เว้นเสียแต่ตู้เหวินยวนแล้ว ทั้งหมดที่เหลืออยู่ล้วนเข้าไปยืนฝั่งหลี่หลงหลินตู้เหวินยวนถอนหายใจ “ซีเหลียงอ๋อง มิใช่ข้าไม่ช่วยท่าน แต่เพราะท่าน...เสียอำนาจใหญ่ไปแล้ว!”สุดท้ายตู้เหวินยวนจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ก็เลือกฝั่งหลี่หลงหลิน“พวกเจ้า...”หลี่เฟิงอวิ๋นยืนโดดเดี่ยวเพียงลำพังที่ฝั่งหนึ่ง ใกล้ระเบิดโทสะเต็มทีขุนนางบุ๋นเหล่านี้ ไม่มีความหนักแน่นเลยแม้แต่น้อย ทั้งหมดล้วนเป็นคนต่ำต้อยเห็นเพียงผลประโยชน์กลุ่มหนึ่ง!ช่างเป็นตัวไร้ประโยชน์โดยแท้!หลี่หลงหลินมีสีหน้าภาคภูมิใจ ยังจงใจเยาะหยันอีกด้วย “พี่สาม! ท่านพูดว่าเสด็จพ่อหัวเดียวกระเทียมลีบ! ดูท่านตอนนี้เถอะ ตกลงผู้ใดถูกตีตัวออกห่างกันแน่?”ฮ่องเต้หวู่อารมณ์ดีมาก ตบมือพูดยิ้มๆ “เจ้าเก้า พูดได้ดี!”“เจ้าเก้า พวกเรารอดูก่อนเถอะ!”หลี่เฟิงอวิ๋นโมโหแทบแย่ หมุนตัวได้ก็จากไปแล้วแม้ว่าทหารซีเหลียงสามพันคนไม่สามารถเข้าเมืองหลวงได้แต่เป้าหมายของหลี่เฟิงอวิ๋นสำเร็จแล้ว!เขาสามารถอ้างเหตุผลจับคนสอดแนมเผ่าหมาน สร้างชื่อเสียงอยู่ในเมืองหลวงต่อไปได้แล้ว!ภายภาคหน้าก็รอโอกาสเท่านั้น!หลี่หลงหลิน เจ้าสุนัขชั่วคนนี้ สักวันหนึ่งจะต้องชดใช
“เขียนอักษร?” เพียงฮ่องเต้หวู่ได้ยินก็ตื่นเต้นขึ้นมาบ้างแล้วเมื่อคืนเพลิงไหม้คุกหลวงลุกลามออกไป อย่างน้อยก็มีราษฎร์นับร้อยคนประสบภัยหากราชสำนักออกหน้า สร้างบ้านเรือนให้พวกเขา ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องใช้เงินราวหนึ่งแสนตำลึง!ขอเพียงเขียนอักษรให้เจ้าเก้า ก็สามารถแลกกับเงินหนึ่งแสนตำลึงได้แล้ว?การค้าขายนี้ ได้กำไรเกินไปแล้วกระมัง!งานเขียนอักษรของฮ่องเต้หวู่เปิดเผยออกไปน้อยมากมิใช่เขาไม่ชอบเขียนอักษร แต่เพราะทักษะการเขียนอักษรของเขาแย่มากเกินไปเขาเป็นพวกยิ่งแย่มากเพียงใดก็ยิ่งชอบมากเพียงนั้นยามว่างไม่มีอะไรทำ ฮ่องเต้หวู่ลอบฝึกเขียนอักษรภายในตำหนัก หวังว่าสักวันหนึ่งจะสามารถทำให้พวกบัณฑิตเหล่านั้นอ้าปากค้างได้!“ได้!”“สหายเว่ย เจ้ารีบไปเตรียมสี่สิ่งล้ำค่าในห้องหนังสือ!”ฮ่องเต้หวู่รีบรับปาก ออกคำสั่งเว่ยซินเว่ยซวินรีบเตรียมกระดาษหมึกพู่กันแท่นฝนหมึก ยังช่วยฮ่องเต้หวู่ฝนหมึกด้วยตนเองอีกด้วยฮ่องเต้หวูจับพู่กัน ท่วงท่างดงาม เอ่ยถามหลี่หลงหลิน “เขียนอะไร?”หลี่หลงหลินครุ่นคิด เอ่ยปาก “เสด็จพ่อ พระองค์เป็นผู้ซื่อสัตย์จริงใจ จักรพรรดิอันดับหนึ่ง! ก็เขียนสี่พยางค์นี้...หนึ่งใน
“ท่านพูดว่าองครักษ์เสื้อแพรปกปักใต้หล้ามิใช่หรอกหรือ ฟังดูแล้วน่าเกรงขามมาก!”หลี่หลงหลินถอนหายใจ “มองภายนอกองครักษ์เสื้อแพรน่าเกรงขาม แท้จริงแล้วก็คือสุนัขรับใช้ของฮ่องเต้! งานสกปรกอะไร ล้วนให้องครักษ์เสื้อแพรไปทำทั้งหมด! ยกตัวอย่างเช่นฝ่าบาทให้เจ้าไปลอบสังหารขุนนางมือสะอาดซื่อสัตย์ภักดีคนหนึ่ง เจ้ายินดีทำหรือไม่?”เพียงซูเฟิ่งหลิงได้ยิน สีหน้าเปลี่ยนไปในทันใด “สังหารขุนนางซื่อสัตย์ภักดี? จะทำเช่นนั้นได้เยี่ยงไร! ไม่มีวันทำ!”หลี่หลงหลินยักไหล่ “นั่นน่ะซิ! องครักษ์เสื้อแพรงานเช่นนี้ เจ้าต้องทำไม่ได้เป็นแน่! เจ้าเป็นชายาองค์ชายของเจ้าดีๆ เพลิดเพลินกับความมั่งคั่งรุ่งโรจน์เหล่านั้นเถอะ!”ซูเฟิ่งหลิงเบ้ปาก “นั่นน่าเบื่อมาก!”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “เช่นนั้นเจ้าอยากทำอะไร?”ดวงตาซูเฟิ่งหลิงทอประกายระยับ เอ่ยออกมา “แน่นอนว่านำทัพออกศึก เป็นแม่ทัพใหญ่ถือดาบขี่ม้าคนหนึ่ง! นั่นน่าเกรงขามมากนัก...”ซูเฟิ่งหลิงกระตือรือร้นขึ้นมาในทันใด พูดสิ่งที่อยู่ภายในใจออกมา ขณะเดียวกันหน้าแดงแล้ว “ฮึ ท่านต้องหัวเราะข้าเป็นแน่! หากข้าไม่ใช่ผู้หญิง เป็นผู้ชายก็คงดี...”หลี่หลงหลินส่ายหน้า พูดอย่างจริงจั
ได้รู้ข่าวว่าฉินกุ้ยเฟยออกจากตำหนักเย็นแล้วหลินกุ้ยเฟยคล้ายกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ ใบหน้าเปี่ยมความตกตะลึงรับมือไม่ทัน“จะทำเยี่ยงไร...จะทำเยี่ยงไร...”“คราวนี้จะทำเยี่ยงไรดี?”หลี่หลงหลินเบ้ปาก “เสด็จแม่ ก็แค่ฉินกุ้ยเฟยคนเดียวเท่านั้นมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ? มีอันใดให้กลัวกัน? ก่อนนี้นางเป็นกุ้ยเฟย อยู่เหนือท่านหนึ่งขั้น ทว่าบัดนี้ท่านเองก็เป็นกุ้ยเฟย มีศักดิ์เทียมกันแล้ว!”หลินกุ้ยเฟยถอนหายใจ “องค์ชาย เจ้าไม่รู้ ฉินกุ้ยเฟยคนนี้อันตรายมากนัก หากใช้อุบายชั่วขึ้นมา น่ากลัวว่าแม่หาใช่คู่ต่อสู้ของนางไม่!”หลี่หลงหลินหัวเราะแล้ว “นางอันตราย! ข้าอันตรายยิ่งกว่านางเสียอีก! ก็แค่การต่อสู้ในวังมิใช่หรือ? พวกเราก็สู้กับนาง ดูว่าใครกันแน่จะคว้าชัยชนะไปได้!”หลินกุ้ยเฟยส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง “ไม่ได้! แม่ต้องสู้นางไม่ได้เป็นแน่...”หลี่หลงหลินส่ายหน้า ลอบทอดถอนใจภายในใจหลินกุ้ยเฟยเป็นคนใจดีมีเมตตามากเกินไป ใสซื่อบริสุทธิ์เกินไปแล้ววังหลังแห่งนี้ อันที่จริงก็คล้ายป่า วัฏจักรคือผู้อ่อนแอเป็นอาหารของผู้แข็งแกร่งเจ้าไม่กินผู้อื่น ผู้อื่นก็กินเจ้า!ทว่าหลินกุ้ยเฟยก็มีอุปนิสัยเช่นนี้ ไม่ชอ
หากสนมคนใดขัดตา ล่วงเกินเว่ยซวิน ไม่รู้ว่าต้องตายเยี่ยงไรเลยด้วยซ้ำ บ้างก็หายตัวไปอย่างไรร่องรอย ชนิดที่ว่าแม้แต่ศพก็หาไม่พบ!หลี่หลงหลินคลี่ยิ้ม ออกคำสั่งชุนเถา “เจ้าไปเรียกเว่ยซวินมา พูดว่าองค์ชายเก้ารอเขาที่ตำหนักฉางเล่อ!”ชุนเถาตกตะลึงจนวิญญาณหลุดออกจากร่าง สีหน้าเผือดซีด “องค์ชาย บ่าวไม่กล้า...”หลี่หลงหลินเพียงเอ่ยปากเสียงเรียบ “ให้เจ้าไป เจ้าก็ไป! เว่ยซวินไม่กล้าลงโทษเจ้าเป็นแน่ ยิ่งไปกว่านั้นยังจะมอบรางวัลให้เจ้าอีกด้วยนะ!”ชุนเถาอับจนหนทาง ทำได้เพียงเกร็งหนังศีรษะ มุ่งหน้าไปยังพระที่นั่งหย่างซินสถานที่ที่เว่ยซวินอยู่ก็คือตำหนักด้านข้างของพระที่นั่งหย่างซิน ที่นี่สะดวกต่อการหยิบยกพระกระยาหารในการปรนนิบัติฮ่องเต้หวู่เว่ยซวินอารมณ์ดีไม่เลว ปากกำลังครวญเพลงงิ้วอยู่อีกด้วยชุนเถาหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมความกล้ามาหยุดที่หน้าประตู “หัวหน้าผู้ดูแลเว่ย! องค์ชายเก้าพูดว่ากำลังรอท่านที่ตำหนักฉางเล่อเจ้าค่ะ...”เพียงเว่ยซวินได้ยินก็ยิ่งดีใจมากขึ้นไปอีก หยิบเงินหนึ่งก้อนยัดใส่มือชุนเถาในทันทีทันใด แย้มยิ้มมีความสุขพลางเอ่ย “ได้! ข้าจะไปเดี๋ยวนี้เลย!”เงินในมือชุนเถาหนักมาก คนกลับโง่
ผิวหน้าเว่ยซวินกระตุกริกหลี่หลงหลินเจ้าเด็กคนนี้ต้องการแบ่งผลประโยชน์!ช่างเถอะ!หากมิใช่การแนะนำของหลี่หลงหลิน ตนเองก็ไม่สามารถเป็นผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรได้!แบ่งปันกำไรออกไป ก็เป็นสามัญสำนึกของมนุษย์เว่ยซวินใคร่ครวญครู่หนึ่ง “ในเมื่อองค์ชายเอ่ยปาก กระหม่อมลองแบ่งดูแล้ว คนละครึ่ง...”หลี่หลงหลินมิได้พูด ส่ายหน้าเบาๆสีหน้าเว่ยซวินไม่สบอารมณ์ขึ้นมา “องค์ชาย ท่านมิใช่ต้องการสี่หกหรอกกระมัง? นี่ไม่ละโมบเกินไปหน่อยหรือ?”หลี่หลงหลินยังส่ายหน้าเว่ยซวินเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “สามเจ็ด? ท่านไม่ใช่คนแล้วกระมัง!”หลี่หลงหลินยังส่ายหน้าต่อเว่ยเซินระเบิดโทสะ “สองแปด? กระหม่อมไม่สามารถรับได้!”เว่ยซวินไม่มีทายาท ชอบหาเงินที่สุดหลี่หลงหลินถึงขั้นต้องการสองแปด เว่ยซวินกระอักเลือด ไม่มีวันรับปากหลี่หลงหลินหัวเราะแล้ว “เว่ยกงกง! ข้าไม่ต้องการสองแปด ไม่ต้องการสามเจ็ด ไม่ต้องการสี่หก ทั้งยังไม่ต้องการครึ่งครึ่ง! ข้าไม่ต้องการกำไรแม้ตำลึงเดียว ขอเพียงกงกงมอบความยุติธรรมให้ข้าอย่างหนึ่งก็พอ!”เว่ยซวินตกตะลึงพรึงเพริดหลี่หลงหลินมิได้ต้องการแบ่งกำไรกับตน เพียงเพื่อความยุติธรรมอย่างห
หลินกุ้ยเฟยตกตะลึงเหม่อลอยตั้งแต่แรกแล้ว หันมองหลี่หลงหลินอย่างเหลือจะเชื่อ “องค์ชาย ตกลงเจ้าทำอันใด ถึงขั้นสามารถควบคุมเว่ยกงกงเช่นนี้ได้?”หลี่หลงหลินยิ้มบางๆ “เว่ยซวินเป็นคนต่ำต้อยธรรมดาคนหนึ่ง ไม่มีผลประโยชน์ไม่ตื่นเช้า! กระนั้นหากมอบผลประโยชน์ให้เขาเล็กน้อย ก็สามารถทำให้เขาเชื่อฟังและทำงานให้ข้าได้!”“คนต่ำต้อยพรรค์นี้ มักดีกว่าพวกหน้าซื่อใจคดอย่างตู้เหวินยวนมากนับหมื่นเท่า!”หลินกุ้ยเฟยขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่เข้าใจ “แต่เจ้ายกกำไรให้ทั้งหมด จะ...”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “ซื้อขายเครื่องแบบและดาบปักลายขององครักษ์เสื้อแพร หนึ่งปีสามารถหาเงินได้มากน้อยเพียงใดเล่า? นับดูแล้วก็เพียงสองถึงสามหมื่นตำลึง! เงินแค่นี้ ข้าไม่เห็นอยู่ในสายตา ยกให้เว่ยซวินทั้งหมดแล้วอย่างไร?”“ยิ่งไปกว่านั้น เว่ยซวินละโมบเกินไป ข้าไม่อยากมีผลปะโยชน์เกี่ยวข้องกับเขามากเกินไปนัก!”“หากเขาทำเรื่องผิดพลาด ถูกเหล่าขุนนางบุ๋นจับจุดอ่อนได้ ยังจะเดือดร้อนถึงข้าอีก!”เว่ยซวินคนนี้ก็คือคนละโมบคนหนึ่งบัดนี้ฮ่องเต้หวู่ให้ความสำคัญต่อเขามาก ยังไม่แตะต้องเขาชั่วคราวภายภาคหน้าเว่ยซวินจะละโมบมากขึ้นเรื่อยๆ ทำเลยเถิดเกินไป
ลั่วอวี้จู๋โมโหอยู่บ้างผ้าฝ้ายขายไม่ออก ร้านขายผ้าสกุลซูค้าขายย่ำแย่มากขึ้นเรื่อยๆ ท่านไม่คิดหาทางแก้ก็ช่างเถอะ ถึงขั้นยังสร้างปัญหาเพิ่มอยู่ที่นี่?รู้ว่าขาดทุน กลับยังไม่ยอมลดการผลิตมีใครทำการค้าเหมือนท่านด้วยหรือ?หลิ่วหรูเยียนเองก็แปลกใจมาก “องค์ชายเก้า ข้ารู้ท่านอยากให้พวกแม่ม่ายเด็กกำพร้ามีชีวิตที่ดี แต่ท่านไม่ลดการผลิตก็ช่างเถอะ นี่ยังจะเพิ่มการผลิต? ไม่มากเกินไปหน่อยหรือ?”หลี่หลงหลินมองพี่สะใภ้รูปโฉมงดงามดุจบุปผาทั้งสองท่าน พูดยิ้มๆ “พี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้สี่ ข้าขอไขความกระจ่างให้พวกท่านเอง! เพื่อความสงบสุขของเมืองหลวง ฝ่าบาทวางแผนรับสมัครลูกหลานชนชั้นสูง ก่อตั้งองครักษ์เสื้อแพร ให้เว่ยซวินรับผิดชอบบัญชาการ!”“ข้าตกลงกับเว่ยซวินดีแล้ว สกุลซูเป็นผู้ทำชุดมัจฉาบินขององครักษ์เสื้อแพร!”ลั่วอวี้จู๋และหลิ่วหรูเยียนได้ยินก็ดีใจขึ้นมา“องค์ชายเก้า เหตุใดท่านไม่พูดตั้งแต่แรกเล่า!”พวกชนชั้นสูงมีเงิน ใบสั่งซื้อขององครักษ์เสื้อแพรจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อยเป็นแน่!”“วสันต์คิมหันต์เหมันต์สารทฤดูอย่างละชุด นี่ก็สี่ชุดแล้ว ยังต้องมีสำรอง ก็เป็นแปดชุด...”ลั่วอวี้จู๋ยิ่งคำนวณยิ่งดีใจ