ฮ่องเต้หวู่ทรงปลื้มปีติและซาบซึ้งตรัสว่า “ฮองเฮา ลำบากเจ้าแล้ว! เจ้าจงอยู่ที่ตำหนักฉางเล่อไปก่อน รอให้สงครามสงบ ข้าจะสร้างตำหนักหลังใหญ่ให้เจ้า!”หลินฮองเฮาส่ายหน้า “หม่อมฉันไม่ต้องการตำหนัก! มีเงินสร้างตำหนัก สู้ลดภาษีให้ชาวบ้านจะดีกว่าเพคะ”ฮ่องเต้หวู่ชะงัก ตรัสเสียงหนักแน่น “ฮองเฮา คำพูดของเจ้า ข้าจำไว้แล้ว!”หลินฮองเฮาซบลงบนอกของฮ่องเต้หวู่ พลางกล่าวอีกว่า “แล้วลูกของเราเล่าเพคะ? ตอนนี้เขาเป็นรัชทายาท สมควรจะอยู่ที่ตำหนักองค์รัชทายาท แต่หม่อมฉันได้ยินมาว่า ตำหนักองค์รัชทายาทนั้นเก่าทรุดโทรม ไม่สามารถอยู่อาศัยได้แล้ว”ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วแน่น ถอนหายใจ “ข้าก็กำลังกลุ้มใจเรื่องนี้อยู่”อย่างที่หลินฮองเฮาได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้หลี่หลงหลินเป็นเพียงองค์ชาย อาศัยอยู่ที่จวนตระกูลซู เหมือนกับเป็นเขยแต่งเข้า ก็ไม่เป็นไร!แต่ตอนนี้เขาเป็นรัชทายาท จะยังอาศัยอยู่ที่จวนตระกูลซูได้อย่างไร?หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป รัชทายาทแห่งต้าเซี่ยจะไม่กลายเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าไปอยู่บ้านฝ่ายหญิงหรือ?รัชทายาทย่อมต้องอยู่ที่ตำหนักองค์รัชทายาท!แต่ปัญหาก็คืออดีตรัชทายาทหลี่เทียนฉี่ได้ก่อกบฏ ตำหนักอง
ซูเฟิ่งหลิงตะลึงงันนางมัวแต่ดีใจ ไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้ตนเองเป็นชายารัชทายาท ต้องออกจากจวนตระกูลซู ไปอยู่ที่ตำหนักองค์รัชทายาทแม้ว่าจวนตระกูลซูกับตำหนักองค์รัชทายาทจะอยู่ไม่ไกล ขี่ม้าไปก็ใช้เวลาเพียงหนึ่งก้านธูปแต่ตำหนักองค์รัชทายาทก็คือวังหลวงเมื่อเข้าสู่ประตูวัง ก็เหมือนจมลงสู่ทะเลลึกต่อไปหากตนเองอยากจะออกจากวัง มาพบพี่สะใภ้ทั้งหลาย และฮูหยินผู้เฒ่าซู ก็คงจะยากแล้ว!“น้องหญิง!”“ข้าไม่ให้เจ้าไป!”เดิมทีซุนชิงไต้ยังเล่นกับซูเฟิ่งหลิงอยู่ เมื่อได้ยินข่าวนี้ ก็ร้องไห้โฮออกมาทันที ดึงมือของนางไว้ ไม่ยอมให้ไปกงซูหว่านขมวดคิ้วแน่น ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจแน่นอนว่าคนที่ไม่มีความสุขที่สุด ก็คือซูเฟิ่งหลิง“ข้าไปเป็นชายารัชทายาทที่ตำหนักองค์รัชทายาท แล้วท่านย่าจะทำอย่างไร?”“พี่สะใภ้ทั้งหลายไม่ช้าก็เร็วก็ต้องแต่งงานใหม่”“ถึงตอนนั้น ท่านย่าอยู่คนเดียวที่จวนตระกูลซู โดดเดี่ยวเดียวดาย จะทำอย่างไรได้!”ในหัวของซูเฟิ่งหลิงปรากฏภาพฮูหยินผู้เฒ่าซูที่แก่ชราไร้ที่พึ่ง น้ำตาไหลออกมา“ไม่ได้!”“ข้าต้องไปคุยกับหลี่หลงหลิน!”“ไม่ให้เขาไปตำหนักองค์รัชทายาท!”ขณะที่ซูเฟิ
อีกอย่างวังหลวงมีกฎระเบียบมากมาย ตนเองออกจากวังก็มีคนคอยจับตาดู รายงานให้ฮ่องเต้หวู่ทราบไม่มีอิสระเลยสักนิดจะเหมือนกับการอยู่ที่จวนตระกูลซู อยากทำอะไรก็ทำได้อย่างสบายใจที่ไหนกัน“เสด็จพ่อ!”หลี่หลงหลินกล่าวอย่างชอบธรรม “ลูกไม่เห็นด้วย!”ฮ่องเต้หวู่ตะลึง “เจ้าไม่อยากอยู่ในตำหนักองค์รัชทายาทหรือ? ทำไม?”หลี่หลงหลินย่อมไม่พูดความจริง ว่าเป็นเพราะต้องการเกลี้ยกล่อมพี่สะใภ้ทั้งหลาย ใช้ความใกล้ชิดให้เป็นประโยชน์เขาเหลือบมองไปรอบๆ หาเหตุผลที่ฟังดูดี “นี่เป็นช่วงเวลาที่วุ่นวาย! ภายนอกมีหมานอี๋จ้องโจมตี ภายในมีกบฏคอยก่อกวน! การคลังของราชสำนักก็ย่ำแย่ รายรับไม่พอกับรายจ่าย!”“ในเวลานี้ หากลูกเห็นแก่ความสุขสบายส่วนตัว ก่อสร้างตำหนักใหญ่โต”“จะให้ประชาชนอยู่ตรงไหน?”“จะให้แผ่นดินอยู่ตรงไหน?”ฮ่องเต้หวู่ตกใจ “เจ้าไม่อยากอยู่ในตำหนักองค์รัชทายาท? แล้วเจ้าจะอยู่ที่ไหน?”หลี่หลงหลินกวาดสายตาไปยังซูเฟิ่งหลิง และพี่สะใภ้ทั้งหลายที่งดงามราวกับดอกไม้ พลางยิ้ม “ลูกคิดว่าอยู่ที่จวนตระกูลซูก็ดีแล้วพ่ะย่ะค่ะ”บรรดาสตรีในจวนตระกูลซูได้ยินดังนั้น ในใจก็อบอุ่นขึ้นมาโดยเฉพาะซูเฟิ่งหลิง กำหมัดท
ขมับของฮ่องเต้หวู่เต้นตุบๆ “ฟังจากที่เจ้าพูด เจ้าก็แค่อยากจะเป็นคนไร้ค่าใช่หรือไม่? แล้วเช่นนี้เจ้าจะเป็นรัชทายาทไปเพื่ออะไร?”หลี่หลงหลินทำหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ พูดพึมพำ “ลูกก็ไม่ได้อยากเป็นรัชทายาทเองเสียหน่อย เห็นชัดๆ ว่าเป็นเสด็จพ่อที่อ้อนวอน ลูกถึงได้ยอมรับอย่างยากลำบาก!”“หรือไม่เช่นนั้น เสด็จพ่อก็ทรงถอนรับสั่งเถิด!”“ลูกเป็นองค์ชายเก้าที่ไร้ค่า ก็ดีอยู่แล้ว!”ฮ่องเต้หวู่ทรงกริ้วจนแทบคลั่ง ดวงตาแดงก่ำ “เจ้าจะทำให้ข้าโมโหจนตายเลยใช่หรือไม่? อะไรคือข้าขอให้เจ้าเป็นรัชทายาท ทั้งๆ...”เมื่อตรัสมาถึงตรงนี้ ฮ่องเต้หวู่ก็ทรงชะงัก ตรัสต่อไม่ออกเพราะสิ่งที่หลี่หลงหลินพูดคือความจริงตำแหน่งรัชทายาทนี้เป็นฮ่องเต้หวู่ที่ขอร้องให้เขารับจริงๆ!นี่มันเรื่องอะไรกัน?องค์ชายทั้งแปด แย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทกันจนหัวร้างข้างแตก พี่น้องหมางใจกันแต่เจ้าเก้าคนนี้สิ ข้าขอให้เขาเป็นรัชทายาท เขากลับไม่สนใจช่างน่าโมโหนัก!เมื่อเห็นฮ่องเต้หวู่ทรงกริ้ว หลี่หลงหลินก็ปลอบประโลม “เสด็จพ่อ พระองค์ทรงคิดให้ดีเถิด ลูกไม่ได้เป็นคนไร้ค่าจริงๆ เสียหน่อย แต่เพื่อประชาชน เพื่อแผ่นดิน จึงต้องแสร้งทำเป็นคนไร้
ฮ่องเต้หวู่ทรงตรัสถามด้วยเสียงสั่นเครือหลี่หลงหลินพยักหน้า กล่าวอย่างหนักแน่น “ใช่พ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่ตรัสต่อ “ถ้าเช่นนั้น หากมีเงิน โรคภัยไข้เจ็บของต้าเซี่ยก็จะหายไป ราชบัลลังก์ของข้าก็จะมั่นคง?”หลี่หลงหลินพยักหน้า “ใช่พ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่จ้องมองหลี่หลงหลิน “เจ้าสามารถช่วยข้าหาเงินได้?”หลี่หลงหลินยิ้ม “ใช่พ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่ทรงยื่นมือออกมา ตบลงบนไหล่ของหลี่หลงหลิน ตรัสอย่างตื่นเต้น “ลูกรัก! เพียงเจ้าหาเงินได้ เช่นนั้นเจ้าอยากทำอะไรก็ทำ ใช้ชีวิตเหลวแหลกให้เต็มที่เถิด!”หลี่หลงหลินโค้งคำนับ “ขอบพระทัยเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ!”อันที่จริง ตั้งแต่แรกเริ่ม หลี่หลงหลินก็คิดแผนนี้ไว้การปกครองบ้านเมือง ช่างเหนื่อยยากเพียงใด!ตื่นแต่เช้ามืด ต้องประชุมทุกวันไม่พอยังต้องตรวจฎีกา ทำงานจนเหนื่อยสายตัวแทบขาดที่สำคัญคือ มีประโยชน์หรือไม่?ฮ่องเต้หวู่ทรงทุ่มเททำงานหนักมาหลายปี ประชุมทุกวัน เหนื่อยแทบตายชาวบ้านก็ยังด่าว่าพระองค์เป็นฮ่องเต้ทรราชมิใช่หรือ?บรรดาองค์ชายทั้งหลายผลัดกันแสดงบทบาท ใครจบการแสดง อีกคนก็ขึ้นเวที ต่างคนต่างคิดจะก่อกบฏกันทั้งนั้นฮ่องเต้หวู่ทรงทำเช่นนี้ ล้
ฮ่องเต้หวู่ทรงมีสีหน้าตกตะลึง จ้องมองหลี่หลงหลินเดิมทีเขาคิดว่า เจ้าเก้าแค่ลุ่มหลงในรูปโฉม อยู่ที่จวนตระกูลซูนานวันเข้า จึงเกิดความรู้สึกดีๆ กับพี่สะใภ้ทั้งหลายนี่เป็นเรื่องปกติธรรมดามนุษย์มิใช่พืชพรรณ จะไม่มีความรู้สึกได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น สตรีในจวนตระกูลซู ล้วนงดงาม มีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่าว่าแต่หลี่หลงหลินแม้แต่ฮ่องเต้หวู่ หากอยู่ใต้ชายคาเดียวกันนานวันเข้า ก็ยากที่จะไม่หวั่นไหวอย่างไรก็ตามก็เป็นเพียงความหวั่นไหว!ชายชาติบุรุษไยต้องกังวลว่าจะไร้ภรรยา?ตอนนี้หลี่หลงหลินเป็นรัชทายาท ภายภาคหน้าเมื่อได้เป็นฮ่องเต้ จะมีสนมนางในมากมาย จะไม่ได้สตรีใดเชียวหรือ?ไยต้องแต่งงานกับพี่สะใภ้ทั้งหลายด้วย?ดังนั้นฮ่องเต้หวู่จึงคิดว่าเพียงตักเตือน ก็จะทำให้หลี่หลงหลินตาสว่าง กลับตัวกลับใจได้คาดไม่ถึงหลี่หลงหลินจะดื้อรั้นเพียงนี้ ถึงขั้นจะตัดขาดกับเขาเพื่อพี่สะใภ้ทั้งหลาย?“เจ้าเก้า...”“เจ้า... มีใจให้พวกนางจริงๆ หรือ ถึงขั้นจะแต่งงานกับพวกนาง?”ฮ่องเต้หวู่ไม่ได้ทรงกริ้ว ตรัสถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมหลี่หลงหลินพยักหน้า น้ำเสียงจริงใจ “เสด็จพ่อ ลูกสัญญากับฮูหยินผู้เฒ่าซู
หัวใจของหลี่หลงหลินเบิกบานหากเป็นฮองเฮาหลู่ นางไม่มีทางอนุญาตอย่างแน่นอนแต่ฮองเฮาองค์ปัจจุบัน คือพระมารดาของตน รักใคร่เอ็นดูตนยิ่งนัก ถึงขั้นตามใจทุกอย่าง เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้วส่วนฮองไทเฮา นางทรงมีพระชนมายุมาก ความคิดอ่านโบราณ เกรงว่าจะมีแนวโน้มคัดค้านสูงอย่างไรก็ตาม หลี่หลงหลินมีความสัมพันธ์อันดีกับฮองไทเฮา หาทางเอาอกเอาใจนางให้มากหน่อย พูดจาหว่านล้อม น่าจะจัดการได้ฮ่องเต้หวู่ทรงถอนหายใจ “อันที่จริง ฝ่ายฮองไทเฮา ข้าช่วยเจ้าได้ ไม่ใช่เรื่องยาก! ที่สำคัญคือ ขุนนางทั้งหลาย! โดยเฉพาะเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋น พวกเขาไม่มีทางอนุญาตอย่างแน่นอน!”“เจ้าจะโน้มน้าวพวกเขา ยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์!”สีหน้าของหลี่หลงหลินเคร่งขรึม หัวใจดิ่งลงสู่ห้วงลึกคำพูดนี้ของฮ่องเต้หวู่ ล้วนออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจถูกต้องคนที่จัดการได้ยากที่สุด ก็คือเหล่าขุนนางในราชสำนักหลี่หลงหลินมีความสัมพันธ์ที่แย่มากกับขุนนางฝ่ายบุ๋น ราวน้ำกับไฟการจะโน้มน้าวพวกเขา แทบจะเป็นไปไม่ได้หรือว่า ตนกับพี่สะใภ้ทั้งสี่ จะมีวาสนาต่อกันเพียงเท่านี้?กงซูหว่านกับซุนชิงไต้ก็ช่างเถิด ยังไม่ได้เปิดเผยความในใจกับพวกนางทั
แม้ว่าการให้กำเนิดทายาทจะเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งแต่หลี่หลงหลินก็ยังไม่เข้าใจว่า สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการแต่งงานกับพี่สะใภ้ทั้งสี่ฮ่องเต้หวู่ทรงเห็นความสงสัยของหลี่หลงหลิน กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้าเก้า เจ้าชาญฉลาดมาตลอด แต่คราวนี้กลับสะเพร่าเสียได้! เจ้าคิดจริงหรือว่าการไปหาสตรีตระกูลซูจะเป็นเรื่องยาก? แค่ทำให้พวกนางตั้งครรภ์ลูกของเจ้า เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วมิใช่หรือ?”“ถึงตอนนั้น ข้าอยากจะรู้ว่า ผู้ใดกันที่กล้าคัดค้าน?”“อย่าว่าแต่สตรีตระกูลซู ล้วนเป็นสตรีที่มีหน้ามีตา!”“แม้จะเป็นเพียงนางกำนัลที่มีฐานะต่ำต้อย หรือแม้แต่นางคณิกาในสำนักการสังคีต”“ตราบใดที่ตั้งครรภ์มังกร ก็ต้องเข้าวัง เสวยสุขมิใช่หรือ?”“เป็นอย่างไร?”“ให้ความกล้าแก่ขุนนางสิบส่วน พวกเขาจะกล้าปล่อยให้ทายาทมังกรตกทุกข์ได้ยากหรือ?”หลี่หลงหลินราวกับถูกฟ้าผ่า ตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์เช่นนี้ก็ได้หรือ?ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงาน บีบบังคับให้ขุนนางต้องยอมรับ?สมแล้วที่เป็นฮ่องเต้หวู่!ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด!ปัญหาที่ตนคิดว่าไร้ทางแก้ พระองค์กลับแก้ไขได้อย่างง่ายดายหลี่หลงหลินดีใจจนแทบคลั่ง โค้งคำนับฮ่องเต้หวู่ ตรัสอย่
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ