" กลับบ้านเถอะ นับดาวเย็นแล้วไปพักผ่อนเถอะ "
เสียงอาจารย์รวีบอกออกมา ก่อนจะเก็บข้าวของของตัวเอง "ขอบใจมากเลยนะ ที่มาช่วยวันนี้ อาทิตย์หน้าเหลือเรียนกี่วันละ
"เรียนสามวันค่ะ วันอื่นๆหนูว่าง "
"อยากทำงานต่อไหมละ อาจารย์จะถามอาจารย์ท่านอื่นให้ "
ท่านบอกด้วยความเมตตา "หนูว่างอีกสองวันค่ะ วันที่มาเรียนหนูรับงานอาจารย์ไว้แล้วค่ะ "
"อาจารย์พีร์คะ มีงานให้นักศึกษาช่วยไหมคะ นับดาวเค้าทำงานเก่ง ละเอียดใช้ได้เลยค่ะ เค้าว่างสองวัน นะคะ
" รณพีร์เงยหน้าขึ้นมาจากกองงานของตัวเอง สมองคิดวนเวียนไปมา อยากจะให้ใก้ลก็อยาก อยากจะให้ห่างไปก็อยาก
"ถ้าช่วยเช็คงานของรุ่นน้องพอจะทำได้ไหม " รณพีร์ตอบไปแล้ว กลั้นใจรอคำตอบ
"ได้ค่ะ หนูทำได้ " เธอยิ้มหวานอย่างยินดี แล้วยกมือไห้วขอบคุณ "ขอบคุณอาจารย์รวีมากนะคะ ที่การันตีหนูให้อาจารย์รณพีร์ ไม่อยากงั้น หนูคงไม่ได้ทำงานแน่ๆ "
ช่วงเย็นวันเสาร์เป็นวันครอบครัวสินะ คนไม่มีครอบครัวก็ต้องอยู่ตามลำพัง กระเป๋าสตางค์ใบใหญ่ยี่ห้อดังถูกนำออกมาจากกระเป๋าผ้าใบสวยที่ไม่มียี่ห้อใดๆ ก่อนจะหยิบเงินสดออกมาปึกหนึ่งแล้วสอดใส่ไว้ในกระเป่าสตางค์ใบเล็กอีกใบที่ใช้ประจำ วันนี้ซื้อของเข้าบ้านสินะ มือบางเข็นรถเข็นไปตามทางก่อนจะหยิบสมุดโน้ตเล่มเล็กขึ้นมา แล้วเลือกดูของใช้ที่ต้องซื้อเข้าบ้านอย่างเหงาๆ รณพีร์แอบถามอาจารย์ร่วมภาควิชาที่การันตีผลงานของลูกศิษย์สาวคนนี้
"นับดาวเค้าทำงานเลี้ยงตัวเองหรอครับ อาจารย์รวี "
"ใช่ค่ะ ทำงานดีนะคะ ผลการเรียนก็ดี เทอมนี้แกก็เรียนกับอาจารย์ไม่ใช่หรอคะ "
"ครับ เทอมนี้เรียนกับผม "
"ฝากแกด้วยนะคะ มีงานอะไรแกรับทำหมด แกไม่เกี่ยงงาน ได้มากได้น้อยก็รับหมด "
รณพีร์นิ่งใช้ความคิด หน้าตาดีแบบนี้ไปทำงานอย่างอื่นจะได้มากกว่านี้หรือเปล่า ช่วยงานแบบนี้ จะได้เท่าไหร่กันเชียว วันละสองร้อยสามร้อย เท่านี้แหละมั้ง
ภาพเพื่อนๆหลายคนในเฟสบุ้คพากันอัพรุปไปเที่ยวไปกินกันตามสถานที่ต่างๆ แต่เธอกลับนั่งหงอยเหงาเพียงคนเดียว ไม่ใช่ไม่อยากคบ ไม่ใช่ว่าไม่อยากสนิทกับใคร แต่ความสนิทใจที่เคยให้มันถูกทำลายไปพร้อมกับการเออออตามกันเท่านั้นเอง
"ไปเถอะนะ ไปเที่ยวกัน "
เสียงเพื่อนๆในห้องชวนกันไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งเธอไม่อาจปฎิเสธได้ จึงต้องติดสอยห้อยตามไป และที่นั่นเอง สถานที่ที่คนพาไปย้ำหนักหนาว่าไม่ตรวจบัตร กลับเจอตำรวจเข้าไปทลายในกลางดึกคืนนั้น นับดาวยืนร้องไห้กระซิกด้วยความกลัว ทุกคนมีพ่อแม่มาช่วยดูแลกันหมด ตำรวจขอแค่ผุ้ปกครองของเพื่อนมาเซ็นต์รับรองให้เท่านั้น เพื่อจะปล่อยตัวกลับบ้าน แต่ไม่มีใครสักคนเคียงข้างเธอในคืนนั้น เธอต้องรอจนกว่าจะเช้าและโทรหาคุณลุงทนายที่มาทันทีที่เธอโทรไป ตั้งแต่นั้นมา เธอจึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปแล้ว เธอไม่มีใครเลย
รณพีร์เดินกระวนกระวายอยู่ในบ้านของตัวเอง เค้ารู้สึกห่วงใยเธอมาก มากกว่านักศึกษาคนไหนๆ กว่า5ปีที่ทำงานมา เค้าไม่เคยสักครั้งที่จะเป็นแบบนี้กับใคร หลังจากหย่าขาดกับพลอยไพลินมาแล้วเกือบสามปี เค้าก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานใช้หนี้ใช้สิน จนมาเบาบางเมื่อปีนี้เอง เลยขอย้ายกลับมาสอนที่วิทยาเขตนี้ เค้าอยากรู้ว่าเธอเป็นยังไง อยากรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอและที่สำคัญ อยากรู้ว่าเธอมีใครหรือยังเท่านั้นเอง
ตัวเลขสิบหลักถูกกดลงในโทรศัพท์มือถือแล้วก็กดโทรออก แล้วก็กดวางไปอย่างรวดเร็ว ในสมองของเค้าตีกันไปมาจนปวดหัว เค้ายอมรับอย่างน่าไม่อายว่าสนใจเธอ แต่เธอจะมาชอบเค้าหรอ เป็นไปไม่ได้หรอก พ่อม่ายวัยสามสิบห้าที่มีตำแหน่งเป็นอาจารย์ด้วยมันค้ำคอเค้าอยู่ แต่จะทำยังไงในเมื่อหัวใจมันเต้นผิดจังหวะไปเสียแล้ว รณพีร์กดโทรออกอีกที รอจนเสียงสัญญานดีงขึ้นด้วยใจจดใจจ่อ เธอไม่รับสาย เค้ารอจนสัญญานตัดไป แล้วถอนหายใจออกมา ถ้าฟ้ามันจะไม่เป็นใจแบบนี้ เค้าก็ต้องทำใจสินะ โทรศัพท์ถูกโยนลงที่โซฟาอย่างหงุดหงิดใจ
ร่างบอบบางขาวผ่องเดินออกมาจากห้องน้ำ หลังจากกลับมาจากไปข้างนอกมาทั้งวันแล้ว เธอก็ต้องมาเก็บของที่ซื้อมาใช้ส่วนตัว แล้วก็เลยเข้าไปอาบน้ำ ก่อนจะได้ยินเสียงแว่วๆว่าโทรศัพท์ดัง เบอร์แปลกๆโทรเข้ามา ทำให้อดโทรกลับไปไม่ได้"สวัสดีค่ะ ไม่ทราบใครคะ " เสียงเธอถามออกมา รณพีร์มองดูโทรศัพท์ก่อนจะนับ123แล้วกดรับสาย เสียงเธอโทรเข้ามาทำเอาเค้าตื่นเต้นมากเหลือเกิน"อาจารย์เอง " เค้าทำเสียงเรียบ แล้วถามออกไป"นับดาวใช่ไหม ""ค่ะ " "ผมอยากคุยด้วย แล้วจะโทรกลับไป "เค้ากดตัดสายแล้วทำมือเยสสสส ออกมาด้วยความดีใจ อย่างน้อยเธอก็รู้แล้วว่าเป็นเค้า"นับดาวค่ะ "เธอรับสายอีกครั้ง แล้วเงียบ รณพีร์กระอมออกมา"อืม ถึงบ้านหรือยัง " เค้าถามคำถามไม่เป็นเรื่องออกไป "คือผมคิดว่าคุณอาจจะยังไม่ถึงบ้านเท่านั้น เลยโทรมาถาม ""หนูถึงบ้านนานแล้วค่ะ " เธอตอบออกมา เค้ายิ้มกับคำตอบเด็กดีสินะ "แล้วทานข้าวหรือยัง ""ทานแล้วค่ะ " "อาจารย์มีอะไรหรือเปล่าคะ ""คือผม.......""คะ อะไรคะ ""เปล่านับดาว ไม่มีอะไร เท่านี้นะ " รณพีร์กดวางสายทันที แล้ววางโทรศัพท์ให้ห่างจากตัว เค้ากำลังบ้าไปแล้วให้ตายเถอะนับดาวนั่งดูโทรศัพท์ที่เพิ่งตัดสาย
"ไม่ต้องรอเรานะแทน อาจารย์ในห้องสั่งข้าวมาเผื่อเราแล้ว เพราตอนบ่ายหลังจากเสร็จงานของอาจารย์รณพีร์แล้ว ยังมีงานของอาจารย์ท่านอีกรออยู่อีก"นับดาวบอกปฎิเสธออกไป แล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องใส่ใจกับคำพูดของอาจารย์รณพีร์ขนาดนี้ อายุขนาดนี้จะมีแฟนจะคบกันจริงๆไม่ใช่เรื่องแปลก เพื่อนบางคู่บางคนก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วด้วยซ้ำ แต่เธอกลับไม่อยากให้อาจารย์รณพีร์เข้าใจเธอผิดๆแบบนั้นเลยกระดาษรายงานที่ตรวจเช็กแล้วถูกนับวางเรียงเอาไว้เรียบร้อยเมื่อเค้าเปิดประตูเข้ามา อารมณ์หงุดหงิดเกิดขึ้นมาเมื่อเห็นเธออยู่กับเพื่อนชายหน้าตาคนหนึ่ง ท่าทางที่คุยกันทำให้คิดได้ว่าคงจะมารอแฟนไปกินข้าว สติของเค้าหลุดออกมาทันที ก่อนจะพูดประชดออกไป แล้วก็กลับมาคิดได้ว่า เค้ามีสิทธิ์อะไรที่จะหวงเธอ มีสิทธิ์อะไรที่จะไปประชดแบบนั้น ไม่มีเลย รณพีร์นั่งลงที่โต้ะทำงานของตัวเองแล้วหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า
เสียงกริ่งบอกเวลาเตือนว่าถึงเวลาเรียนคาบบ่ายแล้ว อาจารย์ในภาควิชาทยอยออกไปสอนกันหมดแล้ว หลังจากที่เธอล้างจานเสร็จแล้วก็ลงมาเข้าห้องน้ำและซื้อขนมที่โรงอาหารข้างล่าง ก่อนที่จะกลับไปทำงานต่อในช่วงบ่าย รณพีร์ไม่ได้สนใจอาจารย์ร่วมห้องที่ทยอยออกไปสอนกันทีละคน จนเหลือแต่ตัวเองเพียงคนเดียว เค้ากำลังตื่นเต้นมากที่จะได้อยู่กับเธอตามลำพัง นานแค่ไหนแล้วที่ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เสียงประตูถูกผลักเข้ามาแล้วเค้าก็เงยหน้าขึ้นไปมองสบตากับเธอใบหน้าสวยใสโผล่เข้ามาพร้อมกับกาแฟเย็นสองแก้วและขนมอีกจำนวนหนึ่งเธอวางของลงบนโต๊ะแล้วเดินเข้ามาหาเค้าที่โต๊ะทำงาน"อาจารย์คะกาแฟเย็นค่ะ"กาแฟเย็นแก้วสวยถูกส่งยื่นมาให้ตรงหน้าเค้าพร้อมกับรอยยิ้ม"หนูซื้อมาฝาก" รณพีร์จงใจจะรับแก้วกาแฟตรงหน้าพร้อมกับจับมือเธอไปด้วย จะหาว่าเค้าชีกอเค้าก็ยอมรับแต่เค้าอยากรู้จริงๆว่าเธอคิดยังไงกันแน่
รณพีร์ไม่มีสมาธิในการทำงานเลย เพราะเค้าคิดถึงแต่เธอ ใบหน้าสวยใสกับรอยยิ้มอ่อนโยนสะกดใจเค้าเหลือเกิน รู้ว่ามันผิดรู้ว่ามันเป็นเรื่องใหญ่แต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อเค้ารู้สึกกับเธอมากเหลือเกิน เค้ากลายเป็นวัยรุ่นในวัยฮอร์โมนพุ่งพล่านไปแล้ว ไม่ทันจะคิดอะไรเค้าก็โทรไปหาเธอแล้ว**อาจารย์พีร์**ชื่อที่โชว์อยู่หน้าจอมือถือ ทำเอาใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ ถ้าไม่รับก็ไม่รู้หรอก มือบางสไลด์รับสายก่อนจะตอบรับออกไป"นับดาวค่ะ" เธอรับสายเค้าแล้ว"นอนหรือยังนับดาว"เสียงทุ้มถามออกมา คนฟังยิ้มออกมา ก่อนจะตอบกลับไป"ยังค่ะ อาจารย์มีอะไรคะ" เธอถามเค้าออกมา"ผม ผมนอนไม่หลับ ทำงานไม่ได้เพราะคิดถึงแต่เรื่องของคุณ " คนฟังใจสั่นระรัวด้วยความตื่นเต้น
รณพีร์มองถุงขนมที่ตัวเองถือขึ้นมา แล้วมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจ นักศึกษาชายคนเดินยืนยิ้มกว้างใส่คนของเค้า ที่ยื่นมือออกไปรับถุงขนมยี่ห้อดังราคาแพง"ชีสทาร์ตอร่อยมาก แทนไปต่อคิวมาตั้งนานเลยนะ นับอย่าใจร้ายกับแทนเลย ช่วยรับไปกินด้วยนะ" เสียงชายหนุ่มคนนั้นอ้อนออกมา"ขอบใจนะแทนที่นึกถึงเรา แต่คราวหน้าไม่ต้องนะเราเกรงใจ"เธอบอกจากใจจริง แล้วรับถุงขนมมาถือเอาไว้"ขอบใจแทนมากนะ เราไปทำงานก่อนละกัน" นับดาวรีบบอกลาเพื่อนแล้วหันหลังจะเดินเข้ามา"พรุ่งนี้เที่ยงแทนเลิกเรียนแล้ว จะมารอนับนะ" เค้าบอกอีกครั้งก่อนจะเดินลงไป สวนกับอาจารย์รณพีร์ที่เดินเข้ามานับดาวทำหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นคนที่เพิ่งจะบอกความในใจให้ตัวเองได้ฟัง ใบหน้าสวยใสยิ้มอายๆออกมาเมื่อเงยหน้ามองเค้า แต่
ตลอดทั้งวันเค้าโทรออกไปนับร้อยครั้ง แถมยังส่งไลน์ไปหลายสิบข้อความแต่ไม่ได้อะไรกลับมา เธอบล้อกเค้าทุกทางแล้ว รณพีร์รู้สึกว่าตัวเองแก่ลงสัก10ปี พลังชีวิตมันอ่อนล้าลงไปเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้นเค้าหึง เค้าหวง และไม่มีสิทธิ์อไรเลยทั้งนั้นที่จะบอกออกไปว่า นับดาวเป็นเด็กดีของเค้า ทั้งที่เพิ่งจะรวบรวมความกล้าบอกความรู้สึกตัวเองไปแท้ๆ แต่ก็ทำมันพังเอง ต่อไปนี้จะเอาไงต่อ จะเข้าหน้ายังไงติด ไล่เค้าไปเองแบบนี้ ปากไม่ดีชัดๆ อาจารย์หนุ่มนั่งคิดอยู่คนเดียวภายในห้องทำงานหัวแทบแตก พรุ่งนี้เช้า เค้ามีสอนเธอ อย่างน้อยต้องได้คุยนับดาวตื่นขึ้นมาแล้วไม่อยากไปเรียนเลย แต่เพราะความที่ไม่เคยขาดเรียนก็ต้องไป วันนี้เจอหน้ากัน คนเก่งกว่าต้องรอด เธอบอกกับตัวเองแล้วยิ้มให้กับกระจก มีใครจะมาทำให้เธอหวั่นไหวหรอ ไม่มีวันหรอก นับดาวคนนี้ต้องรักตัวเองที่สุด เธอเดินออกจากห้องของตัวเองแล้วเช็คความเรียบร้อยอีกครั้ง ถ้าดีมาด
ได้เวลาเลิกงานแล้ว รณพีร์รีบเก็บข้าวของลงใส่กระเป๋าของตัวเองอย่างเร่งด่วน วันนี้ทุกคนยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับเร็ว ไม่มีโอกาสจะได้อยู่ตามลำพังแน่ๆ โทรหาก็ไม่ติด ส่งไลน์ก็บล้อก เค้าแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว เธอน่าจะทำงานอีกสักแปปแล้วจะกลับ เค้าต้องลงไปดักรอก่อน ไม่งั้นคงคลาดกัน"กลับเร็วนะคะ อาจารย์พีร์ " เสียงอาจารย์ท่านอื่นทัก ปกติชายหนุ่มมักจะกลับทีหลังเสมอ"วันนี้มีธุระครับ (ธุระหัวใจ ) กลับก่อนนะครับ " เค้าบอกลาคนอื่นๆแล้วรีบลงมาทันทีนับดาวมองตามหลังเค้าไปแล้วลงมือทำงานของตัวเอง วันนี้เธอไม่สู้หน้า หลบตาเค้าไปก่อน เพราะรู้ดีว่าเพราะอะไรเค้าถึงได้บ้าดีเดือดทำกับเธอแบบนั้น คนแก่ขี้หึงเสียจริงเลย เธอคิดในใจแล้วลงมือทำงานต่อจนเสร็จ ฟ้าข้างนอกมืดมืดแล้ว เธอมองเวลา แล้วเริ่มเก็บของ"ฝนจะตก นับมีร่มมาไหม " เสียงอาจารย์บอกอย่างเป็นห
เสียงอาจารย์หนุ่มวัย35 ปี ยืนบรรยายอยู่หน้าห้อง เสียงทุ้มนุ่มน่าฟัง อธิบายเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย จนนักศึกษาหลายคน อดจะปลื้มปริ่มไม่ได้ วิชานี้ ยากมาก แต่อาจารย์รณพีร์ สอนเก่งมาก เสียงนักศึกษาชื่นชมออกมา ไม่ขาดปาก นักศึกษาปี 4 ทยอยเก็บข้าวของเตรียมจะเดินออกจากห้อง วิชานี้เป็นวิชาหลัก ของนักศึกษาหลายเอกวิชา จึงมีนักศึกษานับได้เกือบร้อยคน นั่งเรียนกันเต็มห้อง นักศึกษาปี 4 ใก้ลจะจบแล้ว เหลือเพียงไม่กี่ตัวที่ลงเรียน ทุกคนจึงตั้งใจกันมาก"ก่อนจะเลิกคลาสวันนี้ ผมมีโครงการจะมาคุยกับพวกคุณ ขอเวลาสัก10 นาทีนะครับ "อาจารย์ที่อยู่หน้าห้องบอกมา"ปีนี้ทางมหาวิทยาลัย มีโปรเจ็คจะไปสอนน้องๆที่ต่างจังหวัด ช่วงปิดภาคเรียน ผมอยากจะชวนพวกคุณไปร่วมกิจกรรมนี้ด้วย และที่สำคัญ ทางมหาวิทยาลัย จะถือว่าคุณออกไปฝึกวิชาชีพประสบการ์ณด้วย ถือเป็นการฝึกงานไปในตัว "สิ้นเสียงคำถาม หลายๆคนก็มองหน้ากันทันที"ถ้าพวกคุณมีที่ฝึกงานที่ติดต่อเอาไว้แล้ว ก็ขอให้ไปทำที่นั่นนะครับ เพราะทางมหาวิทยาลัย ไม่อยากให้เสียเครดิต แต่หากพวกคุณยังไม่มีและอยากไป ทางมหาวิทยาลัย จะขอคัดเลือกตัวแทนไปนะครับ ถ้ามีผู้สนใจจำนวนมาก และอีกอย่าง