หลางเย่หลินหันไปมอง นางคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าคนอย่างหลางเสี่ยวหงจะไม่ยอมแพ้ แต่ในเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นไม่ว่านางจะอยากเสียหรือไม่ นางก็ต้องยอมเพราะว่า….
“เอาเช่นนี้ ข้าจะให้คนไปทำความสะอาดเรือนหลังให้เจ้า”
“ท่านพ่อบอกกับข้าแล้ว ข้ามาที่นี่ในฐานะคุณหนูรองสกุลหลาง เจ้า…ท่านก็เห็นอยู่ว่าแม้แต่ใต้เท้าของศาลต้าหลี่ก็รู้จักข้า พวกท่านยังจะกล้าให้ “ผู้อื่น” ที่มิใช่บุตรคนโตพักอยู่เรือนนั้นอยู่งั้นหรือ หรือว่าการอยู่ในจวนเสนาบดีมาหลายปีนี้ จะไม่สามารถขัดเกลา…”
“พอที!! เย่หลิน เรื่องนี้ค่อนข้างกะทันหันเกินไป เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน”
“กะทันหันงั้นหรือ ท่านพ่อท่านเอ่ยผิดแล้วกระมังเจ้าคะก่อนหน้านี้ท่านส่งจดหมายไปบนเขาฉีซางที่ข้าอยู่ใช้เวลาค่อนเดือนและข้าเองก็ใช้เวลาลงเขามาร่วมห้าวัน พวกท่านไม่เพียงไม่จัดห้องพักให้แต่ยังมาใช้ข้ออ้างเช่นนี้ลูกคิดว่า…ลูกเสียใจยิ่งนักที่เป็นเช่นนี้”
เสนาบดีหลางคิ้วกระตุกรุนแรงเมื่อได้ยินบุตรสาวที่ห่างหายจากจวนไปเกือบห้าปีพูดให้เขาได้สำนึก แม้ว่าจะไม่ได้เอ่ยตรง ๆ แต่วาจาราดยาพิษนั่นราวกับจะบอกขาว่านางมาที่นี่ด้วยฐานะใด
“ข้าเข้าใจแล้ว เสี่ยวหง เจ้าย้ายออกมาไปอยู่เรือนหลังห้องเดิมของเจ้า อีกสามวันให้พี่สาวเจ้ากลับไปพักห้องที่เรือนตะวันออก”
“ท่านพ่อ!! ลูกไม่…”
“หุบปาก!! เจ้าคงรู้ตัวดีนะอย่าให้ข้าพูดซ้ำ ฮูหยินดูแลนางด้วยจากนี้กักบริเวณหากไม่มีคำสั่งข้าอย่าให้นางออกไปข้างนอกจนกว่าจะถึงวันงานเลี้ยง”
“ท่านพี่…”
เสนาบดีหลางหันไปมองหลางฮูหยินให้หุบปากและทำตามที่เขาสั่งพร้อมกับสายตาที่พร้อมปรามนางเอาไว้ การกลับมาของหลางเย่หลินในครั้งนี้มิใช่เรื่องที่พวกนางจะรับมือได้ง่าย ๆ เช่นตอนที่ไล่นางออกไป
“เจ้าค่ะ ข้าจะ…รีบสั่งการ”
“ท่านแม่!!”
“เจ้าตามข้ามาเสี่ยวหง”
หลางเสี่ยวหงลุกออกไปด้วยความไม่พอใจ บัดนี้ในห้องโถงเหลือเพียงเสนาบดีหลางและนางเท่านั้น เย่หลินมองไปที่ใบหน้าของผู้ที่เป็นบิดาของนาง ในสายตาเขามีเพียงคำว่า “อำนาจ” และ “ผลประโยชน์” เท่านั้น
เขาแต่งงานกับมารดาของนางเพราะนางได้รับแต่งตั้งเป็นท่านหญิงแต่ก็แอบมีสัมพันธ์ลับกับสาวใช้ที่มารดานางได้ไถ่ตัวมาจากหอนางโลมและพามาอยู่ในจวนสกุลหลางด้วย นึกไม่ถึงว่าทั้งคู่จะลอบได้เสียกันในช่วงที่มารดาของเย่หลินคลอดนางได้เพียงสามเดือน
“เย่หลิน หลายปีมานี้เจ้า…”
“ข้าสบายดีเจ้าค่ะท่านพ่ออย่าได้ห่วง เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ที่ท่านเรียกลูกกลับมาที่นี่ เหตุผลคือสิ่งใดเจ้าคะ”
“เจ้าก็คงพอจะรู้แล้วเรื่องการคัดเลือกคู่สมรสของเหล่าองค์ชายทั้งสิบของฝ่าบาทในอีกสองเดือนข้างหน้า พ่อหวังเอาไว้ว่าเจ้าจะสามารถอภิเษกกับหนึ่งในองค์ชายได้เพื่ออนาคตของเจ้า แต่พ่อคิดว่าฝ่าบาทคงอยากให้เจ้าคนใดคนหนึ่ง...อภิเษกกับองค์รัชทายาท”
“หึ เพื่ออนาคตของข้าที่ท่านไม่เคยใส่ใจมาก่อนงั้นหรือเจ้าคะ พูดให้ผู้อื่นฟังก็คงรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก แต่กับข้า….เหตุใดยิ่งฟังยิ่งรู้สึก…ขนลุก”
“หลางเย่หลิน!! เจ้าต้องการอะไรกันแน่ หากว่าไม่ยินยอมเหตุใดจึงตอบรับจะมางานนี้”
“นั่นมิใช่เพราะท่านหรอกหรือที่บังคับให้ข้ามาพร้อมกับยอมรับเงื่อนไขที่ข้าจะขอกับท่าน”
“แต่การที่เจ้าจะเปลี่ยนไปใช้สกุลไป๋ของแม่เจ้านั่น…ในตอนนี้อาจจะลำบาก”
“ข้ามิได้จะให้ท่านทำในตอนนี้ แต่ท่านก็เห็นแล้วนี่บุตรสาวของท่านสันดานไม่ได้ต่างกับแม่ของนาง”
“หลางเย่หลิน นางเป็นน้องสาวเจ้า”
“ไม่มีน้องสาวที่ดีคนไหนส่งคนไปทำร้ายพี่สาวตัวเอง ท่านคงหูหนวกตาบอดเกินไปแล้วกระมังท่านเสนาบดีถึงได้เห็นผิดเป็นชอบเข้าข้างคนผิดปิดหูปิดตาจนไม่เห็นว่าหลายปีที่ผ่านมานี้จางเยี่ยนทำเลวสิ่งใดไว้บ้าง”
“พอที!!….พอก่อน…เจ้าพึ่งจะกลับมา รีบไปพักผ่อนก่อนเถอะ เอาไว้ค่อยคุยกันวันหลัง”
“ข้าต้องการพักห้องเดิมของข้า”
“ข้าก็บอกไปแล้วว่าต้องใช้เวลาในการโยกย้าย”
“ท่านจัดการไม่ได้??”
“ข้าจัดการไปแล้ว เจ้าก็แค่รอ…”
“ขอบคุณท่านพ่อ เช่นนั้นข้าจะรออยู่ที่เรือนของพี่ใหญ่”
“เจ้า…เฮ้อ…พ่อบ้านต้า ข้าฝากให้ท่าน....”
“ขอรับข้าน้อยจัดการเองขอรับท่านเสนาบดี”
เสนาบดีหลางโบกมือให้เขาและป้าเหยาแม่บ้านรีบตามไปดูแลเย่หลิน หากไม่มีความจำเป็นจะต้องพานางมาเพื่อเลือกคู่เช่นนี้เขาคงไม่คิดจะติดต่อกับนางอีก ก็อย่างที่เห็นนางดื้อดึงและไม่ได้เชื่อฟังเขาที่เป็นบิดาของนางเลยสักนิด ความแค้นที่มารดานางตายและเขาที่ยกย่องจางเยี่ยนขึ้นมาทำให้นางกับเขาสะบั้นความสัมพันธ์พ่อลูกนับตั้งแต่นั้นมา
“คุณชาย คุณหนูรองร้ายกาจไม่ธรรมดาเลยนะขอรับ”
“ตอนที่เราไปช่วยพวกนางข้าคิดว่านางยังไม่มีบาดแผลนะ”
“ขอรับ คุณชายว่าอย่างไรนะขอรับ”
“เปล่า ละครยังไม่จบรีบไปกันเถอะ”
“ขอรับ แต่ว่า…เหตุใดถึงมั่นใจ”
“ท่าทางราวกับแมวสะบัดขนเช่นนั้นเจ้าว่านางจะยอมง่าย ๆ งั้นหรือ หลางเย่หลินเจ้าช่างน่าสนใจยิ่งนัก”
“คุณชาย นางกลับไปที่เรือนคุณชายใหญ่แล้วขอรับ”
“ไปสิ ตามนางไปอย่าให้ใครรู้ตัวล่ะ”
เดิมทีเขาฟังอยู่ที่บนหลังคาห้องโถงและได้ยินทุกเรื่องในนั้น นึกไม่ถึงว่าระหว่างนางกับสกุลหลางจะมีความแค้นที่ฝังลึกจนมิอาจอยู่ร่วมจวนกันถึงเพียงนี้ ที่นางมาเมืองหลวงในครั้งนี้เพียงแค่เข้าร่วมในงานเลือกคู่แต่มิได้คิดเข้าคัดเลือกพระชายาองค์ชาย จุดประสงค์ที่แท้จริงของนางมาเพื่อตัดขาดสกุลหลางและกลับไปใช้แซ่เดิมมารดาของนางคือ “สกุลไป๋”
เรือนใหญ่ทิศตะวันตก
“คุณหนูเจ้าคะ ดูท่าแล้วคุณหนูสามคงไม่ยอมคืนห้องให้ท่านเป็นแน่เจ้าค่ะ”
“คืนให้ง่ายขนาดนั้นก็ไม่สนุกน่ะสิ ข้าคิดเอาไว้อยู่แล้วว่านางต้องไม่ยอม หย่าหลีคราวนี้ถึเวลาของเจ้าแล้ว”
“เจ้าค่ะคุณหนู คันไม้คันมือมานานแล้ว”
“อย่าให้ใครจับได้ล่ะ”
“รับรองได้เลยเจ้าค่ะ จี้ถง เจ้าไปช่วยข้าที”
“ให้ข้าช่วยสิ่งใดกัน”
“เบี่ยงเบนความสนใจ”
ห้องของหลางเสี่ยวหง
“ท่านแม่ลูกไม่มีทางยอมยกห้องให้นางหรอกนะ ข้าไม่ยอม!!”
“เฮ้อ เจ้าก็ได้ยินที่พ่อเจ้าพูดแล้วนี่”
“แต่ลูกไม่ยอมลูกเป็นคุณหนูใหญ่ของจวนสกุลหลางอยู่ดี ๆ แต่จู่ ๆ นางจะมาแย่งแบบนี้มันไม่ยุติธรรม ไหนจะยังเรื่องที่ต้องเข้าคัดเลือกนั่นอีก”
“เจ้าอย่าลืมสิว่าใบหน้าของนางยามนี้มีแผลขนาดใหญ่เช่นนั้น แม่คิดว่าเรื่องการคัดเลือกนางคงไม่ผ่าน”
“ข้าน่าจะให้เจ้าพวกนั้นฆ่ามันเสีย จะได้ไม่ต้องโผล่หน้ามาถึงเมืองหลวงนี่ได้”
“เสี่ยวหงเจ้าก็ได้ยินที่พ่อเจ้าบอก ช่วงนี้เจ้าจะต้องอยู่เงียบ ๆ อย่าได้ก่อเรื่องอีก คำเตือนนั่นแม้จะไม่ได้พูดตรง ๆ แต่พ่อเจ้าก็พูดเพราะต้องการปกป้องเจ้า วันนี้เจ้าไม่ได้ถูกพวกศาลต้าหลี่พาตัวไปส่วนหนึ่งก็คงต้องขอบใจนางที่ละเว้นเจ้า การจะเอาชนะนางไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เหมือนห้าปีก่อนเจ้าเข้าใจหรือไม่”
“แต่ว่าท่านแม่ ห้องนอนใหญ่นี้ลูกไม่อยาก….”
“ถึงอย่างไรนางก็ได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูใหญ่ เจ้าเองก็คงต้องยอมไปก่อน”
“ไม่เจ้าค่ะ ลูกไม่ยอมย้ายเสียอย่างและอีกอย่างท่านพ่อสั่งกักบริเวณลูก เช่นนั้นก็ดีเลยลูกจะไม่ออกจากห้องนี้ดูสิว่านางจะทำอย่างไร พึ่งก้าวเข้ามาเมืองหลวงก็คิดจะมีเรื่องกับลูก นางกล้าดีเช่นไร”
ระหว่างที่พวกนางนั่งกันอยู่ก็เริ่มได้ยินเสียงหึ่ง ๆ ของแมลงแต่หาที่มาที่ไปไม่ได้ สองแม่ลูกรวมถึงสาวใช้อีกสองคนที่นั่งอยู่ด้านในห้องเริ่มมองหาที่มาของเสียงและไม่นานฝูงผึ้งจำนวนมากก็ไล่ต่อยพวกนางจนอยู่ในห้องไม่ได้
“กรี๊ด!!!!…..ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย…ท่านแม่ลูกถูกมันต่อยแล้ว กรี๊ด!!!! หน้าข้า…..ใบหน้าของข้า!!!”
เสียงกรีดร้องของหลางเสี่ยวหงเรียกให้บ่าวไพร่ทั้งจวนมารวมตัวกันได้พร้อมกับพยายามไล่ผึ้งฝูงใหญ่ที่ไม่รู้ว่ามาจากที่ใดแต่ที่แน่ ๆ มันแฝงอยู่ในห้องนอนของหลางเสี่ยวหงอย่างไม่ต้องสงสัย บัดนี้ทั้งหลางฮูหยินและคุณหนูสามถูกผึ้งต่อยที่ใบหน้าจนเจ็บปวดและเริ่มมีแผลจำนวนมากแล้ว “ยังเป็นเสียงที่ฟังแล้วงี่เง่าและน่าสมเพช ผ่านไปกี่ปีก็น่ารังเกียจเช่นเดิมไม่เปลี่ยนเลย”เย่หลินเปิดจุกน้ำผึ้งและยื่นจากหน้าต่างเพื่อเรียกฝูงผึ้งให้บินกลับมา ผึ้งฝูงนี้นางเป็นผู้เลี้ยงเอาไว้เอง เหล็กในของผึ้งแต่ละตัวเคลือบ “พิษผึ้งฝากรัก” เอาไว้ มันจะทำให้ผู้ที่โดนต่อยมีตุ่มพุพอง ยิ่งกรีดเอาเหล็กในออกก็จะยิ่งลุกลามเป็นแผลใหญ่หากไม่ได้ยาถอนพิษของนาง ต่อให้เป็นบัวหิมะยอดเขาซีหวนก็ไม่มีทางทำให้แผลบนใบหน้าหายไปได้“แย่แล้วขอรับ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปพวกนางต้องตายแน่ ๆ”“ไม่ตายหรอก เจ้าดูสิ ฝูงผึ้งนั่นกลับไปหาเจ้าของแล้ว”“เจ้าของหรือขอรับ หรือว่า!!”“หึ”โม่จางหยวนมองอยู่ที่หลังคาเรือนใหญ่ เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ฝูงผึ้งบินกลับไปตามทิศทางที่มันมาทางทิศตะวันตกจากห้องของหลางเย่หลิน“ลูกเล่นนางช่างมีมากมายจนทำให้ข้าประหลาดใจไม่น้อย”
เสนาบดีหลางตกใจจนพูดไม่ออก แม้ว่าจะบอกว่าผึ้งต่อยแต่เขาไม่เคยเห็นผู้ใดถูกต่อยจนใบหน้าเสียโฉมเช่นที่เสี่ยวหงโดน เขาหันไปมองเย่หลินที่มองไปที่เสี่ยวหงและหันมามองเขา“น้องสาม เจ้าถูกต่อยขนาดนั้นข้าไม่แปลกใจเลยที่ข้าวของในห้องของเจ้า….หรือว่านี่คือแผนการทำร้ายข้าอีกเช่นนั้นหรือ ท่านพ่อเจ้าคะข้าควรจะทำเช่นไรดี เดิมทีก่อนมาที่นี่ก็ถูกลอบฆ่า เข้ามาในจวนก็ยัง….”“หลางเสี่ยวหง!! ข้าต้องการคำอธิบายในเรื่องนี้!!”“ท่านพ่อลูกไม่รู้เรื่องนะเจ้าคะ ลูกไม่รู้ว่าฝูงผึ้งนั่นมาจากที่ใด ลูกก็…”“หากเจ้าไม่รู้เหตุใดจึงไม่เรียกให้คนมาช่วยกำจัดแต่กลับหลอกพี่เจ้าเข้าไปในห้องโดยที่นางไม่รู้ หึ นางเอาของด้านในมาเผาก่อนที่พวกมันจะลุกลามไปทั่วจวนก็ทำถูกต้องแล้ว!!”“ท่านพ่อ ลูก…..”“เจ้าหุบปากไป แล้วไสหัวไปไกล ๆ จะไปไหนก็ไป จากนี้ไปอยู่เรือนหลัง เรือนเดิมที่เจ้ากับแม่เจ้าเคยอยู่ ไป!!!”“ท่านพี่!!”“ท่านพ่อ!!!”“พ่อบ้านต้าเซิ่ง”“ขอรับ”“ให้คนย้ายของของพวกนางไปที่เรือนหลัง ไม่มีคำสั่งข้าอย่าได้ให้ข้าเห็นพวกนางที่เรือนหน้าอีก”“ขอรับนายท่าน”“ท่านเสนาบดีท่านจะทำเช่นนี้กับพวกเราหาได้ไม่นะเจ้าคะ”เสนาบดีหลางเดินมา เม
เขาฉีซาง แคว้นต้าเซี่ย“คุณหนูเจ้าคะ อีกนานกว่าจะถึงในเมือง กินอะไรรองท้องเสียหน่อยเถอะเจ้าค่ะ”“เจ้ากินเถอะจี้ถง หนทางข้างหน้ายังยากคาดเดา เราจะประมาทไม่ได้โดยเด็ดขาด”“คุณหนูคิดว่า…จะมีอะไรเกิดขึ้นหรือเจ้าคะ”“ตั้งแต่ส่งตัวข้ามาอยู่อารามจวินซวนบนเขาร่วมห้าปี จู่ ๆ ท่านพ่อผู้สูงส่งกลับให้คนมาตามข้าลงจากเขา เจ้าคิดว่าจะมีเรื่องดีงั้นหรือ”“บ่าว…บ่าวไม่ทราบเจ้าค่ะแต่ว่าคุณหนู..”“ชู่ว….เงียบ ๆ ข้าได้ยินเสียงอื่นนอกจากล้อรถม้า”สาวใช้เริ่มกำดาบในมือแน่น คุณหนูรองสกุลหลาง “หลางเย่หลิน” ที่ค่อย ๆ ขยับไปที่ด้านหน้าตรงประตูคนขับเพื่อส่งสัญญาณบางอย่างให้คนด้านนอก“หย่าหลี เจ้ารีบไปตรวจดูรอบ ๆ นี้ไม่เกินห้าลี้ ข้าคิดว่าเราไม่ปลอดภัย”“คุณหนู ดูแลตัวเองด้วย”“อืม ข้าจะรอเจ้าที่ปากทางแยกเข้าเมืองข้างหน้า”“เจ้าค่ะ”นางหันกลับมามองหน้าสาวใช้อีกคนในรถม้า พร้อมกับพยักหน้าให้กันตามสัญญาณไม่นานรถม้าก็ถูกล้อมเอาไว้และถูกโจมตีทันที “คันนี้แหละไม่ผิดแน่ ฆ่าให้หมด!!”“คุณหนูระวัง!!”“จี้ถงเจ้าก้มหลบไป!!”“หลางเย่หลิน” กำบางอย่างอยู่ในมือก่อนจะหลับตาลงและปล่อยบางอย่างพุ่งออกจากรถม้า สาวใช้ข้างกายปิดจมูก
บุรุษหนุ่มในชุดสีดำยังคงยืนมองนางพร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นราวกับกำลังจะพิจารณาบางอย่าง หลางเย่หลินรู้สึกว่าเขาออกจะ…ไร้มารยาทอยู่นิดหน่อย“ข้า…จะทราบได้เช่นไรว่าพวกท่านคือคนที่อาจารย์ส่งมาคุ้มกันจริง ๆ”“คุณหนูรอง ข้าช่วยเจ้ามาสองรอบแล้วตลอดทางลงเขา หากว่าครั้งนี้ไม่ใช่ข้าเกรงว่าเจ้าคงตายก่อนไปถึงสกุลหลางแล้ว แต่หากว่าเจ้าไม่เชื่อก็คงต้องกลับไปถามนางแล้วล่ะ ตอนนี้เจ้ามีทางเลือกสองทาง ให้ข้าอารักขาเจ้าหรือไม่ก็…รอเจ้าพวกที่ดักฆ่าเจ้าข้างหน้า เจ้ารู้ดีนี่ว่ามันไม่น่าจะหมดเท่านี้”หลางเย่หลินหรี่ตามองบุรุษปากดีตรงหน้า ท่าทางองอาจมั่นใจนั่นทำให้นางรู้สึกขัดตายิ่งนักแม้ว่านางที่แทบจะไม่ค่อยได้พบผู้ใดเลยตลอดสี่ปีกว่าที่ผ่านมาแต่นึกไม่ถึงว่าเมื่อก้าวเท้าลงจากเขาก็เจอเรื่องวุ่นวายเช่นนี้“แม้แต่ชื่อข้ายังไม่รู้จักท่านเลย”“ข้า…อึก!!….เจ้า!!”""คุณชาย!!""เขาอ้าปากเพียงนิดเดียวก็ถูกนางดีดยาบางอย่างเข้าไปในปากทันทีพร้อมกับความตกใจขององครักษ์อีกสองคนที่จะพุ่งตัวเข้ามาแต่พวกเขาก็ถูกสาวใช้ทั้งสองของหลางเย่หลินกันเอาไว้เช่นกัน“เจ้า…คุณหนูรองเจ้าเอาสิ่งใดให้ข้ากิน”“ท่านองครักษ์ หากว่าท่านมิได้คิดร
“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น ไปถึงก็รู้เองรีบไปเถอะ พวกเจ้าคอยดูต้นทางและความปลอดภัยของทุกคนให้ดี”“ขอรับคุณชาย”ห้องพักที่พวกเขาจองทั้งหมดสามห้อง ซึ่งห้องของนางและโม่จางหยวนเป็นห้องที่อยู่ตรงกลางและเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมีห้องแยกสองห้องนางจึงเข้าใจที่เขาพูด ด้านซ้ายเป็นห้องขององครักษ์ของเขาส่วนทางขวาสุดริมทางเดินเป็นของสาวใช้ทั้งสองของนาง“ท่าน…ไม่นอนหรือ เหตุใดไปนั่งอยู่ที่นั่น”“คุณหนูรอง เจ้าคงลืมไปแล้วว่าข้าเป็นองครักษ์ของเจ้า แน่นอนว่าต้องคอยอารักขาเจ้าแม้แต่ยามที่เจ้าหลับ”“ต้องทำเช่นนั้นเลยหรือ”“เจ้านอนพักเถอะ ข้าชินแล้ว”แต่ผู้ใดจะหลับลงได้เมื่อมีคนอื่นอยู่ร่วมห้องด้วยเช่นนี้ หลางเย่หลินลอบมององครักษ์หนุ่มที่นั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง สายตาเขามองออกไปด้านนอก แต่ใบหน้าที่ต้องแสงจันทร์นั้นทำเอาหัวใจของหลางเย่หลินสั่นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะไม่ได้หันมามองนางเลยก็ตาม“เจ้านอนไม่หลับหรือคุณหนูรอง”“ข้า…ไม่ชินกับ…การลงมาจากเขา ที่นั่นมิได้เสียงดังเช่นนี้”“เจ้ามาดูตรงนี้สิ”เขาหันมาเรียกนาง อีกอย่างคงเพราะผ้าที่นางใช้คลุมนั้นด้วย เวลานางนอนก็ยังไม่คิดจะถอด เช่นนี้จะหายใจสะดวกได้อย
“เจ้าว่าอย่างไรนะ….เจ้าบอกว่า”“ขอรับ ไม่ผิดแน่เพราะพวกมันรับสารภาพเอง เพราะพวกมันที่เข้ามาขัดขวางพวกข้าน้อยจึงลงมือไม่ได้และมัวแต่ต่อสู้กันเองดังนั้น…..”“ตอนนี้นาง!!”“เข้าเมืองหลวงมาแล้วขอรับ”“แล้วคนที่เหลือเจ้าจัดการหมดแล้วหรือไม่”“โชคร้ายที่คนของข้าน้อยตายหมดเหลือเพียงข้า แต่ว่าคนของคุณหนูสามสกุลหลาง….ถูกจับได้”“ว่าอย่างไรนะ!! เจ้ารีบไปได้แล้ว หากมีเรื่องครั้งหน้าข้าจะเรียกใช้เจ้า เรื่องครั้งนี้ข้าถือว่า…มันไม่ใช่ความผิดพลาดของเจ้า เงินค่าจ้างที่เหลืออยู่นี่ ข้าต้องไปก่อนล่ะ”“ขอบคุณฮูหยิน”สตรีสูงศักดิ์เร่งเดินออกจากห้องไปพร้อมกับคนของพวกนาง ไม่นานโม่จางหยวนก็เดินออกมาจากฉากกั้นประตูไปที่โต๊ะที่วางถุงเงินขนาดใหญ่อยู่ เขาถอดหน้ากากออกและหยิบถุงเงินนั้นขึ้นมา“ห้าร้อยตำลึง ค่าตัวนางช่างแสนถูกนักเมื่อเทียบกับฐานะบุตรสาวเสนาบดีใหญ่ของต้าเซี่ย”“คุณชาย!!”กังลี่นั่นเอง เขาเร่งเข้ามาในห้องหลังจากไปจัดการเรื่องที่โม่จางหยวนสั่งให้ไปทำ ถุงเงินห่อใหญ่ถูกโยนไปให้กังลี่โดยไม่ได้มอง “นี่คือ…”“ค่าจ้างของพวกนักฆ่าที่หลางฮูหยินสั่งพวกมันไปฆ่าหลางเย่หลิน”“แต่เราฆ่าพวกนักฆ่าพวกนั้นหมดแล้ว…
เสนาบดีหลางหันไปมองเย่หลิน เขาหยุดเกาเคราแพะน่าเกลียดนั่นได้เสียทีเมื่อหันมามองสบตาบุตรสาวคนโต“เจ้าว่าอย่างไรนะ ระหว่างทางเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ”“ลูกถูกคนลอบฆ่าถึงสองครั้งเจ้าค่ะ”“เจ้าว่าอย่างไรนะ!! มันเกิดขึ้นได้เช่นไร”เสนาบดีหลางตกใจเล็กน้อยและหันไปมองฮูหยินที่นั่งบีบผ้าเช็ดหน้าอยู่ในมือแต่สายตายังมองไปที่เย่หลินไม่วางตากับบุตรสาวที่นั่งไม่นิ่งตั้งแต่เมื่อครู่นี้“เจ้าค่ะ โจรชั่วนั่นถูกสั่งให้มาฆ่าลูก อีกกลุ่มหนึ่งถูกสั่งให้มา…ทำลายโฉมหน้าของลูก”“ดังนั้นเจ้าจะบอกว่า!!….ที่ใบหน้าเจ้า”หลางเย่หลินลุกขึ้นมาและค่อย ๆ เปิดใบหน้าของนางออกให้ทั้งหมดในห้องโถงดู แผลที่ยาวบนใบหน้าของนางนั้นสร้างความตกใจให้กับเสนาบดีหลางเป็นอย่างมากแต่กลับทำให้หลางเสี่ยวหงลอบยิ้มอย่างสะใจส่วนฮูหยินนั้นนั่งตัวแข็งทื่อราวกับหินแกะสลักก็มิปาน“พ่อบ้านต้าเซิ่ง…เจ้า…รีบไปเรียกหมอมาเร็วเข้า รีบไปเรียกมาดูใบหน้าให้นางหน่อย”“ขอรับนายท่าน”“อย่าเลยเจ้าค่ะท่านพ่อ”“ไม่ได้!! ใบหน้าของสตรีเป็นสิ่งสำคัญเจ้าจะ…”“แผลนี้ย่อมต้องมีคนชดใช้ลูกเข้าใจเจ้าค่ะ แต่มิใช่ตอนนี้ และแผลนี้ลูกเองก็มีทางรักษาให้หายได้เจ้าค่ะท่านพ่ออย่
เสนาบดีหลางตกใจจนพูดไม่ออก แม้ว่าจะบอกว่าผึ้งต่อยแต่เขาไม่เคยเห็นผู้ใดถูกต่อยจนใบหน้าเสียโฉมเช่นที่เสี่ยวหงโดน เขาหันไปมองเย่หลินที่มองไปที่เสี่ยวหงและหันมามองเขา“น้องสาม เจ้าถูกต่อยขนาดนั้นข้าไม่แปลกใจเลยที่ข้าวของในห้องของเจ้า….หรือว่านี่คือแผนการทำร้ายข้าอีกเช่นนั้นหรือ ท่านพ่อเจ้าคะข้าควรจะทำเช่นไรดี เดิมทีก่อนมาที่นี่ก็ถูกลอบฆ่า เข้ามาในจวนก็ยัง….”“หลางเสี่ยวหง!! ข้าต้องการคำอธิบายในเรื่องนี้!!”“ท่านพ่อลูกไม่รู้เรื่องนะเจ้าคะ ลูกไม่รู้ว่าฝูงผึ้งนั่นมาจากที่ใด ลูกก็…”“หากเจ้าไม่รู้เหตุใดจึงไม่เรียกให้คนมาช่วยกำจัดแต่กลับหลอกพี่เจ้าเข้าไปในห้องโดยที่นางไม่รู้ หึ นางเอาของด้านในมาเผาก่อนที่พวกมันจะลุกลามไปทั่วจวนก็ทำถูกต้องแล้ว!!”“ท่านพ่อ ลูก…..”“เจ้าหุบปากไป แล้วไสหัวไปไกล ๆ จะไปไหนก็ไป จากนี้ไปอยู่เรือนหลัง เรือนเดิมที่เจ้ากับแม่เจ้าเคยอยู่ ไป!!!”“ท่านพี่!!”“ท่านพ่อ!!!”“พ่อบ้านต้าเซิ่ง”“ขอรับ”“ให้คนย้ายของของพวกนางไปที่เรือนหลัง ไม่มีคำสั่งข้าอย่าได้ให้ข้าเห็นพวกนางที่เรือนหน้าอีก”“ขอรับนายท่าน”“ท่านเสนาบดีท่านจะทำเช่นนี้กับพวกเราหาได้ไม่นะเจ้าคะ”เสนาบดีหลางเดินมา เม
เสียงกรีดร้องของหลางเสี่ยวหงเรียกให้บ่าวไพร่ทั้งจวนมารวมตัวกันได้พร้อมกับพยายามไล่ผึ้งฝูงใหญ่ที่ไม่รู้ว่ามาจากที่ใดแต่ที่แน่ ๆ มันแฝงอยู่ในห้องนอนของหลางเสี่ยวหงอย่างไม่ต้องสงสัย บัดนี้ทั้งหลางฮูหยินและคุณหนูสามถูกผึ้งต่อยที่ใบหน้าจนเจ็บปวดและเริ่มมีแผลจำนวนมากแล้ว “ยังเป็นเสียงที่ฟังแล้วงี่เง่าและน่าสมเพช ผ่านไปกี่ปีก็น่ารังเกียจเช่นเดิมไม่เปลี่ยนเลย”เย่หลินเปิดจุกน้ำผึ้งและยื่นจากหน้าต่างเพื่อเรียกฝูงผึ้งให้บินกลับมา ผึ้งฝูงนี้นางเป็นผู้เลี้ยงเอาไว้เอง เหล็กในของผึ้งแต่ละตัวเคลือบ “พิษผึ้งฝากรัก” เอาไว้ มันจะทำให้ผู้ที่โดนต่อยมีตุ่มพุพอง ยิ่งกรีดเอาเหล็กในออกก็จะยิ่งลุกลามเป็นแผลใหญ่หากไม่ได้ยาถอนพิษของนาง ต่อให้เป็นบัวหิมะยอดเขาซีหวนก็ไม่มีทางทำให้แผลบนใบหน้าหายไปได้“แย่แล้วขอรับ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปพวกนางต้องตายแน่ ๆ”“ไม่ตายหรอก เจ้าดูสิ ฝูงผึ้งนั่นกลับไปหาเจ้าของแล้ว”“เจ้าของหรือขอรับ หรือว่า!!”“หึ”โม่จางหยวนมองอยู่ที่หลังคาเรือนใหญ่ เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ฝูงผึ้งบินกลับไปตามทิศทางที่มันมาทางทิศตะวันตกจากห้องของหลางเย่หลิน“ลูกเล่นนางช่างมีมากมายจนทำให้ข้าประหลาดใจไม่น้อย”
หลางเย่หลินหันไปมอง นางคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าคนอย่างหลางเสี่ยวหงจะไม่ยอมแพ้ แต่ในเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นไม่ว่านางจะอยากเสียหรือไม่ นางก็ต้องยอมเพราะว่า….“เอาเช่นนี้ ข้าจะให้คนไปทำความสะอาดเรือนหลังให้เจ้า”“ท่านพ่อบอกกับข้าแล้ว ข้ามาที่นี่ในฐานะคุณหนูรองสกุลหลาง เจ้า…ท่านก็เห็นอยู่ว่าแม้แต่ใต้เท้าของศาลต้าหลี่ก็รู้จักข้า พวกท่านยังจะกล้าให้ “ผู้อื่น” ที่มิใช่บุตรคนโตพักอยู่เรือนนั้นอยู่งั้นหรือ หรือว่าการอยู่ในจวนเสนาบดีมาหลายปีนี้ จะไม่สามารถขัดเกลา…”“พอที!! เย่หลิน เรื่องนี้ค่อนข้างกะทันหันเกินไป เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน”“กะทันหันงั้นหรือ ท่านพ่อท่านเอ่ยผิดแล้วกระมังเจ้าคะก่อนหน้านี้ท่านส่งจดหมายไปบนเขาฉีซางที่ข้าอยู่ใช้เวลาค่อนเดือนและข้าเองก็ใช้เวลาลงเขามาร่วมห้าวัน พวกท่านไม่เพียงไม่จัดห้องพักให้แต่ยังมาใช้ข้ออ้างเช่นนี้ลูกคิดว่า…ลูกเสียใจยิ่งนักที่เป็นเช่นนี้”เสนาบดีหลางคิ้วกระตุกรุนแรงเมื่อได้ยินบุตรสาวที่ห่างหายจากจวนไปเกือบห้าปีพูดให้เขาได้สำนึก แม้ว่าจะไม่ได้เอ่ยตรง ๆ แต่วาจาราดยาพิษนั่นราวกับจะบอกขาว่านางมาที่นี่ด้วยฐานะใด “ข้าเข้าใจแล้ว เสี่ยวหง เจ้าย้ายออกมาไปอยู่เรือนหล
เสนาบดีหลางหันไปมองเย่หลิน เขาหยุดเกาเคราแพะน่าเกลียดนั่นได้เสียทีเมื่อหันมามองสบตาบุตรสาวคนโต“เจ้าว่าอย่างไรนะ ระหว่างทางเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ”“ลูกถูกคนลอบฆ่าถึงสองครั้งเจ้าค่ะ”“เจ้าว่าอย่างไรนะ!! มันเกิดขึ้นได้เช่นไร”เสนาบดีหลางตกใจเล็กน้อยและหันไปมองฮูหยินที่นั่งบีบผ้าเช็ดหน้าอยู่ในมือแต่สายตายังมองไปที่เย่หลินไม่วางตากับบุตรสาวที่นั่งไม่นิ่งตั้งแต่เมื่อครู่นี้“เจ้าค่ะ โจรชั่วนั่นถูกสั่งให้มาฆ่าลูก อีกกลุ่มหนึ่งถูกสั่งให้มา…ทำลายโฉมหน้าของลูก”“ดังนั้นเจ้าจะบอกว่า!!….ที่ใบหน้าเจ้า”หลางเย่หลินลุกขึ้นมาและค่อย ๆ เปิดใบหน้าของนางออกให้ทั้งหมดในห้องโถงดู แผลที่ยาวบนใบหน้าของนางนั้นสร้างความตกใจให้กับเสนาบดีหลางเป็นอย่างมากแต่กลับทำให้หลางเสี่ยวหงลอบยิ้มอย่างสะใจส่วนฮูหยินนั้นนั่งตัวแข็งทื่อราวกับหินแกะสลักก็มิปาน“พ่อบ้านต้าเซิ่ง…เจ้า…รีบไปเรียกหมอมาเร็วเข้า รีบไปเรียกมาดูใบหน้าให้นางหน่อย”“ขอรับนายท่าน”“อย่าเลยเจ้าค่ะท่านพ่อ”“ไม่ได้!! ใบหน้าของสตรีเป็นสิ่งสำคัญเจ้าจะ…”“แผลนี้ย่อมต้องมีคนชดใช้ลูกเข้าใจเจ้าค่ะ แต่มิใช่ตอนนี้ และแผลนี้ลูกเองก็มีทางรักษาให้หายได้เจ้าค่ะท่านพ่ออย่
“เจ้าว่าอย่างไรนะ….เจ้าบอกว่า”“ขอรับ ไม่ผิดแน่เพราะพวกมันรับสารภาพเอง เพราะพวกมันที่เข้ามาขัดขวางพวกข้าน้อยจึงลงมือไม่ได้และมัวแต่ต่อสู้กันเองดังนั้น…..”“ตอนนี้นาง!!”“เข้าเมืองหลวงมาแล้วขอรับ”“แล้วคนที่เหลือเจ้าจัดการหมดแล้วหรือไม่”“โชคร้ายที่คนของข้าน้อยตายหมดเหลือเพียงข้า แต่ว่าคนของคุณหนูสามสกุลหลาง….ถูกจับได้”“ว่าอย่างไรนะ!! เจ้ารีบไปได้แล้ว หากมีเรื่องครั้งหน้าข้าจะเรียกใช้เจ้า เรื่องครั้งนี้ข้าถือว่า…มันไม่ใช่ความผิดพลาดของเจ้า เงินค่าจ้างที่เหลืออยู่นี่ ข้าต้องไปก่อนล่ะ”“ขอบคุณฮูหยิน”สตรีสูงศักดิ์เร่งเดินออกจากห้องไปพร้อมกับคนของพวกนาง ไม่นานโม่จางหยวนก็เดินออกมาจากฉากกั้นประตูไปที่โต๊ะที่วางถุงเงินขนาดใหญ่อยู่ เขาถอดหน้ากากออกและหยิบถุงเงินนั้นขึ้นมา“ห้าร้อยตำลึง ค่าตัวนางช่างแสนถูกนักเมื่อเทียบกับฐานะบุตรสาวเสนาบดีใหญ่ของต้าเซี่ย”“คุณชาย!!”กังลี่นั่นเอง เขาเร่งเข้ามาในห้องหลังจากไปจัดการเรื่องที่โม่จางหยวนสั่งให้ไปทำ ถุงเงินห่อใหญ่ถูกโยนไปให้กังลี่โดยไม่ได้มอง “นี่คือ…”“ค่าจ้างของพวกนักฆ่าที่หลางฮูหยินสั่งพวกมันไปฆ่าหลางเย่หลิน”“แต่เราฆ่าพวกนักฆ่าพวกนั้นหมดแล้ว…
“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น ไปถึงก็รู้เองรีบไปเถอะ พวกเจ้าคอยดูต้นทางและความปลอดภัยของทุกคนให้ดี”“ขอรับคุณชาย”ห้องพักที่พวกเขาจองทั้งหมดสามห้อง ซึ่งห้องของนางและโม่จางหยวนเป็นห้องที่อยู่ตรงกลางและเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมีห้องแยกสองห้องนางจึงเข้าใจที่เขาพูด ด้านซ้ายเป็นห้องขององครักษ์ของเขาส่วนทางขวาสุดริมทางเดินเป็นของสาวใช้ทั้งสองของนาง“ท่าน…ไม่นอนหรือ เหตุใดไปนั่งอยู่ที่นั่น”“คุณหนูรอง เจ้าคงลืมไปแล้วว่าข้าเป็นองครักษ์ของเจ้า แน่นอนว่าต้องคอยอารักขาเจ้าแม้แต่ยามที่เจ้าหลับ”“ต้องทำเช่นนั้นเลยหรือ”“เจ้านอนพักเถอะ ข้าชินแล้ว”แต่ผู้ใดจะหลับลงได้เมื่อมีคนอื่นอยู่ร่วมห้องด้วยเช่นนี้ หลางเย่หลินลอบมององครักษ์หนุ่มที่นั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง สายตาเขามองออกไปด้านนอก แต่ใบหน้าที่ต้องแสงจันทร์นั้นทำเอาหัวใจของหลางเย่หลินสั่นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะไม่ได้หันมามองนางเลยก็ตาม“เจ้านอนไม่หลับหรือคุณหนูรอง”“ข้า…ไม่ชินกับ…การลงมาจากเขา ที่นั่นมิได้เสียงดังเช่นนี้”“เจ้ามาดูตรงนี้สิ”เขาหันมาเรียกนาง อีกอย่างคงเพราะผ้าที่นางใช้คลุมนั้นด้วย เวลานางนอนก็ยังไม่คิดจะถอด เช่นนี้จะหายใจสะดวกได้อย
บุรุษหนุ่มในชุดสีดำยังคงยืนมองนางพร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นราวกับกำลังจะพิจารณาบางอย่าง หลางเย่หลินรู้สึกว่าเขาออกจะ…ไร้มารยาทอยู่นิดหน่อย“ข้า…จะทราบได้เช่นไรว่าพวกท่านคือคนที่อาจารย์ส่งมาคุ้มกันจริง ๆ”“คุณหนูรอง ข้าช่วยเจ้ามาสองรอบแล้วตลอดทางลงเขา หากว่าครั้งนี้ไม่ใช่ข้าเกรงว่าเจ้าคงตายก่อนไปถึงสกุลหลางแล้ว แต่หากว่าเจ้าไม่เชื่อก็คงต้องกลับไปถามนางแล้วล่ะ ตอนนี้เจ้ามีทางเลือกสองทาง ให้ข้าอารักขาเจ้าหรือไม่ก็…รอเจ้าพวกที่ดักฆ่าเจ้าข้างหน้า เจ้ารู้ดีนี่ว่ามันไม่น่าจะหมดเท่านี้”หลางเย่หลินหรี่ตามองบุรุษปากดีตรงหน้า ท่าทางองอาจมั่นใจนั่นทำให้นางรู้สึกขัดตายิ่งนักแม้ว่านางที่แทบจะไม่ค่อยได้พบผู้ใดเลยตลอดสี่ปีกว่าที่ผ่านมาแต่นึกไม่ถึงว่าเมื่อก้าวเท้าลงจากเขาก็เจอเรื่องวุ่นวายเช่นนี้“แม้แต่ชื่อข้ายังไม่รู้จักท่านเลย”“ข้า…อึก!!….เจ้า!!”""คุณชาย!!""เขาอ้าปากเพียงนิดเดียวก็ถูกนางดีดยาบางอย่างเข้าไปในปากทันทีพร้อมกับความตกใจขององครักษ์อีกสองคนที่จะพุ่งตัวเข้ามาแต่พวกเขาก็ถูกสาวใช้ทั้งสองของหลางเย่หลินกันเอาไว้เช่นกัน“เจ้า…คุณหนูรองเจ้าเอาสิ่งใดให้ข้ากิน”“ท่านองครักษ์ หากว่าท่านมิได้คิดร
เขาฉีซาง แคว้นต้าเซี่ย“คุณหนูเจ้าคะ อีกนานกว่าจะถึงในเมือง กินอะไรรองท้องเสียหน่อยเถอะเจ้าค่ะ”“เจ้ากินเถอะจี้ถง หนทางข้างหน้ายังยากคาดเดา เราจะประมาทไม่ได้โดยเด็ดขาด”“คุณหนูคิดว่า…จะมีอะไรเกิดขึ้นหรือเจ้าคะ”“ตั้งแต่ส่งตัวข้ามาอยู่อารามจวินซวนบนเขาร่วมห้าปี จู่ ๆ ท่านพ่อผู้สูงส่งกลับให้คนมาตามข้าลงจากเขา เจ้าคิดว่าจะมีเรื่องดีงั้นหรือ”“บ่าว…บ่าวไม่ทราบเจ้าค่ะแต่ว่าคุณหนู..”“ชู่ว….เงียบ ๆ ข้าได้ยินเสียงอื่นนอกจากล้อรถม้า”สาวใช้เริ่มกำดาบในมือแน่น คุณหนูรองสกุลหลาง “หลางเย่หลิน” ที่ค่อย ๆ ขยับไปที่ด้านหน้าตรงประตูคนขับเพื่อส่งสัญญาณบางอย่างให้คนด้านนอก“หย่าหลี เจ้ารีบไปตรวจดูรอบ ๆ นี้ไม่เกินห้าลี้ ข้าคิดว่าเราไม่ปลอดภัย”“คุณหนู ดูแลตัวเองด้วย”“อืม ข้าจะรอเจ้าที่ปากทางแยกเข้าเมืองข้างหน้า”“เจ้าค่ะ”นางหันกลับมามองหน้าสาวใช้อีกคนในรถม้า พร้อมกับพยักหน้าให้กันตามสัญญาณไม่นานรถม้าก็ถูกล้อมเอาไว้และถูกโจมตีทันที “คันนี้แหละไม่ผิดแน่ ฆ่าให้หมด!!”“คุณหนูระวัง!!”“จี้ถงเจ้าก้มหลบไป!!”“หลางเย่หลิน” กำบางอย่างอยู่ในมือก่อนจะหลับตาลงและปล่อยบางอย่างพุ่งออกจากรถม้า สาวใช้ข้างกายปิดจมูก