สถานการณ์ข้างนอกทำให้เสิ่นลั่วเยี่ยนสะท้านใจเสิ่นลั่วเยี่ยนวิ่งออกไปถึงก็พบว่าหยวนกุยกำลังคุกเข่าขอร้องอยู่บนพื้น“เกิดอะไรขึ้น?”เสิ่นลั่วเยี่ยนเดินเข้าไปถามอย่างสงสัย“จะอะไรได้อีก?”หยุนเจิงมองหยวนกุยด้วยสีหน้าสุขุม “เดิมข้ายังคิดจะสลับม้าของเขากลับไป แต่เขากลับกล้าพูดว่ามีใจต่อพระชายาของข้าต่อหน้าข้า!”อะไรนะ?สีหน้าของเสิ่นลั่วเยี่ยนเปลี่ยนไปเกือบจะเตะเท้าออกไปแล้วไอ้ระยำ!บ้าไปแล้วหรือไงกัน!ตนไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับเขาอยู่แล้ว!แต่เขายังกล้าพูดว่ามีใจกับตนต่อหน้าหยุนเจิงอีก?ถึงแม้หยุนเจิงจะไร้ประโยชน์อย่างไร เขาก็เป็นถึงองค์ชายเชียวนะ!มีความคิดต่อพระชายาองค์ชาย เขามีศีรษะกี่อันกัน!หากเรื่องนี้ถูกเผยออกไป ไม่แน่คนอื่นคงจะคิดว่าตนมีความสัมพันธ์อะไรกับเขาจริงๆ แน่!เขาไม่รู้จักความตาย ก็อย่าทำให้ตระกูลเสิ่นพลอยลำบากไปด้วย!“ข้า…ข้าเพียงแค่พูดผิดเท่านั้น ขอองค์ชายทรงเมตตาด้วย!”หยวนกุยร้องขออีกครั้ง แล้วส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังเสิ่นลั่วเยี่ยนเสิ่นลั่วเยี่ยนจ้องหยวนกุยตาเขม็งอย่างไม่พอใจ แล้วหันไปขอโอกาสกับหยุนเจิงให้กับเขา “คนคนนี้ไร้สมอง ชอบพูดจาเหลวไหล
“ยืนยันความบริสุทธิ์ จะยืนยันความบริสุทธิ์อย่างไร?”หยวนฉงตะคอกเสียงดุอย่างเกรี้ยวโกรธ “เพราะเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทยังทุบตีเหล่าองค์ชายคนอื่นๆ ต่อหน้าทุกคนด้วย! แต่เหล่าองค์ชายต่างก็ไม่ยอมรับว่าเป็นฝีมือของพวกเขา ฝ่าบาททรงส่งคนให้ไปสืบเรื่องนี้มานานก็ไม่อาจหาคนที่อยู่เบื้องหลังได้จริงๆ บัดนี้มีเขาโผล่หัวมาเช่นนี้ก็เท่ากับเป็นตัวตายตัวแทนแล้ว!”หยวนกุยจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทันทีที่เรื่องนี้ใหญ่โตขึ้น แม้แต่เหล่าองค์ชายคนอื่นๆ ก็ต้องตกบ่อถ่วงน้ำด้วยเช่นกัน!เพื่อขจัดความสงสัยในตนเอง พวกเขาจะต้องโยนความผิดทุกอย่างให้กับหยวนกุยไม่ว่าด้วยวิธีใด!เมื่อหยวนฉงพูดเช่นนี้ ฮูหยินหยวนพลันตื่นตระหนกอย่างสมบูรณ์พลางเอ่ยสะอึกสะอื้นว่า “แล้วควรทำอย่างไรดี? นายท่าน ท่านต้องคิดหาวิธีช่วยกุยเออร์นะ! ฮือๆ…”“ร้องไห้รู้จักร้องไห้เป็นอย่างเดียว!”หยวนฉงตะคอกด้วยความโกรธ แล้วเตะเรือนร่างของหยวนกุยแรงๆ “รีบลุกขึ้นไปหาองค์ชายสามกับข้า ให้ท่านคิดหาวิธีช่วยไอ้ระยำอย่างเจ้า!”เมื่อเข้าใจความคดเคี้ยวของเรื่องนี้ หยวนกุยยิ่งตกใจจนสติหลุดรีบลุกขึ้นในทันใด เพียงแค่จัดระเบียบอาภรณ์ของตนง่ายๆ แล้วเดินทางไปจวน
หยุนเจิงซื้อปิ่นปักผมหยกอันสวยงามให้กับเสิ่นลั่วเยี่ยนเพียงแต่ปิ่นปักผมธรรมดาๆ แต่ราคากลับแพงมาก ทำเขาเสียหายไปห้าร้อยตำลึงแถมยังเป็นราคาที่เถ้าแก่ร้านหยกรู้ว่าเขาเป็นองค์ชายหก ไม่กล้าเรียกราคามั่วซั่วด้วยมิเช่นนั้น ราคาของปิ่นปักผมหยกนี่อย่างน้อยคงต้องหนึ่งพันกว่าตำลึงเป็นแน่แต่ทว่าหยุนเจิงไม่รู้สึกเสียดายเพราะอย่างไรไม่นานหยวนกุยผู้ถูกใส่ร้ายนั่นก็ต้องส่งเหรียญเงินมาให้กับตนแล้วพาเสิ่นลั่วเยี่ยนออกมาซื้อปิ่นปักผมหยก ไม่เพียงไม่ขาดทุน แต่ยังได้กำไรอย่างมากด้วย!ก็ดีเหมือนกัน!ตอนเที่ยงวัน เสิ่นลั่วเยี่ยนขอตามหยุนเจิงไปที่จวนของเขาอย่างคาดไม่ถึง หยุนเจิงเกือบจะคิดว่าแม่นางคนนี้ถูกปิ่นปักผมหยกที่ตนซื้อมัดใจเข้าแล้วสุดท้ายเมื่อมาถึงจวร เสิ่นลั่วเยี่ยนพลันเล่าเรื่องหยวนกุยให้กับเยี่ยจื่อฟังราวกับวางแผนจะให้เยี่ยจื่อพูดร้องขอแทนหยวนกุยด้วยกัน“เจ้าโง่หรือไงกัน?”เยี่ยจื่อดีดกะโหลกของเสิ่นลั่วเยี่ยนอย่างไม่พอใจ “หยวนกุยเป็นอะไรกับเจ้า องค์ชายหกเป็นอะไรกับเจ้า? เหตุใดเจ้าถึงต้องพูดแทนหยวนกุยด้วย?”“ไม่ใช่…”เสิ่นลั่วเยี่ยนชะงักงันเอ่ยอย่างหมดหนทาง “ข้าเห็นว่าท่านกับหยวนกุ
“หยวนกุย…โง่จริง!”เยี่ยจื่อพยักหน้าอย่างเห็นด้วยหากไม่โง่จะยืนหัวเราะชอบใจอยู่ข้างๆ ตอนองค์ชายตกม้ารึ?หากไม่โง่จะคิดสลับม้ากลับไปนั้นรึ?หากสามารถสลับกลับไปได้ เขาคงจูงม้าไปสลับคืนตั้งนานแล้ว!“ไม่รู้จริงๆ ว่าคนโง่เขลาเพียงนี้เป็นนายกองทหารม้าได้อย่างไร”หยุนเจิงบ่นแล้วปั้นหน้ายิ้มร้ายให้กับเยี่ยจื่อพลางกล่าวว่า “จริงสิ ข้ายังมีเรื่องสำคัญมากๆ จะบอกเจ้า”“ดูท่าแล้วคงจะไม่ใช่เรื่องดี!” เยี่ยจื่อมองเขาอย่างสงสัย “เรื่องอะไร?”“เรื่องดี เรื่องดีจริงๆ!”หยุนเจิงยิ้มฮี่ๆ มองซ้ายมองขวาแล้วกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “วันนี้ข้าไปจวนเสิ่นมา แม่ยายลากข้าไปคุยตามลำพังอยู่นาน แถมให้ข้าคิดดีๆ เรื่องรับเจ้าเป็นพระชายารองด้วย…”เยี่ยจื่อได้ยินดังนั้นสีหน้าพลันเปลี่ยนในบัดดลรับนางเป็นพระชายารอง?คนชั่วลามกคนนี้นับวันยิ่งไปกันใหญ่แล้ว!นอกจากอุบัติเหตุไม่คาดคิดเมื่อคราวก่อน แต่ก่อนเขาก็เพียงหยอกล้อนางเล็กน้อยเท่านั้นบัดนี้กลับกล้าพูดว่าจะรับตนเป็นพระชายารองต่อหน้า?เยี่ยจื่อโกรธจนหายใจถดถี่ จ้องหยุนเจิงด้วยแววตาลุกเป็นไฟพลางกัดฟันกรอบ “หากท่านยังพูดจาเหลวไหลอีก เชื่อไหมว่าข้าจะกลับบ
“การมาเยี่ยมเยือนของพี่สามทำให้บ้านที่เรียบง่ายกลายเป็นบ้านที่เปล่งประกายจริงๆ!”หยุนเจิงเดินออกมาก้าวเท้าไปตรงหน้าหยุนลี่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“น้องหก เจ้าจะเกรงใจข้าทำไมกัน!”หยุนลี่หัวเราะเหอะๆ “น้องหก ข้าเองก็ไม่อ้อมค้อมละ พี่สามกับหยวนกุยรู้จักเป็นการส่วนตัวค่อนข้างสนิท เห็นแก่พี่สามคนนี้ปล่อยหยวนกุยไปสักครั้งเถอะ! เจ้าดูสิ พ่อเขาตีเขาจนเป็นสภาพนี้แล้ว”ระหว่างพูดหยุนลี่พลางชี้ไปที่ใบหน้าบวมเป๋งเขียวช้ำของหยวนกุยที่ยืนอยู่ข้างๆหยวนฉงลงมือหนักจริงๆที่สำคัญคือครั้งนี้ไม่ลงมือหนักไม่ได้จริงๆเมื่อได้ยินคำพูดของหยุนลี่แล้ว หยุนเจิงพลันเผยสีหน้าไม่พอใจออกมา “พี่สาม ท่านปดข้า!”“หา?”หยุนลี่มึนงงกับคำพูดของเขาที่เอ่ยขึ้นกะทันหัน “น้องหก เจ้าหมายความว่าอย่างไร? พี่สามฟังไม่รู้ความ”“ตอนที่ท่านขอโทษข้าเมื่อไม่กี่วันก่อน ท่านบอกเองไม่ใช่หรือว่าต่อไปหามีผู้ใดรังแกข้า ท่านจะออกหน้าแทนข้า!” หยุนเจิงมองหยุนลี่ด้วยท่าทีโมโห “ตอนนี้หยวนกุยเผยแพร่ข่าวลือทั่วเมือง มีใจหวังให้ข้าตาย ท่านไม่เพียงไม่ออกหน้าแทนข้า แต่ยังย้อนกลับไปช่วยหยวนกุยอีก!”“ข้า…”หยุนลี่ชะงักเล็กน้อย ไม่รู้จะพูดอะไร
ขณะนี้ หัวใจของหยวนกุยราวกับมีฝูงแกะวิ่งผ่านเขาขอให้หยุนลี่มาช่วยพูดให้เขา!แต่หยุนลี่กลับทุบตีเขา?หยวนกุยโมโหสุดขีด ทว่ากลับไม่กล้าขัดแย้ง ทำได้เพียงยอมให้หยุนลี่รัวหมัดใส่เห็นหยวนกุยที่ถูกต่อยจนหมดสภาพแล้ว หยุนเจิงแอบยิ้มอย่างอดไม่ได้อยู่กับหยุนลี่ต้องเจอหมัดสามวันเก้าครั้ง+หยุนลี่ต้องการให้หยุนเจิงหายโกรธจึงลงมือหนักเป็นพิเศษหยวนกุยถูกต่อยจนจมูกและปากเปื้อนเลือดแทบจะเป็นลมล้มไปจนถึงบัดนี้เยี่ยจื่อถึงจะวิ่งออกมาทันเวลาพอดี “องค์ชายทั้งสองเกิดอะไรขึ้น?”“พี่จื่อเออร์ ช่วย…ช่วยข้าด้วย!”หยวนกุยเหมือนเห็นนางฟ้ามาโปรดพลางร้องขอความช่วยเหลือด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิดเยี่ยจื่อแอบหัวเราะในใจ ทว่าก็รีบขอความเห็นใจกับหยุนเจิงทันที “องค์ชายหก ขอร้องล่ะให้องค์ชายสามหยุดเถอะ หากตีต่อไปหยวนกุยจะตายเอา…”“ตายก็ช่างหัวมัน!” หยุนเจิงกล่าวอย่างกรุ่นโกรธ “ใครบอกให้เขาจงใจทำร้ายข้า แถมยังกล้ามีความคิดอยากครอบครองพระชายาองค์ชายอีก!”“องค์ชายหกใจเย็นๆ!” เยี่ยจื่อพูดจาแทนหยวนกุยต่อไป “หยวนกุยเป็นคนบ้าบิ่น พูดไม่ผ่านมันสมอง เขาไม่มีความคิดร้ายใดๆ หรอก…”หยุนเจิงแสร้งทำเหมือนโต้เถียงกับเย
เรือนหลังตำหนัก หยุนลี่คอยเค้นถามหยุนเจิงเกี่ยวกับเรื่องที่จักรพรรดิเหวินพูดกับเขาทว่าถามไปถามมาหยุนเจิงยังคงตอบคำเดียวว่าเสด็จพ่อไม่ให้ข้าพูด!หยุนลี่แทบจะอกแตกตายแล้ว แต่กลับระเบิดออกมาไม่ได้ ทำได้เพียงสาบานต่อหยุนเจิงว่าตนจะไม่แพร่งพรายออกมาแน่นอนหยุนเจิงก้มหน้าแอบเบะปากเล็กน้อยข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะแพร่งพรายออกไปหรือไม่!สิ่งที่ข้าต้องการคือผลประโยชน์!เจ้าไม่แม้แต่จะนำผลประโยชน์ออกมาเลย คิดจะมามือเปล่ากับตนที่นี่หรือ?“น้องหก เจ้าไม่เชื่อใจพี่สามเพียงนี้เชียวหรือ?”หยุนลี่กล่าว “เจ้าลองคิดดู หากพี่สามพูดออกไปแล้วจะมีผลดีอะไรต่อพี่? พี่หักหลังเจ้าตอนนี้มีผลดีต่อพี่นั้นหรือ?”“ท่านมีผลดีหรือไม่ข้าไม่รู้ แต่ข้าไม่มีผลดีแน่นอน!” หยุนเจิงกล่าวคลุมเครือ ทว่าในใจกลับกำลังด่าคนโง่เขานี่อยู่ข้าพูดขนาดนี้แล้ว!หากเจ้ายังไม่นำผลประโยชน์ออกมาอีก ข้าจะไม่เสียเวลากับเจ้าอีกต่อไปแล้ว!ผลดี?หัวใจของหยุนเจิงกระเพื่อมรีบเอ่ยขึ้น “เจ้าต้องมีผลดีอยู่แล้ว!”“ข้ามีผลดีอะไรกัน?”ในที่สุดหยุนเจิงก็เงยหน้าขึ้น “หากเสด็จพ่อถือโทษขึ้นมา พี่สามจะมารับโทษแทนข้านั้นรึ? เสด็จพ่อกำชับข้าหนัก
“อ้อ”หยุนเจิงแค่นเสียงออกไปเสียงหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อหยุนลี่แอบด่าว่าสารเลวในใจแล้วเริ่มโกหกพูดกล่อมหยุนเจิงหยุนเจิงเสียเวลากับเขาอยู่พักหนึ่งถึงจะแสดงออกว่าเชื่อคำพูดของเขา“เช่นนั้นเรื่องหยวนกุยก็ช่างมันเถอะนะ?”หยุนลี่ใช้โอกาสนี้กล่าว “หยวนกุยไม่กล้าหรอก! น่าจะเป็นฝีมือของปานปู้นั่นแหละ”หยุนเจิงครุ่นคิดแล้วพยักหน้ากล่าวว่า “เช่นนั้นครั้งนี้ข้าจะเห็นแก่พี่สาม แต่พี่สามต้องบอกหยวนกุยนะว่าห้ามคิดถึงลั่วเยี่ยนอีก”“เขายังจะกล้าอีก!”หยุนลี่ทุบอกยืนยันว่า “หากเขายังคิดถึงพระชายาองค์ชายหกอีก เจ้าไม่จำเป็นต้องปริปากพูด พี่สามจะจัดการเขาให้เอง!”“อืม ขอบพระทัยพี่สาม”หยุนเจิงพยักหน้าทั้งสองพูดคุยกันในห้องหนังสืออีกพักหนึ่งถึงได้ออกมาเมื่อเห็นหยุนเจิงส่งสายตาให้กับตน เยี่ยจื่อถึงรีบเข้าไปขอโอกาสแทนหยวนกุยหยุนลี่ได้ยินดังนั้นจึงรีบกล่าวว่า “เอาเถอะ เจ้าไม่ต้อง…”“ช่างมันเถอะ เอาเช่นนี้แล้วกัน!”หยุนเจิงพูดแทรกหยุนลี่ แล้วกล่าวกับหยวนกุยว่า “ข้าเห็นแก่พี่สามและพี่สะใภ้ข้า ครั้งนี้ข้าจะไม่เอาเรื่อง”หยวนกุยราวกับได้รับการนิรโทษกรรมพลางรีบกล่าวขอบคุณ พร้อมทั้งมอบสิ่ง