Share

บทที่ 132

Penulis: จันทร์กระจ่างภูผา
ได้ยินว่าฮ่องเต้หวู่ต้องการเสด็จออกจากวัง ตรวจสอบคดีนี้ด้วยพระองค์เอง ทั่วทั้งราชสำนักล้วนวุ่นวายเละเป็นโจ๊กหนึ่งหม้อ

ที่มีท่าทีตอบสนองรุนแรงที่สุด ย่อมเป็นหัวหน้ากลุ่มขุนนางฝ่ายบุ๋นตู้เหวินหยวนแล้ว

พวกเขาแต่ละคนล้วนคุกเข่าบนพื้น ร้องไห้โอดครวญ คล้ายฟ้าถล่มก็มิปาน

สีพระพักตร์ฮ่องเต้หวู่เผือดซีด พระวรกายสั่นเทา

พวกขุนนางฝ่ายบุ๋นเหล่านี้ ปากบอกว่าทำเพราะคำนึงถึงความปลอดภัยของเรา

แต่แท้จริงแล้วกำลังควบคุมเรา!

เราคือโอรสสวรรค์ หรือว่าแม้แต่อิสระก็ไม่มีกระนั้น?

เราและนักโทษในคุกหลวง แตกต่างกันที่ใด?

ไม่!

นักโทษอิสระเสียยิ่งกว่าเรา!

อย่างน้อย พวกเขาก็ไม่ต้องทำงานหนักเพื่อบ้านเมือง อ่านฎีกา ติดอยู่กับหนังสือราชการเหมือนเรา...

ฮ่องเต้หวู่รู้สึกเศร้าหมองภายในใจ สายตาหันมองทางเว่ยซวิน หวังให้เขาลุกออกมา ช่วยตนเองพูดสักสองประโยค

เว่ยซวินจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ กลับก้มหน้าไม่พูดจา

อย่างไรเสียเขาก็เป็นขันที อำนาจมากมายอย่างไร ก็ไม่สะดวกข้องเกี่ยวกับราชสำนัก

ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งบุ๋นบู๊กำลังตื่นตระหนก เว่ยซวินไม่โง่งมถึงขั้นเป็นคนเสนอหน้าออกมา!

“เฮ้อ...”

ฮ่องเต้หวู่พรูลมหายใจยาวเหยียดออก
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 133

    ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว “ตลาดทิศทักษิณหรือ...”พูดตามสัตย์จริง ฮ่องเต้หวู่ไม่เคยไปตลาดทิศทักษิณมาก่อนก่อนนี้เขาออกจากวัง ก็เดินทางไปยังสถานที่ที่ขุนนางชั้นสูงเข้าออกทั้งสิ้นกระนั้นฮ่องเต้หวู่เคยได้ยินมาว่า ตลาดทิศทักษิณเป็นสถานที่ที่ราษฎร์ไปบ่อยๆ สกปรกวุ่นวาย ภายในอากาศล้วนมีกลิ่นเหม็น...เทียบกับตลาดทิศประจิมแล้ว ตลาดทิศทักษิณซบเซากว่ามากยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ เผ่าหมานใกล้จะตีเมืองหลวง เพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย คนไม่น้อยหลีกเลี่ยงลงใต้ ขายร้านในตลาดทิศทักษิณในราคาถูกเมื่อเป็นเช่นนี้ ตลาดทิศทักษิณก็ซบเซามากยิ่งขึ้น...หลังผ่านไปครู่หนึ่งรถม้าของฮ่องเต้หวู่มาหยุดหน้าตลาดทิศทักษิณแล้วตู้เหวินหยวน เยว่ซานและพวกฝ่ายปกครอง ล้วนถอดชุดของราชสำนัก เปลี่ยนสวมชุดธรรมดา รออยู่ที่นี่นานมากแล้วฮ่องเต้หวู่ลงจากรถม้า พวกเขาก็รีบเข้าไปห้อมล้อมตู้เหวินหยวนพูดอย่างสะท้อนใจ “ต้องให้ฝ่าบาทเสด็จมาสถานที่สกปรกซอมซ่อเช่นนี้ ไม่สมควรเลยจริงๆ! ก่อนนี้กระหม่อมเคยผ่านที่นี่ น้ำสกปรกเจิ่งนอง เต็มไปด้วยดินโคลน กลิ่นเหม็นนั้น ทำให้กระหม่อมกินข้าวไม่ลงถึงสามวัน!”เยว่ซานร้องรับ “ใช่แล้ว! ตลาดทิศทักษิณสถา

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 134

    ฮองไทเฮาสกุลหลู่เป็นคนมัธยัสถ์ ใช้จักรเย็บผ้าทอผ้าในวังหลังบ่อยๆ เพราะเหตุนี้ฮ่องเต้หวู่จึงไม่รู้สึกแปลกใหม่เทียบกันแล้ว ผ้าฝ้ายที่สกุลซูขาย ไม่เพียงหนา แต่ยังถี่ แม้เรียบรื่นไม่เท่าผ้าแพรต่วน แต่ก็เป็นของชั้นดีนี่มิใช่ผ้าไม่ดีอย่างที่ตู้เหวินหยวนพูด!ฮ่องเต้หวู่ถามหญิงชรา “ผ้าฝ้ายหนึ่งพับนี้ ขายเพียงแปดสิบอีแปะจริงหรือ?”หญิงชราตอบยิ้มๆ “หลายวันก่อนก็ขายแปดสิบอีแปะจริง ระยะสองสามวันนี้ลดราคาลง เหลือเพียงเจ็ดสิบอีแปะ! ผ้าหยาบที่สุดของแปดหอการค้าใหญ่ อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งร้อยอีแปะ!”“ผ้าฝ้ายสกุลซูนี้คุณภาพดี ราคายังถูกอีกด้วย”“องค์ชายเก้าก็คือผู้มีเมตตาอย่างแท้จริง!”ได้ยินหญิงคนนั้นชื่นชม สีพระพักตร์ฮ่องเต้หวู่ไม่เพียงไม่ยินดี แต่ยังเคร่งขรึมขึ้นอีกด้วยดูแล้วคำพูดของเยว่ซาน ทุกประโยคล้วนเป็นจริงเจ้าเก้าเพื่อยึดครองตลาด แย่งชิงกับแปดหอการค้าใหญ่ กดราคาผ้าฝ้ายลงต่ำ ชนิดที่ว่ายอมขายขาดทุนขนแกะออกจากตัวแกะไม่มีสิ่งใดได้มาโดยไม่เสียอันใดเว้นเสียแต่เอาเปรียบแรงงานหญิง ฮ่องเต้หวู่ก็คิดวิธีอื่นที่สามารถลดต้นทุนอย่างน่ากลัวเพียงนี้ไม่ออกเว่ยซวินเห็นสีพระพักตร์ฮ่องเต้หวู่ไม่พอ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 135

    ตู้เหวินหยวนทางด้านข้าง เหงื่อเย็นผุดออกมาบนหน้าผากเขาเองก็ไม่คาดคิด ฝ่าบาทมาสืบคดีขององค์ชายเก้า เหตุใดจับพลัดจับผลูมาข้องเกี่ยวกับเรื่องเงินชดเชยได้หากฝ่าบาทรู้ ตนเองเป็นผู้ยักยอกเงินชดเชยทั้งหมด ไม่แจกจ่ายไปแม้อีแปะเดียว เช่นนั้นก็แย่แล้วดังนั้น ตู้เหวินหยวนรีบเบี่ยงประเด็น “เฝิงเฉวียจื่อคนนี้จิตใจคับแคบ เพียงมองดูก็รู้ว่ามิใช่คนดี! ทุกคำของเขาพูดว่าราชสำนักมิได้แจกจ่ายเงินชดเชย ถ้าอย่างนั้นหลายปีมานี้ เขาใช้ชีวิตเยี่ยงไร?”“ยังมีร้านแผงลอยนี้ หากเขาไม่มีเงิน ไฉนเลยจะสามารถเช่าได้?”เฝิงเฉวียจื่อได้ยิน ร้อนใจขึ้นมาในทันใด เกร็งคอร้องตะโกน “หากมิใช่องค์ชายเก้ามีเมตตา ปล่อยร้านให้เช่าโดยไม่คิดเงิน ข้าเฝิงเฉวียจื่อคงกินได้เพียงลมตะวันตกเฉียงเหนือไม่มีอะไรกินแล้ว!”“ท่านถามข้าหลายปีมานี้ใช้ชีวิตเยี่ยงไร?”“ขอทานข้างถนนอย่างไรเล่า อยากกินข้าว...ไม่รู้ต้องถูกมองด้วยสายตาเย็นชามากน้อยเพียงใด! ราชสำนักเคยใยดีพวกเราด้วยหรือ...”เฝิงเฉวียจื่อยิ่งพูดก็ยิ่งอารมณ์พลุ่งพล่าน ปิดหน้าร้องไห้ออกมาอย่างสุดระงับตู้เหวินหยวนเห็นท่าไม่ดี พาฮ่องเต้หวู่มาที่อีกฝั่ง “ฝ่าบาท คำพูดของคนผู้นี้ มิ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 136

    “เว่ยซวิน!”ฮ่องเต้หวู่ตะเบ็งเสียงเฉียบ “เจ้าเก้าเล่า? ให้เขาไสหัวมาบัดเดี๋ยวนี้!”เว่ยซวินรีบค้อมตัวตอบ “บ่าวจะไปพาองค์ชายเก้ามาเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ...”ตอนนี้เอง หนึ่งผู้เฒ่าหนึ่งหญิงสาวสองคนได้ยินเสียงภายในเรือน เงยหน้าอย่างแปลกใจมาก มองเห็นชายแปลกหน้ารัศมีไม่ธรรมดาท่านหนึ่ง ทันใดนั้นตกใจสะดุ้งโหยง “ท่านเป็นใคร?”ฮ่องเต้หวู่ไม่ตอบ แต่ถามกลับ “พวกเจ้าใช่แม่ม่ายของกองทัพสกุลซูหรือไม่?”หญิงสาวออกเรือนแล้วพยักหน้า “เจ้าค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่เดินไปหยุดหน้าจักรทอผ้า ลูบผ้าฝ้ายเนื้อหนาละเอียดผืนนั้น “พวกเจ้าทำงานที่ร้านขายผ้าสกุลซู?”หญิงสาวออกเรือนแล้วเอ่ยตอบ “ใช่แล้ว? มีปัญหาอันใดหรือเจ้าคะ?”เยว่ซานถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เอ่ยว่า “แม่ม่ายของสกุลซู กลับอยู่ในสถานที่พรรค์นี้ ช่างชวนให้หัวใจคนสั่นสะท้านจริงๆ! ดูๆ เรือนหลังนี้ สภาพย่ำแย่เพียงใด...”หญิงสาวออกเรือนแล้วชะงักงัน พูดอย่างไม่เข้าใจ “ย่ำแย่? บ้ารกก็รกอยู่บ้าง แต่ไม่นับว่าย่ำแย่กระมัง?”เยว่ซานร้อนใจอยู่บ้าง “มิใช่เรือนล้อมกำแพงสี่ทิศ อะไรก็ไม่มีหรือ?”หญิงสาวออกเรือนแล้วยิ้มขมปร่าพลางพูด “ครอบครัวยากจน จะมีเรือนที่ดีอันใด มีข้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 137

    “มีเงินเหล่านี้ พวกเราไม่เพียงมีชีวิตดียิ่งขึ้น ส่งลูกเข้าเรียนในสำนักศึกษา ท่านแม่ข้าร่างกายไม่แข็งแรง เงินที่เหลือก็นำมาซื้อยารักษาให้นาง!”“บัดนี้ นางกินยาแล้ว ร่างกายดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”“องค์ชายเก้าคือผู้มีบุญคุณดุจบิดามารดา ไฉนเลยจะข่มเหง?”ผู้เฒ่าเองก็เปิดปากพูด “ใช่แล้ว! ชีวิตของข้านี้ ล้วนเป็นองค์ชายเก้ามอบให้! หากมิใช่เขา...ครอบครัวพวกเราทั้งเด็กและผู้ชรา ก็คงตายไปตั้งแต่แรกแล้ว...”พวกนางย้อนคิดถึงความเจ็บปวดในอดีตเหล่านั้น ขอบตาแดงก่ำ สะอื้นออกมาแล้วปีนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับราษฎร์ยากจน!ฮ่องเต้หวู่ปวดแสบจมูก ขอบตาแดงเรื่อต้าเซี่ยยึดหลักความกตัญญูปกครองใต้หล้าฮ่องเต้หวู่มองผ่านตัวผู้เฒ่า คิดถึงมารดาของตนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ฮองไทเฮาสกุลหลู่ ก็คือคนมัธยัสถ์ ทอผ้าอยู่ในวังบ่อยๆตอนนี้เอง เสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ภายนอกประตูเว่ยซวินรีบเดินเข้ามาหยุดหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้หวู่ “ฝ่าบาท องค์ชายเก้ามาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ที่หน้าประตูหลี่หลงหลินพาญาติฝ่ายหญิงทั้งหมดของสกุลซู เร่งเดินทางมาถึงแล้วซูเฟิ่งหลิง ลั่วอวี้จู๋ หลิ่วหรูเยียน กงซูหว่าน ชนิดที่ว่าฮูหยินผู้เฒ่าซูก็

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 138

    เยว่ซานคลานอยู่บนพื้น เสียงสั่นเครือ “ฝ่าบาท กระ..กระหม่อมถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ...”ฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรทางเยว่ซาน แย้มพระโอษฐ์อย่างเยียบเย็น “ปรักปรำ? เราได้รู้ความจริงจากปากหญิงออกเรือนแล้วคู่นี้แล้ว เจ้ายังขวัญกล้าแก้ตัว?”เยว่ซานเห็นท่าไม่ดี พูดอย่างหวาดหวั่น “ฝ่าบาท หญิงออกเรือนแล้วคู่นี้ รวมถึงเฝิงเฉวียจื่อคนนั้น เห็นได้ชัดว่าถูกองค์ชายเก้าซื้อไว้แล้ว...คำพูดของพวกนาง เชื่อไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่มีโทสะมากขึ้นถึงสามจั้ง ตรัสอย่างพิโรธ “น่ากลัวว่าก็ถูกพวกเจ้าปรักปรำกระมัง ถึงตั้งใจหลีกเลี่ยงเช่นนี้! คิดไม่ถึง เขาทำได้ถึงขั้นนี้ เจ้ายังใส่ร้ายป้ายสีสาดน้ำสกปรกใส่เขา!”“ดีๆ! เจ้าพูดว่าเจ้าเก้าซื้อหญิงออกเรือนแล้ว รวมถึงเฝิงเฉวียจื่อคนนั้น!”“เช่นนั้นเราขอถามคนอื่น!”ฮ่องเต้หวู่กวาดสายพระเนตรผ่านราษฎร์ทั้งหมด เปล่งพระสุรเสียงดังกังวาน “ในหมู่พวกเจ้า มีทหารพิการแม่ม่ายเด็กกำพร้าของสกุลซูมากน้อยเพียงใด ทั้งหมดล้วนยืนขึ้นให้เรา!”ทันใดนั้นคนนับหลายร้อยคนก็ลุกขึ้นยืน ดำทะมึนเป็นหนึ่งปื้นใหญ่ “ฝ่าบาท หม่อมฉันเอง...”พระสุรเสียงของฮ่องเต้หวู่ดังกังวานดุจระฆัง ตรัสว่า “เราถามพวก

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 139

    เหล่าราษฎรโมโหไม่พอใจ ต่างพากันตะโกน “คุณหนูใหญ่ซูพูดมีเหตุผล!”“ทำความดีเป็นกบฏ? ถุย! ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!”“พวกเจ้าขุนนางเหล่านี้วางท่าวางอำนาจ ไม่สนใจความเป็นตายของราษฎร! องค์ชายเก้าทำเรื่องดีมีคุณธรรม ครั้นอยู่ในปากเจ้า กลับกลายเป็นทำผิดเสียอย่างนั้น?”ตู้เหวินหยวนพูดเสียงเรียบ “คนธรรมดาทำเรื่องดี ย่อมคือทำความดี! ทว่า องค์ชายเก้ามิใช่คนธรรมดา แต่เป็นองค์ชาย! กอปรกับบัดนี้เขามีอำนาจทางทหารอยู่ในมือ! เขาทำเรื่องดี ต้องเป็นเพราะต้องการซื้อใจคน วางแผนก่อกบฏเป็นแน่!”“ใต้เท้าทุกท่าน พวกท่านคิดเห็นเช่นไร?”ขุนนางทั้งหมดต่างพากันลุกขึ้นยืนพูดออกมา “ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่า ท่านตู้พูดถูกแล้ว!”“ฝ่าบาท หรือพระองค์ลืมไปแล้ว ก่อนองค์ชายหกก่อกบฏ ก็แจกจ่ายเงินอย่างกว้างขวาง ซื้อใจคน บอกต่อความดีผ่านปากของราษฎร!”“ต้าเซี่ยตกอยู่ในสถานการณ์ความเป็นตายล้วนมีค่าเท่ากัน จะปล่อยให้ความวุ่นวายขององค์ชายหก เกิดขึ้นอีกครั้งไม่ได้!”ทันใดนั้นเหล่าขุนนางต่างพากันเห็นด้วย สนับสนุนคำพูดของตู้เหวินหยวน คิดว่าองค์ชายเก้าก่อกบฏ ขอร้องให้ลงโทษสีพระพักตร์ฮ่องเต้หวู่ เย็นชาจนน่ากลัวเว่ยซวินยืนที่ฝั่งห

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 140

    เดิมทีเป็นคดีผู้ตรวจการเยว่ซานปรักปรำหลี่หลงหลินคิดไม่ถึง กลับทำให้ฝ่าบาทตกพระทัยเสด็จออกจากวัง ยังไม่ต้องพูดว่าสืบคดีด้วยพระองค์เอง ยังเกี่ยวโยงถึงสกุลซูซื้อใจคน วางแผนก่อกบฏอีกด้วยที่ชวนให้คนตกตะลึงที่สุดคือ สกุลซูถึงขั้นยอมรับผิดแล้ว!ภาพตรงหน้าเปลี่ยนแปลงรวดเร็วยิ่งนัก ทำให้คนมีตาไม่พอให้มอง ตกตะลึงอ้าปากค้างหลี่หลงหลินขมวดคิ้วสกุลซูสามารถมาถึงตำแหน่งนี้ได้ ฮูหยินผู้เฒ่าซูย่อมไม่ขาดความดีความชอบ!แม้อายุมากแล้ว แต่กลับคิดคำนวณเรื่องในราชสำนักได้อย่างยอดเยี่ยมเวลาเพียงชั่วครู่ ฮูหยินผู้เฒ่าซูก็สามารถตัดสินชี้ขาด กันตนเองออกไป ให้สกุลซูรับผิดแทนบัดนี้สกุลซู คล้ายเรือหนึ่งลำกำลังฝ่าพายุบนมหาสมุทรที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียว ก็คือหลี่หลงหลิน!หากหลี่หลงหลินล้มลง สกุลซูต้องล่มสลายเป็นแน่!ขอเพียงหลี่หลงหลินไม่ล้ม สกุลซูก็ยังมีหนทางช่วยเหลือ!เพราะเหตุนี้ จึงยอมเสียสละโดยไม่นึกเสียดาย ปกป้องหลี่หลงหลินไว้แล้วสิ่งนี้สำหรับสกุลซู คือผลลัพธ์ดีที่สุด!ยิ่งไปกว่านั้น บุรุษของสกุลซู ล้วนตายเพราะสงครามทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงครอบครัวอ้างว้างโดดเดี่ยวฝ่าบาทโง่งมเพียงใด ก็ไม่โอหัง

Bab terbaru

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1260

    เช้าวันรุ่งขึ้นทะเลคราม ฟ้าสีฟ้า ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆ ไกลสุดสายตาเรือใหญ่ลำหนึ่งแล่นออกจากท่าเรือตงไห่อย่างโอ่อ่า ท่วงทีองอาจไม่ธรรมดาการออกทะเลครั้งนี้ หลี่หลงหลินไม่เพียงแต่พาเหล่าพี่สะใภ้มาด้วยหลายคน แต่ยังคัดเลือกทหารยอดฝีมือของตระกูลซูมาเป็นพิเศษอีกสามร้อยนายซูเฟิ่งหลิงยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ ทอดสายตามองไปยังเส้นขอบฟ้าที่ผืนน้ำจรดกับผืนฟ้า แววตาเต็มไปด้วยความกังวล ลมทะเลพัดผ่าน ผ้าคลุมสีแดงสดด้านหลังนางปลิวสะบัดพลิ้วไหว!หลี่หลงหลินบิดขี้เกียจ กระทืบเท้าลงบนดาดฟ้าเรือเบาๆเรือของเมืองตงไห่แข็งแรงกว่าที่ข้าคิดไว้มากตอนนี้หลี่หลงหลินทำได้เพียง มีอะไรก็ใช้อย่างนั้นไปก่อนแม้จะเทียบไม่ได้กับเรือประมงหมื่นตันในจินตนาการแต่แค่จับปลาหลายพันชั่งขึ้นมาก็ยังถือว่าสบายมากหลี่หลงหลินหยิบคันเบ็ดออกมานั่งลงข้างๆ ซูเฟิ่งหลิง ด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับไม่ได้กังวลแม้แต่น้อยซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงาม กล่าวเสียงขรึม "รัชทายาท ท่านบอกว่าจะพาพวกเราออกมาจับปลา คงไม่ได้คิดจะใช้แค่คันเบ็ดนี่ตกปลาหรอกนะเพคะ?"เหล่าพี่สะใภ้ก็รู้สึกว่ามันเหลือเชื่ออยู่บ้างอาศัยเพียงคันเบ็ดคันเดียวของหลี่หลงหลิน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1259

    ลั่วอวี้จู๋ก็ตกตะลึงไปเช่นกัน นางส่ายหน้าไม่หยุดกล่าวว่า “ไม่ได้ น้องหญิง เจ้าอย่าพูดอะไรพล่อยๆ บัญชีมันไม่ได้คำนวณแบบนั้น! ตอนนี้ประชาชนหลายแสนคนในตงไห่กำลังรอเสบียงอาหารอยู่ นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เพียงแค่พึ่งพาการล่าสัตว์ อย่างไรก็ไม่พอ!”ตอนนี้ไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงค่ากินอยู่ใช้สอยของเหล่าทหารกองทัพตระกูลซูทั้งหมด แต่ที่สำคัญกว่าคือการแก้ปัญหาความต้องการเสบียงอาหารของประชาชนตงไห่ทั้งหมดซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเรียวงาม “ถ้าไม่ไหวจริงๆ ข้าจะนำกองทัพตระกูลซูไปปล้นยุ้งฉางของพวกพ่อค้าเหล่านั้นเสียเลย! แบบนี้พวกเราก็จะมีเสบียงอาหารแล้วไม่ใช่รึ?”ลั่วอวี้จู๋ตกใจ รีบกล่าวว่า “น้องหญิง! เจ้าอย่าทำเรื่องเหลวไหล!”“เจ้าทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ แล้วชื่อเสียงของกองทัพตระกูลซูจะทำอย่างไร! ชื่อเสียงอันดีงามที่ตระกูลซูผู้จงรักภักดีสืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษจะถูกทำลายในพริบตาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง ท่านย่าก็คงไม่อนุญาตให้เจ้าทำตามอำเภอใจเช่นนี้แน่!”ซูเฟิ่งหลิงเบ้ปาก พึมพำว่า “ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง...”ตระกูลซูรับราชการทหารมาหลายชั่วอายุคน ทั้งตระกูลจงรักภักดี ไม่เคยทำเรื่องผิดต่อมโนธรรมใดๆ แม้กระทั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1258

    ตกเย็น จวนอ๋องตงไห่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟเหล่าพี่สะใภ้รวมตัวกันอยู่ในห้อง ใบหน้างดงามซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล ทุกคนต่างกลัดกลุ้มกับสถานการณ์ปัจจุบันของตงไห่ลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเรียวเล็กน้อย ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “รัชทายาท ตอนนี้พวกเราควรทำเช่นไรดี? ท่านสัญญาว่าจะทำให้ราษฎรตงไห่ทุกคนได้กินเนื้อสัตว์ภายในเจ็ดวัน แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่เนื้อเลย เกรงว่าแม้แต่การกินให้อิ่มท้องธรรมดาๆ ก็ยังยาก”เมื่อตอนเย็น ลั่วอวี้จู๋ได้ส่งคนไปสืบราคาเสบียงอาหารในตลาดแล้วและก็เป็นไปตามคาด หลังจากที่ราษฎรตื่นตระหนก ราคาเสบียงอาหารก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก ถึงขนาดที่ว่าในตลาดตงไห่ไม่มีข้าวสารขายในทันทีแล้ว หากต้องการซื้อทันทีก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ!เหล่าราษฎรต่างพากันส่งเสียงก่นด่าอย่างคับแค้น สถานการณ์เริ่มจะดำเนินไปในทิศทางที่ควบคุมไม่ได้แล้วลั่วอวี้จู๋มองไปยังหลี่หลงหลิน ถอนหายใจกล่าวว่า “รัชทายาท ตอนนี้วิธีที่ง่ายที่สุดคือการขายทรัพย์สมบัติทั้งหมด แล้วนำเงินไปแลกเป็นเสบียงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย”“แต่ข้าคำนวณดูแล้ว ต่อให้ขายทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลซู ก็ทำได้เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1257

    เหล่าราษฎรจ้องเขม็งไปยังหลี่หลงหลิน ต้องการคำอธิบายจากเขา หากไม่ได้ความในวันนี้ พวกเขาสาบานว่าจะไม่ยอมเลิกรา!หลี่หลงหลินเชิดหน้าอกผาย กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ปากท้องของราษฎรคือเรื่องสำคัญที่สุด ในเมื่อตงไห่เป็นดินแดนในอาณัติของข้า เช่นนั้นพวกท่านก็คือราษฎรของข้า หลี่หลงหลิน”“แม้จะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยจากมนุษย์ แต่ข้ารับรองว่าจะไม่ปล่อยให้พวกท่านต้องอดอยากหิวโหยเป็นอันขาด เรื่องเสบียงอาหารนั้นขอให้ราษฎรวางใจ ภายในเจ็ดวัน ข้าจะทำให้พวกท่านได้กินอิ่มท้องอย่างแน่นอน!”น้ำเสียงของหลี่หลงหลินทรงพลังอย่างยิ่ง ถ้อยคำดังก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของเหล่าราษฎรผู้คนต่างส่งเสียงฮือฮา“ขี้โม้!”“พี่น้องทั้งหลาย อย่าได้หลงเชื่อคำโอ้อวดของเขาเลย! ดูสิ ยุ้งฉางเหล่านี้ล้วนว่างเปล่า! จะเอาข้าวที่ไหนมาให้พวกเรา!”“หากวันนี้ไม่ให้คำตอบที่ชัดเจนกับพวกเรา แล้วอีกเจ็ดวันพวกเราจะไปเรียกร้องความเป็นธรรมกับใคร!”“ใช่แล้ว!”“หากวันนี้ไม่ยอมมอบเสบียงอาหารออกมา ก็อย่าหวังว่าจะได้ก้าวเท้าออกจากยุ้งฉางนี้ไปได้!”ชายฉกรรจ์ผู้เป็นหัวหน้าโบกแขนตะโกนปลุกระดมเหล่าราษฎร ผู้คนต่างขานรับเป็นเสียงเดี

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1256

    เหล่าราษฎรที่อยู่ด้านนอกยุ้งฉางต่างชูกำปั้นตะโกนก้อง เสียงดังสะท้อนไปทั่วฟ้า “แจกจ่ายเสบียง! แจกจ่ายเสบียง!”ข่าวราคาเสบียงอาหารในเมืองตงไห่พุ่งสูงขึ้นได้แพร่กระจายออกไปแล้ว ราษฎรต่างตื่นตระหนกหวาดกลัว จึงนัดหมายกันมารวมตัวที่หน้ายุ้งฉางเพื่อเรียกร้องขอเสบียง ก่อเกิดเป็นพลังมหาศาลหากไม่ใช่เพราะเหล่าทหารที่คอยขัดขวางไว้ เกรงว่าป่านนี้เหล่าราษฎรคงบุกเข้าไปในยุ้งฉางแล้วลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวเสียงเบา “รัชทายาท เช่นนี้จะทำอย่างไรดี ตอนนี้ยังไม่ได้ขาดแคลนเสบียงอาหารถึงที่สุด แต่ความโกรธแค้นของราษฎรก็รุนแรงถึงเพียงนี้แล้ว หากมีวันใดที่เสบียงหมดลงจริงๆ...”ใบหน้างามของลั่วอวี้จู๋ซีดขาว ริมฝีปากแดงเม้มแน่น ยืนนิ่งตะลึงงันอยู่กับที่ นางไม่อาจจินตนาการถึงภาพนั้นได้ราษฎรที่ก่อความวุ่นวายนอกยุ้งฉางมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆเหล่าทหารยามเริ่มชักดาบประจำกายออกมา แต่สำหรับเหล่าราษฎรแล้ว หากไม่มีเสบียงให้กิน ในภายภาคหน้าก็มีแต่ความตายสถานเดียว!ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงามเล็กน้อย แววตาหงส์ฉายประกายดุดัน “รัชทายาท หากปล่อยให้พวกเขาอาละวาดต่อไปเช่นนี้ ต้องเกิดเรื่องแน่เพค

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1255

    ลั่วอวี้จู๋เดินเข้ามาก่อนสองก้าว กล่าวว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้แม้จะจัดการกับพวกพ่อค้าเศรษฐี แต่ก็ยังต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องเสบียงอาหารก่อน มิฉะนั้นเมื่อถึงเวลา ราษฎรอาจตื่นตระหนก ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อพวกเราได้”หลี่หลงหลินเพียงแค่แย้มยิ้มบางเบาซูเฟิ่งหลิงกล่าวว่า “องค์รัชทายาท ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถือเป็นสถานที่สำคัญยิ่งของต้าเซี่ย ข้างในย่อมต้องมีเสบียงเก็บไว้แน่นอน ตอนนี้สามารถนำเสบียงในยุ้งฉางออกมาแจกจ่ายช่วยเหลือราษฎร เพื่อให้พวกเขาคลายกังวลได้แล้วเพคะ”ลั่วอวี้จู๋พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้วเพคะ องค์รัชทายาท ทำให้ราษฎรคลายกังวลลงก่อน แล้วค่อยว่ากันถึงแผนขั้นต่อไป”หลี่หลงหลินส่ายหน้า กล่าวเสียงเรียบ “ไม่ต้องเสียแรงเปล่าแล้ว ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถูกขนย้ายไปจนหมดสิ้นนานแล้ว ไม่เหลือแม้แต่เมล็ดเดียว ตอนนี้เหลือเพียงแค่ยุ้งฉางเปล่าๆ เท่านั้น”ทั้งสองคนตกตะลึง“เป็นไปได้อย่างไร? ยุ้งฉางนั้นเป็นเสบียงช่วยชีวิตที่ราชสำนักเก็บไว้ เพื่อรับประกันว่าราษฎรจะไม่อดตายในปีที่เกิดภัยพิบัติ จะมีคนกล้าบ้าบิ่นถึงเพียงนี้ มาคิดการใหญ่กับมันได้อย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงไม่อยากจะเชื่อคำพูดของหลี่หลงหลินหลี่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1254

    ตำหนักอ๋องตงไห่หลี่หลงหลินเดินออกจากห้องก็พบกับลั่วอวี้จู๋และซูเฟิ่งหลิงที่รีบร้อนเข้ามาพอดีลั่วอวี้จู๋มีสีหน้าตื่นตระหนก รีบกล่าวว่า “องค์รัชทายาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ!”หลี่หลงหลินหาว กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ ไม่ต้องรีบร้อน มีอะไรค่อยๆ พูด”ลั่วอวี้จู๋หอบหายใจเล็กน้อย กล่าวว่า “เมื่อครู่ข้ากับน้องหญิงกำลังดูแลร้านค้าของตระกูลซูในตงไห่ที่ถนน ได้ยินเถ้าแก่บอกว่า ตอนนี้ราคาธัญพืชในตงไห่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว วันเดียวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว!”“เรื่องผิดปกติย่อมมีเบื้องหลัง ดังนั้นจึงรีบกลับมารายงานองค์รัชทายาท”ปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดราคาธัญพืชเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร หากราคาธัญพืชผิดปกติ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก!ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า ตอบว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้เป็นปีแห่งภัยพิบัติอยู่แล้ว เกิดภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี บ้านเรือนของราษฎรแทบไม่มีเสบียงสำรอง ต้องอาศัยการซื้อธัญพืชประทังชีวิตทั้งสิ้น”“แต่ตอนนี้ถ้าหากราคาธัญพืชพุ่งสูงขึ้น แล้วราษฎรในตงไห่เหล่านี้จะทำอย่างไร?”หลี่หลงหลินมองลั่วอวี้จู๋ กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่าน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1253

    “แต่ทุกท่านกลับมองข้ามเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไป นั่นคือโอกาสที่จะร่ำรวยมหาศาล”แววตาละโมบปรากฏขึ้นในดวงตาของหลู่จงหมิง“นั่นก็คือเสบียงอาหาร”พอหลู่จงหมิงกล่าวคำนี้ออกมา ทั่วทั้งห้องก็เกิดเสียงฮือฮา พูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่พ่อค้าร่ำรวยไม่อาจปิดบังความดีใจอย่างบ้าคลั่งในใจ “ท่านพระเชษฐภาดา ท่านหมายความว่าจะลงมือกับราคาธัญพืชหรือ?”หลู่จงหมิงเผยรอยยิ้มเย็นชา “ถูกต้อง”ปัจจุบันต้าเซี่ยประสบภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี แม้แต่ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างตงไห่ ยุ้งฉางก็ร่อยหรอเต็มทีแล้วยิ่งไปกว่านั้น หลี่หลงหลินนำกองทัพใหญ่มาปักหลักที่ตงไห่ ค่ากินอยู่ใช้สอยล้วนต้องเบิกจ่ายจากท้องพระคลังตงไห่แม้ว่ากบฏจะถูกปราบปรามจนสงบ ก็จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันด้านเสบียงอาหารให้กับตงไห่มากขึ้นเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้น อาจมีสถานการณ์กบฏที่รุนแรงกว่าเกิดขึ้นได้อีกถึงตอนนั้น เสบียงอาหารของตงไห่ก็จะยิ่งน้อยลงเรื่อยๆของยิ่งน้อยยิ่งมีค่า ราคาธัญพืชย่อมต้องถูกปั่นสูงขึ้นปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดพ่อค้าร่ำรวยย่อมรู้หนทางสู่ความร่ำรวยด้วยการกักตุนธัญพืช ปั่นราคา แต่ไม่มีใครกล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1252

    จวนตระกูลหลู่คานแกะสลัก เสากรอบวาดลวดลาย วิจิตรตระการตา ทองเหลืองเรืองรอง หลู่จงหมิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตากวาดมองเหล่าพ่อค้าที่มาถึง “มากันครบแล้วหรือ?”เงียบสงั ดจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มตกพ่อค้าเหล่านี้หูตาสว่าง รู้เรื่องที่พระเชษฐภาดาเจอในจวนอ๋องนานแล้ว ไม่กล้าราดน้ำมันบนกองไฟในจังหวะสำคัญนี้ พ่อค้าที่ปกติหยิ่งยโสโอหังต่างก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวต่อหน้าหลู่จงหมิง ไม่กล้าพูดมาก เกรงว่าจะล่วงเกินแม้หลู่จงหมิงจะเสียหน้าอย่างหนักในจวนอ๋อง แต่ก็ไม่ใช่คนที่พ่อค้าอย่างพวกเขาจะดูเบาได้พ่อบ้านจวนตระกูลหลู่เดินเข้ามากล่าวเสียงเบา “นายท่าน ยังมีคนจากตระกูลซุนและตระกูลจ้าวที่ยังไม่มา ท่านจะว่าอย่างไร...”หลู่จงหมิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตวาดว่า “ไม่มาก็ไม่ต้องมาแล้ว! กล้าดีอย่างไรไม่เห็นคำพูดของข้าผู้เป็นพระเชษฐภาดาอยู่ในสายตา”หลู่จงหมิงมองเหล่าพ่อค้ามั่งคั่งที่อยู่ ณ ที่นั้น กล่าวเสียงเย็นชา “นับแต่นี้ไป ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ห้ามทำการค้าใดๆ กับสองตระกูลนี้ หากข้าพบเข้า... หึหึ!”แววตาอำมหิตวาบผ่านดวงตาของหลู่จงหมิงนี่คือเขาต้องการแสดงอำนาจ สร้างบารมี กู้หน้าตาที่เสียไปกลับคืนมาพ่อค

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status