Share

บทที่ 720

Author: จันทร์กระจ่างภูผา
ฮ่องเต้หวู่ปีติยินดีจนบ้าคลั่ง

ยิ่งกว่าความทรงพลัง เขามีความสุขกับคำว่าต้นทุนต่ำสามคำนี้ยิ่งกว่า!

เหตุใดปืนใหญ่สายฟ้าเหินเวหาถึงได้ทรงอานุภาพ?

มิใช่เพราะมันมีพลังทำลายล้างมากกว่าปืนใหญ่หงอี

แต่เป็นเพราะมันราคาถูก!

อาวุธเทพไร้เทียมทาน ต่อให้ทรงพลังเพียงใด ก็มีเพียงชิ้นเดียว

ในสนามรบ จะไปเทียบกับอาวุธมาตรฐานที่ผลิตจำนวนมากได้อย่างไร?

“ฮ่าๆๆ!”

ฮ่องเต้หวู่หัวเราะลั่น “มีขวดเพลิงนี้! ทหารต้าเซี่ยก็เหมือนกับเสือติดปีก ยากที่ผู้ใดจะต้านทานได้!”

ในหัวของเขา ได้จินตนาการถึงฉากที่กองทัพต้าเซี่ย กำจัดชนเผ่าป่าเถื่อนทางเหนือจนหนีแตกกระเจิง

หลี่หลงหลินเมื่อได้เปรียบแล้วย่อมไม่ยอมผ่อนปรน หันไปมองหัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้าด้วยรอยยิ้มเย็นชา “ท่านหัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้า ท่านยังมีสิ่งใดจะกล่าวอีกหรือไม่?”

ใบหน้าของหัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้า ซีดเผือดจนยากจะมอง เขาไม่สามารถกล่าวสิ่งใดได้อีก

ในขณะนั้นเอง ผู้ช่วยเสนาบดีกรมคลังก้าวออกมากล่าวว่า “ฝ่าบาท องค์ชายเก้าได้คิดค้นอาวุธทรงพลังอีกชนิดหนึ่งขึ้นมา สมควรแก่การยินดีอย่างยิ่ง! แต่...ปัญหาเร่งด่วนในขณะนี้คือเรื่องยุ้ง
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 721

    ยุ้งฉางถูกเผาหมดแล้ว จะมีน้ำมันอะไรเหลืออีก? ต่อหน้าทุกคน เจ้ากรมคลังส่ายหน้าพลางหัวเราะอย่างขมขื่น:"ฝ่าบาท กระหม่อมเองก็อยากจะออกไปบรรเทาทุกข์เพื่อแบ่งเบาภาระของฝ่าบาท! มีใจแต่ไร้กำลังจริงๆ! ที่จริงแล้ว ไม่ใช่แค่กระหม่อมเท่านั้น กระหม่อมเชื่อว่าเหล่าขุนนางท่านอื่นๆ ก็คงรู้สึกเช่นเดียวกันใช่หรือไม่?" "พวกกระหม่อมก็เป็นเพียงปุถุชนธรรมดาเท่านั้น!" "แม่ศรีเรือนทำครัวไร้ข้าวสารไม่ได้ฉันใด!" "เราก็ไม่สามารถเสกอาหารออกมาได้ฉันนั้น!" ฮ่องเต้หวู่ไม่พอใจมาก เอ่ยด้วยความโกรธว่า:"ถ้าเช่นนั้นเจ้าก้าวออกมายืนตรงนี้ทำไม? หรือคิดจะล้อเล่นกับเราอย่างนั้นหรือ?" เจ้ากรมคลังรีบโค้งคำนับแล้วเอ่ยว่า"กระหม่อมมิกล้า! กระหม่อมแม้ไม่มีความสามารถพอจะบรรเทาทุกข์ได้ แต่ในท่ามกลางราชสำนักแห่งนี้ ยังมีบุคคลหนึ่งที่สามารถรับภาระหนักนี้ได้ และช่วยพยุงต้าเซี่ยให้อยู่ยืนยงได้!" ฮ่องเต้หวู่ประหลาดใจ แล้วเอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า:"คนผู้นี้คือใคร? ทำไมเราถึงไม่รู้ว่ามีคนที่มีความสามารถเช่นนี้อยู่ในหมู่ขุนนาง?" เจ้ากรมคลังแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วหันสายตาไปหาหลี่หลงหลิน:"คนที่กระหม่อมอยากเสนอ...ก็คือองค์ชายเก้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 722

    หลี่หลงหลินออกจากท้องพระโรง กลับมายังจวนตระกูลซู ทันทีที่ก้าวเข้าประตู บรรดาสตรีในตระกูลซูก็กรูกันเข้ามาห้อมล้อม “องค์ชายเก้า สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?” “เป็นไฟมังกรเผายุ้งฉางหลวงจริงหรือไม่?” “มีคนพูดว่าเป็นเพราะผีสางทำให้เกิดเรื่องร้ายๆ ทำให้คนตกใจกลัวกันไปหมด!” “โดยเฉพาะกลุ่มผู้อพยพนอกเมือง เริ่มรวมตัวก่อความวุ่นวายแล้ว!” เสียงซักถามของพวกนางดังเซ็งแซ่อยู่รอบตัวหลี่หลงหลิน หลี่หลงหลินเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด:“ครั้งนี้ สถานการณ์ร้ายแรงมาก! เสด็จพ่อทรงแต่งตั้งข้าเป็นผู้แทนพระองค์รับหน้าที่บรรเทาภัยพิบัติ!” บรรดาสตรีต่างชะงักไปทันที ผู้แทนพระองค์บรรเทาภัยพิบัติ? นี่ไม่ใช่ภารกิจที่ดีเลย ถ้าจัดการผิดพลาด อาจร้ายแรงถึงหัวขาดได้! ฮูหยินผู้เฒ่าซูเดินเข้ามาถือไม้เท้าหัวมังกรในมือ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า:“องค์ชายเก้า ตำแหน่งผู้แทนพระองค์บรรเทาภัยพิบัตินี้ชัดเจนว่าเป็นตำแหน่งของแพะรับบาป! ปกติท่านเป็นคนฉลาดหลักแหลม ทำไมครั้งนี้ถึงได้...โง่...” หลี่หลงหลินยิ้มอย่างขมขื่น:“ฮูหยินผู้เฒ่า! วิกฤตข้าวยากหมากแพงในเมืองหลวงครั้งนี้ บางทีต่อไปในหนังสือประวัติศาสตร์อา

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 723

    หลี่หลงหลินกลับส่ายหน้าอย่างช้าๆ: “ไม่ได้!” ซูเฟิ่งหลิงถึงกับอึ้ง:“ทำไมล่ะ? พ่อค้าข้าวพวกนี้มันก็แค่พวกดูดเลือดเห็นแก่ได้! ประชาชนมากมายไม่มีอาหารกิน แต่พวกมันกลับไม่ยอมเปิดยุ้งฉางปล่อยธัญพืช กลับกันยังเก็งกำไร กว้านซื้อธัญพืชจนราคาพุ่งสูง ทำกำไรบนความทุกข์ยากของชาติ!” “ตอนนี้ราคาธัญพืชพุ่งขึ้นไปถึงสิบห้าเท่าของเมื่อวานแล้ว จะมีประชาชนสักกี่คนที่รับไหว?” หลี่หลงหลินพูดด้วยเสียงหนักแน่น:“พวกพ่อค้าธัญพืชเหล่านี้เลวจริง! แต่การฆ่าพวกเขา ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา! สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือเร่งส่งธัญพืชจากที่อื่นมาทางน้ำให้เร็วที่สุด” บรรดาสตรีต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับหลี่หลงหลิน การฆ่าพ่อค้าธัญพืชนั้นเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่การขนธัญพืชจากที่อื่นมา คือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ! ขณะนี้ตามบ้านเรือนของประชาชนยังพอมีธัญพืชกักตุนอยู่บ้าง แต่หากอีกไม่กี่วันธัญพืชที่เก็บไว้ และไม่มีธัญพืชใหม่ส่งเข้ามา ประชาชนจะต้องอดตายอย่างแน่นอน! เมื่อถึงตอนนั้น จะเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้น! “พี่สะใภ้ใหญ่!” หลี่หลงหลินหันไปหาลั่วอวี้จู๋:“ตระกูลลั่วเป็นพ่อค้ารายใหญ่ทางใต้! ท่านช่วยใช้สายสัมพัน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 724

    “หยุดก่อน!” ในขณะนั้น เสียงตื่นตระหนกก็ดังขึ้นมา ผู้ช่วยเจ้ากรมคลังวิ่งอย่างกระเซอะกระเซิงเข้ามาหา ก่อนจะคุกเข่าต่อหน้าหลี่หลงหลิน:“องค์ชายเก้า พวกเขาไม่รู้จักสถานะของท่าน ขอได้โปรดอย่าถือสาพวกเขาเลย...” เหล่าทหารที่เฝ้ายุ้งฉางเห็นเช่นนั้น ต่างรีบคุกเข่าลงกับพื้น ร่างกายสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด หลี่หลงหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย:“ข้าไม่ถือสากับพวกเขาหรอก” เมื่อเอ่ยจบ ผู้ช่วยเจ้ากรมคลังก็พาหลี่หลงหลินเข้าไปในกระโจมที่สร้างขึ้นชั่วคราว “ในยุ้งฉางยังเหลือธัญพืชอยู่เท่าไร?” หลี่หลงหลินนั่งลง สายตามองตรงไปข้างหน้าราวกับเปลวเพลิง ผู้ช่วยเจ้ากรมคลังอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบเสียงเบา:“ไม่ถึงห้าหมื่นฉื่อ...” หลี่หลงหลินขมวดคิ้ว สีหน้าดูเครียดมาก เหลือธัญพืชเพียงแค่ห้าหมื่นฉื่อ เกรงว่าคงประคองสถานการณ์ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน! ดูท่าวิกฤตครั้งนี้จะร้ายแรงกว่าที่เขาคาดคิด แต่ สิ่งที่ต้องทำก่อนอื่นใดคือการหาความจริงเรื่องไฟมังกรไหม้ยุ้งฉาง! เพราะธัญพืชหลายแสนฉื่อถูกเผาวอดในคืนเดียว มันช่างน่าสงสัยยิ่งนัก จะต้องมีเบื้องหลังบางอย่างที่ซ่อนอยู่! หลี่หลงหลินเหลื

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 725

    บางคนบอกว่ามีมังกรเพลิงหนึ่งตัว บ้างก็ว่าสองตัวหรือสามตัว... กระทั่งมีผู้ดูแลยุ้งฉางคนหนึ่ง เมื่อทบทวนความจำ บอกว่าเห็นมังกรเพลิงสิบกว่าตัว บินวนอยู่ในอากาศ สร้างความน่าหวาดหวั่น จากนั้น หลี่หลงหลินจึงสอบถามชาวบ้านที่มาช่วยดับไฟอีกหลายคนคำตอบที่ได้จากพวกเขาก็แทบจะเหมือนกัน ในกระโจม หลี่หลงหลินนั่งขมวดคิ้ว ใช้นิ้วบีบหว่างคิ้วอย่างครุ่นคิด ซูเฟิ่งหลิงยืนอยู่ข้างๆ ดวงตาคู่งามเป็นประกายด้วยความสงสัย ก่อนพูดขึ้นว่า:“องค์ชายเก้า คนมากมายล้วนพูดตรงกันว่าพวกเขาเห็นไฟมังกรเผายุ้งฉาง! หรือว่า...บนโลกนี้มีมังกรเพลิงอยู่จริง?” “ถ้ามันมีพลังร้ายกาจถึงเพียงนี้ หากจับมังกรเพลิงมาใช้ในสงคราม จะไม่กลายเป็นอาวุธที่ไร้เทียมทานหรอกหรือ?” หลี่หลงหลินหัวเราะกับความคิดของซูเฟิ่งหลิง พร้อมเอ่ยว่า:“ความคิดไม่เลวเลย! แต่ทั้งนี้ต้องมีมังกรเพลิงอยู่จริงเสียก่อน!” ซูเฟิ่งหลิงอึ้งเล็กน้อย ก่อนถามด้วยความไม่เข้าใจ:“ท่านหมายความว่า...มังกรเพลิงไม่มีอยู่จริง?” หลี่หลงหลินพยักหน้า กล่าวด้วยความมั่นใจ:“แน่นอนว่าไม่มีอยู่จริง!” ซูเฟิ่งหลิงเบิกตากว้าง พูดอย่างสับสน:“แต่คนมากมายพูดตรงกันหมดว่าพ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 726

    “นี่...” แม้ซูเฟิ่งหลิงจะไม่ค่อยฉลาดนัก แต่คราวนี้นางก็เข้าใจความหมายของหลี่หลงหลิน ธัญพืชสามแสนฉื่อที่เก็บไว้ในยุ้งฉาง แถมยังเป็นธัญพืชใหม่ ถูกเผาหมดเกลี้ยงในคืนเดียวโดยไม่มีเศษซากเหลือเลย เป็นไปได้อย่างไร! แม้จะเกิดไฟไหม้จริง ก็ควรมีข้าวที่ไหม้ดำหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเหลือเลย เผาวอดไร้ร่องรอย! เว้นเสียแต่ไฟนี้จะไม่ใช่ไฟธรรมดา แต่เป็นไฟสามสมุทร! กล่าวได้ว่า โลกนี้อาจมีปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่มนุษย์ธรรมดาไม่อาจจินตนาการถึง หรือกระทั่งมีเทพเจ้าและมังกรเพลิงอยู่จริง! แต่หลี่หลงหลินได้สรุปจากคำพูดของผู้ดูแลยุ้งฉางไว้แล้ว มังกรเพลิงไม่มีอยู่จริง ทุกสิ่งที่พวกเขาเล่าเป็นเพียงภาพในจินตนาการของพวกเขาเอง! เมื่อความเป็นไปได้ทุกอย่างถูกตัดทิ้ง คำตอบสุดท้ายที่เหลืออยู่ แม้ว่าจะดูเหลือเชื่อเพียงใด นั่นก็คือความจริง! ไฟไหม้ยุ้งฉางทางเหนือในครั้งนี้ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ไฟมังกรเผายุ้งฉางหลวงในประวัติศาสตร์หลายครั้งที่ผ่านมา ไม่ใช่ภัยพิบัติธรรมชาติ แต่เป็นการกระทำของมนุษย์! มีคนตั้งใจสร้างสถานการณ์หลอกลวงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความผิดของตัวเอง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 727

    “ในช่วงวิกฤตเช่นนี้ ใครเล่าจะกล้าสละสิ่งที่ตนมี เปิดยุ้งฉางส่งธัญพืชมาที่เมืองหลวงเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่นี่?” “คนเราไม่เห็นแก่ตัว ฟ้าดินย่อมลงโทษ!” “สิ่งที่บิดาของท่านทำ ก็ไม่ได้ผิดแปลกอะไร!” ลั่วอวี้จู๋กำหมัดแน่นด้วยความโกรธพลางกล่าวว่า:“แต่... แต่พวกเขาเห็นคนจะตายแล้วไม่ช่วย แล้วประชาชนในเมืองหลวงล่ะ? จะปล่อยให้พวกเขาตายเพราะความอดอยากอย่างนั้นหรือ? องค์ชายเก้า ข้าพอมีวิธีหนึ่ง!” หลี่หลงหลินเลิกคิ้วถาม:“วิธีอะไร?” ลั่วอวี้จู๋เสนอว่า:“ในยามวิกฤตใหญ่เช่นนี้ มีเพียงการร่วมแรงร่วมใจและสามัคคีเท่านั้นที่จะผ่านพ้นไปได้! ท่านสามารถโน้มน้าวฝ่าบาทให้ราชสำนักใช้ชื่อเสียงเป็นเครื่องล่อ ให้บรรดาพวกเศรษฐีและพ่อค้าร่ำรวยบริจาคธัญพืชออกมา!” “หากพวกเขายินยอมบริจาค ราชสำนักสามารถสร้างอนุสาวรีย์จารึกชื่อของพวกเขาให้จดจำในประวัติศาสตร์ได้ เพื่อเป็นที่ยกย่องตลอดกาล!” หลี่หลงหลินมองลั่วอวี้จู๋นิ่งๆ ด้วยสายตาลึกซึ้งก่อนเอ่ยว่า:“พี่สะใภ้ใหญ่ วิธีนี้ดูเหมือนจะดี แต่ความจริง... มันใช้ไม่ได้ผลเลย!” ลั่วอวี้จู๋ตกใจ:“ทำไมล่ะ?” หลี่หลงหลินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“ตอนนี้ราคาธัญพืชในเมืองหลวงทะล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 728

    “กระตุ้นราคาธัญพืชให้สูงขึ้นหรือ?” ลั่วอวี้จู๋ทำหน้ามึนงง มองหลี่หลงหลินด้วยความไม่เชื่อ ในหัวขององค์ชายเก้าคิดอะไรอยู่กันแน่? ราคาธัญพืชในตอนนี้พุ่งสูงขึ้นถึงยี่สิบเท่าของราคาปกติแล้ว! ยิ่งไปกว่านั้น การหยุดชะงักของการขนส่งและการกักตุนธัญพืชของเหล่าพ่อค้าในเมืองหลวง ประชาชนไม่มีปัญญาซื้อธัญพืชกันแล้ว เสียงบ่นไม่พอใจดังระงมไปทั่ว ในฐานะผู้แทนพระองค์ที่ได้รับมอบหมายให้บรรเทาภัยพิบัติ ไม่แจกจ่ายธัญพืชหรือควบคุมราคาธัญพืชไม่ให้สูงขึ้นก็ว่าแย่แล้ว แต่กลับจะดันให้ราคาธัญพืชสูงขึ้นไปอีก หรือว่าท่านก็คิดจะเป็นเหมือนพ่อค้าโลภมากเหล่านั้น ที่หวังหาเงินที่เปื้อนเลือดประชาชน? หลี่หลงหลินมองลั่วอวี้จู๋ด้วยสายตาแน่วแน่ น้ำเสียงหนักแน่น:“พี่สะใภ้ ท่านเชื่อข้าเถอะ! ข้าได้ตั้งปณิธานไว้ว่าจะช่วยชีวิตประชาชนให้ได้!” ผ่านไปครู่ใหญ่ ลั่วอวี้จู๋จึงยอมจำนน นางกัดริมฝีปากแน่น กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล:“องค์ชายเก้า ครั้งนี้ข้าจะเชื่อท่าน! แต่... ขอให้ท่านอย่าทำให้ข้าผิดหวัง!” หลี่หลงหลินเอ่ยด้วยยิ้ม:“พี่สะใภ้ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่มีวันทำให้ท่านผิดหวัง!” ลั่วอวี้จู๋ไม่พูดอะไรต่อ และเ

Latest chapter

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1076

    “ดี...”ฮ่องเต้หวู่กลั้นความคิดอยู่นาน กว่าจะเปล่งเสียงออกมาได้เพียงคำเดียว แต่เมื่อนึกว่ามันดูจืดชืดเกินไป จึงเสริมขึ้นอีกว่า “ดีมาก!”หลี่หลงหลินรู้สึกพูดไม่ออกในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมเสิ่นชิงโจวถึงต้องการยุยงให้ฮ่องเต้หวู่ก่อกบฏบิดาไร้ประโยชน์ของตนผู้นั้น ไม่เพียงแค่ละเลยด้านการปกครองด้วยวัฒนธรรมเท่านั้นเห็นได้ชัดว่าเขาไม่เข้าใจหลักขงจื๊อแม้แต่น้อย แถมยังอ่านปรัชญาแห่งจิตใจไม่ออกเลยด้วยซ้ำ ถึงขนาดไม่รู้จะกล่าวคำชมเชยอย่างไร กลัวว่าเอ่ยออกไปมากกว่านี้จะเผลอทำให้ตัวเองโป๊ะแตกอย่างไรก็ตาม ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นตัวเขาก็ไม่ต่างกันโทษฐานที่ตัวเองไม่มีวัฒนธรรม อาศัยแต่การลอกเลียนแบบปรัชญาแห่งจิตใจของปราชญ์หวังหยางหมิงนั้น ลึกซึ้งอย่างแท้จริงหลี่หลงหลินใช้เวลาสามวัน คัดลอกปรัชญาแห่งจิตใจฉบับดั้งเดิมตามความทรงจำ อันที่จริง เขาก็แค่เข้าใจหลักการใหญ่ๆ อย่าง “รู้แล้วลงมือทำ” “ศึกษาสิ่งต่างๆ เพื่อเข้าถึงความรู้” “มุ่งสู่จิตสำนึกแห่งคุณธรรม”ส่วนที่ลึกซึ้งกว่านั้น หลี่หลงหลินก็ไม่ค่อยเข้าใจ ต้องอาศัยให้เหล่าศิษย์ไปอ่านปรัชญาแห่งจิตใจและเข้าใจด้วยตัวเองจะบรรลุสู่ความเป็นปราชญ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1075

    หลี่หลงหลินส่ายหัวเบาๆ “ท่านผิดแล้ว! ในใจของทุกคนล้วนมีสำนึกดี! หากรู้แล้วลงมือทำ มุ่งสู่จิตสำนึกแห่งคุณธรรม ทุกคนก็สามารถบรรลุสู่ความเป็นปราชญ์ สร้างความรุ่งเรืองให้กับหลักขงจื๊อไปหมื่นชั่วอายุคน!”รู้แล้วลงมือทำ มุ่งสู่จิตสำนึกแห่งคุณธรรม?ร่างกายของเสิ่นชิงโจวสั่นสะท้าน สีหน้าปรากฏความไม่อยากเชื่อท้ายที่สุด เขาก็เป็นปราชญ์ผู้รอบรู้ตำรา ถึงแม้เพราะความเห็นแก่ตัวจะทำให้เขาเดินออกนอกเส้นทางแต่ความรู้ของเขาก็ยังคงเป็นของจริงแน่นอนว่าเมื่อหลี่หลงหลินกล่าวคำว่า “รู้แล้วลงมือทำ มุ่งสู่จิตสำนึกแห่งคุณธรรม” ทั้งเจ็ดคำออกมา เสิ่นชิงโจวก็เข้าใจได้ทันทีว่านี่คือวิถีแห่งปราชญ์!“น่าเสียดาย...”“หากข้ายังหนุ่มกว่านี้สักหลายสิบปี บางทีก็อาจเห็นด้วยกับปรัชญาแห่งจิตใจ และเดินบนวิถีแห่งปราชญ์นี้”“แต่ข้าแก่ชราแล้ว ไม่อาจหวนกลับได้!”“ทำได้เพียงสู้จนถึงที่สุด!”เสิ่นชิงโจวส่ายหัว มองไปที่หลี่หลงหลิน “พูดไปก็ไร้ประโยชน์! ข้าจะไม่โต้เถียงกับท่านด้วยวาจา! นำงานเขียนของท่านมาให้ข้าดูเสียก่อน แล้วค่อยว่ากัน!”หลี่หลงหลินส่ายหัว ปฏิเสธโดยตรง “ท่านไม่คู่ควร!”เสิ่นชิงโจวโกรธจนอับอาย หน้าแดงก่ำ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1074

    คำพูดของหลี่หลงหลินประโยคนี้ เปรียบเสมือนเสียงระฆังยามเช้า และกลองยามเย็น ทำให้ผู้คนตื่นตระหนกและฉุกคิดสำนักปราชญ์ของพวกเจ้า ไม่ต้องการผูกขาดการสอบขุนนาง สร้างตระกูลขุนนาง ก่อตั้งชนชั้น เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน และผลประโยชน์แก่ลูกหลานในภายภาคหน้าของพวกเจ้าหรือ?ปรัชญาแห่งจิตใจ คือการทำลายความอยุติธรรมในโลก!ทุกคนดุจดั่งมังกร ทุกคนบรรลุเป็นนักปราชญ์!บนลานหยกขาว เงียบสงัดไร้เสียงแม้แต่นกกามีเพียงความตื่นตะลึง!แม้แต่ฮ่องเต้หวู่ยังตกตะลึงจนร่างมังกรสั่นสะท้านทุกคนดุจดั่งมังกร ทุกคนบรรลุความเป็นนักปราชญ์!นี่ช่างเป็นปณิธานอันยิ่งใหญ่เพียงใด!หากสามารถทำให้เป็นจริงได้ โลกมนุษย์จะรุ่งเรืองเพียงใดกัน!ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ไม่มีค่าอะไรเลย!ทุกที่ที่กองทัพพยัคฆ์ต้าเซี่ยย่างกรายไป หากพวกหมานอี๋กล้าขัดขืน ย่อมถูกบดขยี้จนแหลกเป็นผุยผง!ในห้วงความคิดของฮ่องเต้หวู่ ภาพตนเองในเกราะทองอันทรงอำนาจดุดัน ปรากฏขึ้นแจ่มชัด นำทัพทหารต้าเซี่ยนับหมื่นที่สวมเกราะถืออาวุธคมกล้า ออกรบแผ่ขยายอำนาจไปทั่วทุกสารทิศเพียงแค่จินตนาการถึงภาพนั้น ดวงตาของฮ่องเต้หวู่ก็เปล่งประกาย เลือดลมเดือดพล่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1073

    รากฐานของขงจื๊อ ก็คือสี่ตำราห้าคัมภีร์และคำสอนของนักปราชญ์สี่ตำราห้าคัมภีร์ มีเนื้อหามากมายเพียงใด?แม้แต่ทงเซิงผู้เฉลียวฉลาด ยังสามารถท่องจำได้อย่างคล่องแคล่วยิ่งไม่ต้องพูดถึงบัณฑิตอัจฉริยะมากมายแห่งต้าเซี่ยในตลอดพันปีที่ผ่านมา ต่างก็อุทิศตนศึกษาและขบคิดอย่างลึกซึ้งในสี่ตำราห้าคัมภีร์พูดได้ว่าแนวทางแห่งขงจื๊อ เปรียบเสมือนเส้นทางโคลนที่ถูกเหยียบย่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยผู้คนมากมายการจะสร้างความแปลกใหม่ บุกเบิกแนวคิดใหม่ หรือเขียนตำราใหม่ บนเส้นทางที่ถูกเหยียบย่ำจนเลอะเทอะนี้ หาใช่เรื่องง่ายดายไม่?หากมีผู้ใดสามารถทำได้จริงเช่นนั้น สมญานักปราชญ์ ก็คู่ควรกับเขาอย่างแท้จริง!เพียงแต่เสิ่นชิงโจวรู้ดีว่า ตนไม่มีความสามารถนั้นหลี่หลงหลิน แม้จะเคยศึกษาตำราของนักปราชญ์มาหลายปี แต่ก็ยิ่งไม่มีความสามารถทำเช่นนั้นได้“เขียนตำราบุกเบิกแนวคิดใหม่...”“ข้ากลับมีอยู่จริงๆ!”ภายใต้สายตานับไม่ถ้วน หลี่หลงหลินไม่รีบร้อนหรือลนลานแม้แต่น้อย เขาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ พลางกล่าวว่า “วันนี้ข้าจะประกาศแนวคิดใหม่ ตั้งชื่อว่า... ปรัชญาแห่งจิตใจ!”ฉากนี้ทำให้ผู้คนมากมายถึงกับตะลึงงั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1072

    นักปราชญ์ใหม่แห่งสำนักปราชญ์?คำคำนี้ดังราวกับสายฟ้าฟาด ก้องกังวานในหูของทุกคนอะไรกัน?ข้าคงไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม!เมื่อครู่รัชทายาทเพิ่งบอกว่าตนเองเป็นนักปราชญ์ใหม่แห่งสำนักปราชญ์?นักปราชญ์ใหม่ก็คือนักปราชญ์คนใหม่!รัชทายาทหมายความว่า ตนเองสามารถเทียบได้กับนักปราชญ์อันดับสอง ซึ่งก็หมายความว่า เขาเป็นนักปราชญ์อันดับสามของสำนักปราชญ์ในรอบพันปีหรือ?นี่ นี่ นี่...นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!เหลือเชื่อยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ขึ้นจากทางทิศตะวันตกเสียอีก!“ฮ่าฮ่าฮ่า...”เสิ่นชิงโจวชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นกุมท้องหัวเราะจนตัวงอเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นและบัณฑิตทั้งหลาย ต่างก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังกึกก้องไปทั่วห้องโถง“รัชทายาท ท่านเสียสติไปแล้วหรือ?”“นักปราชญ์คนใหม่แห่งสำนักปราชญ์? ท่านหมายความว่า ท่านคือปราชญ์ของสำนักปราชญ์อย่างนั้นหรือ?”“ฮ่าฮ่าฮ่า! องค์ชายเสเพลผู้ไร้ความรู้ความสามารถเช่นท่าน กล้าประกาศตนเป็นนักปราชญ์ ช่างน่าขันเสียจริง!”“ถ้าท่านเป็นนักปราชญ์ เช่นนั้นคนทั้งโลกก็คงเป็นปราชญ์กันหมดแล้ว!”ซูเฟิ่งหลิงถึงกับอึ้ง ใบหน้างดงามแฝงความตกตะลึง ดวงตาหงส์จับจ้องไปที่หลี่หลงหลิน ริมฝ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1071

    เสิ่นชิงโจวต้องมีแผนการที่ใหญ่กว่านั้น จึงกล้าลงมือเสี่ยงอันตรายคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ฮ่องเต้หวู่ตาสว่าง พลันเข้าใจทุกอย่างทันทีเสิ่นชิงโจวไม่เพียงไม่พอใจที่จะเป็นขุนนาง แม้แต่ตำแหน่งฮ่องเต้ก็ยังไม่อาจทำให้เขาพึงพอใจเขาต้องการเป็นเจ้าลัทธิ!เขาต้องการเลียนแบบศาสนากางเขนของชาวตะวันตก เปลี่ยนขงจื๊อจากเพียงแนวคิดให้กลายเป็นศาสนา แล้วขึ้นครองอำนาจเหนืออำนาจฮ่องเต้แม้แต่ฮ่องเต้ ก็ยังต้องรับการสถาปนาจากเจ้าลัทธิ!ความทะเยอทะยานเช่นนี้ ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!แม้แต่ฮ่องเต้หวู่เอง ยังรู้สึกราวกับสายเลือดทั่วร่างถูกแช่แข็งอีกด้านหนึ่งเสิ่นชิงโจวรู้สึกเหมือนถูกชกเข้ากลางอกอย่างแรง สีหน้าหม่นหมองถึงขีดสุดชัดเจนแล้วว่าหลี่หลงหลินเดาถูกต้อง!ทำไมเสิ่นชิงโจวจึงปลุกปั่นความวุ่นวาย แท้จริงแล้วเป้าหมายของเขาคืออะไรกันแน่?หากมนุษย์ไม่เห็นแก่ตัว ฟ้าดินย่อมลงทัณฑ์เขาไม่ได้ทำเพื่อองค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่ แต่ทำเพื่อตัวเอง!ความสำเร็จของฮ่องเต้ ก็คือการขยายแผ่นดินและอาณาเขตความสำเร็จของขุนนางมาจากการสนับสนุนและปกป้องผู้นำของตนหากหลี่เทียนฉี่ไม่ก่อกบฏ แต่ขึ้นครองบัลลังก์อย่างสงบเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1070

    “ฮึๆ”หลี่หลงหลินหัวเราะเสียงเยียบเย็น หันมองเสิ่นชิงโจวแวบหนึ่ง สบถด่าออกมาโดยตรง “อาจารย์ฮ่องเต้บ้าบออะไร! ถึงรู้จักแต่วิธีการต่ำช้าเช่นนี้! ตัดรากถอนโคนหลักขงจื๊อ ล้มเลิกการสอบขุนนาง? นี่ข้าเคยพูดตั้งแต่ยามใด?”สีหน้าเสิ่นชิงโจวงุนงงไปคิดดูให้ดี หลี่หลงหลินคล้ายไม่เคยพูดมาก่อนจริงสุภาพชนมองผ่านการกระทำมิใช่จิตใจต่อให้ปากเจ้าไม่พูด แต่การกระทำทุกอย่าง กลับตั้งตนเป็นศัตรูกับสำนักปราชญ์ ตัดรากถอนโคนสำนักปราชญ์!ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว “รัชทายาท ตกลงเจ้าหมายความเยี่ยงไร? เรางงไปหมดแล้ว”หลี่หลงหลินเงยหน้า พูดยิ้มๆ “เสด็จพ่อ นักปราชญ์นั้นดี หลักขงจื๊อนั้นก็ดี การสอบขุนนางเองก็ดี! หากไม่ใช่นักปราชญ์ ไม่ใช่หลักขงจื๊อ ต้าเซี่ยของข้าจะเจริญรุ่งเรืองได้เยี่ยงไร?”ถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนล้วนตกตะลึงรัชทายาทกำลังทำอันใด?เสิ่นชิงโจวเป็นบัณฑิตทรงคุณวุฒิ ยอมรับว่าสำนักปราชญ์มีความผิด ทำให้สำนักปราชญ์มีชื่อเสียงฉาวโฉ่หลี่หลงหลินกลับดี ถึงขั้นทำตรงข้ามกัน ล้างมลทินให้สำนักปราชญ์กระนั้น?ต่อให้ปากเขาพูดว่าหลักขงจื๊อ ไม่ใช่สำนักปราชญ์ ผิดไปหนึ่งคำแต่ในสายตาคนส่วนใหญ่ สำนักปราชญ์และหลักข

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1069

    สำนักปราชญ์มีมาอย่างยาวนานนับพันปี เสิ่นชิงโจวก็เป็นเพียงหนึ่งเมล็ดข้าวในมหาสมุทรก็เท่านั้น!หรือว่า เราจะทำอย่างที่เจ้าเก้าพูด ใช้อำนาจล้มเลิกการสอบขุนนาง ทำลายสำนักปราชญ์ให้สิ้นซาก?ทว่าหากล้มเลิกการสอบขุนนาง แล้วจะใช้อะไรมาแทนที่เล่า?หรือว่าจะฟื้นฟูการสอบขุนนางในอดีต คัดเลือกขุนนางโดยยึดหลักความกตัญญูและคุณธรรม อาศัยการแนะนำจากชนชั้นสูง เลือกเฟ้นผู้มีความสามารถกระนั้น?นี่คือถอยหลังลงคลองกลับสู่ประวัติศาสตร์!ระบบในอดีตมีเล่ห์เหลี่ยมและทุจริตมากเสียยิ่งกว่า อำนาจตกอยู่ในมือของตระกูลขุนนาง!หลี่เทียนฉี่เห็นฮ่องเต้หวู่ลังเล ฉวยโอกาสนี้ลุกออกมา “เสด็จพ่อ สำนักปราชญ์เป็นรากฐานของต้าเซี่ย! สำนักปราชญ์จะล่มสลายไม่ได้! จะล้มเลิกการสอบขุนนางไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ! หากท่านคิดล้มเลิกการสอบขุนนาง นี่ไม่เพียงแค่ลูก ขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งราชสำนัก ยังมีบัณฑิตทั่วหล้าล้วนไม่มีวันยอมรับ!”เหล่าขุนนางต่างพากันคุกเข่า พูดประสานเสียง “จะล้มเลิกการสอบขุนนางไม่ได้ สำนักปราชญ์จะล่มสลายไม่ได้! ฝ่าบาทโปรดวินิจฉัยด้วย ถอนรับสั่งเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ภายในกลุ่มราษฎรเองก็มีคนลังเลไม่น้อยพวกเขามารับชมความครึกครื้น

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1068

    “ยอมรับผิดอีกแล้ว?”หลี่หลงหลินขมวดคิ้ว “เสิ่นชิงโจว หรือว่าท่านตั้งใจยื้อเวลา? นี่น่าเบื่อเกินไปแล้ว”เขากลับอยากให้เสิ่นชิงโจวต่อต้านอย่างดื้อรั้น กัดฟันแน่น เป็นตายร้ายดีเยี่ยงไรก็ไม่ยอมแพ้เช่นนี้แล้วล่ะก็เขาสามารถตบหน้าเสิ่นชิงโจวแรงๆ อย่างถูกต้องตามครรลองครองธรรมได้สรุปคือเสิ่นชิงโจวไม่มีเจตนาต่อสู้ทำให้หลี่หลงหลินรู้สึกเบื่อหน่ายอาจารย์ของฮ่องเต้! ราชครู!แค่นี้เองหรือ?หลี่หลงหลินพูดเสียงเย็น “ความผิดครั้งนี้ของท่าน คงไม่คิดโยนความผิดให้เหล่าบัณฑิตทรงคุณวุฒิเพื่อเอาตัวรอดอีกหรอกกระมัง?”เสิ่นชิงโจวส่ายหน้า “ไม่! ครั้งนี้ข้ายอมรับผิดอย่างแท้จริง! ทุจริตการสอบขุนนาง ฆ่าคนปิดปาก รับสินบนทำผิดกฎหมาย ข้าขอยอมรับความผิดทั้งหมดเหล่านี้! ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงแค่ข้า ยังมีบัณฑิตทรงคุณวุฒิคนอื่นอีกด้วย!”“สำนักศึกษาทั้งหมดล้วนมีส่วนร่วม”ถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนล้วนเงียบงันลานไป๋อวี้ขนาดใหญ่ แม้แต่เข็มตกก็สามารถได้ยินไม่ว่าขุนนางหรือราษฎร สีหน้าล้วนแตกต่างกันออกไปโดยเฉพาะเหล่าบัณฑิตทรงคุณวุฒิ อ้าปากค้าง ลืมตากว้าง คล้ายเห็นผีก็มิปาน จับจ้องเสิ่นชิงโจวตาเขม็งอาจารย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status