แชร์

บทที่ 198

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
ม้าตัวนั้นคือม้าของเขา!

ตอนที่ม้านั่นถูกหยุนเจิงสลับไป เขาเจ็บปวดอยู่นาน

วันนี้ในเมื่อพบเจอกันแล้ว อย่างไรก็ต้องสลับคืนมาให้ได้!

เมื่อได้ยินคำพูดของหยวนกุยแล้ว หยุนเจิงไม่ชอบใจในทันใด

ไอ้คนนี้ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยจริงๆ!

ตนยังไม่ทันมีความคิดจะเอาเปรียบเขา เขากลับคิดจะสลับม้าคืนไปนั้นรึ?

เนื้อที่ตนกลืนลงท้องแล้วยังจะคืนเขาอีกหรือ?

คิดอะไรอยู่!

“ในเมื่อสลับไปแล้วย่อมต้องสลับคืนมาอยู่แล้ว”

หยุนเจิงพยักหน้าอย่างจริงจัง

“ขอบพระทัยองค์ชาย!”

หยวนกุยดีใจสุดขีด

สำหรับเขาการที่สามารถสลับม้าตัวนี้กลับมาได้นั้นถือเป็นการปลอบโยนอย่างหนึ่ง

“นี่เป็นสิ่งที่ควร”

หยุนเจิงท่าทางอ่อนโยน แล้วกล่าวต่อเสิ่นลั่วเยี่ยนว่า “เจ้าไปดูว่ามีของที่ชอบหรือไม่ ข้าไปสลับม้ากับหยวนกุยครู่หนึ่ง”

เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่อยากยุ่งเรื่องเละเทะระหว่างพวกเขาอยู่แล้วจึงแยกตัวไปเลือกเครื่องหยก

หลังจากแยกตัวเสิ่นลั่วเยี่ยนออกไปได้ หยุนเจิงพลันพาหยวนกุยออกจากร้านขายหยก

ขณะที่หยุนเจิงกำลังจะเริ่มเอาเปรียบหยวนกุย จู่ๆ ก็นึกบางอย่างขึ้นได้จึงเอ่ยถามในบัดดล “ที่จวนเสิ่นเมื่อคราวก่อน ข้าได้ยินว่าเจ้ามีความสัมพันธ์เป็นญาติกับพ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 199

    สถานการณ์ข้างนอกทำให้เสิ่นลั่วเยี่ยนสะท้านใจเสิ่นลั่วเยี่ยนวิ่งออกไปถึงก็พบว่าหยวนกุยกำลังคุกเข่าขอร้องอยู่บนพื้น“เกิดอะไรขึ้น?”เสิ่นลั่วเยี่ยนเดินเข้าไปถามอย่างสงสัย“จะอะไรได้อีก?”หยุนเจิงมองหยวนกุยด้วยสีหน้าสุขุม “เดิมข้ายังคิดจะสลับม้าของเขากลับไป แต่เขากลับกล้าพูดว่ามีใจต่อพระชายาของข้าต่อหน้าข้า!”อะไรนะ?สีหน้าของเสิ่นลั่วเยี่ยนเปลี่ยนไปเกือบจะเตะเท้าออกไปแล้วไอ้ระยำ!บ้าไปแล้วหรือไงกัน!ตนไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับเขาอยู่แล้ว!แต่เขายังกล้าพูดว่ามีใจกับตนต่อหน้าหยุนเจิงอีก?ถึงแม้หยุนเจิงจะไร้ประโยชน์อย่างไร เขาก็เป็นถึงองค์ชายเชียวนะ!มีความคิดต่อพระชายาองค์ชาย เขามีศีรษะกี่อันกัน!หากเรื่องนี้ถูกเผยออกไป ไม่แน่คนอื่นคงจะคิดว่าตนมีความสัมพันธ์อะไรกับเขาจริงๆ แน่!เขาไม่รู้จักความตาย ก็อย่าทำให้ตระกูลเสิ่นพลอยลำบากไปด้วย!“ข้า…ข้าเพียงแค่พูดผิดเท่านั้น ขอองค์ชายทรงเมตตาด้วย!”หยวนกุยร้องขออีกครั้ง แล้วส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังเสิ่นลั่วเยี่ยนเสิ่นลั่วเยี่ยนจ้องหยวนกุยตาเขม็งอย่างไม่พอใจ แล้วหันไปขอโอกาสกับหยุนเจิงให้กับเขา “คนคนนี้ไร้สมอง ชอบพูดจาเหลวไหล

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 200

    “ยืนยันความบริสุทธิ์ จะยืนยันความบริสุทธิ์อย่างไร?”หยวนฉงตะคอกเสียงดุอย่างเกรี้ยวโกรธ “เพราะเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทยังทุบตีเหล่าองค์ชายคนอื่นๆ ต่อหน้าทุกคนด้วย! แต่เหล่าองค์ชายต่างก็ไม่ยอมรับว่าเป็นฝีมือของพวกเขา ฝ่าบาททรงส่งคนให้ไปสืบเรื่องนี้มานานก็ไม่อาจหาคนที่อยู่เบื้องหลังได้จริงๆ บัดนี้มีเขาโผล่หัวมาเช่นนี้ก็เท่ากับเป็นตัวตายตัวแทนแล้ว!”หยวนกุยจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทันทีที่เรื่องนี้ใหญ่โตขึ้น แม้แต่เหล่าองค์ชายคนอื่นๆ ก็ต้องตกบ่อถ่วงน้ำด้วยเช่นกัน!เพื่อขจัดความสงสัยในตนเอง พวกเขาจะต้องโยนความผิดทุกอย่างให้กับหยวนกุยไม่ว่าด้วยวิธีใด!เมื่อหยวนฉงพูดเช่นนี้ ฮูหยินหยวนพลันตื่นตระหนกอย่างสมบูรณ์พลางเอ่ยสะอึกสะอื้นว่า “แล้วควรทำอย่างไรดี? นายท่าน ท่านต้องคิดหาวิธีช่วยกุยเออร์นะ! ฮือๆ…”“ร้องไห้รู้จักร้องไห้เป็นอย่างเดียว!”หยวนฉงตะคอกด้วยความโกรธ แล้วเตะเรือนร่างของหยวนกุยแรงๆ “รีบลุกขึ้นไปหาองค์ชายสามกับข้า ให้ท่านคิดหาวิธีช่วยไอ้ระยำอย่างเจ้า!”เมื่อเข้าใจความคดเคี้ยวของเรื่องนี้ หยวนกุยยิ่งตกใจจนสติหลุดรีบลุกขึ้นในทันใด เพียงแค่จัดระเบียบอาภรณ์ของตนง่ายๆ แล้วเดินทางไปจวน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 201

    หยุนเจิงซื้อปิ่นปักผมหยกอันสวยงามให้กับเสิ่นลั่วเยี่ยนเพียงแต่ปิ่นปักผมธรรมดาๆ แต่ราคากลับแพงมาก ทำเขาเสียหายไปห้าร้อยตำลึงแถมยังเป็นราคาที่เถ้าแก่ร้านหยกรู้ว่าเขาเป็นองค์ชายหก ไม่กล้าเรียกราคามั่วซั่วด้วยมิเช่นนั้น ราคาของปิ่นปักผมหยกนี่อย่างน้อยคงต้องหนึ่งพันกว่าตำลึงเป็นแน่แต่ทว่าหยุนเจิงไม่รู้สึกเสียดายเพราะอย่างไรไม่นานหยวนกุยผู้ถูกใส่ร้ายนั่นก็ต้องส่งเหรียญเงินมาให้กับตนแล้วพาเสิ่นลั่วเยี่ยนออกมาซื้อปิ่นปักผมหยก ไม่เพียงไม่ขาดทุน แต่ยังได้กำไรอย่างมากด้วย!ก็ดีเหมือนกัน!ตอนเที่ยงวัน เสิ่นลั่วเยี่ยนขอตามหยุนเจิงไปที่จวนของเขาอย่างคาดไม่ถึง หยุนเจิงเกือบจะคิดว่าแม่นางคนนี้ถูกปิ่นปักผมหยกที่ตนซื้อมัดใจเข้าแล้วสุดท้ายเมื่อมาถึงจวร เสิ่นลั่วเยี่ยนพลันเล่าเรื่องหยวนกุยให้กับเยี่ยจื่อฟังราวกับวางแผนจะให้เยี่ยจื่อพูดร้องขอแทนหยวนกุยด้วยกัน“เจ้าโง่หรือไงกัน?”เยี่ยจื่อดีดกะโหลกของเสิ่นลั่วเยี่ยนอย่างไม่พอใจ “หยวนกุยเป็นอะไรกับเจ้า องค์ชายหกเป็นอะไรกับเจ้า? เหตุใดเจ้าถึงต้องพูดแทนหยวนกุยด้วย?”“ไม่ใช่…”เสิ่นลั่วเยี่ยนชะงักงันเอ่ยอย่างหมดหนทาง “ข้าเห็นว่าท่านกับหยวนกุ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 202

    “หยวนกุย…โง่จริง!”เยี่ยจื่อพยักหน้าอย่างเห็นด้วยหากไม่โง่จะยืนหัวเราะชอบใจอยู่ข้างๆ ตอนองค์ชายตกม้ารึ?หากไม่โง่จะคิดสลับม้ากลับไปนั้นรึ?หากสามารถสลับกลับไปได้ เขาคงจูงม้าไปสลับคืนตั้งนานแล้ว!“ไม่รู้จริงๆ ว่าคนโง่เขลาเพียงนี้เป็นนายกองทหารม้าได้อย่างไร”หยุนเจิงบ่นแล้วปั้นหน้ายิ้มร้ายให้กับเยี่ยจื่อพลางกล่าวว่า “จริงสิ ข้ายังมีเรื่องสำคัญมากๆ จะบอกเจ้า”“ดูท่าแล้วคงจะไม่ใช่เรื่องดี!” เยี่ยจื่อมองเขาอย่างสงสัย “เรื่องอะไร?”“เรื่องดี เรื่องดีจริงๆ!”หยุนเจิงยิ้มฮี่ๆ มองซ้ายมองขวาแล้วกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “วันนี้ข้าไปจวนเสิ่นมา แม่ยายลากข้าไปคุยตามลำพังอยู่นาน แถมให้ข้าคิดดีๆ เรื่องรับเจ้าเป็นพระชายารองด้วย…”เยี่ยจื่อได้ยินดังนั้นสีหน้าพลันเปลี่ยนในบัดดลรับนางเป็นพระชายารอง?คนชั่วลามกคนนี้นับวันยิ่งไปกันใหญ่แล้ว!นอกจากอุบัติเหตุไม่คาดคิดเมื่อคราวก่อน แต่ก่อนเขาก็เพียงหยอกล้อนางเล็กน้อยเท่านั้นบัดนี้กลับกล้าพูดว่าจะรับตนเป็นพระชายารองต่อหน้า?เยี่ยจื่อโกรธจนหายใจถดถี่ จ้องหยุนเจิงด้วยแววตาลุกเป็นไฟพลางกัดฟันกรอบ “หากท่านยังพูดจาเหลวไหลอีก เชื่อไหมว่าข้าจะกลับบ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 203

    “การมาเยี่ยมเยือนของพี่สามทำให้บ้านที่เรียบง่ายกลายเป็นบ้านที่เปล่งประกายจริงๆ!”หยุนเจิงเดินออกมาก้าวเท้าไปตรงหน้าหยุนลี่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“น้องหก เจ้าจะเกรงใจข้าทำไมกัน!”หยุนลี่หัวเราะเหอะๆ “น้องหก ข้าเองก็ไม่อ้อมค้อมละ พี่สามกับหยวนกุยรู้จักเป็นการส่วนตัวค่อนข้างสนิท เห็นแก่พี่สามคนนี้ปล่อยหยวนกุยไปสักครั้งเถอะ! เจ้าดูสิ พ่อเขาตีเขาจนเป็นสภาพนี้แล้ว”ระหว่างพูดหยุนลี่พลางชี้ไปที่ใบหน้าบวมเป๋งเขียวช้ำของหยวนกุยที่ยืนอยู่ข้างๆหยวนฉงลงมือหนักจริงๆที่สำคัญคือครั้งนี้ไม่ลงมือหนักไม่ได้จริงๆเมื่อได้ยินคำพูดของหยุนลี่แล้ว หยุนเจิงพลันเผยสีหน้าไม่พอใจออกมา “พี่สาม ท่านปดข้า!”“หา?”หยุนลี่มึนงงกับคำพูดของเขาที่เอ่ยขึ้นกะทันหัน “น้องหก เจ้าหมายความว่าอย่างไร? พี่สามฟังไม่รู้ความ”“ตอนที่ท่านขอโทษข้าเมื่อไม่กี่วันก่อน ท่านบอกเองไม่ใช่หรือว่าต่อไปหามีผู้ใดรังแกข้า ท่านจะออกหน้าแทนข้า!” หยุนเจิงมองหยุนลี่ด้วยท่าทีโมโห “ตอนนี้หยวนกุยเผยแพร่ข่าวลือทั่วเมือง มีใจหวังให้ข้าตาย ท่านไม่เพียงไม่ออกหน้าแทนข้า แต่ยังย้อนกลับไปช่วยหยวนกุยอีก!”“ข้า…”หยุนลี่ชะงักเล็กน้อย ไม่รู้จะพูดอะไร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 204

    ขณะนี้ หัวใจของหยวนกุยราวกับมีฝูงแกะวิ่งผ่านเขาขอให้หยุนลี่มาช่วยพูดให้เขา!แต่หยุนลี่กลับทุบตีเขา?หยวนกุยโมโหสุดขีด ทว่ากลับไม่กล้าขัดแย้ง ทำได้เพียงยอมให้หยุนลี่รัวหมัดใส่เห็นหยวนกุยที่ถูกต่อยจนหมดสภาพแล้ว หยุนเจิงแอบยิ้มอย่างอดไม่ได้อยู่กับหยุนลี่ต้องเจอหมัดสามวันเก้าครั้ง+หยุนลี่ต้องการให้หยุนเจิงหายโกรธจึงลงมือหนักเป็นพิเศษหยวนกุยถูกต่อยจนจมูกและปากเปื้อนเลือดแทบจะเป็นลมล้มไปจนถึงบัดนี้เยี่ยจื่อถึงจะวิ่งออกมาทันเวลาพอดี “องค์ชายทั้งสองเกิดอะไรขึ้น?”“พี่จื่อเออร์ ช่วย…ช่วยข้าด้วย!”หยวนกุยเหมือนเห็นนางฟ้ามาโปรดพลางร้องขอความช่วยเหลือด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิดเยี่ยจื่อแอบหัวเราะในใจ ทว่าก็รีบขอความเห็นใจกับหยุนเจิงทันที “องค์ชายหก ขอร้องล่ะให้องค์ชายสามหยุดเถอะ หากตีต่อไปหยวนกุยจะตายเอา…”“ตายก็ช่างหัวมัน!” หยุนเจิงกล่าวอย่างกรุ่นโกรธ “ใครบอกให้เขาจงใจทำร้ายข้า แถมยังกล้ามีความคิดอยากครอบครองพระชายาองค์ชายอีก!”“องค์ชายหกใจเย็นๆ!” เยี่ยจื่อพูดจาแทนหยวนกุยต่อไป “หยวนกุยเป็นคนบ้าบิ่น พูดไม่ผ่านมันสมอง เขาไม่มีความคิดร้ายใดๆ หรอก…”หยุนเจิงแสร้งทำเหมือนโต้เถียงกับเย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 205

    เรือนหลังตำหนัก หยุนลี่คอยเค้นถามหยุนเจิงเกี่ยวกับเรื่องที่จักรพรรดิเหวินพูดกับเขาทว่าถามไปถามมาหยุนเจิงยังคงตอบคำเดียวว่าเสด็จพ่อไม่ให้ข้าพูด!หยุนลี่แทบจะอกแตกตายแล้ว แต่กลับระเบิดออกมาไม่ได้ ทำได้เพียงสาบานต่อหยุนเจิงว่าตนจะไม่แพร่งพรายออกมาแน่นอนหยุนเจิงก้มหน้าแอบเบะปากเล็กน้อยข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะแพร่งพรายออกไปหรือไม่!สิ่งที่ข้าต้องการคือผลประโยชน์!เจ้าไม่แม้แต่จะนำผลประโยชน์ออกมาเลย คิดจะมามือเปล่ากับตนที่นี่หรือ?“น้องหก เจ้าไม่เชื่อใจพี่สามเพียงนี้เชียวหรือ?”หยุนลี่กล่าว “เจ้าลองคิดดู หากพี่สามพูดออกไปแล้วจะมีผลดีอะไรต่อพี่? พี่หักหลังเจ้าตอนนี้มีผลดีต่อพี่นั้นหรือ?”“ท่านมีผลดีหรือไม่ข้าไม่รู้ แต่ข้าไม่มีผลดีแน่นอน!” หยุนเจิงกล่าวคลุมเครือ ทว่าในใจกลับกำลังด่าคนโง่เขานี่อยู่ข้าพูดขนาดนี้แล้ว!หากเจ้ายังไม่นำผลประโยชน์ออกมาอีก ข้าจะไม่เสียเวลากับเจ้าอีกต่อไปแล้ว!ผลดี?หัวใจของหยุนเจิงกระเพื่อมรีบเอ่ยขึ้น “เจ้าต้องมีผลดีอยู่แล้ว!”“ข้ามีผลดีอะไรกัน?”ในที่สุดหยุนเจิงก็เงยหน้าขึ้น “หากเสด็จพ่อถือโทษขึ้นมา พี่สามจะมารับโทษแทนข้านั้นรึ? เสด็จพ่อกำชับข้าหนัก

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 206

    “อ้อ”หยุนเจิงแค่นเสียงออกไปเสียงหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อหยุนลี่แอบด่าว่าสารเลวในใจแล้วเริ่มโกหกพูดกล่อมหยุนเจิงหยุนเจิงเสียเวลากับเขาอยู่พักหนึ่งถึงจะแสดงออกว่าเชื่อคำพูดของเขา“เช่นนั้นเรื่องหยวนกุยก็ช่างมันเถอะนะ?”หยุนลี่ใช้โอกาสนี้กล่าว “หยวนกุยไม่กล้าหรอก! น่าจะเป็นฝีมือของปานปู้นั่นแหละ”หยุนเจิงครุ่นคิดแล้วพยักหน้ากล่าวว่า “เช่นนั้นครั้งนี้ข้าจะเห็นแก่พี่สาม แต่พี่สามต้องบอกหยวนกุยนะว่าห้ามคิดถึงลั่วเยี่ยนอีก”“เขายังจะกล้าอีก!”หยุนลี่ทุบอกยืนยันว่า “หากเขายังคิดถึงพระชายาองค์ชายหกอีก เจ้าไม่จำเป็นต้องปริปากพูด พี่สามจะจัดการเขาให้เอง!”“อืม ขอบพระทัยพี่สาม”หยุนเจิงพยักหน้าทั้งสองพูดคุยกันในห้องหนังสืออีกพักหนึ่งถึงได้ออกมาเมื่อเห็นหยุนเจิงส่งสายตาให้กับตน เยี่ยจื่อถึงรีบเข้าไปขอโอกาสแทนหยวนกุยหยุนลี่ได้ยินดังนั้นจึงรีบกล่าวว่า “เอาเถอะ เจ้าไม่ต้อง…”“ช่างมันเถอะ เอาเช่นนี้แล้วกัน!”หยุนเจิงพูดแทรกหยุนลี่ แล้วกล่าวกับหยวนกุยว่า “ข้าเห็นแก่พี่สามและพี่สะใภ้ข้า ครั้งนี้ข้าจะไม่เอาเรื่อง”หยวนกุยราวกับได้รับการนิรโทษกรรมพลางรีบกล่าวขอบคุณ พร้อมทั้งมอบสิ่ง

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1506

    "พวกเจ้าลำบากกันมากจริงๆ!" หยุนเจิงกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น พลางหยุดบทสนทนาของสองพี่น้อง ทำให้หัวใจของเขารู้สึกอุ่นวาบ เสิ่นลั่วเยี่ยนยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดขึ้น "ฝ่าบาท รีบไปดูเจ้าหนูน้อยของพวกเราเถิด..." ในระหว่างที่เสิ่นลั่วเยี่ยนพูด ฮูหยินเสิ่นก็อุ้มเด็กน้อยเข้ามาส่งให้หยุนเจิง หยุนเจิงยื่นมือออกไปโดยไม่รู้ตัว เพื่อจะรับเด็กมาอุ้ม แต่เมื่อมือยื่นออกไปแล้ว กลับชะงักค้างอยู่ตรงนั้น เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มอุ้มอย่างไรดี ในฐานะคนเป็นพ่อครั้งแรก เขาทั้งตื่นเต้นและประหม่า แม้แต่การอุ้มลูกก็กลัวว่าจะทำผิดวิธี และทำให้เด็กที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้รับบาดเจ็บ เมื่อเห็นท่าทางลำบากใจของหยุนเจิง ทุกคนรอบข้างก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ "ไม่เป็นไร!" ฮูหยินเสิ่นสังเกตเห็นความกังวลของหยุนเจิง จึงพูดปลอบพร้อมกับยื่นเด็กน้อยส่งให้เขา "เด็กไม่ได้เปราะบางอย่างที่เจ้าคิด อุ้มแบบข้านี่ก็พอแล้ว..." "โอ้ ได้ๆ..." หยุนเจิงมองดูท่าทางการอุ้มของฮูหยินเสิ่นอย่างละเอียด ก่อนจะรับเด็กมาด้วยความระมัดระวัง เขาอุ้มเด็กไว้ในอ้อมแขนด้วยความตื่นเต้นและความสงสัย พลางก้มหน้ามองลูกของตัวเอง บอกตาม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1505

    วันถัดมา หยุนเจิงและเจียเหยาก็นำคนเดินทางออกไป หยุนเจิงเร่งรีบที่จะกลับเมืองติ้งเป่ย จึงพาเพียงกองทหารองครักษ์ 200 นายเท่านั้น ปล่อยกองทัพส่วนใหญ่ที่เหลือไว้เบื้องหลัง ขบวนเดินทางด้วยความรวดเร็ว มุ่งหน้ากลับติ้งเป่ยอย่างเร่งด่วน พวกเขาเพิ่งผ่านด่านเป่ยลู่มาได้ไม่นาน ก็พบผู้ส่งสารจากติ้งเป่ยที่เดินทางมารายงานข่าว "ขอรายงานฝ่าบาท พระชายาอ๋องประสูติเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ พระโอรสและพระชายาปลอดภัยดี!" ผู้ส่งสารรายงานด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หยุนเจิงถึงกับชะงักเล็กน้อย เสิ่นลั่วเยี่ยนคลอดแล้ว? เจ้าหนูน้อยนี่ รีบร้อนจะเกิดเสียจริง! ทั้งที่ตนเองเร่งรีบกลับมาแทบตาย แต่สุดท้ายก็ไม่ทันช่วงเวลาที่ลูกคนแรกของตนเกิด คิดได้เช่นนี้ หยุนเจิงก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เมื่อคิดว่าทั้งเสิ่นลั่วเยี่ยนและลูกปลอดภัยดี หินหนักในใจของหยุนเจิงก็เหมือนถูกยกออกไป "ยินดีกับฝ่าบาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ!" เหล่ากองทหารองครักษ์พากันกล่าวแสดงความยินดีต่อหยุนเจิง เสิ่นลั่วเยี่ยนให้กำเนิดรัชทายาทแล้ว หมายความว่าอ๋องติ้งเป่ยมีทายาทสืบทอดแล้ว! พูดแบบไม่เกรงใจ หากหยุนเจิงเกิดเหตุ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1504

    "คำพูดเช่นนี้ หากตอบกลับไม่ดี อาจจบลงด้วยการถูกส่งตัวเข้าคุก เมื่อเห็นลู่เตี้ยนถูกกดดันจนพูดไม่ออก ขุนนางฝ่ายขวาผู้ปรึกษาพระราชกิจรีบลุกขึ้นกล่าว “ฝ่าบาท ราชสำนักมีบทกฎหมายของราชสำนัก พวกเราทั้งหลายล้วนเป็นขุนนางราชสำนัก หากไม่มีความผิด แม้แต่ฝ่าบาทยังไม่มีสิทธิ์บังคับให้พวกเราทั้งหลายออกแรงงานเช่นนี้ ฝ่าบาททรงปฏิบัติกับพวกเราทั้งหลายเช่นนี้ ย่อมเป็นการละเมิดบทกฎหมายของราชสำนัก” ไม่เสียชื่อขุนนางผู้ปรึกษาฝ่ายขวา ที่เปิดปากก็หยิบยกบทกฎหมายราชสำนักขึ้นมาอ้าง นี่คือกลยุทธ์ที่พวกขุนนางผู้มีหน้าที่ชี้แนะมักใช้อยู่เสมอ กฎหมายราชสำนักอยู่ที่นั่นหยุนเจิงยังไม่มีอำนาจแก้ไขกฎหมายราชสำนักได้ แม้เขาจะเป็นผู้บัญชาการเขตซั่วเป่ย และมีกฎหมายเฉพาะของตนเอง แต่กฎหมายของเขาก็ใช้ได้แค่ในเขตซั่วเป่ย ยิ่งไปกว่านั้น เขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือยังไม่ขึ้นกับเขตซั่วเป่ย “ข้าพูดแล้วว่า พวกเจ้าไม่ได้มีความผิด และข้าก็ไม่ได้จะให้พวกเจ้าไปออกแรงงาน นี่เรียกว่าการสัมผัสความทุกข์ยากของราษฎรต่างหาก!” หยุนเจิงมองชายคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา “เมื่อไม่นานมานี้ เสด็จพ่อของข้าเสด็จมายังซั่วเป่ย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1503

    เมื่อได้ยินคำกล่าวแบบ “นักปราชญ์” ของหยุนเจิง ทุกคนถึงกับหันไปมองหน้ากันด้วยความงุนงง พวกเขาเข้าใจความหมายตามตัวอักษรของคำพูดนี้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่หยุนเจิงต้องการสื่อจริงๆ คืออะไร? ทุกข์ทนจิตใจ เหน็ดเหนื่อยกายา อดอยากเนื้อหนัง? หลังนิ่งอึ้งไปนาน ในที่สุดลู่เตี้ยนก็รวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้นว่า “โปรดให้อภัยที่ข้าน้อยโง่เขลา ไม่ทราบฝ่าบาทหมายความว่าอย่างไร?” “ยังไม่เข้าใจอีกหรือ?” หยุนเจิงยิ้ม “ที่ชายแดนชิงนั้น ข้ามีเหมืองสำหรับเก็บรวบรวมถ่านหินร่วนแห่งหนึ่ง ข้าตั้งใจจะให้พวกท่านไปสัมผัสถึงความทุกข์ยากของราษฎรก่อน เพื่อที่เมื่อถึงเขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือ จะได้สามารถรับผิดชอบภารกิจที่เสด็จพ่อมอบหมายให้ได้อย่างดียิ่งขึ้น” เมื่อคำพูดของหยุนเจิงจบลง ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนสีไปตามกัน เหมือง...เหมืองถ่านหิน? หยุนเจิงถึงกับต้องการให้พวกเขาไปทำงานเก็บถ่านหินในเหมือง? บ้าหรือเปล่า? คนเหล่านี้ต่ำสุดก็เป็นขุนนางตำแหน่งห้าขั้นล่างสุด แต่กลับให้พวกเขาไปทำงานเหมือง? นี่คิดจะใช้พวกเขาเป็นแรงงานเช่นนั้นหรือ? ในชั่วพริบตา ความหวาดกลัวและความโกรธผุดขึ้นในใจของทุ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1502

    "เมื่อได้ยินพวกเขาแนะนำตัวทีละคนๆ หยุนเจิงก็เอ่ยในใจว่าดีจริงๆ!แต่ละคนล้วนมีตำแหน่งในราชสำนักไม่น้อยเลย ต่ำสุดยังเป็นขุนนางตำแหน่งขั้นห้า ยิ่งไปกว่านั้น คนเหล่านี้ยังไม่ถือว่าแก่เลย อนาคตยังมีพื้นที่ให้ไต่เต้าขึ้นอีกมาก สำหรับหยุนเจิง นี่นับว่าเป็นของขวัญอันล้ำค่ามาก! ล้ำค่ายิ่งกว่าของขวัญที่เขาได้รับในวันแต่งงานเสียอีก! นี่สิถึงจะเรียกได้ว่าเป็นของขวัญแต่งงานที่แท้จริง! เมื่อทุกคนแนะนำตัวเสร็จ หยุนเจิงก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นกล่าวว่า “พระชายาอ๋องกำลังจะคลอด บัดนี้ข้าต้องรีบเดินทางกลับเมืองติ้งเป่ย วันนี้ก็ถือเสียว่าเป็นงานเลี้ยงต้อนรับล่วงหน้าสำหรับพวกท่านแล้วกัน” “ขอบพระทัยฝ่าบาท!” ทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพพร้อมเพรียงกัน ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ พวกเขาก็ถูกส่งมาแล้ว สถานการณ์ในเขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือเป็นอย่างไรนั้น ทุกคนต่างรู้กันดี เขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือนั้นในนามเป็นของราชสำนัก เจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ก็ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนัก แต่ปัญหาคือ ด่านเป่ยลู่ขวางอยู่ตรงนั้น กองทัพและคำสั่งจากราชสำนักไม่สามารถผ่านด่านเป่ยลู่ไปถึงเขตป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1501

    “นี่คือรายชื่อของขวัญทั้งหมด ขอเชิญท่านอ๋องตรวจสอบพ่ะย่ะค่ะ” ในช่วงบ่าย อวี๋ฝูนำคนมาจัดการบันทึกรายการของขวัญที่ได้รับจากงานแต่งของหยุนเจิงจนเสร็จสิ้น “ดีมาก ทำงานได้คล่องแคล่วดี” หยุนเจิงรับสมุดเล่มเล็กมาด้วยรอยยิ้ม และไม่ลืมที่จะชมอวี๋ฝูก่อน “เป็นหน้าที่ของข้าน้อยอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” อวี๋ฝูตอบด้วยท่าทีเคารพ “เอาล่ะ ข้าจะตรวจดูเอง เจ้าถอยไปก่อนเถิด” “ข้าน้อยขอทูลลา!” อวี๋ฝูก้มตัวคำนับก่อนจะถอยออกไป หยุนเจิงเดินถือสมุดเล่มเล็กไปนั่งในลานบ้าน เปิดสมุดด้วยความคาดหวังเต็มเปี่ยม การแต่งงานระหว่างตนกับเจียเหยาเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น ของขวัญที่ได้รับ ย่อมต้องมีระดับกันบ้าง! นี่น่าจะเป็นรายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว! พูดก็พูดเถอะ เจ้าสามไม่ใช่กำลังขาดเงินอยู่หรือ? ถ้าเขาจัดงานแต่งทุกๆ ไม่กี่ปี เงินทองก็ไหลมาเทมาเองแล้วกระมัง? เฮ้อ! เป็นองค์รัชทายาททั้งที ยังไม่รู้จักหาเงินอีก เสียทีที่ได้ชื่อว่าเป็นองค์รัชทายาท หยุนเจิงแอบวิจารณ์หยุนลี่ในใจ ขณะพลิกเปิดสมุดเล่มเล็กอย่างช้าๆ จะเห็นได้ว่า อวี๋ฝูเป็นผู้ดูแลที่ยอดเยี่ยมมาก เขาไม่เพียง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1500

    ตอนนี้หยุนเจิงไม่มีเวลามากพอที่จะค่อยๆ แยกแยะว่าใครซื่อสัตย์หรือไม่ซื่อสัตย์ จึงต้องใช้วิธีการที่เด็ดขาด ฆ่าบางคน ให้รางวัลบางคน และกดดันบางคน! ว่าแต่จะฆ่าใคร ให้รางวัลใคร หรือกดดันใคร เขาเองก็ยังไม่แน่ใจนัก อย่างไรก็ตาม ในฟู่โจวที่กว้างใหญ่นี้ ย่อมต้องมีขุนนางที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างแน่นอน ในภายหลัง เขาก็จะใช้คนเหล่านั้นมาเป็นเป้าหมายจัดการ ขุนนางใหม่มารับตำแหน่ง ย่อมต้องจุดไฟสามดวงให้ลุกโชน! ขณะที่หยุนเจิงกำลังครุ่นคิด เจียเหยาก็เดินเข้ามาหาเขา “พวกเราจะออกเดินทางเมื่อไรหรือ?” ทันทีที่มาถึง เจียเหยาก็ถามขึ้น “พรุ่งนี้เถอะ!” หยุนเจิงบีบขมับที่เริ่มปวดเล็กน้อย “วางใจเถอะ ข้าอยากกลับติ้งเป่ยมากกว่าเจ้าซะอีก!” “เรื่องนี้ข้าเชื่อ” เจียเหยายิ้มเล็กน้อย ก่อนถามต่อ “เจ้ากำลังปวดหัวเรื่องการบริหารฟู่โจวหรือ?” “ใช่แล้ว!” หยุนเจิงไม่ปฏิเสธ “ข้าเกิดมาเพื่อเป็นแม่ทัพนำทัพออกรบ เรื่องการปกครองบ้านเมือง ข้าไม่ถนัดเลยจริงๆ...” ในชีวิตก่อน มีคนสอนเขารบ แต่ไม่มีใครสอนเขาเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ยิ่งกว่านั้น ชายคนนี้ที่ร่างเดิมเป็นของเขาก็ไม่เคยเรียนร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1499

    หลังจากจักรพรรดิเหวินและหยุนลี่เสด็จออกจากหัวเมืองสี่ทิศไปแล้ว หยุนเจิงเองก็เตรียมตัวจะออกเดินทางเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ก่อนจะออกเดินทาง เขายังต้องจัดการเรื่องการบริหารบ้านเมืองในฟู่โจวให้เรียบร้อย อย่างน้อยต้องให้ขุนนางทุกระดับปฏิบัติหน้าที่ของตน ตอนนี้เขายังไม่มีเวลาหรือความคิดที่จะลงมือจัดการกับขุนนางเหล่านี้ หากออกแรงกดดันมากเกินไป เกรงว่าฟู่โจวอาจจะวุ่นวายจนควบคุมไม่อยู่ เขาต้องการให้ขุนนางเหล่านี้อยู่ในความสงบก่อน รอจนเขาจัดการเรื่องในมือเสร็จสิ้น ค่อยปรับเปลี่ยนขุนนางในฟู่โจวทีหลัง แม้ฟู่โจวจะเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดินแดนนอกด่าน แต่ราชการในฟู่โจวย่อมซับซ้อนกว่าดินแดนนอกด่านมาก หากเร่งรีบเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาไม่จำเป็นได้ ด้วยเหตุนี้ หยุนเจิงจึงใช้โอกาสที่ขุนนางที่มาร่วมงานแต่งของเขาและเจียเหยายังไม่กลับ เรียกพวกเขามารวมตัวกันที่จวนของเขา เขาไม่ได้รู้จักขุนนางเหล่านี้ดีนัก จึงได้มอบหมายให้จี้หราน อดีตเจ้าเมืองฟู่โจว รักษาการในหน้าที่บริหารบ้านเมืองฟู่โจวไปก่อน หลังจากประกาศเรื่องนี้เสร็จ หยุนเจิงก็กล่าวเตือนขุนนางทั้งหลายว่า “ข้าเป็นคนที่นำทัพออกศึก อารมณ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1498

    “อืม เรื่องนี้เจ้าต้องใส่ใจให้มาก!” จักรพรรดิเหวินตรัสเตือน “อย่าปล่อยให้คนของเจ้าหกแฝงตัวอยู่รอบตัวเจ้าเพื่อสืบข่าวอีกต่อไป!” ในชั่วขณะนั้น หยุนลี่เริ่มคิดถึงผู้คนที่เคยร่วมวางแผนกำจัดหยุนเจิงกับเขาก่อนหน้านี้ เฉียวเหยียนเซียน ฮั่วเหวินจิ้ง... แม้กระทั่งหยวนกุยก็ยังไม่รอดพ้นจากความสงสัยของเขา แต่จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่มีใครแสดงพฤติกรรมน่าสงสัย หรือว่า คนของเจ้าหกที่แฝงตัวอยู่ จะซ่อนตัวได้ลึกถึงเพียงนี้? “กลับเมืองหลวงแล้วค่อยตรวจสอบอย่างละเอียดอีกที!” จักรพรรดิเหวินยกพระหัตถ์ขึ้นเล็กน้อยเป็นสัญญาณให้หยุนลี่วางใจ ก่อนจะมองเขาด้วยความอ่อนโยน “ข้ารู้ว่าเจ้าถูกเจ้าหกบีบเงินไปถึงสี่ล้านตำลึง ในใจเจ้าคงอึดอัดและเจ็บปวด ข้าจึงให้จางซูช่วยสร้างโรงกลั่นสุราไว้ กลับไป ข้าจะยกโรงกลั่นนั้นให้เจ้า” “เสด็จพ่อ เรื่องนี้... ลูกไม่อาจรับได้พ่ะย่ะค่ะ!” หยุนลี่ตกใจ รีบปฏิเสธพร้อมกับโบกมือไปมา “ไม่มีอะไรที่เจ้าจะรับไม่ได้! แผ่นดินนี้ข้าก็จะยกให้เจ้าแล้ว ข้ายังจะมาสนใจโรงกลั่นสุราอีกหรือ?” จักรพรรดิเหวินตรัสพร้อมส่ายพระพักตร์เบาๆ ก่อนจะกล่าวด้วยน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status