ทำลายไม่ได้?เมี่ยวอินยิ่งสงสัย อยากจะซักไซ้ต่อนางอยากจะรู้จริงๆ แผนการร้ายแรงที่เจียเหยาเตรียมให้เขาคิดสิ่งใดมีแผนการร้ายแรงเช่นนี้ เหตุใดเจียเหยาไม่ใช้เล่า?“”เจ้าคิดจะให้คนชราเหล่านั้นฆ่าตัวตายต่อหน้าขบวนกองทัพสองหมื่นคนใช่หรือไม่?”หยุนเจิงมองเจียเหยานิ่งๆตอนที่เจียเหยาพูดถึงแผนการร้ายแรงนั้น เขาก็คิดได้แล้วเป็นวิธีของโกวเจี้ยนจักรพรรดิเหอลวี่บอกตามตรงก็คือวิธีทางจิตวิทยาชนิดหนึ่งใช้การตายอย่างเด็ดเดี่ยวของคนชราอ่อนแอเหล่านั้น กระตุ้นขวัญกำลังใจของทหารเป่ยหวนขณะเดียวกัน สิ่งนี้ทำให้ทหารม้าต้าเฉียนตกใจ กระทบกระเทือนขวัญทหารของต้าเฉียน“ประมาณนั้นกระมัง!”ใบหน้าเจียเหยาเผยร้อยยิ้มเศร้า “หากข้านำคนชรารวมตัวไว้ด้วยกัน ไม่ให้พวกศึกพวกเขา ไม่ให้ชุดเกราะพวกเขา ถึงขั้น ไม่ให้อาวุธพวก้เขา! ให้พวกเขาไปอยู่ต่อหน้ากองทัพสองหมื่น สู้สุดชีวิตกับทหารม้าพวกเจ้าด้วยมือเปล่า เจ้าทำลายได้หรือ?”เมื่อได้ฟังคำของเจียเหยา หยุนเจิงยิ้มออกมาอย่างจนใจแผนการนี้ เขาทำลายไม่ได้การสังหารหมู่คนชราอ่อนแอที่ไม่มีทางป้องกัน มีเพียงเดรัจฉานเท่านั้นที่ทำลงไปได้อย่างสบายใจหากพวกเขาสังหารหมู่
ขอแค่ไม่ใช่เทพ นั่นไม่ใช่คนที่อยู่ยงคงกระพัน!“แล้วแต่เจ้าจะคิดเถอะ!”หยุนเจิงกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็กล่าวต่อ “เจ้าบอกว่าสามารถให้แผนร้ายแรงหนึ่งกับข้าได้ ข้าก็สามารถบอกแผนร้ายแรงกับเจ้าได้เช่นกัน!”“เจ้าบอกมา ข้าฟังอยู่”เจียเหยากำหมัดแน่น นางเองก็อยากรู้ หยุนเจิงยังมีแผนร้ายแรงใดนำมาต่อกรกับเป่ยหวน“แต่เทียบกับแผนร้ายแรงของเจ้าแล้ว ก็ไม่รับว่าร้ายแรงเกินไปกระมัง!”หยุนเจิงยิ้ม “กล่าวไปแล้วก็ง่ายดาย ชนเผ่าของพวกเจ้ามีเผ่าอาศัยอยู่ริมน้ำไม่ใช่หรือ? ถึงเช่นไรร่างศพบนทุ่งหญ้าก็มีเพียงพอแล้ว ข้าเพียงนำร่างศพทั้งหมดทิ้งไปยังแหล่งต้นน้ำของพวกเจ้าก็พอแล้ว...”เมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง สีหน้าเจียเหยาเปลี่ยนไปของนางเป็นแผนการร้ายแรง!ของหยุนเจิงไหนเลยจะไม่ใช่แผนร้ายแรง?ตอนที่คนเป่ยหวนไปให้อาหารสัตว์ ล้วนไปปล่อยสัตว์ไปบนทุ่งหญ้าที่อุดมสมบูรณ์ทว่าเมื่อโยนศพจำนวนมากลงไปในแหล่งน้ำ มีความเป็นไปได้สูงว่าปศุสัตว์ของเป่ยหวนจะป่วยตายอีกทั้ง เนื้อเหล่านั้น คนก็ไม่กล้ากิน!มีโอกาสสูงมากที่โรคระบาดใหญ่จะปะทุขึ้นในเป่ยหวนเป็นเส้นทางตัน!เป็นแผนร้ายแรงจริงด้วย!“ความจริง สำหรับพวก
หยุนเจิงไม่สนใจเจียเหยาอีกต่อไปเจียเหยาคุกเข่าอยู่ตรงนั้น ต่อให้ผู้ติดตามของนางมาเรียกนาง นางก็ไม่ได้ลุกยืนนางราวกับโกรธตัวเอง แล้วก็เหมือนกับใช้วิธีนี้ปลอบใจวิญญาณของเป่ยหวนเมี่ยวอินมองเจียเหยาด้วยสีหน้าสับสน ถอนหายใจเงียบๆ จากนั้นก็มาถึงข้างกายหยุนเจิง “หากนางปรารถนาความตาย เจ้าจะลงมือฆ่านางจริงหรือ?”“จริง!”หยุนเจิงสองมือไขว้หลัง ตอบอย่างไม่ลังเลสักนิดเมี่ยวอินสะเทือนใจ ลังเลอยู่นาน จากนั้นก็ถาม “เจ้าใจร้ายเพียงนี้เชียว? ข้าไม่เชื่อ เจ้าไม่มีความคิดด้านนั้นกับนางสักนิด”เมี่ยวอินรู้จักหยุนเจิงข้อดีของหยุนเจิงชัดเจนมาก แต่ข้อเสียก็ชัดเจนมากเช่นกันข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดของไอสารเลวนี่คือลามกสตรีที่เพรียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา นางไม่เชื่อว่าหยุนเจิงจะไม่เคยมีความคิดด้านนั้น“มีความคิด ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นจริง”หยุนเจิงหัวเราะนิ่งๆ “คนสวย เป็นเรื่องปกติที่จะทำให้ผู้ชายคิดมาก! แต่สถานการณ์ของข้าและเจียเหยา ข้ายังหวังว่านางจะรักข้าหรือ? หากนางร้องขอความตาย ส่งนางไปด้วยตัวเอง ก็ไม่ผิดต่อชื่อเสียงที่แขวนเอาไว้ของข้าและนาง”เจียเหยากับเมี่ยวอินไม่เหมือนกันเมี่ยวอินแม้
“ก็แค่ทนไม่ได้ที่คนเหล่านั้นอยู่บนหลังม้าเท่านั้น”หยุนเจิงปฏิเสธไม่ยอมรับ “แม้ว่าเจียเหยาน่าสงสารจริงๆ แต่พวกเราเป็นศัตรูกัน!”“พวกเจ้าเป็นสามีภรรยากัน!” เมี่ยวอินหยอกล้อหยุนเจิงสีหน้าดำอึมครึม กล่าวสิ่งใดไม่ออกทันทีเมี่ยวอินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ กอดแขนหยุนเจิงเอาไว้ เผยรอยยิ้มพราวเสน่ห์ “ข้าชอบท่าทางลามกของเจ้ามากกว่า ท่าทางอ่อนไหวใจดีของเจ้า ไม่ทำให้คนชอบเลยสักนิด”หยุนเจิงรอยยิ้มหายไป จากนั้นก็กระพริบตาให้เมี่ยวอิน “จบการต่อสู้ครั้งนี้ เจ้ายังมีเวลาค่อยๆ ดูท่าทางลามกของข้า! กลัวแต่ถึงตอนนั้นเจ้าคงต้องร้องขอความเมตตา!”“ใครกลัวใคร!”เมี่ยวอินทำเสียงออกจมูก หน้าตาสวยงามดุจผ้าไหม “ไม่ใช่เจ้าพูดหรือ มีแต่วัวที่เหนื่อยตาย ไม่มีที่ดินที่ถูกไถจนเสีย?”เผชิญกับสายตายั่วยวนของเมี่ยวอิน ในใจหยุนเจิงผุดด้วยกองไฟอย่างควบคุมไม่อยู่นังปีศาจ!ต้องการให้เขากับนางกลับไปขี่ม้าที่ราชสำนักเป่ยหวนจริงหรือ?ขณะที่หยุนเจิงกำลังคิดเรื่อยเปื่อย เจียเหยาค่อยๆ ลุกขึ้นมา“เจียเหยามาแล้ว”เมี่ยวอินสังเกตเห็นเจียเหยาที่เดินมาถึงด้านข้างหยุนเจิงหันหน้ากลับ ก็เห็นเจียเหยาเดินมาอย่างใจลอยคนที่มา
เทน้ำทิ้งครึ่งกา?ฉินชีหู่ชะงักเล็กน้อย ฮู้...เหมือนจะทำเช่นนี้ได้!เมี่ยวอินประหลาดใจ จากนั้นก็เข้าใจความหมายของหยุนเจิงแล้วที่แท้ เขาอยู่ที่นี่เพื่อรอเจียเหยา!รู้อยู่แล้วว่าคำถามของเขาต้องมีความหมายแอบแฝง“ในเมื่อเจ้ารู้คำตอบแล้ว เหตุใดยังต้องคุยเรื่องเหล่านี้กับข้า?”หยุนเจิงยิ้มอย่างจนใจ “เทน้ำทิ้งครึ่งกา อย่างน้อยน้ำครึ่งกาสามารถต้มจนเดือดได้! แต่รอเจ้าไปจากที่นี่ ไปหาฟืนกลับมา ดีไม่ดีน้ำในกาของเจ้าคงถูกคนอื่นขโมยไปแล้ว เจ้าว่ามีเหตุผลนี้หรือไม่?” ผู้หญิงคนนี้ ฉลาดก็ฉลาดอยู่แต่หัวแข็งก็หัวแข็งเช่นกัน!“ใช่!”เจียเหยาไม่ได้ปฏิเสธ “ดังนั้น ข้าสามารถหนีไปได้ แต่ข้าก็ยังมาหาเจ้าเพื่อยอมจำนน! ข้าบอกแล้ว ข้าเพียงหาทางรอดให้ประชาชนของพวกเรา! ในเมื่อเจ้าก็บอกแล้ว ให้พวกเราพักหายใจยี่สิบปี ก็ทำได้เพียงเพิ่มจำนวนทาสให้เจ้ามากขึ้น ถ้าเช่นนั้นเจ้ามีสิ่งใดให้กลัวกันเล่า?”เอ่อ...คือว่าหยุนเจิงถูกเจียเหยาแม่ทัพผู้พ่ายแพ้ทำให้ไม่รู้ควรตอบคำถามเช่นไรแต่ว่า กล่าวเช่นนี้ แต่เหตุผลก็ไม่ใช่เหตุผลเช่นนี้!การต่อสู้สนามนี้ กองทหารมณฑลทางเหนือต้องจ่ายด้ายความเสียหายมหาศาลหากว
หากตอนนั้นสามารถตายไปพร้อมกับโจรไร้ยางอายผู้นี้ได้ เป่ยหวนไหนเลยจะต้องอับอายอย่างเช่นวันนี้! ร่างกายเจียเหยาสั่นไม่หยุด น้ำตาเริ่มรื้อขึ้นมาบนขอบตาอีกครั้ง ทำเอาฉินชีหู่คิดจะหนีออกไปอีกรอบเนิ่นนาน เจียเหยาเช็ดคำตาลวกๆ ท่ามกลางสายตาแปลกใจของทุกคน นางพยายามบีบรอยยิ้มออกมา “ความคิดของเจ้าไร้ยางอายจริงด้วย แต่สามารถทำได้จริง! ในเมื่อพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ยังต้องมีเงื่อนไขมากมายเช่นนี้หรือ? เจ้าเอาเงื่อนไขที่ทำให้ข้าลำบากยกเลิกไป ข้าจะคลอดลูกให้เจ้า!”“……”สิ้นเสียงของเจียเหยา ใบหน้าของฉินชีหู่และเมี่ยวอินเปลี่ยนเป็นชื่นชมอย่างยิ่งทั้งสองคนมองเจียเหยาอย่างตกตะลึง แทบไม่กล้าเชื่อหูของตัวเองเมื่อครู่นางไม่ใช่สาปเช่งให้หยุนเจิงไม่ตายดีหรือ?เวลาชั่วพริบตา นึกไม่ถึงจะตอบตกลงแล้ว?นางถูกหยุนเจิงทำให้โกรธจนสติเลอะเลือนแล้วหรือ?“ช่างเถอะ!”หยุนเจิงยิ้มแล้วส่ายหน้า “เจ้าเต็มใจยอมรับความอัปยศอดสูคลอดลูกให้ข้า แต่ข้าไม่กล้าแตะต้องเจ้า!”เจียเหยาตอบตกลง ช่างเกินความคาดหมายของเขาแม้นี่จะเป็นวิธีที่ดี แต่เขาไม่กล้าใช้จริงๆผู้หญิงคนนี้ตอนนี้ตอบตกลง ไม่แน่ว่าอาจอดกลั้นอย่างมาก?ห
เมื่อเห็นเจียเหยาอาเจียนเป็นเลือดหมดสติไป หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความจนใจผู้หญิงคนนี้!ยังมองสถานการณ์ไม่ชัดเจนแน่นอน เขาสามารถเข้าใจเจียเหยาได้แต่ว่า เขายังคงต้องทำเช่นนี้!ยังคงเป็นประโยคนั้น เมตตาต่อศัตรู เป็นการโหดร้ายกับตัวเอง หยุนเจิงให้คนพาเจียเหยาที่หมดสติไปพักผ่อน ส่วนคนเหล่านั้นที่เจียเหยาพามา หยุนเจิงไม่ได้สร้างความลำบากให้พวกเขา เพียงแค่ยึดอาวุธของพวกเขาเอาไว้ส่วนชุดเกราะ หลายคนรู้ว่ามาแล้วต้องถูกยึดชุดเกราะ จึงไม่สวมชุดเกราะมาด้วยซ้ำเดิมทีพวกเขาต้องการจู่โจมต่อไปแต่การหมดสติของเจียเหยาเปลี่ยนแผนการของพวกเขาตอนกลางคืน ท้องฟ้าเริ่มมีฝนตกปรอยๆนี่เป็นฝนตามปกติบนทุ่งหญ้าแม้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่ฝนตกหนักลมพัดแรงเป็นสิ่งที่มีน้อยมากยังดีที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้เผากระโจมเหล่านี้ ตอนนี้เวลานี้ คนมากมายก็ยังมีที่ให้หลบฝนตอนที่เมี่ยวอินเดินเข้ามาในกระโจม หยุนเจิงกำลังนั่งคิดอยู่ตรงนั้น“เจียเหยายังไม่ตื่น?”หยุนเจิงเงยหน้าถาม“อื้ม”เมี่ยวอินพยักหน้า ข้าเพิ่งไปดูเมื่อครู่ ลมหลายใจนางยุ่งเหยิง ผิดปกติอย่างมาก”“นางคงไม่โกรธจนตายหรอกกระมัง?” หยุ
เป็นคนที่กล้ากินคนของจริง!ร่วมมือกับแมนจูทางเหนือ คนเป่ยหวนตายแล้วก็ยังจะต้องกลายเป็นอาหาร!เจียเหยาไม่ได้โง่ถึงขั้นร่วมมือกับแมนจูทางเหนือเช่นนั้นส่วนการร่วมมือกับกุ่ยฟาง เจียเหยาก็เคยลองแล้วไม่ใช่หรือ?กุ่ยฟางพึ่งพาไม่ได้!ร่วมมือกับกุ่ยฟาง ไม่สู้ร่วมมือกับเขาดีกว่า!ในฐานะพันธมิตร เขาพึ่งพาได้มากกว่ากุ่ยฟางหากเจียเหยาต้องร่วมมือกับกุ่ยฟางให้ได้ เขาก็ขัดขวางไม่ได้ แต่ในวันหน้าเป่ยหวนมีแต่เลวร้ายกว่าเดิมรู้ว่าในใจหยุนเจิงมีแผนการแล้ว เมี่ยวอินก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดมากมายอีกคืนแห่งความเงียบงันวันที่สองเช้าตรู่ หยุนเจิงและเมี่ยวอินถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงกรีดร้อง“อ๊าก...”“ออกไป!”“ออกไปให้หมด!”ทั้งสองคนมองตากันเงียบๆ แล้วเดินออกจากกระโจมทันที จากนั้นก็เดินไปทางเจียเหยา“องค์หญิง ท่านเป็นสิ่งใด?”“องค์หญิง ท่าน...เจ้าไม่รู้จักพวกเราแล้ว?”“องค์หญิง ท่านอย่าทำให้พวกเราตกใจสิ!”“องค์หญิง...”คนที่เจียเหยาพามาต่างล้อมนางไว้ด้วยความกระวนกระวายแต่เจียเหยาเดินทีก็ไม่รู้จักคนเหล่านี้ ผลักคนเหล่านี้อย่างแรง คิดแต่จะพุ่งออกไปตอนที่เห็นใบหน้ามึนงงของหยุนเจิงและเมี่ยวอิน