Share

บทที่ 6

“ท่านป้าระวังคำพูดด้วย ถึงแม้ว่าจะอายุน้อยกว่า แต่ข้าก็แต่งงานแล้ว ที่จวนมหาเสนาบดีเอง ข้าก็เป็นถึงพระชายาขององค์ชายสามขององค์จักรพรรดิ ท่านเรียกข้าเช่นนั้น มันจะไม่ทำให้เกิดความสับสนหรอกหรือ?”

“ยิ่งกว่านั้น พี่สะใภ้เองก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลฉู่ของเราแล้ว ท่านพ่อท่านแม่ปฏิบัติต่อนางเหมือนลูกสาวที่รัก บรรดาฮูหยินและขุนนางผู้สูงศักดิ์ในเมืองล้วนเห็นสิ่งนี้ คำพูดดังกล่าวเมื่อพูดภายในครอบครัวอาจจะไม่เป็นอะไร แต่ไม่ควรพูดไปข้างนอก คนที่รู้สถานการณ์จะเข้าใจว่าท่านแค่เอ็นดู แต่หากคนที่ไม่คิดเช่นนั้นเล่า อาจจะกำลังคิดว่าท่านไม่ชอบลูกเขยของตัวเอง สิ่งนี้อาจทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของพี่สะใภ้ บ่งบอกว่าท่านกำลังมีใจเป็นอื่น”

“นี่เจ้า...!” ดวงตาของหลิวซื่อเบิกกว้าง พลางชี้นิ้วไปที่ฉู่เนี่ยนซี ทว่าหญิงสาวกลับยังยืนอยู่ด้วยท่าทีสงบนิ่ง

แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีเอ่ย หลิวซื่อก็ต้องกลืนความโกรธทั้งหมดลงไป

“ตอนนี้คำพูดจาของพระชายาหลีนั้นเฉียบแหลมนัก ข้าน้อมรับคำแนะนำ นี่ก็นานมากแล้วที่ข้าไม่ได้เจอแม่ของท่าน คงจะดีไม่น้อยถ้าได้ถามไถ่กันบ้าง”

แม้จะไม่อยากเจอหน้าของฉู่เนี่ยนซีแล้ว แต่หลิวซื่อก็ไม่กล้าพอที่จะเย้ยหยันอีกฝ่ายภายใต้จวนมหาเสนาบดี นางจึงตัดสินใจถอยออกมาเสียก่อน

ฉู่เนี่ยนซีคลี่ยิ้มออกมา พลางเอ่ย “ต้องขอโทษด้วย วันนี้ท่านป้าอาจจะมาไม่ถูกเวลาเท่าไหร่นัก ท่านพ่อไม่ค่อยสบาย ท่านแม่เองก็คงไม่ได้รู้สึกดีนัก จึงขอให้ท่านมาวันอื่นแทนแล้วกัน”

“นี่ท่านกำลังไล่ข้าออกไปจากจวนท่านมหาเสนาบดีงั้นเหรอ? ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ท่านมีสิทธิ์เช่นนี้?!”

“ไม่สำคัญว่าพระชายาเช่นข้าจะมีสิทธิ์หรือไม่ แต่ข้าเป็นคนปากไว หากเรื่องนี้ถึงหูท่านพ่อท่านแม่เมื่อไหร่ แล้วสุขภาพท่านพ่อย่ำแย่ลง ท่านจะรับผิดชอบยังไง?”

ได้ยินอย่างนั้นหลิวซื่อก็หน้าซีด กัดฟันด้วยความโกรธ “เห็นได้ชัดว่ากำลังแอบฟัง แล้วยังจะมาตำหนิข้าอีกงั้นเหรอ?”

“ท่านแม่”

พี่สะใภ้ดุทันที ทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถทนงตัวได้อีก

ฉู่เนี่ยนซียิ้มแล้วเอ่ย “เอาล่ะ ท่านอยากให้ข้าบอกท่านพ่อกับท่านพี่หรือไม่ ว่าพี่สะใภ้อยากจะหย่ากับท่านพี่? ถ้าหากว่าข้าพูดโดยไม่ทันระวัง ก็อย่าโทษข้าก็แล้วกันเพราะทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ท่านคิด”

ดวงตาของคนเป็นสะใภ้ใหญ่แสดงออกชัดเจนว่ากำลังทำอะไรไม่ถูก

นางพยายามดึงแขนเสื้อของหลิวซื่อเพื่อเตือนสติ “ท่านแม่ ถ้าไม่อยากให้ข้ามีปัญหา ก็ไม่ต้องพูดอะไรอีก ท่านกลับไปก่อนเถอะ”

หลิวซื่อโกรธมากจนควันแทบออกหู แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากปล่อยให้หน้าแดงก่ำ พลางโดนพี่สะใภ้กึ่งลากกึ่งดึงให้ออกไปจากจวนมหาเสนาบดี

“เดินทางปลอดภัยนะท่านป้า ส่วนเรื่องขาของพี่ชายข้า อีกไม่นานก็คงจะรักษาจนหายดีแน่นอน พอถึงตอนนั้นก็ไม่ต้องเสียใจ”

หลิวซื่อแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน แต่ทันทีที่เธอเอ่ยคำว่า “หายดีแน่นอน” ก็รับรู้ได้ถึงรังสีแห่งความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

ฉู่เนี่ยนซีมองแผ่นหลังนั้นแล้วถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะยกชายกระโปรงขึ้นแล้วเดินกลับเข้าไปยังห้องมหาเสนาบดีอย่างรวดเร็ว

ฉู่เจี้ยนอี้ พี่ชายของนางเสียสละขาก็เพื่อจะช่วยชีวิตนางเอาไว้ในตอนนั้น

และเห็นได้ชัดว่าพี่สะใภ้นั้นมีความรู้สึกดี ๆ ให้พี่ชายคนโตของนาง แต่กลับถูกหลิวซื่อบังคับไม่ให้ทำอะไร เพียงเพราะให้ความสำคัญต่อการเป็นชายมากกกว่า

หลายปีมานี้หลิวซื่อใช้ชื่อของลูกสาวครอบครองที่ดินจำนวนมากเอาไว้ในมือ

ตอนนี้เมื่อเห็นว่าอาการบาดเจ็บที่ขาของพี่ชายนางจะไม่ฟื้นตัวดี และจะไม่สามารถสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวในจวนมหาเสนาบดีได้แล้ว ก็เริ่มคิดที่จะหย่าร้าง และปล่อยให้พี่สะใภ้ใหญ่แต่งงานใหม่อีกครั้ง หาใครสักคนที่จะเข้ามาช่วยเหลือลูกชายและครอบครัวสามีของนางได้

ใจดำเสียจริง เกิดเป็นลูกสาวในสมัยโบราณแบบนี้ ชีวิตไม่ง่ายเลยทีเดียว

ไม่ช้าฉู่เนี่ยนซีก็เดินมาถึงยังห้องของเสนาบดี

หญิงสาวรีบเปิดประตูแล้วเอ่ย “ท่านพ่อ” ทันใดนั้นก็เห็นเสนาบดีฉู่แต่งกายเรียบร้อยนั่งอยู่หน้าห้องอ่านหนังสือ กำลังอ่านนิทานเล่มใหม่อย่างเพลิดเพลิน

...?

ป่วยอยู่มิใช่หรือ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status