แชร์

บทที่ 34

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉินซูมิทันได้ระวัง จึงถูกฉงชูโม่ตบอย่างแรง

แรงตบอันทรงพลังทำให้เขาลอยกระเด็นออกไปหลายเมตร

โครม!

ถังไม้ในโรงอาบน้ำถูกกระแทกจนเป็นชิ้น ๆ

หลังจากที่ฉินซูล้มลงกับพื้น เขาก็ทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด

หากเขามิได้รับการปกป้องจากพลังชี่ที่แข็งแกร่ง เขาคงตายคาที่จากการตบของฉงชูโม่ไปแล้ว

ฉงชูโม่ที่อยู่ในบ่ออาบน้ำก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งเช่นกันหลังจากตบออกไป

เมื่อครู่นางโกรธมากจนออกแรงเต็มที่

หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว นางก็แอบกรีดร้องในใจว่าแย่แล้ว เผลอตบองค์รัชทายาทจนตายไปเสียได้!

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ นางก็ตื่นตระหนก ตะโกนไปทางอีกด้านของบาน้ำว "องค์รัชทายาท พระองค์… ยังสบายดีหรือไม่?"

เมื่อได้ยินคำพูดที่ตื่นตระหนกของนาง ฉินซูก็คิดวางแผน ตัดสินใจแกล้งตายทันที

เมื่อมิได้รับการตอบกลับจากฉินซู ฉงชูโม่ก็ยิ่งตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้น

“องค์รัชทายาท... ฉินซู พระองค์เป็นอย่างไรบ้าง? ตอบหม่อมฉันหน่อยสิ!”

ฉินซูยังคงมิตอบสนอง!

ฉงชูโม่มิสนใจว่านางเปลือยเปล่าหรือไม่ รีบวิ่งไปทางที่ฉินซูลอยกระเด็นออกไป

เมื่อนางเห็นฉินซูนอนนิ่งอยู่ในกองไม้แตกกระจาย ร่างกายของนางก็แข็งทื่อ

จบแล้ว นางเผลอตบองค์รัชทายาทจนตา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 35

    หลังจากกลับมาได้สติ นางก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติฉินซูมิได้ถูกฆ่าด้วยการโจมตีเต็มแรงของนางเมื่อครู่ แต่อย่างน้อยกระดูกช่วงอกของเขาควรจะหัก และควรจะบาดเจ็บภายในอย่างสาหัสมากแต่เมื่อครู่ฉินซูมิเพียงแต่สามารถพูดได้ แต่เสียงของเขาก็เต็มไปด้วยพลังมิเหมือนคนที่บาดเจ็บภายในเลยและตอนนี้เขายังโอบกอดนางด้วย!!เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฉงชูโม่ก็รีบผละตัวออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งยกมือปิดจุดสำคัญที่อยู่ข้างหน้า พลางตะโกนว่า “ฉินซู ท่านแกล้งตายเช่นนั้นหรือ?”“ข้าแกล้งตายตอนไหนกัน? โดนเจ้าตบอย่างแรง อวัยวะภายในของข้าเคลื่อนหมดแล้ว ทรมานจะแย่”เมื่อได้ยินฉินซูพูดได้อย่างมิติดขัด ฉงชูโม่จึงสรุปได้ฉินซูมิเป็นอะไรแต่อย่างใดฉงชูโม่กัดฟันด้วยความโกรธ คิดถึงเมื่อครู่ที่ถูกฉินซูเอาเปรียบอย่างมาก และตอนนี้ก็ถูกเขาเห็นหมดแล้วนางรีบดึงอาภรณ์ที่อยู่ข้าง ๆ เพื่อปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าของตนเมื่อฉินซูเห็นสิ่งนี้ เขาก็พูดว่า “อ้าว นั่นมันอาภรณ์ของข้า…”“คนลามก กล้ามาเอาเปรียบหม่อมฉัน วันนี้หม่อมฉันจะหักขาสุนัขของท่านเพื่อองค์จักรพรรดิเอง!”ฉงชูโม่หยิบเศษไม้ขึ้นมาจากพื้น แล้วฟาดใส่ฉินซูอย่างแรง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 36

    “อ่า ข้ามิคิดว่ามือของเจ้าจะบอบบางขนาดนี้ ทั้งที่กรำศึกอยู่ทั้งปีทั้งชาติ จิ๊จิ๊ นวดจนข้ารู้สึกสบายดีจริง ๆ”ฉินซูเริ่มยิ้มแย้มแล้วเย้าหยอกขึ้นมาฉงชูโม่เลิกคิ้วและพูดด้วยความโกรธ “ถ้ามิอยากเป็นขันทีก็หุบปาก!”ฉินซูเอื้อมมือออกไปปกปิดส่วนสำคัญของตนตามสัญชาตญาณ และปิดปากของเขาอย่างชาญฉลาดเขารู้ดีว่าหากเขาเล่นมิเลิก ฉงชูโม่จะสู้กับเขาจนตายกันไปข้างหนึ่งอย่างแน่นอนหากเขาลงมือจริง ๆ แน่นอนว่าเขาจะมิกลัวอีกฝ่าย แต่เขาก็รู้ดีว่า หากเป็นศัตรูกับแม่ทัพขั้นหนึ่งอย่างฉงชูโม่ นั่นไม่มีประโยชน์ต่อเขาเลยเขาจึงยอมแพ้ และพูดว่า “เอาเถอะ เรื่องคืนนี้ ข้าจะมิบอกผู้ใด เจ้าไปได้แล้ว"ฉงชูโม่ตะลึงไปชั่วขณะ!เดิมทีนางคิดว่าฉินซูจะใช้โอกาสนี้เรียกร้องเรื่องเกินควรแต่ตอนนี้ฉินซูกลับให้นางออกไป นางก็เริ่มสงสัยว่าตนได้ยินผิดไปหรือไม่“ท่านยอมปล่อยหม่อมฉันไปจริง ๆ หรือ?”“มิเช่นนั้นแล้วจะอะไรได้ ข้ามิได้ตั้งใจทำให้เจ้าเดือดร้อน แต่เจ้าก็ต้องรับปากว่าจะมิเอาเรื่องนี้มาคิดบัญชีทีหลังอีก”ฉงชูโม่เงียบ ในใจรู้สึกโกรธเล็กน้อยเมื่อครู่นางถูกมองร่างเปลือยเปล่าตอนนี้อีกฝ่ายกลับไม่มีการกระทำที่เกินเล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 37

    เพียงแต่นางคิดอย่างไรก็คิดมิตกว่า เหตุใดฉินซูที่ถูกนางโจมตีอย่างหนัก ไฉนจึงมิได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย“ช่างเถอะ วันพรุ่งค่อยบีบคั้นถามอีกทีแล้วกัน คืนนี้ ก็ถือว่าคนเจ้าเล่ห์นั่นโชคเข้าข้างแล้วกัน!”หลังจากพึมพำด้วยความโกรธ นางก็ขึ้นเตียงพักผ่อนในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ฉินซูกลับมาที่เรือนนอน หลินชิงเหยาพูดอย่างน้อยใจว่า “องค์รัชทายาท เหตุใดท่านถึงใช้เวลานานนักเล่าเพคะ?”“อ๋อ การแช่น้ำร้อนช่วยคลายความเมื่อยล้าได้ ข้าก็เลยอดมิได้ที่จะแช่น้ำนานหน่อย”ขณะที่ฉินซูพูดเช่นนี้ เขาก็ปีนขึ้นไปบนเตียงและโอบกอดหลินชิงเหยาไว้ในอ้อมแขนของเขาหลินชิงเหยาเอนหัวพิงหน้าอกที่กว้างของเขาอย่างเชื่อฟังและพูดเบา ๆ ว่า “องค์รัชทายาท เมื่อไหร่พระองค์จะเสด็จไปขอหม่อมฉันกับท่านพ่อเล่าเพคะ?”ฉินซูถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เจ้าก็น่าจะรู้ อีกมิกี่เดือนข้าก็จะถูกปลดจากตำแหน่ง เมื่อถึงเวลานั้นข้าก็อาจจะไม่มีแม้แต่ตำแหน่งจวิ้นอ๋อง(1)ด้วยซ้ำ เจ้าจะยังอยู่กับข้าอีกหรือ?"หลินชิงเหยาพูดอย่างจริงใจ “ตอนนี้หม่อมฉันเป็นขององค์รัชทายาทแล้ว มิว่าพระองค์จะถูกลดตำแหน่ง มิว่าพระองค์จะเป็นจวิ้นอ๋องหรือเป็นสามัญชน หม่อมฉั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 38

    หลินชิงเหยาปาดน้ำตาจากหางตา แล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรเพคะ หม่อมฉันแค่รู้สึกซาบซึ้งใจเหลือเกินที่เห็นว่าองค์รัชทายาทมิหวาดระแวงในตัวหม่อมฉันเลย”“โอ้? เจ้าคิดว่าข้าควรจะกังวลเรื่องที่เจ้าวางยาพิษกับขนมอบพวกนี้หรือ?”“จริง ๆ แล้ว ตอนแรกหม่อมฉันก็กังวลอยู่ อย่างไรเสียท่านพ่อของหม่อมฉันก็สนิทกับอ๋องฉี และหม่อมฉันเองก็เคยช่วยท่านอ๋องฉีมาก่อน…”ฉินซูหัวเราะอย่างมิเชื่อหูและพูดว่า “เจ้าช่างเป็นสตรีที่โง่เขลาจริง ๆ อย่างที่เจ้าว่า ตอนนี้เจ้าเป็นคนของข้าแล้วหากข้ายังต้องระแวงเจ้า ข้าจะมิเหนื่อยแย่หรือ?”แม้ว่าเขาจะพูดเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความเชื่อมั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือความแข็งแกร่งในการบ่มเพาะตนของเขา ที่ระดับของเขาแล้วพิษธรรมดาไม่มีผลกับเขาเลยนอกจากนี้เขายังสามารถมองออกทันทีว่ามีพิษอยู่ในอาหารหรือไม่แต่มิว่าอะไรจะเกิดขึ้น หลินชิงเหยาก็ซาบซึ้งใจกับความไว้ใจอย่าง “ไม่มีเงื่อนไข” ของเขาในใจนางยิ่งมุ่งมั่นมากขึ้นว่านางจะติดตามฉินซูตลอดไปมิว่าภายภาคหน้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามฉินซูโบกมือให้นางแล้วพูดว่า “เจ้าอย่ามัวแต่ยืนนิ่งอยู่เลย มานั่งกินด้วยกันเถอะ”“เอ๋? องค์รัชทายาท นี่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 39

    ใบหน้าอันงดงามของฉงชูโม่เปลี่ยนเป็นเย็นชาและถามว่า “นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร? หม่อมฉันฝ่าฝืนกฎเมื่อใดตอนไหนกัน?”เมื่อเห็นการเผชิญหน้าระหว่างทั้งสองคน หลินชิงเหยาจึงรีบเข้ามาไกล่เกลี่ยและพูดว่า “พี่หญิงชูโม่ องค์รัชทายาทมิได้หมายความว่าเจ้าทำผิดกฎเกณฑ์ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว”“หลินชิงเหยา เจ้ายังมิได้ออกเรือนแท้ ๆ กลับพูดแทนเขาแล้วหรือ?”“ข้า… ข้าแค่พูดความจริงก็เท่านั้น” หลินชิงเหยากระซิบด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ“ชิงเหยา แม่ทัพฉงเพิ่งกลับมาจากสนามรบ นางย่อมมีอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นธรรมดา เราอย่าไปถือสานางเลย”“โอ้ หม่อมฉันรับทราบเพคะ”ฉินซูยิ้มด้วยความพึงพอใจและพูดกับฉงชูโม่ “ดูสิ ข้าชอบนิสัยอ่อนหวานของชิงเหยา และนางยังเก่งการครัวอีก นางทั้งเข้าครัวได้และออกงานสังคมได้ แถมยังมีน้ำใจอีก เป็นคนที่น่าชื่นชมจริง ๆ”เมื่อได้ยินฉินซูยกย่องตัวเอง หลินชิงเหยารู้สึกพึงพอใจในใจฉงชูโม่พูดด้วยความมิพอใจเล็กน้อย “แค่เรื่องการครัว ใครๆ ก็ทำได้ มีอะไรน่าคุยโวกัน”ฉินซูถามด้วยความประหลาดใจ “โอ้? แม่ทัพฉงก็รู้เรื่องการครัวด้วยหรือ?”ฉงชูโม่เท้าเอว แล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ “แน่นอนว่าหม่อมฉันทำได้!”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 40

    ฉินซูยิ้มอย่างชั่วร้ายและกระซิบข้างหูของฉงชูโม่ “แน่นอน เป็นเพราะได้เห็นรูปร่างอันน่าภาคภูมิใจของแม่ทัพฉงน่ะสิ!”“ฉ่า!”ใบหน้าอันงดงามของฉงชูโม่พลันเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับพระอาทิตย์ยามตกดินทันทีด้วยความโกรธ นางยกมือขึ้นตบหน้าฉินซู“โอ๊ย! หากเจ้าลงมือ ข้าจะเปิดเผยเรื่องเมื่อคืนออกไปนะ!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฉงชูโม่ก็รีบหยุดมือ และสาปแช่งอย่างเกลียดชังว่า “คนต่ำช้า ไร้ยางอาย!”“แหม เจ้าแอบเข้าไปอาบน้ำในบ่ออาบน้ำของข้า แล้วเจ้ายังแอบดูข้าและหลินชิงเหยาอีก... ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย เจ้ายังกล้าเปิดปากพูดได้อีก!”“ถุย ถุย ถุย ใครแอบดูพวกท่านกัน หม่อมฉันเห็นภาพมิน่าดูนั่นก็ทำให้หม่อมฉันอยากจะควักลูกตาตัวเองออกมาล้างให้สะอาดแล้ว!”“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ควักออกมาสิ!”“ท่าน… หึ หม่อมฉันมิเคยเห็นใครต่ำช้าและไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อนเลย”ฉงชูโม่หันหลังกลับและจากไปด้วยความโกรธนางถึงกับลืมถามเรื่องระดับพลังของฉินซูไปเลยด้วยซ้ำฉินซูยิ้มอย่างภาคภูมิใจและกล่าวว่า “เด็กน้อย เรื่องอย่างนี้ ข้าจะใช้เวลามิกี่อึดใจก็จัดการเจ้าได้อยู่มือแล้ว!”ในเวลาเดียวกันในโถงหลักของสำนักหอดูดาวหลวง เหลยเจ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 41

    “มะเส็ง ฟ้าดินขัดแย้ง นี่คือสัญลักษณ์คำทำนายที่เป็นลางร้ายอย่างยิ่ง…”เขาบ่นแล้วเดินไปที่ประตูโถงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าทางทิศใต้ในแววตาชราเฒ่าและลึกซึ้งนั้น มีร่องรอยของความกังวลที่หาได้ยาก…… ตำหนักบูรพาหลังจากที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยเข้ามา เขาก็ไปเข้าเฝ้าฉินซูก่อนฝ่ายหลังพูดด้วยรอยยิ้ม “ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย ข้าจะไปเดินเล่นที่ตลาด เจ้าไปกับข้าด้วยแล้วกัน”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปเรียกองครักษ์คนอื่น ๆ มาด้วย”หลังจากตู๋กูโฉ่วเยวี่ยพูดจบ เขาก็หันหลังกลับและจากไปฉินซูโบกมือแล้วพูดว่า “เอาพวกทหารองครักษ์ไปเยอะ ๆ คนอื่นคงรู้ว่าข้าเป็นองค์รัชทายาท จะสนุกตรงไหนกันเล่า”“เช่นนั้นองค์รัชทายาททรงหมายความว่า...”“เจ้าไปกับข้าก็พอ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้ายังกลัวว่าจะมีใครมาสร้างปัญหาให้ข้าอีกรึ?”“จริงด้วย เชิญองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ”ทั้งสองกำลังจะออกไปข้างนอก ตอนนั้นเองที่ฉงชูโม่รีบติดตามมาและถามว่า “องค์รัชทายาท พระองค์จะเสด็จไปที่ใดเพคะ?”“ไปเดินเล่นที่ตลาด มิเช่นนั้นอยู่แต่ในตำหนักบูรพาจะเบื่อตายเสียก่อน”“มิได้เพคะ ฝ่าบาทเคยรับสั่งให้หม่อมฉันคอยควบคุมให้ท่านอ่านตำรานักปราชญ์”ฉินซูข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 42

    ฉงชูโม่พูดอย่างน่าเชื่อถือ “แน่นอนว่าหม่อมฉันต้องจับตาดูท่าน มิให้ท่านก่อปัญหาอีก”“ฮ่าฮ่า ด้วยรูปลักษณ์ปานล่มเมืองเช่นเจ้า และรูปร่างหน้าตาเจ้าโดดเด่นกว่าผู้ใด หากติดตามข้าไป เกรงว่าเจ้าจะเป็นคนแรกที่สร้างปัญหา”เมื่อเห็นฉินซูหันกลับมาชมรูปร่างหน้าตาของนาง ฉงชูโม่ก็หน้าแดงโดยมิรู้ตัวนางพึมพำ “อย่างไรหม่อมฉันก็จะไปด้วย นี่เป็นพระราชโองการของฝ่าบาท หากองค์รัชทายาทคิดว่าหม่อมฉันดึงดูดความสนใจเกินไป เช่นนั้นหม่อมฉันจะไปเปลี่ยนชุด”“เช่นนั้นก็รีบไป”ฉงชูโม่รีบหันหลังกลับและเดินไปที่ห้องของตนมินานหลังจากนั้น นางก็เปลี่ยนมาสวมอาภรณ์บุรุษ และผมสีดำมันวาวของนางก็ถูกมัดด้วยปิ่นปักผมไม้แม้ว่าในเวลานี้นางจะแต่งตัวเป็นบุรุษ แต่ทั้งใบหน้าที่บอบบางไร้ที่ติของนาง และรูปร่างอันสะโอดสะองของนางก็ยังสะดุดตาเป็นพิเศษใครก็ตามที่มีสติปัญญาเพียงเล็กน้อยก็ยังสามารถบอกได้ว่า นางเป็นสตรีปลอมตัวเป็นบุรุษยิ่งไปกว่านั้น การสวมอาภรณ์ของบุรุษนี้ดูจะมิเข้ากับนางเอาเสียเลยฉินซูบ่นอย่างมิสบอารมณ์ “แม่ทัพฉง เจ้าคิดว่าเพียงเจ้าเปลี่ยนมาสวมอาภรณ์ของบุรุษ คนอื่นจะดูมิออกว่าเจ้าเป็นสตรีรึ?"“เช่นนั้นท่านคิด

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 704

    ฉินอู๋ต้าวผงกศีรษะให้ฉินอวี่เล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “อ๋องฉู่ ในเมื่อชูโม่เข้าใจตัวเจ้าผิดไป เจ้าก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งเถิด”“ลูกรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอวี่ประสานมือคำนับ แล้วกล่าวช้า ๆ ว่า “ชูโม่ ตอนที่ลงใต้ไปยังเจียวโจว ยามนั้นข้าประมาทเลินเล่อ ถูกคนสนิทขโมยตราประจำตัวไป ภายหลังจึงได้ทราบว่าเจ้าคนสารเลวนั่นถูกเติ้งหม่างซื้อตัวไปนานแล้วแม้แต่หูก่วงเซิงและคนอื่น ๆ ก็ยังแปรพักตร์ไปเข้าข้างหนานเยวี่ย กว่าข้าจะรู้ตัวทัพหนานเยวี่ยก็บุกเข้าประตูเมืองเจียวโจวแล้วด้วยความจำเป็น ข้าจึงต้องถอยกลับมาก่อน จากนั้นก็เดินทางทั้งวันทั้งคืน เมื่อกลับมาถึงหลงเฉิงก็รีบทูลเรื่องนี้ให้เสด็จพ่อทรงทราบในทันที”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็แค่นยิ้มหยันทันที “ท่านอ๋องฉู่ ท่านทรงคิดว่าแค่โยนความผิดทั้งหมดไปให้คนสนิทขอท่านแล้วเรื่องก็จะจบลงง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ?”ฉินอวี่โต้กลับว่า “สิ่งที่ตัวข้าพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง จะเรียกว่าโยนความผิดได้อย่างไร?”ฉงชูโม่มิได้โต้เถียงกับเขาต่อ แต่หันไปกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ฝ่าบาท ที่ทะเลตงไห่ ท่านอ๋องฉู่...”ยังมิทันที่นางจะพูดจบ ขันทีน้อยคนหนึ่งก็วิ่งเข้าม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 703

    “นึกมิถึงว่าเขาจะหนีรอดไปได้ เขาก็มีฝีมือเหมือนกันนี่ ดูท่าทางจะเตรียมการมาอย่างดีเชียว”“องค์รัชทายาท เมื่อกลับถึงหลงเฉิงแล้วเข้าเฝ้าฝ่าบาท จะทูลเรื่องที่อ๋องฉู่สมคบคิดก่อกบฏหรือไม่เพคะ?”“ทูลสิ ต้องทูลอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเรามีทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ ยิ่งกว่านั้นการที่เขาสมคบคิดก่อกบฏก็เป็นความจริง อย่างไรก็ต้องทูล”“แต่ยามนี้อ๋องฉู่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยนิสัยระแวดระวังของฝ่าบาท เกรงว่าพระองค์จะมิทรงเชื่อพวกเราเต็มร้อยกระมังเพคะ”ฉินซูกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “หลังจากเรื่องของอ๋องฉู่แดงขึ้นมา เขาก็หายตัวไป นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นการหนีความผิด พวกเรากราบทูลตามความจริง บวกกับคำให้การของเหล่าคนสนิทของอ๋องฉู่และทหารห้าหมื่นนายที่ไม่มีรายชื่อในทะเบียน ก็เพียงพอที่จะตัดสินความผิดของอ๋องฉู่ได้แล้ว”“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นคนนั้น หม่อมฉันให้พวกตงฟางไป๋นำทางกลับหลงเฉิงล่วงหน้าไปแล้วเพคะ”ฉงชูโม่พูดพลางรู้สึกกระวนกระวายใจแปลก ๆจากนั้น พวกเขาก็พักค้างคืนที่เมืองหลงโย่วก่อนนอน ฉินซูสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังมหาศาลที่แผ่ออกมาจากห้องฝั่งตรงข้ามที่นั่นคือห้องของจีอันด้วยคว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 702

    เซวียหมิงมองไปยังทิศทางที่ฉินซูและพรรคพวกจากไปพลางพึมพำกับตัวเอง“คิดมิถึงเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สามารถกลืนกินปราณเลือดอาถรรพ์ได้ จีอันหรือ? ข้าจะจำเจ้าเอาไว้!”“แล้วก็ฉินซู เจ้าคอยข้าก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนอยู่ต่อมิไหว จะตายก็มิได้!”“แค่นี้ก็น่าจะพอให้ข้าใช้แล้ว”เขาพูดพลางมองลูกแก้วสีแดงอมม่วงในมือภายในลูกแก้วนั้นคือปราณเลือดอาถรรพ์จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ของเขาคือต้องการหามหาปุโรหิตแห่งสำนักจันทราโรหิต เพื่อขอยืมปราณเลือดอาถรรพ์มาใช้แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณนี้ ก็เห็นเฉินซีถูกฉงชูโม่ล่อลวงไปแล้ว ส่วนสาวกของสำนักจันทราโรหิตก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เขาจึงฉวยโอกาสจัดการสาวกที่เหลือของสำนักจันทราโรหิต จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำจนได้พบกับแท่นบูชาต่อมาก็ฉวยโอกาสที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมิทันระวังจัดการอีกฝ่ายจนสลบไป และเก็บรวบรวมปราณเลือดอาถรรพ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายจากนั้นเซวียหมิงก็หันหลังเดินออกจากที่นี่ไปเช่นกันขณะที่เขาเดินผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเท้าเหยียบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเมื่อก้มลงมอง ก็พบว่าเป็นขลุ่ยกระดูกสีขาวบริสุทธิ์เขายกมันขึ้นมาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 701

    ในเวลานี้ แสงสีเลือดใต้รอยแตกของผนึกได้หายไปหมดจนแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดจีอันลูบก้นพลางเดินเข้ามาเขาหยิบกระดาษยันต์สีเหลืองสองแผ่นออกมาจากอกเสื้อแล้วแปะลงบนรอยแตกของผนึกนั้นลงไปจากนั้นก็เดินไปข้าง ๆ ยกก้อนหินขนาดใหญ่กว่าวัวทั้งตัวขึ้นมาวางทับกระดาษยันต์ทั้งสองแผ่นนั้นไว้ฉินซูได้แต่มองตาค้าง ก้อนหินนั้นอย่างน้อยก็หนักสักตันสองตันกระมัง แต่จีอันกลับยกมันขึ้นมาได้ด้วยมือเปล่าเขามองด้วยความสงสัยเต็มใบหน้าแล้วถามว่า “จีอัน ตอนนี้เจ้าอยู่ระดับใด?”“ข้าน้อยมิรู้ อาจารย์มิได้บอกข้าน้อย”“มิจริงน่า? ระดับของตัวเจ้าเอง เจ้าจะมิรู้ได้อย่างไร?”จีอันพยักหน้าอย่างซื่อ ๆ แล้วถามกลับว่า “ปราณบริสุทธิ์ภายในของท่านเข้มข้นและประหลาดถึงเพียงนี้ พระองค์เล่าอยู่ระดับใด?”ฉินซูยักไหล่ “ข้าก็มิแน่ใจ”“หึ มิพูดก็ช่าง ท่านแข็งแกร่งเพียงนี้ อาจารย์คงแก่จนเลอะเลือนแล้ว ถึงให้ข้าน้อยลงใต้มาคุ้มครองท่าน”จีอันบ่นพึมพำแล้วย่อเข่าลง จากนั้นร่างก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดุจกระสุนปืนใหญ่ ชั่วพริบตาก็กระโจนขึ้นไปข้างบนฉินซูอดสงสัยมิได้ว่า เจ้านี่น่าจะเลือกเส้นทางสายฝึกกาย มิฉะนั้นจะหนังหนาถึงเพียงนี้ได้อย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 700

    ท่ามกลางสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของฉินซู ร่างของจีอันก็พุ่งลงไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ กระแทกเข้ากับพื้นหุบเหวลึกเบื้องล่าง'ปัง' เสียงดังสนั่น พื้นดินถูกกระแทกจนเกิดหลุมขนาดใหญ่แต่จีอันกลับมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!พลันเห็นเขาปีนขึ้นมาจากหลุมแล้วตบ ๆ ปัดฝุ่นออกจากตัวอย่างมิยี่หระราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเห็นภาพนั้น ฉินซูยกย่องเขาอย่างสุดซึ้ง ถามด้วยความสงสัยว่า “ชูโม่ จีอันผู้นี้หนังหนาไปหน่อยกระมัง? เขาอยู่ระดับใดหรือ?”“หม่อมฉันก็มิแน่ใจ แต่ในบรรดาศิษย์ทั้งเจ็ดคนของหัวหน้าโหรหลวงเขาแข็งแกร่งที่สุดแล้วเพคะ”“เช่นนี้นี่เอง เจ้าอยู่ดูแลตู๋กูโฉ่วเยวี่ยที่นี่ไปนะ ข้าจะลงไปช่วยเขา”ฉินซูพูดจบก็กระโดดลงไปเช่นกันต่างจากจีอัน ฉินซูในยามนี้ราวกับขนนกเบาหวิวที่ลอยลงไปอย่างแผ่วเบาเมื่อมาถึงก้นหุบเหว เขาก็ตกใจเมื่อพบว่าพื้นของแท่นบูชานี้เต็มไปด้วยอักขระเวทสีแดงในยามนี้อักขระเวทเหล่านี้ล้วนเปล่งแสงสีแดงเลือด ทั้งมีเสน่ห์แบบลึกลับและทั้งแปลกประหลาดจีอันมองฉินซูผาดหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านคอยอยู่ตรงนั้น อย่าเข้ามา”พูดจบเขาก็สาวเท้าเข้าไปหาแสงโลหิตนั้นอย่างรวดเร็ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 699

    แรงกดดันน่าสะพรึงกลัวที่แฝงอยู่ในนั้น แม้จะอยู่ห่างไกลก็ยังรับรู้ได้อย่างชัดเจนฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ประหลาด เกรงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว มิควรอยู่ที่นี่แล้ว รีบไปกันก่อนเถิด”“มิได้ ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยยังอยู่ที่เขาหัวสิงห์ ที่นั่นต้องเกิดเรื่องกระไรขึ้นแน่ รีบไปดูกันเถิดเพคะ”ฉงชูโม่ยังมิทันจะพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปยังทิศทางของเขาหัวสิงห์แล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินซูก็จำต้องตามไปด้วยเมื่อสังเกตว่าความเร็วของฉงชูโม่เร็วกว่าเดิมมาก ฉินซูก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ มิได้เจอกันนาน พลังของเจ้าเพิ่มขึ้นเร็วถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”“หม่อมฉันกินโอสถลับของสำนักหอดูดาวหลวง โอสถลูกกลอนนั้นสามารถเพิ่มความคล่องแคล่วของกระบวนท่าได้เพคะ”“เช่นนี้นี่เอง!”ฉินซูจดจำเรื่องนี้ไว้ในใจเงียบ ๆทั้งสองใช้ทักษะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วราวกับภูตผี เพียงแค่ชั่วครู่ก็มาถึงตีนเขาหัวสิงห์เมื่อเงยหน้ามอง แสงสีแดงฉานที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ายังคงแรงกล้ามิได้เจือจางลงแม้แต่น้อย ในความว่างเปล่านั้นเต็มไปด้วยเมฆดำและเสียงฟ้าร้องดังสนั่นเมื่อเห็นสถานการณ์อันน่าพิศวงนี้ ฉินซูก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 698

    ฉินซูกล่าวด้วยท่าทางจริงจังว่า “เฮ้อ เจ้าอย่าได้หึงหวงนักเลย เจ้าเป็นถึงพระชายาองค์รัชทายาทของข้านะ”“ถุย ใครเขาตอบตกลงเป็นพระชายาองค์รัชทายาทของท่านกัน อย่าแม้แต่จะคิดเชียว”“ชูโม่อย่าล้อเล่นสิ ข้าพูดจริงนะ เจ้ายังมิเข้าใจความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าอีกหรือ?”ฉงชูโม่หยุดเดิน พลันหันขวับกลับไปกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉินซู หากท่านมิอยากให้ฝ่าบาททรงระแวง ท่านก็ควรกลืนคำพูดเมื่อครู่นี้กลับลงท้องไปเสีย”ฉินซูขมวดคิ้ว “ข้าชอบเจ้า แล้วมันผิดด้วยหรือ?”เมื่อเห็นฉินซูแสดงความในใจ ฉงชูโม่ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกยินดีเล็กน้อย แต่ก็ยังคงส่ายหน้าพลางอธิบายอย่างอดทน“ผิดสิเพคะ ท่านลองไตร่ตรองดู ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท กลับคิดจะรับแม่ทัพขั้นหนึ่งมาเป็นพระชายาองค์รัชทายาท หากองค์จักรพรรดิทรงทราบเรื่องนี้ พระองค์จะทรงรู้สึกอย่างไร? อย่าลืมว่าเรื่องวันชุนเฟินปีหน้ายังมิจบสิ้น ดังนั้นมิว่าจะมองอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้เพคะ”“แต่… แต่ข้าได้ยึดครองหนานเยวี่ยทั้งหมดมาเป็นของต้าเหยียน ด้วยความดีความชอบเช่นนี้ การรับเจ้ามาเป็นพระชายาองค์รัชทายาทก็มิ...”ยังมิทันที่ฉินซูจะพูดจบ เขาก็เข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 697

    เมื่อเห็นว่าศพแห้งทำกระไรฉินซูมิได้ เสียงขลุ่ยของเฉินซีก็เปลี่ยนทำนองกะทันหัน ศพแห้งเหล่านั้นหันหลังวิ่งหนีป่าราบทันที“ชีวิตน้อย ๆ ของเจ้ากับศพแห้งเหล่านี้ ข้าจะเอาไปทั้งหมด!”เมื่อฉินซูพูดจบ ก็ตบฝ่ามือใส่เฉินซีรูม่านตาของเฉินซีหดเล็กลง ยังมิทันได้ลงมือก็ 'ฟู่' ถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดในทันใดเมื่อเห็นเช่นนั้น ชายชุดดำก็ใจหายวาบ รีบวิ่งหนีสุดชีวิตโดยมิลังเลฉินซูหัวเราะเย็นชา จากนั้นก็โบกมือชายชุดดำวิ่งออกไปได้มิไกลนัก ร่างก็ชะงักกึก จากนั้นก็ถูกแรงดึงดูดลากให้ลอยกลับไปยังมิทันเข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น คอของเขาก็ถูกฉินซูบีบเอาไว้เสียแล้ว“บัดนี้เพิ่งคิดจะหนี มิคิดว่าสายเกินไปหน่อยรึ?” ฉินซูมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยชายชุดดำตกใจจนหน้าซีดเผือด กล่าวด้วยความยากลำบากว่า “อย่า อย่าฆ่าข้าเลย....”“ใครส่งเจ้ามา?”“ประ… ประมุขแห่งยุทธภพหนานเยวี่ย”ฉินซูหัวเราะเย็นชา “สำเนียงหลงเฉิงของเจ้าชัดถ้อยชัดคำเช่นนี้ ใกล้ตายแล้วยังคิดจะหลอกข้าอีกรึ? ในเมื่อเจ้ามิรู้สำนึก ข้าก็จะให้เจ้ารู้จักสิ่งที่เรียกว่าตายทั้งเป็น”เมื่อเขาพูดจบ ก็จิ้มไปที่จุดตันจงบนหน้าอกของชายชุดดำอย่างแรงเสี้ยวขณะต่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 696

    ชายชุดดำพยักหน้าขึงขัง “ข้าเห็นกับตาตัวเอง จะเป็นเรื่องเท็จได้อย่างไร”เฉินซีกลับหัวเราะแล้วส่ายหน้า กล่าวอย่างมิเห็นด้วยว่า “ตบยอดฝีมือระดับสวรรค์ให้กลายเป็นหมอกเลือดด้วยฝ่ามือเดียว เป็นไปได้อย่างไร ข้าว่านี่เป็นเพียงกลอุบายพวกภาพมายาเท่านั้น”ชายชุดดำคิดดูแล้วก็เห็นด้วยเฉินซีมองฉินซูอย่างดูถูก “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด ยามนี้ข้างกายข้ามียอดฝีมือระดับสวรรค์เพิ่มมาอีกคน เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เจ้ายังมิรีบยอมจำนนแต่โดยดีอีก รอกระไรอยู่เล่า?”“ใช่แล้ว ฉินซู เจ้าฆ่าตัวตายไปเสียยังดีเสียกว่า เช่นนั้นจะได้มิต้องทนทุกข์ทรมานมากนัก”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “พวกเจ้าสองคนพูดมากเกินไปแล้ว!”พูดจบ เขาก็หันกลับไปถามฉงชูโม่ว่า “จะเก็บไว้สอบปากคำหรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็ชะงักไปแต่แล้วก็ส่ายหน้าส่วนเฉินซีโกรธขึ้งจนแค่นหัวเราะออกมาแทน “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด เจ้านี่ช่างปากกล้าเหลือเกิน สงสัยจะอวดอ้างเกินจริงเสียแล้วกระมัง ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก ข้าก็จะให้เจ้าได้เห็นวิธีการอันน่าสะพรึงกลัวของสำนักจันทราโรหิตของข้า!”จากนั้นเขาก็หยิบขลุ่ยกระดูกออกมาจากอกเสื้อก่อ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status