พี่สะใภ้รองฉลาดเกินไปแล้วไม่คล้ายเด็กโง่ซูเฟิ่งหลิง อยากหลอกเยี่ยงไรก็หลอกเยี่ยงนั้นได้เลย!ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น หันหน้าก็ลืมแล้วข้าเพียงแปลกใจ ยามท่านไม่สวมเสื้อผ้าสีดำจะเป็นเช่นไรจำเป็นต้องระแวดระวังเพียงนี้เชียวหรือ?กระนั้น...เสื้อผ้าของหลิ่วหรูเยียน ส่วนใหญ่ล้วนนำมาจากสำนักการสังคีตสำหรับสตรีในห้องหอ แน่นอนว่าเปิดเผยไปบ้างจริงๆทว่าเสื้อผ้าเช่นนี้ถึงจะขับเน้นเรือนร่าง ถึงจะมีเสน่ห์!หลี่หลงหลินรอแทบไม่ไหว ยามกงซูหว่านปรากฏตัว จะเปล่งประกายเฉิดฉายมากเพียงใด!หลี่หลงหลินมาถึงห้องใต้หลังคาที่หลิ่วหรูเยียนพี่สะใภ้สี่พำนักอยู่โดยไม่รู้ตัวเสียงร้องไห้ดังออกจากภายใน“ร้องอีกแล้ว?”หลี่หลงหลินได้ยินเสียงร้องไห้ของหลิ่วหรูเยียน ทั้งตัวคนก็พูดไม่ออกแล้วแม้พูดว่าสตรีสร้างจากน้ำ แต่ท่านก็ไม่สามารถร้องไห้ทุกวันได้หรอกกระมัง?ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อหลายวันก่อนข้าเพิ่งจัดงานเลี้ยงบทกวีให้ท่านมิใช่หรือมิใช่ท่านดีใจมากกระนั้นรึ?เหตุใดร้องห่มร้องไห้อีกเล่า?กระนั้นหลิ่วหรูเยียนเป็นคนจิตใจดี หญิงเช่นนี้อารมณ์ละเอียดอ่อน เป็นไปได้มากว่าจะเป็นโรคซึมเศร้าโดยเฉพา
หลี่หลงหลินกลัวผู้หญิงร้องไห้ที่สุดไม่เพียงเสือโคร่งอย่างซูเฟิ่งหลิง ยังมีหลิ่วหรูเยียนหญิงงดงามเจ้าน้ำตาคนนี้“พี่สะใภ้สี่!”“ท่านอย่าร้องอีกเลย!”“ไม่แน่ว่าฮูหยินผู้เฒ่าอาจเลอะเลือน ลืมไปแล้ว!”“ข้าเชิญท่านไปด้วยกัน นี่ยังใช้ไม่ได้อีกหรือ?”หลี่หลงหลินรับมือไม่ทัน รีบพูด“ได้เลย!”หลิ่วหรูเยียนปาดน้ำตาคลี่ยิ้มออกมา เหยียดตัวตรงในทันใด? ? ?หลี่หลงหลินงงงันเหตุใดเปลี่ยนสีหน้าเร็วยิ่งกว่าพลิกหน้าตำราอีกเล่า?สัญชาตญาณบอกเขา!ตกหลุมพรางแล้ว!เจ้าถูกหลิ่วหรูเยียนหลอกแล้ว!ความสัมพันธ์แม่สามีลูกสะใภ้อะไร คะนึงหาท่านพี่สี่อะไรล้วนหลอกลวงทั้งสิ้น!นางเองก็มิได้เป็นโรคซึมเศร้านางเพียงอยากเข้าวัง ร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮาเท่านั้น...“หญิงงาม ช่างน่ากลัว!”หลี่หลงหลินสั่นสะท้านภายในใจเพราะเหตุนี้มีคนพูดว่าหลิ่วหูเยียนก็คือจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นางเป็นปรมาจารย์ด้านล้อเล่นกับใจคนโดยแท้!“พี่สะใภ้สี่...”หลี่หลงหลินหยิบปิ่นทองประดับมุกแดนใต้ออกมา ส่งให้หลิ่วหรูเยียน “ขอบคุณพี่สะใภ้สี่มากที่ช่วยเหลือ สอนแม่ม่ายทอผ้า ของขวัญเล็กๆ ไม่สามารถตอบแทนได้!”ดวงตา
กุบกับกุบกับ...เสียงกีบเท้าม้าดังขึ้นซูเฟิ่งหลิงมีสีหน้าอ่อนล้า พลิกตัวลงจากอาชาสีชาด ปากบ่นงึมงำ “ข้าเหนื่อยแทบตายแล้ว!”หลี่หลงหลินขยับขึ้นไปเอ่ยถาม “จัดแจงส่งทหารพ่ายศึกเข้าวังเรียบร้อยแล้วหรือ?”ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า “ใช่แล้ว! แต่ก็เพียงทหารพ่ายศึก ทหารใหม่ที่เหลือเข็นไม่ขึ้น ทำอันใดไม่ได้ ยังอยู่ที่ภูเขาทิศประจิม!”ดวงตาหลี่หลงหลินทอประกายระยับ เอ่ยปากชื่นชม “นี่เจ้าฉลาดขึ้นมาตั้งแต่ยามใด? ประโยชน์ของทหารพ่ายศึกก็คือข่มขวัญองค์ชายสาม! ยอมขาดดีกว่าไร้คุณภาพ แต่ละคนล้วนฉลาดหลักแหลม พี่สามถึงจะกริ่งเกรง!”ซูเฟิ่งหลิงโบกมือ เตรียมกลับเข้าห้อง “เลิกพูดไร้สาระ! ข้าจะกลับไปนอน! ไม่กินข้าวเย็นแล้ว! หากท่านปลุกข้า ข้าจะเอาชีวิตท่าน!”เช้าวันนี้ นางยังนอนไม่เต็มอิ่มก็ถูกฉุดขึ้นจากเตียง เข้าวังไปคุ้มภัยแล้วจากนั้นนางก็ไปคัดเลือกทหารที่ภูเขาทิศประจิม กลับเข้าวังอีกครั้ง ส่งมอบตัวให้กับแม่ทัพกองทหารองครักษ์เหนื่อยแทบตายแล้ว!บัดนี้ ซูเฟิ่งหลิงไม่อยากกินข้าว ต้องการเพียงนอนหลับ!หลี่หลงหลินห้ามนางไว้ “เจ้านอนไม่ได้ คืนนี้มีงานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮา เจ้าเป็นพระชายา ต้อง
หลี่หลงหลินไม่หันหน้ากลับ หนีจนไปถึงวังว่านโซ่วงานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮาก็จัดขึ้นที่นี่หน้าประตูประดับโคมไฟหลากสีสัน บรรยากาศครึกครื้นมากเวทีการแสดงถูกจัดตั้งไว้ในพระราชวัง เชิญคณะละครมีชื่อเสียงของเมืองหลวงมา ร้องทำการแสดง ‘เทพสามองค์อำนวยพร’ชนชั้นสูงไม่น้อยมาถึงก่อนล่วงหน้าแล้ว นั่งหน้าเวทีรับชมการแสดงหลี่หลงหลินรอนานมากแล้ว เห็นงานเลี้ยงใกล้เริ่มเต็มที รถม้าของสกุลซูเพิ่งเดินทางมาถึงลั่วอวี้จู๋ กงซูหว่านและหลิ่วหรูเยียนเรียงลำดับกันลงจากรถม้า ไม่หันมองหลี่หลงหลินเลยสักครั้ง ประคองฮูหยินผู้เฒ่าซูเข้าวังว่านโซ่ว เห็นได้ชัดว่ากำลังอึดอัดคับข้องใจซูเฟิ่งหลิงมาหยุดข้างกายหลี่หลงหลิน เอ่ยปากยิ้มเย็น “ท่านตายแน่! พี่สะใภ้โกรธมาก ผลที่ตามมาร้ายแรงมากนัก!”หลี่หลงหลินยิ้มกว้างเรื่องนี้เป็นเขาคิดไม่รอบคอบจริง เกิดความวุ่นวายใหญ่โตสกุลซูเกือบกลายเป็นนรกไปแล้ว โชคดีตนเองหนีออกมาว่องไว!แต่เรื่องพวกพี่สะใภ้โมโห อาจไม่เป็นเช่นนั้นอย่างไรเสียพวกนางก็มิได้ดึงปิ่นทองประดับมุกแดนใต้บนศีรษะลงมา มองออกว่าชมชอบอย่างแท้จริง ก็แค่รู้สึกเก้อกระดากอยู่บ้าง แสร้งขุ่นเคืองไป
ถูกหลี่หลงหลินกดดันมานานมากเพียงนี้คืนนี้จะต้องคิดบัญชีหลี่หลงหลินทั้งต้นและดอก ให้เขาชดใช้อย่างสาสม!ซูเฟิ่งหลิงโมโหมาก คิ้วเรียวดุจกิ่งหลิวเหยียดตรง “ท่าน...”หลี่หลงหลินจับมือหยกของซูเฟิ่งหลิง ยิ้มเย็นพลางพูด “อย่าโวยวาย! คืนนี้ใครเสียหน้า พวกเรายังรอดูต่อไปเถอะ!”งานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮาเริ่มขึ้นแล้วหลี่หลงหลินและซูเฟิ่งหลิงจับมือกันเข้าร่วมงานเลี้ยงเหล่าขุนนางชนชั้นสูงมีหน้ามีตาล้วนนั่งรวมกันเปล่งประกายที่สุดก็คือองค์ชายทั้งหกตรงหน้าองค์ชายใหญ่และองค์ชายรอง หนึ่งคนปกครองหนานเจียง หนึ่งคนปกครองตงไห่ ถูกแต่งตั้งไปอยู่ภายนอกตั้งแต่แรกแล้ว อยู่ห่างไกลภูเขาขวางกั้น ไม่สะดวกเข้าเมืองหลวงทว่า ของขวัญล้วนถูกส่งมาแล้วมีเพียงองค์ชายสามหลี่เฟิงอวิ๋น เขาเป็นซีเหลียงอ๋อง อยู่ไกลหมื่นลี้แต่ยังเดินทางกลับเมืองหลวงเว้นเสียแต่เขาแล้วยังมีองค์ชายสี่ องค์ชายห้า องค์ชายเจ็ด องค์ชายแปดไปจนถึงองค์ชายเก้าหลี่หลงหลินส่วนองค์ชายหกหลี่เซวียน บัดนี้อยู่ภายในคุก ไม่สามารถมาที่นี่ได้“เสด็จแม่!”ฮ่องเต้หวู่ประคองไทเฮาด้วยพระองค์เอง มาหยุดตรงหน้าทุกคน“ถวายพระพรไทเฮา!
“ฝ่าบาท!”เพราะมองไม่เห็น ไทเฮาจึงตรัสถามฮ่องเต้หวู่ทางด้านข้าง “ตกลงของขวัญที่เจ้าสามส่งมาคือสิ่งใด?”ฮ่องเต้หวู่แย้มพระโอษฐ์ตรัสว่า “ทูลเสด็จแม่ เป็นกวนอิมหยกสูงเท่าตัวคนพ่ะย่ะค่ะ!”หลี่เฟิงอวิ๋นเอ่ยปากยิ้มๆ “มิใช่เพียงกวนอิมหยกธรรมดาเพียงนั้น! ใบหน้าของกวนอิมหยกนี้เป็นข้าหากช่างแกะสลักโดยอิงตามพระบรมสาทิสลักษณ์ของเสด็จย่าทำขึ้น! กวนอิมหยกนี้ก็คือเสด็จย่าท่านพ่ะย่ะค่ะ!”“กวนอิมอำนวยพร!”“หลานขอให้ท่านอายุยืนนาน!”ไทเฮาซาบซึ้งพระทัยเป็นอย่างมาก เดินสั่นๆ มาหยุดตรงหน้ากวนอิมหยกโดยมีฮ่องเต้หวู่คอยประคอง ยื่นมือออกไปลูบแล้วลูบอีก เย็นมือดังคาด หยกเรียบลื่น เป็นหยกหยางจือชั้นดี“เจ้าสาม...”“เจ้ามีน้ำใจแล้ว!”“เจ้าก็เป็นเด็กดีกตัญญูคนหนึ่ง!”“ย่า...ย่าไม่รู้ต้องพูดอะไรถึงจะดี!”ไทเฮาน้ำตาคลอ ไหลลงมาอย่างสุดระงับฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรหลี่เฟิงอวิ๋นอย่างลุ่มลึกแวบหนึ่ง สายพระเนตรสับสนพูดตามสัตย์จริงฮ่องเต้หวู่เองก็คิดไม่ถึง ของขวัญวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮาที่หลี่เฟิงอวิ๋นมอบให้ ถึงขั้นมีค่ามากเพียงนี้!ยังไม่ต้องพูดว่ากวนอิมหยกไม่สามารถประเมินราคาได้ต่อให้เป็นเพียงหยกห
ที่สามารถนำออกมาได้ เว้นเสียแต่วัวแกะม้า ก็คือหยกที่มีราคาแล้วหากซีเหลียงอ๋องวางแผนก่อกบฏ จะต้องใช้เงินมหาศาล ไปซื้อเสบียงอาหารและอาวุธ รับสมัครทหารมาฝึกกวนอิมหยกนี้ ก็คือสมบัติล้ำค่าประเมินค่าไม่ได้จริง ต่อให้นำไปขายเป็นชิ้น ก็เพียงพอให้ฝึกทหารม้าฝีมือดีนับพันคนได้หลี่เฟิงอวิ๋นมอบให้โดยไม่หวังผลจริงหรือ?หลี่หลงหลินรู้สึกเหลือจะเชื่อเว้นเสียแต่เรื่องนี้แล้วกวนอิมหยกงดงามแตกง่ายเพียงนี้ หลี่เฟิงอวิ๋นต้องใส่ใจและเสียเวลามากน้อยเพียงใด ถึงจะสามารถขนย้ายจากซีเหลียงมายังเมืองหลวงได้?เรื่องที่หลี่หลงหลินไม่เข้าใจ ซูเฟิ่งหลิงเองก็ไม่เข้าใจ ส่ายหน้า “บางที ซีเหลียงอ๋องอาจกตัญญูจริงกระมัง?”“กตัญญู?”ลั่วอวี้จู๋ทางด้านข้างหัวเราะออกมา “กลอุบายเล็กๆ ขององค์ชายสามตบตาได้เพียงฝ่าบาทและไทเฮาที่มองไม่เห็นเท่านั้น!”หลี่หลงหลินอึ้งงัน กระซิบถามเสียงค่อย “พี่สะใภ้ใหญ่ กลอุบายเล็กๆ อะไรหรือ?”ดวงตาคู่งามของลั่วอวี้จู๋ทอประกาย ยิ้มเย็นพลางพูด “ท่านเคยได้ยินเรื่องประกบหยกหรือไม่?”หลี่หลงหลินเข้าใจแล้ว “ท่านกำลังพูดว่ากวนอิมหยกนี้ถูกประกบเข้าด้วยกัน?”ลั่วอวี้จู๋พยักหน้า เอ่ยปากอย่างม
ห้องใต้หลังคาแห่งหนึ่งของวังว่านโซ่ว ตกแต่งได้อย่างหรูหรางดงามเหล่าสนมในวังหลังนั่งอยู่ที่ฝั่งหนึ่ง ด้านบนวางผลไม้ไว้แล้วหลินกุ้ยเฟยมารดาของหลี่หลงหลินเองก็อยู่ด้วย สีหน้าอึดอัดอยู่บ้างไม่เพียงเพราะตำแหน่งของนางในตอนนี้คือกุ้ยเฟยแต่ยังเพราะฮองเฮาหลู่นั่งอยู่ข้างกายนาง สวมใส่ชุดชาววังหรูหรางดงาม ศีรษะประดับไปด้วยเครื่องประดับราคาแพง ใบหน้าสง่างาม สมเป็นมารดาของคนทั่วหล้าฮองเฮาหลู่งดงามมาก วัยกำดัดเองก็งดงามไม่ด้อยไปกว่าหลินกุ้ยเฟยแต่ไม่รู้เพราะเหตุใดความสัมพันธ์ระหว่างฮ่องเต้หวู่และฮองเฮาไม่ใกล้ชิดสนิทสนม ยังมีข่าวลือออกมาบ่อยๆ ว่าไม่ลงรอยกันอีกด้วยแต่นี่มิได้สั่นคลอนตำแหน่งเจ้านายแห่งวังหลังของฮองเฮาหลู่เว้นเสียแต่ความงามแล้ว ทั้งความคิดและฝีมือของฮองเฮาท่านนี้ล้วนร้ายกาจ!ยามหลินกุ้ยเฟยเพิ่งเข้าวังก็ถูกฮองเฮาทำให้หวาดกลัวแม้พูดว่าฉินกุ้ยเฟยไม่ได้รับความโปรดปรานแล้ว ถูกส่งเข้าตำหนักเย็น หลินกุ้ยเฟยเป็นรองเพียงฮองเฮา อยู่เหนือสนมทั้งหมดแต่ยามเผชิญหน้ากับฮองเฮา หลินกุ้ยเฟยยังอึดอัด ประหม่าไปทุกจุด!“ฮึ!”“กวนอิมหยกดีนักนะ!”“ดูท่าแล้วงานเลี้ยงวันนี้ เจ้าสามได้หน้า