“ก็แค่ทนไม่ได้ที่คนเหล่านั้นอยู่บนหลังม้าเท่านั้น”หยุนเจิงปฏิเสธไม่ยอมรับ “แม้ว่าเจียเหยาน่าสงสารจริงๆ แต่พวกเราเป็นศัตรูกัน!”“พวกเจ้าเป็นสามีภรรยากัน!” เมี่ยวอินหยอกล้อหยุนเจิงสีหน้าดำอึมครึม กล่าวสิ่งใดไม่ออกทันทีเมี่ยวอินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ กอดแขนหยุนเจิงเอาไว้ เผยรอยยิ้มพราวเสน่ห์ “ข้าชอบท่าทางลามกของเจ้ามากกว่า ท่าทางอ่อนไหวใจดีของเจ้า ไม่ทำให้คนชอบเลยสักนิด”หยุนเจิงรอยยิ้มหายไป จากนั้นก็กระพริบตาให้เมี่ยวอิน “จบการต่อสู้ครั้งนี้ เจ้ายังมีเวลาค่อยๆ ดูท่าทางลามกของข้า! กลัวแต่ถึงตอนนั้นเจ้าคงต้องร้องขอความเมตตา!”“ใครกลัวใคร!”เมี่ยวอินทำเสียงออกจมูก หน้าตาสวยงามดุจผ้าไหม “ไม่ใช่เจ้าพูดหรือ มีแต่วัวที่เหนื่อยตาย ไม่มีที่ดินที่ถูกไถจนเสีย?”เผชิญกับสายตายั่วยวนของเมี่ยวอิน ในใจหยุนเจิงผุดด้วยกองไฟอย่างควบคุมไม่อยู่นังปีศาจ!ต้องการให้เขากับนางกลับไปขี่ม้าที่ราชสำนักเป่ยหวนจริงหรือ?ขณะที่หยุนเจิงกำลังคิดเรื่อยเปื่อย เจียเหยาค่อยๆ ลุกขึ้นมา“เจียเหยามาแล้ว”เมี่ยวอินสังเกตเห็นเจียเหยาที่เดินมาถึงด้านข้างหยุนเจิงหันหน้ากลับ ก็เห็นเจียเหยาเดินมาอย่างใจลอยคนที่มา
เทน้ำทิ้งครึ่งกา?ฉินชีหู่ชะงักเล็กน้อย ฮู้...เหมือนจะทำเช่นนี้ได้!เมี่ยวอินประหลาดใจ จากนั้นก็เข้าใจความหมายของหยุนเจิงแล้วที่แท้ เขาอยู่ที่นี่เพื่อรอเจียเหยา!รู้อยู่แล้วว่าคำถามของเขาต้องมีความหมายแอบแฝง“ในเมื่อเจ้ารู้คำตอบแล้ว เหตุใดยังต้องคุยเรื่องเหล่านี้กับข้า?”หยุนเจิงยิ้มอย่างจนใจ “เทน้ำทิ้งครึ่งกา อย่างน้อยน้ำครึ่งกาสามารถต้มจนเดือดได้! แต่รอเจ้าไปจากที่นี่ ไปหาฟืนกลับมา ดีไม่ดีน้ำในกาของเจ้าคงถูกคนอื่นขโมยไปแล้ว เจ้าว่ามีเหตุผลนี้หรือไม่?” ผู้หญิงคนนี้ ฉลาดก็ฉลาดอยู่แต่หัวแข็งก็หัวแข็งเช่นกัน!“ใช่!”เจียเหยาไม่ได้ปฏิเสธ “ดังนั้น ข้าสามารถหนีไปได้ แต่ข้าก็ยังมาหาเจ้าเพื่อยอมจำนน! ข้าบอกแล้ว ข้าเพียงหาทางรอดให้ประชาชนของพวกเรา! ในเมื่อเจ้าก็บอกแล้ว ให้พวกเราพักหายใจยี่สิบปี ก็ทำได้เพียงเพิ่มจำนวนทาสให้เจ้ามากขึ้น ถ้าเช่นนั้นเจ้ามีสิ่งใดให้กลัวกันเล่า?”เอ่อ...คือว่าหยุนเจิงถูกเจียเหยาแม่ทัพผู้พ่ายแพ้ทำให้ไม่รู้ควรตอบคำถามเช่นไรแต่ว่า กล่าวเช่นนี้ แต่เหตุผลก็ไม่ใช่เหตุผลเช่นนี้!การต่อสู้สนามนี้ กองทหารมณฑลทางเหนือต้องจ่ายด้ายความเสียหายมหาศาลหากว
หากตอนนั้นสามารถตายไปพร้อมกับโจรไร้ยางอายผู้นี้ได้ เป่ยหวนไหนเลยจะต้องอับอายอย่างเช่นวันนี้! ร่างกายเจียเหยาสั่นไม่หยุด น้ำตาเริ่มรื้อขึ้นมาบนขอบตาอีกครั้ง ทำเอาฉินชีหู่คิดจะหนีออกไปอีกรอบเนิ่นนาน เจียเหยาเช็ดคำตาลวกๆ ท่ามกลางสายตาแปลกใจของทุกคน นางพยายามบีบรอยยิ้มออกมา “ความคิดของเจ้าไร้ยางอายจริงด้วย แต่สามารถทำได้จริง! ในเมื่อพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ยังต้องมีเงื่อนไขมากมายเช่นนี้หรือ? เจ้าเอาเงื่อนไขที่ทำให้ข้าลำบากยกเลิกไป ข้าจะคลอดลูกให้เจ้า!”“……”สิ้นเสียงของเจียเหยา ใบหน้าของฉินชีหู่และเมี่ยวอินเปลี่ยนเป็นชื่นชมอย่างยิ่งทั้งสองคนมองเจียเหยาอย่างตกตะลึง แทบไม่กล้าเชื่อหูของตัวเองเมื่อครู่นางไม่ใช่สาปเช่งให้หยุนเจิงไม่ตายดีหรือ?เวลาชั่วพริบตา นึกไม่ถึงจะตอบตกลงแล้ว?นางถูกหยุนเจิงทำให้โกรธจนสติเลอะเลือนแล้วหรือ?“ช่างเถอะ!”หยุนเจิงยิ้มแล้วส่ายหน้า “เจ้าเต็มใจยอมรับความอัปยศอดสูคลอดลูกให้ข้า แต่ข้าไม่กล้าแตะต้องเจ้า!”เจียเหยาตอบตกลง ช่างเกินความคาดหมายของเขาแม้นี่จะเป็นวิธีที่ดี แต่เขาไม่กล้าใช้จริงๆผู้หญิงคนนี้ตอนนี้ตอบตกลง ไม่แน่ว่าอาจอดกลั้นอย่างมาก?ห
เมื่อเห็นเจียเหยาอาเจียนเป็นเลือดหมดสติไป หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความจนใจผู้หญิงคนนี้!ยังมองสถานการณ์ไม่ชัดเจนแน่นอน เขาสามารถเข้าใจเจียเหยาได้แต่ว่า เขายังคงต้องทำเช่นนี้!ยังคงเป็นประโยคนั้น เมตตาต่อศัตรู เป็นการโหดร้ายกับตัวเอง หยุนเจิงให้คนพาเจียเหยาที่หมดสติไปพักผ่อน ส่วนคนเหล่านั้นที่เจียเหยาพามา หยุนเจิงไม่ได้สร้างความลำบากให้พวกเขา เพียงแค่ยึดอาวุธของพวกเขาเอาไว้ส่วนชุดเกราะ หลายคนรู้ว่ามาแล้วต้องถูกยึดชุดเกราะ จึงไม่สวมชุดเกราะมาด้วยซ้ำเดิมทีพวกเขาต้องการจู่โจมต่อไปแต่การหมดสติของเจียเหยาเปลี่ยนแผนการของพวกเขาตอนกลางคืน ท้องฟ้าเริ่มมีฝนตกปรอยๆนี่เป็นฝนตามปกติบนทุ่งหญ้าแม้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่ฝนตกหนักลมพัดแรงเป็นสิ่งที่มีน้อยมากยังดีที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้เผากระโจมเหล่านี้ ตอนนี้เวลานี้ คนมากมายก็ยังมีที่ให้หลบฝนตอนที่เมี่ยวอินเดินเข้ามาในกระโจม หยุนเจิงกำลังนั่งคิดอยู่ตรงนั้น“เจียเหยายังไม่ตื่น?”หยุนเจิงเงยหน้าถาม“อื้ม”เมี่ยวอินพยักหน้า ข้าเพิ่งไปดูเมื่อครู่ ลมหลายใจนางยุ่งเหยิง ผิดปกติอย่างมาก”“นางคงไม่โกรธจนตายหรอกกระมัง?” หยุ
เป็นคนที่กล้ากินคนของจริง!ร่วมมือกับแมนจูทางเหนือ คนเป่ยหวนตายแล้วก็ยังจะต้องกลายเป็นอาหาร!เจียเหยาไม่ได้โง่ถึงขั้นร่วมมือกับแมนจูทางเหนือเช่นนั้นส่วนการร่วมมือกับกุ่ยฟาง เจียเหยาก็เคยลองแล้วไม่ใช่หรือ?กุ่ยฟางพึ่งพาไม่ได้!ร่วมมือกับกุ่ยฟาง ไม่สู้ร่วมมือกับเขาดีกว่า!ในฐานะพันธมิตร เขาพึ่งพาได้มากกว่ากุ่ยฟางหากเจียเหยาต้องร่วมมือกับกุ่ยฟางให้ได้ เขาก็ขัดขวางไม่ได้ แต่ในวันหน้าเป่ยหวนมีแต่เลวร้ายกว่าเดิมรู้ว่าในใจหยุนเจิงมีแผนการแล้ว เมี่ยวอินก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดมากมายอีกคืนแห่งความเงียบงันวันที่สองเช้าตรู่ หยุนเจิงและเมี่ยวอินถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงกรีดร้อง“อ๊าก...”“ออกไป!”“ออกไปให้หมด!”ทั้งสองคนมองตากันเงียบๆ แล้วเดินออกจากกระโจมทันที จากนั้นก็เดินไปทางเจียเหยา“องค์หญิง ท่านเป็นสิ่งใด?”“องค์หญิง ท่าน...เจ้าไม่รู้จักพวกเราแล้ว?”“องค์หญิง ท่านอย่าทำให้พวกเราตกใจสิ!”“องค์หญิง...”คนที่เจียเหยาพามาต่างล้อมนางไว้ด้วยความกระวนกระวายแต่เจียเหยาเดินทีก็ไม่รู้จักคนเหล่านี้ ผลักคนเหล่านี้อย่างแรง คิดแต่จะพุ่งออกไปตอนที่เห็นใบหน้ามึนงงของหยุนเจิงและเมี่ยวอิน
เจียเหยาเจ็บปวดมากแต่ หยุนเจิงกลับเย็นชามากเสแสร้งไปเถอะ!ข้าจะดูว่าเจ้าเสแสร้งไปนานเท่าใด!เมี่ยวอินมองเจียเหยาด้วยความสงสัย จากนั้นก็กระซิบข้างหูหยุนเจิง “ความจำนางเสื่อมไม่เหมือนกำลังแกล้ง! ดีไม่ดี นางคงได้รับการกระตุ้นมากเกินไปจนเสียความทรงจำแล้ว...”“ผู้หญิงคนนี้มารยาร้อยเล่มเกวียน อย่าเชื่อนางง่ายๆ” หยุนเจิงส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นก็หันมองเจียเหยานิ่งๆ “เอาล่ะ เลิกแกล้งได้แล้ว! หากเจ้าคิดว่าเงื่อนไขของข้าทำให้เจ้ายอมรับไม่ได้ เช่นนั้นเจ้าก็ไปเถอะ! ข้ารับประกันจะไม่ขวางเจ้า!”“ท่านพี่? ท่านไม่ต้องการเจียเหยาแล้วหรือ?”เจียเหยาเงยหน้าขึ้นมาทันใด มองหยุนเจิงอย่างหน้าสงสาร “เจียเหยาไม่อยากแยกจากท่านพี่!”“ยังไม่จบใช่หรือไม่?”ใบหน้าหยุนเจิงบึ้งตึง “ต้องให้ข้าฆ่าคนของพวกเจ้าสักคนสองคนก่อน ช่วยเจ้าฟื้นความทรงจำดีหรือไม่?”ให้ตายสิ!ผู้หญิงคนนี้แสดงได้สมจริงนัก!หากเขาไม่รู้ว่าเจียเหยามารยาร้อยเล่มเกวียน เกรงว่าเขาคงเชื่อไปแล้ว!เห็นสีหน้าของหยุนเจิงไม่ดี เจียเหยาพลันมองหยุนเจิงอย่างกล้าๆ กลัวๆ ขอร้องอย่างน่าสงสารอีกครั้ง “ท่านพี่ ท่านอย่าทิ้งเจียเหยาดีหรือไม่? ท่านพี่...”
ไอ้สารเลวคนนี้!ไม่ละอายใจสักนิด!เจียเหยาหน้าแดงมองทั้งสองคน ลังเลอยู่นานสองนาน ขยับมืออีกครั้ง ปลดเสื้อผ้าของตัวเองออกช้าๆเมี่ยวอินรู้สึกเกรงใจ จึงไม่ได้มองเจียเหยา เพียงแค่ก้มหน้าต่ำมองพื้นหยุนเจิงกลับทำสีหน้าสบายอกสบายใจ จับจ้องเจียเหยาโดยตรงเจียเหยากระอักกระอ่วนไม่กล้ามองหยุนเจิง ทำแค่เพียงก้มหน้าปลดก้มตาเสื้อของตัวเองภายใต้การจ้องมองของหยุนเจิง เสื้อของเจียเหยาค่อยๆ คลายออก เหลือเพียงเสื้อซับในตัวเดียวหยุนเจิงใจกระตุกเหอะ!ผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้ความจำเสื่อมจริงๆ กระมัง?“ทำต่อไป”น้ำเสียงของหยุนเจิงไม่เปลี่ยน ยังคงต้องมองเจียเหยาต่อไปเจียเหยาก้มหน้างุด ค่อยๆ ปลดเสื้อซับในพริบตาที่เจียเหยาปลดเสื้อซับใน หยุนเจิงการหมุนตัวกลับแม้ว่าเขาอยากจะเห็นมาก แต่ในเวลานี้ ทูตเทวนาในใจเขาก็เอาชนะทูตปีศาจได้หากเจียเหยาความจำเสื่อมจริง สำหรับนางแล้ว มันค่อนข้างโหดร้ายเขายอมรับว่าเขาเจ้าชู้แต่สำหรับบางคนเจ้าชู้ได้ สำหรับบางคน ไม่อาจเจ้าชู้เกินไปมองการกระทำของหยุนเจิง เมี่ยวอินรีบเดินไปข้างหน้า เก็บเสื้อผ้าที่ร่วงหล่นบนพื้นของเจียเหยาช่วยเอามาคลุมบนตัวนาง“หยุนเจิง ดูเ
เดิมทีเจียเหยาสามารถแกล้งความจำเสื่อมไปตลอดได้ทว่า นางใกล้จะทำสำเร็จแล้วตอนที่หยุนเจิงหมุนตัวกลับไป นั่นหมายความว่าในใจหยุนเจิงเริ่มเชื่อว่านางความจำเสื่อมแล้วสุดท้ายเจียเหยาก็ไม่ได้แกล้งความจำเสื่อมต่อไปนางยังต้องเจรจาต่อรองกับหยุนเจิงต่อไป ไม่สามารถแกล้งความจำเสื่อมไปได้ตลอด แกล้งความจำเสื่อมไปตลอด ไม่สู้นางไม่มาหาหยุนเจิงดีกว่า“เงื่อนไขของข้าไม่เปลี่ยน”หยุนเจิงคืนความสงบอย่างรวดเร็ว “ตกลงหรือไม่ กล่าวได้อย่างสบายใจ! ข้าไม่มีอารมณ์โต้เถียงกับเจ้าต่อไปแล้ว”เจียเหยามองหยุนเจิงเงียบๆ “เจ้าพิจารณาเรื่องที่เจ้าพูดสักหน่อย”“ไม่พิจารณา”หยุนเจิงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “บอกตามตรง ข้าค่อนข้างกระหายในร่างกายเจ้า! แต่สำหรับข้าแล้ว เจ้าไม่ได้คุ้มค่าอย่างที่เจ้าคิด! ข้าเจ้าชู้ แต่ไม่ได้เจ้าชู้ถึงขั้นสติเลอะเลือน”“จริงหรือ?”เจียเหยาไม่ได้โกรธ ในทางกลับกันยังสงบเป็นพิเศษ “หากเจ้ายืนกรานคำพูดของเจ้า ข้าตกลงเงื่อนไขของเจ้า”อืม?หยุนเจิงประหลาดใจผู้หญิงคนนี้เปิดสิ่งใดขึ้น?เวลาเพียงหนึ่งคืน เหตุใดเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้?เปิดเส้นลมปราณทั้งสองของเหรินได้กะทันหันหรือ?“ดีมาก!”