Share

บทที่ 128

Aвтор: จันทร์กระจ่างภูผา
ท้องพระโรง

ฮ่องเต้หวู่สวมเสื้อคลุมมังกร ประทับสูงสง่าอยู่บนบัลลังก์มังกร

ขุนนางร้อยคนเคารพนบนอบ สรรเสริญให้พระชนมายุยืนยาว

“ขุนนางทั้งหลาย ตามสบายเถิด!”

ฮ่องเต้หวู่แย้มยิ้ม ดูเหมือนจะอารมณ์ดี ไม่เศร้าหมองเหมือนเมื่อไม่กี่วันก่อนแล้ว

มีเงินอยู่ในมือ ทำให้จิตใจสงบลงได้

ฮ่องเต้หวู่ส่งคนไปปิดหอการค้าใหญ่ทั้งแปด ยึดเงินมาได้จำนวนมาก นำใช้ในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยนอกเมือง นี่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

เหล่าขุนนางรู้ดีว่า เงินทั้งหมดที่ฮ่องเต้หวู่ใช้ในการตั้งสร้างรกร้างให้ผู้ลี้ภัยใหม่นั้น แท้จริงคือเงินของพวกเขา ทุกคนต่างก็มีหลั่งเลือดอยู่ในใจ

แต่ภายนอก เหล่าขุนนางแสร้งทำเป็นยินดี กล่าววาจาเทิดทูนและยกย่องความหลักแหลมของฮ่องเต้หวู่

พันหมื่นมีให้สวมใส่ เว้นไว้เพียงคำเยินยอ[footnoteRef:1] [1: แปลว่า เสื้อผ้ามีให้สวมมากมาย แต่คำพูดเยินยอไม่อาจเอามาสวมใส่ได้ หรือก็คือ ไม่อาจใส่ใจเกินไปได้]

แน่นอนว่า ฮ่องเต้หวู่เองก็รู้ดีว่าเหล่าขุนนางหน้าไหว้หลังหลอก และคำชมที่ไม่ได้มาจากใจจริงนี้ คือกำลังตบตูดม้า[footnoteRef:2]ตนอยู่ [2: ประจบประเจง]

แต่เขายังสุขใจอยู่ ดวงตาหรี่ลง ดูเกินงามไปเล็กน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Заблокированная глава
Комментарии (1)
goodnovel comment avatar
Suthat Ungchun
สนุกดี ชอบๆ
ПРОСМОТР ВСЕХ КОММЕНТАРИЕВ

Related chapter

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 129

    เยว่ซานพูดอย่างเคร่งขรึม “ไม่ผิด! กระหม่อมต้องการฟ้องโทษองค์ชายเก้าที่กดขี่หญิงม่ายและเด็กกำพร้าของกองทัพตระกูลซู! หวังว่าฝ่าบาทจะสอบสวนคดีนี้อย่างละเอียด ลงโทษผู้กระทำผิด กำจัดความชั่วร้าย ช่วยชาวหลี่จากไฟร้อนเผาใจ!”ฮ่องเต้หวู่ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิงเจ้าเก้าทำตัวไร้สาระจริง แต่เขาจะไปรังแกเด็กกำพร้าของกองทัพตระกูลซูได้อย่างไร?แต่หากมีควัน ย่อมไม่ไร้ไฟ[footnoteRef:1] [1: ข่าวลือย่อมมีมูลเหตุ] เยว่ซานในฐานะผู้ตรวจการ คงไม่ได้กุเรื่องขึ้นมาจากลมหรอกกระมัง?ใบหน้าของฮ่องเต้หวู่ดำเป็นถ่าน “นายพลทหารของกองทัพตระกูลซู เสียสละชีวิตเพื่อแว่นแคว้น เป็นวีรบุรุษของต้าเซี่ย! แม่ม่ายและเด็กกำพร้าของพวกเขาควรได้รับการปฏิบัติอย่างมีเหมาะสมที่สุด! ผู้ใดกล้ารังแกพวกเขา ไม่เพียงแต่ข้าจะไม่ปล่อยปละ แต่คนทั้งใต้หล้าก็จะไม่รามือ!”“ถ้าสิ่งที่เจ้าพูดเป็นความจริง เช่นนั้นต่อให้จะเป็นองค์ชายเก้า ข้าก็จะเอาความให้ถึงที่สุด!”“แต่เรื่องนี้สำคัญยิ่ง เจ้ามีหลักฐานจริงๆ ใช่หรือไม่?”เยว่ซานหัวเราะเสียงเย็นแล้วพูดว่า “แม้ว่ากระหม่อมจะไร้หลักฐานที่เป็นรูปธรรมอยู่ในมือ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนในเมืองหลวงรู้!

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 130

    ผู้ตรวจการเยว่ซานกล่าวหาหลี่หลงหลิน โดยบอกว่าเขากดขี่หญิงม่ายและเด็กกำพร้าของกองทัพตระกูลซูฮ่องเต้หวู่เดิมทีไม่เชื่อลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้นไม่ว่าเจ้าเก้าจะเสเพลเพียงใด แต่เขาจะไม่ทำสิ่งชั่วร้ายเช่นนี้แน่!ทว่า คำพูดของเยว่ซานพุ่งตรงทะลุเป้า กล้าถึงขนาดขอให้เจ้าเก้าเข้าวังมาฉะกับตนฮ่องเต้หวู่อดแสดงความลังเลไม่ได้ ไม่อาจตัดสินใจได้ในทันทีไม่กลัวหนึ่งหมื่น กลัวเพียงหนึ่งหาก!หากสิ่งที่เยว่ซานพูดเป็นความจริง หลี่หลงหลินรังแกแม่ม่ายและเด็กกำพร้าพวกนั้นจริงๆ เช่นนั้นเรื่องนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เหลือจะกล่าว เวลาสั้นๆ นี้ ไม่แน่ว่าจะจบเรื่องลงได้!หรือว่า ต้องใช้กฎหมายมาจัดการจริงๆ ต้องส่งเจ้าเก้าเข้าคุก ให้เขาไปอยู่กับเจ้าหกจริงๆ หรือ?ฮ่องเต้หวู่ทนไม่ได้จริงๆอัครมหาเสนาบดีตู้เหวินยวนเห็นฮ่องเต้หวู่ลังเลก็ก้าวไปข้างหน้า “ฝ่าบาท! เรื่องนี้สำคัญอย่างยิ่ง ขอพระองค์รับสั่งเรียกองค์ชายเก้าเข้าวัง ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”ขุนนางทุกคนคุกเข่าลงกับพื้น พร้อมกันพูดเสียงดัง “ฝ่าบาท ขอพระองค์รับสั่งเรียกองค์ชายเก้าเข้าวังด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”นี่ไม่ใช่คำขอ แต่เป็นคำขู่!

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 131

    หลี่หลงหลินพยักหน้า “ใช่”เยว่ซานพูดต่อ “เช่นนั้นผ้าฝ้ายของท่าน ใช่หรือไม่ว่าหนึ่งพับขายเพียงแปดสิบอีแปะ ราคาถูกกว่าตลาดถึงยี่สิบอีแปะ”หลี่หลงหลินตอบ “ใช่”เยว่ซานมีสีหน้าลำพองใจ “เช่นนั้นใช่หรือไม่ว่าท่านจ้างแม่ม่ายเด็กกำพร้า ทอผ้าให้ท่าน?”หลี่หลงหลินไม่ลังเลแม้แต่น้อย ตอบว่า “ไม่ผิด!”เสียงดังเซ็งแซ่ขึ้นภายในราชสำนักในทันทีทันใดเดิมทีขุนนางใหญ่คิดว่าหลี่หลงหลินจะปฏิเสธอย่างดื้อรั้น หาข้ออ้างไม่ยอมรับคิดไม่ถึงเขายอมรับทั้งหมดโดยไม่โต้แย้ง!นี่จะต่างอันใดจากการยอมรับผิดโดยตรง?ใบหน้าเยว่ซานเผยรอยยิ้ม หมุนตัวเอ่ยกับฮ่องเต้หวู่ “ฝ่าบาท ในเมื่อองค์ชายเก้ายอมรับผิดแล้ว กระหม่อมก็ไม่มีอันใดพูดอีก! ฝ่าบาทโปรดพระราชทานพระราชโองการ ลงโทษองค์ชายเก้าด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรลูกชายไม่ได้เรื่องคล้ายเกลียดเหล็กที่ไม่เป็นเหล็กกล้าอย่างขึ้งโกรธ “เจ้าเก้า! เจ้าถึงขั้นทำเรื่องชั่วเพียงนี้! เราผิดหวังในตัวเจ้ายิ่งนัก!”หลี่หลงหลินงุนงง “เสด็จพ่อ ลูกทำผิดตั้งแต่ยามใด? ลูกเพียงพูดว่าลูกว่าจ้างแม่ม่ายเด็กกำพร้าทำงาน มิเคยพูดว่ารังแกพวกนางมาก่อนพ่ะย่ะค่ะ!” ฮ่องเต้หวู่ตรัสอย่างพิ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 132

    ได้ยินว่าฮ่องเต้หวู่ต้องการเสด็จออกจากวัง ตรวจสอบคดีนี้ด้วยพระองค์เอง ทั่วทั้งราชสำนักล้วนวุ่นวายเละเป็นโจ๊กหนึ่งหม้อที่มีท่าทีตอบสนองรุนแรงที่สุด ย่อมเป็นหัวหน้ากลุ่มขุนนางฝ่ายบุ๋นตู้เหวินหยวนแล้วพวกเขาแต่ละคนล้วนคุกเข่าบนพื้น ร้องไห้โอดครวญ คล้ายฟ้าถล่มก็มิปานสีพระพักตร์ฮ่องเต้หวู่เผือดซีด พระวรกายสั่นเทาพวกขุนนางฝ่ายบุ๋นเหล่านี้ ปากบอกว่าทำเพราะคำนึงถึงความปลอดภัยของเราแต่แท้จริงแล้วกำลังควบคุมเรา!เราคือโอรสสวรรค์ หรือว่าแม้แต่อิสระก็ไม่มีกระนั้น?เราและนักโทษในคุกหลวง แตกต่างกันที่ใด?ไม่!นักโทษอิสระเสียยิ่งกว่าเรา!อย่างน้อย พวกเขาก็ไม่ต้องทำงานหนักเพื่อบ้านเมือง อ่านฎีกา ติดอยู่กับหนังสือราชการเหมือนเรา... ฮ่องเต้หวู่รู้สึกเศร้าหมองภายในใจ สายตาหันมองทางเว่ยซวิน หวังให้เขาลุกออกมา ช่วยตนเองพูดสักสองประโยคเว่ยซวินจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ กลับก้มหน้าไม่พูดจาอย่างไรเสียเขาก็เป็นขันที อำนาจมากมายอย่างไร ก็ไม่สะดวกข้องเกี่ยวกับราชสำนักยิ่งไปกว่านั้น ทั้งบุ๋นบู๊กำลังตื่นตระหนก เว่ยซวินไม่โง่งมถึงขั้นเป็นคนเสนอหน้าออกมา!“เฮ้อ...”ฮ่องเต้หวู่พรูลมหายใจยาวเหยียดออก

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 133

    ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว “ตลาดทิศทักษิณหรือ...”พูดตามสัตย์จริง ฮ่องเต้หวู่ไม่เคยไปตลาดทิศทักษิณมาก่อนก่อนนี้เขาออกจากวัง ก็เดินทางไปยังสถานที่ที่ขุนนางชั้นสูงเข้าออกทั้งสิ้นกระนั้นฮ่องเต้หวู่เคยได้ยินมาว่า ตลาดทิศทักษิณเป็นสถานที่ที่ราษฎร์ไปบ่อยๆ สกปรกวุ่นวาย ภายในอากาศล้วนมีกลิ่นเหม็น...เทียบกับตลาดทิศประจิมแล้ว ตลาดทิศทักษิณซบเซากว่ามากยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ เผ่าหมานใกล้จะตีเมืองหลวง เพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย คนไม่น้อยหลีกเลี่ยงลงใต้ ขายร้านในตลาดทิศทักษิณในราคาถูกเมื่อเป็นเช่นนี้ ตลาดทิศทักษิณก็ซบเซามากยิ่งขึ้น...หลังผ่านไปครู่หนึ่งรถม้าของฮ่องเต้หวู่มาหยุดหน้าตลาดทิศทักษิณแล้วตู้เหวินหยวน เยว่ซานและพวกฝ่ายปกครอง ล้วนถอดชุดของราชสำนัก เปลี่ยนสวมชุดธรรมดา รออยู่ที่นี่นานมากแล้วฮ่องเต้หวู่ลงจากรถม้า พวกเขาก็รีบเข้าไปห้อมล้อมตู้เหวินหยวนพูดอย่างสะท้อนใจ “ต้องให้ฝ่าบาทเสด็จมาสถานที่สกปรกซอมซ่อเช่นนี้ ไม่สมควรเลยจริงๆ! ก่อนนี้กระหม่อมเคยผ่านที่นี่ น้ำสกปรกเจิ่งนอง เต็มไปด้วยดินโคลน กลิ่นเหม็นนั้น ทำให้กระหม่อมกินข้าวไม่ลงถึงสามวัน!”เยว่ซานร้องรับ “ใช่แล้ว! ตลาดทิศทักษิณสถา

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 134

    ฮองไทเฮาสกุลหลู่เป็นคนมัธยัสถ์ ใช้จักรเย็บผ้าทอผ้าในวังหลังบ่อยๆ เพราะเหตุนี้ฮ่องเต้หวู่จึงไม่รู้สึกแปลกใหม่เทียบกันแล้ว ผ้าฝ้ายที่สกุลซูขาย ไม่เพียงหนา แต่ยังถี่ แม้เรียบรื่นไม่เท่าผ้าแพรต่วน แต่ก็เป็นของชั้นดีนี่มิใช่ผ้าไม่ดีอย่างที่ตู้เหวินหยวนพูด!ฮ่องเต้หวู่ถามหญิงชรา “ผ้าฝ้ายหนึ่งพับนี้ ขายเพียงแปดสิบอีแปะจริงหรือ?”หญิงชราตอบยิ้มๆ “หลายวันก่อนก็ขายแปดสิบอีแปะจริง ระยะสองสามวันนี้ลดราคาลง เหลือเพียงเจ็ดสิบอีแปะ! ผ้าหยาบที่สุดของแปดหอการค้าใหญ่ อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งร้อยอีแปะ!”“ผ้าฝ้ายสกุลซูนี้คุณภาพดี ราคายังถูกอีกด้วย”“องค์ชายเก้าก็คือผู้มีเมตตาอย่างแท้จริง!”ได้ยินหญิงคนนั้นชื่นชม สีพระพักตร์ฮ่องเต้หวู่ไม่เพียงไม่ยินดี แต่ยังเคร่งขรึมขึ้นอีกด้วยดูแล้วคำพูดของเยว่ซาน ทุกประโยคล้วนเป็นจริงเจ้าเก้าเพื่อยึดครองตลาด แย่งชิงกับแปดหอการค้าใหญ่ กดราคาผ้าฝ้ายลงต่ำ ชนิดที่ว่ายอมขายขาดทุนขนแกะออกจากตัวแกะไม่มีสิ่งใดได้มาโดยไม่เสียอันใดเว้นเสียแต่เอาเปรียบแรงงานหญิง ฮ่องเต้หวู่ก็คิดวิธีอื่นที่สามารถลดต้นทุนอย่างน่ากลัวเพียงนี้ไม่ออกเว่ยซวินเห็นสีพระพักตร์ฮ่องเต้หวู่ไม่พอ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 135

    ตู้เหวินหยวนทางด้านข้าง เหงื่อเย็นผุดออกมาบนหน้าผากเขาเองก็ไม่คาดคิด ฝ่าบาทมาสืบคดีขององค์ชายเก้า เหตุใดจับพลัดจับผลูมาข้องเกี่ยวกับเรื่องเงินชดเชยได้หากฝ่าบาทรู้ ตนเองเป็นผู้ยักยอกเงินชดเชยทั้งหมด ไม่แจกจ่ายไปแม้อีแปะเดียว เช่นนั้นก็แย่แล้วดังนั้น ตู้เหวินหยวนรีบเบี่ยงประเด็น “เฝิงเฉวียจื่อคนนี้จิตใจคับแคบ เพียงมองดูก็รู้ว่ามิใช่คนดี! ทุกคำของเขาพูดว่าราชสำนักมิได้แจกจ่ายเงินชดเชย ถ้าอย่างนั้นหลายปีมานี้ เขาใช้ชีวิตเยี่ยงไร?”“ยังมีร้านแผงลอยนี้ หากเขาไม่มีเงิน ไฉนเลยจะสามารถเช่าได้?”เฝิงเฉวียจื่อได้ยิน ร้อนใจขึ้นมาในทันใด เกร็งคอร้องตะโกน “หากมิใช่องค์ชายเก้ามีเมตตา ปล่อยร้านให้เช่าโดยไม่คิดเงิน ข้าเฝิงเฉวียจื่อคงกินได้เพียงลมตะวันตกเฉียงเหนือไม่มีอะไรกินแล้ว!”“ท่านถามข้าหลายปีมานี้ใช้ชีวิตเยี่ยงไร?”“ขอทานข้างถนนอย่างไรเล่า อยากกินข้าว...ไม่รู้ต้องถูกมองด้วยสายตาเย็นชามากน้อยเพียงใด! ราชสำนักเคยใยดีพวกเราด้วยหรือ...”เฝิงเฉวียจื่อยิ่งพูดก็ยิ่งอารมณ์พลุ่งพล่าน ปิดหน้าร้องไห้ออกมาอย่างสุดระงับตู้เหวินหยวนเห็นท่าไม่ดี พาฮ่องเต้หวู่มาที่อีกฝั่ง “ฝ่าบาท คำพูดของคนผู้นี้ มิ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 136

    “เว่ยซวิน!”ฮ่องเต้หวู่ตะเบ็งเสียงเฉียบ “เจ้าเก้าเล่า? ให้เขาไสหัวมาบัดเดี๋ยวนี้!”เว่ยซวินรีบค้อมตัวตอบ “บ่าวจะไปพาองค์ชายเก้ามาเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ...”ตอนนี้เอง หนึ่งผู้เฒ่าหนึ่งหญิงสาวสองคนได้ยินเสียงภายในเรือน เงยหน้าอย่างแปลกใจมาก มองเห็นชายแปลกหน้ารัศมีไม่ธรรมดาท่านหนึ่ง ทันใดนั้นตกใจสะดุ้งโหยง “ท่านเป็นใคร?”ฮ่องเต้หวู่ไม่ตอบ แต่ถามกลับ “พวกเจ้าใช่แม่ม่ายของกองทัพสกุลซูหรือไม่?”หญิงสาวออกเรือนแล้วพยักหน้า “เจ้าค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่เดินไปหยุดหน้าจักรทอผ้า ลูบผ้าฝ้ายเนื้อหนาละเอียดผืนนั้น “พวกเจ้าทำงานที่ร้านขายผ้าสกุลซู?”หญิงสาวออกเรือนแล้วเอ่ยตอบ “ใช่แล้ว? มีปัญหาอันใดหรือเจ้าคะ?”เยว่ซานถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เอ่ยว่า “แม่ม่ายของสกุลซู กลับอยู่ในสถานที่พรรค์นี้ ช่างชวนให้หัวใจคนสั่นสะท้านจริงๆ! ดูๆ เรือนหลังนี้ สภาพย่ำแย่เพียงใด...”หญิงสาวออกเรือนแล้วชะงักงัน พูดอย่างไม่เข้าใจ “ย่ำแย่? บ้ารกก็รกอยู่บ้าง แต่ไม่นับว่าย่ำแย่กระมัง?”เยว่ซานร้อนใจอยู่บ้าง “มิใช่เรือนล้อมกำแพงสี่ทิศ อะไรก็ไม่มีหรือ?”หญิงสาวออกเรือนแล้วยิ้มขมปร่าพลางพูด “ครอบครัวยากจน จะมีเรือนที่ดีอันใด มีข้

Latest chapter

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1272

    หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1271

    ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1270

    จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1269

    “เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1268

    หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1267

    เถี่ยจู้เริ่มเหนื่อยล้า อยากจะโยนไม้ท่อนสองอันในมือทิ้งลงทะเลเสียเดี๋ยวนี้ ไม่อยากเชื่อเรื่องเหลวไหลว่าจะมีโชคหล่นจากฟ้าอีกต่อไป แต่พอนึกถึงรสชาติอันโอชะของปลาหวงฮื้อใหญ่ ก็ทำให้เขายังคงยืนหยัดต่อไปได้ ตึง ตึง ตึง... สุ่ยเซิงพลันหรี่ตาลง ชี้ไปยังที่ไกลๆ แล้วเอ่ยว่า: “ทางนั้นดูเหมือนมีความเคลื่อนไหว!” ทุกคนพลันมีชีวิตชีวาขึ้นมา มองไปยังทิศที่สุ่ยเซิงชี้ ก็เอ่ยอย่างประหลาดใจว่า: “มีคลื่นนี่ หรือว่าลมใหญ่กำลังจะมา?” ไร้ลมไหนเลยจะมีคลื่น เพียงแค่ทะเลมีคลื่นซัดสาดขึ้นมากะทันหัน ก็บ่งบอกว่าอีกไม่นานลมใหญ่จะพัดมาถึง สุ่ยเซิงส่ายหน้า สีหน้าแน่วแน่ แล้วเอ่ยว่า: “ไม่...ไม่ใช่คลื่น แต่เป็นปลา!” “ฝูงปลา!” “ไม่! คือคลื่นปลา!” ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างตกตะลึงตาค้าง ราวกับอยู่ในความฝัน ปลาแหวกว่ายถาโถมเข้ามาหาพวกเขาราวกับกระแสน้ำ นานๆ ครั้งก็จะมีปลาใหญ่กระโดดขึ้นเหนือผิวน้ำ ดุจดังเกลียวคลื่นที่ม้วนตัว สุ่ยเซิงตะโกน: “เร็วเข้า! ตักปลา!” เพียงชั่วพริบตา ฝูงปลาก็เข้ามาล้อมเรือประมงไว้แล้ว เหวี่ยงอวน สาวอวน ทุกคนไม่กล้าลังเลแม้แต่น้อย ต่างกลั้นหายใจรวบรวมสมาธิ ออกเรี่ยวแรงทั้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1266

    รุ่งเช้า ณ ท่าเทียบเรือตงไห่ อรุณรุ่งตะวันออกฉาย แสงทองสาดส่องนภา เหล่าชาวประมงต่างแย่งกันเข็นเรือประมงลงสู่ทะเล ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความคาดหวังต่ออนาคต “ท่านแม่ ไม่ต้องมาส่งแล้ว ข้าไปกับเถี่ยจู้ไม่เป็นอันใดหรอก วางใจเถิด” สุ่ยเซิงเอ่ยลามารดา วิ่งเหยาะๆ มายังท่าเทียบเรือ ขึ้นเรือประมงไปพร้อมกับเถี่ยจู้และชาวประมงเพื่อนบ้านอีกสองสามคน “สุ่ยเซิง เร็วเข้าสิ เหลือแค่เจ้าแล้ว!” สุ่ยเซิงยิ้มซื่อๆ พลางล้วงห่อกระดาษเคลือบน้ำมันสองห่อออกมาจากอกเสื้อ ส่งให้เถี่ยจู้ เถี่ยจู้สงสัยเล็กน้อย: “นี่คืออันใด?” สุ่ยเซิงยิ้มแล้วเอ่ยว่า: “นี่เป็นสิ่งที่ท่านแม่ยัดเยียดให้ข้าตอนจะออกมา บอกว่าเป็นปลาทอดกรอบที่ทำจากปลาหวงฮื้อใหญ่เมื่อวานนี้ เก็บไว้หลายวันก็ไม่เสีย ให้พวกเราเอาไว้กินเป็นเสบียงแห้งในทะเล” เถี่ยจู้ทำหน้าอิจฉา: “สุ่ยเซิง ท่านแม่ของเจ้าช่างรอบคอบนัก ยังเตรียมเสบียงแห้งให้เจ้าด้วย แต่ว่าปลาที่องค์รัชทายาทแจกเมื่อวานหอมจริงๆ! เมื่อวานข้ากินไปตั้งสามตัว ทำเอาท้องที่หิวมาหลายวันของข้าอิ่มแปล้ไปเลย” คนอื่นๆ ที่มาด้วยกันต่างพูดคุยถึงวิธีการปรุงปลาหวงฮื้อใหญ่กันเซ็งแซ่ ทุกคนต่างบอกเป็นเส

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1265

    หลู่จงหมิงไม่เคยเห็นปลามากมายเช่นนี้มาก่อน ช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเกินไป! เหล่าขุนนางที่อยู่รอบๆ ก็ยืนนิ่งตะลึงงัน พูดไม่ออก “องค์รัชทายาท แจกปลาเถิด!” “พวกเราต้องการกินปลา!” ชาวบ้านชูแขนโห่ร้อง แม้ว่าหลี่หลงหลินจะนำปลาทั้งหมดมากองไว้บนท่าเทียบเรือแล้ว แต่ก็ยังคงให้ทหารตระกูลซูเฝ้าไว้ ยังไม่มีทีท่าว่าจะแจกจ่ายปลาให้แก่ชาวบ้าน หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเข้ม: “ข้าเคยพูดเมื่อใด ว่าจะแจกปลาเหล่านี้ให้เปล่าๆ?” ทุกคนต่างส่งเสียงฮือฮา ชาวบ้านมองหลี่หลงหลินด้วยสีหน้าตกตะลึง ในแววตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ไม่ใช่ว่าหลี่หลงหลินรับปากเองหรอกหรือ ว่าจะทำให้ชาวบ้านได้กินเนื้อกันถ้วนหน้า? บัดนี้เหตุใดจึงกลับคำเล่า? “ทุกคนเห็นหรือไม่? นี่แหละองค์รัชทายาท ปากก็พร่ำบอกว่าจะให้ชาวบ้านได้กินเนื้อ แต่บัดนี้กลับตระบัดสัตย์!” หลู่จงหมิงเดินมาหน้าชาวบ้าน ใบหน้าเต็มไปด้วยการเย้ยหยัน หลู่จงหมิงฉวยโอกาสทันที ไม่อาจปล่อยให้หลี่หลงหลินชนะใจประชาชนไปง่ายๆ เช่นนี้ได้ หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเข้ม: “ข้าพูดเมื่อใดว่าจะไม่ให้ชาวบ้านกินเนื้อ?” หลู่จงหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ว่าในน้ำเต้าของหลี

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1264

    ยามเย็น ณ ท่าเรือตงไห่ เรือลำใหญ่ค่อยๆ แล่นเข้าสู่ท่าเรือ บนท่าเทียบเรือมีผู้คนเนืองแน่น ล้วนเป็นชาวบ้านที่มามุงดูเรื่องสนุก ทั้งยังมีขุนนางผู้มีอำนาจไม่น้อยที่มารอสมน้ำหน้าหลี่หลงหลิน หลู่จงหมิงได้ยินว่าวันนี้หลี่หลงหลินออกทะเลไปจับปลา จึงมารออยู่ที่ท่าเทียบเรือตลอดทั้งวัน เพื่อรอที่จะหยามเกียรติหลี่หลงหลิน หลู่จงหมิงมองเรือใหญ่ที่กำลังเทียบท่า ใบหน้าเต็มไปด้วยความดูแคลน: “ยังกล้าคุยโวโอ้อวด ว่าจะทำให้ชาวบ้านได้กินเนื้อกันถ้วนหน้า? ช่างเพ้อฝันลมๆ แล้งๆ ปลาที่จับได้ในทะเลตงไห่แค่นั้น ยังไม่พอให้ตดด้วยซ้ำ!” ขุนนางผู้หนึ่งเอ่ยสมทบ: “พระเชษฐภาดา เดี๋ยวรอตอนที่เอาปลาออกมา พวกเราต้องหยามเกียรติเขาสักครา ต้องระบายความแค้นนี้ให้ได้!” พระเชษฐภาดาแค่นเสียงหัวเราะเย็นชา: “ชาวบ้านมากมายขนาดนี้กำลังจ้องมองอยู่ที่ท่าเรือ ถึงเวลานั้นหากหลี่หลงหลินเอาปลาออกมาไม่ได้ ดูสิว่าเขาจะจัดการอย่างไร!” เรือใหญ่เทียบท่า ชาวบ้านกรูกันเข้ามา ล้อมเรือใหญ่ไว้แน่นขนัด “กลิ่นคาวปลาแรงมาก!” พอชาวบ้านเข้าใกล้เรือใหญ่ กลิ่นคาวปลาก็ปะทะเข้าหน้าทันที “กลิ่นคาวปลาขนาดนี้ ต้องจับปลามาได้มากเท่าใดกัน?”

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status