แชร์

บทที่ 481

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
ต้องบอกว่า ตู้กุยหยวนเป็นเครื่องวัดสภาพอากาศของมนุษย์ที่ค่อนข้างแม่นยำ

วันที่สองตอนเช้า ซั่วเป่ยเริ่มมีลมหนาวเสียดกระดูก

ลมหนาวพัดมาจากพื้นผ่านไป หมอกน้ำแข็งจำนวนมากจะม้วนตัวขึ้นมา

เงยหน้ามองไป บริเวณสิบห้าเมตรมองเห็นสิ่งใดไม่ชัดแล้ว

ลมนี้เมื่อพัดโดนใบหน้า รู้สึกเหมือนถูกคมมีดบาด

ทำเอาหยุนเจิงอยากจะเอาหมวกคลุมหน้าและเล่นบทผู้ก่อการร้าย

ยังดีที่คนจำนวนมากในกองทัพล้วนอยู่ที่ซั่วเป่ยเป็นเวลานาน คุ้นเคยกับลมหนาวเสียดกระดูกนี้แล้ว

แต่ว่า หยุนเจิงก็ยังคงสั่งให้คนแจกจ่ายผ้าออกไปจำนวนมาก

ไม่ใช่ทำพวกเสื้อผ้าให้พวกเขา เพียงแต่นำผ้าตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็ก เอาไว้ห่อหุ้มใบหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บจากแผลหนาวเป็นวงกว้าง

เวลาไม่นาน โหยวอีเย่วกลับมารายงาน

ทัพทหารม้าเป่ยหวนจำนวนมากรวมตัวกันที่หุบผาชันช่องลม

ดูจากท่าทาง เป่ยหวนอย่างเร็วที่สุดพรุ่งนี้ อย่างช้าที่สุดวันมะรืน ก็จะเริ่มบุก

เมื่อได้รับข่าวที่ยืนยันแล้ว หยุนเจิงสั่งกองทัพออกเคลื่อนไหว

ตอนนี้หากเร่งเดินทางไปที่หุบผาชันช่องลมเพื่อสร้างแนวป้องกัน ยังสามารถขุดโพรงหิมะเพื่อป้องกันหนาวได้ทันกาล มิฉะนั้น หลังผ่านพ้นกลางคืน คงมีจำนวนไม่น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 482

    ทุกคนไม่รู้หยุนเจิงคิดจะทำสิ่งใด แล้วก็ไม่กล้าถามมาก ทำได้เพียงพยักหน้าแล้วกล่าวขอบคุณ“เอาล่ะ ยามปกติพวกเขาทำเช่นไร ตอนนี้ก็ทำเช่นนั้น! ทำเหมือนพวกเราไม่ได้อยู่ที่นี่ก็พอแล้ว!”หยุนเจิงกำชับ จากนั้นก็สั่งอวี๋ซื่อจง “ส่งคนมาเฝ้าพวกเขาไว้ ขอแค่พวกเขาไม่ตุกติก ก็อย่าทำให้พวกเขาลำบาก!”“ขอรับ!”อวี๋ซื่อจงรับคำสั่ง จากนั้นก็กล่าวกับหยุนเจิง “ด้านนอกหนาว องค์ชายและพวกพระชายาคืนนี้ก็พักที่นี่เถอะ!”หยุนเจิงโบกมือ “เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องสนใจแล้ว ข้ามีแผนของข้า!”กล่าวจบ หยุนเจิงก็ออกไปจากป้อมเฝ้ายามหยุนเจิงไม่ได้พักอยู่ภายในป้องเฝ้ายามกลางคืน เขากับเสิ่นลั่วเยี่ยนและเมี่ยวอินนอนกันอยู่ภายในโพรงหิมะโพรงหิมะเล็กเพียงนิดเดียว สามคนนอนอยู่ด้วยกัน แม้จะอบอุ่น แต่จะพลิกตัวสักครั้งยังลำบาก“เจ้าจงใจ!”เสิ่นลั่วเยี่ยนหยิกหยุนเจิงด้วยความโมโห “นอนภายในป้อมเฝ้ายามได้แท้ๆ เจ้ากลับต้องมาอยู่โพรงน้ำแข็งนี่ให้ได้!”“เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล!”หยุนเจิงกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เจ้าก็เคยได้ยิน เจ้านายไร้เสื้อผ้า ร่วมใส่เสื้อผ้าของลูกน้อง...”“ข้าว่าเจ้าคิดจะร่วมเตียงกับลูกน้องมากกว่า?”เมี่ยวอินยิ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 483

    หลังเที่ยงคืน ท้องฟ้าเริ่มมีหิมะตกหนักข้างนอกหนาวมาก แต่ภายในโพรงหิมะนับว่าพอไปได้อยู่แม้จะไม่ถึงกับอบอุ่น แต่อย่างนั้นก็ยังสามารถหลับได้หยุนเจิงเองก็ต้องรู้สึกทอดถอนใจ การตัดสินใจให้ทหารนาของเขากินเนื้อเป็นความคิดที่ฉลาดมากพวกเขากินเนื้อแกะมากมาย และถลกหนังแกะจำนวนมากตอนนี้ หนังแกะเหล่านี้มีประโยชน์มากหากไม่มีหนังแกะห่อหุ้มร่างกาย คืนนี้คงไม่มีผู้ใดสามารถข่มตาหลับได้ตอนเช้า หยุนเจิงเดินออกจากโพรงหิมะด้านบนท้องฟ้า หิมะยังคงตกลงมาไม่หยุดเงยหน้าขึ้นไปมอง ระยะสิบห้าเมตรล้วนเห็นไม่ชัดแล้วหยุนเจิงสาปแช่งสภาพอากาศเลวร้ายของซั่วเป่ยในใจ อีกด้านนำคนไปยังด่านหน้าคนภายในด่านหน้ากำลังเผาน้ำแข็ง หยุนเจิงกำลังจะขอน้ำร้านเพื่อมาเทใส่อาหารแห้งจากพวกเขาสักชาม ในหูพลันได้ยินเสียง “กุบกับ กุบกับ” ดังขึ้นแม้ว่าลมหนาวจะคร่ำครวญ ทว่าเสียงนั้นยังคงชัดเจนนั่นคือเสียงกีบม้าที่กระทบกับน้ำแข็ง!ทัพทหารม้าเป่ยหวนเคลื่อนไหวแล้ว!หยุนเจิงพลันตัวสั่น ทิ้งอาหารแห้งในมือทันที กดเสียงต่ำเรียกเกาเหอ “ถ่ายทอดคำสั่งลงไป กองทัพทั้งหมดเตรียมพร้อม! เสียงกลองไม่ดัง ห้ามใครเคลื่อนไหวทั้งนั้น!”เกา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 484

    เดิมทีก่อนหน้านี้พวกเขารู้สึกกังวล กลัวว่าต้าเฉียนจะส่งคนจำนวนน้อยมาซุ่มโจมตีที่นี่ตอนนี้ พวกเขาไม่ต้องกังวลแล้ว!เวลานี้ ทัพหน้าส่งคนมารายงาน บอกว่าพวกเขาเจอกับการขัดขวางของชาวต้าเฉียน“มีม้าและคนเท่าใด?”ซู่ตูถามทันที“หลายสิบคน!”ทหารส่งสารตอบกลับ “พวกเขาโจมตีเราด้วยธนูและก้อนหิน ทำให้คนของเราบาดเจ็บและตายเป็นจำนวนเล็กน้อย”แล้วทันใดนั้นก็นึกขึ้นมาได้ “ต้องเป็นทหารยามของป้อมเฝ้ายาม”“จำนวนแค่หลายสิบคน ยังคิดจะขัดขวางการบุกของทหารม้าเป่ยหวนข้า?”ซู่ตูหัวเราะเหยียดหยาม จากนั้นก็ตะโกนสั่งลั่น “ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ไม่ต้องสนใจการขัดขวางของศัตรู ทั้งหมดเร่งเข้าไปในหุบผาชัน!”“ขอรับ!”ผู้ส่งสารไปถ่ายทอดทันทีซู่ตูบิดคอไปมา ตะโกนสุดเสียงใส่ทุกคนด้วยสีหน้าดุดัน “บุกเข้าไป! ข้ารอที่จะนำหัวใจของพวกเขามาใส่เหล้า!”“ขอรับ!”ทุกคนรอบกายของซู่ตูพากันร้องตะโกนออกมาทุกคนดูตื่นเต้นมากด้วยคำสั่งของซู่ตู ทัพทหารม้าเป่ยหวนยาวไร้ที่สิ้นสุดมุ่งตรงเข้าไปในหุบผาชันหุบผาชันสายนี้ทั้งยาวทั้งแคบ ส่วนที่กว้างที่สุดของหุบผาชันล้วนไม่เกินสิบจ้างส่วนที่แคบที่สุด อาจมีความกว้างเพียงยี่สิบสามสิบ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 485

    วินาทีนั้น ทางเข้าหุบผาชันเกิดไฟไหม้ลุกลามขณะเดียวกัน คนที่ซ่อนตัวแทรกซึมอยู่ด้านบนหุบผาชันเป็นเวลานานมาอยู่ที่ขอบหน้าผาแล้วตามมาด้วยฝนลูกธนู ทหารม้าเป่ยหวนภายในหุบผาชันวุ่นวายอลม่าน“มีการซุ่มโจมตี! ถอยเร็ว! ถอยเร็ว!”ซู่ตูชักดาบออกมาแล้วปัดลูกธนูที่โจมตีเข้ามา จากนั้นก็ร้องตะโกนจากนั้น ทหารม้าของเป่ยหวนเวลานี้วุ่นวายเละเทะเสียงตะโกนของซู่ตู จมอยู่ในเสียงกรีดร้องของผู้คนและเสียงร้องของม้าศึกมานานแล้ว“ถอย! ถอยเร็ว!”เย่ซู่เซียนก็ตะโกนร้องสุดเสียงขณะนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าทั้งสองคนหายไปนานแล้ว เหลือไว้เพียงความหวานกลัวและลนลายไม่มีสิ้นสุดมองดูฝนลูกธนูเต็มท้องฟ้าปลิดชีวิตทหารม้าเป่ยหวนอย่างต่อเนื่อง ตรงหน้าของทั้งสองคนมีแต่สีแดงภายในหุบผาชันเช่นนี้ กองทหารซุ่มโจมตีของต้าเฉียนอยู่ที่สูงโจมตีข้างล่าง ยึดครองความได้เปรียบของภูมิประเทศโดยสิ้นเชิง การโต้ตอบเล็กน้อยของพวกเขาแทบจะไม่เป็นผลเลยแล้วก็ยังไม่อาจออกจากหุบผาชันได้ ได้แค่รอกองทัพของเขาถูกทำลายสิ้นเท่านั้น!ขณะที่สองคนกำลังวิตกกันมาก นายกองทัพหลังพร้อมด้วยทหารม้าคุ้มกันสองสามคน บุกฝ่าฝนลูกธนูมาถึงข้างกายซู่ตู ร้องไห้กล

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 486

    “ห๊า?”องครักษ์คุ้มกันมองหยุนเจิงอย่างไม่มึนงง “องค์ชาย พวกเราใกล้ได้รับชัยชนะแล้ว ยังต้องการกำลังเสริมหรือ?”“กำลังเสริมพายลมสิ!”หยุนเจิงหัวเราะด้วยความโมโหเพราะคนโง่นี่ “เรียกพวกเขามาเก็บกวาดสนามรบ! ศพม้าศึกมากมายเช่นนี้ เจ้าแบกกลับไปหรือ?”องครักษ์คุ้มกันชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็พลันได้สติ รับคำสั่งด้วยความตื่นเต้นจริงด้วย!ศพม้าศึกมากมายเช่นนี้!เอาแต่จุดไฟเผาไม่ได้กระมัง?ศพม้าศึกเหล่านี้นำกลับไป ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าก็ไม่ขาดแคลนเนื้อแล้ว!ม้าหนึ่งตัว คุ้มค่ากว่าแกะหลายตัวมาก!การซุ่มโจมตีในหุบเขายังคงดำเนินต่อไปทหารม้าเป่ยหวนยังคงต่อต้านอย่างสิ้นหวังแต่คนที่ล้มลงก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ แรงการต่อต้านของพวกเขาก็น้อยลงเรื่อยๆ แล้ว!เปลวไฟตรงหน้าใกล้มอดแล้ว หยุนเจิงสั่งทันที “ตีกลอง!”“ตึงๆๆ...”เสียงกลองเร่งจังหวะดังขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกลอง ทหารต้าเฉียนแทบทนไม่ไหวพากันพรั่งพรูเข้าไปในหุบผาชัน“ลงม้า! ฆ่า!”หยุนเจิงชักดาบออกมา จิตสังหารพุ่งพล่านบุกเข้าไป“ฆ่า!”“ฆ่า!”“เหล่าพี่น้อง ถึงเวลาล้างแค้นแล้ว!”“ฆ่าชาวเป่ยหวนให้หมด!”อารมณ์ของทหารต้าเฉียนพุ่งสุดขีด แต่ละคนร้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 487

    ความอัปยศเมื่อห้าปีก่อนที่ประทับไว้อยู่ใจทหารชาวนาทหารชาวนาเหล่านี้ บอกได้ว่าทุกคนล้วนมีความแค้นกับเป่ยหวนวันนี้ ห้าปีผ่านไปในชั่วพริบตาในที่สุดพวกเขาก็ได้ชัยชนะครั้งใหญ่ล้างความอัปยศก่อนหน้านี้แล้วได้ฟังเสียงร้องแห่งความยินดีก้องไปทั้งหู ในใจของหยุนเจิงเกิดความรู้สึกกล้าหาญความสะอิดสะเอียนก่อนหน้านี้หายไปแล้วแทนที่ด้วยความภูมิใจและความดีใจวางแผนมาตั้งนาน ในที่สุดก็ได้รับชัยชนะแล้ว!ตอนที่หยุนเจิงกำลังทอดถอนใจ เสิ่นลั่วเยี่ยนก็ผาเข้ามาหาเขา กอดหยุนเจิงเอาไว้ ตะโกนร้องด้วยความตื่นเต้น “พวกเราชนะแล้ว! ข้าแก้แค้นให้พ่อและพี่ชายสองคนได้แล้ว...”เสิ่นลั่วเยี่ยนดีใจ ตะโกนร้องอย่างทนไม่ไหวแต่เวลาไม่นาน หยุนเจิงพบว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนผิดปกติหยุนเจิงผลักเสิ่นลั่วเยียนออกเบาๆ จึงพบว่าดวงตานางเต็มไปด้วยรอยน้ำตา“เอาล่ะ เลิกร้องแล้ว”หยุนเจิงยกมือที่เปื้อนเลือดชัดน้ำตาให้เสิ่นลั่วเยี่ยน “นี่เพิ่งถึงไหนเอง? เป็นเพียงชัยชนะสนามหนึ่ง ยังไม่เพียงพอต่อการปลอบโยนวิญญาณของพวกเขาที่อยู่บนฟ้าเลย!”“อื้ม!”เสิ่นลั่วเยี่ยนพยักหน้าหนักๆ กล่าวเสียงสั่น “ข้า...ข้าเชื่อเจ้า!”“ดีแล้ว เอาหิม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 488

    แม้พวกเขาจะวางตำแหน่งอยู่ด้านบนโจมตีด้านล่าง แต่ทหารม้าเป่ยหวันไม่สามารถยิงโดนพวกเขาได้ทั้งหมดถึงเช่นไรทหารม้าเป่ยหวนก็มีหนึ่งหมื่นหกพันคนเข้าสู่วงล้อมการซุ่มโจมตีแม้ว่าแมวตาบอดจะพบกับหนูที่ตายแล้วก็ตาม แต่บางคนก็ยังยิงธนูถูกทหารต้าเฉียนตอนที่เข้าไปกำจัดศัตรูที่เหลืออยู่ โดยพื้นฐานแล้วทหารทุกคนรวมตัวกันแบ่งเป็นขบวนการต่อสู้ขนาดเล็กเพื่อร่วมกันกำจัดศัตรูที่เหลืออยู่ การบาดเจ็บล้มตายมีน้อยมากจริงๆ“เช่นนี้เอง?”สีหน้าของหยุนเจิงดีขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ถาม “พวกเราฆ่าทหารศัตรูไปกี่คน?”พูดถึงการจับและสังหารศัตรูในสงครามครั้งนี้ อวี๋ซื่อจงเปลี่ยนเป็นดีใจอีกครั้งโดยพลันสงครามครั้งนี้ สังหารเป่ยหวนไปหนึ่งหมื่นห้าพันกว่าคน มีนักโทษถูกจับเจ็ดร้อยกว่าคนที่สำคัญคือทัพหลังเป่ยหวนบางส่วนยังไม่ได้เข้ามาในหุบผาชน คนเหล่านั้นล้วนหนีไปแล้วพวกเขายังสามารถยึดม้าสุภาพดีได้อีกหนึ่งพันตัว ม้าที่บาดเจ็บเล็กน้อยสามพันตัวแต่ว่า เพราะตอนที่พวกเขาซุ่มโจมตีด้วยฝนลูกธนูไม่เลือกหน้า ม้าศึกจำนวนมากแม้ยังไม่ตาย แต่ก็ยังถูกธนูยิงตามร่างกาย สามารถรักษาชีวิตรอดได้มีจำนวนน้อยอีกทั้ง ม้าศึกที่เจ็บสาหัสต

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 489

    เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่เชื่อคำพูดไร้สาระบอกว่าเป็นคนมีหลักคุณธรรมของงหยุนเจิง!สงครามแย่งชิงเจ้าตายข้าอยู่ มีผู้ใดกล่าวเรื่องคุณธรรม?หยุนเจิงยิ้มเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็ตอบ “ข้ากำลังคิดจะใช้ศพแลกกับม้าศึกเป่ยหวน”“แลกม้าศึก?”ทุกคนมองหยุนเจิงด้วยความตะลึงหยุนเจิงแกะสะเก็ดเลือดบนเส้นผม จากนั้นก็กล่าวเรียบๆ “พวกเราเองก็สูญเสียทหารห้าร้อยคน ข้ายังมีเมตตาและคุณธรรมส่งศพทหารม้าเป่ยหวนคืนให้เป่ยหวน เป่ยหวนไม่ควรชดเชยให้พวกเราหน่อยหรือ?”“……”เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง ทุกคนพากันทำหน้าเอือมระอาเมตตามีคุณธรรม?เกรงว่าเขาจะหลอกเป่ยหวนให้ตายกระมัง!“เจ้ารักษาหน้าตาหน่อยได้หรือไม่?”เสิ่นลั่วเยี่ยนยิ้มแล้วกล่าวสาปแช่ง “เป่ยหวนไม่เรียกร้องความเสียหายจากเจ้าก็ไม่เลวแล้ว เจ้ายังกล้าขอการชดเชยจากเป่ยหวน?”ความสูญเสียของเป่ยหวนเกือบหนึ่งหมื่นหกพันคน พวกเขากลับสูญเสียไม่ถึงห้าร้อยด้วยซ้ำเขายังไปหาเป่ยหวนเพื่อเรียกร้องความเสียหาย?เป่ยหวนให้เขา นั่นก็ผิดปกติแล้ว!“แน่นอนต้องชดเชย!”หยุนเจิงกล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจ “เป็นพวกเขาที่เริ่มสงคราม พวกเรามีสิทธิ์ใดไม่เอาการชดเชย? ปานปู้สุนัขนี่ยังติดค้า

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1410

    แต่ที่น่าเสียดายคือ เจียเหยาไม่ใช่สตรีแบบนั้น! ทุกความยินยอมและการประนีประนอมของเจียเหยาต่อเขาล้วนเกิดจากสถานการณ์บีบบังคับ เยี่ยจื่อย่อมชื่นชมเจียเหยาอย่างแน่นอน เรื่องนี้ไม่มีข้อสงสัยใดๆ แต่หากเจียเหยาเป็นสตรีที่หลงใหลในความรักอย่างเดียว เยี่ยจื่ออาจไม่รู้สึกชื่นชมนาง และคงไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ว่านางกับหยุนเจิงจะได้อยู่ด้วยกันหรือไม่ "ไม่แน่หรอก" เยี่ยจื่อยิ้มบาง "เรื่องของความรัก ไม่มีใครในโลกนี้สามารถอธิบายได้ชัดเจน! เช่นเดียวกับข้า ข้าไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งข้าจะไม่สนใจสายตาของผู้คนในแผ่นดิน และรักชายคนหนึ่งอย่างไม่ลังเล พร้อมทั้งให้กำเนิดบุตรธิดาแก่เขา..." "เรื่องของพวกเจ้ามันไม่เหมือนกัน" หยุนเจิงบีบเบาๆ ที่ตัวเยี่ยจื่อ "พอแล้ว อย่าคิดถึงเรื่องพวกนี้เลย! รีบลุกขึ้นเถิด ไม่เช่นนั้นพอคนในจวนมาเรียกเราไปกินข้าวเย็น เจ้าคงอายอีกแน่" "ก็เพราะเจ้านั่นแหละ!" เยี่ยจื่อเอ่ยตำหนิด้วยความอาย ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นและสวมเสื้อผ้า เมื่อเห็นเยี่ยจื่อสวมชุดชั้นใน หยุนเจิงก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาอีก "ยังมองอยู่อีกหรือ?" เยี่ยจื่อปรายตามองหยุนเจิงด้วยความเข

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1409

    เนื่องจากเยี่ยจื่อกำลังตั้งครรภ์ หยุนเจิงจึงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเกินไป อย่างไรก็ตาม พายุที่โหมกระหน่ำมีเสน่ห์ในแบบของมัน และสายฝนที่โปรยปรายก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ หลังจากหยุดยั้งความเร่าร้อน เยี่ยจื่อซบอยู่ในอ้อมอกของหยุนเจิงอย่างแมวน้อยเชื่องๆ "คืนนี้ข้าจะนอนที่ห้องของเจ้า" หยุนเจิงกอดร่างอ่อนนุ่มของเยี่ยจื่อไว้ ด้วยท่าทีที่ดูยังไม่พอใจ "อย่าเลย!" เยี่ยจื่อเอื้อมมือมาตบหน้าอกของหยุนเจิงเบาๆ "หากเจ้ามาอยู่ที่นี่ ข้าก็ต้องโดนเจ้ารังแกอีก หากเกิดอะไรขึ้นกับลูก เราคงร้องไห้ไม่ออก เจ้าไปห้องเมี่ยวอินเถิด!" จากนิสัยของหยุนเจิง ต่อให้ใช้ปลายเท้าคิด นางก็รู้ว่าเขาต้องรังแกนางอีกสักหนึ่งหรือสองรอบหากเขาอยู่ในห้องนี้ แม้ว่าช่วงตั้งครรภ์จะไม่ใช่ว่าจะใกล้ชิดกันไม่ได้ แต่ก็ไม่ควรทำบ่อยเกินไป "ลูกของข้าหยุนเจิง จะอ่อนแอขนาดนั้นได้อย่างไร?" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะวางมือลงบนหน้าท้องของเยี่ยจื่อโดยไม่รู้ตัว "เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีก!" เยี่ยจื่อเอ่ยตำหนิอย่างเขินอาย "เมื่อสองวันก่อน ลั่วเยี่ยนยังแอบมาบอกข้าเลยว่าเจ้าไปรังแกนางอีก จวนนี้มิใช่มีเพียงข้ากับลั่วเยี่ยนสองค

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1408

    ชุดนี่มันชั้นแล้วชั้นเล่า ถอดออกแต่ละครั้งช่างเสียเวลาเสียจริง หยุนเจิงบ่นในใจพลางจัดการอยู่นาน กว่าจะถอดอาภรณ์ออกหมด แล้วรีบก้าวลงไปในถังอาบน้ำขนาดใหญ่ด้วยความกระตือรือร้น "ดูท่าทางเจ้าสิ!" เยี่ยจื่อจ้องมองหยุนเจิงด้วยความเขินอาย พลางหัวเราะเบาๆ "หากคนอื่นมาเห็นเข้า คงคิดว่าเจ้าคือโจรขโมยดอกไม้จริงๆ!" "ต่อหน้าเจ้า ข้าก็เป็นโจรขโมยดอกไม้ดีๆ นี่เอง!" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง แล้วดึงเยี่ยจื่อเข้ามาในอ้อมกอด เกรงว่าเยี่ยจื่อจะหนาว หยุนเจิงจึงราดน้ำอุ่นลงบนตัวนาง แน่นอนว่า ระหว่างนี้มือเจ้าเล่ห์ของหยุนเจิงก็ไม่วายลวนลามบนตัวเยี่ยจื่อ เยี่ยจื่อปล่อยให้หยุนเจิงทำตามใจ พลางยื่นนิ้วเรียวขาวลูบไล้รอยแผลเป็นที่เอวของเขา นางจำได้ว่ารอยแผลนี้เกิดขึ้นจากศึกที่หยุนเจิงสังหารฮูเจี๋ยฉานอวี่ นั่นน่าจะเป็นการบาดเจ็บที่หนักที่สุดของหยุนเจิงนับตั้งแต่คุมทัพมา โชคดีที่เป็นเพียงบาดแผล ไม่ได้ถึงแก่ชีวิต ตอนนี้บาดแผลนั้นสมานแล้ว แต่รอยแผลเป็นยังคงปรากฏอย่างชัดเจน "ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นแบบนี้ตลอดไป" เยี่ยจื่อก้มหน้าพลางพึมพำ "หากวันใดเจ้ามิได้เป็นเช่นนี้ คงเพราะเราชราและห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1407

    หลังจากส่งสาวรับใช้หน้าประตูไปแล้ว หยุนเจิงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที ก่อนจะผลักประตูเข้าไป "อิงเถา ข้าเหมือนจะได้ยินเสียงใครผลักประตูเข้ามา" เสียงของเยี่ยจื่อดังมาจากหลังฉากกั้น "บ่าวก็เหมือนจะได้ยินเหมือนกัน บ่าวจะไปดูเจ้าค่ะ" อิงเถาตอบรับแล้วรีบวิ่งออกมาจากหลังฉากกั้น นางเพิ่งจะออกมาก็เห็นหยุนเจิงยืนอยู่ในห้อง เมื่อแน่ใจว่าไม่ใช่คนอื่นที่บังอาจบุกรุกเข้ามา อิงเถาถึงได้คลายความกังวลก่อนจะรีบคำนับ แต่ก่อนที่อิงเถาจะทันได้พูดอะไร หยุนเจิงก็ทำท่าทางให้เงียบ และโบกมือเบาๆ ส่งสัญญาณให้อิงเถาออกไป ดูเหมือนอิงเถาจะเดาได้ว่าหยุนเจิงตั้งใจจะทำอะไร ใบหน้าของนางพลันขึ้นสีแดงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว หยุนเจิงปิดกลอนประตูจากด้านใน แล้วค่อยๆ ย่องไปทางหลังฉากกั้น "อิงเถา มีคนผลักประตูหรือไม่?" เยี่ยจื่อเอ่ยถาม ความคิดซุกซนของหยุนเจิงเริ่มเล่นงาน เดิมทีเขาตั้งใจจะจู่โจมเยี่ยจื่ออย่างไม่ให้ทันตั้งตัว แต่คิดได้ว่านางกำลังตั้งครรภ์ เกรงว่าจะทำให้นางตกใจจนเกิดเรื่องไม่คาดคิด จึงเอ่ยขึ้นว่า "มีสิ มีโจรขโมยดอกไม้คนหนึ่ง" เมื่อได้ยิน เยี่ยจื่อหน้าถ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1406

    หยุนเจิงกลับมาจากโรงงานผลิตอาวุธ เพียงแค่เดินมาถึงหน้าจวนอ๋อง ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกวุ่นวายดังมาจากในจวน พอเข้าไปในจวนตามคาด เขาเห็นเหล่าเด็กซนกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานอยู่ในลานหน้า ลูกชายสองคนกับลูกสาวหนึ่งคนของฉินชีหู่ รวมถึงลูกชายของอดีตรัชทายาท มาที่จวน และกำลังเล่นปาหิมะกับเสิ่นเนี่ยนฉือและฉีเหยียน เด็กๆ เหล่านั้นต่างสวมเสื้อผ้าหนาเตอะเหมือนหมี แม้จะล้มลงบนพื้นหิมะก็ไม่รู้สึกเจ็บ “คารวะฝ่าบาท!” เมื่อเห็นหยุนเจิงกลับมา อาจารย์ที่คอยดูแลเด็กๆ รีบเข้ามาคารวะ “พอเถอะ ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอยู่ในจวนไม่ต้องเคร่งขนาดนั้น” หยุนเจิงโบกมือพลางถามว่า “พี่สะใภ้ตระกูลฉินมาที่นี่แล้วหรือ?” “เจ้าค่ะ” ซินเซิงยิ้มบางๆ ขณะช่วยปัดหิมะออกจากเสื้อหยุนเจิง พลางตอบว่า “ช่วงบ่ายฮูหยินฉินก็มากับเด็กๆ ตอนนี้คงเล่นไพ่นกกระจอกกับเหล่าพระชายาอยู่” หยุนเจิงว่า “เช่นนั้นข้าไปดูสักหน่อย เจ้าเฝ้าเด็กๆ ไว้ อย่าให้พวกเขาเล่นจนเหงื่อออกมากนัก” “บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ” ซินเซิงพยักหน้าเบาๆ หยุนเจิงมองดูเด็กซนที่กำลังเล่นอย่างบ้าคลั่ง และครุ่นคิดในใจว่าจะให้พวกเขาทำ “การบ้านช่วงปิดเทอม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1405

    ตลอดสองวันที่ผ่านมา เจียเหยาเจรจากับกุ่ยฟางอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าข้อเสนอจากกุ่ยฟางจะเกินกว่าเงื่อนไขขั้นต่ำที่เจียเหยากำหนดไว้ในใจแล้ว แต่นางยังไม่พอใจ นางต้องการต่อรองเพื่อให้ได้ทรัพยากรมากขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดีกว่า จุดที่ยังคงเจรจากันไม่ลงตัวอยู่ที่ค่าชดเชยจากสงครามและจำนวนบรรณาการ กุ่ยฟางแสดงเจตนาอย่างชัดเจน หากต้องการค่าชดเชยเพิ่ม จำนวนบรรณาการจะต้องลดลง แต่ในเรื่องจำนวนบรรณาการ เจียเหยาไม่ยอมอ่อนข้อเลย ในที่สุด กุ่ยฟางจำต้องยอมรับข้อกำหนดของเจียเหยาในการถวายบรรณาการตามจำนวนที่นางระบุ ส่วนค่าชดเชยที่กุ่ยฟางสามารถมอบให้ได้ เมื่อคำนวณแล้วอยู่ที่ประมาณร้อยละสี่สิบห้าของข้อเรียกร้องเริ่มต้นของเจียเหยา ผลลัพธ์นี้แม้ไม่ใช่สิ่งที่นางคาดหวังไว้ แต่ก็ดีกว่าที่เจียเหยาประเมินไว้ไม่น้อย เมื่อการเจรจาสิ้นสุด เจียเหยาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจ ด้วยทรัพยากรเหล่านี้ ประชาชนแห่งเป่ยหวนจะผ่านฤดูหนาวนี้ไปได้อย่างไม่ลำบากนัก “องค์หญิง เหตุใดท่านจึงไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องบรรณาการ?” เกออาซูถามด้วยความไม่เข้าใจ “หากเรายอมลดเงื่อนไขเรื่องบรรณาการ เราก็จะได้สิ่งอื่นเพ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1404

    ทว่า สำหรับเจียเหยาในตอนนี้ นี่อาจไม่ใช่เรื่องดีนัก เมื่อผู้ที่เข้าร่วมเจรจาจากกุ่ยฟางมีหลายคน ความเห็นของพวกเขาอาจไม่ตรงกัน การดึงกลยุทธ์นี้อาจทำให้เสียเวลาเพิ่มขึ้น เจียเหยารู้สึกกังวลในใจ แต่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย “ท่านทูตเชิญนั่งก่อน ข้ามีเรื่องสำคัญต้องจัดการเสียก่อน!” กล่าวจบ เจียเหยาก็ก้มหน้าก้มตาเขียนจดหมายต่อ แต่ความคิดของเจียเหยาในตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่จดหมายอีกแล้ว นางดูเหมือนกำลังเขียนจดหมาย แต่แท้จริงแล้วกำลังกดดันอาเคอถูและคณะ นางรู้ว่าชื่อเหยียนต้องมอบอำนาจในการเจรจาบางส่วนให้แก่อาเคอถูและคณะ สิ่งที่นางต้องทำคือการกดดันคณะทูตกุ่ยฟางเพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากยิ่งขึ้น การกระทำของเจียเหยาส่งผลอย่างชัดเจน เมื่อเห็นว่าเจียเหยาดูเหมือนไม่ได้รีบร้อนเจรจาเลย สมาชิกในคณะทูตกุ่ยฟางก็เริ่มมองตากันไปมา สุดท้าย สายตาของทุกคนต่างหันไปที่มู่ลี่จวี เห็นได้ชัดว่ามู่ลี่จวีเป็นผู้คุมการเจรจาครั้งนี้ มู่ลี่จวีรู้สึกโกรธกับความเย็นชาของเจียเหยา แต่เขารู้ดีว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์แสดงความไม่พอใจต่อหน้านาง ชื่อเหยียนมอบอำนาจให้เขาตัดสินใจในบางเรื่องได้จริง แต่ใ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1403

    เจียเหยาตัดสินใจหยุดการเคลื่อนทัพต่อ กองทหารของพวกนางถูกส่งออกไปกวาดต้อนทรัพยากร ดินแดนที่พวกนางเข้ายึดครองในตอนนี้เกินกว่าห้าร้อยลี้ไปนานแล้ว แต่เจียเหยาตั้งใจเพียงให้ทัวฮวนและกองทหารยึดครองดินแดนของกุ่ยฟางเพียงสามร้อยลี้ตามเงื่อนไขขั้นต่ำของหยุนเจิงเท่านั้น การยึดครองดินแดนมากกว่านี้ ไม่เพียงเพื่อกวาดต้อนทรัพยากรและกดดันชื่อเหยียน แต่ยังเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในเจรจา ท้ายที่สุด หากนางยอมคืนดินแดนบางส่วนให้ชื่อเหยียน ชื่อเหยียนก็จะไม่สามารถเรียกร้องเงื่อนไขอื่นได้อย่างเข้มงวดนัก ดังที่เจียเหยากล่าวไว้ นางกับหยุนเจิงเป็นคนประเภทเดียวกัน และในตอนนี้ ชื่อเหยียนก็ดูคล้ายกับสถานการณ์ของนางเมื่อก่อนที่ถูกหยุนเจิงกดดันจนถึงทางตัน เพราะเหตุนี้ เจียเหยาจึงเข้าใจจิตใจของชื่อเหยียนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เจียเหยาเคยคิดอยากเป็นผู้พิฆาตมังกร แต่สุดท้ายนางกลับกลายเป็นมังกรร้ายเสียเอง สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เจียเหยาจะได้รับคำตอบจากชื่อเหยียน นางกลับได้รับข่าวจากหยุนเจิงผ่านเหยี่ยวขาว “รีบกลับมา ก่อนสิ้นปีมาพบข้าที่ติ้งเป่ย” ข้อความจากหยุนเจิงสั้นมาก เมื่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1402

    “ตกลง เช่นนั้นข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าอีกครั้ง!” เจียเหยากล่าวพลางค่อยๆ ลุกขึ้นยืน กุ่ยฟางต้องยอมสวามิภักดิ์และถวายบรรณาการอย่างแน่นอน แต่จำนวนบรรณาการต้องเพิ่มขึ้นอีกร้อยละห้าสิบพร้อมกันนี้ กุ่ยฟางต้องเปิดการค้าเสรีกับต้าเฉียนและเป่ยหวน นอกจากนี้ กุ่ยฟางต้องชดเชยความเสียหายที่เป่ยหวนและต้าเฉียนได้รับจากศึกครั้งนี้ โดยจ่ายชดเชยเป็นทองคำ 100,000 ตำลึง แกะ 100,000 ตัว วัว 30,000 ตัว ม้า 10,000 ตัว และเสบียงอาหาร 4 ล้านตัน และเพื่อเป็นการตอบแทน เจียเหยาจะไม่เรียกร้องให้กุ่ยฟางยกดินแดน 500 ลี้ แต่ลดลงเหลือเพียง 300 ลี้เท่านั้น! ส่วนข้อที่ให้กุ่ยฟางถวายหญิงงาม 100 คนแก่ต้าเฉียนนั้น เจียเหยาได้ยกเว้นให้โดยตรง สำหรับเงื่อนไขปลีกย่อยอื่นๆ เจียเหยาก็ยอมรับตามที่กุ่ยฟางเสนอมา เมื่อได้ยินเงื่อนไขของเจียเหยา อาเคอถูรู้สึกราวกับสมองของตนกำลังอื้ออึง การเพิ่มบรรณาการขึ้นร้อยละห้าสิบยังพอว่า แต่เจียเหยากลับเรียกร้องให้กุ่ยฟางจ่ายค่าชดเชยจำนวนมหาศาลในคราวเดียว? อย่าว่าแต่ปศุสัตว์และเสบียงเลย เพียงแค่ทองคำ 100,000 ตำลึง กุ่ยฟางก็แทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว ทองคำ 100,000 ตำลึง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status