ท้องพระโรง“ฝ่าบาท!”“เมื่อคืนนี้เกิดเหตุเพลิงไหม้เผาคลัง คลังหลวงกลายเป็นเถ้าถ่าน!”“เสบียงที่สูญเสียไป มีมากกว่าสามแสนชั่ง!”“กระหม่อม...สมควรตายหมื่นครั้ง!”ผู้ช่วยเสนาบดีกรมคลังคำนับแนบพื้น ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวฮ่องเต้หวู่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร ราวกับถูกฟ้าผ่าลงมากลางใจ สมองว่างเปล่าไม่อาจรับรู้สิ่งใด“เท่า...เท่าไหร่นะ?”“สามแสนชั่งหรือ?”เสบียงหนึ่งชั่ง เท่ากับหนึ่งร้อยจินสามแสนชั่ง ก็เสบียงคือสามสิบล้านจิน?ราชสำนักต้าเซี่ยเก็บเสบียงได้เพียงเท่านี้ในหนึ่งปี!แล้วทั้งหมดนี้ถูกเผาจนหมดเพียงกองไฟเดียว?ตุบ!ฮ่องเต้หวู่ตกตะลึงจนเกินไป ดวงตาพร่ามัว ร่างทรุดลงนั่งบนบัลลังก์มังกรอย่างหมดแรง ก่อนจะหมดสติไป“ฝ่าบาททรงเป็นลมแล้ว!”“เร็วเข้า! เรียกหมอหลวงมา!”เว่ยซวินตกใจจนทำอะไรไม่ถูก รีบตะโกนเสียงดังหมอหลวงรีบเร่งมาถึง ทั้งบีบจุดฝังเข็มและกรอกยา วุ่นวายกันอยู่นานกว่าจะช่วยให้ฮ่องเต้หวู่ฟื้นคืนสติได้“ประหาร...”“ลากเจ้าเศษสวะนี่ไปประหารเสีย!”สิ่งแรกที่ฮ่องเต้หวู่เอ่ยเมื่อเบิกตาขึ้นคือคำสั่งอย่างโกรธเกรี้ยว ให้ลงโทษประหารผู้ช่วยเสนาบดีกรมคลังทันทีกรม
กลุ่มขุนนางทุจริตเหล่านี้ ช่างช่วยเหลือกันจริงๆฮ่องเต้หวู่รู้สึกโกรธจนอยากจะออกคำสั่งให้ประหารขุนนางทุจริตทั้งหมดนี้ สังหารทีละคน จนเลือดท่วมท้องพระโรง และทำให้แผ่นดินกลับมาสะอาดสะอ้านขึ้นแต่...ตรรกะของฮ่องเต้หวู่กลับบอกให้พระองค์รู้ว่า นี่มันเป็นไปไม่ได้!ถึงแม้พระองค์จะเป็นฮ่องเต้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะต่อต้านราชสำนักทั้งหมดได้!“ถ้าเป็นไฟมังกรเผายุ้งฉางหลวง…”“ท่านขุนนาง ข้าผิดที่เข้าใจเจ้าผิด!”“เจ้าลุกขึ้นเถอะ!”ฮ่องเต้หวู่โบกมือให้กับผู้ช่วยเสนาบดีกรมการคลังผู้ช่วยเสนาบดีเป็นขุนนางขั้นสองในราชสำนักไม่สามารถสั่งตัดหัวได้ง่ายๆ!ในครั้งนี้ การแข่งขันในราชสำนัก ฮ่องเต้หวู่ต้องยอมอ่อนข้อผู้ช่วยเสนาบดีกรมการคลังถอนหายใจยาว และค่อยๆ ลุกขึ้นยืนในขณะนั้น หัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้าได้ก้าวออกมาอย่างกะทันหัน และกล่าวว่า“ฝ่าบาท การที่ไฟมังกรเผายุ้งฉางหลวง นั่นคือลางร้ายยิ่งใหญ่! ชัดเจนว่ามีใครบางคนกำลังยุ่งกับการปกครองของราชสำนัก ก่อให้เกิดความโกรธแค้นของฟ้าดิน จึงทำให้เกิดภัยพิบัติ!”ฮ่องเต้หวู่ตกตะลึงไปชั่วขณะ มองไปยังหัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้าด้วยความไม่เชื่อในร
ฮ่องเต้หวู่ลูบขมับอย่างหนักใจหัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้ากล่าวหาองค์ชายเก้าอย่างรุนแรงเช่นนี้หากจะบอกว่าไม่มีเหตุผล ก็เป็นแค่การจับความคลุมเครือ ไม่มีหลักฐานหรือข้อเท็จจริงใดๆแต่หากจะบอกว่ามีเหตุผล ยุ้งฉางหลวงถูกไฟไหม้กะทันหัน ข้าวสามแสนชั่งถูกเผาเสียหาย ราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ก็ชัดเจนว่าเป็นองค์ชายเก้าในช่วงเวลานั้น ฮ่องเต้หวู่ตกอยู่ในความลังเลไม่รู้จะทำอย่างไร“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าเหตุผลของหัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้านั้นมีน้ำหนัก! ไฟไหม้ยุ้งฉางหลวง องค์ชายเก้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเกี่ยวข้องนี้ได้!”“องค์ชายเก้ากักตุนข้าวเกินเหตุ ทำเหล้าส่วนตัว จนเกิดการลงทัณฑ์จากสวรรค์และการก่นด่าจากผู้คน ขอพระองค์อย่าปล่อยปละละเลย ให้ลงโทษอย่างหนักพ่ะย่ะค่ะ!”“ขอพระองค์ทรงลงโทษองค์ชายเก้าอย่างหนักด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”เหล่าขุนนางตำแหน่งสูงต่ำทั้งหลาย เช่นผู้ตรวจการและพวกที่ปรึกษาซึ่งหน้าที่หลักคือจับผิดและกล่าวหาขุนนางในราชสำนัก ต่างก็เห็นช่องทาง พากันรีบยืนออกมา ทันใดนั้น ภายในท้องพระโรงกลับกลายเป็นความโกลาหล ราวกับน้ำเดือดที่ท่วมอยู่ในหม้อฮ่
เขามีลางสังหรณ์ที่แรงกล้าคนคนนั้นต้องอยู่ในท้องพระโรงนี้แน่ๆ ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด เหมือนงูพิษที่จ้องมองมาที่ตนด้วยสายตาเยือกเย็นแต่หลี่หลงหลินกลับไม่พบผู้ต้องสงสัยหรืออาจจะพูดได้ว่า ทุกคนในราชสำนักนี้ล้วนมีความน่าสงสัยทั้งสิ้นหลี่หลงหลินไม่ได้เป็นคนที่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำ เหมือนกับคนที่มีสติปัญญาระดับครึ่งเทพ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจหาผู้บงการเบื้องหลังได้จากแค่การกวาดตามอง“ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยสติปัญญาและกลยุทธ์ของคนคนนั้น ย่อมซ่อนตัวได้อย่างมิดชิดมาก!”“ช่างเถอะ!”“ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้น!”“ทัพมาให้ขุนพลต้าน น้ำมาให้ดินกั้น!”“เอาไว้จัดการกับหัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้าคนนี้ก่อนค่อยว่ากัน!”หลี่หลงหลินส่ายหัวเล็กน้อย ดึงสติกลับมา ก่อนจะจ้องไปที่หัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้าแล้วพูดด้วยเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ท่านบอกว่าข้าทำลายยุ้งฉางหลวงเพื่อบิดเบือนราคาข้าว นี่มันเหลวไหลสิ้นดี!”หัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้าเยาะเย้ยในใจแล้วตอบว่า “องค์ชายเก้า เรื่องการเผายุ้งฉางนั้นเดี๋ยวค่อยมาพูดกัน แต่ท่านยังไงก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ท่านรับซื้อข้าวไว้เพื่อกักตุนและโก่งราคาข้
เหล่าขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ต่างจับจ้องมองหลี่หลงหลิน บ้างมีแววตาเย้ยหยัน บ้างก็มีแววตาสงสาร เหล่าขุนนางคิดว่า ไม่ว่าคราวนี้อย่างไรหลี่หลงหลินก็คงไม่รอด!เฮ้อใครจะไปคาดคิดองค์ชายเก้าผู้สูงส่ง ผ่านพ้นมรสุมครั้งใหญ่มาได้ แม้กระทั่งตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีอย่างตู้เหวินยวนยังไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้เขาได้ แต่ครั้งนี้กลับต้องมาตกม้าตายที่มือของขุนนางขั้นหกผู้ต่ำต้อยเช่นนี้ที่โชคร้ายก็คือ ต่อให้หัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้าพูดจนฟ้าถล่มดินทลาย องค์ชายเก้าก็แค่เพียงลักลอบนำเสบียงของกองทัพไปใช้ในการกลั่นสุราเถื่อนเท่านั้น ซึ่งสำหรับองค์ชายแล้ว มันก็เป็นเพียงความผิดเล็กน้อย! ฮ่องเต้ก็อาจแค่เพียงตำหนิและให้ไปทำสมาธิสำนึกตัวอยู่สักพัก ต่อไปก็ไม่ให้กลั่นเหล้าอีกฮ่องเต้หวู่เองก็คิดเช่นนั้น จึงมองไปยังหลี่หลงหลินและกล่าวว่า “เจ้าเก้า เรื่องการกลั่นสุราเถื่อนนี้ เจ้าผิดจริง! ฉะนั้นก็รับผิดเสียเถิด แล้วเรื่องนี้ก็จะจบลง!”ในเวลานี้ฮ่องเต้หวู่รู้สึกกังวลใจมาก ในหัวเต็มไปด้วยเรื่องไฟไหม้ยุ้งฉางหลวง! เสบียงสามแสนชั่งสูญหายไปหมดสิ้น! ภัยขาดแคลนอาหารครั้งใหญ่กำลังคืบคลานเข้ามา! ไม่รู้เล
ฮ่องเต้หวู่ทอดสายตามองหลี่หลงหลินด้วยแววตาลึกซึ้ง “เจ้าเก้า เจ้าจะมีอะไรจะแก้ตัวอีกหรือไม่?”หลี่หลงหลินยืนกอดอก พลางจ้องไปยังหัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้า “เสบียงที่กักตุนอยู่ในเขาทิศประจิม เป็นเสบียงทหาร! เป็นการใช้เสบียงสำหรับกองทัพ มีปัญหาอันใด?”หัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้าหัวเราะเยาะ “ท่านจะไม่บอกว่าสุราเหินเวหาที่ท่านกลั่นมา ก็มีไว้ให้ทหารดื่มด้วยอย่างนั้นหรือ? หากว่าสุรานั้นมีไว้สำหรับพวกทหารดื่มจริงๆ มิได้นำออกไปขาย ก็นับว่ายังพอรับฟังได้!”“แต่ท่านกลับเอาออกไปขาย!”“ท่านจะไม่บอกข้าว่าเงินที่ได้จากการขายสุรา นำกลับมาใช้จ่ายเป็นเบี้ยเลี้ยงทหารอย่างนั้นหรือ?”“หึๆๆ! ท่านคิดว่าการโต้แย้งไร้สาระเช่นนี้จะมีความหมายใดหรือไม่?”“ต่อให้ท่านจะหลอกลวงฮ่องเต้ได้ แต่คิดว่าจะหลอกลวงประชาชนทั้งแผ่นดินได้หรือ?”“ท่านรู้หรือไม่ว่าการที่ท่านกักตุนข้าวไว้เพื่อกลั่นสุราเช่นนี้ ทำให้ราคาข้าวสารพุ่งสูงขึ้น สร้างความทุกข์ร้อนแก่ราษฎรเพียงใด!”ภายในท้องพระโรง เหล่าขุนนางต่างกระซิบกระซาบสนทนากันอย่างอื้ออึงคำกล่าวของหัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้านั้นมีมูลความจริง องค์ชายเก้าซึ่งได้รับควา
“สุรากลั่นบริสุทธิ์?” เมื่อได้ยินคำที่ไม่คุ้นเคย เหล่าขุนนางในท้องพระโรงต่างหันมามองหน้ากัน ฮ่องเต้หวู่สายตาวูบไหว “สุรากลั่นบริสุทธิ์นี้ดื่มได้หรือไม่? จะเหมือนกับสุราเมาพันวันในตำนานที่ดื่มเพียงจอกเดียวก็เมาได้ถึงพันวันหรือ?”หลี่หลงหลินส่ายหน้าแล้วยิ้ม “สุรากลั่นบริสุทธิ์นี้ดื่มไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ! หากดื่มเข้าไป ไม่เพียงแต่จะเมาเท่านั้น อาจถึงขั้นไม่ฟื้นตื่นขึ้นมาอีกเลย”สีพระพักตร์ของฮ่องเต้หวู่แปรเปลี่ยนทันที “มีพิษหรือ? เช่นนั้นสุรากลั่นบริสุทธิ์นี้มีประโยชน์อันใด?”หลี่หลงหลินอธิบาย “สุรากลั่นบริสุทธิ์มีประโยชน์ในหลายด้านอย่างยิ่ง! ยกตัวอย่างเช่น ใช้ฆ่าเชื้อโรคบนบาดแผล ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อได้มาก หรือหากเกิดโรคระบาด ก็สามารถใช้พ่นในอากาศเพื่อฆ่าเชื้อได้พ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่เลิกคิ้วขึ้น กล่าวด้วยความตื่นเต้น “สุรากลั่นบริสุทธิ์มีประโยชน์วิเศษถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”ฮ่องเต้หวู่ในฐานะโอรสสวรรค์ ผู้ผ่านศึกสงครามมาครึ่งค่อนชีวิต เขารู้ดีว่า เหล่าทหารส่วนใหญ่ไม่ได้ตายในสนามรบทันที แต่หลังจากได้รับบาดเจ็บ ขาดการรักษา จนเกิดหนองและทนทุกข์ทรมานตายไปในยุคโบราณ การเกิดหนองแทบ
หลี่หลงหลินถือขวดกระเบื้องที่บรรจุสุรากลั่นบริสุทธิ์ เดินตรงไปยังหัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้า ก่อนจะยื่นให้ ขุนนางทั้งหลายต่างกรูเข้ามาล้อมรอบด้วยความอยากรู้เกี่ยวกับสุรากลั่นบริสุทธิ์หัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้าเปิดฝาขวดกระเบื้อง สูดดมเพียงเล็กน้อยคิ้วก็ขมวดเข้าหากันทันที ช่างกลิ่นฉุนยิ่งนัก!กลิ่นของสุรากลั่นบริสุทธิ์ไม่เหมือนกลิ่นสุราทั่วไปโดยสิ้นเชิง ขุนนางคนอื่นๆ ก็รีบยกมือปิดจมูก ไม่ค่อยชินกับกลิ่นฉุนของเหล้ากลั่นบริสุทธิ์นี้นัก หัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้าหัวเราะเยาะ “องค์ชายเก้า สุรากลั่นบริสุทธิ์อะไรกัน มันก็แค่สุรารสจัดเท่านั้น!” หลี่หลงหลินยิ้มบาง “เจ้าว่าเป็นสุรารสจัด เช่นนั้นเจ้ากล้าดื่มสักจอกหรือไม่?” สีหน้าของหัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้าถึงกับเปลี่ยนไป หลี่หลงหลินบอกแล้วว่าสุรากลั่นบริสุทธิ์มีพิษ หากดื่มเข้าไปแล้วตายคาที่ ย่อมเป็นการตายที่แสนอัปยศ! หัวหน้าผู้ดูแลการทำนายท้องฟ้าจำต้องรวบรวมความกล้าตอบกลับ “ข้าไม่ชอบดื่มสุรา! อย่างไรก็ดี ข้าก็ยังยืนยันว่ามันคือสุรารสจัด หาใช่สุรากลั่นบริสุทธิ์ที่ท่านกล่าวอ้างไม่ เว้นเสียแต่ว่าท่านจะสามารถพิสูจ
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ