แชร์

บทที่ 166

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-03-28 17:00:00
“อีกอย่าง เสด็จพ่อก็บอกแล้วว่าไม่มีทางแต่งตั้งเจ้ให้เป็นองค์รัชทายาทแน่นอน หลายวันที่ผ่านมานี้ข้าก็คิดนะ ว่าในเมื่อเจ้าเป็นเช่นนี้แล้ว ข้าจะตั้งตนขัดแย้งกับเจ้าด้วยเหตุใดอีกเล่า”

“แค่ข้าคิดว่าเจ้าจะเดินทางไปซั่วเป่ย ต่อไปก็เกรงว่าเราสองพี่น้องจะไม่ได้เจอหน้ากันอีกต่อไปแล้ว ข้าก็เลยรู้สึกขอโทษเจ้าจริงๆ...”

หยุนลี่ทำสีหน้าท่าทางกล้าวอย่างจริงใจ!

หยุนเจิงที่ฟังอยู่แทบจะเชื่อจริงๆ แล้ว

“พี่สามกล่าวออกมาเช่นนี้ ทำให้ข้าดีใจมากจริงๆ”

หยุนเจิงคล้อยตามหยุนลี่ และแสร้งทำท่าทางซาบซึ้งใจ

“ไม่ว่าจะอย่างไร เราก็คือพี่น้องกันอยู่วันยังค่ำ!”

หยุนลี่ตบไหล่หยุนเจิงเบาๆ กล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ต่อไปหากใครกล้ามารังแกเจ้า พี่สามจะออกหน้าแทนเจ้าเอง!”

“จริงหรือ?” หยุนเจิงแสร้งเป็นซาบซึ้งจนจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว

“จริงแน่นอน!”

ไหยุนลี่พยักหน้าอย่างมั่นใจ และจู่ๆ ก็กล่าวอย่างโศกเศร้าว่า “เจ้าจะไปซั่วเป่ยแล้ว หากพี่สามอย่างข้าไม่ทำดีต่อเจ้าให้มากๆ เกรงว่าต่อไปคงจะไม่มีโอกาสทำดีกับเจ้าแล้ว!”

“พี่สาม!”

หยุนเจิงเรียกชื่อออกมาด้วยความซาบซึ้งตื้นตันใจ และคว้าตัวหยุนลี่มากอด “พี่สามคนดีของข้า เม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 167

    ในยามบ่าย หยุนเจิงฟังเซียวติ้งอู่สอนเรื่องการตั้งค่ายกลในการทำศึกอย่างตั้งใจ ตลอดไปจนถึงวิธีการตั้งรับมือหากศึกบุกทะลวงค่ายกลมาได้หลายวันที่ได้เรียนกับเซียวติ้งอู่ หยุนเจิงได้ความรู้ไปไม่น้อยเขาค่อยๆ ปรับตัวและความคิดขึ้น จากแรกเริ่มที่ทำตัวสบายๆ เขาก็จริงจังมากขึ้นเพียงแต่ว่า เขาความตั้งใจของแอบซ่อนอยู่ภายใน แต่ภายนอกทำตัวสบายๆหากคนอื่นเห็นท่าทางนี้ของเขาล่ะก็ เขาไม่เหมาะสมที่จะเป็นแมทัพนำทัพไปออกรบเลยและในขณะที่เซียวติ้งอู่กำลังอธิบายจะน้ำลายกระเด็น จู่ๆ ก็เกิดเสียงอันโกลาหลขึ้นข้างนอก“ท่านผู้บัญชาการเซียว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว...”เซียวติ้งอู่ขมวดคิ้วขึ้นทันใดเมื่อทหารเข้ามา เซียวติ้งอู่ก็ตำหนิด้วยสีหน้าดำคล้ำ “ตื่นตระหนกโหวกเหวกโวยวายมีเรื่องอันใดกัน?”ทหารตื่นตระหนกมาก “ท่านผู้บัญชาการเซียว หรง หรง หรงกั๋วกงบุกเข้ามาแล้วขอรับ...”“เจ้าว่าใครมานะ?”สีหน้าของเซียวติ้งอู่พลันเปลี่ยนไปทันทีราวกับว่าจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูก็มิปาน“หรง หรงกั๋วกงขอรับ!”ทหารกล่าวย้ำอีกครั้ง“เจ้าแน่ใจนะว่าเป็นเขา?”เซียวติ้งอู่กล่าวถามอย่างตื่นตระหนก“จะไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-29
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 168

    “ไม่เลว เจ้าแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนแล้ว”ฉินลิ่วก่านมองเซียวติ้งอู่ด้วยความพึงพอใจ“ขอบคุณท่านอาที่ชื่นชมขอรับ”เซียวติ้งอู่ยิ้ม และกล่าวถามอย่างเป็นกังวลว่า “ท่านอามาถึงที่นี่กะทันหันเช่นนี้ ไม่ทราบมีเรื่อวอันใดขอรับ?”“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า!”ฉินลิ่วก่านเม้มปากเล็กน้อยก่อนกล่าวว่า “ไป ไปตามองค์ชายหกมา”องค์ชายหกอย่างนั้นหรือ?สีหน้าของเซียวติ้งอู่พลันเปลี่ยนไปมาก และหันไปมองหยุนเจิงอันธพาลเฒ่านี่เรียกหาองค์ชายหกด้วยเหตุอันใดกันหรือว่าองค์ชายหกไปทำสิ่งใดให้เขาขุ่นเคืองอย่างนั้นหรือเมื่อเห็นเซียวติ้งอู่นิ่งไปเช่นนี้ ฉินลิ่วก่านจึงถลึงตาจ้องมอง ส่งเสียงตะคอกว่า “ยังยื่นนิ่งอยู่ทำไม หูเจ้าหนวกไปแล้วหรือไง?”หยุนเจิงเห็นเช่นนี้ก็รีบเดินมาด้านหน้าและกล่าวว่า “ข้าคือองค์ชายหกหยุนเจิง ไม่ทราบว่าหรงกั๋วกงเรียกหาข้ามีเรื่องอันใด?”“เจ้านะหรือองค์ชายหก?”ฉินลิ่วก่านหันหน้าไปมองหยุนเจิงอย่างพิจารณา ก่อนจะตบไหล่เซียวติ้งอู่ เผยให้เห็นฟันขาวอันแข็งแกร่งของเขา “เจ้าหาคนมาหลอกข้าให้ดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือ?”เซียวติ้งอู่รีบส่ายหน้า “หลานไม่กล้าขอรับ ผู้นี้คือองค์ชายหกจริงๆ ขอรับ”“หากเจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-29
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 169

    หลังจากการควบม้าพุ่งไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า ฉินลิ่วก่านก็พาหยุนเจิงมาถึงหน่วยตีเหล็กแล้ว อันธพาลเฒ่าผู้นี้ยังคงควบม้าบุกเข้าไป องครักษ์หน่วยตีเหล็กเหล่านั้นก็ไม่กล้าขวางเขาเมื่อมาถึงหน่วยตีเหล็ก หยุนเจิงก็เจอกับคนคุ้นเคยจักรพรรดิเหวินช่างรวดเร็วทันใจจริงๆช่างเหล็กที่อยู่ที่ร้านตีเหล็กเหล่านั้น ตอนนี้ถูกย้ายเข้ามาอยู่ในหน่วยตีเหล็กของกรมโยธาแล้วหลังจากสอบถามเล็กน้อย หยุนเจิงก็เข้าใจถึงสถานการณ์ชัดเจนแล้ว ที่แท้อันธพาลเฒ่าฉินลิ่วก่านผู้นี้ไม่รู้ไปรู้ข่าวเรื่องเหล็กลวดลายบุปผานี้มาจากที่ใด จึงได้พรวดพราดบุกเข้ามาในหน่วยตีเหล็ก และต้องการให้พวกเขาตีดาบกวนอูให้เขาเล่มหนึ่งในขณะที่ช่างเหล็กเหล่านี้กำลังสอนให้คนในหน่วยตีเหล็กลวดลายบุปผา พวกเขาพลั้งปากพูดมากไปหน่อย พูดถึงเรื่องเหล็กลวดลายบุปผาลักษณะขนนกที่หยุนเจิงเคยกล่าวถึงให้กับช่างเหล็กในหน่วยฟังสุดท้ายเรื่องนี้ดันไปเข้าหูของฉินลิ่วก่านเข้าฉินลิ่วก่านต้องการให้ช่างเหล็กเหล่านี้สร้างอาวุธเหล็กลวดลายบุปผาชนิดให้เขาแต่ตอนนั้นหยุนเจิงเอ่ยถึงเหล็กลวดลายบุปผาลักษณะขนนกให้พวกเขาฟังเพียงคร่าวๆ เท่านั้น พวกเขาไม่สามารถสร้างออกมาไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-29
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 170

    จักรพรรดิเหวินโบกพระหัตถ์อย่างเหลืออด ดวงตาจ้องมองไปที่ฉินลิ่วก่าน ตะคอกด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “เจ้าเฒ่า เจ้าคิดจะทำสิ่งใด?”เส้นเลือดผุดพรายขึ้นบนหน้าผากจักรพรรดิเหวินด้วยความโกรธ โกรธจนตัวสั่น จ้องมองไปที่ฉินลิ่วก่านอย่างดุร้ายดูจากท่าทางวางมาดเช่นนี้ ราวกับว่าจะลงดาบต่อสู้กับฉินลิ่วก่านแล้ว“ฝ่าบาท รู้อยู่แล้วยังแกล้งถามอีกหรือ?”ฉินลิ่วก่านทำสีหน้าท่าทางเล่นหน้าเล่นตายิ้มขี้เล่น “ฝ่าบาท ทอดพระเนตรดูสิ ดาบอันล้ำค่าเล่มแรกแห่งต้าเฉียนเรา องค์ชายหกประทานให้พระองค์แล้ว ในฐานะที่กระหม่อมเป็นขุนพลผู้ห้าวหาญคนแรกแห่งต้าเฉียน ควรได้รับดาบล้ำค่าเล่มที่สองถูกต้องหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“เจ้าเนี่ยนะขุนพลผู้ห้าวหาญคนแรก?”จักรพรรดิเหวินทั้งโกรธ อีกทั้งยังรู้สึกตลกขบขัน ดุด่าด้วยความโกรธว่า “เจ้าช่วยรักษายางอายตัวเองเอาไว้สักหน่อยได้หรือไม่?”“ขุนพลผู้ห้าวหาญคนแรกใยถึงไม่ใช่ข้ากันเล่า?” ฉินลิ่วก่านทำท่าทางขมึงทึงพลางกล่าว “พระองค์ก็ลองไปถามเหล่าขุนนางบู้บุ๋นดูสิ ว่ามีใครกล้าสู้กับข้าหรือไม่”ในขณะที่กล่าวนั้น อันธพาลเฒ่าผู้นี้หันไปมองรอบๆ หน่วยตีเหล็กราวกับว่ากำลังบอก หากใครกล้าบอกว่าเขาไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-30
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 171

    อันที่จริงแล้วเหล็กลวดลายบุปผาลักษณะขนนกนั้นทำยากมากจนกระทั่งวันที่สามช่วงตะวันขึ้นอยู่เหนือศีรษะ ช่างเหล็กหลายพันคนทำล้มเหลวไปจนนับครั้งไม่ถ้วน กว่าจะทำดาบล้ำค่าที่อันธพาลเฒ่าผู้นี้ต้องการออกมาได้อีกอย่าง เหล็กลวดลายบุปผาลักษณะขนนกนี้ สำหรับหยุนเจิงแล้วยังนับว่าไม่ได้มาตรฐานสักเท่าไหร่อย่างไรก็ตาม หยุนเจิงก็ไม่กล้าคุยโวโอ้อวดอีกต่อไปแล้วขืนคุยโวโอ้อวดต่อไป ตาเฒ่าผู้นี้ต้องให้เขาทำดาบล้ำค่าให้อีกเล่มเป็นแน่ หากเป็นเช่นนั้น เอาชีวิตข้าไปเสียดีกว่าดาบทั้งเล่มถูกสร้างมาจากเหล็กลวดลายบุปผา อีกทั้งยังตีออกมาเป็นชิ้นเดียวอีกด้วยหยุนเจิงรู้สึกว่า ของสิ่งนี้แสดงถึงการตีเหล็กขั้นสูงสุดแห่งราชวงศ์ต้าเฉียนแล้ว โชคดีที่มาสร้างที่หน่วยตีเหล็กของกรมโยธา หากสร้างที่ร้านตีเหล็กของเขาแล้วล่ะก็ คาดว่าเวลาสองเดือนก็สร้างออกมาไม่ได้เมื่อสร้างดาบล้ำค่าออกมาได้สำเร็จ ฉินลิ่วก่านก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นด้วยความดีใจ“วะฮ่าๆๆ ดาบล้ำค่า คู่ควรกับวีรบุรุษ!”ฉินลิ่วก่านเงยหน้ามองฟ้าหัวเราะเสียงกัง “เจ้าหนู ดูดีๆ ล่ะ ข้าจะสอนวิชาดาบสามสิบหกท่าสะท้านวายุให้เจ้า เจ้าอย่าหาว่าข้าไม่รักษาคำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-30
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 172

    “ตกลงอันธพาลเฒ่าผู้นี้เป็นใครกันแน่?” หยุนเจิงกล่าวด้วยสีหน้าแปลกใจ “ข้าดูท่าแล้วอันธพาลเฒ่าผู้นี้แม้แต่กับเสด็จพ่อข้าเขาก็ไม่เกรงกลัว ข้ารู้สึกว่าเขามีโอกาสต่อสู้กับเสด็จพ่อข้าได้ตลอดเวลา”“ไม่ถึงขนาดต่อสู้หรอก แต่เขาแค่ไม่กลัวฝ่าบาทก็เท่านั้น”เยี่ยจื่อเม้มปากยิ้มก่อนกล่าว “เมื่อก่อนข้าเคยได้ยินพ่อตาข้าพูดถึงคนผู้นี้ บอกว่าคนผู้นี้ยังเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับฝ่าบาท ช่วยชีวิตฝ่าบาทในยามฝ่าบาทตกอยู่ในอันตรายมาได้หลายครั้งหลายครา หลังจากที่ฝ่าบาทครองบัลลังก์ เดิมทีตั้งใจจะพระราชทานตำแหน่งอ๋องต่างสกุลให้เขา แต่เขาก็ยืนยันที่จะไม่รับ ฝ่าบาทเองก็จนปัญญา จึงทำได้เพียงแต่งตั้งให้เขาเป็นท่านกั๋วกง...”พระเจ้าช่วย!อันธพาลเฒ่าผู้นี้เคยเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเสด็จพ่อด้วยอย่างนั้นหรือ!มินาล่ะว่าเหตุใดอันธพาลเฒ่าผู้นี้ถึงได้กำเริบสืบสานมากถึงเพียงนี้!เพียงแต่ว่าอันธพาลเฒ่าผู้นี้เป็นคนหยาบกระด้าง แถมยังเป็นคนฉลาดหลักแหลมมากอีกด้วย หากได้รับพระราชทานแซ่วัง คงจะอยู่ยาก!ได้รับพระราชทานแซ่วัง มิสู้เป็นได้ท่านกั๋วกงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขหรอกรู้สึกว่าอันธพาลเฒ่าผู้นี้คล้ายกับขุนพลเฉิงเหยาจินผู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-30
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 173

    วันต่อมา ยามตะวันโด่งเหนือศีรษะ หยุนเจิงมาตามแผนที่ในเทียบเชิญ มาถึงจวนหรงกั๋วกงทันทีที่มาถึงเขาก็เห็นชายหนวดดกดำยืนรออยู่หน้าประตูจวนแล้วจ้องมองดีๆ คนผู้นี้ราวกับถอดรูปมาจากฉินลิ่วก่านไม่มีผิดแต่เป็นฉินลิ่วก่านในวัยหนุ่มเมื่อเห็นหยุนเจิงที่มากับองครักษ์ เขาก็รีบวิ่งไปหาและกล่าวถามว่า “ใช่องค์ชายหกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม”หยุนเจิงลงมาจากหลังม้า “เจ้าเป็นบุตรชายของหรงกั๋วกงหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ!”ชายหนวดดกดำพยักหน้า และโค้งคารวะ “ฉินชีหู่คารวะองค์ชายหก!”ฉินชีหู่หรือหยุนเจิงทำสีหน้าท่าทางหมดคำพูดชัดเจนเลย การนับรุ่นของตระกูลฉินเรีบงลำดับจากหนึ่งถึงสิบหรือไรกันหากครบสิบเอ็ดรุ่นแล้ว รุ่นต่อไปคงจะเป็นเจ้าสิบเอ็ดกระมัง“พี่ใหญ่ฉินเกรงใจเกินไปแล้ว”หยุนเจิงโบกมือพลางกล่าว “หรงกั๋วกงเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเสด็จพ่อ ระหว่างเรา ไม่จำเป็นต้องมากพิธีหรอก”“ฮ่าๆๆ ข้ารอคำนี้อยู่พอดี!”ฉินชีหู่หัวเราะเสียงดังขึ้น กอดไหล่หยุนเจิงอย่างมีน้ำใจไมตรี “องค์ชายหกรีบเข้าไปข้างในเถอะ ท่านพ่อข้ากับฝ่าบาทกำลังรอเจ้าอยู่!”“ห๊ะ!”หยุนเจิงตกใจ “เสด็จพ่อก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?”“ก็ใช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 174

    ทั้งสองเห็นเช่นนี้ต่างก็ส่ายหน้าไปมาราวกับกลองสั่นก็มิปานหากทั้งสองกล้าเอ่ยปากบอกว่าอันธพาลเฒ่าผู้นี้โกงแล้วล่ะก็ มีหวังต้องถูกอันธพาลเฒ่าผู้นี้จับแขวนบนคานตากแห้งเป็นแน่“เจ้าเห็นหรือยัง!”ฉินลิ่วก่านอ้าปากหัวเราะสียงดังก่อนกล่าว “แม้แต่บุตรชายของเจ้ายังบอกเลยว่าข้าไม่ได้โกง!”จักรพรรดิเหวินหมดคำพูดแล้ว คร้านจะเถียงกับอันธพาลเฒ่าผู้นี้ “ได้ เจ้าชนะแล้ว พอเจ้าใจแล้วกระมัง รีบให้เด็กในจวนเจ้าเตรียมสุราอาหารได้แล้ว ข้าหิวจะแย่อยู่แล้ว!”“ดูเจ้าพูดเข้าสิ เจ้ามาถึงจวนข้าแล้ว จะขาดสุราอาหารได้อย่างไรกันเล่า”ฉินลิ่วก่านหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะหันไปที่ฉินชีหู่ “ยังไม่รีบไปสั่งให้คนยกสุราอาหารมาอีก ไม่ได้ยินที่ฝ่าบาดพูดหรือว่าหิวจะตาอยู่แล้วนั่น”ฉินชีหู่ใช้ทักษะแวบหายตัวไปภายในชั่วพริบตาอย่างไร้ร่องรอยหยุนเจิงเห็นเช่นนี้ก็อดที่จะรู้สึกเห็นใจฉินชีหู่ไม่ได้เขาต้องถูกอันธพาลเฒ่านี่ฏิบัติแบบใดถึงฝึกทักษะหายตัวไปอย่างแปลกประหลาดเยี่ยงเทพได้เช่นนี้ไม่นานนัก สุราอาหารก็ได้จัดเตรียมพร้อมแล้วฉินลิ่วก่านตั้งใจให้บ่าวรับใช้ในจวนออกไปทั้งหมดส่วนจักรพรรดิเหวินเองก็รับสั่งให้องครักษ์ทุกคนอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-31

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1350

    การส่งเจ้าหน้าที่จากราชสำนักไป ไม่เท่ากับโยนซาลาเปาให้สุนัขกินหรอกหรือ? เมื่อเผชิญกับเสียงคัดค้าน ถังซู่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง "อย่าพูดเช่นนั้นเลย ราชสำนักต้าเฉียนของเราจะไม่มีข้าราชการที่ภักดีต่อราชสำนักเลยหรือ? หากส่งพวกท่านไป ท่านจะพากันไปสวามิภักดิ์ต่อองค์ชายหกหรือไม่?" การตอบโต้ที่ร้ายแรงนัก! เมื่อคำพูดของถังซู่จบลง ขุนนางทั้งหลายก็เงียบงัน ไม่อาจโต้ตอบได้ ถังซู่พูดเช่นนี้แล้ว ใครเล่าจะกล้ารับคำต่อ? แม้จะมีคนคิดคัดค้าน ก็ทำได้เพียงปิดปากเงียบ ไม่เช่นนั้น หากถังซู่ป้ายความผิดกลับมา พวกเขาคงรับไม่ไหว จักรพรรดิเหวินทรงขมวดพระขนง ดูเหมือนจะกำลังชั่งน้ำหนักระหว่างผลได้ผลเสีย หลังจากทรงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จักรพรรดิเหวินเงยพระพักตร์มองหยุนลี่ "เรื่องนี้ต้องระมัดระวัง ข้าจะพิจารณาอย่างถี่ถ้วน! เจ้าจงไปร่างรายชื่อขุนนางที่จะมอบหมายงานนี้ร่วมกับกรมพระคลังเสียก่อน!" "ลูกน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ" หยุนลี่รับพระบัญชาด้วยความยินดี การให้เขาร่วมงานกับกรมพระคลังในเรื่องนี้ ไม่ใช่โอกาสดีที่จะกำจัดศัตรูทางการเมืองหรือ? "เอาล่ะ ต่อไปเรามาพูดถึงการมอบรางวัลให้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1349

    เช้าวันต่อมา ขณะประชุมในท้องพระโรง จักรพรรดิเหวินก็ได้รับข่าวสารที่จ้าวจี๋ส่งคนมารายงาน ชนเผ่าโม่ซีเริ่มถอนทัพแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ จ้าวจี๋ก็ยังไม่รู้สาเหตุ จ้าวจี๋เข้าใจว่าชนเผ่าโม่ซีต้องการล่อให้พวกเขาไล่ตาม จึงไม่ได้ส่งทัพออกไป เมื่อได้รับข่าวนี้ จักรพรรดิเหวินและเหล่าขุนนางต่างรู้สึกทั้งโกรธและขบขัน คิดว่าพวกเขาถูกล่อให้ไล่ตามอย่างนั้นหรือ? ชัดเจนว่าเป็นเพราะชนเผ่าโม่ซีเกิดปัญหาภายในจนต้องถอนทัพ! แต่ก็ไม่อาจโทษจ้าวจี๋ได้ เพราะจ้าวจี๋ไม่รู้ว่าหยุนเจิงได้นำกองทัพไปโจมตีฮุ๋ยกู่แล้ว เมื่อข่าวจากจ้าวจี๋ส่งมาถึง ก็เท่ากับยืนยันทางอ้อมว่ารายงานของหยุนเจิงเป็นความจริง ในท้องพระโรง บางคนดีใจ บางคนกังวล แม้กองทัพมณฑลทางเหนือจะเสียทหารฝีมือดีไปมาก แต่หยุนเจิงรับทหารข้าศึกที่ยอมจำนนไว้ได้มากพอ ซึ่งสามารถจัดเตรียมกองทัพใหม่ได้ทุกเมื่อ หยุนเจิงยิ่งสร้างฐานอำนาจให้ใหญ่ขึ้น ราชสำนักในตอนนี้แทบไม่มีทางที่จะควบคุมเขาได้ ในเวลานี้ ขอเพียงหยุนเจิงไม่ยกทัพลงใต้ ราชสำนักก็นับถือว่าโชคดีแล้ว จักรพรรดิเหวินทรงระงับความตื่นเต้นในพระทัย พลางทอดพระเนตรมู่ซุ่นด้วยสีหน้า

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1348

    จนเมื่อทุกคนออกไปหมดแล้ว จักรพรรดิเหวินจึงทรงให้หยุนลี่ยื่นรายงานการรบมาให้พระองค์ หลังจากทรงอ่านรายงานการรบอย่างละเอียดแล้ว จักรพรรดิเหวินทรงเงยพระพักตร์ขึ้นถามว่า "พวกเจ้าคิดว่ารายงานการรบของเจ้าหกนี้เป็นจริงหรือไม่?" หยุนลี่ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า "ลูกคิดว่า น่าจะเป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ เนื้อหาในรายงานล้วนตรวจสอบได้ เจ้าหกไม่มีความจำเป็นที่จะส่งรายงานเท็จมาพ่ะย่ะค่ะ" "คำขององค์รัชทายาทช่างสมเหตุสมผลยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ" เซวียเช่อและสวีสือฝู่ต่างพยักหน้าเห็นด้วย ในตอนนี้ หยุนเจิงไม่มีความจำเป็นที่จะรายงานผลงานเท็จอีกแล้ว เว้นเสียแต่ว่า หยุนเจิงอยากจะหยอกล้อพวกเขาเท่านั้น "อย่างนั้นหรือ?" จักรพรรดิเหวินทรงก้มพระพักตร์ลงตรึกตรองเล็กน้อย ก่อนทอดพระเนตรไปที่เซวียเช่อ "กองทัพมณฑลทางเหนือสูญเสียอย่างหนัก เจ้าคิดว่าตอนนี้เรามีโอกาสยึดด่านเป่ยลู่กลับคืนมาหรือไม่?" อะไรนะ?ทั้งสามต่างตกตะลึงในใจพร้อมกัน จักรพรรดิเหวินทรงต้องการยึดด่านเป่ยลู่คืนมาจริงๆ หรือ? ในใจของสวีสือฝู่และหยุนลี่ต่างเปี่ยมไปด้วยความยินดีอย่างยิ่ง ว่าจะสามารถยึดด่านเป่ยลู่คืนมาได้หรือ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1347

    ข่าวดีจากซั่วเป่ย? เมื่อได้ยินคำพูดของมู่ซุ่น ทุกคนต่างนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ "อ่าน!" จักรพรรดิเหวินทรงระงับความตื่นเต้นในพระทัย พยายามทำสีหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ "พ่ะย่ะค่ะ!" มู่ซุ่นรีบเปิดรายงานการรบ และอ่านเสียงดังว่า "ลูกหยุนเจิงกราบทูลเสด็จพ่อ: ลูกได้นำกองทัพเข้ายึดพื้นที่แม่น้ำซัวเล่ย..." เมื่อเสียงของมู่ซุ่นดังขึ้นในโสตของทุกคน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มแปรเปลี่ยน หยุนเจิงทำลายกองทัพพันธมิตรสามแคว้นจนแตกพ่าย ฆ่าศัตรูได้กว่าสิบหมื่นและจับเชลยอีกกว่าแสนหลังจากนั้น หยุนเจิงนำกองทัพยึดโฉวฉือได้สำเร็จ หยวนซู่ ราชาของโฉวฉือถูกกบฏสังหาร โฉวฉือทั้งแคว้นจึงยอมจำนน ต่อมา หยุนเจิงนำกองทัพจากป้อมซิงอันในทางใต้ของโฉวฉือ บุกโจมตีฮุนกู่ ฆ่าทหารและพลเรือนฮุ๋ยกู่กว่า 5 หมื่นคน อย่างไรก็ตาม หลังจากสู้รบติดต่อกัน กองทัพมณฑลทางเหนือก็สูญเสียอย่างหนัก กองทัพมณฑลทางเหนือมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเกือบแปดหมื่น นายทหารฝีมือดีเสียหายเกือบทั้งหมด ขณะนี้กำลังพักฟื้นกำลังพล ในตอนท้ายของรายงานการรบ หยุนเจิงยังเสนอจัดตั้งเขตปกครองทหารตะวันตกเฉียงเหนือ พร้อมเสนอชื่อผู้บัญชาการทหารสูงส

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1346

    เรื่องนี้ คงต้องกลับไปคิดดูให้ละเอียดอีกที อืม... ยังต้องเขียนรายงานการรบส่งให้เสด็จพ่อด้วย ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ต้องให้ตาเฒ่าผู้นั้นรับรู้ว่าเราได้เปิดเส้นทางบุกโจมตีชนเผ่าโม่ซีแล้ว อย่างน้อยจะได้ทำให้ตาเฒ่าเบาใจบ้าง ไม่ต้องเป็นกังวลไปหมดทุกเรื่อง …… ณ เมืองหลวง ต้าเฉียน "ข่าวดี! ข่าวดีจากซั่วเป่ย..." ทหารม้าหลายนายที่มีธงเด่นสะดุดตาปักอยู่บนหลัง วิ่งเข้าไปในประตูเมืองหลวงพร้อมร้องตะโกนเสียงดัง "ดูสิ! องค์ชายหกของพวกเราเอาชนะศึกได้อีกแล้ว!" "ข้าได้ยินมาว่าครั้งนี้เป็นการโจมตีซั่วเป่ยจากกุ่ยฟาง ต้าเย่ว์ และโฉวฉือทั้งสามแคว้น แต่จบเร็วถึงเพียงนี้?" "เจ้าก็ไม่ดูว่าองค์ชายหกคือใครเล่า!" "หากฝ่าบาทส่งองค์ชายหกไปตีชนเผ่าโม่ซี ข้าว่าชนเผ่าโม่ซีคงร้องไห้หาบิดามารดาเลยทีเดียว..." เหล่าทหารบนกำแพงเมืองต่างพูดคุยกันอย่างออกรส แม้ว่าชัยชนะของซั่วเป่ยจะไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย แต่พวกเขาก็ยังยินดีจากใจจริง ในขณะเดียวกัน จักรพรรดิเหวินได้เรียกขุนนางผู้ใหญ่ในราชสำนักบางส่วนมาประชุมที่ตำหนักของพระองค์ ขณะที่เซวียเช่อและคนอื่นๆ กำลังหารือเรื่องสงครามในเจ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1345

    พวกเขาเดินทางพร้อมฝูงแกะและฝูงวัว จึงเคลื่อนที่ได้อย่างล่าช้า ห้าวันให้หลัง หยุนเจิงจึงนำทัพกลับถึงป้อมซิ่งอัน ระหว่างทาง มีแกะบางตัวที่ไม่อาจทนไหว กลายเป็นเสบียงอาหารของพวกเขา เมื่อเห็นพวกเขากลับมาพร้อมของจำนวนมาก ป้อมซิ่งอันก็ตกอยู่ในความคึกคัก หยุนเจิงใจกว้างนัก โบกมือครั้งเดียวก็สั่งให้ฆ่าแกะหนึ่งพันตัวเลี้ยงฉลองแก่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเหล่าทหารหรือคนงานสร้างป้อม ก็ล้วนได้รับส่วนแบ่ง เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป ผู้คนยิ่งดีใจหนัก บางคนถึงกับคุกเข่าร้องตะโกนว่า "ทรงพระเจริญ" หลังจากจัดการเรื่องฆ่าแกะเสร็จ หยุนเจิงก็ขึ้นไปบนกำแพงเมืองป้อมซิ่งอันเพื่อดูความคืบหน้าของการขยายกำแพงวงนอก พวกเขาห่างหายไปหลายวัน แต่การขยายป้อมซิ่งอันกลับคืบหน้าไปได้อย่างดี รากฐานของกำแพงที่ขยายออกมานั้นถูกสร้างขึ้นเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ก็เพียงตอกดินและก่ออิฐขึ้นไปขณะหยุนเจิงกำลังมองดูอย่างเพลิดเพลิน สายลมหนาวก็พัดโหมมา ทำให้เขาหนาวจนตัวสั่น ฤดูหนาวมาถึงแล้วจริงๆ หยุนเจิงครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วสั่งองครักษ์ว่า "ไปเรียกหลี่เหวินโจวมา!" ไม่นาน หลี่เหวินโจวก็วิ่งมาหาหยุนเจิงพร้อมคำน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1344

    การบีบให้ต้าเฉียนยอมสงบศึก คือเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขา ซังเจี๋ยยืนอยู่บนที่สูง มองออกไปไกล ที่ไกลออกไป สามารถมองเห็นแนวทัพของต้าเฉียนที่ตั้งรับอยู่ "จ้าวจี๋คนนี้ ช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าปวดหัวจริงๆ" มองไปยังแนวทัพของศัตรู ซังเจี๋ยได้แต่ส่ายหน้าพร้อมหัวเราะขื่น การป้องกันของจ้าวจี๋ เรียกได้ว่าแน่นหนาจนไม่มีช่องว่าง แม้กองกำลังของชนเผ่าโม่ซีจะมีมากกว่าของจ้าวจี๋มากนัก แต่ไม่ต้องพูดถึงแนวป้องกันที่อยู่ด้านหลังเลย แค่จะเจาะผ่านแนวป้องกันนี้ก็ต้องสูญเสียอย่างหนัก ก่อนหน้านี้ พวกเขาแค่เปิดการโจมตีลองเชิง ก็สูญเสียกำลังพลไปกว่า 5,000 คนแล้ว ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ซังเจี๋ยได้ปรับเปลี่ยนการวางกำลังทัพอยู่ตลอด หวังว่าจ้าวจี๋จะเผยช่องโหว่เมื่อปรับกลยุทธ์การป้องกัน น่าเสียดาย จ้าวจี๋ไม่ได้เผยช่องโหว่ที่ใหญ่พอเลย ช่องโหว่เล็กๆ ที่เห็นเมื่อไม่กี่วันก่อน ก็เป็นเพียงแผนลวงของจ้าวจี๋ ที่ต้องการล่อให้พวกเขาเข้าโจมตี ดูท่าว่า การเจาะแนวป้องกันของศัตรูจากด้านหน้าในระยะเวลาอันสั้น คงเป็นไปไม่ได้ คงต้องดูว่า จักรพรรดิแห่งต้าเฉียนจะถอนกำลังจากที่นี่เพื่อป้องกันกองทัพอีกสายของพวกเขาห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1343

    หลายวันถัดมา หยุนเจิงนำกองทัพบุกโจมตีแนวหลังของศัตรูอย่างดุเดือด พวกเขายังคงปฏิบัติตามกฎการรบที่ใช้ในเป่ยหวน นอกจากคนชราและเด็กที่สูงไม่เกินขาม้า สังหารทั้งหมด! หากพบฝูงแกะหรือฝูงวัวของศัตรู ก็ฆ่าทิ้งโดยไม่ลังเล กำลังพลของศัตรูถูกส่งไปแนวหน้าจนหมด ทำให้แนวหลังว่างเปล่าอย่างยิ่ง บางเมืองมีกองกำลังป้องกันไม่ถึงห้าร้อยคน หลายแห่งแทบจะเรียกไม่ได้ว่าเป็นเมือง เป็นเพียงชุมชนขนาดใหญ่เท่านั้น ที่น่าทึ่งที่สุดคือ นักรบภูตสิบแปดคนสามารถยึดเมืองได้ด้วยกำลังเพียงหยิบมือ และเปิดประตูเมืองให้กองทัพใหญ่บุกเข้าไป กองทัพนับหมื่นบุกจู่โจมเหมือนฝูงตั๊กแตน สร้างความเสียหายให้แนวหลังของศัตรูจนเลือดนอง สุดท้าย หยุนเจิงตัดสินใจแบ่งกองทัพออกเป็นสามส่วนเพื่อโจมตีพร้อมกัน หยุนเจิงออกคำสั่งง่ายๆ พบเมืองที่ตีได้ก็โจมตี หากเจอเมืองใหญ่ให้เลี่ยงไป เพราะแนวหลังศัตรูว่างเปล่าและไม่กล้าออกมารบ ทุกเมืองที่ยึดได้จะมีข้อความตัวอักษรสีเลือดปรากฏบนกำแพงเมืองว่า “หากใครบังอาจล่วงเกินต้าเฉียน แม้อยู่ไกลก็ต้องถูกกำจัด!” นอกจากนี้ หยุนเจิงยังปล่อยข่าวลือว่าพวกเขามีกองทัพถึงแสนคน หลังโจ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1342

    กองทหารม้า! กองทหารม้าจำนวนมหาศาล! มองไปไกลสุดสายตาก็ไม่เห็นจุดสิ้นสุด ตอนนี้ กองทหารม้าศัตรูบุกมาถึงระยะไม่ถึงสองร้อยเมตรจากกำแพงป้อมแล้ว เขาเห็นชุดเกราะและธงรบของศัตรูอย่างชัดเจน นี่มันกองทหารม้าของต้าเฉียนจริงๆ! ต๋าจ้านยืนนิ่งมองกองทหารม้าต้าเฉียนที่บุกเข้ามาด้วยความฮึกเหิมจนลืมแม้แต่จะสั่งการป้องกัน จนกระทั่งลูกธนูพุ่งผ่านข้างหูของเขาไป เขาถึงเหมือนตื่นจากฝัน “เร็ว เข้าไปป้องกันจุดที่พัง! ตั้งแนวป้องกัน! ตั้งแนวป้องกัน!” ต๋าจ้านตะโกนจนสุดเสียง แต่ก็ไร้ความหมายใดๆ “ตั๊งๆๆ……” เสียงระฆังเตือนภัยดังสนั่นไม่หยุด ทหารในป้อมปู้ต๋าวั่งพยายามตั้งแนวป้องกันอย่างสับสน แต่ก่อนจะตั้งแนวเสร็จ ฝนลูกธนูก็พุ่งเข้ามา ถัดมา กองทหารม้าต้าเฉียนบุกทะลุช่องกำแพงเข้ามา สังหารทหารป้อมเหมือนฟันผลไม้ “หนีเร็ว!” “หนีเร็วเข้า!” “ช่วยด้วย ช่วยด้วย…” ขวัญกำลังใจของทหารป้อมปู้วั่งต๋าถูกทำลายแทบจะในทันที มีเพียงไม่กี่คนที่ยังต้านไว้สุดชีวิต แต่ส่วนใหญ่เหมือนแมลงวันไร้หัว วิ่งหนีอย่างอลหม่าน ตั้งแต่วินาทีที่กองทหารม้าต้าเฉียนปรากฏตัว พวกเขาก็พ่ายแพ้โดยสิ้นเชิ

DMCA.com Protection Status