แชร์

บทที่ 163

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
จักรพรรดิเหวินตรวจสอบดาบที่หยุนเจิงถวายให้อย่างละเอียด

เขาไม่สนใจมองลวดลายอันงดงามประณีตบนตัวดาบเลย มองเพียงแค่คมของดาบและตรวจสอบอย่างละเอียด

แม้ดาบนี้จะบางไปสักหน่อย แต่เมื่อใช้ฟันแล้ว คมดาบกลับดูเหมือนว่าไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใดเลย!

จักรพรรดิเหวินถือดาบล้ำค่าไว้ในมือ ฟันตัดผ่านอากาศเบาๆ สองสามครั้ง รู้สึกว่าน้ำหนักกำลังพอดีเลย

“ฝ่าบาท หยุดร่ายรำได้แล้ว ขอกระหม่อมดูหน่อยพ่ะย่ะค่ะ!”

เซียวว่านโฉวพรวดพราดไปข้างหน้า มองดาบอันล้ำค่าในพระหัตถ์จักรพรรดิเหวินอย่างคุ้นหูคุ้นตา

ในฐานะที่เป็นแม่ทัพ เขาย่อมรู้ดีเป็นที่สุดว่าดาบใดได้เปรียบในการทำศึก

“ได้! ย่อมได้!”

จักรพรรดิเหวินเหลือบมองเซียวว่านโฉวด้วยรอยยิ้ม และตรัสด้วยสีหน้าดีใจว่า “อวี้กั๋วกง เจ้าอย่าดูคนเดียว ดาบล้ำค่าเช่นนี้ ต้องให้ขุนนางคนอื่นๆ ดูด้วย!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

เซียวว่านโฉวตอบรับ

หลังจากรับดาบล้ำค่ามาแล้ว ขุนนางฝ่ายบู้กลุ่มหนึ่งรีบรวมกลุ่มรุมตรวจสอบด้วยกัน

ส่วนขุนนางฝ่ายบุ๋นก็อยากดูเช่นกัน ทว่า ช่วยไม่ได้ร่างกายของพวกเขาบอบบางนัก จึงไม่อาจแทรกตัวเข้าไปได้

“ดาบชั้นยอดเลย!”

“ความคมของดาบเช่นนี้ช่างหาได้ย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 164

    “ลูกเองก็หวังใช้โอกาสนี้ปรับตัวทำดีต่อน้องหก...”หยุนลี่กล่าวอย่างจริง แม้แต่หยุนเจิงที่ฟังอยู่ก็เกือบจะเชื่อแต่ไม่นานนักเขาก็ตระหนักได้ว่าที่หยุนลี่ทำไปเพื่อต้องการทำให้จักรพรรดิเหวินรู้สึกดีต่อเขาเจ้าปัญญาอ่อนนี่ ในที่สุดก็รู้จักใช้สมองบ้างแล้ว!“อย่างนั้นหรือ?”จักรพรรดิเหวินหรี่ตาเล็กน้อย “แล้วเจ้าคิดว่าข้าควรตบรางวัลให้เจ้าหกเช่นไรล่ะ?”“เอ่อ...”หยุนลี่ชะงักงันไปเล็กน้อย ทำท่าทางไม่กล้าเอ่ยปากกล่าว“เจ้าพูดมาเถอะ!”จักรพรรดิเหวินเอ่ยปากตรัส และดูเหมือนว่าจะพึงพอใจการประพฤติตัวของอยู่ลี่ในวันนี้มากเมื่อจักรพรรดิเหวินตรัสเช่นนี้แล้ว หยุนลี่จึงกล่าวลองเชิงว่า “อีกไม่นานน้องหกก็จะเดินทางไปซั่วเป่ยแล้ว ลูกขอบังอาจทูลขอเสด็จพ่อคัดเลือกผู้แข็งแกร่งบางส่วนจากหกองครักษ์ของวังหลวงติดตามไปคุ้มกันน้องหก เพื่อความปลอดภัยของน้องหกพ่ะย่ะค่ะ!”หลังจากหยุนลี่กล่าวจบ แม้แต่หยุนเจิงเองก็ตกตะลึงขึ้นแล้วมีเรื่องดีเช่นนี้ด้วยหรือนี่เพื่อทำเพื่อเอาใจเสด็จพ่อ เจ้านี่ยอมทำทุกอย่างจริงๆ!นี่เขาไม่กลัวว่าตนเองจะทำให้หยุนเจิงยิ่งใหญ่ขึ้นหรือหรือว่าเขาจะฉวยโอกาสนี้ส่งคนของเขาใ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 165

    สีหน้าจักรพรรดิเหวินเรียบนิ่ง แต่หยุนถิงสามารถรับรู้ได้ถึงความโกรธเกรี้ยวของจักรพรรดิเหวิน“ความ ความ...ความดีพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนถิงเงยหน้าขึ้นอย่างยากลำบาก กล่าวอย่างตะกุกตะกัก “ลูก...ลูก ลูกใช้อคติคิดไปเองว่าน้องหกเป็นเช่นนั้น ได้โปรดเสด็จพ่อลงโทษลูกด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”“ข้าคร้านจะลงโทษเจ้าเต็มที!”จักรพรรดิเหวินมองหยุนถิงด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าก็เหมือนกับพี่สามของเจ้า ในวันอภิเษกของเจ้าหก มอบของขวัญไปชุดหนึ่ง หากกล้าบังอาจทำพอผ่านไปทีแล้วล่ะก็ ข้าไม่อภัยให้เจ้าง่ายๆ เป็นแน่!”“ขอบพระทัยเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนถิงรีบเอ่ยปากขอบคุณ และแอบโล่งใจไปเปราะหนึ่งยังดีที่แค่ส่งมอบของขวัญ ไม่ได้ลงโทษหนักแต่อย่างใดดูสภาพของหยุนถิงแล้ว หยุนลี่ก็แอบครุ่นคิดในใจไม่ได้วันนี้เจ้าหกทำให้เจ้าสี่ต้องอับอายขายหน้าต่าหน้าเหล่าขุนนางทั้งท้องพระโรงบางที อาจจะยุแยงให้เจ้าสี่ไปรับมือกับเจ้าหกได้ก็ได้!อืม ส่วนตนเองจะสวมบทเป็นคนดีเอง!ส่วนบทคนร้าย ก็ปล่อยให้เจ้าสี่รับไปก็แล้วกัน!“ลุกขึ้นได้แล้ว!”จักรพรรดิเหวินโบกมือ มู่ซุ่นจึงประกาศเลิกการประชุม“อวี้กั๋วกง เจ้าจะไปที่ใด?”ทันใดนั้นจักรพรรด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 166

    “อีกอย่าง เสด็จพ่อก็บอกแล้วว่าไม่มีทางแต่งตั้งเจ้ให้เป็นองค์รัชทายาทแน่นอน หลายวันที่ผ่านมานี้ข้าก็คิดนะ ว่าในเมื่อเจ้าเป็นเช่นนี้แล้ว ข้าจะตั้งตนขัดแย้งกับเจ้าด้วยเหตุใดอีกเล่า”“แค่ข้าคิดว่าเจ้าจะเดินทางไปซั่วเป่ย ต่อไปก็เกรงว่าเราสองพี่น้องจะไม่ได้เจอหน้ากันอีกต่อไปแล้ว ข้าก็เลยรู้สึกขอโทษเจ้าจริงๆ...”หยุนลี่ทำสีหน้าท่าทางกล้าวอย่างจริงใจ!หยุนเจิงที่ฟังอยู่แทบจะเชื่อจริงๆ แล้ว“พี่สามกล่าวออกมาเช่นนี้ ทำให้ข้าดีใจมากจริงๆ”หยุนเจิงคล้อยตามหยุนลี่ และแสร้งทำท่าทางซาบซึ้งใจ“ไม่ว่าจะอย่างไร เราก็คือพี่น้องกันอยู่วันยังค่ำ!”หยุนลี่ตบไหล่หยุนเจิงเบาๆ กล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ต่อไปหากใครกล้ามารังแกเจ้า พี่สามจะออกหน้าแทนเจ้าเอง!”“จริงหรือ?” หยุนเจิงแสร้งเป็นซาบซึ้งจนจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว“จริงแน่นอน!”ไหยุนลี่พยักหน้าอย่างมั่นใจ และจู่ๆ ก็กล่าวอย่างโศกเศร้าว่า “เจ้าจะไปซั่วเป่ยแล้ว หากพี่สามอย่างข้าไม่ทำดีต่อเจ้าให้มากๆ เกรงว่าต่อไปคงจะไม่มีโอกาสทำดีกับเจ้าแล้ว!”“พี่สาม!”หยุนเจิงเรียกชื่อออกมาด้วยความซาบซึ้งตื้นตันใจ และคว้าตัวหยุนลี่มากอด “พี่สามคนดีของข้า เม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 167

    ในยามบ่าย หยุนเจิงฟังเซียวติ้งอู่สอนเรื่องการตั้งค่ายกลในการทำศึกอย่างตั้งใจ ตลอดไปจนถึงวิธีการตั้งรับมือหากศึกบุกทะลวงค่ายกลมาได้หลายวันที่ได้เรียนกับเซียวติ้งอู่ หยุนเจิงได้ความรู้ไปไม่น้อยเขาค่อยๆ ปรับตัวและความคิดขึ้น จากแรกเริ่มที่ทำตัวสบายๆ เขาก็จริงจังมากขึ้นเพียงแต่ว่า เขาความตั้งใจของแอบซ่อนอยู่ภายใน แต่ภายนอกทำตัวสบายๆหากคนอื่นเห็นท่าทางนี้ของเขาล่ะก็ เขาไม่เหมาะสมที่จะเป็นแมทัพนำทัพไปออกรบเลยและในขณะที่เซียวติ้งอู่กำลังอธิบายจะน้ำลายกระเด็น จู่ๆ ก็เกิดเสียงอันโกลาหลขึ้นข้างนอก“ท่านผู้บัญชาการเซียว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว...”เซียวติ้งอู่ขมวดคิ้วขึ้นทันใดเมื่อทหารเข้ามา เซียวติ้งอู่ก็ตำหนิด้วยสีหน้าดำคล้ำ “ตื่นตระหนกโหวกเหวกโวยวายมีเรื่องอันใดกัน?”ทหารตื่นตระหนกมาก “ท่านผู้บัญชาการเซียว หรง หรง หรงกั๋วกงบุกเข้ามาแล้วขอรับ...”“เจ้าว่าใครมานะ?”สีหน้าของเซียวติ้งอู่พลันเปลี่ยนไปทันทีราวกับว่าจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูก็มิปาน“หรง หรงกั๋วกงขอรับ!”ทหารกล่าวย้ำอีกครั้ง“เจ้าแน่ใจนะว่าเป็นเขา?”เซียวติ้งอู่กล่าวถามอย่างตื่นตระหนก“จะไม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 168

    “ไม่เลว เจ้าแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนแล้ว”ฉินลิ่วก่านมองเซียวติ้งอู่ด้วยความพึงพอใจ“ขอบคุณท่านอาที่ชื่นชมขอรับ”เซียวติ้งอู่ยิ้ม และกล่าวถามอย่างเป็นกังวลว่า “ท่านอามาถึงที่นี่กะทันหันเช่นนี้ ไม่ทราบมีเรื่อวอันใดขอรับ?”“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า!”ฉินลิ่วก่านเม้มปากเล็กน้อยก่อนกล่าวว่า “ไป ไปตามองค์ชายหกมา”องค์ชายหกอย่างนั้นหรือ?สีหน้าของเซียวติ้งอู่พลันเปลี่ยนไปมาก และหันไปมองหยุนเจิงอันธพาลเฒ่านี่เรียกหาองค์ชายหกด้วยเหตุอันใดกันหรือว่าองค์ชายหกไปทำสิ่งใดให้เขาขุ่นเคืองอย่างนั้นหรือเมื่อเห็นเซียวติ้งอู่นิ่งไปเช่นนี้ ฉินลิ่วก่านจึงถลึงตาจ้องมอง ส่งเสียงตะคอกว่า “ยังยื่นนิ่งอยู่ทำไม หูเจ้าหนวกไปแล้วหรือไง?”หยุนเจิงเห็นเช่นนี้ก็รีบเดินมาด้านหน้าและกล่าวว่า “ข้าคือองค์ชายหกหยุนเจิง ไม่ทราบว่าหรงกั๋วกงเรียกหาข้ามีเรื่องอันใด?”“เจ้านะหรือองค์ชายหก?”ฉินลิ่วก่านหันหน้าไปมองหยุนเจิงอย่างพิจารณา ก่อนจะตบไหล่เซียวติ้งอู่ เผยให้เห็นฟันขาวอันแข็งแกร่งของเขา “เจ้าหาคนมาหลอกข้าให้ดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือ?”เซียวติ้งอู่รีบส่ายหน้า “หลานไม่กล้าขอรับ ผู้นี้คือองค์ชายหกจริงๆ ขอรับ”“หากเจ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 169

    หลังจากการควบม้าพุ่งไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า ฉินลิ่วก่านก็พาหยุนเจิงมาถึงหน่วยตีเหล็กแล้ว อันธพาลเฒ่าผู้นี้ยังคงควบม้าบุกเข้าไป องครักษ์หน่วยตีเหล็กเหล่านั้นก็ไม่กล้าขวางเขาเมื่อมาถึงหน่วยตีเหล็ก หยุนเจิงก็เจอกับคนคุ้นเคยจักรพรรดิเหวินช่างรวดเร็วทันใจจริงๆช่างเหล็กที่อยู่ที่ร้านตีเหล็กเหล่านั้น ตอนนี้ถูกย้ายเข้ามาอยู่ในหน่วยตีเหล็กของกรมโยธาแล้วหลังจากสอบถามเล็กน้อย หยุนเจิงก็เข้าใจถึงสถานการณ์ชัดเจนแล้ว ที่แท้อันธพาลเฒ่าฉินลิ่วก่านผู้นี้ไม่รู้ไปรู้ข่าวเรื่องเหล็กลวดลายบุปผานี้มาจากที่ใด จึงได้พรวดพราดบุกเข้ามาในหน่วยตีเหล็ก และต้องการให้พวกเขาตีดาบกวนอูให้เขาเล่มหนึ่งในขณะที่ช่างเหล็กเหล่านี้กำลังสอนให้คนในหน่วยตีเหล็กลวดลายบุปผา พวกเขาพลั้งปากพูดมากไปหน่อย พูดถึงเรื่องเหล็กลวดลายบุปผาลักษณะขนนกที่หยุนเจิงเคยกล่าวถึงให้กับช่างเหล็กในหน่วยฟังสุดท้ายเรื่องนี้ดันไปเข้าหูของฉินลิ่วก่านเข้าฉินลิ่วก่านต้องการให้ช่างเหล็กเหล่านี้สร้างอาวุธเหล็กลวดลายบุปผาชนิดให้เขาแต่ตอนนั้นหยุนเจิงเอ่ยถึงเหล็กลวดลายบุปผาลักษณะขนนกให้พวกเขาฟังเพียงคร่าวๆ เท่านั้น พวกเขาไม่สามารถสร้างออกมาไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 170

    จักรพรรดิเหวินโบกพระหัตถ์อย่างเหลืออด ดวงตาจ้องมองไปที่ฉินลิ่วก่าน ตะคอกด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “เจ้าเฒ่า เจ้าคิดจะทำสิ่งใด?”เส้นเลือดผุดพรายขึ้นบนหน้าผากจักรพรรดิเหวินด้วยความโกรธ โกรธจนตัวสั่น จ้องมองไปที่ฉินลิ่วก่านอย่างดุร้ายดูจากท่าทางวางมาดเช่นนี้ ราวกับว่าจะลงดาบต่อสู้กับฉินลิ่วก่านแล้ว“ฝ่าบาท รู้อยู่แล้วยังแกล้งถามอีกหรือ?”ฉินลิ่วก่านทำสีหน้าท่าทางเล่นหน้าเล่นตายิ้มขี้เล่น “ฝ่าบาท ทอดพระเนตรดูสิ ดาบอันล้ำค่าเล่มแรกแห่งต้าเฉียนเรา องค์ชายหกประทานให้พระองค์แล้ว ในฐานะที่กระหม่อมเป็นขุนพลผู้ห้าวหาญคนแรกแห่งต้าเฉียน ควรได้รับดาบล้ำค่าเล่มที่สองถูกต้องหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“เจ้าเนี่ยนะขุนพลผู้ห้าวหาญคนแรก?”จักรพรรดิเหวินทั้งโกรธ อีกทั้งยังรู้สึกตลกขบขัน ดุด่าด้วยความโกรธว่า “เจ้าช่วยรักษายางอายตัวเองเอาไว้สักหน่อยได้หรือไม่?”“ขุนพลผู้ห้าวหาญคนแรกใยถึงไม่ใช่ข้ากันเล่า?” ฉินลิ่วก่านทำท่าทางขมึงทึงพลางกล่าว “พระองค์ก็ลองไปถามเหล่าขุนนางบู้บุ๋นดูสิ ว่ามีใครกล้าสู้กับข้าหรือไม่”ในขณะที่กล่าวนั้น อันธพาลเฒ่าผู้นี้หันไปมองรอบๆ หน่วยตีเหล็กราวกับว่ากำลังบอก หากใครกล้าบอกว่าเขาไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 171

    อันที่จริงแล้วเหล็กลวดลายบุปผาลักษณะขนนกนั้นทำยากมากจนกระทั่งวันที่สามช่วงตะวันขึ้นอยู่เหนือศีรษะ ช่างเหล็กหลายพันคนทำล้มเหลวไปจนนับครั้งไม่ถ้วน กว่าจะทำดาบล้ำค่าที่อันธพาลเฒ่าผู้นี้ต้องการออกมาได้อีกอย่าง เหล็กลวดลายบุปผาลักษณะขนนกนี้ สำหรับหยุนเจิงแล้วยังนับว่าไม่ได้มาตรฐานสักเท่าไหร่อย่างไรก็ตาม หยุนเจิงก็ไม่กล้าคุยโวโอ้อวดอีกต่อไปแล้วขืนคุยโวโอ้อวดต่อไป ตาเฒ่าผู้นี้ต้องให้เขาทำดาบล้ำค่าให้อีกเล่มเป็นแน่ หากเป็นเช่นนั้น เอาชีวิตข้าไปเสียดีกว่าดาบทั้งเล่มถูกสร้างมาจากเหล็กลวดลายบุปผา อีกทั้งยังตีออกมาเป็นชิ้นเดียวอีกด้วยหยุนเจิงรู้สึกว่า ของสิ่งนี้แสดงถึงการตีเหล็กขั้นสูงสุดแห่งราชวงศ์ต้าเฉียนแล้ว โชคดีที่มาสร้างที่หน่วยตีเหล็กของกรมโยธา หากสร้างที่ร้านตีเหล็กของเขาแล้วล่ะก็ คาดว่าเวลาสองเดือนก็สร้างออกมาไม่ได้เมื่อสร้างดาบล้ำค่าออกมาได้สำเร็จ ฉินลิ่วก่านก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นด้วยความดีใจ“วะฮ่าๆๆ ดาบล้ำค่า คู่ควรกับวีรบุรุษ!”ฉินลิ่วก่านเงยหน้ามองฟ้าหัวเราะเสียงกัง “เจ้าหนู ดูดีๆ ล่ะ ข้าจะสอนวิชาดาบสามสิบหกท่าสะท้านวายุให้เจ้า เจ้าอย่าหาว่าข้าไม่รักษาคำ

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1506

    "พวกเจ้าลำบากกันมากจริงๆ!" หยุนเจิงกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น พลางหยุดบทสนทนาของสองพี่น้อง ทำให้หัวใจของเขารู้สึกอุ่นวาบ เสิ่นลั่วเยี่ยนยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดขึ้น "ฝ่าบาท รีบไปดูเจ้าหนูน้อยของพวกเราเถิด..." ในระหว่างที่เสิ่นลั่วเยี่ยนพูด ฮูหยินเสิ่นก็อุ้มเด็กน้อยเข้ามาส่งให้หยุนเจิง หยุนเจิงยื่นมือออกไปโดยไม่รู้ตัว เพื่อจะรับเด็กมาอุ้ม แต่เมื่อมือยื่นออกไปแล้ว กลับชะงักค้างอยู่ตรงนั้น เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มอุ้มอย่างไรดี ในฐานะคนเป็นพ่อครั้งแรก เขาทั้งตื่นเต้นและประหม่า แม้แต่การอุ้มลูกก็กลัวว่าจะทำผิดวิธี และทำให้เด็กที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้รับบาดเจ็บ เมื่อเห็นท่าทางลำบากใจของหยุนเจิง ทุกคนรอบข้างก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ "ไม่เป็นไร!" ฮูหยินเสิ่นสังเกตเห็นความกังวลของหยุนเจิง จึงพูดปลอบพร้อมกับยื่นเด็กน้อยส่งให้เขา "เด็กไม่ได้เปราะบางอย่างที่เจ้าคิด อุ้มแบบข้านี่ก็พอแล้ว..." "โอ้ ได้ๆ..." หยุนเจิงมองดูท่าทางการอุ้มของฮูหยินเสิ่นอย่างละเอียด ก่อนจะรับเด็กมาด้วยความระมัดระวัง เขาอุ้มเด็กไว้ในอ้อมแขนด้วยความตื่นเต้นและความสงสัย พลางก้มหน้ามองลูกของตัวเอง บอกตาม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1505

    วันถัดมา หยุนเจิงและเจียเหยาก็นำคนเดินทางออกไป หยุนเจิงเร่งรีบที่จะกลับเมืองติ้งเป่ย จึงพาเพียงกองทหารองครักษ์ 200 นายเท่านั้น ปล่อยกองทัพส่วนใหญ่ที่เหลือไว้เบื้องหลัง ขบวนเดินทางด้วยความรวดเร็ว มุ่งหน้ากลับติ้งเป่ยอย่างเร่งด่วน พวกเขาเพิ่งผ่านด่านเป่ยลู่มาได้ไม่นาน ก็พบผู้ส่งสารจากติ้งเป่ยที่เดินทางมารายงานข่าว "ขอรายงานฝ่าบาท พระชายาอ๋องประสูติเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ พระโอรสและพระชายาปลอดภัยดี!" ผู้ส่งสารรายงานด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หยุนเจิงถึงกับชะงักเล็กน้อย เสิ่นลั่วเยี่ยนคลอดแล้ว? เจ้าหนูน้อยนี่ รีบร้อนจะเกิดเสียจริง! ทั้งที่ตนเองเร่งรีบกลับมาแทบตาย แต่สุดท้ายก็ไม่ทันช่วงเวลาที่ลูกคนแรกของตนเกิด คิดได้เช่นนี้ หยุนเจิงก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เมื่อคิดว่าทั้งเสิ่นลั่วเยี่ยนและลูกปลอดภัยดี หินหนักในใจของหยุนเจิงก็เหมือนถูกยกออกไป "ยินดีกับฝ่าบาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ!" เหล่ากองทหารองครักษ์พากันกล่าวแสดงความยินดีต่อหยุนเจิง เสิ่นลั่วเยี่ยนให้กำเนิดรัชทายาทแล้ว หมายความว่าอ๋องติ้งเป่ยมีทายาทสืบทอดแล้ว! พูดแบบไม่เกรงใจ หากหยุนเจิงเกิดเหตุ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1504

    "คำพูดเช่นนี้ หากตอบกลับไม่ดี อาจจบลงด้วยการถูกส่งตัวเข้าคุก เมื่อเห็นลู่เตี้ยนถูกกดดันจนพูดไม่ออก ขุนนางฝ่ายขวาผู้ปรึกษาพระราชกิจรีบลุกขึ้นกล่าว “ฝ่าบาท ราชสำนักมีบทกฎหมายของราชสำนัก พวกเราทั้งหลายล้วนเป็นขุนนางราชสำนัก หากไม่มีความผิด แม้แต่ฝ่าบาทยังไม่มีสิทธิ์บังคับให้พวกเราทั้งหลายออกแรงงานเช่นนี้ ฝ่าบาททรงปฏิบัติกับพวกเราทั้งหลายเช่นนี้ ย่อมเป็นการละเมิดบทกฎหมายของราชสำนัก” ไม่เสียชื่อขุนนางผู้ปรึกษาฝ่ายขวา ที่เปิดปากก็หยิบยกบทกฎหมายราชสำนักขึ้นมาอ้าง นี่คือกลยุทธ์ที่พวกขุนนางผู้มีหน้าที่ชี้แนะมักใช้อยู่เสมอ กฎหมายราชสำนักอยู่ที่นั่นหยุนเจิงยังไม่มีอำนาจแก้ไขกฎหมายราชสำนักได้ แม้เขาจะเป็นผู้บัญชาการเขตซั่วเป่ย และมีกฎหมายเฉพาะของตนเอง แต่กฎหมายของเขาก็ใช้ได้แค่ในเขตซั่วเป่ย ยิ่งไปกว่านั้น เขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือยังไม่ขึ้นกับเขตซั่วเป่ย “ข้าพูดแล้วว่า พวกเจ้าไม่ได้มีความผิด และข้าก็ไม่ได้จะให้พวกเจ้าไปออกแรงงาน นี่เรียกว่าการสัมผัสความทุกข์ยากของราษฎรต่างหาก!” หยุนเจิงมองชายคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา “เมื่อไม่นานมานี้ เสด็จพ่อของข้าเสด็จมายังซั่วเป่ย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1503

    เมื่อได้ยินคำกล่าวแบบ “นักปราชญ์” ของหยุนเจิง ทุกคนถึงกับหันไปมองหน้ากันด้วยความงุนงง พวกเขาเข้าใจความหมายตามตัวอักษรของคำพูดนี้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่หยุนเจิงต้องการสื่อจริงๆ คืออะไร? ทุกข์ทนจิตใจ เหน็ดเหนื่อยกายา อดอยากเนื้อหนัง? หลังนิ่งอึ้งไปนาน ในที่สุดลู่เตี้ยนก็รวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้นว่า “โปรดให้อภัยที่ข้าน้อยโง่เขลา ไม่ทราบฝ่าบาทหมายความว่าอย่างไร?” “ยังไม่เข้าใจอีกหรือ?” หยุนเจิงยิ้ม “ที่ชายแดนชิงนั้น ข้ามีเหมืองสำหรับเก็บรวบรวมถ่านหินร่วนแห่งหนึ่ง ข้าตั้งใจจะให้พวกท่านไปสัมผัสถึงความทุกข์ยากของราษฎรก่อน เพื่อที่เมื่อถึงเขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือ จะได้สามารถรับผิดชอบภารกิจที่เสด็จพ่อมอบหมายให้ได้อย่างดียิ่งขึ้น” เมื่อคำพูดของหยุนเจิงจบลง ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนสีไปตามกัน เหมือง...เหมืองถ่านหิน? หยุนเจิงถึงกับต้องการให้พวกเขาไปทำงานเก็บถ่านหินในเหมือง? บ้าหรือเปล่า? คนเหล่านี้ต่ำสุดก็เป็นขุนนางตำแหน่งห้าขั้นล่างสุด แต่กลับให้พวกเขาไปทำงานเหมือง? นี่คิดจะใช้พวกเขาเป็นแรงงานเช่นนั้นหรือ? ในชั่วพริบตา ความหวาดกลัวและความโกรธผุดขึ้นในใจของทุ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1502

    "เมื่อได้ยินพวกเขาแนะนำตัวทีละคนๆ หยุนเจิงก็เอ่ยในใจว่าดีจริงๆ!แต่ละคนล้วนมีตำแหน่งในราชสำนักไม่น้อยเลย ต่ำสุดยังเป็นขุนนางตำแหน่งขั้นห้า ยิ่งไปกว่านั้น คนเหล่านี้ยังไม่ถือว่าแก่เลย อนาคตยังมีพื้นที่ให้ไต่เต้าขึ้นอีกมาก สำหรับหยุนเจิง นี่นับว่าเป็นของขวัญอันล้ำค่ามาก! ล้ำค่ายิ่งกว่าของขวัญที่เขาได้รับในวันแต่งงานเสียอีก! นี่สิถึงจะเรียกได้ว่าเป็นของขวัญแต่งงานที่แท้จริง! เมื่อทุกคนแนะนำตัวเสร็จ หยุนเจิงก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นกล่าวว่า “พระชายาอ๋องกำลังจะคลอด บัดนี้ข้าต้องรีบเดินทางกลับเมืองติ้งเป่ย วันนี้ก็ถือเสียว่าเป็นงานเลี้ยงต้อนรับล่วงหน้าสำหรับพวกท่านแล้วกัน” “ขอบพระทัยฝ่าบาท!” ทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพพร้อมเพรียงกัน ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ พวกเขาก็ถูกส่งมาแล้ว สถานการณ์ในเขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือเป็นอย่างไรนั้น ทุกคนต่างรู้กันดี เขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือนั้นในนามเป็นของราชสำนัก เจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ก็ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนัก แต่ปัญหาคือ ด่านเป่ยลู่ขวางอยู่ตรงนั้น กองทัพและคำสั่งจากราชสำนักไม่สามารถผ่านด่านเป่ยลู่ไปถึงเขตป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1501

    “นี่คือรายชื่อของขวัญทั้งหมด ขอเชิญท่านอ๋องตรวจสอบพ่ะย่ะค่ะ” ในช่วงบ่าย อวี๋ฝูนำคนมาจัดการบันทึกรายการของขวัญที่ได้รับจากงานแต่งของหยุนเจิงจนเสร็จสิ้น “ดีมาก ทำงานได้คล่องแคล่วดี” หยุนเจิงรับสมุดเล่มเล็กมาด้วยรอยยิ้ม และไม่ลืมที่จะชมอวี๋ฝูก่อน “เป็นหน้าที่ของข้าน้อยอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” อวี๋ฝูตอบด้วยท่าทีเคารพ “เอาล่ะ ข้าจะตรวจดูเอง เจ้าถอยไปก่อนเถิด” “ข้าน้อยขอทูลลา!” อวี๋ฝูก้มตัวคำนับก่อนจะถอยออกไป หยุนเจิงเดินถือสมุดเล่มเล็กไปนั่งในลานบ้าน เปิดสมุดด้วยความคาดหวังเต็มเปี่ยม การแต่งงานระหว่างตนกับเจียเหยาเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น ของขวัญที่ได้รับ ย่อมต้องมีระดับกันบ้าง! นี่น่าจะเป็นรายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว! พูดก็พูดเถอะ เจ้าสามไม่ใช่กำลังขาดเงินอยู่หรือ? ถ้าเขาจัดงานแต่งทุกๆ ไม่กี่ปี เงินทองก็ไหลมาเทมาเองแล้วกระมัง? เฮ้อ! เป็นองค์รัชทายาททั้งที ยังไม่รู้จักหาเงินอีก เสียทีที่ได้ชื่อว่าเป็นองค์รัชทายาท หยุนเจิงแอบวิจารณ์หยุนลี่ในใจ ขณะพลิกเปิดสมุดเล่มเล็กอย่างช้าๆ จะเห็นได้ว่า อวี๋ฝูเป็นผู้ดูแลที่ยอดเยี่ยมมาก เขาไม่เพียง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1500

    ตอนนี้หยุนเจิงไม่มีเวลามากพอที่จะค่อยๆ แยกแยะว่าใครซื่อสัตย์หรือไม่ซื่อสัตย์ จึงต้องใช้วิธีการที่เด็ดขาด ฆ่าบางคน ให้รางวัลบางคน และกดดันบางคน! ว่าแต่จะฆ่าใคร ให้รางวัลใคร หรือกดดันใคร เขาเองก็ยังไม่แน่ใจนัก อย่างไรก็ตาม ในฟู่โจวที่กว้างใหญ่นี้ ย่อมต้องมีขุนนางที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างแน่นอน ในภายหลัง เขาก็จะใช้คนเหล่านั้นมาเป็นเป้าหมายจัดการ ขุนนางใหม่มารับตำแหน่ง ย่อมต้องจุดไฟสามดวงให้ลุกโชน! ขณะที่หยุนเจิงกำลังครุ่นคิด เจียเหยาก็เดินเข้ามาหาเขา “พวกเราจะออกเดินทางเมื่อไรหรือ?” ทันทีที่มาถึง เจียเหยาก็ถามขึ้น “พรุ่งนี้เถอะ!” หยุนเจิงบีบขมับที่เริ่มปวดเล็กน้อย “วางใจเถอะ ข้าอยากกลับติ้งเป่ยมากกว่าเจ้าซะอีก!” “เรื่องนี้ข้าเชื่อ” เจียเหยายิ้มเล็กน้อย ก่อนถามต่อ “เจ้ากำลังปวดหัวเรื่องการบริหารฟู่โจวหรือ?” “ใช่แล้ว!” หยุนเจิงไม่ปฏิเสธ “ข้าเกิดมาเพื่อเป็นแม่ทัพนำทัพออกรบ เรื่องการปกครองบ้านเมือง ข้าไม่ถนัดเลยจริงๆ...” ในชีวิตก่อน มีคนสอนเขารบ แต่ไม่มีใครสอนเขาเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ยิ่งกว่านั้น ชายคนนี้ที่ร่างเดิมเป็นของเขาก็ไม่เคยเรียนร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1499

    หลังจากจักรพรรดิเหวินและหยุนลี่เสด็จออกจากหัวเมืองสี่ทิศไปแล้ว หยุนเจิงเองก็เตรียมตัวจะออกเดินทางเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ก่อนจะออกเดินทาง เขายังต้องจัดการเรื่องการบริหารบ้านเมืองในฟู่โจวให้เรียบร้อย อย่างน้อยต้องให้ขุนนางทุกระดับปฏิบัติหน้าที่ของตน ตอนนี้เขายังไม่มีเวลาหรือความคิดที่จะลงมือจัดการกับขุนนางเหล่านี้ หากออกแรงกดดันมากเกินไป เกรงว่าฟู่โจวอาจจะวุ่นวายจนควบคุมไม่อยู่ เขาต้องการให้ขุนนางเหล่านี้อยู่ในความสงบก่อน รอจนเขาจัดการเรื่องในมือเสร็จสิ้น ค่อยปรับเปลี่ยนขุนนางในฟู่โจวทีหลัง แม้ฟู่โจวจะเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดินแดนนอกด่าน แต่ราชการในฟู่โจวย่อมซับซ้อนกว่าดินแดนนอกด่านมาก หากเร่งรีบเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาไม่จำเป็นได้ ด้วยเหตุนี้ หยุนเจิงจึงใช้โอกาสที่ขุนนางที่มาร่วมงานแต่งของเขาและเจียเหยายังไม่กลับ เรียกพวกเขามารวมตัวกันที่จวนของเขา เขาไม่ได้รู้จักขุนนางเหล่านี้ดีนัก จึงได้มอบหมายให้จี้หราน อดีตเจ้าเมืองฟู่โจว รักษาการในหน้าที่บริหารบ้านเมืองฟู่โจวไปก่อน หลังจากประกาศเรื่องนี้เสร็จ หยุนเจิงก็กล่าวเตือนขุนนางทั้งหลายว่า “ข้าเป็นคนที่นำทัพออกศึก อารมณ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1498

    “อืม เรื่องนี้เจ้าต้องใส่ใจให้มาก!” จักรพรรดิเหวินตรัสเตือน “อย่าปล่อยให้คนของเจ้าหกแฝงตัวอยู่รอบตัวเจ้าเพื่อสืบข่าวอีกต่อไป!” ในชั่วขณะนั้น หยุนลี่เริ่มคิดถึงผู้คนที่เคยร่วมวางแผนกำจัดหยุนเจิงกับเขาก่อนหน้านี้ เฉียวเหยียนเซียน ฮั่วเหวินจิ้ง... แม้กระทั่งหยวนกุยก็ยังไม่รอดพ้นจากความสงสัยของเขา แต่จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่มีใครแสดงพฤติกรรมน่าสงสัย หรือว่า คนของเจ้าหกที่แฝงตัวอยู่ จะซ่อนตัวได้ลึกถึงเพียงนี้? “กลับเมืองหลวงแล้วค่อยตรวจสอบอย่างละเอียดอีกที!” จักรพรรดิเหวินยกพระหัตถ์ขึ้นเล็กน้อยเป็นสัญญาณให้หยุนลี่วางใจ ก่อนจะมองเขาด้วยความอ่อนโยน “ข้ารู้ว่าเจ้าถูกเจ้าหกบีบเงินไปถึงสี่ล้านตำลึง ในใจเจ้าคงอึดอัดและเจ็บปวด ข้าจึงให้จางซูช่วยสร้างโรงกลั่นสุราไว้ กลับไป ข้าจะยกโรงกลั่นนั้นให้เจ้า” “เสด็จพ่อ เรื่องนี้... ลูกไม่อาจรับได้พ่ะย่ะค่ะ!” หยุนลี่ตกใจ รีบปฏิเสธพร้อมกับโบกมือไปมา “ไม่มีอะไรที่เจ้าจะรับไม่ได้! แผ่นดินนี้ข้าก็จะยกให้เจ้าแล้ว ข้ายังจะมาสนใจโรงกลั่นสุราอีกหรือ?” จักรพรรดิเหวินตรัสพร้อมส่ายพระพักตร์เบาๆ ก่อนจะกล่าวด้วยน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status