ไอ้สารเลวคนนี้!ไม่ละอายใจสักนิด!เจียเหยาหน้าแดงมองทั้งสองคน ลังเลอยู่นานสองนาน ขยับมืออีกครั้ง ปลดเสื้อผ้าของตัวเองออกช้าๆเมี่ยวอินรู้สึกเกรงใจ จึงไม่ได้มองเจียเหยา เพียงแค่ก้มหน้าต่ำมองพื้นหยุนเจิงกลับทำสีหน้าสบายอกสบายใจ จับจ้องเจียเหยาโดยตรงเจียเหยากระอักกระอ่วนไม่กล้ามองหยุนเจิง ทำแค่เพียงก้มหน้าปลดก้มตาเสื้อของตัวเองภายใต้การจ้องมองของหยุนเจิง เสื้อของเจียเหยาค่อยๆ คลายออก เหลือเพียงเสื้อซับในตัวเดียวหยุนเจิงใจกระตุกเหอะ!ผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้ความจำเสื่อมจริงๆ กระมัง?“ทำต่อไป”น้ำเสียงของหยุนเจิงไม่เปลี่ยน ยังคงต้องมองเจียเหยาต่อไปเจียเหยาก้มหน้างุด ค่อยๆ ปลดเสื้อซับในพริบตาที่เจียเหยาปลดเสื้อซับใน หยุนเจิงการหมุนตัวกลับแม้ว่าเขาอยากจะเห็นมาก แต่ในเวลานี้ ทูตเทวนาในใจเขาก็เอาชนะทูตปีศาจได้หากเจียเหยาความจำเสื่อมจริง สำหรับนางแล้ว มันค่อนข้างโหดร้ายเขายอมรับว่าเขาเจ้าชู้แต่สำหรับบางคนเจ้าชู้ได้ สำหรับบางคน ไม่อาจเจ้าชู้เกินไปมองการกระทำของหยุนเจิง เมี่ยวอินรีบเดินไปข้างหน้า เก็บเสื้อผ้าที่ร่วงหล่นบนพื้นของเจียเหยาช่วยเอามาคลุมบนตัวนาง“หยุนเจิง ดูเ
เดิมทีเจียเหยาสามารถแกล้งความจำเสื่อมไปตลอดได้ทว่า นางใกล้จะทำสำเร็จแล้วตอนที่หยุนเจิงหมุนตัวกลับไป นั่นหมายความว่าในใจหยุนเจิงเริ่มเชื่อว่านางความจำเสื่อมแล้วสุดท้ายเจียเหยาก็ไม่ได้แกล้งความจำเสื่อมต่อไปนางยังต้องเจรจาต่อรองกับหยุนเจิงต่อไป ไม่สามารถแกล้งความจำเสื่อมไปได้ตลอด แกล้งความจำเสื่อมไปตลอด ไม่สู้นางไม่มาหาหยุนเจิงดีกว่า“เงื่อนไขของข้าไม่เปลี่ยน”หยุนเจิงคืนความสงบอย่างรวดเร็ว “ตกลงหรือไม่ กล่าวได้อย่างสบายใจ! ข้าไม่มีอารมณ์โต้เถียงกับเจ้าต่อไปแล้ว”เจียเหยามองหยุนเจิงเงียบๆ “เจ้าพิจารณาเรื่องที่เจ้าพูดสักหน่อย”“ไม่พิจารณา”หยุนเจิงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “บอกตามตรง ข้าค่อนข้างกระหายในร่างกายเจ้า! แต่สำหรับข้าแล้ว เจ้าไม่ได้คุ้มค่าอย่างที่เจ้าคิด! ข้าเจ้าชู้ แต่ไม่ได้เจ้าชู้ถึงขั้นสติเลอะเลือน”“จริงหรือ?”เจียเหยาไม่ได้โกรธ ในทางกลับกันยังสงบเป็นพิเศษ “หากเจ้ายืนกรานคำพูดของเจ้า ข้าตกลงเงื่อนไขของเจ้า”อืม?หยุนเจิงประหลาดใจผู้หญิงคนนี้เปิดสิ่งใดขึ้น?เวลาเพียงหนึ่งคืน เหตุใดเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้?เปิดเส้นลมปราณทั้งสองของเหรินได้กะทันหันหรือ?“ดีมาก!”
“ได้!”เจียเหยาไม่กล่าวมากความอีก เดินออกไปจากกระโจมอย่างรวดเร็ว“นางเกิดเรื่องใดขึ้น?”เมี่ยวอินถามหยุนเจิงด้วยความมึนงงวันนี้เจียเหยาผิดปกติมากผิดปกติจนน่าประหลาดใจ!“ไม่รู้”หยุนเจิงก็สงสัยมากเช่นกัน “แต่ข้ารู้ว่า นางกำลังวางแผนอยู่! เป็นไปได้มากว่านางมีเจตนาไม่ดี”เจตนาไม่ดีหรือ?เมี่ยวอินครุ่นคิด ทันใดนั้นก็เผยรอยยิ้มขี้เล่นออกมา “เจ้าว่า นางจะทำให้เจ้าตกหลุมรักนางหรือไม่? ขอแค่นางกุมหัวใจเจ้าได้ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเป่ยหวนล่มสลายแล้ว! อยู่ในสนามรบนางสู้เจ้าไม่ได้ จึงเอาชนะเจ้านอกสนามรบ!”“เอ่อ...”หยุนเจิงใบหน้ากระตุก เวลานี้ไม่รู้ควรกล่าวสิ่งใดเจียเหยามีความคิดนี้จริงหรือ?บางทีอาจมีกระมัง!เขารู้ จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของเขาก็คือเจ้าชู้เจียเหยาคิดจะใช้ร่างกายตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ท้าทายจุดอ่อนของเขา?“ช่างเถอะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว”หยุนเจิงสลัดความคิดฟุ่งซ่านในสมอง “ข้าไปเตรียมงานก่อน พวกเราควรเคลื่อนไหวได้แล้ว!”การรบครั้งนี้ เวลาที่ใช้รบไม่นานแต่เวลาที่ใช้ระหว่างทางล่าช้าไปมากเขาต้องรีบกลับไปซั่วเป่ยมีเรื่องมากมายรอให้เขาไปจัดการอยู่!กล่าวจบ หยุนเจิงเ
หลายวันต่อมา พวกหยุนเจิงรวมตัวกับหวังชี่หลังจากนำเชลยศึกเหล่านั้นมอบให้กับฉินชีหู่และชวีจื้อแล้ว หยุนเจิงนำกององครักษ์ของตัวเอง รวมกับกองทหารโลหิตที่นำโดยต่งกังหนึ่งพันคน เอาปศุสัตว์ที่เพียงพอให้พวกเขาบริโภคระหว่างทาง รีบกลับไปยังสามเมืองชายแดนล่วงหน้าเจียเหยาตามพวกเขามาด้วยระหว่างทาง หยุนเจิงยังเขียนจดหมายรายงานการรบ ให้คนนำจดหมายรายงานการรบและหนังสือยอมจำนนของเป่ยหวนส่งกลับเมืองจักรพรรดิหยุนเจิงเดิมทีคิดว่าเจียเหยาจะวางแผนตุกติกระหว่างที่ติดตามพวกเขาแต่เหนือความคาดหมายของเขา เจียเหยาเชื่อฟังอย่างมากถึงขั้นกล่าวได้ว่า นุ่มนวลอ่อนโยน เชื่อฟังคล้ายตามทุกอย่าง!หยุนเจิงคาดเดา ต่อให้ตอนนี้เขาหาสถานที่ไร้ผู้คน เล่นผีผ้าห่มกับเจียเหยาสักรอบ ใช้เตียงเป็นสนามรบ เจียเหยาล้วนคล้อยตามเขาทั้งหมดแต่การคล้อยตามเช่นนี้ของเจียเหยา ทำให้หยุนเจิงงระมัดระวังเป็นพิเศษเขากับเจียเหยาเรียกได้ว่ามีความแค้นฝั่งหุ่น เจียเหยาคล้อยตามเขาเช่นนี้ แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่ามีปัญหา!ตอนนี้หยุนเจิงสงสัยมาก เจียเหยาอยากเอาชนะเขา แก้ไขปัญหาจากต้นตอตอนนี้ต่อให้เจียเหยาคล้อยตามเพียงใด เขาก็ไม่กล้าแตะต้องเจีย
แต่น่าเสียดาย คนชราผู้นี้ติดเชื้อโรคในฤดูหนาว ยังไม่ถึงฤดูใบไม้ผลิต้นปีก็ป่วยตายแล้วก่อนตาย คนชราผู้นั้นบอกกับปานปู้ ผลผลิตของมันเทศดินเหล่านั้นสูงมาก แม้เป่ยหวนไม่เหมาะกับการเพาะปลูกมันเทศดิน แต่ช่วงที่อากาศอบอุ่นก็สามารถเพาะปลูกได้คนชรากล่าวด้วยความมั่นใจ ต่อให้อยู่ที่เป่ยหวน มันเทศดินเหล่านั้นก็สามารถให้ผลผลิตหนึ่งหมู่หกเจ็ดร้อยชั่งขึ้นไปคนชรายังบอกวิธีปลูกมันเทศดินเหล่านั้นกับปานปู้หลังปานปู้ได้รู้ แน่นอนว่าเขาดีใจมากต้องรู้ว่า ข้าวสาลีหยวนม่ายที่เป่ยหวนเพาะปลูกมากที่สุด ผลผลิตหนึ่งหมู่ยังไม่ถึงหนึ่งร้อยชั่งพืชเกษตรผลผลิตหกเจ็ดร้อยชั่งต่อหนึ่งหมู่ สำหรับเป่ยหวนแล้ว เป็นของขวัญที่ฟ้าประทานมาให้แต่น่าเศร้า ตอนแรกพวกเขาไม่รู้ว่ามันเทศดินเหล่านี้มีคุณค่า หลังได้รับมันเทศดินเหล่านี้มาส่วนใหญ่ก็ให้คนของชนเผ่านั้นไว้เลี้ยงม้าจนถึงเวลานี้ ปานปู้จึงได้รู้ว่า นี่คือการแก้แค้นของคนชราผู้นั้นคนชราผู้นั้นจงใจให้พวกเขารู้ว่าผลผลิตของมันเทศดินสูงมาก จงใจบอกวิธีเพาะปลูกกับพวกเขา แต่กลับรอให้พวกเขากินมันเทศดินเหล่านั้นหมดแล้ว รอจนกระทั่งตัวเองใกล้ป่วยตาย จึงค่อยบอกกับปานปู้ให้พว
เมืองจักรพรรดิต้าเฉียน อารมณ์ของจักรพรรดิเหวินสองวันนี้ดีเป็นพิเศษ มักจะแอบพระสลวนอยู่ตามลำพังครั้งนี้ จักรพรรดิเหวินหลบอยู่ในห้องทรงอักษรแอบพระสลวนขึ้นมา จากนั้นก็นำหนังสือยอมจำนนของเป่ยหวนที่หยุนเจิงส่งมาให้เปิดอ่านอีกรอบ หลังอ่านจบ ก็นำรายงานการรบขึ้นมาอ่านอีกครั้งจดหมายรายงานการรบฉบับบนี้ มีพระองค์ผู้เดียวที่อ่านคนมากมายรู้ว่าซั่วเป่ยรบชนะอีกแล้ว แต่ผลการรบ มีเพียงจักรพรรดิเหวินที่ทรงทราบด้านข้างของเขา ยังมีรายงานการรบอีกฉบับเป็นรายงานการรบของรัชทายาทหยุนลี่เขียนด้วยตัวเองความวุ่นวายตากอันอ๋องสงบแล้ว พวกเขากำลังกลับราชสำนักหลังจากได้รับชัยชชนะสำหรับรายงานการรบของหยุนลี่ จักรพรรดิเหวินทรงอ่านเพียงรอบเดียวก็ไม่ทอดพระเนตรอีกรายงานการรบสยบความวุ่นวายของอันอ๋อง ไม่มีสิ่งใดน่าดูจริงแท้!หากแม้แต่ความวุ่นวายของอันอ๋องยังสยบไม่ได้ เซียวว่านโฉวก็กลับไปขายขนมเปี๊ยะข้าวได้แล้ว!แม้จักรพรรดิเหวินจะทรงดีพระทัยมาก แต่ต่อหน้าคนภายนอก พระองค์แสร้งทำเป็นกลัดกลุ้มพระทัยกล่าวตามตรง จักรพรรดิเหวินทรงเสแสร้งได้ยากลำบากยิ่งทั้งหมดก็เป็นเพราะเจ้าหกลูกทรพี!จักรพรรดิเหวินกล่าวตำ
จักรพรรดิเหวินพยักหน้า จากนั้นก็กล่าวถาม “ผ่านความวุ่นวายของอันอ๋องครั้งนี้ เจ้าเห็นข้อเสียของราชสำนักเราหรือไม่?”“คือ...”หยุนเจิงไม่เข้าใจ ก้มโค้งกล่าว “ลูกโง่เขลา ขอเสด็จพ่อทรงอธิบาย”“ครอบครัวผู้มีอำนาจและราชวงศ์”จักรพรรดิเหวินขมวดคิ้ว กล่าวอย่างกลัดกลุ้ม “จ้างจื่อแค่เพียงคนเดียว ยังสามารถร่วมสมคบคิดกับอันอ๋องก่อกบฏได้ พวกเขาก่อความวุ่นวาย ราชสำนักก็จะสูญเสียภาษีไปหนึ่งปี...”กล่าวจบ จักรพรรดิเหวินหยิบสาส์นฉบับหนึ่งส่งให้หยุนลี่นี่คือสาส์นที่สวีสือฝู่ถวายขึ้นมาเป็นเงินเสบียงที่ใช้ในการสยบความวุ่นวายอันอ๋องที่กรมการคลังตรวจสอบและคำนวนอย่างละเอียดการก่อกบฏของอันอ๋อง นำมาซึ่งความเสียหายอย่างหนักของฝู่โจวราชสำนักชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวของทหารที่เสียชีวิต การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยสงคราม ซ่อมแซมกำแพงเมืองต่างและหน่วยงานราชการที่เสียหายในซู่โจว ล้วนต้องใช้เงินและเสบียงหากคำนวณดูแล้ว ราชสำนักใช้เงินในการสยบความวุ่นวายของอันอ๋องไม่น้อยเลย หยุนลี่ไม่รู้ว่าจักรพรรดิเหวินมีเจตนาใด ไม่กล้ากล่าวออกไปอย่างหุนหันพลันแล่น ทำได้เพียงถอนหายใจตาม “อันอ๋องก่อความวุ่นวายครั้
คำพูดของจักรพรรดิเหวิน ทำให้สมองของหยุนลี่เกิดเสียงวิ้งๆ ขึ้นมาจริงด้วย!เป่ยหวนล้วนถูกเจ้าหกทำลายแล้ว!เจ้าหกคนเดรัจฉานต้องการไปยึดอำนาจก่อกบฎที่ซั่วเป่ยตอนนี้ เจ้าสัตว์เดรัจฉานนี้ทหารแข็งแกร่งม้าแข็งแรง หากเขาเคลื่อนทัพลงใต้ ความเป็นไปได้ที่กองทัพของราชสำนักจะขัดขวางไว้ได้มีน้อยมากคาดว่า แม่ทัพอาวุโสมากมายของราชวงศ์คงไม่กล้ากรีธาทัพออกรบ!จะสู้เช่นไร?เจ้าหกคงไม่เสี่ยงสังหารบิดาแล้วขึ้นครองราชแต่เขาที่เป็นรัชทายาทต้องซวยแน่นอน!ไม่ว่าเขา เจ้าสอง เจ้าสี่ เจ้าห้า เกรงว่าต้องตายกลายเป็นวิญญาณเพราะเจ้าสัตว์เดรัจฉานนี่!“ต่อให้เสด็จพ่อเปิดตลาดการค้า เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนทัพลงใต้!”หยุนลี่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมองมองจักรพรรดิเหวิน“เปิดตลาดการค้า เขาไม่มีข้ออ้างให้เคลื่อนทัพลงใต้แล้ว ความชอบธรรมยังเข้าข้างเรา”จักรพรรดิเหวินส่ายหน้า “ตอนนี้ที่ข้ากังวลที่สุดไม่ใช่เจ้าหก แต่เป็นตระกูลผู้มีอำนาจและราชวงศ์! เมื่อเจ้าหกเคลื่อนทัพลงใต้ ตระกูลผู้มีอำนาจและราชวงศ์เหล่านั้นเกรงว่าคงก่อความวุ่นวายด้านหลังพวกเรา...”จักรพรรดิเหวินกล่าวเช่นนี้ ทันใดนั้นหยุนลี่ก็รู้สึกเหมือนน
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่