นอกจากเรื่องนี้ ยังมีประเด็นสำคัญงูไร้หัวย่อมมิอาจอยู่ได้ตู้เหวินยวน องค์ชายสี่ ขุนนางบุ๋นทั้งสองคนนี้นำหน้าตามหลังกันลงนรกไปแล้วขุนนางบุ๋นทุกคนขาดเสาหลัก ไม่กล้าเหิมเกริมอีก ในระยะนี้ ล้วนเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่กล้าล่วงเกินฮ่องเต้หวู่ฮ่องเต้หวู่นั่งอยู่บนเก้าอี้มังกร พึงพอใจต่อท่าทีตอบสนองของเหล่าขุนนางมาก พยักหน้าเบาๆหลายปีมานี้ราชสำนักโกลาหลไม่ว่าเราพูดอันใด ก็มักมีขุนนางกระโดดออกมา คัดค้านอย่างไร้สมองบัดนี้ ในที่สุดก็เงียบสงบลงเสียที!“เรียกตัวอ๋องตงไห่มาเข้าเฝ้า”ฮ่องเต้หวู่เปล่งเสียงเครียดเว่ยซวินตะโกนเสียงดังแหลมสูง “ฝ่าบาทมีพระราชโองการ เรียกตัวอ๋องตงไห่...”ได้ยินดังนั้นเหล่าขุนนางล้วนตกตะลึงพรึงเพริดแท้จริงแล้ว พวกเขาได้ยินข่าวลือมาบางส่วน พูดว่าองค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่ได้รับพระราชโองการเรียกตัวเข้าเมืองหลวงคิดไม่ถึงว่า ข่าวลือเป็นความจริงหลี่เทียนฉี่มาแล้วจริงๆ!เหตุใดฝ่าบาทจึงทำเช่นนี้?ราชสำนักเพิ่งสงบลงได้ไม่กี่วัน ไม่กลัวว่าหลี่เทียนฉี่มาแล้ว จะเกิดคลื่นพายุฝนโลหิตหรอกหรือ?ขุนนางบุ๋นได้ยินข่าวนี้ สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความดีใจพวกเขาส่วนใหญ่ ล
“เสด็จพ่อเอ๋ย เสด็จพ่อ...”หลี่หลงหลินพูดไม่ออกอย่างที่สุด “เพื่อเงินเพียงเท่านี้ ถึงกับชักศึกเข้าบ้าน! คิดน้อยเกินไปแล้ว จะต้องสูญเสียอย่างใหญ่หลวงเพราะเรื่องเล็ก...”ทว่าหลี่หลงหลินเองก็เข้าใจความคิดของฮ่องเต้หวู่ราชสำนักขาดแคลนเงินหนึ่งล้านตำลึงเงิน ไม่ใช่จำนวนน้อยๆยิ่งไปกว่านั้นหลี่เทียนฉี่ยังมอบให้ หากไม่เอาก็เสียดาย!ส่วนความอันตรายที่ซ่อนอยู่ ฮ่องเต้หวู่กลับไม่ใส่ใจหลี่เทียนฉี่เข้าเมืองมาเพียงลำพัง มิได้นำทหารมาด้วยเขาจะยังสร้างปัญหาอันใดได้?หลี่เทียนฉี่ค่อยๆ ลุกขึ้น สายตาตกลงบนตัวหลี่หลงหลิน ยิ้มเย็น “เจ้าเก้า เจ้าอายุน้อยที่สุด ไม่สะดุดตาที่สุด! ข้าเกือบลืม หน้าตาเจ้าไปแล้ว!”“คิดไม่ถึงว่าการต่อสู้ชิงบัลลังก์นี้ เจ้าจะกลายเป็นผู้ชนะคนสุดท้าย ได้รับแต่งตังเป็นรัชทายาท!”“ช่างน่ายินดีน่าเฉลิมฉลองจริงๆ!”หลี่หลงหลินเอ่ยปากอย่างถ่อมตน “พี่ใหญ่ ข้าเพียงวาสนาดี...”หลี่เทียนฉี่ยิ้มเย็น จู่ๆ ก็กล่าวกดดัน “เป็นรัชทายาท ไม่ใช่เพียงวาสนาดีก็ใช้ได้! ในเมื่อเจ้าเป็นองค์ชายของต้าเซี่ย ก็สมควรทำตัวเป็นแบบอย่าง ช่วยแบ่งเบาความกังวลของเสด็จพ่อ!”“ข้าเพิ่งนำเงินหนึ่งล้านต
ในท้องพระโรงขุนนางทั้งหลายล้วนหันมองหลี่หลงหลินด้วยสีหน้างุนงงนี่มันเรื่องอะไรกัน?หลี่เทียนฉี่เพิ่งเข้าเมืองหลวง ก็เปิดศึกโจมตีหลี่หลงหลินหลี่หลงหลินรัชทายาทคนใหม่ ยามอยู่ต่อหน้ารัชทายาทที่ถูกปลด กลับถึงขนาดแสดงท่าทีขี้ขลาด?นี่ไม่ใช่ลักษณะนิสัยของเขา!หลี่เทียนฉี่ตกตะลึงจนเหม่อไปเขารู้สึกคล้ายปล่อยหมัด ลงบนนุ่น จะว่าเจ็บก็ไม่เชิงฮ่องเต้หวู่เผยสีหน้าชื่นชมดีใจ “เจ้าเก้า เจ้าคิดได้เช่นนี้ เราปลื้มใจยิ่งนัก! อย่างไรเสียเจ้าก็อายุยังน้อย ควรรับฟังคำสั่งสอนจากพี่ใหญ่เจ้าให้มาก”หลี่หลงหลินยิ้มเย็นในใจรับฟังคำสั่งสอนอะไร?วางแผนชั่วเยี่ยงไร ก่อกบฏเยี่ยงไรงั้นหรือ?หรือว่าจะเป็นรัชทายาทถูกปลดเยี่ยงไรงั้นหรือ?ทว่า หลี่หลงหลินกลับเผยสีหน้าเคารพนบนอบ ค้อมตัวให้หลี่เทียนฉี่ “ภายภาคหน้าข้าจะต้องเห็นพี่ใหญ่เป็นแบบอย่าง เรียนรู้จากพี่ใหญ่แน่!”หลี่เทียนฉี่ถูกโจมตีจนรับมือไม่ทัน ใบหน้าแดงเรื่อ “รัชทายาท เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้...”ฮ่องเต้หวู่เห็นสองพี่น้องเข้ากันได้ดี ก็ซาบซึ้งใจมาก เกือบหลั่งน้ำตา “ช่างเป็นภาพพี่น้องรักใคร่กันอย่างลึกซึ้งภาพหนึ่ง! เจ้าเก้า เราเลือกเจ้าเป็น
หลี่หลงหลินพูดเนิบๆ “ข้านำเงินออกมาง่าย ๆ เช่นนี้ ก็ไม่มีความหมายอะไร! มิสู้ พวกเรามาเดิมพันกันดีหรือไม่!”หลี่เทียนฉี่เอ่ยอย่างประหลาดใจ “เจ้าจะเดิมพันกันเช่นไร?”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ง่ายมาก! หากข้านำเงินออกมามากกว่าพี่ใหญ่สิบตำลึง ขุนนางบุ๋นบู๊ทุกคน ก็ต้องเอาเงินออกมาหนึ่งตำลึง!”ทุกคนล้วนตกตะลึงนี่คือวิธีเดิมพันอะไรกัน?เทียบกันว่าใครมีเงินมากกว่าหรือ?มิใช่ว่า หลี่หลงหลินนำเงินหนึ่งแสนตำลึงออกมา เหล่าขุนนางทุกคนล้วนต้องออกเงินหนึ่งหมื่นตำลึงหรอกหรือ?นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลยโดยเฉพาะขุนนางมือสะอาดที่พร่ำบอกว่าตนเองซื่อตรงเหล่านั้น แม้ว่าเป็นขุนนางคดโกงร่ำรวยอย่างมาก แต่ยามเข้าประชุมราชสำนักกลับแต่งกายทั้งปะทั้งเย็บมา ทุกวันล้วนพร่ำบ่นว่ายากจนต่อหน้าฮ่องเต้หวู่หากให้พวกเขานำเงินหนึ่งหมื่นตำลึงออกมา นั่นทรมานเสียยิ่งกว่าฆ่าพวกเขา!หลี่หลงหลินเห็นเหล่าขุนนางเงียบงันไม่พูดจา ยิ้มเย็นพูดว่า “ฮึๆ ไม่กล้าหรือ? เช่นนั้นพวกเจ้าก็หุบปาก!”เจ้ากรมคลังหน้าแดงไปถึงหู แก้ต่างขึ้นว่า “ราชสำนักเป็นสถานที่ทรงเกียรติมากเพียงใด องค์ชายท่านมาเดิมพันที่นี่ ช่างเล่นอะไรไร้สาระจริงๆ!”หล
เหล่าขุนนางต่างถกเถียงกันโดยเฉพาะเหล่าขุนนางบุ๋น แต่ละคนล้วนมีสีหน้ากระตือรือร้น โทสะสุมทรวงฮ่องเต้หวู่เอียงหน้า สบมองเว่ยซวินขันทีใหญ่หนึ่งปราดเพียะ!เว่ยซวินฟาดแส้ในมือทีหนึ่ง สะบัดลงบนพื้นเงาวาววับ ตวาดเสียงเฉียบ “เงียบ!”กลุ่มขุนนางเงียบลงในทันใดสายตาฮ่องเต้หวู่กวาดมองกลุ่มขุนนาง เปล่งเสียงเยียบเย็นน่าครั่นคร้าม “เจ้าเก้า หากเจ้านำเงินออกมาไม่ได้ เราจะลงโทษเจ้าข้อหาหลอกลวงเบื้องสูง!”แท้จริงแล้วฮ่องเต้หวู่ก็รู้สึกอึดอัดภายในใจเจ้าเก้าเด็กคนนี้ เหตุใดจึงอาจหาญถึงเพียงนี้ ขวัญกล้าเดิมพัน กับองค์ชายใหญ่และเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ในราชสำนักหลายวันก่อน เขายังร้องไห้เพราะความจนกับเราอยู่เลยมิใช่หรือ?เพิ่งผ่านไปไม่กี่วันในระยะเวลาสั้นๆ หรือว่าภายในมือเขาจะมีเงินแล้ว?ได้ยินถ้อยคำนี้ของฮ่องเต้หวู่ เหล่าขุนนางบุ๋นต่างดีใจหลอกลวงเบื้องสูง แม้ว่าสำหรับหลี่หลงหลินรัชทายาทคนนี้ ไม่สะทกสะท้านแต่ระยะนี้หลี่หลงหลิน โอหังเกินไปแล้วจริงๆ!องค์ชายใหญ่กลับเมืองหลวง ก็ลิดรอนอำนาจของหลี่หลงหลินนี่คือสัญญาณดี!องค์ชายคนอื่น อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่หลงหลินองค์ชายใหญ่กลับไม่เหมือนก
ปรมาจารย์ยอดเยี่ยมเยี่ยงไร ก็ไม่สามารถเทียบกับอาจารย์ของฮ่องเต้เสิ่นชิงโจวได้!หลี่เทียนฉี่สำรวจรายงานของเจ้าเก้าอย่างละเอียด ตกตะลึงพรึงเพริดอย่างต่อเนื่องเจ้าเก้าคนนี้ ต่อให้เป็นตัวไร้ประโยชน์ก็เป็นผู้มีพรสวรรค์ในหมู่ผู้มีพรสวรรค์!ที่แท้ เขาแสร้งทำตัวต่ำต้อยเพื่อเก็บซ่อนความสามารถ เหมือนหมาป่าที่แสร้งเป็นหมูเพื่อจับเสือ เจ้าเก้าคิดค้นสิ่งของออกมาไม่น้อยยกตัวอย่างเช่นน้ำตาล สุราเหินเวหา ยังมีหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยที่ได้รับความนิยมในระยะอันใกล้นี้สินค้าเหล่านี้ล้วนมีโอกาสเติบโต หากให้เวลาอีกสักหน่อย จะต้องไม่มีปัญหาแน่!แท้จริงแล้วก่อนหน้านี้เจ้าเก้าก็ใช้กลโกง จัดตั้งโรงเรียนทหารซีซาน หาเงินได้มหาศาล มั่งคั่งร่ำรวยทว่าหลังไฟมังกรเผายุ้งฉาง เมืองหลวงขาดแคลนธัญพืช เพื่อบรรเทาทุกข์ เจ้าเก้าใช้เงินไปจนหมดแล้วสถานการณ์การเงินของภูเขาทิศประจิม ไม่สู้ดีนักในรายงานนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ยังไม่ต้องพูดถึงหนึ่งล้านตำลึงบัดนี้หลี่หลงหลิน แม้แต่สามแสนตำลึงก็นำออกมาไม่ได้!การเดิมพันครั้งนี้ หลี่หลงหลินต้องพ่ายแพ้แล้ว!เมื่อครู่ เขาต้องแสร้งทำเป็นโอ้อวดแน่!จากนั้
ท้องพระโรง เสียงเงียบกริบขุนนางทั้งหลาย ตกตะลึงลืมตาอ้าปากค้างพวกเขาล้วนไม่กล้าเชื่อสายตาของตน!สองล้านตำลึง!ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใช่ตั๋วเงิน แต่เป็นเงินทองของจริงตั๋วเงิน อาจปลอมขึ้นมาได้เงินทองของจริง ไม่สามารถปลอมแปลงได้!ขณะเดียวกัน เหล่าขุนนางต่างโล่งอก มีหลี่เทียนฉี่รับผิดชอบแทนหาไม่แล้วพวกเขาทุกคน ล้วนต้องสูญเสียมหาศาล นำเงินออกมาชดใช้สำหรับขุนนางส่วนมาก นี่มิใช่จำนวนน้อยแต่มากเพียงพอให้พวกเขาล้มละลายเงินมากถึงเพียงนี้ ทั้งหมดล้วนรวมอยู่บนตัวหลี่เทียนฉี่ จึงกลายเป็นจำนวนมหาศาลชวนให้คนตกใจ!ทั้งหมดสิบล้านตำลึง“รัชทายาทร้ายกาจเกินไปแล้ว!”“องค์ชายใหญ่เพิ่งกลับถึงเมืองหลวง ก็ถูกรัชทายาทขูดรีดเอาเงินก้อนโต!”“สิบล้านตำลึง หากข้าเป็นองค์ชายใหญ่ หัวใจจะต้องหลั่งเลือดแน่!”“ไม่เพียงแค่หัวใจหลั่งเลือด สมองเองก็มีเลือดออก!”เหล่าขุนนางต่างพากันไว้อาลัยหลี่เทียนฉี่หลี่เทียนฉี่วิญญาณหลุดลอยไปแล้ว เสียงสั่นเครือ “ข้า...เมื่อครู่พูดว่าจะช่วยรับผิดชอบแทนพวกเจ้า แต่มิได้พูดว่ารับผิดชอบแทนพวกเจ้าทั้งหมด! อย่างมากที่สุด ข้าก็ช่วยพวกเจ้าออกได้แค่ครึ่งหนึ่ง!”? ? ?เห
ฮ่องเต้หวู่ชะงักไป พูดอย่างไม่เข้าใจ “ความดีความชอบของเรา? อย่างไรกัน?”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “เสด็จพ่อ ท่านจะต้องแปลกใจแน่ เงินสองล้านตำลึงนี้ ได้มาจากที่ใด เหตุใดลูกสามารถร่ำรวยได้ในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน!”ฮ่องเต้หวู่พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง “อันที่จริงเราเองก็อยากรู้คำตอบ”หลี่หลงหลินหัวเราะคิกๆ “เงินเหล่านี้ แท้จริงแล้วล้วนเป็นเงินสินบนของโจวซิงพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่ตกตะลึงเหม่อไปเงินสินบนของโจวซิง?นั่นก็มีเหตุผล!นี่ไม่ใช่เงินของหลี่หลงหลิน แต่เป็นเงินของราชสำนัก เป็นเงินของเรา!นั่นก็หมายความว่า หลี่หลงหลินมิได้ออกเงินแม้ตำลึงเดียว ยังไม่ต้องพูดว่าหลอกหลี่เทียนฉี่ สร้างชื่อเสียงให้ตน!จับหมาป่าด้วยมือเปล่า!หากหลี่เทียนฉี่รู้เรื่องนี้ จะต้องโมโหจนกระอักโลหิตแน่!“เจ้าเก้า...”ฮ่องเต้หวู่ตบบ่าหลี่หลงหลิน พูดอย่างจริงใจ “เจ้าช่างทำให้เรา ตกตะลึงดีใจครั้งแล้วครั้งเล่าจริงๆ! แต่ความกล้าของเจ้า มากเกินไปแล้ว! หวังว่าความตกตะลึงดีใจนี้ จะไม่กลายเป็นตกตะลึงขวัญผวาในสักวันหนึ่ง!”หลี่หลงหลินค้อมตัว “ลูกซื่อสัตย์ภักดีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินตะวันจันทราล้วนสามารถเป็นพยานได้!”ใบหน้าฮ
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ