ดื่มสายลม?ผู้เฒ่ารอยยิ้มขมขื่นก็เหมือนกับการดื่มสายลมไม่ใช่หรือ?มิฉะนั้น แม้แต่กำลังในการเคลื่อนไหวพวกเขาล้วนไม่มีไม่ใช่หรือ?ผู้เฒ่าไม่อธิบาย ทำเพียงค่อยๆ คุกเข่า หยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากบนตัว ประคองยกถวายทั้งสองมือแล้วกล่าวว่า “นี่คือจดหมายที่องค์หญิงเจียเหยาทิ้งไว้ให้ท่านอ๋อง ถ้าหากแม่ทัพน้อยไม่ใช่ท่านอ๋องต้าเฉียน โปรดนำจดหมายนี้ให้กับท่านอ๋องต้าเฉียนด้วย…”เจียเหยา?ตอนผู้หญิงคนนี้นำทัพล่าถอย ยังมีเวลาเขียนจดหมายถึงเขาด้วย?ไม่กระมัง?ด้วยความสงสัยในใจ หุนเจิงรับจดหมายมาเปิดอ่านทันทีเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย ใบหน้าของหยุนเจิงเปลี่ยนไปเป็นชื่นชมอย่างยิ่งเวลานี้ หยุนเจิงอยากจะไถ่ถามถึงบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของเจียเหยา ทั้งยังรู้สึกขบขันแค่เห็นย่อหน้าจดหมายนั้น ก็ทำให้หยุดเจิงอยากหัวเราะสามี:ตอนที่ท่านเห็นจดหมายฉบับนี้ ก็เท่ากับว่าพวกเราแพ้สงครามแล้วข้าไม่มีความสามารถในการเอาชนะท่าน ทำได้เพียงอพยพชนเผ่าทั้งหมดไปด้านหลังแต่ตอนนี้พวกเราขาดแคลนเสบียงเกินไป ต่อให้พวกเราฆ่าปศุสัตว์ทั้งหมดเพื่อประทังชีวิต เกรงว่าต้องมีคนหิวตายจำนวนมากข้าสั่งคนให้นำผู้ชราอ่อนแอจากทุ
ที่นี่มีคนไม่ถึงสองหมื่น แต่ก็เกือบถึงทุกวันกินได้อย่างมากสุดแพะแปดสิบตัวหลายคนล้วนอาศัยเนื้อเล็กน้อยและน้ำแกงชามโตประทังชีวิตผักป่าที่ขุดมาได้จากบริเวณโดยรอบ ล้วนถูกพวกเขาขุดจนเกลี้ยงแล้วแม้พวกเขายังมีแพะเกือบสี่ร้อยตัวให้กิน ทว่าพวกเขาไม่กล้ากินมากนี่คืออาหารห้าหกวันสำหรับพวกเขาจำนวนคนมากมายพวกเขาต้องพึ่งพาแพะเหล่านี้ผ่านพ้นไปวันต่อวันเมื่อเข้าใจสถานการณ์ของคนเหล่านี้ หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญสองหมื่นคน แพะแปดสิบกว่าตัว!อย่าว่าแต่กินเนื้อเลย ต่อให้เอาขนแพะมาต้มกินแล้ว ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี!ไม่น่าแปลกใจเลยที่คนพวกนี้เป็นเช่นนี้กันหมด!เวลานี้ พวกเมี่ยวอินเองก็อ่านจดหมายฉบับนั้นจบแล้วเวลานี้ สีหน้าคนทุกคนเปลี่ยนชื่นชมเป็นพิเศษไม่รู้เพราะเหตุใด เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ พวกเขาอยากหัวเราะน่าจะเป็นเพราะเจียเหยาแจกไพ่คนดีให้กับหยุนเจิงแล้วกระมัง!“นี่...ทำเช่นนี้ได้ด้วย?”“เช่นไร เจียเหยาหวังให้พวกเราช่วยเลี้ยงคนชราพวกนี้?”“นางคิดสวยหรูไปแล้วกระมัง?”“นี่คือ...”“พูดมา แผนร้ายแรงของเจียเหยาคือสิ่งใด?”เนิ่นนาน ทุกคนพูดพร่ำเรื่อยเปื่อยขึ้นมา ทั้งน่
ให้โอกาสพวกเขารอดชีวิต!แต่หาพวกเขากินอิ่มแล้วต้องการหนี เช่นนั้นก็อย่าโทษเขาแล้วกัน!หากพวกเขาหนี ในทางกลับกันก็ให้เป่ยหวนแบกความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นชวี้จื้อครุ่นคิดเงียบๆ จากนั้นก็กล่าวเสียงเฉียบ “หากพวกเราไม่สนใจคนชราเหล่านี้ พวกเขาทั้งหมดจะต้องอดตาาย พวกเราสามารถใช้โอกาสนี้ทำลายความเชื่อมั่นและบารมีของเจียเหยา!”“ทำไรได้ไม่เท่าใดหรอก”หยุนเจิงส่ายหน้าถอนหายใจ “สถานการณ์ของเป่ยหวน พวกเขาเองก็รู้ดี เดือนที่แล้วก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้! พูดจากความหมายบางอย่าง เจียเหยากำลังหาทางรอดแทนคนชราเหล่านี้…”ในเมื่อคนชราอ่อนแอเลือกที่จะอยู่ที่นี่ เช่นนั้นก็น่าจะเต็มใจด้วยสถานการณ์เช่นนี้ จะสามารถส่งผลกระทบต่อบารมีของเจียเหยาได้เท่าใดกันเชียว?บอกตามตรง ถ้าหากทิ้งคนชราเหล่านี้ไม่สนใจ ในทางกลับกันจะส่งผลกระทบกับพวกเขามากกว่าในอนาคตตอนที่ปกครองเป่ยหวน นั่นก็คือบัญชีหนึ่งยอด!การต่อสู้ครั้งนี้ ต้าเฉียนและเป่ยหวนต่างก็ได้รับผลประโยชน์!นอกจากคนชราเหล่านี้ พวกเขาก็ได้เฉลยศึกแข็งแรงกำยำไม่น้อย โดยเฉพาะคนสองชนเผ่าเหมิงกู่และเจินเกออย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง คนที่ใช้ขุดเหมืองเพียงพอแน่นอน!ส
โจมตี การโจมตีต่อเนื่อง!พวกหยุนเจิงออกเดินทางตลอดคืน เปิดฉากโจมตีราชสำนักของกองทัพศัตรูอย่างต่อเนื่องเนื่องจากเจียเหยาได้ทำการอพยพชนเผ่าทั้งหมดโดยรอบไว้ล่วงหน้าแล้ว พวกเขาจึงไม่พบกับการต่อต้านใดแต่เช่นเดียวกัน พวกเขาก็ไม่ได้เสบียงอาหารใดเช่นกันแม้หยุนเจิงใช้วิธีเดินทัพอย่างปู้ตูครั้งก่อน แบ่งกองทัพจากหนึ่งเป็นสอง ให้กองทัพด้านหน้าขณะที่ให้อาหารม้าก็เก็บสะสมหญ้าให้กับกองทัพด้านหลัง แต่ความเร็วในการโจมตีของพวกเขาช้ากว่าธรรมดามาก ความโชคดีอย่างเดียวคือ หยุนเจิงได้สั่งให้คนเตรียมอาหารแห้งไว้ไม่น้อย คนของพวกเขายังมีอาหารแห้งกินมิฉะนั้น พวกเขายังไปไม่ถึงราชสำนัก คนก็อดตายก่อนแล้วลูกไม้นี้ของเจียเหยา ทำให้หยุนเจิงจนปัญญาแต่ว่า หยุนเจิงหาวิธีที่น่ารังเกียจของเจียเหยาเจอแล้วพวกเขาบุกมาตลอดทาง เห็นในที่ดินของเป่ยหวนมีต้นอ่อนงอกขึ้นมา สามารถให้ต้นอ่อนม้ากินตามใจชนเผ่าเหล่านี้สามารถอพยพไปได้แต่หลังอพยพกลับมา อย่าคิดว่าจะได้รับเสบียงอาหารจากสถานที่แห่งนี้เขาจะทำให้เป่ยหวนขาดแคลนอาหารมากขึ้น!เขาอยากจะเห็น รอจนถึงฤดูหนาว เป่ยหวนจะสามารถทนไปได้สักกี่น้ำ!ตอนที่หยุนเจิงกำลัง
ตรงหน้าจู่ๆ ก็พบชนเผ่าแห่งหนึ่ง หมายความว่าพวกเขาอยู่ห่างจากราชสำนักเป่ยหวนไม่ไกลแล้วราชสำนักเป่ยหวนราชสำนักเป่ยหวนในเวลานี้ สับสนวุ่นวายนานแล้วคนของราชสำนักรีบร้อนหนีแล้วแต่ว่า สัมภาระเหล่านั้น ถูกกำหนดไว้ว่าไม่สามารถเอาไปได้แล้วหากนำสัมภาระเหล่านี้ไปด้วย พวกเขาก็รอการไล่ล่าจากทหารไล่ติดตามได้เลย!กองทัพด้านหลังหนึ่งหมื่นที่นำโดยเจียเหยาและปู้ตู นี่คือคนอพยพชุดสุดท้ายแล้วเจียเหยาไม่คิดอพยพอพยพไปเช่นนี้ ราคาที่เป่ยหวนต้องจ่ายสูงมากถึงฤดูหนาว เป่ยหวนไม่รู้จะมีคนอดตายเท่าใดเป่ยหวนคิดอยากฟื้นคืนกำลัง ไม่รู้ต้องใช้เวลานานเท่าใดถึงกระทั่ง เป่ยหวนรอไม่ถึงตอนที่พลังฟื้นคืน ก็ถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว“องค์หญิง เลิกดูได้แล้ว!”ปู้ตูสีมองเจียเหยาด้วยสีหน้าสับสน “ทัพศัตรูไม่มีทางอยู่ที่นี่ตลอด! รอทัพศัตรูล่าถอย พวกเราก็ยังสามารถกลับมาได้!”เจียเหยาก้มหน้าก้มตา ไม่รู้คิดสิ่งใดอยู่ผ่านไปเนิ่นนาน เจียเหยาจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าเผยแววเด็ดเดี่ยว “อาจารย์ พวกเราสู้ศึกตัดสินกับทัพศัตรูที่นี่เถอะ! หากแพ้ พวกเราก็ยอมจำนน!”“องค์หญิง พวกเราไม่มีโอกาสชนะ!”ปู้ตูรีบยับยั้งความค
หนึ่งวันให้หลังหยุนเจิงกลายเป็นทัพหลังกำลังนำทหารรวมตัวกับทัพหน้า ชวีจื้อที่อยู่ทัพหน้าส่งคนมาบอกรายงานข่าวหน่วยสอดแนมจากทัพหน้าหาตำแหน่งของราชสำนักเป่ยหวนพบแล้วแต่ว่า ราชสำนักเป่ยหวนส่างเปล่าไร้ผู้คนเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงสั่งกองทัพเพิ่มความเร็วหลังครึ่งชั่วยาม พวกเขาก็รวมตัวกับกองกำลังชวีจื้อหลังพักผ่อนเล็กน้อย หยุนเจิงตะโกนออกคำสั่ง “โจมตี! เป้าหมาย ราชสำนักเป่ยหวน!”เมื่อได้ยินเสียงคำสั่งของหยุนเจิง กองกำลังใหญ่เปิดฉากโจมตีอีกครั้งเสียงเกือกม้าโครมครามดังก้องทั่วฟ้าและผืนดินโจมตี!โจมตีไม่หยุด!แม้ไม่มีศัตรู แต่ทหารม้าต้าเฉียนยังคงตั้งขบวนโจมตี เปิดฉากโจมตีราชสำนักเป่ยหวนอย่างต่อเนื่องในที่สุด พวกเขาก็เห็นราชสำนักเป่ยหวนบริเวณไกลๆเกินความคาดหมายของพวกเขา ราชสำนักเป่ยหวนไม่ได้กลายเป็นทะเลเพลิงทว่า สำหรับคนต้าเฉียนแล้ว ที่นี่เป็นทะเลเพลิงหรือไม่ ล้วนไม่สำคัญที่สำคัญคือ พวกเขาได้เยียบเข้าสู่ผืนดินแห่งนี้แล้วพวกเขามาถึงราชสำนักเป่ยหวนแล้ว!ต่อให้ พวกเขาอยากจะจับคนเหล่านั้นที่หนีไปแล้ว“บุก!”“บุกเข้าไป ย่ำม้าสู่ราชสำนักเป่ยหวน!ทุกคนไม่สามารถระงับคว
นี่เป็นช่วงเวลาที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลอง!ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เป่ยหวนจะค่อยๆ กลายเป็นสวนหลังบ้านของพวกเขา!รอจนกระทั่งหยุนเจิงถูกโยนจนเกือบมึนแล้ว ทุกคนจึงวางเขาลง“เอาล่ะ อย่าเอาแต่ดีใจ! รีบไปพักผ่อนก่อน!”หยุนเจิงยิ้มจ้องมองทุกคน จากนั้นก็สั่งเกาเหอ “ก่อนที่จะฉลอง ไปหาเชลยพวกนั้น ถามว่าหลังจากพวกพ่อตาของข้าแพ้สงครามปีนั้น สถานที่ที่ร่างถูกม้าศึกของทัพศัตรูเยียบย่ำจนแหลกเหลวอยู่ที่ใด”เกาเหอชะงักเล็กน้อย รีบรับคำสั่งไม่นาน เกาเหอการถามตำแหน่งมาจากเชลยศึกหยุนเจิงสั่งให้เชลยศึกพาพวกเขาไปสถานที่แห่งนี้ ห่างจากพวกเขาไม่ถึงห้าลี้เท่านั้นถ้าเสิ่นหนานเจิงนำกองทัพหนึ่งหมื่นโชคดีสักหน่อย บางที พวกเขาก็คงได้ย่ำม้าสู้ราชสำนักเป่ยหวนจริงๆ แล้วน่าเสียดาย ในที่สุดพวกเขาก็กองทัพล่มสลายผืนดินแห่งนี้ มองไม่เห็นร่องรอยที่หลงเหลือจากการต่อสู้แล้วแต่ว่า หากมองอย่างละเอียด ก็ยังเห็นเศษกระดูกบางส่วนบนพื้นได้หยุนเจิงคุกเข่า ขุดลงไปเล็กน้อย ก็เห็นกระดูกโพลนขาวชิ้นหนึ่งไม่รู้เจ้ากระดูกขาวชิ้นนี้เป็นของผู้ใดแต่น่าจะเป็นกระดูกของผู้กล้าเป่ยหวนท่านหนึ่ง“ไป เอาถุงมาให้ข้า!”หยุนเจิงเ
“ว่ะฮ่าๆ...”ยังอยู่ห่างไกล เสียงหัวเราะที่เป็นเอกลักษณ์ของฉินชีหู่ดังขึ้นฉินชีหู่และต่งกังขี่ม้ามาถึงหยุนเจิงอย่างรวดเร็วต่งกังกำลังจะกระโดดลงจากหลังม้าเพื่อทำความเคารพ กลับถูกหยุนเจิงห้ามไว้“รีบบอกมา ทางนั้นพวกเจ้าเกิดสิ่งใดขึ้น?”หยุนเจิงถามทั้งสองคนด้วยความสงสัย “พวกเจ้าบุกทะลวงกองทัพศัตรูทางนั้นแล้ว?”“เป็นเช่นนั้นแน่นอน!”ฉินชีหู่ยิ้มเจ้าเล่ห์ “พวกเราบุกทะลวงทัพศัตรูแล้วรีบตรงมาที่นี่ นึกไม่ถึง ยังถูกพวกท่านชิงตัดหน้าแล้ว...”ภายใต้การซักไซ้ของหยุนเจิง ทั้งสองคนบอกเล่ารายละเอียดการบุกทะลวงทัพศัตรูในตอนแรกสุด พวกเขายังรู้สึกหวาดหวั่นนึกไม่ถึง คนและม้าของพวกเขาเส้นทางนั้น รวมกับกองทัพรับใช้เป่ยหมัวถัวแล้ว มีเพียงสองหมื่นกว่าคนเท่านั้นอักทั้ง นี่ยังนับรวมทหารราบขนส่งคุ้มกันเสบียงห้าพันคนด้วยหากทัพศัตรูบุกมาโดยตรง พวกเขาต้องเสียหายอย่างหนักแน่นอนทว่า กุ่ยฟางและเป่ยหวนต่างคนจะให้อีกฝ่ายมาสิ้นเปลืองกับต้าเฉียน ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถทำงานร่วมกันได้แม้ว่าจะมีความแข็งแกร่งก็ตามหลังจากอวี๋ซื่อจงมาถึง มองเห็นปัญหาของกุ่ยฟางและเป่ยหวนด้านหนึ่งอวี๋ซื่อจงรีบติดต่