แชร์

บทที่ 210

ผู้เขียน: ชาผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-14 16:00:01
การกระทำของฉู่เนี่ยนซีทำให้ปากของเป่ยถูกระตุก และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย การที่เด็กผู้จ้องมองร่างของผู้ชายเช่นนี้ มันทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ แต่เจ้าตัวกลับดูไม่รู้สึกอะไรเลย ดังนั้นเขาจึงต้องสงบสติอารมณ์ของตัวเอง

"เป็นเช่นนี้จริง ๆ ด้วย!"

ทันใดนั้นฉู่เนี่ยนซีก็ตะโกนขึ้นอย่างตื่นเต้น

เป่ยถูรีบมองตามสายตาของนางไป เขาเห็นส่วนที่นูนขึ้นมาบนร่างกายของเฉินเกอ ซึ่งจากนั้นมันก็หายไป ก่อนจะนูนขึ้นมาอีกครั้งบนจุดอื่น

เมื่อเวลาผ่านไป ส่วนนูนก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ และสีหน้าของคนบนเตียงก็ดูดุร้ายมากขึ้น

“อ่า..เจ็บ...”

อุณหภูมิในห้องเพิ่มขึ้นสองสามองศาตามการเปลี่ยนแปลงของเฉินเกอ

ในเวลานี้ ฉู่เนี่ยนซีรู้สึกราวกับว่ากำลังยืนอยู่ข้างเตาขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้ใบหน้าของนางแดงก่ำ และเหงื่อบนหน้าผากก็หยดลงมาที่แก้มของนาง

นางใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อ และริมฝีปากของนางก็เริ่มซีด ดูอ่อนแรงเล็กน้อย

เป่ยถูเหลือบมองฉู่เนี่ยนซี จากนั้นก็ปรับเปลี่ยนกำลังภายในของเขาและค่อย ๆ เอาฝ่ามือเข้าไปใกล้แผ่นหลังของนาง

การกระทำของเป่ยถูทำให้ฉู่เนี่ยนซีรู้สึกหนาวไปทั่วร่างกาย ความรู้สึกอับชื้นบรรเทาลงเล็กน้อยและผิวของนา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 211

    เนื่องจากถูกบดบังจากหน้ากากชนิดพิเศษ แม้ฉู่เนี่ยนซีจะไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของเขาได้ แต่นางก็รู้สึกได้ถึงความมั่นใจจากน้ำเสียงของเขา คนที่มีท่าทีลึกลับเช่นนี้ พลังของเขาต้องไม่ธรรมดาแน่นอน หากเขาส่งคนไปตรวจสอบ คงไม่ยากที่จะหาว่ามีพิษกู่ชนิดนี้ในมณฑลตะวันตกหรือไม่ ฉะนั้น ในเมื่อเขาดูมั่นใจขนาดนี้ ก็คงสันนิษฐานว่าได้ว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง ฉู่เนี่ยนซีคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองไปยังเฉินเกอที่กำลังมีสีหน้าทุกข์ทรมาน ทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า “แม้ตอนนี้ข้าจะยังไม่มีวิธีรักษา แต่คิดว่าน่าสามารถบรรเทาความเจ็บปวดของเขาได้ หลังจากกลับไป ข้าจะค้นหาวิธีรักษามาให้ ไม่แน่ว่าอาจจะเจอหนทาง” พูดจบ ฉู่เนี่ยนซีก็หยิบสมุนไพรที่มีสำน้ำเงินออกมาจากแขนเสื้อของตนแล้วมอบให้เป่ยถู “นี่คือ...” “นี่คือหญ้าครามน้ำแข็ง ข้าเห็นว่าสวนสมุนไพรของท่านไม่มีสมุนไพรชนิดนี้ มันมีฤทธิ์เย็น บดก่อนแล้วแบ่งเป็นส่วนเท่า ๆ กัน ต้มในน้ำแล้วป้อนให้เขา มันพอจะช่วยบรรเทาให้ความร้อนในร่างกายลดลงได้ แต่จะช่วยได้ไม่นานนัก ทุกหนึ่งชั่วยามจึงจำต้องดื่มหนึ่งถ้วย อีกทั้งสมุนไพรชนิดนี้ก็อยู่ได้เพียงเจ็ดวัน!” ฉู่เนี่ยนซีอธิบายวิธีการใช้ส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-14
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 212

    “ถึงไหนแล้ว?” เสียงของฉู่เนี่ยนซีแหบแห้งเล็กน้อย นางมองออกไปนอกหน้าต่างและตกตะลึง “ถึงแล้ว?” “พะย่ะค่ะ!” “ตอนแรกข้านั่งเรือมานี่ ไฉนถึงมาอยู่บนรถม้าได้?” “ข้าน้อยอุ้มท่านขึ้นมาเพราะเห็นว่าท่านกำลังหลับสบาย” อวี๋หนานมองฉู่เนี่ยนซีราวกับว่าเขากำลังขอคำชม ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเขาเนือย ๆ จากนั้นก็กระโดดลงจากรถม้า “ขอบคุณที่มาส่ง!” ฉู่เนี่ยนซีกล่าวกับคนขับรถม้า เขาแสดงความเคารพ แล้วฟาดแส้ควบม้าออกไป อวี๋หนานมองไปยังรถม้าที่กำลังออกไป และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อย “นายหญิง ท่านบอกว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว เช่นนั้นท่านอ๋องจะสังเกตเห็นหรือไม่ว่าท่านไม่อยู่ในหอนอน?” “ถ้าเขาไม่มีเรื่องอะไรก็จะไม่มาหาข้าหรอก เขาคงไม่รู้ว่าข้าไม่อยู่” พูดจบ ฉู่เนี่ยนซีก็เดินไปที่ประตูข้าง “พวกเรารีบข้ามกำแพงกลับกันเถอะ” ทั้งสองรีบปีนข้ามกำแพงและเข้าไปในจวนอ๋อง หลังจากที่ฉู่เนี่ยนซีขอให้อวี๋หนานไปพักผ่อน นางก็ตรงกลับไปยังเรือนนอนของตัวเอง รอบทิศเต็มไปด้วยแสงระยิบระยับ ใบไม้ในลานส่งเสียงกรอบแกรบท่ามกลางสายลมยามค่ำคืน เพิ่มความน่าขนลุกเล็กน้อยให้กับค่ำคืนที่มีอากาศเบาบาง หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-14
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 213

    พูดจบ ฉู่เนี่ยนซีก็หันหลังเตรียมที่จะจากไป เย่เฟยหลีกำมือทั้งสองแน่น จากนั้นก็รีบดึงนางมาไว้ในอ้อมแขนของเขา ริมฝีปากบางอันน่าเย้ายวนของเขาก็ประทับลงบนริมฝีปากสีแดงของนาง “อื้อ...” สัมผัสเยือกเย็นจากริมฝีปากของเขาทำให้ฉู่เนี่ยนซีเบิกตาโพลงขึ้นมาทันที สองมือของนางดันหน้าอกของเขาอย่างแรง พยายามที่จะผลักเขาออกไป แต่เย่เฟยหลีที่กำลังโกรธนั้นแข็งแกร่งกว่าปกติ ไม่ว่านางจะพยายามเพียงใด ก็ไม่สามารถสั่นคลอนเขาได้เลยแม้แต่น้อย จู่ ๆ ฉู่เนี่ยนซีก็นึกอะไรออก จากนั้นก็มีเข็มเงินหลายเล่มอยู่ในมือของนาง และเย่เฟยหลีที่สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของนางแต่แรก ก็รวบมือนางไว้แน่นด้วยมือข้างเดียว “เย่เฟยหลี ท่านมันเลว ปล่อยข้านะ!” ฉู่เนี่ยนซีฉวยโอกาสกัดฟันตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น ชายที่เสียสติไปแล้วมีหรือจะฟังนาง ในระหว่างที่กำลังอิรุงตุงนังกันอยู่นั้น เขาก็พลิกตัวและทั้งสองก็ล้มลงบนเตียง โดยที่เย่เฟยหลีกดฉู่เนี่ยนซีไว้ใต้ร่างเขาอย่างแน่นหนา เย่เฟยหลีประทับจูบลงไปอีกครั้ง ความอบอุ่น ความนุ่มนวล และความหอมหวานบนริมฝีปากของนางเกือบจะทำให้เย่เฟยหลียั้งใจไว้ไม่อยู่ เมื่อนึกไปถึงเรื่องที่ไม่รู้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-15
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 214

    เย่เฟยหลีควบม้าไปตลอดทางและไม่นานก็มาถึงพระราชวัง ทันทีที่เขาเข้าไปในพระราชวัง เย่เฟยหลีก็ส่งต่อม้าให้กับองครักษ์และตรงไปยังห้องทรงงานขององค์จักรพรรดิทันที องค์จักรพรรดิที่กำลังตรวจฎีกาอยู่ ณ เวลานี้ เมื่อเห็นว่าขันทีมาทูลแจ้ง ก็อดแปลกใจไม่ได้ “ให้เขาเข้ามา!” หลังจากได้รับอนุญาตจากองค์จักรพรรดิแล้ว เย่เฟยหลี่ก็เดินเข้ามา เมื่อเขามองไปรอบ ๆ ก็ไม่เจอคนที่เขาต้องการเห็น ดวงตาของจึงเกิดความสงสัยขึ้นมา หรือว่านางจะไม่ได้เข้าวัง? เย่เฟยหลีเก็บอารมณ์ที่อยู่ภายในใจพลางก้าวไปข้างหน้าและทำความเคารพ “ลูกขอถวายบังคมเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ!” “ลุกขึ้นเถอะ!” องค์จักรพรรดิโบกมือและวางเอกสารในมือลง “วันนี้พวกเจ้าสองสามีภรรยาเป็นอะไรไปกัน ปกติเห็นอยากจะอยู่ห่างจากพระราชวังนัก แต่วันนี้เจ้ากลับขยันเสียนี่” “ซีเอ๋อร์ก็เข้าวังมาด้วยหรือพ่ะย่ะค่ะ?” “เจ้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อตามหาเด็กน้อยคนนั้นรึ?” องค์จักรพรรดิเลิกคิ้ว เย่เฟยหลีผู้ซึ่งไม่เคยสะท้กสะท้านต่อสิ่งใด บัดนี้กลับรู้สึกเขินอายเล็กน้อย “ไม่ทราบว่า...นางมาทำอะไรที่นี่หรือพ่ะย่ะค่ะ?” เย่เฟยหลีรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย องค์จักรพรรดิดูเหมือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-15
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 215

    “เรียนพระชายา องค์จักรพรรดิทรงได้ยินว่าพระชายายังไม่ได้รับอาหารเช้า จึงรับสั่งให้คนนำอาหารมาให้เพคะ!” นางกำนัลพูดและโค้งคำนับให้ฉู่เนี่ยนซี “เชิญพระชายาเสวย หม่อมฉันจะกลับมาเก็บภายหลัง” พูดจบ นางกำนัลก็ขอตัวออกไป ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองอาหารบนโต๊ะแล้วเลิกคิ้ว มีแต่อาหารที่นางชอบ... ‘หรือว่าวันนี้ในวังจะทำอาหารพวกนี้พอดี? ช่างโชคดีเสียจริง’ กลิ่นของอาหารยังโชยเข้าจมูกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฉู่เนี่ยนซีรู้สึกหิวยิ่งขึ้น นางวางตำราในมือลง หยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเริ่มรับประทานอาหาร ถึงกระนั้น ใบหน้าของนางก็ยังคงมีความสง่างามอยู่ เมื่อฉู่เนี่ยนซีทานอาหารจนพอใจแล้ว พลันก็มีเสียงคนด่าทออย่างรุนแรงดังมาจากทางบันได “เจ้ากล้าทานข้าวในหอตำราหลวงได้อย่างไร! ใครหน้าไหนมันทำให้เจ้ากล้าทำตัวสามหาวได้เช่นนี้?!” ฉู่เนี่ยนซีเห็นสตรีรูปงามในชุดสีชมพูตามด้วยสาวใช้สองคนที่กำลังเดินมาหานาง พลางมองนางด้วยความโกรธ “ข้าก็นึกว่าใคร เป็นเจ้านี่เอง พูดก็พูดเถอะ เหตุใดคนไร้ความสามารถที่จู่ ๆ ก็โด่งดัง ถึงได้มาซุ่มอ่านตำราที่หอตำราในวังตั้งแต่เช้า ที่แท้เจ้าก็ทำเพื่อตบตาคนอื่น สุดท้ายก็คงจะเป็นเพราะพี่สา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-15
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 216

    เมื่อฮว่านเอ๋อร์และเสียนเอ๋อร์สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดจากเข็มที่ทิ่มลงบนร่างกายของตัวเอง ก็คิดจะตอบโต้ แต่ทันใดนั้นพวกนางก็รู้สึกว่าร่างกายไม่มีแรงจนล้มลงกับพื้น และมองฉู่เนี่ยนซีด้วยความตกตะตึง “หากจะเอาชนะข้าผู้นี้ก็คงยากหน่อยนะ!” ฉู่เนี่ยนซียิ้มมุมปาก แต่ดวงตาของนางกลับเต็มไปด้วยความเย็นชา เข็มเงินที่นางใช้ในวันนี้ได้ถูกแช่พิษเอาไว้ ต่างจากยากล่อมประสาทก่อนหน้านี้ นี่คือพิษชนิดใหม่ที่นางศึกษาค้นคว้าเอาไว้ เมื่อถูกพิษนี้เข้าจะส่งผลต่อสติสัมปชัญญะ เพียงแต่ร่างกายอ่อนแอและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เท่านั้น แม้ว่านางจะใช้วิธีนี้ได้ด้วยการโจมตีเข้าที่จุดฝังเข็ม แต่ถึงกระนั้นก็จะต้องโจมตีให้โดนจุดฝังเข็มด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว และเมื่อพิษได้สัมผัสเข้ากับจุดเหล่านั้น ก็จะได้ผลลัพธ์ตามต้องการ! เย่เซวียนเล่อตกใจเมื่อเห็นทั้งสองคนทรุดตัวลงกับพื้น ทำให้จู่ ๆ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป “ไยเจ้าสองคนถึงลงไปนั่งกับพื้นเช่นนั้น รีบไปจัดการนางเร็วเข้าสิ!” “องค์หญิง พวกบ่าวถูกวางยาพิษเพคะ!” สีหน้าของฮว่านเอ๋อร์นิ่งเฉย สีหน้าไม่อยากเชื่อที่ปรากฏเมื่อครู่นี้ก็กลับมาไร้อารมณ์อีกครั้ง นั่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-15
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 217

    ฉู่เนี่ยนซีมองเย่เซวียนเล่อราวกับว่ากำลังดูตัวตลก พลางยิ้มเยาะขึ้น “ฉีกเป็นชิ้น ๆ ? หม่อมฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าองค์หญิงห้าไปเอาความกล้าและความมั่นใจมาจากไหน?! หรือเพียงเพราะว่าท่านเป็นองค์หญิงที่เกิดจากฮองเฮางั้นรึ?” “แน่อยู่แล้ว ข้าที่เป็นองค์หญิงนั้นมีฐานะสูงส่งมากกว่าคนอัปลักษณ์เช่นเจ้ามากนัก!” เย่เซวียนเล่อทำท่าทางหยิ่งผยองพลางมองฉู่เนี่ยนซีด้วยความรังเกียจ และพูดต่อ “มารดาของข้าคือฮองเฮา เป็นผู้สูงส่งที่สุดในใต้หล้า ขณะที่มารดาของเจ้าเป็นเพียงสตรีที่แม้แต่ชื่อก็ไม่มีใครรู้จัก อีกทั้งบิดาของข้าก็เป็นถึงองค์จักรพรรดิ และบิดาของเจ้าก็เป็นเพียงแค่เสนาบดีต๊อกต๋อยที่เป็นสุนัขรับใช้ข้างกายเสด็จพ่อของข้า!” “การที่มารดาของเจ้าให้กำเนิดบุตรสาวที่อัปลักษณ์และไร้ความสามารถเช่นนี้ออกมาได้ นางก็คงจะเป็นคนที่ไร้ความสามารถและต่ำต้อยด้วยเช่นกัน!” ยิ่งเวลาผ่านไปเย่เซวียนเล่อก็ยิ่งพูดยั่วยุมากขึ้น ขณะที่พูด นางก็แสดงความเย่อหยิ่งเจือความรังเกียจไปด้วย โดยไม่ทันสังเกตเห็นความโกรธเกรี้ยวที่ปะทุอยู่ในดวงตาคมปลาบของฉู่เนี่ยนซีซึ่งกำลังจะระเบิดออกมา “ดังนั้น ข้าขอแนะนำให้เจ้าคุกเข่าต่อหน้าข้าและตบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-15
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 218

    เหล่าองครักษ์เหลือบมองฉู่เนี่ยนซีและมองหน้ากัน ช่วงนี้ชื่อเสียงของพระชายาหลีกำลังแพร่หลาย และความคิดของผู้คนในวังที่มีต่อนางก็เปลี่ยนไปมาก ในโลกนี้ คนที่มีความรู้ด้านการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมย่อมได้รับความเคารพจากทุกคน นอกจากนี้ องค์หญิงห้า เย่เซวียนเล่อผู้นี้เดิมทีเป็นคนหยิ่งผยองและบ้าอำนาจ เหล่าขันทีและองครักษ์ต่างก็รู้เรื่องนี้ดี แต่ในเมื่อเป็นคนของนาง ด้วยสถานะของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็ทำได้เพียงต้องทำตามคำสั่งของนางและลงมือเท่านั้น หากแต่ตอนนี้คนที่นางต้องการจับกุมคือพระชายาหลี! หากลงมือไปพวกเขาก็คงโง่แล้ว เย่เซวียนเล่อเห็นทุกคนทำเหมือนไม่ได้ยินที่ตัวเองพูดก็โกรธ “พวกเจ้าหูหนวกกันรึ? ข้าสั่งให้จับนางสารเลวนั่น!” “นางสารเลว...” ริมฝีปากของฉู่เนี่ยนซีเผยอเล็กน้อย พูดคำว่า ‘นางสารเลว’ โดยพูดสองพยางค์แรกด้วยเสียงเบาและเน้นเสียงที่พยางค์สุดท้าย ทำให้ผู้คนหวาดกลัวไปตาม ๆ กัน จากนั้น นางก็เคลื่อนไหวไปอยู่ตรงหน้าเย่เซวียนเล่อราวกับสายลม เสียงดัง ‘เพียะ! เพียะ!’ ทำเอาทุกคนเบิกตากว้างด้วยความเหลือเชื่อ “กรี๊ด! นะ...นางคนอัปลักษณ์ กล้าดียังไงมาตบข้า?!” เสียง “เพียะ!!!” ดังขึ้นอีกเสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-15

บทล่าสุด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status