Share

บทที่ 157

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
เที่ยงวัน เซียวว่านโฉวทั้งบ้านต้อนรับหยุนเจิงอย่างอบอุ่น

เซียวว่านโฉวเป็นคนที่ไม่เลวเลยทีเดียว ถึงแม้ในอดีตเขาจะดูถูกหยุนเจิงเหมือนเหล่าขุนนางคนอื่นๆ ทั้งราชวัง แต่ทว่าพฤติกรรมของหยุนเจิงในช่วงที่คณะทูตเป่ยหวนมาเยี่ยมเยือนนั้น ก็มากพอที่จะเปลี่ยนสายตาที่มองหยุนเจิงได้แล้ว

เซียวว่านโฉวเองก็รู้ดีว่าที่จักรพรรดิเหวินให้เซียวติ้งอู่สอนทักษะการทำสงครามกับหยุนเจิงนั้นเป็นการเตรียมตัวให้กับหยุนเจิงก่อนจะเดินทางไปซั่วเป่ย

รู้ดีว่าเรื่องที่หยุนเจิงเดินทางไปซั่วเป่ยนั้นได้ตัดสินแล้ว เซียวว่านโฉวยังปลอบใจหยุนเจิงไม่หยุด

จริงๆ แล้วเป่ยหวนไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น เป่ยหวนมีทหารเหล็กหกแสนนายที่ไหนกัน?

เกรงว่าทหารม้าที่เป่ยหวนจัดเตรียมไว้นั้นอาจจะไม่ถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นนายด้วยซ้ำ

เพียงเพราะคนแคว้นเป่ยหวนนั้นเติบโตบนหลังม้า และยังมีสรรพยากรม้ารบจำนวนมาก ขอเพียงมีสงครามเต็มรูปแบบเกิดขึ้น เป่ยหวนก็พร้อมที่จะเรียกใช้กำลังทหารม้าจำนวนหลานแสนนายออกมาได้ทันที

ดังนั้น อยู่ดีไม่ว่าดีเป่ยหวนจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นทหารม้าเหล็กหกแสนนาย

แต่ทว่าการเรียกทหารม้ามากะทันหันกับการเตรียมทหารม้าไว้ก่อนแล้วนั้นมีควา
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 158

    เรื่องของเมื่อวาน นางเองก็โดนหางเลขไปด้วยนางสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าจักรพรรดิเหวินเย็นชาต่อนางขึ้นไม่น้อยหากเป็นเช่นนี้อีกต่อไป เกรงว่านางจะสูญเสียความโปรดปรานเสียแล้ว!“เฮ้อ!”สวีสือฝู่ถอนหายใจด้วยสีหน้าที่หนักอึ้ง “สถานการณ์ของลี่เออร์ตอนนี้ไม่ดีเอาเป็นอย่างมาก ต้องให้ลี่เออร์สร้างผลงานมาสร้างความพึงพอพระทัยแด่ฝ่าบาท...”“ประเด็นคือจะทำเรื่องอย่างไรเล่า!”หยุนลี่กัดฟันแล้วแค่นเสียงต่ำ “แล้วท่านคิดว่าตอนนี้ต้องทำอะไรถึงจะทำให้เสด็จพ่อพอพระทัยเล่า?”ไร้สาระ!คิดว่าเขาไม่อยากทำให้เสด็จพ่อพอพระทัยหรืออย่างไร?แต่ตอนนี้เขาไม่เข้าใจถึงอารมณ์ของจักรพรรดิเหวินเลยสักนิด ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรตอนนี้เขาโดนจักรพรรดิเหวินตีจนกลัวแล้วเกรงว่าเขาไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้จักรพรรดิเหวินพอพระทัย แต่จะโดนด่าโดนโบยแทนหากเป็นเช่นนี้ไปอีกสองสามครั้ง เขาคงถูกตีถูกโบยจนพิการไปแล้ว!สวีสือฝู่ครุ่นคิดเพียงครู่ รีบตอบว่า “ก่อนอื่น เจ้าไม่สามารถหาเรื่องหยุนเจิงได้อีก ไม่เพียงแต่จะหาเรื่องเขาไม่ได้เท่านั้น ยังต้องทำดีต่อเขาด้วย!”“อะไรนะ?”หยุนลี่พอได้ยินคำพูดนี้ก็ไม่อยากทำแล้ว เขากัดฟันกรอดแล้วพูดว่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 159

    เมื่อหยุนเจิงมาถึงที่ร้านตีเหล็ก ที่นี่กำลังยุ่งจนเปลวไฟแทบลุกหลังจากที่ช่างตีเหล็กสองสามคนทำการคาราวะหยุนเจิงแล้วก็นำหอกยาวที่เพิ่งหลอมเสร็จยื่นไปข้างหน้าราวกับว่ากำลังถวายสมบัติล้ำค่าอย่างไรอย่างนั้นหอกยาวนี้มีสองส่วนบริเวณตรงกลางมีรูยามไม่ใช้งาน สามารถแบ่งหอกยาวนี้เป็นสองส่วน เก็บใส่เข้าไปในกระเป๋าหนังวัวได้ สะดวกต่อการพกพายามใช้งานก็สามารถนำมาประกอบกันเป็นหอกยาวหยุนเจิงมองหอกยาวที่อยู่ตรงหน้า ก็ดีใจเป็นอย่างมาก“ตบรางวัล! คนละยี่สิบตำลึงเงิน!”แม้ว่าหยุนเจิงจะไม่ค่อยสบอารมณ์ เขาก็ยังใจกว้างขวางกว่าปกติด้วยเขาคิดว่าพวกช่างตีเหล็กพวกนี้จะไม่สามารถทำรูเชื่อมตรงกลางออกมาได้เสียอีก!คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะสามารถเจาะรูตรงกลางจากแรงงานคนออกมาได้จริงๆเขาพบว่า ตนดูถูกสติปัญญาของพวกช่างตีเหล็กพวกนี้เกินไปเสียแล้ว“ขอบพระทัยองค์ชายหก!”พวกเขาสองสามคนรีบกล่าวขอบคุณอย่างตื้นตัน“นี่เป็นสิ่งที่พวกเจ้าควรได้!”หยุนเจิงมองไปยังคนเหล่านี้อย่างพึงพอใจในใจเขาเข้าใจดีว่า มันยากเย็นเพียงใดในหลายวันมานี้กว่าจะหล่อหอกมาได้คาดว่า สองสามคนนี้คงไม่ได้หลับตานอนเลยในหลายวันมานี้หยุนเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 160

    หยุนเจิงกรอกตามองบนใส่นาง รับถุงหนังวัวจากมือเกาเหอมา แล้วหยิบหอกสั้นมา“นี่คือหอกหรือ?”เสิ่นลั่วเยี่ยนยิ่งดูแคลนขึ้นไปใหญ่ “นี่เจ้าแยกไม่ออกแม้กระทั่งระหว่างหอกกับแท่งเหล็กหรือไง?”หยุนเจิงคร้านจะตอบนาง แล้วค่อยหยิบหอกท่อนที่เหลือออกมาหยุนเจิงทำการต่อหอกทั้งสองส่วนเข้าด้วยกันภายใต้สายตาที่สงสัยของพวกเสิ่นลั่วเยี่ยนในทันใดนั้น หอกเหล็กยาวเล่มหนึ่งก็ปรากฏต่อหน้าพวกนางหอกทั้งเล่มนั้นเป็นเหล็กลายบุปผา ไม่เพียงส่องแสงประกายระยิบระยับ แต่ยังมีลายดอกไม้แสงประณีตอีกด้วยทันใดนั้นสองตาของเสิ่นลั่วเยี่ยนก็ส่องแสงประกาย รีบแย่งหอกในมือไปทันที นางออกแรงดึงออก แต่ดึงอย่างไรก็ดึงไม่ออกเสียที “นี่เจ้าทำได้อย่างไรกัน?”เสิ่นลั่วเยี่ยนมองไปยังหยุนเจิงด้วยความตกใจและความประหลาดใจ “แล้วจะแยกอย่างไร?” หยุนเจิงกลอกตามองบนใส่นาง เอาหอกมาแล้วบิดซ้ายขวา หอกด้ามยาวถูกแยกออกเป็นสองท่อนอีกคราเสิ่นลั่วเยี่ยนกำลังอยากจะลองลงมือทำด้วยตนเอง หยุนเจิงกลับยื่นหอกที่ถูกออกแบ่งเป็นสองท่อนให้เกาเหอ “ในเมื่อลั่วเยี่ยนไม่อยากได้ เช่นนั้นก็ยกให้เจ้าก็แล้วกัน” พอเสิ่นลั่วเยี่ยนได้ยินดังนั้นก็ร้อนใจขึ้นมาท

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 161

    เมื่อกลับมาถึงจวน หยุนเจิงก็นั่งคิดไตร่ตรองอยู่ลานหลังจวนเขาครุ่นคิดจนเคลิบเคลิ้มไป กระทั่งเยี่ยจื่อทอดน่องเข้ามาใกล้แล้วก็ยังไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งเยี่ยจื่อนั่งลงตรงหน้าเขา เขาถึงจะรู้สึกตัวขึ้น“คิดวางแผนเล่นงานผู้ใดอยู่อีกหรือ?”เยี่ยจื่อกล่าวถามหยอกล้อ“ข้าไม่ได้คิดวางแผนเล่นงานใครเลยจริงๆ”หยุนเจิงส่ายหน้า “ข้ากำลังวางกลยุทธ์สำคัญอย่างหนึ่งอยู่ แต่มีบางอย่างที่ยังไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่”เยี่ยจื่อประหลาดใจเล็กน้อย “ท่านก็มีวันที่ไม่แน่ใจเช่นนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ?”“ก็มีน่ะสิ”หยุนเจิงยิ้มเจื่อนๆ จากนั้นก็เล่าถึงเรื่องสำคัญที่ตนเองกำลังครุ่นคิดอยู่เขากำลังไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งว่าจะถวายวิธีการสร้างเหล็กลายบุปผาให้กับจักรพรรดิเหวินดีหรือไม่!นี่เป็นเรื่องที่เขาไตร่ตรองมาโดยตลอดหลังจากที่ออกมาจากจวนสกุลเสิ่นเขาตระหนักรู้ได้ว่าลำพังเพียงช่างเหล็กไม่กี่คน คุณภาพที่ผลิตออกมาต่ำมากเกินไป!ถวายวิธีการสร้างเหล็กให้กับจักรพรรดิเหวิน อย่างน้อยก็น่าจะมีรางวัลบ้าง และสิ่งที่ตามมาก็คือความนิยมของอาวุธที่ทำมาจากวัสดุเช่นนี้ มันไม่ได้ส่งผลดีต่อเขาในอนาคตเลยแต่หากไม่ถว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 162

    เจ้าสารเลวไร้ยางอายผู้นี้!นับวันยิ่งไม่มีความเกรงใจเอาเสียเลยนี่เขาไม่สนใจฐานะอันสูงศักดิ์ของตนเองบ้างเลยหรือไรเจ้าสารเลวใจกล้าบ้าบิ่น ใจกล้าไม่กลัวแม้แต่เทวดาฟ้าดิน!ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!เยี่ยจื่อสบถด่าอยู่ในใจไม่หยุด ทว่า สีหน้ากลับร้อนผ่าวยิ่งขึ้น...การประชุมเช้าวันต่อมาขณะที่จักรพรรดิเหวินกำลังจะประกาศเลิกประชุม ทันใดนั้นองครักษ์หน้าตำหนักรีบเข้ามารายงานว่าหยุนเจิงต้องการเข้าวังประสงค์จะเข้าเฝ้าฝ่าบาท แต่กลับถูกทหารวังขวางเอาไว้“ขวางเขาด้วยเหตุใด?”จักรพรรดิเหวินขมวดพระขนงเล็กน้อย กล่าวเสียงดุดันว่า “ใครบังอาจสั่งทหารวังให้ขวางเจ้าหก?”องครักษ์หน้าตำหนักรีบรายงานว่า “กราบทูลฝ่าบาท ทหารวังไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ลำบากพระทัยพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่ว่าองค์ชายหกพกอาวุธมาด้วย ทหารวังไม่กล้าให้องค์ชายหกเข้ามาพ่ะย่ะค่ะ ทหารวังให้องค์ชายหกปลดอาวุธออก แต่องค์ชายหกยืนกรานไม่ยอมปลดออก บอกว่าจะเข้าเฝ้าฝ่าบาทให้ได้พ่ะย่ะค่ะ...”พกอาวุธเข้าวังอย่างนั้นหรือนี่มันเป็นกฎข้อห้ามเด็ดขาด!เมื่อได้ยินองครักษ์หน้าตำหนักรายงานเช่นนี้ หยุนลี่ที่อาการบาดเจ็บเพิ่งจะดีขึ้นเพียงเล็กน้อย แทบจะอ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 163

    จักรพรรดิเหวินตรวจสอบดาบที่หยุนเจิงถวายให้อย่างละเอียดเขาไม่สนใจมองลวดลายอันงดงามประณีตบนตัวดาบเลย มองเพียงแค่คมของดาบและตรวจสอบอย่างละเอียดแม้ดาบนี้จะบางไปสักหน่อย แต่เมื่อใช้ฟันแล้ว คมดาบกลับดูเหมือนว่าไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใดเลย!จักรพรรดิเหวินถือดาบล้ำค่าไว้ในมือ ฟันตัดผ่านอากาศเบาๆ สองสามครั้ง รู้สึกว่าน้ำหนักกำลังพอดีเลย“ฝ่าบาท หยุดร่ายรำได้แล้ว ขอกระหม่อมดูหน่อยพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวว่านโฉวพรวดพราดไปข้างหน้า มองดาบอันล้ำค่าในพระหัตถ์จักรพรรดิเหวินอย่างคุ้นหูคุ้นตา ในฐานะที่เป็นแม่ทัพ เขาย่อมรู้ดีเป็นที่สุดว่าดาบใดได้เปรียบในการทำศึก“ได้! ย่อมได้!”จักรพรรดิเหวินเหลือบมองเซียวว่านโฉวด้วยรอยยิ้ม และตรัสด้วยสีหน้าดีใจว่า “อวี้กั๋วกง เจ้าอย่าดูคนเดียว ดาบล้ำค่าเช่นนี้ ต้องให้ขุนนางคนอื่นๆ ดูด้วย!”“พ่ะย่ะค่ะ!”เซียวว่านโฉวตอบรับหลังจากรับดาบล้ำค่ามาแล้ว ขุนนางฝ่ายบู้กลุ่มหนึ่งรีบรวมกลุ่มรุมตรวจสอบด้วยกันส่วนขุนนางฝ่ายบุ๋นก็อยากดูเช่นกัน ทว่า ช่วยไม่ได้ร่างกายของพวกเขาบอบบางนัก จึงไม่อาจแทรกตัวเข้าไปได้“ดาบชั้นยอดเลย!”“ความคมของดาบเช่นนี้ช่างหาได้ย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 164

    “ลูกเองก็หวังใช้โอกาสนี้ปรับตัวทำดีต่อน้องหก...”หยุนลี่กล่าวอย่างจริง แม้แต่หยุนเจิงที่ฟังอยู่ก็เกือบจะเชื่อแต่ไม่นานนักเขาก็ตระหนักได้ว่าที่หยุนลี่ทำไปเพื่อต้องการทำให้จักรพรรดิเหวินรู้สึกดีต่อเขาเจ้าปัญญาอ่อนนี่ ในที่สุดก็รู้จักใช้สมองบ้างแล้ว!“อย่างนั้นหรือ?”จักรพรรดิเหวินหรี่ตาเล็กน้อย “แล้วเจ้าคิดว่าข้าควรตบรางวัลให้เจ้าหกเช่นไรล่ะ?”“เอ่อ...”หยุนลี่ชะงักงันไปเล็กน้อย ทำท่าทางไม่กล้าเอ่ยปากกล่าว“เจ้าพูดมาเถอะ!”จักรพรรดิเหวินเอ่ยปากตรัส และดูเหมือนว่าจะพึงพอใจการประพฤติตัวของอยู่ลี่ในวันนี้มากเมื่อจักรพรรดิเหวินตรัสเช่นนี้แล้ว หยุนลี่จึงกล่าวลองเชิงว่า “อีกไม่นานน้องหกก็จะเดินทางไปซั่วเป่ยแล้ว ลูกขอบังอาจทูลขอเสด็จพ่อคัดเลือกผู้แข็งแกร่งบางส่วนจากหกองครักษ์ของวังหลวงติดตามไปคุ้มกันน้องหก เพื่อความปลอดภัยของน้องหกพ่ะย่ะค่ะ!”หลังจากหยุนลี่กล่าวจบ แม้แต่หยุนเจิงเองก็ตกตะลึงขึ้นแล้วมีเรื่องดีเช่นนี้ด้วยหรือนี่เพื่อทำเพื่อเอาใจเสด็จพ่อ เจ้านี่ยอมทำทุกอย่างจริงๆ!นี่เขาไม่กลัวว่าตนเองจะทำให้หยุนเจิงยิ่งใหญ่ขึ้นหรือหรือว่าเขาจะฉวยโอกาสนี้ส่งคนของเขาใ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 165

    สีหน้าจักรพรรดิเหวินเรียบนิ่ง แต่หยุนถิงสามารถรับรู้ได้ถึงความโกรธเกรี้ยวของจักรพรรดิเหวิน“ความ ความ...ความดีพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนถิงเงยหน้าขึ้นอย่างยากลำบาก กล่าวอย่างตะกุกตะกัก “ลูก...ลูก ลูกใช้อคติคิดไปเองว่าน้องหกเป็นเช่นนั้น ได้โปรดเสด็จพ่อลงโทษลูกด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”“ข้าคร้านจะลงโทษเจ้าเต็มที!”จักรพรรดิเหวินมองหยุนถิงด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าก็เหมือนกับพี่สามของเจ้า ในวันอภิเษกของเจ้าหก มอบของขวัญไปชุดหนึ่ง หากกล้าบังอาจทำพอผ่านไปทีแล้วล่ะก็ ข้าไม่อภัยให้เจ้าง่ายๆ เป็นแน่!”“ขอบพระทัยเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนถิงรีบเอ่ยปากขอบคุณ และแอบโล่งใจไปเปราะหนึ่งยังดีที่แค่ส่งมอบของขวัญ ไม่ได้ลงโทษหนักแต่อย่างใดดูสภาพของหยุนถิงแล้ว หยุนลี่ก็แอบครุ่นคิดในใจไม่ได้วันนี้เจ้าหกทำให้เจ้าสี่ต้องอับอายขายหน้าต่าหน้าเหล่าขุนนางทั้งท้องพระโรงบางที อาจจะยุแยงให้เจ้าสี่ไปรับมือกับเจ้าหกได้ก็ได้!อืม ส่วนตนเองจะสวมบทเป็นคนดีเอง!ส่วนบทคนร้าย ก็ปล่อยให้เจ้าสี่รับไปก็แล้วกัน!“ลุกขึ้นได้แล้ว!”จักรพรรดิเหวินโบกมือ มู่ซุ่นจึงประกาศเลิกการประชุม“อวี้กั๋วกง เจ้าจะไปที่ใด?”ทันใดนั้นจักรพรรด

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1506

    "พวกเจ้าลำบากกันมากจริงๆ!" หยุนเจิงกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น พลางหยุดบทสนทนาของสองพี่น้อง ทำให้หัวใจของเขารู้สึกอุ่นวาบ เสิ่นลั่วเยี่ยนยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดขึ้น "ฝ่าบาท รีบไปดูเจ้าหนูน้อยของพวกเราเถิด..." ในระหว่างที่เสิ่นลั่วเยี่ยนพูด ฮูหยินเสิ่นก็อุ้มเด็กน้อยเข้ามาส่งให้หยุนเจิง หยุนเจิงยื่นมือออกไปโดยไม่รู้ตัว เพื่อจะรับเด็กมาอุ้ม แต่เมื่อมือยื่นออกไปแล้ว กลับชะงักค้างอยู่ตรงนั้น เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มอุ้มอย่างไรดี ในฐานะคนเป็นพ่อครั้งแรก เขาทั้งตื่นเต้นและประหม่า แม้แต่การอุ้มลูกก็กลัวว่าจะทำผิดวิธี และทำให้เด็กที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้รับบาดเจ็บ เมื่อเห็นท่าทางลำบากใจของหยุนเจิง ทุกคนรอบข้างก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ "ไม่เป็นไร!" ฮูหยินเสิ่นสังเกตเห็นความกังวลของหยุนเจิง จึงพูดปลอบพร้อมกับยื่นเด็กน้อยส่งให้เขา "เด็กไม่ได้เปราะบางอย่างที่เจ้าคิด อุ้มแบบข้านี่ก็พอแล้ว..." "โอ้ ได้ๆ..." หยุนเจิงมองดูท่าทางการอุ้มของฮูหยินเสิ่นอย่างละเอียด ก่อนจะรับเด็กมาด้วยความระมัดระวัง เขาอุ้มเด็กไว้ในอ้อมแขนด้วยความตื่นเต้นและความสงสัย พลางก้มหน้ามองลูกของตัวเอง บอกตาม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1505

    วันถัดมา หยุนเจิงและเจียเหยาก็นำคนเดินทางออกไป หยุนเจิงเร่งรีบที่จะกลับเมืองติ้งเป่ย จึงพาเพียงกองทหารองครักษ์ 200 นายเท่านั้น ปล่อยกองทัพส่วนใหญ่ที่เหลือไว้เบื้องหลัง ขบวนเดินทางด้วยความรวดเร็ว มุ่งหน้ากลับติ้งเป่ยอย่างเร่งด่วน พวกเขาเพิ่งผ่านด่านเป่ยลู่มาได้ไม่นาน ก็พบผู้ส่งสารจากติ้งเป่ยที่เดินทางมารายงานข่าว "ขอรายงานฝ่าบาท พระชายาอ๋องประสูติเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ พระโอรสและพระชายาปลอดภัยดี!" ผู้ส่งสารรายงานด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หยุนเจิงถึงกับชะงักเล็กน้อย เสิ่นลั่วเยี่ยนคลอดแล้ว? เจ้าหนูน้อยนี่ รีบร้อนจะเกิดเสียจริง! ทั้งที่ตนเองเร่งรีบกลับมาแทบตาย แต่สุดท้ายก็ไม่ทันช่วงเวลาที่ลูกคนแรกของตนเกิด คิดได้เช่นนี้ หยุนเจิงก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เมื่อคิดว่าทั้งเสิ่นลั่วเยี่ยนและลูกปลอดภัยดี หินหนักในใจของหยุนเจิงก็เหมือนถูกยกออกไป "ยินดีกับฝ่าบาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ!" เหล่ากองทหารองครักษ์พากันกล่าวแสดงความยินดีต่อหยุนเจิง เสิ่นลั่วเยี่ยนให้กำเนิดรัชทายาทแล้ว หมายความว่าอ๋องติ้งเป่ยมีทายาทสืบทอดแล้ว! พูดแบบไม่เกรงใจ หากหยุนเจิงเกิดเหตุ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1504

    "คำพูดเช่นนี้ หากตอบกลับไม่ดี อาจจบลงด้วยการถูกส่งตัวเข้าคุก เมื่อเห็นลู่เตี้ยนถูกกดดันจนพูดไม่ออก ขุนนางฝ่ายขวาผู้ปรึกษาพระราชกิจรีบลุกขึ้นกล่าว “ฝ่าบาท ราชสำนักมีบทกฎหมายของราชสำนัก พวกเราทั้งหลายล้วนเป็นขุนนางราชสำนัก หากไม่มีความผิด แม้แต่ฝ่าบาทยังไม่มีสิทธิ์บังคับให้พวกเราทั้งหลายออกแรงงานเช่นนี้ ฝ่าบาททรงปฏิบัติกับพวกเราทั้งหลายเช่นนี้ ย่อมเป็นการละเมิดบทกฎหมายของราชสำนัก” ไม่เสียชื่อขุนนางผู้ปรึกษาฝ่ายขวา ที่เปิดปากก็หยิบยกบทกฎหมายราชสำนักขึ้นมาอ้าง นี่คือกลยุทธ์ที่พวกขุนนางผู้มีหน้าที่ชี้แนะมักใช้อยู่เสมอ กฎหมายราชสำนักอยู่ที่นั่นหยุนเจิงยังไม่มีอำนาจแก้ไขกฎหมายราชสำนักได้ แม้เขาจะเป็นผู้บัญชาการเขตซั่วเป่ย และมีกฎหมายเฉพาะของตนเอง แต่กฎหมายของเขาก็ใช้ได้แค่ในเขตซั่วเป่ย ยิ่งไปกว่านั้น เขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือยังไม่ขึ้นกับเขตซั่วเป่ย “ข้าพูดแล้วว่า พวกเจ้าไม่ได้มีความผิด และข้าก็ไม่ได้จะให้พวกเจ้าไปออกแรงงาน นี่เรียกว่าการสัมผัสความทุกข์ยากของราษฎรต่างหาก!” หยุนเจิงมองชายคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา “เมื่อไม่นานมานี้ เสด็จพ่อของข้าเสด็จมายังซั่วเป่ย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1503

    เมื่อได้ยินคำกล่าวแบบ “นักปราชญ์” ของหยุนเจิง ทุกคนถึงกับหันไปมองหน้ากันด้วยความงุนงง พวกเขาเข้าใจความหมายตามตัวอักษรของคำพูดนี้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่หยุนเจิงต้องการสื่อจริงๆ คืออะไร? ทุกข์ทนจิตใจ เหน็ดเหนื่อยกายา อดอยากเนื้อหนัง? หลังนิ่งอึ้งไปนาน ในที่สุดลู่เตี้ยนก็รวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้นว่า “โปรดให้อภัยที่ข้าน้อยโง่เขลา ไม่ทราบฝ่าบาทหมายความว่าอย่างไร?” “ยังไม่เข้าใจอีกหรือ?” หยุนเจิงยิ้ม “ที่ชายแดนชิงนั้น ข้ามีเหมืองสำหรับเก็บรวบรวมถ่านหินร่วนแห่งหนึ่ง ข้าตั้งใจจะให้พวกท่านไปสัมผัสถึงความทุกข์ยากของราษฎรก่อน เพื่อที่เมื่อถึงเขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือ จะได้สามารถรับผิดชอบภารกิจที่เสด็จพ่อมอบหมายให้ได้อย่างดียิ่งขึ้น” เมื่อคำพูดของหยุนเจิงจบลง ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนสีไปตามกัน เหมือง...เหมืองถ่านหิน? หยุนเจิงถึงกับต้องการให้พวกเขาไปทำงานเก็บถ่านหินในเหมือง? บ้าหรือเปล่า? คนเหล่านี้ต่ำสุดก็เป็นขุนนางตำแหน่งห้าขั้นล่างสุด แต่กลับให้พวกเขาไปทำงานเหมือง? นี่คิดจะใช้พวกเขาเป็นแรงงานเช่นนั้นหรือ? ในชั่วพริบตา ความหวาดกลัวและความโกรธผุดขึ้นในใจของทุ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1502

    "เมื่อได้ยินพวกเขาแนะนำตัวทีละคนๆ หยุนเจิงก็เอ่ยในใจว่าดีจริงๆ!แต่ละคนล้วนมีตำแหน่งในราชสำนักไม่น้อยเลย ต่ำสุดยังเป็นขุนนางตำแหน่งขั้นห้า ยิ่งไปกว่านั้น คนเหล่านี้ยังไม่ถือว่าแก่เลย อนาคตยังมีพื้นที่ให้ไต่เต้าขึ้นอีกมาก สำหรับหยุนเจิง นี่นับว่าเป็นของขวัญอันล้ำค่ามาก! ล้ำค่ายิ่งกว่าของขวัญที่เขาได้รับในวันแต่งงานเสียอีก! นี่สิถึงจะเรียกได้ว่าเป็นของขวัญแต่งงานที่แท้จริง! เมื่อทุกคนแนะนำตัวเสร็จ หยุนเจิงก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นกล่าวว่า “พระชายาอ๋องกำลังจะคลอด บัดนี้ข้าต้องรีบเดินทางกลับเมืองติ้งเป่ย วันนี้ก็ถือเสียว่าเป็นงานเลี้ยงต้อนรับล่วงหน้าสำหรับพวกท่านแล้วกัน” “ขอบพระทัยฝ่าบาท!” ทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพพร้อมเพรียงกัน ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ พวกเขาก็ถูกส่งมาแล้ว สถานการณ์ในเขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือเป็นอย่างไรนั้น ทุกคนต่างรู้กันดี เขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือนั้นในนามเป็นของราชสำนัก เจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ก็ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนัก แต่ปัญหาคือ ด่านเป่ยลู่ขวางอยู่ตรงนั้น กองทัพและคำสั่งจากราชสำนักไม่สามารถผ่านด่านเป่ยลู่ไปถึงเขตป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1501

    “นี่คือรายชื่อของขวัญทั้งหมด ขอเชิญท่านอ๋องตรวจสอบพ่ะย่ะค่ะ” ในช่วงบ่าย อวี๋ฝูนำคนมาจัดการบันทึกรายการของขวัญที่ได้รับจากงานแต่งของหยุนเจิงจนเสร็จสิ้น “ดีมาก ทำงานได้คล่องแคล่วดี” หยุนเจิงรับสมุดเล่มเล็กมาด้วยรอยยิ้ม และไม่ลืมที่จะชมอวี๋ฝูก่อน “เป็นหน้าที่ของข้าน้อยอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” อวี๋ฝูตอบด้วยท่าทีเคารพ “เอาล่ะ ข้าจะตรวจดูเอง เจ้าถอยไปก่อนเถิด” “ข้าน้อยขอทูลลา!” อวี๋ฝูก้มตัวคำนับก่อนจะถอยออกไป หยุนเจิงเดินถือสมุดเล่มเล็กไปนั่งในลานบ้าน เปิดสมุดด้วยความคาดหวังเต็มเปี่ยม การแต่งงานระหว่างตนกับเจียเหยาเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น ของขวัญที่ได้รับ ย่อมต้องมีระดับกันบ้าง! นี่น่าจะเป็นรายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว! พูดก็พูดเถอะ เจ้าสามไม่ใช่กำลังขาดเงินอยู่หรือ? ถ้าเขาจัดงานแต่งทุกๆ ไม่กี่ปี เงินทองก็ไหลมาเทมาเองแล้วกระมัง? เฮ้อ! เป็นองค์รัชทายาททั้งที ยังไม่รู้จักหาเงินอีก เสียทีที่ได้ชื่อว่าเป็นองค์รัชทายาท หยุนเจิงแอบวิจารณ์หยุนลี่ในใจ ขณะพลิกเปิดสมุดเล่มเล็กอย่างช้าๆ จะเห็นได้ว่า อวี๋ฝูเป็นผู้ดูแลที่ยอดเยี่ยมมาก เขาไม่เพียง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1500

    ตอนนี้หยุนเจิงไม่มีเวลามากพอที่จะค่อยๆ แยกแยะว่าใครซื่อสัตย์หรือไม่ซื่อสัตย์ จึงต้องใช้วิธีการที่เด็ดขาด ฆ่าบางคน ให้รางวัลบางคน และกดดันบางคน! ว่าแต่จะฆ่าใคร ให้รางวัลใคร หรือกดดันใคร เขาเองก็ยังไม่แน่ใจนัก อย่างไรก็ตาม ในฟู่โจวที่กว้างใหญ่นี้ ย่อมต้องมีขุนนางที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างแน่นอน ในภายหลัง เขาก็จะใช้คนเหล่านั้นมาเป็นเป้าหมายจัดการ ขุนนางใหม่มารับตำแหน่ง ย่อมต้องจุดไฟสามดวงให้ลุกโชน! ขณะที่หยุนเจิงกำลังครุ่นคิด เจียเหยาก็เดินเข้ามาหาเขา “พวกเราจะออกเดินทางเมื่อไรหรือ?” ทันทีที่มาถึง เจียเหยาก็ถามขึ้น “พรุ่งนี้เถอะ!” หยุนเจิงบีบขมับที่เริ่มปวดเล็กน้อย “วางใจเถอะ ข้าอยากกลับติ้งเป่ยมากกว่าเจ้าซะอีก!” “เรื่องนี้ข้าเชื่อ” เจียเหยายิ้มเล็กน้อย ก่อนถามต่อ “เจ้ากำลังปวดหัวเรื่องการบริหารฟู่โจวหรือ?” “ใช่แล้ว!” หยุนเจิงไม่ปฏิเสธ “ข้าเกิดมาเพื่อเป็นแม่ทัพนำทัพออกรบ เรื่องการปกครองบ้านเมือง ข้าไม่ถนัดเลยจริงๆ...” ในชีวิตก่อน มีคนสอนเขารบ แต่ไม่มีใครสอนเขาเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ยิ่งกว่านั้น ชายคนนี้ที่ร่างเดิมเป็นของเขาก็ไม่เคยเรียนร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1499

    หลังจากจักรพรรดิเหวินและหยุนลี่เสด็จออกจากหัวเมืองสี่ทิศไปแล้ว หยุนเจิงเองก็เตรียมตัวจะออกเดินทางเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ก่อนจะออกเดินทาง เขายังต้องจัดการเรื่องการบริหารบ้านเมืองในฟู่โจวให้เรียบร้อย อย่างน้อยต้องให้ขุนนางทุกระดับปฏิบัติหน้าที่ของตน ตอนนี้เขายังไม่มีเวลาหรือความคิดที่จะลงมือจัดการกับขุนนางเหล่านี้ หากออกแรงกดดันมากเกินไป เกรงว่าฟู่โจวอาจจะวุ่นวายจนควบคุมไม่อยู่ เขาต้องการให้ขุนนางเหล่านี้อยู่ในความสงบก่อน รอจนเขาจัดการเรื่องในมือเสร็จสิ้น ค่อยปรับเปลี่ยนขุนนางในฟู่โจวทีหลัง แม้ฟู่โจวจะเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดินแดนนอกด่าน แต่ราชการในฟู่โจวย่อมซับซ้อนกว่าดินแดนนอกด่านมาก หากเร่งรีบเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาไม่จำเป็นได้ ด้วยเหตุนี้ หยุนเจิงจึงใช้โอกาสที่ขุนนางที่มาร่วมงานแต่งของเขาและเจียเหยายังไม่กลับ เรียกพวกเขามารวมตัวกันที่จวนของเขา เขาไม่ได้รู้จักขุนนางเหล่านี้ดีนัก จึงได้มอบหมายให้จี้หราน อดีตเจ้าเมืองฟู่โจว รักษาการในหน้าที่บริหารบ้านเมืองฟู่โจวไปก่อน หลังจากประกาศเรื่องนี้เสร็จ หยุนเจิงก็กล่าวเตือนขุนนางทั้งหลายว่า “ข้าเป็นคนที่นำทัพออกศึก อารมณ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1498

    “อืม เรื่องนี้เจ้าต้องใส่ใจให้มาก!” จักรพรรดิเหวินตรัสเตือน “อย่าปล่อยให้คนของเจ้าหกแฝงตัวอยู่รอบตัวเจ้าเพื่อสืบข่าวอีกต่อไป!” ในชั่วขณะนั้น หยุนลี่เริ่มคิดถึงผู้คนที่เคยร่วมวางแผนกำจัดหยุนเจิงกับเขาก่อนหน้านี้ เฉียวเหยียนเซียน ฮั่วเหวินจิ้ง... แม้กระทั่งหยวนกุยก็ยังไม่รอดพ้นจากความสงสัยของเขา แต่จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่มีใครแสดงพฤติกรรมน่าสงสัย หรือว่า คนของเจ้าหกที่แฝงตัวอยู่ จะซ่อนตัวได้ลึกถึงเพียงนี้? “กลับเมืองหลวงแล้วค่อยตรวจสอบอย่างละเอียดอีกที!” จักรพรรดิเหวินยกพระหัตถ์ขึ้นเล็กน้อยเป็นสัญญาณให้หยุนลี่วางใจ ก่อนจะมองเขาด้วยความอ่อนโยน “ข้ารู้ว่าเจ้าถูกเจ้าหกบีบเงินไปถึงสี่ล้านตำลึง ในใจเจ้าคงอึดอัดและเจ็บปวด ข้าจึงให้จางซูช่วยสร้างโรงกลั่นสุราไว้ กลับไป ข้าจะยกโรงกลั่นนั้นให้เจ้า” “เสด็จพ่อ เรื่องนี้... ลูกไม่อาจรับได้พ่ะย่ะค่ะ!” หยุนลี่ตกใจ รีบปฏิเสธพร้อมกับโบกมือไปมา “ไม่มีอะไรที่เจ้าจะรับไม่ได้! แผ่นดินนี้ข้าก็จะยกให้เจ้าแล้ว ข้ายังจะมาสนใจโรงกลั่นสุราอีกหรือ?” จักรพรรดิเหวินตรัสพร้อมส่ายพระพักตร์เบาๆ ก่อนจะกล่าวด้วยน

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status