Share

บทที่ 101

Author: จันทร์กระจ่างภูผา
เพราะจี้หยกพระราชทานชิ้นนี้ ทำให้เสด็จพ่อถึงขั้นต้องการเอาชีวิตตน?

หลี่จือหมอบลงกับพื้น ร่างกายสั่นเทาไม่หยุด น้ำมูกน้ำตาไหล ร้องขอความยุติธรรม “เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำ! ลูกถูกปรักปรำจริงๆ! จี้หยกนี้ ลูกมิได้นำไปขายให้ร้านเครื่องประดับจริงๆ แต่ให้เจ้าเก้าแทนเงินหนึ่งแสนตำลึง”

“ใช่! ลูกเข้าใจแล้ว!”

“เป็นเจ้าเก้า!”

“เขานำหยกพระราชทานของเสด็จพ่อไปขาย!”

ฮ่องเต้หวู่พิโรธดุจอัสนีบาตร ตะคอกใส่ “ความตายอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้ว ยังกล้าปากแข็ง? ใส่ร้ายป้ายสีเจ้าเก้า? เราเห็นว่าเจ้าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา! รีบลากเจ้าลูกอกตัญญูคนนี้ออกไป โบยแรงๆ!”

เพียงสิ้นพระสุรเสียง ทหารรักษาการณ์สองคนก็เข้ามา หิ้วปีกซ้ายขวาลากหลี่จือออกจากพระที่นั่งหย่างซิน

“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำ...”

“ปรักปรำ...”

“โอ๊ย...โอ๊ย...”

เสียงร้องขอความเมตตาของหลี่จือไกลออกไปเรื่อย ๆ ถัดมากลายเป็นเสียงร้องอย่างเจ็บปวด จนกระทั่งสุดท้ายก็ไม่มีเสียงอีกแม้แต่น้อย

อัครมหาเสนาบดีตู้เหวินหยวนได้ยินว่าฮ่องเต้ทรงกริ้วหนัก ลากองค์ชายสี่ออกไปโบยสี่สิบไม้ รีบพาขุนนางเข้าวัง

ในเวลานี้ หลี่จือถูกโบยจนเลือดเนื้อฉีกขาด ไม่รู้เป็นหรือตาย

“ฝ่า
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 102

    อะไรนะ?พระชายาโหรวมารดาผู้ให้กำเนิดหลี่หลงหลิน ถูกแต่งตั้งเป็นกุ้ยเฟยแล้ว!หลี่จือได้ยินข่าวนี้ ก็กำมือแน่นทันที บาดแผลที่เพิ่งสมานดีพลันปริออก เลือดสดซึมผ่านเสื้อผ้า ชวนให้คนตกตะลึงนางตู้ว้าวุ่นแล้ว รีบตะโกนเรียก “ท่านหมอ ท่านหมอรีบมาเร็วเข้า! แผลขององค์ชายปริแล้ว!”หมอเคราแพะปรี่ถลาเข้ามา ช่วยหลี่จือพันแผลใหม่อีกครั้ง เกลี้ยกล่อมเสียงค่อย “องค์ชาย อาการบาดเจ็บของท่านสาหัสนัก ได้โปรดระงับโทสะด้วย!”หลี่จือตาแดงก่ำ “เจ้าเก้าไอ้คนต่ำช้า! กล้ารังแกข้ากับเจ้าหกก็ช่างเถอะ! ถึงขั้นล่อลวงเสด็จพ่อ รังแกเสด็จแม่! นี่จะทนต่อไปได้เยี่ยงไร! ข้าจะต้องฆ่าเขา ถึงจะคลายความแค้นในใจได้!”ตอนนี้เอง อัครมหาเสนาบดีตู้เหวินหยวนเดินเข้ามา สีหน้าเคร่งขรึม โบกมือพลางพูด “พวกเจ้าออกไปก่อน! ข้ามีเรื่อง คุยกับองค์ชายเพียงลำพัง!”ฉินกุ้ยเฟย นางตู้และคนอื่นรีบลุกขึ้นจากไปอย่างฉับพลันพริบตาถัดมา ภายในห้องเหลือเพียงตู้เหวินหยวนและหลี่จือสองคนตู้เหวินหยวนมองหลี่จือแวบหนึ่ง ตบบนบริเวณที่เขาได้รับบาดเจ็บ เอ่ยถาม “เจ็บหรือไม่?”หลี่จือสูดลมหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง กัดฟันอย่างเจ็บปวด “เจ็บ! พ่อตา ท่านเลิกกดได้แ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 103

    หลี่จือยิ่งฟังยิ่งดีใจ พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง “ดี! ท่านพ่อตา ท่านสมเป็นขุนนางเฒ่าเจ้าเล่ห์...ไม่ ผู้มีความเฉลียวฉลาด! ทำอย่างที่ท่านพูดเถอะ!”ตู้เหวินหยวนเผยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ถูนิ้วเบาๆ “ข้าต้องเตรียมการให้พรักพร้อม แต่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรไม่น้อย องค์ชายท่านเห็นว่า...”หลี่จือชะงักงัน สีหน้าแข็งทื่อท้ายที่สุดแล้วตู้เหวินหยวน ก็คือเปลี่ยนวิธีหาเงินจากตนก็เท่านั้นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ตัวนี้...ไม่รู้กลืนเลือดเนื้อของราษฎร์ไปกี่มากน้อย แม้แต่เงินชดเชยของกองทัพสกุลซูก็ถูกกลืนไปจนหมดจดเขายังโลภมากเพียงนี้ คิดหาผลประโยชน์จากตน?ใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนตู้เหวินหยวนพูดว่าจะลงมือกับหลี่หลงหลินทางหนึ่งเพราะเขาต้องการตอบสนองความต้องการของผู้อื่น มองออกว่าตนเองมีความแค้นถึงไขกระดูกกับหลี่หลงหลินอีกทางหนึ่ง ตู้เหวินหยวนเองก็มีเหตุผลให้ต้องกำจัดหลี่หลงหลินนั่นก็คือสกุลซู!ในทุก ๆ วันที่สกุลซูยังอยู่ เช่นนั้นเรื่องเงินชดเชยก็อาจเปิดเผยออกมาได้ทุกเมื่อ!ส่วนที่พึ่งของสกุลซูในตอนนี้ ก็คือหลี่หลงหลิน!ตู้เหวินหยวนต้องกำจัดหลี่หลงหลิน ถึงจะสามารถกำจัดปัญหาที่ตามมาได้ตลอดไป!อิงตามหลักการแ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 104

    วันต่อมาหลี่หลงหลินเพิ่งได้ยินข่าว องค์ชายสี่ถูกโบย เกือบเอาชีวิตไม่รอดกระนั้น เขามิได้เก็บมาใส่ใจอย่างไรเสีย ซื้อฝ้าย ประดิษฐ์จักรเย็บผ้า คนสอนเย็บผ้า เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องเสียทั้งแรงเสียทั้งเวลาโชคดีลั่วอวี้จู๋ กงซูหว่าน หลิ่วหรูเยียนช่วยเหลือ หาไม่แล้วเรื่องมากมายเพียงนี้ หลี่หลงหลินเพียงคนเดียวต้องยุ่งมากเป็นแน่ไม่พูดไม่ได้ สตรีสกุลซู มีความสามารถอย่างแท้จริงพวกนางจัดการงานเล็กน้อยเหล่านี้ เหลือหลี่หลงหลินว่างงานเพียงคนเดียว เดินเล่นไปทุกหนแห่ง คล้ายเด็กข้างถนนไม่มีงานทำคนหนึ่งหลังผ่านช่วงเที่ยงซูเฟิ่งหลิงพาทหารที่เหลือ กลับจากหาไม้หนึ่งชุดที่ภูเขาทิศประจิม เหนื่อยจนหน้าแดงก่ำ หายใจกระหืดกระหอบ ตอนนี้เอง นางมองเห็นหลี่หลงหลินกำลังเดินเล่นอยู่ที่นั่น ทันใดนั้นเกิดโทสะขึ้นมาระลอกหนึ่ง“หลี่หลงหลิน!”ซูเฟิ่งหลิงโมโหเดินก้าวเท้ายาวๆ เข้ามา แขนทั้งสองข้างเท้าเอว “พวกเราสตรีหนึ่งกลุ่ม กำลังยุ่งจนปลีกตัวไม่ได้ ท่านบุรุษคนหนึ่ง ถึงขั้นมาแอบอู้งานอยู่ที่นี่?”หลี่หลงหลินยิ้มตาหยี ชี้เข้าที่สมองของตน “เจ้าไม่เข้าใจ! ข้าคือคนใช้สมองทำงาน ไม่เหมือนกับคนคิดอ่านเรียบง่าย แข

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 105

    เพียงหลี่หลงหลินได้ยิน ทันใดนั้นก็คลี่ยิ้มแล้ว “พี่สะใภ้ใหญ่อ่อนโยนเป็นกุลสตรี ดีกว่าเสือโคร่งเฉกเช่นซูเฟิ่งหลิงคนนี้! ข้ากำลังอยากไปดูภายในร้านอยู่พอดี!”ซูเฟิ่งหลิงถลึงตาใส่หลี่หลงหลินหนึ่งปราด พูดว่า “เขาไป ข้าก็ไม่ไปแล้ว! ข้าเพิ่งกลับจากภูเขาทิศประจิม เหนื่อยแทบตายแล้ว...”สีหน้าฮูหยินผู้เฒ่าซูเข้มขึ้น ด่าออกมา “เจ้าเด็กคนนี้ เหตุใดดื้อเพียงนี้? ใช่หรือไม่ว่าเจ้าต้องการทำให้ข้าโมโหตาย เจ้าถึงจะพอใจ?”ซูเฟิ่งหลิงได้ยินถ้อยคำนี้ ทันใดนั้นตกใจแย่แล้ว สีหน้าโศกเศร้าเสียใจ “ท่านย่า ข้าไป ข้าไปยังใช้ไม่ได้อีกหรือ?”แม้ซูเฟิ่งหลิงไม่ยินยอมเยี่ยงไร แต่กลับทำได้เพียงไปร้านพร้อมหลี่หลงหลินมองเงาหลังของทั้งคู่ ฮูหยินผู้เฒ่าซูบ่นงึมงำ “เด็กน้อย ข้าช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้แล้ว!”ณ ร้านขายผ้าสกุลซูร้านมีขนาดใหญ่มาก แต่กลับเงียบเหงาไร้ผู้คน ไม่มีลูกค้าแม้คนเดียวมีเพียงลั่วอวี้จู๋ที่มีสีหน้าอมทุกข์ นั่งถอนหายใจอยู่หลังโต๊ะขายของเพียงลำพังมองเห็นหลี่หลงหลินและซูเฟิ่งหลิงมาแล้ว ลั่วอวี้จู๋รีบลุกขึ้น เปล่งเสียงดีใจปนตกตะลึง “องค์ชาย น้องหญิง เหตุใดพวกท่านมาได้เล่า?”ใบหน้าซูเฟิ่งหลิงดำทึ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 106

    ซูเฟิ่งหลิงล้วนโง่งมแล้วเดิมนางคิดว่า สกุลซูสามารถทำเงินมหาศาลได้หนึ่งก้อน!คิดไม่ถึง ปัญหาใหญ่ถึงขั้นมาเยือนแล้ว!สีหน้าซูเฟิ่งหลิงกระวนกระวาย “พี่สะใภ้ใหญ่ ถ้าอย่างนั้นจะทำเยี่ยงไร?”ลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้ว ถอนหายใจพลางพูด “พวกเราทอผ้ายิ่งได้มากเท่าใด ขาดทุนก็มากเท่านั้น! บัดนี้ทำได้เพียงหยุดผลิต จึงจะสามารถลดความเสียหายได้! หาไม่แล้ว ไม่เกินหนึ่งเดือน สกุลซูจะต้องล้มละลายเป็นแน่!”ซูเฟิ่งหลิงชะงักงัน ส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง “พี่สะใภ้ใหญ่ ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้! หากพวกเราหยุดผลิต เช่นนั้นพวกแม่ม่ายจะทำเยี่ยงไร? พวกนางยังรอเงินค่าจ้าง ส่งลูกเข้าสำนักศึกษาอยู่นะ”ลั่วอวี้จู๋พูดอย่างลำบากใจ “ข้าย่อมรู้ดี! แต่ นี่เป็นเพียงหนทางเดียวในตอนนี้!”หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ พูดว่า “ไม่! ข้ากลับคิดว่า สกุลซูจะต้องสามารถรอดพ้นจากอุปสรรคในครานี้ไปได้เป็นแน่! พวกเราไม่เพียงไม่สามารถหยุดการผลิตได้ มิหนำซ้ำยังสามารถขยายขนาดให้ใหญ่ยิ่งขึ้นได้อีกด้วย!”ลั่วอวี้จู๋มองหลี่หลงหลินอย่างเหลือจะเชื่อ พูดไม่ออก “องค์ชาย ท่านเสียสติไปแล้ว? ท่านเองก็เห็นแล้ว นานมากเพียงนี้ ไม่มีลูกค้าแม้คนเดียว...”หลี่หลงห

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 107

    เผ่าหมานลงใต้ โจมตียึดเมือง ยึดได้ราวห้าเมืองราษฎร์ทางเหนือของต้าเซี่ย เพื่อหลีกหนีไฟสงคราม ต่างพากันหนีเอาตัวรอดมายังเมืองหลวง กลายเป็นผู้ลี้ภัยเพียงแต่ฮ่องเต้หวู่คิดไม่ถึง ผู้ลี้ภัยมีมากเพียงนี้!หนึ่งแสนคน!นั่นคือหนึ่งแสนปากเชียวนะ!หากดูแลไม่ดี จะต้องเกิดความโกลาหลเป็นแน่!ฮ่องเต้หวู่ออกคำสั่งในทันใด “เหตุใดไม่รีบพูดตั้งแต่แรก? รีบเรียกขุนนางใหญ่ของสำนักเลขาธิการ มาหารือเรื่องนี้!”เว่ยซวินค้อมตัวลง “น้อมรับพระบัญชา”พระบรมราชโองการถ่ายทอดลงมา ขุนนางใหญ่ของสำนักเลขาธิการต่างพากันเข้าวัง มาปรึกษาหารือต่อเบื้องพระพักตร์ฮ่องเต้หวู่อย่างกระตือรือร้นขุนนางใหญ่เห็นพ้องต้องกัน สนับสนุนการตัดสินพระทัยของฮ่องเต้หวู่ จะต้องตั้งถิ่นฐานใหม่ให้ผู้ลี้ภัยอย่างเหมาะสมจากนั้น พวกเขาแต่ละคนยื่นมือออกมา หันทางฮ่องเต้หวู่เพื่อขอเงิน!ผู้บัญชาการย่อมไม่ปล่อยให้ผู้อยู่ใต้อาณัติหิว!เสื้อผ้าอาหารที่พักอาศัยของผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคน ทุกด้านล้วนต้องจ่ายเงิน!นี่มิใช่เงินจำนวนน้อยๆ!เพียงฮ่องเต้หวู่ได้ยินว่าต้องการเงิน ชะงักงันในทันใด!เงินที่เราทำสงคราม ล้วนนำมาจากเว่ยซวินที่นั่นพวกเจ้าม

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 108

    ณ ภายนอกเมืองหลวง ผู้ลี้ภัยจากแดนเหนือจำนวนมากล้วนรวมกันอยู่ที่นี่พวกเขาตั้งกระโจมภายในพื้นที่ผู้ลี้ภัย หลังตั้งถิ่นฐานชั่วคราวแล้ว ก็พากันเข้าเมืองหลวง ซื้อของจำเป็นที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันตลาดที่เดิมทีเงียบเหงา ทันใดนั้นกลายเป็นเนืองแน่น ครึกครื้นขึ้นมาแล้วหลิวเกินเซิงเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเขาอายุสี่สิบกว่าปี สวมเสื้อหนังสกปรก ร้อนจนเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดเต็มศีรษะ น่าสงสารมากอย่างเห็นได้ชัด“เมืองหลวงอากาศบ้านี่! เหตุใดถึงร้อนเพียงนี้!”หลิวเกินเซิงปาดเหงื่อเม็ดใหญ่เต็มศีรษะ ปากบ่นงึมงำแดนเหนือยังปกคลุมไปด้วยหิมะ อากาศหนาวพื้นเย็น เมืองหลวงเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิเดือนสาม หญ้างอกงามสกุณาโบยบินหลินเกินเซิงเองก็เป็นคนยากจน ค้าขายเล็กน้อยที่แดนเหนือ เงินในมือก็มีไม่กี่อีแปะ บนตัวสวมเสื้อหนังเพียงตัวเดียวอุณหภูมิของเมืองหลวงสูงมาก ไม่สามารถสวมเสื้อหนังได้แล้วหลิวเกินเซิงวางแผนซื้อผ้าหนึ่งพับ ให้ตนเองและคนในครอบครัวทำเสื้อผ้าบางๆ สวมใส่ปรากฏว่า หลิวเกินเซิงเดินมาหลายร้านแล้ว เพียงผ่านเข้าประตูยังไม่ทันแนะนำตัว ก็ถูกลูกจ้างใช้สายตาหมิ่นแคลนมองคนไล่ออกมาแล้ว“เมืองหลวงนี้...ก็มิใช

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 109

    หลิวเกินเซิงเผชิญหน้ากับเทพเจ้าแห่งความตายซูเฟิ่งหลิง ยังมีใบหน้าเจ้าเล่ห์ของหลี่หลงหลิน ไม่กล้าขัดขืนอย่างแท้จริงเขาทำได้เพียงยอมจำนน เดินมาที่ชั้นวางของอย่างเชื่อฟังหา?หลิวเกินเซิงยื่นมือไปลูบผ้า รู้สึกแปลกใจอยู่บ้างผ้านี้ทออย่างละเอียด มิใช่สินค้ามีตำหนิมองจากการทอดูแล้ว เป็นของดีจะต้องเทียบผ้าซงเจียงได้เป็นแน่หลิวเกินเซิงว้าวุ่นภายในใจในเมื่อมิใช่สินค้ามีตำหนิ น่ากลัวว่าตนเองต้องถูกกรรโชกเงินมากเป็นแน่!ครั้งนี้ ตนเองต้องล้มละลายแน่แล้ว!เสียงหลิวเกินเซิงสั่นเครือ “องค์ชายเก้า ผ้านี้ต้องจ่ายมากน้อยเพียงใด?”หลี่หลงหลินตอบ “แปดสิบอีแปะ!”หลิวเกินเซิงได้ยินราคา ทั้งตัวคนล้วนตะลึงงันเป็นไปได้เยี่ยงไร?เมื่อครู่เขาไปถามร้านอื่น แม้แต่ผ้าคุณภาพต่ำที่สุด หนึ่งผืนก็ราคาหนึ่งร้อยอีแปะแล้วยิ่งไปกว่านั้นคุณภาพผ้าผืนนี้ดีมากเพียงนี้ อย่างน้อยราคาก็ต้องสองร้อยอีแปะปรากฏว่าขายเพียงแปดสิบอีแปะ?ตนเองมิได้เข้าใจผิดกระมัง?หลิวเกินเซิงสงสัยว่าตนเองฟังผิดไป “เท่าใดนะ? แปดสิบตำลึง?”หลี่หลงหลินหลุดหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าคนต่างถิ่น ใช่หรือไม่ว่าฟังภาษากลางไม่เข้าใจ! แปดสิ

Pinakabagong kabanata

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1260

    เช้าวันรุ่งขึ้นทะเลคราม ฟ้าสีฟ้า ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆ ไกลสุดสายตาเรือใหญ่ลำหนึ่งแล่นออกจากท่าเรือตงไห่อย่างโอ่อ่า ท่วงทีองอาจไม่ธรรมดาการออกทะเลครั้งนี้ หลี่หลงหลินไม่เพียงแต่พาเหล่าพี่สะใภ้มาด้วยหลายคน แต่ยังคัดเลือกทหารยอดฝีมือของตระกูลซูมาเป็นพิเศษอีกสามร้อยนายซูเฟิ่งหลิงยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ ทอดสายตามองไปยังเส้นขอบฟ้าที่ผืนน้ำจรดกับผืนฟ้า แววตาเต็มไปด้วยความกังวล ลมทะเลพัดผ่าน ผ้าคลุมสีแดงสดด้านหลังนางปลิวสะบัดพลิ้วไหว!หลี่หลงหลินบิดขี้เกียจ กระทืบเท้าลงบนดาดฟ้าเรือเบาๆเรือของเมืองตงไห่แข็งแรงกว่าที่ข้าคิดไว้มากตอนนี้หลี่หลงหลินทำได้เพียง มีอะไรก็ใช้อย่างนั้นไปก่อนแม้จะเทียบไม่ได้กับเรือประมงหมื่นตันในจินตนาการแต่แค่จับปลาหลายพันชั่งขึ้นมาก็ยังถือว่าสบายมากหลี่หลงหลินหยิบคันเบ็ดออกมานั่งลงข้างๆ ซูเฟิ่งหลิง ด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับไม่ได้กังวลแม้แต่น้อยซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงาม กล่าวเสียงขรึม "รัชทายาท ท่านบอกว่าจะพาพวกเราออกมาจับปลา คงไม่ได้คิดจะใช้แค่คันเบ็ดนี่ตกปลาหรอกนะเพคะ?"เหล่าพี่สะใภ้ก็รู้สึกว่ามันเหลือเชื่ออยู่บ้างอาศัยเพียงคันเบ็ดคันเดียวของหลี่หลงหลิน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1259

    ลั่วอวี้จู๋ก็ตกตะลึงไปเช่นกัน นางส่ายหน้าไม่หยุดกล่าวว่า “ไม่ได้ น้องหญิง เจ้าอย่าพูดอะไรพล่อยๆ บัญชีมันไม่ได้คำนวณแบบนั้น! ตอนนี้ประชาชนหลายแสนคนในตงไห่กำลังรอเสบียงอาหารอยู่ นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เพียงแค่พึ่งพาการล่าสัตว์ อย่างไรก็ไม่พอ!”ตอนนี้ไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงค่ากินอยู่ใช้สอยของเหล่าทหารกองทัพตระกูลซูทั้งหมด แต่ที่สำคัญกว่าคือการแก้ปัญหาความต้องการเสบียงอาหารของประชาชนตงไห่ทั้งหมดซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเรียวงาม “ถ้าไม่ไหวจริงๆ ข้าจะนำกองทัพตระกูลซูไปปล้นยุ้งฉางของพวกพ่อค้าเหล่านั้นเสียเลย! แบบนี้พวกเราก็จะมีเสบียงอาหารแล้วไม่ใช่รึ?”ลั่วอวี้จู๋ตกใจ รีบกล่าวว่า “น้องหญิง! เจ้าอย่าทำเรื่องเหลวไหล!”“เจ้าทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ แล้วชื่อเสียงของกองทัพตระกูลซูจะทำอย่างไร! ชื่อเสียงอันดีงามที่ตระกูลซูผู้จงรักภักดีสืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษจะถูกทำลายในพริบตาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง ท่านย่าก็คงไม่อนุญาตให้เจ้าทำตามอำเภอใจเช่นนี้แน่!”ซูเฟิ่งหลิงเบ้ปาก พึมพำว่า “ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง...”ตระกูลซูรับราชการทหารมาหลายชั่วอายุคน ทั้งตระกูลจงรักภักดี ไม่เคยทำเรื่องผิดต่อมโนธรรมใดๆ แม้กระทั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1258

    ตกเย็น จวนอ๋องตงไห่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟเหล่าพี่สะใภ้รวมตัวกันอยู่ในห้อง ใบหน้างดงามซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล ทุกคนต่างกลัดกลุ้มกับสถานการณ์ปัจจุบันของตงไห่ลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเรียวเล็กน้อย ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “รัชทายาท ตอนนี้พวกเราควรทำเช่นไรดี? ท่านสัญญาว่าจะทำให้ราษฎรตงไห่ทุกคนได้กินเนื้อสัตว์ภายในเจ็ดวัน แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่เนื้อเลย เกรงว่าแม้แต่การกินให้อิ่มท้องธรรมดาๆ ก็ยังยาก”เมื่อตอนเย็น ลั่วอวี้จู๋ได้ส่งคนไปสืบราคาเสบียงอาหารในตลาดแล้วและก็เป็นไปตามคาด หลังจากที่ราษฎรตื่นตระหนก ราคาเสบียงอาหารก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก ถึงขนาดที่ว่าในตลาดตงไห่ไม่มีข้าวสารขายในทันทีแล้ว หากต้องการซื้อทันทีก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ!เหล่าราษฎรต่างพากันส่งเสียงก่นด่าอย่างคับแค้น สถานการณ์เริ่มจะดำเนินไปในทิศทางที่ควบคุมไม่ได้แล้วลั่วอวี้จู๋มองไปยังหลี่หลงหลิน ถอนหายใจกล่าวว่า “รัชทายาท ตอนนี้วิธีที่ง่ายที่สุดคือการขายทรัพย์สมบัติทั้งหมด แล้วนำเงินไปแลกเป็นเสบียงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย”“แต่ข้าคำนวณดูแล้ว ต่อให้ขายทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลซู ก็ทำได้เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1257

    เหล่าราษฎรจ้องเขม็งไปยังหลี่หลงหลิน ต้องการคำอธิบายจากเขา หากไม่ได้ความในวันนี้ พวกเขาสาบานว่าจะไม่ยอมเลิกรา!หลี่หลงหลินเชิดหน้าอกผาย กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ปากท้องของราษฎรคือเรื่องสำคัญที่สุด ในเมื่อตงไห่เป็นดินแดนในอาณัติของข้า เช่นนั้นพวกท่านก็คือราษฎรของข้า หลี่หลงหลิน”“แม้จะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยจากมนุษย์ แต่ข้ารับรองว่าจะไม่ปล่อยให้พวกท่านต้องอดอยากหิวโหยเป็นอันขาด เรื่องเสบียงอาหารนั้นขอให้ราษฎรวางใจ ภายในเจ็ดวัน ข้าจะทำให้พวกท่านได้กินอิ่มท้องอย่างแน่นอน!”น้ำเสียงของหลี่หลงหลินทรงพลังอย่างยิ่ง ถ้อยคำดังก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของเหล่าราษฎรผู้คนต่างส่งเสียงฮือฮา“ขี้โม้!”“พี่น้องทั้งหลาย อย่าได้หลงเชื่อคำโอ้อวดของเขาเลย! ดูสิ ยุ้งฉางเหล่านี้ล้วนว่างเปล่า! จะเอาข้าวที่ไหนมาให้พวกเรา!”“หากวันนี้ไม่ให้คำตอบที่ชัดเจนกับพวกเรา แล้วอีกเจ็ดวันพวกเราจะไปเรียกร้องความเป็นธรรมกับใคร!”“ใช่แล้ว!”“หากวันนี้ไม่ยอมมอบเสบียงอาหารออกมา ก็อย่าหวังว่าจะได้ก้าวเท้าออกจากยุ้งฉางนี้ไปได้!”ชายฉกรรจ์ผู้เป็นหัวหน้าโบกแขนตะโกนปลุกระดมเหล่าราษฎร ผู้คนต่างขานรับเป็นเสียงเดี

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1256

    เหล่าราษฎรที่อยู่ด้านนอกยุ้งฉางต่างชูกำปั้นตะโกนก้อง เสียงดังสะท้อนไปทั่วฟ้า “แจกจ่ายเสบียง! แจกจ่ายเสบียง!”ข่าวราคาเสบียงอาหารในเมืองตงไห่พุ่งสูงขึ้นได้แพร่กระจายออกไปแล้ว ราษฎรต่างตื่นตระหนกหวาดกลัว จึงนัดหมายกันมารวมตัวที่หน้ายุ้งฉางเพื่อเรียกร้องขอเสบียง ก่อเกิดเป็นพลังมหาศาลหากไม่ใช่เพราะเหล่าทหารที่คอยขัดขวางไว้ เกรงว่าป่านนี้เหล่าราษฎรคงบุกเข้าไปในยุ้งฉางแล้วลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวเสียงเบา “รัชทายาท เช่นนี้จะทำอย่างไรดี ตอนนี้ยังไม่ได้ขาดแคลนเสบียงอาหารถึงที่สุด แต่ความโกรธแค้นของราษฎรก็รุนแรงถึงเพียงนี้แล้ว หากมีวันใดที่เสบียงหมดลงจริงๆ...”ใบหน้างามของลั่วอวี้จู๋ซีดขาว ริมฝีปากแดงเม้มแน่น ยืนนิ่งตะลึงงันอยู่กับที่ นางไม่อาจจินตนาการถึงภาพนั้นได้ราษฎรที่ก่อความวุ่นวายนอกยุ้งฉางมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆเหล่าทหารยามเริ่มชักดาบประจำกายออกมา แต่สำหรับเหล่าราษฎรแล้ว หากไม่มีเสบียงให้กิน ในภายภาคหน้าก็มีแต่ความตายสถานเดียว!ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงามเล็กน้อย แววตาหงส์ฉายประกายดุดัน “รัชทายาท หากปล่อยให้พวกเขาอาละวาดต่อไปเช่นนี้ ต้องเกิดเรื่องแน่เพค

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1255

    ลั่วอวี้จู๋เดินเข้ามาก่อนสองก้าว กล่าวว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้แม้จะจัดการกับพวกพ่อค้าเศรษฐี แต่ก็ยังต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องเสบียงอาหารก่อน มิฉะนั้นเมื่อถึงเวลา ราษฎรอาจตื่นตระหนก ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อพวกเราได้”หลี่หลงหลินเพียงแค่แย้มยิ้มบางเบาซูเฟิ่งหลิงกล่าวว่า “องค์รัชทายาท ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถือเป็นสถานที่สำคัญยิ่งของต้าเซี่ย ข้างในย่อมต้องมีเสบียงเก็บไว้แน่นอน ตอนนี้สามารถนำเสบียงในยุ้งฉางออกมาแจกจ่ายช่วยเหลือราษฎร เพื่อให้พวกเขาคลายกังวลได้แล้วเพคะ”ลั่วอวี้จู๋พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้วเพคะ องค์รัชทายาท ทำให้ราษฎรคลายกังวลลงก่อน แล้วค่อยว่ากันถึงแผนขั้นต่อไป”หลี่หลงหลินส่ายหน้า กล่าวเสียงเรียบ “ไม่ต้องเสียแรงเปล่าแล้ว ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถูกขนย้ายไปจนหมดสิ้นนานแล้ว ไม่เหลือแม้แต่เมล็ดเดียว ตอนนี้เหลือเพียงแค่ยุ้งฉางเปล่าๆ เท่านั้น”ทั้งสองคนตกตะลึง“เป็นไปได้อย่างไร? ยุ้งฉางนั้นเป็นเสบียงช่วยชีวิตที่ราชสำนักเก็บไว้ เพื่อรับประกันว่าราษฎรจะไม่อดตายในปีที่เกิดภัยพิบัติ จะมีคนกล้าบ้าบิ่นถึงเพียงนี้ มาคิดการใหญ่กับมันได้อย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงไม่อยากจะเชื่อคำพูดของหลี่หลงหลินหลี่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1254

    ตำหนักอ๋องตงไห่หลี่หลงหลินเดินออกจากห้องก็พบกับลั่วอวี้จู๋และซูเฟิ่งหลิงที่รีบร้อนเข้ามาพอดีลั่วอวี้จู๋มีสีหน้าตื่นตระหนก รีบกล่าวว่า “องค์รัชทายาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ!”หลี่หลงหลินหาว กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ ไม่ต้องรีบร้อน มีอะไรค่อยๆ พูด”ลั่วอวี้จู๋หอบหายใจเล็กน้อย กล่าวว่า “เมื่อครู่ข้ากับน้องหญิงกำลังดูแลร้านค้าของตระกูลซูในตงไห่ที่ถนน ได้ยินเถ้าแก่บอกว่า ตอนนี้ราคาธัญพืชในตงไห่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว วันเดียวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว!”“เรื่องผิดปกติย่อมมีเบื้องหลัง ดังนั้นจึงรีบกลับมารายงานองค์รัชทายาท”ปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดราคาธัญพืชเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร หากราคาธัญพืชผิดปกติ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก!ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า ตอบว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้เป็นปีแห่งภัยพิบัติอยู่แล้ว เกิดภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี บ้านเรือนของราษฎรแทบไม่มีเสบียงสำรอง ต้องอาศัยการซื้อธัญพืชประทังชีวิตทั้งสิ้น”“แต่ตอนนี้ถ้าหากราคาธัญพืชพุ่งสูงขึ้น แล้วราษฎรในตงไห่เหล่านี้จะทำอย่างไร?”หลี่หลงหลินมองลั่วอวี้จู๋ กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่าน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1253

    “แต่ทุกท่านกลับมองข้ามเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไป นั่นคือโอกาสที่จะร่ำรวยมหาศาล”แววตาละโมบปรากฏขึ้นในดวงตาของหลู่จงหมิง“นั่นก็คือเสบียงอาหาร”พอหลู่จงหมิงกล่าวคำนี้ออกมา ทั่วทั้งห้องก็เกิดเสียงฮือฮา พูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่พ่อค้าร่ำรวยไม่อาจปิดบังความดีใจอย่างบ้าคลั่งในใจ “ท่านพระเชษฐภาดา ท่านหมายความว่าจะลงมือกับราคาธัญพืชหรือ?”หลู่จงหมิงเผยรอยยิ้มเย็นชา “ถูกต้อง”ปัจจุบันต้าเซี่ยประสบภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี แม้แต่ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างตงไห่ ยุ้งฉางก็ร่อยหรอเต็มทีแล้วยิ่งไปกว่านั้น หลี่หลงหลินนำกองทัพใหญ่มาปักหลักที่ตงไห่ ค่ากินอยู่ใช้สอยล้วนต้องเบิกจ่ายจากท้องพระคลังตงไห่แม้ว่ากบฏจะถูกปราบปรามจนสงบ ก็จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันด้านเสบียงอาหารให้กับตงไห่มากขึ้นเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้น อาจมีสถานการณ์กบฏที่รุนแรงกว่าเกิดขึ้นได้อีกถึงตอนนั้น เสบียงอาหารของตงไห่ก็จะยิ่งน้อยลงเรื่อยๆของยิ่งน้อยยิ่งมีค่า ราคาธัญพืชย่อมต้องถูกปั่นสูงขึ้นปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดพ่อค้าร่ำรวยย่อมรู้หนทางสู่ความร่ำรวยด้วยการกักตุนธัญพืช ปั่นราคา แต่ไม่มีใครกล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1252

    จวนตระกูลหลู่คานแกะสลัก เสากรอบวาดลวดลาย วิจิตรตระการตา ทองเหลืองเรืองรอง หลู่จงหมิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตากวาดมองเหล่าพ่อค้าที่มาถึง “มากันครบแล้วหรือ?”เงียบสงั ดจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มตกพ่อค้าเหล่านี้หูตาสว่าง รู้เรื่องที่พระเชษฐภาดาเจอในจวนอ๋องนานแล้ว ไม่กล้าราดน้ำมันบนกองไฟในจังหวะสำคัญนี้ พ่อค้าที่ปกติหยิ่งยโสโอหังต่างก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวต่อหน้าหลู่จงหมิง ไม่กล้าพูดมาก เกรงว่าจะล่วงเกินแม้หลู่จงหมิงจะเสียหน้าอย่างหนักในจวนอ๋อง แต่ก็ไม่ใช่คนที่พ่อค้าอย่างพวกเขาจะดูเบาได้พ่อบ้านจวนตระกูลหลู่เดินเข้ามากล่าวเสียงเบา “นายท่าน ยังมีคนจากตระกูลซุนและตระกูลจ้าวที่ยังไม่มา ท่านจะว่าอย่างไร...”หลู่จงหมิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตวาดว่า “ไม่มาก็ไม่ต้องมาแล้ว! กล้าดีอย่างไรไม่เห็นคำพูดของข้าผู้เป็นพระเชษฐภาดาอยู่ในสายตา”หลู่จงหมิงมองเหล่าพ่อค้ามั่งคั่งที่อยู่ ณ ที่นั้น กล่าวเสียงเย็นชา “นับแต่นี้ไป ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ห้ามทำการค้าใดๆ กับสองตระกูลนี้ หากข้าพบเข้า... หึหึ!”แววตาอำมหิตวาบผ่านดวงตาของหลู่จงหมิงนี่คือเขาต้องการแสดงอำนาจ สร้างบารมี กู้หน้าตาที่เสียไปกลับคืนมาพ่อค

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status