“ก็แค่ทนไม่ได้ที่คนเหล่านั้นอยู่บนหลังม้าเท่านั้น”หยุนเจิงปฏิเสธไม่ยอมรับ “แม้ว่าเจียเหยาน่าสงสารจริงๆ แต่พวกเราเป็นศัตรูกัน!”“พวกเจ้าเป็นสามีภรรยากัน!” เมี่ยวอินหยอกล้อหยุนเจิงสีหน้าดำอึมครึม กล่าวสิ่งใดไม่ออกทันทีเมี่ยวอินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ กอดแขนหยุนเจิงเอาไว้ เผยรอยยิ้มพราวเสน่ห์ “ข้าชอบท่าทางลามกของเจ้ามากกว่า ท่าทางอ่อนไหวใจดีของเจ้า ไม่ทำให้คนชอบเลยสักนิด”หยุนเจิงรอยยิ้มหายไป จากนั้นก็กระพริบตาให้เมี่ยวอิน “จบการต่อสู้ครั้งนี้ เจ้ายังมีเวลาค่อยๆ ดูท่าทางลามกของข้า! กลัวแต่ถึงตอนนั้นเจ้าคงต้องร้องขอความเมตตา!”“ใครกลัวใคร!”เมี่ยวอินทำเสียงออกจมูก หน้าตาสวยงามดุจผ้าไหม “ไม่ใช่เจ้าพูดหรือ มีแต่วัวที่เหนื่อยตาย ไม่มีที่ดินที่ถูกไถจนเสีย?”เผชิญกับสายตายั่วยวนของเมี่ยวอิน ในใจหยุนเจิงผุดด้วยกองไฟอย่างควบคุมไม่อยู่นังปีศาจ!ต้องการให้เขากับนางกลับไปขี่ม้าที่ราชสำนักเป่ยหวนจริงหรือ?ขณะที่หยุนเจิงกำลังคิดเรื่อยเปื่อย เจียเหยาค่อยๆ ลุกขึ้นมา“เจียเหยามาแล้ว”เมี่ยวอินสังเกตเห็นเจียเหยาที่เดินมาถึงด้านข้างหยุนเจิงหันหน้ากลับ ก็เห็นเจียเหยาเดินมาอย่างใจลอยคนที่มา
เทน้ำทิ้งครึ่งกา?ฉินชีหู่ชะงักเล็กน้อย ฮู้...เหมือนจะทำเช่นนี้ได้!เมี่ยวอินประหลาดใจ จากนั้นก็เข้าใจความหมายของหยุนเจิงแล้วที่แท้ เขาอยู่ที่นี่เพื่อรอเจียเหยา!รู้อยู่แล้วว่าคำถามของเขาต้องมีความหมายแอบแฝง“ในเมื่อเจ้ารู้คำตอบแล้ว เหตุใดยังต้องคุยเรื่องเหล่านี้กับข้า?”หยุนเจิงยิ้มอย่างจนใจ “เทน้ำทิ้งครึ่งกา อย่างน้อยน้ำครึ่งกาสามารถต้มจนเดือดได้! แต่รอเจ้าไปจากที่นี่ ไปหาฟืนกลับมา ดีไม่ดีน้ำในกาของเจ้าคงถูกคนอื่นขโมยไปแล้ว เจ้าว่ามีเหตุผลนี้หรือไม่?” ผู้หญิงคนนี้ ฉลาดก็ฉลาดอยู่แต่หัวแข็งก็หัวแข็งเช่นกัน!“ใช่!”เจียเหยาไม่ได้ปฏิเสธ “ดังนั้น ข้าสามารถหนีไปได้ แต่ข้าก็ยังมาหาเจ้าเพื่อยอมจำนน! ข้าบอกแล้ว ข้าเพียงหาทางรอดให้ประชาชนของพวกเรา! ในเมื่อเจ้าก็บอกแล้ว ให้พวกเราพักหายใจยี่สิบปี ก็ทำได้เพียงเพิ่มจำนวนทาสให้เจ้ามากขึ้น ถ้าเช่นนั้นเจ้ามีสิ่งใดให้กลัวกันเล่า?”เอ่อ...คือว่าหยุนเจิงถูกเจียเหยาแม่ทัพผู้พ่ายแพ้ทำให้ไม่รู้ควรตอบคำถามเช่นไรแต่ว่า กล่าวเช่นนี้ แต่เหตุผลก็ไม่ใช่เหตุผลเช่นนี้!การต่อสู้สนามนี้ กองทหารมณฑลทางเหนือต้องจ่ายด้ายความเสียหายมหาศาลหากว
หากตอนนั้นสามารถตายไปพร้อมกับโจรไร้ยางอายผู้นี้ได้ เป่ยหวนไหนเลยจะต้องอับอายอย่างเช่นวันนี้! ร่างกายเจียเหยาสั่นไม่หยุด น้ำตาเริ่มรื้อขึ้นมาบนขอบตาอีกครั้ง ทำเอาฉินชีหู่คิดจะหนีออกไปอีกรอบเนิ่นนาน เจียเหยาเช็ดคำตาลวกๆ ท่ามกลางสายตาแปลกใจของทุกคน นางพยายามบีบรอยยิ้มออกมา “ความคิดของเจ้าไร้ยางอายจริงด้วย แต่สามารถทำได้จริง! ในเมื่อพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ยังต้องมีเงื่อนไขมากมายเช่นนี้หรือ? เจ้าเอาเงื่อนไขที่ทำให้ข้าลำบากยกเลิกไป ข้าจะคลอดลูกให้เจ้า!”“……”สิ้นเสียงของเจียเหยา ใบหน้าของฉินชีหู่และเมี่ยวอินเปลี่ยนเป็นชื่นชมอย่างยิ่งทั้งสองคนมองเจียเหยาอย่างตกตะลึง แทบไม่กล้าเชื่อหูของตัวเองเมื่อครู่นางไม่ใช่สาปเช่งให้หยุนเจิงไม่ตายดีหรือ?เวลาชั่วพริบตา นึกไม่ถึงจะตอบตกลงแล้ว?นางถูกหยุนเจิงทำให้โกรธจนสติเลอะเลือนแล้วหรือ?“ช่างเถอะ!”หยุนเจิงยิ้มแล้วส่ายหน้า “เจ้าเต็มใจยอมรับความอัปยศอดสูคลอดลูกให้ข้า แต่ข้าไม่กล้าแตะต้องเจ้า!”เจียเหยาตอบตกลง ช่างเกินความคาดหมายของเขาแม้นี่จะเป็นวิธีที่ดี แต่เขาไม่กล้าใช้จริงๆผู้หญิงคนนี้ตอนนี้ตอบตกลง ไม่แน่ว่าอาจอดกลั้นอย่างมาก?ห
เมื่อเห็นเจียเหยาอาเจียนเป็นเลือดหมดสติไป หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความจนใจผู้หญิงคนนี้!ยังมองสถานการณ์ไม่ชัดเจนแน่นอน เขาสามารถเข้าใจเจียเหยาได้แต่ว่า เขายังคงต้องทำเช่นนี้!ยังคงเป็นประโยคนั้น เมตตาต่อศัตรู เป็นการโหดร้ายกับตัวเอง หยุนเจิงให้คนพาเจียเหยาที่หมดสติไปพักผ่อน ส่วนคนเหล่านั้นที่เจียเหยาพามา หยุนเจิงไม่ได้สร้างความลำบากให้พวกเขา เพียงแค่ยึดอาวุธของพวกเขาเอาไว้ส่วนชุดเกราะ หลายคนรู้ว่ามาแล้วต้องถูกยึดชุดเกราะ จึงไม่สวมชุดเกราะมาด้วยซ้ำเดิมทีพวกเขาต้องการจู่โจมต่อไปแต่การหมดสติของเจียเหยาเปลี่ยนแผนการของพวกเขาตอนกลางคืน ท้องฟ้าเริ่มมีฝนตกปรอยๆนี่เป็นฝนตามปกติบนทุ่งหญ้าแม้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่ฝนตกหนักลมพัดแรงเป็นสิ่งที่มีน้อยมากยังดีที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้เผากระโจมเหล่านี้ ตอนนี้เวลานี้ คนมากมายก็ยังมีที่ให้หลบฝนตอนที่เมี่ยวอินเดินเข้ามาในกระโจม หยุนเจิงกำลังนั่งคิดอยู่ตรงนั้น“เจียเหยายังไม่ตื่น?”หยุนเจิงเงยหน้าถาม“อื้ม”เมี่ยวอินพยักหน้า ข้าเพิ่งไปดูเมื่อครู่ ลมหลายใจนางยุ่งเหยิง ผิดปกติอย่างมาก”“นางคงไม่โกรธจนตายหรอกกระมัง?” หยุ
เป็นคนที่กล้ากินคนของจริง!ร่วมมือกับแมนจูทางเหนือ คนเป่ยหวนตายแล้วก็ยังจะต้องกลายเป็นอาหาร!เจียเหยาไม่ได้โง่ถึงขั้นร่วมมือกับแมนจูทางเหนือเช่นนั้นส่วนการร่วมมือกับกุ่ยฟาง เจียเหยาก็เคยลองแล้วไม่ใช่หรือ?กุ่ยฟางพึ่งพาไม่ได้!ร่วมมือกับกุ่ยฟาง ไม่สู้ร่วมมือกับเขาดีกว่า!ในฐานะพันธมิตร เขาพึ่งพาได้มากกว่ากุ่ยฟางหากเจียเหยาต้องร่วมมือกับกุ่ยฟางให้ได้ เขาก็ขัดขวางไม่ได้ แต่ในวันหน้าเป่ยหวนมีแต่เลวร้ายกว่าเดิมรู้ว่าในใจหยุนเจิงมีแผนการแล้ว เมี่ยวอินก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดมากมายอีกคืนแห่งความเงียบงันวันที่สองเช้าตรู่ หยุนเจิงและเมี่ยวอินถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงกรีดร้อง“อ๊าก...”“ออกไป!”“ออกไปให้หมด!”ทั้งสองคนมองตากันเงียบๆ แล้วเดินออกจากกระโจมทันที จากนั้นก็เดินไปทางเจียเหยา“องค์หญิง ท่านเป็นสิ่งใด?”“องค์หญิง ท่าน...เจ้าไม่รู้จักพวกเราแล้ว?”“องค์หญิง ท่านอย่าทำให้พวกเราตกใจสิ!”“องค์หญิง...”คนที่เจียเหยาพามาต่างล้อมนางไว้ด้วยความกระวนกระวายแต่เจียเหยาเดินทีก็ไม่รู้จักคนเหล่านี้ ผลักคนเหล่านี้อย่างแรง คิดแต่จะพุ่งออกไปตอนที่เห็นใบหน้ามึนงงของหยุนเจิงและเมี่ยวอิน
เจียเหยาเจ็บปวดมากแต่ หยุนเจิงกลับเย็นชามากเสแสร้งไปเถอะ!ข้าจะดูว่าเจ้าเสแสร้งไปนานเท่าใด!เมี่ยวอินมองเจียเหยาด้วยความสงสัย จากนั้นก็กระซิบข้างหูหยุนเจิง “ความจำนางเสื่อมไม่เหมือนกำลังแกล้ง! ดีไม่ดี นางคงได้รับการกระตุ้นมากเกินไปจนเสียความทรงจำแล้ว...”“ผู้หญิงคนนี้มารยาร้อยเล่มเกวียน อย่าเชื่อนางง่ายๆ” หยุนเจิงส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นก็หันมองเจียเหยานิ่งๆ “เอาล่ะ เลิกแกล้งได้แล้ว! หากเจ้าคิดว่าเงื่อนไขของข้าทำให้เจ้ายอมรับไม่ได้ เช่นนั้นเจ้าก็ไปเถอะ! ข้ารับประกันจะไม่ขวางเจ้า!”“ท่านพี่? ท่านไม่ต้องการเจียเหยาแล้วหรือ?”เจียเหยาเงยหน้าขึ้นมาทันใด มองหยุนเจิงอย่างหน้าสงสาร “เจียเหยาไม่อยากแยกจากท่านพี่!”“ยังไม่จบใช่หรือไม่?”ใบหน้าหยุนเจิงบึ้งตึง “ต้องให้ข้าฆ่าคนของพวกเจ้าสักคนสองคนก่อน ช่วยเจ้าฟื้นความทรงจำดีหรือไม่?”ให้ตายสิ!ผู้หญิงคนนี้แสดงได้สมจริงนัก!หากเขาไม่รู้ว่าเจียเหยามารยาร้อยเล่มเกวียน เกรงว่าเขาคงเชื่อไปแล้ว!เห็นสีหน้าของหยุนเจิงไม่ดี เจียเหยาพลันมองหยุนเจิงอย่างกล้าๆ กลัวๆ ขอร้องอย่างน่าสงสารอีกครั้ง “ท่านพี่ ท่านอย่าทิ้งเจียเหยาดีหรือไม่? ท่านพี่...”
ไอ้สารเลวคนนี้!ไม่ละอายใจสักนิด!เจียเหยาหน้าแดงมองทั้งสองคน ลังเลอยู่นานสองนาน ขยับมืออีกครั้ง ปลดเสื้อผ้าของตัวเองออกช้าๆเมี่ยวอินรู้สึกเกรงใจ จึงไม่ได้มองเจียเหยา เพียงแค่ก้มหน้าต่ำมองพื้นหยุนเจิงกลับทำสีหน้าสบายอกสบายใจ จับจ้องเจียเหยาโดยตรงเจียเหยากระอักกระอ่วนไม่กล้ามองหยุนเจิง ทำแค่เพียงก้มหน้าปลดก้มตาเสื้อของตัวเองภายใต้การจ้องมองของหยุนเจิง เสื้อของเจียเหยาค่อยๆ คลายออก เหลือเพียงเสื้อซับในตัวเดียวหยุนเจิงใจกระตุกเหอะ!ผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้ความจำเสื่อมจริงๆ กระมัง?“ทำต่อไป”น้ำเสียงของหยุนเจิงไม่เปลี่ยน ยังคงต้องมองเจียเหยาต่อไปเจียเหยาก้มหน้างุด ค่อยๆ ปลดเสื้อซับในพริบตาที่เจียเหยาปลดเสื้อซับใน หยุนเจิงการหมุนตัวกลับแม้ว่าเขาอยากจะเห็นมาก แต่ในเวลานี้ ทูตเทวนาในใจเขาก็เอาชนะทูตปีศาจได้หากเจียเหยาความจำเสื่อมจริง สำหรับนางแล้ว มันค่อนข้างโหดร้ายเขายอมรับว่าเขาเจ้าชู้แต่สำหรับบางคนเจ้าชู้ได้ สำหรับบางคน ไม่อาจเจ้าชู้เกินไปมองการกระทำของหยุนเจิง เมี่ยวอินรีบเดินไปข้างหน้า เก็บเสื้อผ้าที่ร่วงหล่นบนพื้นของเจียเหยาช่วยเอามาคลุมบนตัวนาง“หยุนเจิง ดูเ
เดิมทีเจียเหยาสามารถแกล้งความจำเสื่อมไปตลอดได้ทว่า นางใกล้จะทำสำเร็จแล้วตอนที่หยุนเจิงหมุนตัวกลับไป นั่นหมายความว่าในใจหยุนเจิงเริ่มเชื่อว่านางความจำเสื่อมแล้วสุดท้ายเจียเหยาก็ไม่ได้แกล้งความจำเสื่อมต่อไปนางยังต้องเจรจาต่อรองกับหยุนเจิงต่อไป ไม่สามารถแกล้งความจำเสื่อมไปได้ตลอด แกล้งความจำเสื่อมไปตลอด ไม่สู้นางไม่มาหาหยุนเจิงดีกว่า“เงื่อนไขของข้าไม่เปลี่ยน”หยุนเจิงคืนความสงบอย่างรวดเร็ว “ตกลงหรือไม่ กล่าวได้อย่างสบายใจ! ข้าไม่มีอารมณ์โต้เถียงกับเจ้าต่อไปแล้ว”เจียเหยามองหยุนเจิงเงียบๆ “เจ้าพิจารณาเรื่องที่เจ้าพูดสักหน่อย”“ไม่พิจารณา”หยุนเจิงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “บอกตามตรง ข้าค่อนข้างกระหายในร่างกายเจ้า! แต่สำหรับข้าแล้ว เจ้าไม่ได้คุ้มค่าอย่างที่เจ้าคิด! ข้าเจ้าชู้ แต่ไม่ได้เจ้าชู้ถึงขั้นสติเลอะเลือน”“จริงหรือ?”เจียเหยาไม่ได้โกรธ ในทางกลับกันยังสงบเป็นพิเศษ “หากเจ้ายืนกรานคำพูดของเจ้า ข้าตกลงเงื่อนไขของเจ้า”อืม?หยุนเจิงประหลาดใจผู้หญิงคนนี้เปิดสิ่งใดขึ้น?เวลาเพียงหนึ่งคืน เหตุใดเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้?เปิดเส้นลมปราณทั้งสองของเหรินได้กะทันหันหรือ?“ดีมาก!”
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่