"ไม่ต้องรอเรานะแทน อาจารย์ในห้องสั่งข้าวมาเผื่อเราแล้ว เพราตอนบ่ายหลังจากเสร็จงานของอาจารย์รณพีร์แล้ว ยังมีงานของอาจารย์ท่านอีกรออยู่อีก"
นับดาวบอกปฎิเสธออกไป แล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องใส่ใจกับคำพูดของอาจารย์รณพีร์ขนาดนี้ อายุขนาดนี้จะมีแฟนจะคบกันจริงๆไม่ใช่เรื่องแปลก เพื่อนบางคู่บางคนก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วด้วยซ้ำ แต่เธอกลับไม่อยากให้อาจารย์รณพีร์เข้าใจเธอผิดๆแบบนั้นเลย
กระดาษรายงานที่ตรวจเช็กแล้วถูกนับวางเรียงเอาไว้เรียบร้อยเมื่อเค้าเปิดประตูเข้ามา อารมณ์หงุดหงิดเกิดขึ้นมาเมื่อเห็นเธออยู่กับเพื่อนชายหน้าตาคนหนึ่ง ท่าทางที่คุยกันทำให้คิดได้ว่าคงจะมารอแฟนไปกินข้าว สติของเค้าหลุดออกมาทันที ก่อนจะพูดประชดออกไป แล้วก็กลับมาคิดได้ว่า เค้ามีสิทธิ์อะไรที่จะหวงเธอ มีสิทธิ์อะไรที่จะไปประชดแบบนั้น ไม่มีเลย รณพีร์นั่งลงที่โต้ะทำงานของตัวเองแล้วหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า
ประตูหน้าห้องถูกเปิดออกเค้าคิดว่าเธอคงเข้ามาเก็บกระเป๋าส่วนตัวแน่ๆ เค้าไม้อยากมองภาพเธอเดินออกไปเลย นับดาวนั่งลงทำงานของตัวเองสักพัก อาจารย์หลายท่านเดินเข้าออกและกำลังจะลงมือทานข้าวกลางวันกัน
"นับดาวทานข้าวด้วยกันสิ" เสียงอาจารย์รวีส่งเสียงเรียกเธอ รณพีร์ลืมตาขึ้นมาทันที เธอไม่ได้ไปทานข้าวกับแฟนใช่ไหม เค้าลืมตาขึ้นมาโดยอัตโนมัต แล้วขยับตัวนั่งตรงเพื่อมองเธอให้ชัดเจน แล้วเค้าก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
นับดาวนั่งอยู่เก้าอี้ตัวสุดท้ายตรงโต้ะกลางห้อง อาจารย์ในภาควิชาส่วนใหญ่นำอาหารมาทานกลางวันเองทั้งนั้น แค่แบ่งมื้อกลางวันให้ลูกศิษย์ที่น่ารักคงไม่ใช่เรื่องยาก ตามปกติแล้วรณพีร์มักจะไม่ร่วมวงด้วยแต่วันนี้เป็นข้อยกเว้น จานเมลามีนสีสวยที่เธอใช้เป็นของใครสักคนในห้องนี้ แต่ช้อนที่เธอกำลังตักข้าวเข้าปากอยู่เป็นของเค้า
"บ่ายนี้ห้องนี้คงเงียบสงบ เพราะไปสอนกันหมด นับดาวจะกลับเลยไหม" อาจารย์ท่านหนึ่งถาม แต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไร เสียงอาจารย์รณพีร์ก็ตอบขึ้นมา
"พอดีผมมีงานให้นับดาวช่วยครับ "
เธอเงยหน้ามองเค้าอย่างตกใจ อะไรกันเมื่อกี้ยังไล่ให้ไปอยู่เลย มาตอนนี้มีงานจะใช้อีกแล้ว
มื้ออาหารจบลงแล้ว เธอไม่เคยมีปัญหาที่จะร่วมโต๊ะกับผู้ใหญ่เลยอาจจะดีด้วยซ้ำอย่างน้อยเธอก็รู้สึกอุ่นใจว่ามีผู้ใหญ่ให้ความเอ็นดูในวันที่โดดเดี่ยวเพียงลำพัง
"หนูล้างจานให้เองนะคะ" นับดาวบอกกับอาจารย์ที่นั่งอยู่ด้วยกัน ผู้ใหญ่อมยิ้มออกมา "ขอบใจมากนะนับดาวที่คอยดูแลอาจารย์" มือบางค่อยๆกวาดเศษอาหารลงถุงขยะแล้วรวบรวมจานมาล้างที่ตรงมุมห้องด้านใน แล้วล้างจานอย่างเงียบๆ
รณพีร์นั่งมองคนที่กำลังยืนล้างจานแล้วยิ้มออกมา คนในห้องออกไปแปรงฟันทำธุระส่วนตัวกันหมดแล้ว เหลือแต่เค้าอยู่ตามลำพังกับเธอ เค้าขยับตัวลุกขึ้นเดินไปยืนข้างๆแล้วช่วยล้างน้ำเปล่าจานที่ล้างน้ำยาแล้ว
"ผมไม่ได้ถามคุณเลยว่าช่วงบ่ายว่างไหม เพราะมีงานให้ทำอีก" เค้ายอมรับว่าหาเรื่องชวนเธอคุย
"หนูไม่ได้ไปไหนค่ะ ช่วยงานอาจารย์ได้" เธอตอบออกมา แล้วเงยหน้ามองด้านข้างของเค้าที่ดูหล่อกระชากใจเหลือเกิน
"ที่อาจารย์พูดเมื่อกี้นี้อาจารย์พูดผิดนะคะ" เธอบอกกับเค้า รณพีร์หันไปทางคนพูดที่ยืนอยู่ข้างตัว เธอสูงแค่ไหล่เค้าเท่านั้น "อะไรหรอ ผมพูดอะไรผิด"
"แทนเค้าไม่ใช่แฟนหนูนะคะ เราเป็นแค่เพื่อนที่ไม่สนิทกันด้วยซ้ำ" เธอบอกออกมาแล้วมองหน้าเค้าที่มองเธออยู่พอดี รณพีร์พยักหน้าแล้วรีบล้างมือของตัวเอง หลังจากได้ยินเสียงคนคุยกันหน้าประตูห้อง เค้าเดินกลับมาที่โต้ะแล้วสงบจิตใจตัวเองเพราะความตื่นเต้น หากไม่คิดมากเกินไป นับดาวคงอยากบอกให้รู้ว่า เค้าเข้าใจผิดและเธอไม่อยากให้เค้าเข้าใจในตัวเธอผิดไป
นับดาวยืนยิ้มออกมาระหว่างที่ล้างจานอยู่ เธอบอกเค้าไปแล้วรู้สึกดีจัง ทำไมเธอถึงรู้สึกแบบนี้ก็ไม่รู้ แต่มันดีมากเลยที่ได้ยืนคู่กับเค้า
เสียงกริ่งบอกเวลาเตือนว่าถึงเวลาเรียนคาบบ่ายแล้ว อาจารย์ในภาควิชาทยอยออกไปสอนกันหมดแล้ว หลังจากที่เธอล้างจานเสร็จแล้วก็ลงมาเข้าห้องน้ำและซื้อขนมที่โรงอาหารข้างล่าง ก่อนที่จะกลับไปทำงานต่อในช่วงบ่าย รณพีร์ไม่ได้สนใจอาจารย์ร่วมห้องที่ทยอยออกไปสอนกันทีละคน จนเหลือแต่ตัวเองเพียงคนเดียว เค้ากำลังตื่นเต้นมากที่จะได้อยู่กับเธอตามลำพัง นานแค่ไหนแล้วที่ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เสียงประตูถูกผลักเข้ามาแล้วเค้าก็เงยหน้าขึ้นไปมองสบตากับเธอใบหน้าสวยใสโผล่เข้ามาพร้อมกับกาแฟเย็นสองแก้วและขนมอีกจำนวนหนึ่งเธอวางของลงบนโต๊ะแล้วเดินเข้ามาหาเค้าที่โต๊ะทำงาน"อาจารย์คะกาแฟเย็นค่ะ"กาแฟเย็นแก้วสวยถูกส่งยื่นมาให้ตรงหน้าเค้าพร้อมกับรอยยิ้ม"หนูซื้อมาฝาก" รณพีร์จงใจจะรับแก้วกาแฟตรงหน้าพร้อมกับจับมือเธอไปด้วย จะหาว่าเค้าชีกอเค้าก็ยอมรับแต่เค้าอยากรู้จริงๆว่าเธอคิดยังไงกันแน่
รณพีร์ไม่มีสมาธิในการทำงานเลย เพราะเค้าคิดถึงแต่เธอ ใบหน้าสวยใสกับรอยยิ้มอ่อนโยนสะกดใจเค้าเหลือเกิน รู้ว่ามันผิดรู้ว่ามันเป็นเรื่องใหญ่แต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อเค้ารู้สึกกับเธอมากเหลือเกิน เค้ากลายเป็นวัยรุ่นในวัยฮอร์โมนพุ่งพล่านไปแล้ว ไม่ทันจะคิดอะไรเค้าก็โทรไปหาเธอแล้ว**อาจารย์พีร์**ชื่อที่โชว์อยู่หน้าจอมือถือ ทำเอาใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ ถ้าไม่รับก็ไม่รู้หรอก มือบางสไลด์รับสายก่อนจะตอบรับออกไป"นับดาวค่ะ" เธอรับสายเค้าแล้ว"นอนหรือยังนับดาว"เสียงทุ้มถามออกมา คนฟังยิ้มออกมา ก่อนจะตอบกลับไป"ยังค่ะ อาจารย์มีอะไรคะ" เธอถามเค้าออกมา"ผม ผมนอนไม่หลับ ทำงานไม่ได้เพราะคิดถึงแต่เรื่องของคุณ " คนฟังใจสั่นระรัวด้วยความตื่นเต้น
รณพีร์มองถุงขนมที่ตัวเองถือขึ้นมา แล้วมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจ นักศึกษาชายคนเดินยืนยิ้มกว้างใส่คนของเค้า ที่ยื่นมือออกไปรับถุงขนมยี่ห้อดังราคาแพง"ชีสทาร์ตอร่อยมาก แทนไปต่อคิวมาตั้งนานเลยนะ นับอย่าใจร้ายกับแทนเลย ช่วยรับไปกินด้วยนะ" เสียงชายหนุ่มคนนั้นอ้อนออกมา"ขอบใจนะแทนที่นึกถึงเรา แต่คราวหน้าไม่ต้องนะเราเกรงใจ"เธอบอกจากใจจริง แล้วรับถุงขนมมาถือเอาไว้"ขอบใจแทนมากนะ เราไปทำงานก่อนละกัน" นับดาวรีบบอกลาเพื่อนแล้วหันหลังจะเดินเข้ามา"พรุ่งนี้เที่ยงแทนเลิกเรียนแล้ว จะมารอนับนะ" เค้าบอกอีกครั้งก่อนจะเดินลงไป สวนกับอาจารย์รณพีร์ที่เดินเข้ามานับดาวทำหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นคนที่เพิ่งจะบอกความในใจให้ตัวเองได้ฟัง ใบหน้าสวยใสยิ้มอายๆออกมาเมื่อเงยหน้ามองเค้า แต่
ตลอดทั้งวันเค้าโทรออกไปนับร้อยครั้ง แถมยังส่งไลน์ไปหลายสิบข้อความแต่ไม่ได้อะไรกลับมา เธอบล้อกเค้าทุกทางแล้ว รณพีร์รู้สึกว่าตัวเองแก่ลงสัก10ปี พลังชีวิตมันอ่อนล้าลงไปเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้นเค้าหึง เค้าหวง และไม่มีสิทธิ์อไรเลยทั้งนั้นที่จะบอกออกไปว่า นับดาวเป็นเด็กดีของเค้า ทั้งที่เพิ่งจะรวบรวมความกล้าบอกความรู้สึกตัวเองไปแท้ๆ แต่ก็ทำมันพังเอง ต่อไปนี้จะเอาไงต่อ จะเข้าหน้ายังไงติด ไล่เค้าไปเองแบบนี้ ปากไม่ดีชัดๆ อาจารย์หนุ่มนั่งคิดอยู่คนเดียวภายในห้องทำงานหัวแทบแตก พรุ่งนี้เช้า เค้ามีสอนเธอ อย่างน้อยต้องได้คุยนับดาวตื่นขึ้นมาแล้วไม่อยากไปเรียนเลย แต่เพราะความที่ไม่เคยขาดเรียนก็ต้องไป วันนี้เจอหน้ากัน คนเก่งกว่าต้องรอด เธอบอกกับตัวเองแล้วยิ้มให้กับกระจก มีใครจะมาทำให้เธอหวั่นไหวหรอ ไม่มีวันหรอก นับดาวคนนี้ต้องรักตัวเองที่สุด เธอเดินออกจากห้องของตัวเองแล้วเช็คความเรียบร้อยอีกครั้ง ถ้าดีมาด
ได้เวลาเลิกงานแล้ว รณพีร์รีบเก็บข้าวของลงใส่กระเป๋าของตัวเองอย่างเร่งด่วน วันนี้ทุกคนยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับเร็ว ไม่มีโอกาสจะได้อยู่ตามลำพังแน่ๆ โทรหาก็ไม่ติด ส่งไลน์ก็บล้อก เค้าแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว เธอน่าจะทำงานอีกสักแปปแล้วจะกลับ เค้าต้องลงไปดักรอก่อน ไม่งั้นคงคลาดกัน"กลับเร็วนะคะ อาจารย์พีร์ " เสียงอาจารย์ท่านอื่นทัก ปกติชายหนุ่มมักจะกลับทีหลังเสมอ"วันนี้มีธุระครับ (ธุระหัวใจ ) กลับก่อนนะครับ " เค้าบอกลาคนอื่นๆแล้วรีบลงมาทันทีนับดาวมองตามหลังเค้าไปแล้วลงมือทำงานของตัวเอง วันนี้เธอไม่สู้หน้า หลบตาเค้าไปก่อน เพราะรู้ดีว่าเพราะอะไรเค้าถึงได้บ้าดีเดือดทำกับเธอแบบนั้น คนแก่ขี้หึงเสียจริงเลย เธอคิดในใจแล้วลงมือทำงานต่อจนเสร็จ ฟ้าข้างนอกมืดมืดแล้ว เธอมองเวลา แล้วเริ่มเก็บของ"ฝนจะตก นับมีร่มมาไหม " เสียงอาจารย์บอกอย่างเป็นห
เสียงอาจารย์หนุ่มวัย35 ปี ยืนบรรยายอยู่หน้าห้อง เสียงทุ้มนุ่มน่าฟัง อธิบายเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย จนนักศึกษาหลายคน อดจะปลื้มปริ่มไม่ได้ วิชานี้ ยากมาก แต่อาจารย์รณพีร์ สอนเก่งมาก เสียงนักศึกษาชื่นชมออกมา ไม่ขาดปาก นักศึกษาปี 4 ทยอยเก็บข้าวของเตรียมจะเดินออกจากห้อง วิชานี้เป็นวิชาหลัก ของนักศึกษาหลายเอกวิชา จึงมีนักศึกษานับได้เกือบร้อยคน นั่งเรียนกันเต็มห้อง นักศึกษาปี 4 ใก้ลจะจบแล้ว เหลือเพียงไม่กี่ตัวที่ลงเรียน ทุกคนจึงตั้งใจกันมาก"ก่อนจะเลิกคลาสวันนี้ ผมมีโครงการจะมาคุยกับพวกคุณ ขอเวลาสัก10 นาทีนะครับ "อาจารย์ที่อยู่หน้าห้องบอกมา"ปีนี้ทางมหาวิทยาลัย มีโปรเจ็คจะไปสอนน้องๆที่ต่างจังหวัด ช่วงปิดภาคเรียน ผมอยากจะชวนพวกคุณไปร่วมกิจกรรมนี้ด้วย และที่สำคัญ ทางมหาวิทยาลัย จะถือว่าคุณออกไปฝึกวิชาชีพประสบการ์ณด้วย ถือเป็นการฝึกงานไปในตัว "สิ้นเสียงคำถาม หลายๆคนก็มองหน้ากันทันที"ถ้าพวกคุณมีที่ฝึกงานที่ติดต่อเอาไว้แล้ว ก็ขอให้ไปทำที่นั่นนะครับ เพราะทางมหาวิทยาลัย ไม่อยากให้เสียเครดิต แต่หากพวกคุณยังไม่มีและอยากไป ทางมหาวิทยาลัย จะขอคัดเลือกตัวแทนไปนะครับ ถ้ามีผู้สนใจจำนวนมาก และอีกอย่าง
ชายหนุ่มคนเดียวในโต๊ะผูกขาดการคุยอยู่ในขณะที่อีกสองสาวชวนคุยไม่หยุด มีเพียงคนเดียวที่นั่งทานข้าวเงียบๆตามลำพัง มือบางตักกับข้าวใส่จานและทานอาหารของตัวเองไปเรื่อยๆบางจังหวะก็อือออไปตามคนอื่นบ้างเพื่อไม่ให้รู้สึกว่าเงียบเหงาจนเกินไป"นับดาว ตกลงไปฝึกงานที่ไหน" ชายหนุ่มถามขึ้นมา"พวกเราสามคนลงชื่อของภาควิชาไว้แล้ว เราจะไปต่างจังหวัดกัน" จอยบอกกับแทนแล้วยิ้มออกมา"แทนละได้หรือยัง" "ได้แล้วครับใก้ลๆมอนี่แหละ เดินทางสะดวกดี" เค้าตอบออกมาแล้วมองคนที่นั่งตรงข้ามที่ยิ้มน้อยๆออกมาให้ ทำให้หัวใจพองโตเหลือเกิน เพื่อนสาวสองคนที่นั่งขนาบข้างอดอิจฉาเล็กๆไม่ได้ นับดาวสวยเธอไม่เถียง แต่เย็นชาแบบนี้ทำไมใครๆถึงได้ชอบนัก"เราไปพบอาจารย์รวีก่อน จอยกับนาวกลับบ้านก่อนเลย เราต้องทำงาน" นับดาวบอกลาเพื่อนร่วมคลาสแล้วเดินแยกออกมา เธอค่อยๆถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทำไมต้องอึดอัดขนาดนี้ด้วยไม่เข้าใจเลยจอยยิ้มออกมาแล้วเดินออกมาที่ลานจอดรถที่จอดรถเก๋งคันหรูของตัวเอง"น่าสงสารเหมือนกันนะทำงานงกๆแบบนี้ แต่เค้าเสน่ห์แรงดีเหลือเกินใครๆก็ชอบ"นาวมองไปที่บนตึก ก่อนจะย้ำอีกคำ "สวยแต่เย็นชาแถมที่บ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ใครเ
เสียงเอสเอ็มเอสแจ้งว่ามีข้อความเข้ามา ยอดเงินเข้า10000บาท นับดาวกดอ่านข้อความยังไม่ทันจะเก็บโทรศัพท์ก็มีเสียงเรียกเข้ามาทันที"สวัสดีค่ะคุณน้า""หนูนับน้าโอนค่าใช้จ่ายรายเดือนให้หนูเรียบร้อยแล้วนะจ้ะ น้าจะเอาสลิปแจ้งคุณพ่อเอง แล้ววันอาทิตย์นี้ไม่มีใครอยู่บ้านเราจะไปหัวหินกันหนูนับไม่ต้องมาทานข้าวกับคุณพ่อนะจ้ะ เท่านี้นะจ้ะ"แล้วสายก็ถูกตัดไปทันที นับดาวหย่อนโทรศัพท์ลงใส่กระเป๋าผ้าของตัวเองแล้วถอนหายใจออกมาแผ่วเบา เดือนนี้ก็คงไม่ได้พบกับคุณพ่ออีกตามเคยคอนโดหรูกลางเมืองที่เธออาศัยอยู่ใก้ลมหาวิทยาลัยและสะดวกสบายทุกอย่างคุณลุงทนายความของคุณแม่ช่วยจัดการทั้งหมดให้ตั้งแต่เธอเรียนอยู่มอปลาย เกือบสิบปีมาแล้วที่เธอต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับความสวยงามหรูหราปรากฎแก่สายตาที่นี่เป็นบ้านของเธอแต่เพียงผู้เดียวนับดาววางกระเป๋าของตัวเองเอาไว้ข้างโซฟาแล้วนั่งลงอย่างเหนื่อยอ่อน เงินเดือนละหมื่นบาททุกเดือนเป็นสายใยที่ถูกผูกเธอกับคุณพ่อเอาไว้เพียงเท่านั้น ค่าเทอมและค่าใช้จ่ายส่วนอื่นเธอต้องรับภาระเอาเอง เจ้าของกิจการขนาดใหญ่ที่มีลูกสาวแสนสวยออกหน้าออกตาวัยสิบแปดปี กับภรรยาคนสวยที