเหยียน และได้รับความไว้วา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 4

    ดูเหมือนหนิวจินจะมิตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ เขาถือดาบและตะโกนด้วยเสียงทุ้ม “ฉินซูปล่อยองค์ชายของกระหม่อมเดี๋ยวนี้!"ฉินซูยิ้มอย่างดูแคลนและมองเขาราวกับว่าเขากำลังมองร่างไร้วิญญาณ!ทันใดนั้นใบหน้าของเฉิงจืออี้มืดครึ้มลงทันที เขาสังหรณ์ใจมิดีเสียแล้ว!เขากำลังจะขอให้หนิวจินวางดาบลงแต่ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงแหลมดังขึ้น“ฉึก!”เลือดพุ่งออกมาบนหน้าผากของหนิวจินทันทีจากนั้นก็หงายหลังล้มลงในแอ่งเลือด!หลังจากขุนนางทั้งหมดตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก็หันไปมองที่เหลยเจิ้นบุคคลเดียวที่สามารถฆ่านักรบอันดับหนึ่งของเป่ยเยี่ยนได้อย่างง่ายดาย คงมีเพียงหัวหน้าโหรหลวงเท่านั้นฉินซูยังลอบเหลือบมองเหลยเจิ้น และแอบพยักหน้าในใจสามารถใช้กำลังภายในฆ่าคนได้โดยมิเผยกำลังภายนอกเช่นนี้ หัวหน้าโหรหลวงผู้นี้เป็นยอดฝีมือระดับแนวหน้าอย่างแท้จริงเขาอยากรู้มากว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเหลยเจิ้นไปถึงขั้นไหนแล้วตั้งแต่ที่เขาเดินทางข้ามมิติมาจนถึงตอนนี้ เขายังมิได้เข้าใจระบบการบ่มเพาะของใต้หล้านี้เลยส่วนเจ้าของร่างดั้งเดิมขององค์รัชทายาทนั้น มิรู้อะไรเลยเกี่ยวกับวรยุทธ ดังนั้นฉินซูจึงมิได้รับข้อม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 5

    ฉินอู๋ต้าวเหลือบมองฉินซู และถามอย่างใจเย็น “องค์รัชทายาท เจ้ามีแผนการดี ๆ จริงรึ?”ฉินซูพูดอย่างใจเย็น “ทูลเสด็จพ่อ กระหม่อมไม่มีความคิดดีๆ เลยพ่ะย่ะค่ะ"ทันทีที่เขาพูดจบ ฉินเหยี่ยนก็พูดด้วยความเย้ยหยัน “เมื่อเสด็จพี่องค์รัชทายาท ตอนท่านวิจารณ์ทูตของเป่ยเยี่ยน ดูดุดันมากเพียงนั้น ตอนนี้กลับบอกว่าไม่มีความคิดดี ๆ อะไรเลย นี่มิไร้สาระไปหน่อยหรือ?"“เช่นนั้น หากไม่มีแผนดี ๆ แล้วท่านยังจะเสนอให้ทำสงครามอีกหรือท่านอยากเห็นต้าเหยียนของเราตกที่นั่งลำบาก หรือท่านอยากอวดตัวต่อหน้าเหล่าขุนนางในท้องพระโรงกันแน่?”ฉินหงก็สนับสนุนทันที เขามิอยากพลาดโอกาสที่จะได้เหยียบย่ำองค์รัชทายาทต่อหน้าขุนนางทั้งหลายเช่นนี้หลินซียังถามอีกว่า “ในเมื่อองค์รัชทายาทไม่มีแผนการในใจ เหตุใดท่านถึงมิเห็นด้วยกับการคืนเมืองชิ่งโจวให้กับเป่ยเยี่ยนเล่า?”ฉินซูวางมือไพล่หลังและส่งเสียงฮึมฮัม “หึ เมืองชิ่งโจวเดิมทีเป็นดินแดนของต้าเหยียน เหล่าทหารพยายามอย่างยากลำบากกว่าจะยึดกลับคืนมาได้ แต่พวกเจ้ากลับต้องการคืนชิ่งโจวให้เป่ยเยี่ยน การกระทำเช่นนี้มิเพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของเราเท่านั้น แต่ยังบ่อนทำลายขวัญกำลังใจ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 6

    ฉินหงขมวดคิ้วและถามว่า “ไฉนท่านมองข้าเช่นนั้นเล่า?”ฉินซูยิ้มอย่างสงบและพูดว่า “ไม่มีอะไร ข้าแค่อยากจะบอกว่า หากมู่หรงฟู่มิชอบก็ยังมีหลินชิงเหยามิใช่รึ?”บุตรีสุดที่รักของใต้เท้าหลินเป็นหนึ่งในห้าของสาวงามแห่งหลงเฉิงของเรา ด้วยความงามเช่นนี้ ตราบใดที่มู่หรงฟู่มิใช่ขันที ก็คงไม่มีทางที่เขาจะมิถูกนางล่อลวงหรอกใช่หรือไม่?”ครั้นได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของฉินหงก็แสดงถึงความมิพอใจทันใด!ขุนนางคนอื่น ๆ ก็มีการแสดงออกที่แตกต่างกันออกไปมีผู้ใดมิรู้บ้างเล่าว่า หลินชิงเหยาเป็นคนรักของอ๋องฉี ฉินหง เมื่อฉินซูพูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาอยากมีปัญหากับอ๋องฉีใช่หรือไม่?สีหน้าหลินซีดูมิพอใจ เขาประสานมือและโค้งคำรับไปทางฉินอู๋ต้าว “ฝ่าบาท บุตรีของข้าน้อยมีคนที่นางรักอยู่แล้ว ข้าน้อยมั่นใจว่าฝ่าบาทจะมิ…”ยังมิทันที่เขาจะพูดจบฉินอู๋ต้าวก็โบกมือและขัดจังหวะเขา“เสนาบดีหลิน เรื่องยังมิไปถึงขั้นนั้น ไฉนเจ้าต้องตื่นตระหนกนัก?”“ข้าน้อย… ข้าน้อยเพียงกังวล…”“มีสิ่งใดให้กังวลนัก? แม้ว่านางจะแต่งงานกับมู่หรงฟู่โดยมีข้าสนับสนุน เช่นนั้นเจ้าก็กลัวว่ามู่หรงฟู่จะกล้ารังแกนางรึ? อีกอย่างข้าเพิ่งบอกว่าเรื่องยั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 7

    เหลยเจิ้นมิตอบทันที แต่ชี้ไปที่หัวของตนฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจ้าหมายถึงอะไร?”“ทูลฝ่าบาท ปีนี้ดาวแห่งจักรพรรดิจะเข้าสู่วังชีวิต ทำลายอิทธิพลชั่วร้าย ดาวดวงอื่น ๆ หลับใหล นี่เป็นตัวบ่งบอกถึงจำนวนภัยพิบัติ อย่างไรก็ตาม เมื่อดาวไท่เวยอยู่ข้าง ๆ วังชีวิต เคราะห์ร้ายก็คลายกังวล หลังจากวันชุนเฟินในปีหน้า ครั้นดาวทุกดวงกลับคืนสู่ตำแหน่ง ไทเว่ยก็จะถูกขับออกจากตำแหน่ง"“เจ้ากำลังบอกว่า องค์รัชทายาทคือกุญแจสำคัญที่ช่วยป้องกันข้าจากเคราะห์ร้ายรึ?”เหลยเจิ้นพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “พ่ะย่ะค่ะ ก่อนที่ดวงดาวจะกลับสู่ตำแหน่ง ต้องมิรบกวนไท่เวย มิเช่นนั้นโชคร้ายร่วงหล่นจากสวรรค์ ทั่วหล้าโกลาหลวุ่นวาย แคว้นจะตกอยู่ในอันตรายพ่ะย่ะค่ะ!”การแสดงออกของฉินอู๋ต้าวเริ่มจริงจังหากมีใครพูดเช่นนี้เขาคงจะสั่งให้ลากคนผู้นั้นออกไปตัดศีรษะแล้วทว่ายามนี้คำพูดที่มาจากปากของหัวหน้าโหรหลวงแห่งสำนักหอดูดาวหลวง เขาก็มิกล้าที่จะนิ่งนอนใจท้ายที่สุดแล้ว ความสามารถของเขาในการขึ้นสู่บัลลังก์นั้นขึ้นอยู่กับวิธีการทำนายที่ลึกลับยากจะคาดเดาของเหลยเจิ้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คำทำนายทั้งหมดของเหลยเจิ้นนั้นเป็

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 556

    จูฟางตกใจ พลันรีบพูด “ฝ่าบาท ข้าน้อยเป็นหัวหน้าโจรสลัดที่เหยี่ยนโจว ก่อนหน้านี้ได้ยินคนบอกว่า มีเรือสินค้าจากเหลียงโจวขนเสบียงข้าวแปดพันต้านและเงินหกแสนตำลึงลงใต้เพื่อบรรเทาภัยพิบัติและเป็นคนกลุ่มนี้เองที่ส่งข่าวแก่สายลับกลุ่มผีพรายของเราในครานี้พ่ะย่ะค่ะพวกเขายังบอกใบ้แก่พวกข้าน้อยว่า เรือลำนั้นไม่มีทหารคุ้มกัน อีกทั้งยังบอกว่าทางการเหยี่ยนโจวจะมิยุ่ง ให้พวกเรากระทำการได้อย่างเต็มที่ภายหลังข้าน้อยสืบดู ก็เป็นเช่นที่พวกเขาว่า ข้าน้อยจึงคิดจะปล้นเรือลำนั้น ขอฝ่าบาททรงเมตตาข้าน้อยด้วยเถิด ข้าน้อยเพิ่งทำผิดเป็นครั้งแรกพ่ะย่ะค่ะ”เขาพูดจบก็ก้มหัวคนอื่น ๆ ต่างขอความเมตตา“ขอฝ่าบาททรงเมตตา ข้าน้อยเป็นคนสนิทของท่านอ๋องซิ่น เพียงแต่ทำตามคำสั่งเท่านั้น ข้าน้อยหาได้มีความผิดไม่พ่ะย่ะค่ะ”“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท นี่เป็นคำสั่งของท่านอ๋องฉี พวกเราแค่ทำตามเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”ฉินหยางโกรธจัด “พวกเจ้าใส่ร้ายข้า ข้าสั่งพวกเจ้าไปปล้นเรือเมื่อใด พวกเจ้ามันชั่วช้าสามานย์ยิ่งกว่าหมูกว่าหมา มีหน้ามาใส่ร้ายข้า หรือพวกเจ้ามิอยากมีชีวิตอยู่กันแล้ว!”ฉินอู๋ต้าวถามคนเหล่านั้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 555

    เขาคุกเข่าลง กล่าวกับฉินอู๋ต้าว “เสด็จพ่อ คนทั้งสองนี้มาจากหอดารารักษ์ พวกเขามาเพื่อก่อกวนราชวงศ์ต้าเหยียน เสด็จพ่อทรงอย่าได้หลงกลพวกเขาพ่ะย่ะค่ะ”ฉินหยางเข้าใจทันทีหากโยงเรื่องนี้ไปถึงเป่ยเยี่ยนและหอดารารักษ์ วิกฤตนี้ย่อมคลี่คลายได้!เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็รีบพูด “น้องสี่พูดถูก เสด็จพ่อ หอดารารักษ์คือสุนัขรับใช้ของราชสำนักเป่ยเยี่ยน การส่งคนทั้งสองมาก็เพื่อยุแหย่ให้เราแตกแยก พวกเขาจะได้ฉวยโอกาส ขอเสด็จพ่อทรงโปรดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ อย่าได้หลงกลคนชั่วพ่ะย่ะค่ะ”“องค์รัชทายาท ท่านช่างต่ำช้า สมคบกับหอดารารักษ์ ท่านกำลังทรยศแคว้น!”“ขอเสด็จพ่อโปรดถอดถอนองค์รัชทายาท จับขังคุก และนำคนของหอดารารักษ์ไปประหารด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินหยางและฉินหงพูดด้วยความลนลานฉินซูหัวเราะเย็นเยือก “พวกเจ้ามิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตา ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เย่ชางสิง เจ้านำจดหมายที่ติดต่อกับฉินหยางออกมาเสียสิ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินหยางก็หน้าซีด พลันเหงื่อผุดท่วมแผ่นหลังเย่ชางสิงมีสีหน้าลำบากใจ “องค์รัชทายาท จดหมายเหล่านั้นข้าน้อยมิได้นำมา หากกลับไปนำมาคงต้องใช้เวลาสองวันพ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูหน้าแหยเย่ชางสิง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 554

    ฉินอู๋ต้าวมองเหลยเจิ้นหลังจากที่อีกฝ่ายพยักหน้าเล็กน้อย เขาก็กล่าว “พาตัวเข้ามา”ครู่ต่อมา ชายชราสองคนก็เดินเข้ามาคนหนึ่งอายุประมาณหกสิบกว่า ผมเผ้ายุ่งเหยิง ถือไม้เท้าหัวมังกรอีกคนอายุไล่เลี่ยกัน เป็นพระธุดงค์หน้าตาอมทุกข์ ถือไม้เท้าปราบมารดูน่าเกรงขามคือเย่ชางสิงและคูมู่!เมื่อเห็นคนทั้งสอง ฉินหยางและฉินหงก็สบตากัน ในแววตาเต็มไปด้วยความตกใจเย่ชางสิงและคูมู่ทำความเคารพฉินอู๋ต้าวฉินอู๋ต้าวหรี่ตามอง แล้วเอ่ยถาม “พวกเจ้าสองคนมาจากหอดารารักษ์หรือ?”“ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยและพระอาจารย์คูมู่เพิ่งเข้าร่วมหอดารารักษ์ได้มินาน ได้รับคำสั่งจากเจ้าสำนักมาพ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูกล่าวยิ้ม ๆ “คิดมิถึงว่าซ่างกวนอวิ๋นซีจะรับพวกเจ้าไว้ ทำเอาข้าประหลาดใจเสียจริง มิน่า ข้ากลับมาเมืองหลวงแล้วหาตัวพวกเจ้ามิพบ”เย่ชางสิงและคูมู่ยิ้มขื่นหากเลือกได้ พวกเขาคงมิอยากไปอยู่หอดารารักษ์ฉินอู๋ต้าวกล่าว “องค์รัชทายาท คนมาแล้ว คนที่ลอบทำร้ายเจ้าคือคนทั้งสองนี้หรือ?”“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ คนทั้งสองลอบทำร้ายลูกระหว่างทางไปเป่ยเหลียง หากมิได้รับการคุ้มครองจากเสวี่ยเจี้ยน ลูกคง...”“บังอาจลอบทำร้ายองค์รัชทาย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 553

    “ทูลฝ่าบาท เมื่อครู่มีนางกำนัลถือป้ายอาญาสิทธิ์ของไทฮองไทเฮาออกจากวังหลัง ว่ากันว่านางกำนัลผู้นั้นมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับเสียนเฟยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของฉินอู๋ต้าวก็ดำมืดราวกับก้นหม้อ!เดิมทีเขาคิดว่าหากเสียนเฟยยอมรับผิดแต่โดยดี ก็จะลงโทษเพียงกักบริเวณในตำหนักอวี้จ้าวเท่านั้นแต่คิดมิถึงว่าอีกฝ่ายจะหนีความผิด ซ้ำยังออกจากวังหลังในเวลาอันสั้น นี่มิเรียกว่าไตร่ตรองไว้ก่อนแล้วจะเรียกว่ากระไร!“หน่วยตรวจตรารับคำสั่ง!”สวีเซี่ยงเฉียนคุกเข่าลงทันทีฉินอู๋ต้าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ปิดประตูเมืองทันที ค้นหาเสียนเฟยให้ทั่วเมือง ใครกล้าขัดขวาง จงสังหารเสีย!”“รับพระบัญชา!”สวีเซี่ยงเฉียนรับบัญชาแล้วนำทหารเหล่านั้นออกไป“คิดมิถึงว่าเสียนเฟยจะหนีความผิด”“ใช่แล้ว สมคบกับขันทีทำร้ายองค์รัชทายาท ช่างอาจหาญ!”“พูดเช่นนี้มิถูก หากเสียนเฟยบริสุทธิ์เล่า”“พูดเช่นนี้ผิดแล้ว หากพระนางไม่มีความผิด เหตุใดต้องหลบหนีเล่า!”“ใช่แล้ว เช่นนี้เขาเรียกว่ารับสารภาพโดยปริยาย!”“...”ขุนนางต่างกระซิบกระซาบกันเบา ๆฉินอู๋ต้าวโบกมือพลันตะโกน “ใครก็ได้ นำตัวเกาส่วงและพวกไปประหารเสีย!”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 552

    ขณะเดียวกันตำหนักอวี้จ้าวขันทีน้อยคนหนึ่งวิ่งล้มลุกคลุกคลานเข้ามา นางกำนัลที่อยู่หน้าประตูพยายามห้ามแต่ก็มิสำเร็จเมื่อได้ยินเสียงดังจากภายนอก เสียนเฟยขมวดคิ้วพลันตะโกน “เอะอะโวยวายเรื่องอันใดกัน!”“พระสนม พระสนม เกิดเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”หลังจากที่ขันทีน้อยกุลีกุจอเข้ามาก็รีบพูด “องค์รัชทายาทกล่าวหาพระสนมในท้องพระโรง อีกทั้งขันทีเกาและคนอื่น ๆ ต่างรับสารภาพแล้วพ่ะย่ะค่ะ...”“ว่ากระไรนะ!!!”เสียนเฟยตกใจจนหน้าซีด!นางไม่มีเวลาคิดมากและตัดสินใจในทันที “พวกเจ้าปิดประตูตำหนักอวี้จ้าวให้ดี รอข้าเปลี่ยนอาภรณ์แล้ว ข้าจะไปเผชิญหน้ากับองค์รัชทายาทในท้องพระโรง!”เสียนเฟยพูดจบก็หันหลังเดินเข้าไปในห้องนอนหลังจากเข้าไปในห้องนอนนางก็รีบเปลี่ยนเป็นชุดนางกำนัล หลังจากปลอมตัวแล้วก็กลายเป็นนางกำนัลคนหนึ่ง!จากนั้นนางก็เปิดหน้าต่างตำหนักอวี้จ้าว กระโดดออกไปหลังจากปิดหน้าต่างแล้ว นางก็ออกจากประตูหลังนางเดินทางอย่างราบรื่นไปจนถึงกำแพงวัง ทหารรักษาการณ์ก็ขวางนางไว้เมื่อถูกสอบถาม เสียนเฟยก็กล่าวอย่างใจเย็น “ไทฮองไทเฮารับสั่งให้ออกไปทำธุระนอกวัง นี่ป้ายอาญาสิทธิ์ของไทฮองไทเฮา”นางยื่น

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 551

    ฉินซูยิ้มเยาะ “น่าขัน เป็นข้าหรือที่สั่งให้อ๋องหนิงสมคบกับทั่วป๋าชื่อ? ที่วันนี้เขาต้องเป็นเช่นก็เพราะเขาทำตัวเอง!”เผยหยวนต้องการพูดอะไรบางอย่าง ทว่าฉินอู๋ต้าวโบกมือ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “องค์รัชทายาท ท่านบอกว่าเสียนเฟยสมคบกับขันที มีหลักฐานหรือไม่? หากใส่ความโดยไร้หลักฐาน ข้าน้อยก็สามารถลงโทษท่านสถานหนักโดยมิละเว้นได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูกล่าวโดยมิเปลี่ยนสีหน้า “เสด็จพ่อ เมื่อลูกกล้ากล่าวหาเสียนเฟยในท้องพระโรง ย่อมมีหลักฐาน คนร้ายที่ลอบทำร้ายลูกถูกคุมตัวอยู่นอกประตูวัง เสด็จพ่อเรียกตัวมาสอบถามก็จะทราบได้พ่ะย่ะค่ะ”“ใครก็ได้ นำตัวมา!”“รับพระบัญชา!”ฉินอู๋ต้าวนั่งบนบัลลังก์มังกรพร้อมสีหน้ามืดครึ้ม ดวงตาลุกโชนด้วยความโกรธา!วันนี้เขาจะได้เห็นว่าองค์รัชทายาทปั้นเรื่องใส่ความคน หรือคนในวังกล้าสมคบกับขันทีกันแน่!คนอื่น ๆ ก็มีสีหน้าต่างกัน ส่วนใหญ่มีท่าทีเฉยชา เพียงจ้องมองเพื่อความสำราญบันเทิงเท่านั้นถึงแม้เสียนเฟยจะถูกปลด ก็มิได้กระทบต่อผลประโยชน์ของพวกเขานักผ่านไปครู่หนึ่ง คนชุดดำก็ถูกนำตัวมาเมื่อเห็นหน้าคนที่เดินนำหน้ามา ฉินอู๋ต้าวก็ต้องประหลาดใจ!เขากล่าวเสียงเคร่งข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 550

    ฉินเซียวเสียงสั่นเครือ “เสด็จพ่อ ลูกถูกใส่ความ ลูกถูกใส่ความจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ชั่วช้าสามานย์ ถึงที่ตายแล้วยังมิยอมรับผิด วันนี้ตัวข้ามิไว้ชีวิตเจ้าเป็นแน่!”ฉินอู๋ต้าวหยุดชะงัก แล้วกล่าวต่อด้วยโทสะ “อ๋องหนิงสมคบกับหัวหน้าชนเผ่าโครยอคิดก่อการกบฏ โทษประหาร ตัวข้าขอถอดตำแหน่งอ๋อง ลดบรรดาศักดิ์เป็นสามัญชน เข้าคุกแดนประหาร กำหนดวันตัดหัวประจาน!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็ตกตะลึง!ไม่มีใครคิดว่าฉินอู๋ต้าวจะจัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดฉินเซียวเมื่อได้สติก็ร้องขอความเมตตา“ไม่นะ เสด็จพ่อ...”เขากลัวจนน้ำหูน้ำตาไหล พยายามคลานไปหาฉินอู๋ต้าวบนบันไดหยกแต่ก็ถูกทหารสองคนจับตัวไว้เว่ยเจิงประสานมือให้ฉินอู๋ต้าว กล่าวด้วยความใจร้อน “ฝ่าบาท แม้อ๋องหนิงจะมีความผิด แต่โทษก็ยังมิถึงขั้นประหาร ขอฝ่าบาททรงเมตตาให้โอกาสอ๋องหนิงอีกครั้งด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“ขอฝ่าบาททรงเมตตา”ขุนนางคนอื่น ๆ ต่างส่งเสียงร้องขอความเมตตาฉินอู๋ต้าวตะโกน “หุบปาก ไม่มีอ๋องหนิง มีแต่ฉินเซียว!”“ฝ่าบาท ถึงอย่างไรฉินเซียวก็เป็นพระโอรสของพระองค์ เพียงเนรเทศเขาออกจากเมืองหลวงก็พอแล้ว ขอฝ่าบาททรงไว้ชีวิตด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 549

    ฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้ว แล้วกล่าว "ไหนอ๋องจิ้นบอกว่าหลังจากนี้จะมิยุ่งเรื่องราชสำนัก ตั้งใจจะเป็นเพียงอ๋องที่เที่ยวเล่นสำราญมิใช่หรือ? ตอนนี้มาทำกระไร?""ฝ่าบาท อ๋องจิ้นตรัสว่า เมื่อสองวันก่อนเขาบังเอิญช่วยคนสามคนไว้ นำไปสู่เรื่องใหญ่..."เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินอู๋ต้าวก็โบกมือ "ให้เขาเข้ามา""รับพระบัญชา!"หลังจากนั้นมินานฉินเหยี่ยนก็เดินเข้ามาเขามองฉินเซียวด้วยสายตาซ้ำเติม!เมื่อเห็นสายตานั้น ฉินเซียวก็ใจหายวาบ เกิดลางสังหรณ์ร้ายขึ้นหลังจากที่ฉินเหยี่ยนทำความเคารพ ฉินอู๋ต้าวก็กล่าวด้วยเสียงเรียบเฉย "ฉินเหยี่ยน บอกมาว่าเจ้ามาด้วยเหตุใด"ฉินเหยี่ยนกล่าวอย่างจริงจัง "เสด็จพ่อ เมื่อสองวันก่อนลูกพบองครักษ์จวนอ๋องหนิงกำลังจะสังหารอาจารย์สอนหนังสือสามคน ลูกจึงช่วยพวกเขาไว้เมื่อสอบถามจึงรู้ว่า คนทั้งสามถูกอ๋องหนิงบังคับให้เลียนแบบลายมือ เขียนจดหมายหมิ่นเบื้องสูง อ๋องหนิงจึงต้องการฆ่าปิดปาก!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินเซียวก็ตกใจ รีบแก้ตัว "เสด็จพ่อ ลูกถูกใส่ความ ลูกถูกใส่ความ!""หึ อ๋องหนิง ผิดหรือไม่ รอข้านำพยานมาก็รู้!"ฉินเหยี่ยนกล่าวต่อ "เสด็จพ่อ อาจารย์สอนหนังสือทั้งสามคนกำลังรออยู่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 548

    ฉินเซียวรีบอธิบาย “เสด็จพ่อ ลูกขอความเป็นธรรมในเรื่องเมื่อสองวันก่อน จดหมายดูหมิ่นเบื้องสูงเหล่านั้นลูกมิได้เขียน ขอเสด็จพ่อทรงพิจารณาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอู๋ต้าวแค่นเสียงเย็น “ลูกทรพี ที่ข้าเรียกเจ้ามา มิใช่เรื่องจดหมายเมื่อสองวันก่อน แต่เป็นเรื่องที่เจ้าสมคบกับหัวหน้าชนเผ่าโครยอ!”“พ่ะย่ะค่ะ? เสด็จพ่อ ลูกสมคบกับหัวหน้าชนเผ่าโครยอเมื่อใด ผู้ใดปล่อยข่าวลือ? ลูกขอเผชิญหน้ากับมันผู้นั้น!”ฉินเซียวทำท่าทางงุนงง ราวกับมิรู้เรื่องรู้ราวฉินซูเอามือไพล่หลัง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉินเซียว เจ้านี่ช่างวางแผนตบตาดีเหลือเกิน จดหมายที่เจ้าเขียนถึงทั่วป๋าชื่อถูกข้านำกลับมาแล้ว เจ้ายังจะปฏิเสธอีกหรือ?”“กระหม่อมมิรู้ว่าท่านพูดเรื่องอันใด กระหม่อมเขียนจดหมายถึงทั่วป๋าชื่อตั้งแต่เมื่อใด?”ฉินเซียวพูดจบก็ขอร้องฉินอู๋ต้าว “เสด็จพ่อ ลูกขอวิงวอนร้องให้เสด็จพ่อให้ขุนนางอาวุโสเว่ยและคนอื่น ๆ ตรวจสอบโดยละเอียด แม้ว่าจดหมายเหล่านั้นจะคล้ายลายมือของลูกก็จริง แต่ขุนนางอาวุโสเว่ยผู้มากความสามารถย่อมมองออกว่าเป็นลายมือที่ผู้อื่นเลียนแบบ! ส่วนจดหมายที่องค์รัชทายาทพูดถึงนั้นก็คงเป็นของปลอม ขอเสด็จพ่อทรงพิจารณาด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status