ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว: “เจ้าสามตั้งใจยั่วโมโหเราอย่างนั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้น เขาก็ทำสำเร็จแล้ว!” ฮ่องเต้หวู่ไม่เก่งเรื่องการวางแผนและมักจะใช้อารมณ์ตัดสินปัญหา เรื่องนี้เขาคิดเหมือนกับเว่ยซวินเมื่อครู่นี้ ว่าจะออกพระราชโองการประกาศว่าซีเหลียงอ๋องเป็นกบฏ! แต่การทำเช่นนี้ แม้ว่าจะสามารถระบายความโกรธได้ชั่วคราว แต่ก็ตกหลุมพรางของหลีเฟิงอวิ๋น! เมื่อถึงตอนนั้น หลีเฟิงอวิ๋นจะนำทหารม้าเหล็กซีเหลียงสามพันนายบุกเข้าเมืองหลวง ฮ่องเต้หวู่อยากจะร้องไห้ก็ไม่รู้ว่าจะไปร้องที่ไหน! “เจ้าเก้า เจ้าว่าเราควรจะรับมืออย่างไร?” ฮ่องเต้หวู่ กลับมาสงบดังเดิม และหันไปถามหลี่หลงหลิน หลี่หลงหลินครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “ซีเหลียงอ๋องยังขาดข้ออ้าง เราจะให้ข้ออ้างเขาไม่ได้! เสด็จพ่อ โปรดปิดข่าวนี้ไว้ทันที! เรื่องที่เกิดขึ้นในตำหนักหยั่งซินวันนี้ ใครก็ตามที่กล้าแพร่งพรายออกไป ฆ่าทิ้งให้หมด!” ฮ่องเต้หวู่พยักหน้า: “มีเหตุผล!” หลี่หลงหลินพูดต่อ: “ซีเหลียงอ๋องมาถึงเมืองหลวงเพื่อร่วมอวยพรวันเกิดให้เสด็จย่า! เมื่อคืนนี้ผ่านไป เขาจะไม่มีเหตุผลอยู่ในเมืองหลวงต่อไปอีก และควรจะกลับไปซีเหลียง!” ฮ่องเต้หวู
ขณะเดียวกันหลี่หลงหลินไม่รู้ องค์ชายสามหลี่เฟิงอวิ๋นและองค์ชายสี่หลี่จือกำลังมองตนเองสายตาเยียบเย็นอยู่บนห้องใต้หลังคาหลี่เฟิงอวิ๋นยกมุมปาก สีหน้าหมิ่นแคลน “เจ้าสี่ ก็คือเจ้าเก้าตัวไร้ประโยชน์คนนั้น ทำให้เจ้ากลายเป็นเช่นนี้รึ? เจ้าไม่ได้เรื่องเกินไปแล้วกระมัง!”หลี่จือใบหน้าแดงเรื่อ เอ่ยปากโต้แย้ง “พี่สาม วันนี้ท่านบุกยึดวัง นี่ก็ต้องถูกเจ้าเก้าทำลายแผนมิใช่หรือ?”หลี่เฟิงอวิ๋นหัวเราะเสียงเย็น เอ่ยเยาะหยัน “เพียงเขาก็คิดขวางข้ากระนั้นรึ? หากข้ามิได้อยู่ในซีเหลียงมานานหลายปี เรียนรู้ที่จะอดทน! วันนี้ ข้าฆ่าทุกคนในพระที่นั่งหย่างซิน ก็ไม่มีใครขัดขวางข้าได้!”หลี่จือสั่นสะท้านภายในใจ สีหน้าไม่สบอารมณ์มากพูดตามสัตย์จริง เขาเองก็ไม่ชอบผูกไมตรีกับหลี่เฟิงอวิ๋นพี่สามคนนี้ แท้จริงแล้วโหดเหี้ยมมากเกินไป ลงมืออย่างอำมหิต แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยไว้หน้า!ทว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้ หลี่จือไม่มีตัวเลือกอื่น ทำได้เพียงร่วมมือกับพี่สาม ถึงจะสามารถต่อสู้กับเจ้าเก้าได้!หลังผ่านไปพักหนึ่งข่าวถูกส่งออกจากวังฮ่องเต้หวู่มิได้พิโรธ ตรงข้ามกันปิดพระที่นั่งหย่างซิน ปกป้องศักดิ์ศรีของหลี่เฟิงอวิ๋น
หลี่หลงหลินควบม้าไม่หยุด เดินทางกลับจวนสกุลซูภายในลานป่าไผ่สดชื่นงดงาม กงซูหว่านงดงามเยือกเย็นปานบัวหิมะ กำลังนั่งบนเก้าอี้หิน รออยู่เงียบๆ“พี่สะใภ้รอง!”หลี่หลงหลินมาถึงก็ทำลายความเงียบสงบภายในลานแล้ว “แว่นสายตายาวทำเสร็จแล้วหรือไม่?”“นี่...”กงซูหว่านชี้ไปที่กล่องผ้าไหมบนโต๊ะหิน “อยู่ในนี้”หลี่หลงหลินรีบเปิดกล่องออก หยิบแว่นสายตายาวออกมาอย่างระมัดระวังขาแว่นทำจากต้นหนานมู่เนื้อทอง หนักไปบ้าง เนื้อสัมผัสกลับยอดเยี่ยมเลนส์ขัดจากผลึก ทั้งใสทั้งโปร่งแสงหลี่หลงหลินลองสวมแว่นสายตายาว ทันใดนั้นอาการเวียนศีรษะที่คุ้นเคยก็โจมตีเข้ามาใช่แล้ว!ก็คือความรู้สึกนี้ ถูกต้องแล้ว!แม้ไม่รู้ว่าค่าสายตาแว่นสายตายาวของไทเฮามากน้อยเพียงใด แต่สวมแว่นสายตายาวแล้ว ย่อมเห็นชัดกว่าไม่ได้สวมหลี่หลงหลินเอ่ยปากชื่นชมอย่างไม่ประหยัดถ้อยคำ “พี่สะใภ้รอง ฝีมือของท่านนี้! ยอดเยี่ยมจริงๆ!”กงซูหว่านใช้สายตาดุจน้ำในฤดูใบไม้ร่วงมองหลี่หลงหลินแวบหนึ่ง “ฝีมือดีเยี่ยงไร ก็ไม่ดีเท่าความคิดของท่าน! หากมิใช่ท่าน ชาตินี้ข้าก็นึกถึงของอย่างแว่นสายตายาวเช่นนี้ไม่ออก!”หลี่หลงหลินยิ้มกว้าง “หากพี่สะใภ้รองช
พี่สะใภ้รองฉลาดเกินไปแล้วไม่คล้ายเด็กโง่ซูเฟิ่งหลิง อยากหลอกเยี่ยงไรก็หลอกเยี่ยงนั้นได้เลย!ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น หันหน้าก็ลืมแล้วข้าเพียงแปลกใจ ยามท่านไม่สวมเสื้อผ้าสีดำจะเป็นเช่นไรจำเป็นต้องระแวดระวังเพียงนี้เชียวหรือ?กระนั้น...เสื้อผ้าของหลิ่วหรูเยียน ส่วนใหญ่ล้วนนำมาจากสำนักการสังคีตสำหรับสตรีในห้องหอ แน่นอนว่าเปิดเผยไปบ้างจริงๆทว่าเสื้อผ้าเช่นนี้ถึงจะขับเน้นเรือนร่าง ถึงจะมีเสน่ห์!หลี่หลงหลินรอแทบไม่ไหว ยามกงซูหว่านปรากฏตัว จะเปล่งประกายเฉิดฉายมากเพียงใด!หลี่หลงหลินมาถึงห้องใต้หลังคาที่หลิ่วหรูเยียนพี่สะใภ้สี่พำนักอยู่โดยไม่รู้ตัวเสียงร้องไห้ดังออกจากภายใน“ร้องอีกแล้ว?”หลี่หลงหลินได้ยินเสียงร้องไห้ของหลิ่วหรูเยียน ทั้งตัวคนก็พูดไม่ออกแล้วแม้พูดว่าสตรีสร้างจากน้ำ แต่ท่านก็ไม่สามารถร้องไห้ทุกวันได้หรอกกระมัง?ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อหลายวันก่อนข้าเพิ่งจัดงานเลี้ยงบทกวีให้ท่านมิใช่หรือมิใช่ท่านดีใจมากกระนั้นรึ?เหตุใดร้องห่มร้องไห้อีกเล่า?กระนั้นหลิ่วหรูเยียนเป็นคนจิตใจดี หญิงเช่นนี้อารมณ์ละเอียดอ่อน เป็นไปได้มากว่าจะเป็นโรคซึมเศร้าโดยเฉพา
หลี่หลงหลินกลัวผู้หญิงร้องไห้ที่สุดไม่เพียงเสือโคร่งอย่างซูเฟิ่งหลิง ยังมีหลิ่วหรูเยียนหญิงงดงามเจ้าน้ำตาคนนี้“พี่สะใภ้สี่!”“ท่านอย่าร้องอีกเลย!”“ไม่แน่ว่าฮูหยินผู้เฒ่าอาจเลอะเลือน ลืมไปแล้ว!”“ข้าเชิญท่านไปด้วยกัน นี่ยังใช้ไม่ได้อีกหรือ?”หลี่หลงหลินรับมือไม่ทัน รีบพูด“ได้เลย!”หลิ่วหรูเยียนปาดน้ำตาคลี่ยิ้มออกมา เหยียดตัวตรงในทันใด? ? ?หลี่หลงหลินงงงันเหตุใดเปลี่ยนสีหน้าเร็วยิ่งกว่าพลิกหน้าตำราอีกเล่า?สัญชาตญาณบอกเขา!ตกหลุมพรางแล้ว!เจ้าถูกหลิ่วหรูเยียนหลอกแล้ว!ความสัมพันธ์แม่สามีลูกสะใภ้อะไร คะนึงหาท่านพี่สี่อะไรล้วนหลอกลวงทั้งสิ้น!นางเองก็มิได้เป็นโรคซึมเศร้านางเพียงอยากเข้าวัง ร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮาเท่านั้น...“หญิงงาม ช่างน่ากลัว!”หลี่หลงหลินสั่นสะท้านภายในใจเพราะเหตุนี้มีคนพูดว่าหลิ่วหูเยียนก็คือจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นางเป็นปรมาจารย์ด้านล้อเล่นกับใจคนโดยแท้!“พี่สะใภ้สี่...”หลี่หลงหลินหยิบปิ่นทองประดับมุกแดนใต้ออกมา ส่งให้หลิ่วหรูเยียน “ขอบคุณพี่สะใภ้สี่มากที่ช่วยเหลือ สอนแม่ม่ายทอผ้า ของขวัญเล็กๆ ไม่สามารถตอบแทนได้!”ดวงตา
กุบกับกุบกับ...เสียงกีบเท้าม้าดังขึ้นซูเฟิ่งหลิงมีสีหน้าอ่อนล้า พลิกตัวลงจากอาชาสีชาด ปากบ่นงึมงำ “ข้าเหนื่อยแทบตายแล้ว!”หลี่หลงหลินขยับขึ้นไปเอ่ยถาม “จัดแจงส่งทหารพ่ายศึกเข้าวังเรียบร้อยแล้วหรือ?”ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า “ใช่แล้ว! แต่ก็เพียงทหารพ่ายศึก ทหารใหม่ที่เหลือเข็นไม่ขึ้น ทำอันใดไม่ได้ ยังอยู่ที่ภูเขาทิศประจิม!”ดวงตาหลี่หลงหลินทอประกายระยับ เอ่ยปากชื่นชม “นี่เจ้าฉลาดขึ้นมาตั้งแต่ยามใด? ประโยชน์ของทหารพ่ายศึกก็คือข่มขวัญองค์ชายสาม! ยอมขาดดีกว่าไร้คุณภาพ แต่ละคนล้วนฉลาดหลักแหลม พี่สามถึงจะกริ่งเกรง!”ซูเฟิ่งหลิงโบกมือ เตรียมกลับเข้าห้อง “เลิกพูดไร้สาระ! ข้าจะกลับไปนอน! ไม่กินข้าวเย็นแล้ว! หากท่านปลุกข้า ข้าจะเอาชีวิตท่าน!”เช้าวันนี้ นางยังนอนไม่เต็มอิ่มก็ถูกฉุดขึ้นจากเตียง เข้าวังไปคุ้มภัยแล้วจากนั้นนางก็ไปคัดเลือกทหารที่ภูเขาทิศประจิม กลับเข้าวังอีกครั้ง ส่งมอบตัวให้กับแม่ทัพกองทหารองครักษ์เหนื่อยแทบตายแล้ว!บัดนี้ ซูเฟิ่งหลิงไม่อยากกินข้าว ต้องการเพียงนอนหลับ!หลี่หลงหลินห้ามนางไว้ “เจ้านอนไม่ได้ คืนนี้มีงานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮา เจ้าเป็นพระชายา ต้อง
หลี่หลงหลินไม่หันหน้ากลับ หนีจนไปถึงวังว่านโซ่วงานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮาก็จัดขึ้นที่นี่หน้าประตูประดับโคมไฟหลากสีสัน บรรยากาศครึกครื้นมากเวทีการแสดงถูกจัดตั้งไว้ในพระราชวัง เชิญคณะละครมีชื่อเสียงของเมืองหลวงมา ร้องทำการแสดง ‘เทพสามองค์อำนวยพร’ชนชั้นสูงไม่น้อยมาถึงก่อนล่วงหน้าแล้ว นั่งหน้าเวทีรับชมการแสดงหลี่หลงหลินรอนานมากแล้ว เห็นงานเลี้ยงใกล้เริ่มเต็มที รถม้าของสกุลซูเพิ่งเดินทางมาถึงลั่วอวี้จู๋ กงซูหว่านและหลิ่วหรูเยียนเรียงลำดับกันลงจากรถม้า ไม่หันมองหลี่หลงหลินเลยสักครั้ง ประคองฮูหยินผู้เฒ่าซูเข้าวังว่านโซ่ว เห็นได้ชัดว่ากำลังอึดอัดคับข้องใจซูเฟิ่งหลิงมาหยุดข้างกายหลี่หลงหลิน เอ่ยปากยิ้มเย็น “ท่านตายแน่! พี่สะใภ้โกรธมาก ผลที่ตามมาร้ายแรงมากนัก!”หลี่หลงหลินยิ้มกว้างเรื่องนี้เป็นเขาคิดไม่รอบคอบจริง เกิดความวุ่นวายใหญ่โตสกุลซูเกือบกลายเป็นนรกไปแล้ว โชคดีตนเองหนีออกมาว่องไว!แต่เรื่องพวกพี่สะใภ้โมโห อาจไม่เป็นเช่นนั้นอย่างไรเสียพวกนางก็มิได้ดึงปิ่นทองประดับมุกแดนใต้บนศีรษะลงมา มองออกว่าชมชอบอย่างแท้จริง ก็แค่รู้สึกเก้อกระดากอยู่บ้าง แสร้งขุ่นเคืองไป
ถูกหลี่หลงหลินกดดันมานานมากเพียงนี้คืนนี้จะต้องคิดบัญชีหลี่หลงหลินทั้งต้นและดอก ให้เขาชดใช้อย่างสาสม!ซูเฟิ่งหลิงโมโหมาก คิ้วเรียวดุจกิ่งหลิวเหยียดตรง “ท่าน...”หลี่หลงหลินจับมือหยกของซูเฟิ่งหลิง ยิ้มเย็นพลางพูด “อย่าโวยวาย! คืนนี้ใครเสียหน้า พวกเรายังรอดูต่อไปเถอะ!”งานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮาเริ่มขึ้นแล้วหลี่หลงหลินและซูเฟิ่งหลิงจับมือกันเข้าร่วมงานเลี้ยงเหล่าขุนนางชนชั้นสูงมีหน้ามีตาล้วนนั่งรวมกันเปล่งประกายที่สุดก็คือองค์ชายทั้งหกตรงหน้าองค์ชายใหญ่และองค์ชายรอง หนึ่งคนปกครองหนานเจียง หนึ่งคนปกครองตงไห่ ถูกแต่งตั้งไปอยู่ภายนอกตั้งแต่แรกแล้ว อยู่ห่างไกลภูเขาขวางกั้น ไม่สะดวกเข้าเมืองหลวงทว่า ของขวัญล้วนถูกส่งมาแล้วมีเพียงองค์ชายสามหลี่เฟิงอวิ๋น เขาเป็นซีเหลียงอ๋อง อยู่ไกลหมื่นลี้แต่ยังเดินทางกลับเมืองหลวงเว้นเสียแต่เขาแล้วยังมีองค์ชายสี่ องค์ชายห้า องค์ชายเจ็ด องค์ชายแปดไปจนถึงองค์ชายเก้าหลี่หลงหลินส่วนองค์ชายหกหลี่เซวียน บัดนี้อยู่ภายในคุก ไม่สามารถมาที่นี่ได้“เสด็จแม่!”ฮ่องเต้หวู่ประคองไทเฮาด้วยพระองค์เอง มาหยุดตรงหน้าทุกคน“ถวายพระพรไทเฮา!