ในยุคโบราณ สายตายาวเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาหายไม่ว่าเจ้าจะเป็นสูงส่งเพียงใด แต่เมื่ออายุมากขึ้น ก็ต้องสายตายาว มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้เลือนรางต่อให้หินสมุนไพรที่มีชื่อเสียงมากน้อยเพียงใดก็ไร้ประโยชน์หลี่หลงหลินกลับพูดว่าสวมแว่นตาสายตายาวนี้แล้ว จะสามารถกลับมามองเห็นได้ชัดเจนขึ้นอย่างนั้นหรือ?นี่ไม่ใช่ทักษะทางการแพทย์ แต่คือเวทมนตร์ตู้เหวินยวนเป็นผู้นำกลุ่มคนไร้เหตุผลออกมาประณามหลี่หลงหลิน หลี่หลงหลินเพียงพูดประโยคเดียว “หากเสด็จย่ามองไม่เห็น ข้าก็ยินดีที่จะควักลูกตาคู่นี้ของข้าออกมา”ตู้เหวินยวนหยุดเดือดพล่านแล้ว กลับพูดด้วยสีหน้าพอใจ “องค์ชายเก้า เจ้าพูดเองนะ ต่อหน้าฝ่าบาทและไทเฮาเช่นนี้ เจ้าห้ามเสียใจทีหลัง”หลี่หลงหลินเอามือไพล่หลัง แล้วกล่าวด้วยความภูมิใจ “ในชีวิตที่มีขีดจำกัดของข้า ไม่มีสิ่งใดให้เสียใจ”ทุกคนต่างรู้สึกตกตะลึงองค์ชายเก้าเสแสร้งเกินไปแล้วกระมังเพื่อแสดงบารมีของตัวเองต่อหน้าทุกคน แม้แต่ชีวิตของเจ้าก็ไม่ต้องการแล้วอย่างนั้นหรือ?ตู้เหวินยวนรู้สึกดีใจเกินคาดมาก เขาคุกเข่าลงต่อหน้าฮ่องเต้หวู่ “ฝ่าบาท ในเมื่อองค์ชายเก้ามั่นใจในตัวเองขนาดนี้ ก็ให้เขาลองดูเ
เรื่องบ้าอะไรกัน?กิ่งไม้สองท่อนนั้น แผ่นผลึกสองแผ่นนั้น ก็สามารถรักษาสายตายาวได้หรือ?นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วฮ่องเต้หวู่ตบไหล่หลี่หลงหลิน แล้วชมว่า “เจ้าเก้า เจ้าช่างยอดเยี่ยมมากจริงๆ แต่ว่าสายตายาวอันนี้ ทำให้ข้าด้วยสักอันได้หรือไม่ ช่วงนี้ข้าก็รู้สึกว่าสายตาข้ามันพร่ามัว...”หลี่หลงหลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เสด็จพ่อ ท่านวางใจเถอะ ไว้รอให้งานเลี้ยงจบแล้ว ลูกจะเตรียมให้ทันทีเลยพ่ะย่ะค่ะ”“ดี! ดี!”ฮ่องเต้หวู่ดีใจเป็นอย่างยิ่ง เอ่ยชมว่า “เจ้าเก้า แว่นสายตายาวของเจ้า ถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุด ดีกว่าหยกเจ้าแม่กวนอิมอะไรนั่นมากจริงๆ”เมื่อกล่าวจบแล้ว ฮ่องเต้หวู่ก็มองยั่วยุไปที่หลี่เฟิงอวิ๋นหลี่เฟิงอวิ๋นไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ จ้องมองไปที่หลี่หลงหลินด้วยแววตาเกลียดชัง และเอ่ยด้วยรอยยิ้มขุ่นเคือง “เจ้าเก้า พวกเรามาคอยดูเถอะ”หลี่หลงหลินเห็นหลี่เฟิงอวิ๋นโกรธเคือง ก็รู้ว่าเขาเห็นตนเป็นศัตรูตัวฉกาจ อยากจะกำจัดเต็มที“เฮอะๆ”“คอยดูหรือ?”“ข้าจะทำให้เจ้าเดินไม่ได้เสียตอนนี้”หลี่หลงหลินหัวเราะเย็นชา แล้วหันไปมองไทเฮา “เสด็จย่า ใต้หล้าที่เต็มไปด้วยสีสัน ภาพที่มีชีวิตชีวาและคึกคั
ฮูหยินผู้เฒ่าซูและสะใภ้ทั้งสามต่างก็มองอย่างโง่เขลาซูเฟิ่งหลิงเจ้าทำอะไรของเจ้านั่นเป็นของขวัญที่องค์ชายสามมอบให้ไทเฮาเลยนะเหตุใดเจ้าถึงได้ซุ่มซ่ามขนาดนี้ หักศีรษะหยกของเจ้าแม่กวนอิมลงมาได้อย่างไร?คราวนี้จะจัดการสถานการณ์อย่างไร?ด้วยความเดือดดาลของฮ่องเต้ ไม่มีทางไม่โกรธตระกูลซูลั่วอวี้จู๋ กงซูหว่าน หลิ่วหรูเหยียนทำอะไรไม่ถูก เดินเข้ามาขอร้องหลี่หลงหลิน “องค์ชายเก้า เจ้าช่วยคิดหาทางช่วยเหลือน้องสาวที”“ถึงแม้ว่านางจะเป็นคนสะเพร่า แต่อย่างไรนางก็เป็นพระชายาของเจ้า”“ใช่ เจ้ารีบพูดช่วยนางเร็วเข้า”หลี่หลงหลินมองไปที่ปิ่นทองไม้หนานมู่บนหัวของสตรีทั้งสาม “แล้วเรื่องปิ่นปักผม?”สตรีทั้งสามตะลึงงันแล้วพูดว่า “นี่มันเวลาไหนแล้ว เจ้ายังมานึกถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อีกหรือ”“ทุบปิ่นไม่ทุบปิ่นอะไร เป็นครอบครัวกันทั้งนั้น”“พวกเราปักปิ่นอันเดียวกัน ก็หมายความว่าพี่น้องรักใคร่กันลึกซึ้ง”หลี่หลงหลินยิ้ม “อื้อ ในเมื่อพวกพี่สะใภ้ขอร้องข้า ข้าก็ต้องพูดช่วยซูเฟิ่งหลิงอย่างแน่นอน”หลังจากพูดจบแล้ว หลี่หลงหลินก็เดินไปตรงหน้าซูเฟิ่งหลิงแล้วบ่นว่า “เจ้านี่นะ ช่างโง่จริงๆ นี่เป็นของขวัญของ
ซูเฟิ่งหลิงยืนอยู่บนเวที มือถือศีรษะของเจ้าแม่กวนอิม ดวงตาทั้งคู่จ้องมองไปที่หลี่หลงหลิน น้ำตาไหลพรากอย่างไม่พอใจ “เจ้าเกลียดข้าขนาดนี้เลยหรือ! อยากให้ข้าตายให้ได้เลยหรืออย่างไร?”“หลี่หลงหลิน ข้ามองเจ้าผิดไปจริงๆ!”สามีของตนกลับหักหลังตนได้!มีชีวิตอยู่แล้วจะมีความหมายอะไร?ชั่วขณะนั้น ซูเฟิ่งหลิงอยากจะตายจริงๆแน่นอนว่าก่อนที่นางจะตาย นางจะต้องฆ่าหลี่หลงหลินก่อน ถือเป็นการขจัดความชั่วร้ายแทนประชาชน!ชายผู้นี้ช่างต่ำช้าและหน้าไม่อายจริงๆ...หลี่หลงหลินยิ้มบาง แล้วกล่าวว่า “โบยสี่สิบไม้ ข้ายอมรับ! แต่คนที่จะโดนไม่ใช่ซูเฟิ่งหลิง แต่เป็นพี่สาม!”หลี่เฟิงอวิ๋นขมวดคิ้วแน่น แล้วกล่าวด้วยเสียงหัวเราะเย็นชา “เจ้าเก้า เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับข้า?”หลี่หลงหลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เกี่ยวสิ และเกี่ยวข้องกับใต้หล้าด้วย! ทุกคนลองคิดดูนะ หยกไขมันแกะแข็งมาก! แม้ว่าซูเฟิ่งหลิงจะมีแรงเยอะรวมกับวัว แต่ก็ไม่มีทางหักหัวของเจ้าแม่กวนอิมลงออกมาได้!”“ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว นางเป็นเพียงสตรีผู้บอบบางเพียงคนหนึ่งเท่านั้น!”ซูเฟิ่งหลิงกล่าวด้วยความไม่พอใจ “ข้าบอกบางตรงไหนมิทราบ? แค่มือข้างเดียวของข้า ก็สามารถ
หลี่เฟิงอวิ๋นเผชิญหน้าต่อเสียงคำรามของฮ่องเต้หวู่ เขาไม่ได้ส่งเสียงใดๆชีวิตที่แข็งแกร่งและกล้าหาญ ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล!ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว วิธีการของตนเองก็ถูกหลี่หลงหลินเปิดโปงแล้ว หากยังดันทุรังต่อไป ก็มีแต่จะขายหน้า!“เจ้าเก้า!”แววตาของหลี่เฟิงอวิ๋นนั้นดุร้ายมาก เขาจ้องไปที่หลี่หลงหลินอย่างเอาเป็นเอาตาย!ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว ว่าเหตุใดเจ้าสี่ถึงได้เกลียดชังเจ้าเก้าเข้ากระดูกเช่นนี้!คนผู้นี้ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ที่ตนคิดเอาไว้ มันได้เปลี่ยนไปนานแล้ว ราวกับงูพิษที่ซ่อนอยู่ในเงามืด ดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง!ตนไม่ระวังเพียงเล็กน้อย ก็จะตกหลุมพรางของเขา!“หลี่เฟิงอวิ๋น!”“เจ้าหูหนวกหรือ?”“ยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษเสด็จย่าอีก!”“หรือว่าเจ้าอยากให้ข้าลากเจ้าออกไปโบยสี่สิบไม้จริงๆ?”ฮ่องเต้หวู่เห็นว่าหลี่เฟิงอวิ๋นไม่พูด ก็ยิ่งเดือดดาล และเรียกชื่อของเขาออกมาทันทีหลี่เฟิงอวิ๋นยังคงเงียบ“เจ้าๆๆ...”ร่างมังกรของฮ่องเต้หวู่สั่นเทา ริมฝีปากสั่นเทา แม้แต่พูดก็พูดไม่ออกไทเฮาจึงเอ่ยเกลี้ยกล่อม “ฮ่องเต้ ช่างเถอะ ช่างเถอะ! วันนี้อย่างไรก็เป็นวันเกิดของข้า พวกเจ้าสองพ่
แม้ว่าฮ่องเต้จะทรงประทานมงคลสมรสแล้วแต่อย่างไรทั้งคู่ก็ยังไม่ได้จัดพิธีแต่งงาน และซูเฟิ่งหลิงก็ยังไม่ได้แต่งเข้าตระกูลคนอื่นเรียกนางว่าพระชายา นั่นไม่ผิดแต่หลักการเรียกของฮองเฮานั้น เห็นได้ชัดว่าเข้มงวดมาก!แต่สิ่งที่ทำให้หลี่หลงหลินประหลาดใจก็คือ เหตุใดฮองเฮาหลู่ต้องเรียกซูเฟิ่งหลิงไปด้วย นางคิดจะทำอะไรกันแน่?เมื่อซูเฟิ่งหลิงได้ยินว่าฮองเฮาทรงเรียกเข้าเฝ้า ก็ตื่นตระหนกยิ่งกว่าหลี่หลงหลินเสียอีก “องค์ชายเก้า เหตุใดฮองเฮาถึงอยากพบข้า? นี่ไม่ใช่แผนของเจ้าใช่หรือไม่ หรือว่าว่าเจ้าคิดจะหลอกข้าอีกแล้ว?”จนกระทั่งตอนนี้ ซูเฟิ่งหลิงถึงได้เข้าใจ เมื่อครู่นี้หลี่หลงหลินตั้งใจหลอกตน เพื่อจะได้ใส่ร้ายหลี่เฟิงอวิ๋นแม้ว่าสุดท้ายตนจะไม่ได้รับอันตรายใดๆแต่ซูเฟิ่งหลิงยังคนรู้สึกกลัวอยู่ในใจ!แต่โชคดีที่หลี่หลงหลินยังมีมโนธรรมอยู่บ้างที่พูดช่วยตน!หากเขาไม่มีมโนธรรม ตั้งใจทำร้ายตนตนคงตายโดยไม่มีที่ฝังจริงๆ!หลี่หลงหลินส่ายหัว “ความคิดของฮองเฮาลึกล้ำมาก ไม่ใช่คนดีอะไร ข้าเองก็ไม่ค่อยรู้ชัดเจนนัก! พอเจ้าขึ้นไปกับข้าแล้ว ก็อย่าพูดอะไรไร้สาระ จำไว้!”ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า แล้วเดินตามหลังห
เสด็จพ่อจะพระราชทานอภัยโทษหรือ?หลี่หลงหลินตะลึงงันเล็กน้อย แต่ไม่ได้แปลกใจกับข่าวนี้เท่าไหร่วันพระราชสมภพของไทเฮา การพระราชทานอภัยโทษนั้นถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติแต่หลี่หลงหลินคิดไม่ถึงเลยว่า พี่หกก็จะได้รับการพระราชทานอภัยโทษด้วยมีความผิดมากมายที่ควรได้รับการอภัยโทษ แต่หนึ่งในนั้นไม่รวมการก่อกบฏ“เฮ้อ”“ต่างก็บอกว่าเสด็จพ่อใจคอโหดเหี้ยม แม้แต่ลูกชายของตัวเองก็ยังแคลงใจ!”“แต่ความจริงแล้ว เขาเป็นคนดีคนหนึ่ง!”หลี่หลงหลินทอดถอนใจ เขาส่งบัตรคนดีให้ฮ่องเต้หวู่ในใจแล้วฮ่องเต้หวู่เป็นคนดี แต่ไม่ใช่ฮ่องเต้ที่ดี!เขาใช้อารมณ์มากเกินไป ใจอ่อนเหมือนสตรี!สำหรับแคว้นแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องดีอะไรส่วนการที่ฉินกุ้ยเฟยได้รับการพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวออกมาจากตำหนักเย็นมันก็อยู่ในการคาดเดาของหลี่หลงหลินแล้วประการแรก เพราะภูมิหลังตระกูลของฉินกุ้ยเฟย ประการที่สองเพราะความกดดันจากตู้เหวินยวนและเหล่าขุนนาง ประการที่สามก็คือองค์ชายสี่หลี่จือและแน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ฉินกุ้ยเฟยไม่ได้ทำความผิดใหญ่หลวงอะไร นอกจากเลี้ยงดูเจ้าหกลูกทรพีผู้นี้มันก็แค่การซ่อมสวนผลาญเงินเท่านั้นไม่ใช
“ไม่เพียงเท่านั้น พวกเรายังกลายเป็นคนไม่ดี และถูกองค์ชายสี่เกลียดชัง!” “และพวกเรายังเป็นหนี้บุญคุณของฮองเฮา ต้องขอบคุณนางอย่างสุดซึ้ง!” หลี่หลงหลินพยักหน้า: “ถูกต้อง! นี่แหละคือความสามารถของฮองเฮา!” ซูเฟิ่งหลิงตกใจมาก: “มิน่าล่ะ ที่ท่านบอกว่าฮองเฮาไม่ใช่คนดี นางร้ายกาจเกินไปแล้วรึเปล่า! พวกเราถูกนางใช้เป็นเครื่องมือโดยไม่รู้ตัว!” “แต่พวกเรากลับไม่มีทางต่อต้านได้เลย!” หลี่หลงหลินถอนหายใจ: “ก็ใช่น่ะสิ! วังหลังเป็นสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในโลก! เหล่าพระสนมทุกคนดูเหมือนจะรักใคร่กลมเกลียว ยิ้มแย้มแจ่มใสให้กัน แต่จริงๆ แล้วลับหลังต่างคนต่างก็แทงมีดใส่กัน...” “ด้วยนิสัยของเสด็จแม่แล้ว ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ข้าเป็นห่วงนางจริงๆ!” “แต่ข้าเองก็ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้!” “ได้แต่หวังว่าความโปรดปรานของเสด็จพ่อจะสามารถปกป้องนางได้!” ซูเฟิ่งหลิงรู้สึกโชคดีมาก ที่นางไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น ทุกคนต่างก็เป็นคนหน้าเนื้อใจเสือ ปากหวานก้นเปรี้ยว ไม่สามารถไว้ใจใครได้เลย! มันน่ากลัวเกินไปแล้ว! “แต่ทว่า...” หลี่หลงหลินมองไปยังองค์ชายสี่หลี่จือที่อยู่ไกลๆ: “ฝ่ายขององค์ชายสี่
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ