ผู้นำก็คือรองผู้บัญชาการราชองครักษ์หานจิ้นหานจิ้นกวาดตามองทุกคน พบหยุนเจิงที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มคนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กล่าวเสียงสูง “หยุนเจิง เว่ยเหวินจง รับราชโองการ”หยุนเจิงและเว่ยเหวินจงก้าวออกมาข้างหน้า“ฝ่าบาทมีราชโองการ แม่ทัพใหญ่เจิ้นเป่ยเว่ยเหวินจงสนับสนุนจิ้งเป่ยอ๋องจัดการแปลกเปลี่ยนสามเมืองชายแดน...”สิ้นเสียงของหานจิ้น สีหน้าคนจำนวนไม่น้อยแสดงออกความดีใตให้เว่ยเหวินจงสนับสนุนหยุนเจิงจัดการเรื่องนี้ นั่นก็หมายความว่า ต้องหารให้หยุนเจิงเป็นคนตัดสินหลัก!ก่อนที่จะทำการแลกเปลี่ยนเสร็จสิ้น แม้แต่เว่ยเหวินจงก็ต้องฟังคำสั่งหยุนเจิง!ดีเลย!ดีมาก!คราวนี้ไม่ติ้งกังวลความห่วงหน้าพะวงหลังของเว่ยเหวินจงจะทำให้พลาดโอกาสดีที่จะนำดินแดนสามเมืองชายแดนกลับมาแล้ว!เว่ยเหวินจงก้มหน้าต่ำ สีหน้าดูยากที่สุดให้เขาสนับสนุนหยุนเจิงจัดการเรื่องนี้?นี่ไม่ใช่การตบหน้าเขาเว่ยเหวินจงหรือ?ความหมายคือ แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็คือดว่าเขาจะห่วงหน้าพะวงหลัง ทำให้พลาดโอกาสนำดินแดนสามเมืองชายแดนกลับมา?เขาก็แค่ก่อนทำสงครามระมัดระวังมากเกินไปหน่อยไม่ใช่หรือ?ฝ่าบาทล้วนคิดว่าเขาขี้ขลาด?เว่ยเห
“ฮ่าๆ น้องชายเมื่อกี้เจ้าไม่เห็น ตอนที่ไอเลวเว่ยเหวินจงฟังราชโองการ ทำเหมือนสติหลุดไปเลย!”“ไอเลวนี่อาศัยที่ตัวเองเป็นแม่ทัพใหญ่เจิ้นเป่ยสุนัขนั่น เผด็จการ คราวนี้ต้องยอมรับความพ่ายแพ้แล้วกระมัง?”“ข้าว่า เจ้าควรฉวยโอกาสนี้ มอบรางวัลโบยเขาสักสิบไม้ ทำลายบารมีของเขา...”ตอนออกมา ฉินชีหู่เรียกว่ามีความสุขมากหากคนไม่รู้ คงคิดว่าคนผู้นี้เก็บสมบัติมาได้!“อย่าพูดเลย พี่ใหญ่ฉินช่างสังเกตไม่เลว”หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง “แต่ว่า พวกเราไม่สามารถมอบรางวัลโบยสิบไม้กับเว่ยเหวินจงโดยไร้เหตุผลได้! มิฉะนั้น เสด็จพ่อจะปล่อยข้าไปก็แปลกแล้ว!”“มันก็จริง!”ฉินชีหู่ลูบคาง จากนั้นก็แสยะยิ้มกล่าว “ไม่มีโอกาสพวกเราก็หาโอกาส! กลับไปพวกเราหาวิธียั่วยุเจ้าเลวนั่น ขอแค่เจ้าเลวนั่นกล้าต่อปากต่อคำกับเจ้า เจ้าก็มอบรางวัลโบยเขาสิบไม้! ดูว่าต่อไปเจ้าเลวนั่นยังกล้าหาเรื่องเจ้าหรือไม่!”เมื่อได้ฟังคำของฉินชีหู่ หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะแอบยิ้มไม่กล้า?ไม่กล้าก็แปลกแล้ว!หากมอบรางวัลโบยสิบไม้กับเว่ยเหวินจงจริง เกรงว่าเว่ยเหวินจงคงแตกหักกับเขาแล้วทว่า จากสถาณการณ์ตรงหน้า เขาไม่กลัวแตกหักกับเว่ยเหวินจงแล้วเว่
เขาเป็นถึงแม่ทัพใหญ่เจิ้นเป่ย กลายเป็นเป้าหมายแห่งความอัปยศอดสูเมื่อใด?ต่อให้หลายวันก่อนที่ทำสงครามเขาระมัดระวังมากเกินไป อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้นำความสูญเสียใหญ่มาให้ต้าเฉียน?เพราะเรื่องนี้ ทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้?ตอนนี้ แม้แต่หยุนเจิงยังกล้าขี่ม้ามาตบหัวเขาแล้ว!เว่ยเหวินจงยิ่งคิดยิ่งโกรธแค้น ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกอึดอัดในใจเขารวมกับมีกองไฟสุมอยู่แต่ตอนนี้เขากลับไม่มีที่ให้ระบายเว่ยเหวินจงลุกขึ้นยืน เดินไปมาอยู่ภายในห้องไม่หยุด สีเต็มไปด้วยความขึงขังไม่ได้! จะเอาแต่นั่งรอความตายไม่ได้!หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ขวัญกำลังใจของกองทหารมณฑลทางเหนือต้องกลายเป็นของหยุนเจิงหมดแล้ว!เมื่อหยุนเจิงควบคุมกองทหารมณฑลทางเหนือได้ เขาเหลือแต่ทางไปตายเท่านั้น!ต่อให้หยุนเจิงไม่ฆ่าเขา ฝ่าบาทก็ไม่มีทางปล่อยเขาไป!จำเป็นต้องทำสิ่งใดสักอย่างแล้ว!จะดีมากหากทำให้หยุนเจิงตายในขณะปฏิบัติหน้าที่!อื้ม!แล้วก็ฉินชีหู่สารเลวนั่นด้วย!คนในกองทัพมากมายที่ไม่พอใจเขา ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับฉินชีหุ่!หนึ่งไม่ทำ สองไม่พัก!หยุนเจิงและฉินชีหู่ ล้วนต้องตายทั้งคู่!เมื่อมีความคิดเหล่านี้ ก็เหมือนถู
ความกังวลใจของหยุนเจิงเหมือนจะมากไปแล้วเว่ยเหวินจงไม่ได้ส่งคนลงมือกับเจียเหยาวันที่สอง ท้องฟ้าเพิ่งสว่าง กองทัพใหญ่ของพวกเขาออกเดินทางจากป้อมเมืองสุยหนิงครั้งนี้ ฉินชีหู่นำทหารม้าหนึ่งหมื่นเคลื่อนขบวน รอจนถึงทางสันดอกเป่ยหยวน บวกกับกองทัพประจำการสามหมื่นของสันดอนเป่ยหวน พร้อมด้วยคนและม้าสองพันคนที่หยุนเจิงพามา เดินทางเข้าสู่เมืองกู้พร้อมกันเมืองกู้เดิมเป็นคูเมืองที่ไม่ได้เข้มงวด เป็นเพียงป้อมปราการทางทหารเท่านั้นทหารสี่หมื่นคนเข้าสู้ชายแดนเมืองกู้ เพียงพอแล้วหลังจากได้รับการยืนยันแล้วว่าเป่ยหวนจะถอนทหารออกจากชายแดนเว่ยและชิง จากนั้นระดมพลจากด้านหลังไปรักษาการณ์ทั้งสองเมืองต้องขอบคุณที่พวกเขาล้วนเป็นทหารม้า พวกเขาเคลื่อนทัพอย่างรวดเร็วตอนบ่าย พวกเขาก็มาถึงสันดอนเป่ยหวนเวลานี้ กองทัพสามหมื่นที่ประจำการสันดอนเป่ยหวนถอยค่ายแล้ว สามารถตามพวกเขาข้ามสันดอนเป่ยได้ตลอดเวลาเว่ยซั่วได้ส่งคนไปสำรวจแล้ว กองทัพใหญ่เป่ยหวนถอนกำลังออกจากเมืองกู้แล้ว บริวเวณโดยรอบไม่มีทหารและม้าเป่ยหวนซุ่มตัวอยู่ทว่า เป่ยหวนเองก็ไม่ได้โง่ ไม่ได้เหลือเมืองกู้ที่สมบูรณ์ทิ้งไว้ให้พวกเขาเมืองกู้ตอนน
“ท่านแม่ทัพใหญ่!”เว่ยซั่วสีหน้าเปลี่ยนไป กัดฟัน “ข้าอยากเป็นพยานกับตาเช่นกัน...”“ไสหัวกลับไป!”เว่ยเหวินจงตัดบทเว่ยซั่วอย่างหยาบคาย จากนั้นก็คำราม “หากกล้าพูดมากอีก จะลงโทษฐานฝ่าฝืน!”เว่ยซั่วสะอึกเล็กน้อย กลืนคำพูดลงคอไปด้วยสีหน้าไม่เต็มใจเว่ยเหวินจงอ้างคำสั่งทหารแล้ว ต่อให้เว่ยซั่วไม่ยินยอม ก็ทำได้เพียงรับคำสั่งอย่างเชื่อฟังเว่ยซั่วจ้องหยุนเจิงและเว่ยเหวินจงด้วยสายตาโหดร้าย จากไปด้วยความโกรธเต็มอกเขาอยากเป็นพยานในการกอบกู้ดินแดนต้าเฉียนกลับมา!เรื่องนี้ ที่จริงแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีส่วนร่วมขอแค่แลกเปลี่ยนสามเมืองชายแดนกลับมาสำเร็จ ต่อให้พวกเขาไม่ทำสงครามกับเป่ยหวน จักรพรรดิดีใจ ทุกคนที่มีส่วนรวมในการกอบกู้ดินแดนอย่างน้อยก็ต้องได้รับรางวัลด้วยเว่ยเหวินจงขับไล่เขาไปตอนนี้ นั่นก็เป็นการตัดโอกาสได้รับรางวัลของเขาไม่ใช่หรือ?มองดูเว่ยซั่วจากไป หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะถากถางในใจหากไม่ใช่เว่ยเหวินจงไล่ไอเลวนี่ออกไปได้ทันเวลา เขาต้องหาโอกาสสั่งสอนเจ้าชั่วนี่สักรอบ“ท่านแม่ทัพใหญ่เว่ย สั่งให้กองทัพข้ามสันดอนเป่ยหยวนเถอะ!”หยุนเจิงออกคำสั่ง“ท่านอ๋องออกคำสั่งเถอะ!”
เสียงร้องตะโกนดังก้องภูเขาและทะเลดังต่อเนื่องในชั่วเวลาครึ่งก้านธูปแล้วค่อยๆ หยุดลงหยุนเจิงเรียกเว่ยเหวินจงและตู๋กูเช่อมา “สั่งให้กองทัพรีบตั้งค่ายพักแรม พรุ่งนี้ยังต้องแลกเปลี่ยนเชลยศึก ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาฉลอง!”“ใช่ๆ!”ตู๋กูเช่อตบหน้าผาก กล่าวด้วยความดีใจ “พวกท่านไปถ่ายทอดคำสั่ง ห้ามดีใจเกินไป!”“รอก่อน!”เว่ยเหวินจงเรียกตู๋กูเช่อเอาไว้ “พี่ตู๋กู วันนี้เมืองกู้ได้คืนกลับมาแล้ว ต่อไปเมืองเว่ยและเมืองชิงต้องส่งคนไปประจำการ ท่านและข้าต้องมีคนกลับไปติ้งเป่ย...”ต้องส่งกองทัพเข้าเมืองเว่ยและเมืองชิง ต้องปรับโยกย้ายคนจากที่อื่นก่อนปรับย้ายคนและม้าแล้ว แนวป้องกันด้านหลังต้องปรับกันใหม่เช่นกันรวมถึงเสบียงอาหารด้วย สั่งคนไปคุ้มกันส่งเสบียงมายังสามเมืองชายแดนแม้แต่สถานที่เก็บเสบียงอาหารยังต้องปรับเคลื่อนย้าย มิฉะนั้น แนวการจัดสรรด้านหลังก็จะยาวเกินไปเมื่อได้ฟังคำเว่ยเหวินจง ตู๋กูเช่ออดไม่ได้ที่จะพยักหน้า“ดูข้าสิ ดีใจมากเกินไปแล้ว ลืมเรื่องนี้หมดแล้ว”ตู๋กูเช่อตบหน้าผากตัวเองแล้วหัวเราะที่จริง กองทัพใหญ่เข้าสู่เมืองกู้เป็นเพียงก้าวแรกเรื่องข้างหลังยังมีมากมาย!ตู๋กูเช่อคร
อีกอย่าง จำเป็นต้องเสริมกำลังป้องกันไปในทิศทางของเทียนหู ป้องกันกองทัพเป่ยหวนข้ามแม่น้ำไป๋สุ่ยมาจู่โจม แล้วตอนนี้ซั่วฟางกลายเป็นสถานที่สำคัญในการป้องกันแล้วซั่วฟางวันนี้กลายเป็นตำแหน่งสำคัญปีกซ้ายของกองทหารมณฑลทางเหนือแต่ว่า พวกเว่ยเหวินจงยอมรับ ซั่วฟางมีทหารสองหมื่นคน บวกกับทหารชาวนาชราอ่อนแอเหล่านั้น แค่เฝ้าคุ้มกันซั่วฟางก็น่าจะเพียงพอแล้วด้วยเหตุนี้ จึงไม่ปรับย้ายกำลังจากซั่วฟาง แล้วก็ไม่ส่งกำลังทหารไปเพิ่มเช่นกันตอนที่กำลังสนทนากันเรื่องการจัดการซั่วฟาง เว่ยเหวินจงถามอีกครั้ง “ท่านอ๋อง ท่านเป็นแม่ทัพเฝ้าเมืองซั่วฟาง ท่านคิดว่าการจัดการเช่นนี้เป็นเช่นไร?”“ไม่มีปัญหา”หยุนเจิงพยักหน้าอย่างลวกๆตอนนี้พวกเว่ยเหวินจงยังไม่รู้ ทหารที่ทำศึกได้ของซั่วฟางความจริงมีสามหมื่นกว่าคนแล้วคนมากมายเฝ้ารักษาเมืองซั่วฟาง เพียงพอแล้ว!อีกทั้ง ตอนนี้ใกล้ฤดูใบไม้ผลิเข้ามาเรื่อยๆ แล้วชั้นน้ำแข็งของแม่น้ำไป๋สุ่ยเริ่มแยกตัวกันแล้วขอแค่ชั้นน้ำแข็งของแม่น้ำไป๋สุยบางลง คนและม้าไม่สามารถข้ามได้ ก็ไม่จำเป็นต้องคุ้มกันสถานที่สำคัญอย่างปากเขาเขี้ยวหมาป่าและหุบผาชันช่องลมแล้วเมื่อเห็นว่าหยุน
มีเรื่อง?หยุนเจิงมองเจียเหยาด้วยสายตาผิดปกติ“มีเรื่องใด?”เวลานี้แล้ว นางยังมีเรื่องใดเจรจากับเขา?เจียเหยา “พี่ใหญ่อู้เลี่ยของข้า เป็นองค์ชายใหญ่ของเป่ยหวน เขาตายที่หุบเขามรณะ”“จากนั้นเล่า?” หยุนเจิงถามด้วยความไม่เข้าใจ “เจ้าบอกข้าเรื่องนี้ด้วยเหตุใด? หรือว่า เจ้าต้องการตำหนิข้า อยากบอกว่าจะใช้ม้าฉีกร่างข้า แก้แค้นแทนพี่ใหญ่ของเจ้า?”ตายก็คือตาย!พี่ชายของนางตายแล้ว พ่อตาและท่านลุงของเขาก็ตายเช่นกัน!เขายังไม่คิดบัญชีนางเลย!หืม?รอเดี๋ยว!พ่อตากับท่านลุง?หยุนเจิงสะดุ้ง ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าเหตุใดเสิ่นลั่วเยี่ยนจึงร้องไห้แล้วที่แท้ เสิ่นลั่วเหยาคงถามเจียเหยาว่าพวกพี่ชายและท่านพ่อตายในสนามรบเช่นไรนอกจากเรื่องนี้แล้ว ดูเหมือนไม่มีเรื่องใดทำให้เสิ่นลั่วเยียนร้องไห้ได้แล้วมิน่าเล่าเมี่ยวอินจึงส่งสัญญาณบอกให้เขาอย่าถาม!เห้อ!เดิมทีล้วนเป็นเรื่องที่ผ่านไปนานหลายปีแล้ว เหตุใดจึงต้องถามอีกเล่า?ถามแล้ว มีแต่เสียใจยิ่งกว่าเดิมไม่ใช่หรือ?“ข้าไม่ได้น่าเบื่อเช่นนั้น”เจียเหยากล่าวเรียบๆ “บอกตามตรง ความสัมพันธ์ของข้ากับพี่ใหญ่ร่วมบิดาต่างมารดาไม่นับว่าดีนัก เขาตายในหุบเ