แชร์

บทที่ 429

ผู้แต่ง: เฟเธอร์ในลมอ่อน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
......

หลังจากที่เด็ก ๆ จากไปแล้ว เฉียวซุนก็มองไปยังทิศทางของจางหยวนอีกครั้ง

จางหยวนเพิ่งจะเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลลู่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นเธอก็ประจำอยู่ในศูนย์ฟื้นฟูเช่นปัจจุบัน เธอไม่เคยเห็นเฉียวซุน......ครั้งนี้คงถือว่าเป็นการพบหน้ากันอย่างเป็นทางการกันจริง ๆ

ในช่วงปลายฤดูร้อน เฉียวซุนสวมกระโปรงทรงเอ

ทำให้รูปร่างดูเพรียวบาง ดูมีภูมิฐาน และสง่างาม

ผู้หญิงทุกคนต่างก็มีการเปรียบเทียบกันทั้งนั้น จางหยวนกวาดสายตามองเฉียวซุนทุกระเบียบนิ้ว ในใจรู้สึกอึดอัด เพราะในฐานะผู้หญิงที่เป็นแม่ลูกสองอย่างเฉียวซุน เธอกลับยังมีรูปร่างที่สวยเพรียวอยู่เลย

บนตัวเธอ ความเอาใจใส่ทำให้เธอดูดีมากจริง ๆ

จางหยวนรู้สึกไม่สบายใจ สีหน้าของเธอแสดงออกได้อย่างชัดเจน เธอยื่นมือออกมา แล้วมองไปทางเฉียวซุน จงใจพูดออกไปว่า “คุณนายลู่ สวัสดีค่ะ ฉันคือหมอประจำตัวของคุณลู่ จางหยวนค่ะ ตอนนี้ก็พักที่คฤหาสน์แห่งนี้อยู่ค่ะ”

คำพูดแบบนี้ มักจะเป็นคำพูดที่ทำคนรู้สึกใจเต้นระรัว

เฉียวซุนยื่นมือออกมา แล้วยิ้มเบา ๆ “คุณเรียกฉันว่าคุณเฉียวเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ ฉันเป็นแค่อดีตภรรยาคุณลู่ของพวกคุณเพียงเท่านั้น แล้วตอนนี้ฉันก็มี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 430

    วันนี้คนรับใช้ในคฤหาสน์มีความสุขมากพวกเธอทำงานอย่างหนักเพื่อเตรียมโต๊ะอาหารเซ็ตใหญ่ พิจารณาจากการเจริญเติบโตของเจ้าหนูลู่เหยียน จากนั้นก็ทำไก่ตุ๋นเห็ดให้ จะให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดีที่สุด ก็จะต้องค่อย ๆ เคี่ยวอย่างช้า ๆ หลังจากที่อาหารถูกเสิร์ฟ กลิ่นหอมของอาหารก็ฟุ้งกระจายไปทั่วหมอจางคนนั้นก็ร่วมรับประทานอาหารที่โต๊ะด้วยเช่นกันซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะที่เธอต้องคอยดูแลลู่เจ๋อ เธอนั่งตรงตำแหน่งเก้าอี้ของนายหญิง และก็เป็นเก้าอี้ที่เมื่อก่อนเฉียวซุนเคยนั่งอยู่บ่อย ๆ แต่เฉียวซุนก็ไม่ได้ถือสาอะไร เพราะยังไงซะ เธอกับลู่เจ๋อก็หย่ากันแล้ว!จางหยวนเป็นคนเอาใจใส่และมีน้ำใจ แถมยังเตรียมอาหารให้อย่างระมัดระวังอีกต่างหากดูเหมือนเธอกับลู่เจ๋อจะเข้าใจกันได้ดี เห็นได้ชัดว่าเธออาศัยอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้มาสักระยะแล้ว......เฉียวซุนค่อนข้างใส่ใจแต่สิ่งที่คุณจางคนนี้ตาไม่มีแววเลยก็คือ เจ้าหนูลู่เหยียนอยากกินน่องไก่ ถึงได้ยื่นตะเกียบออกไป แต่น่องไก่อวบอ้วนอันนั้นก็ถูกจางหยวนคีบตัดหน้าไปแล้ว จากนั้นเธอก็วางมันลงบนชามของลู่เจ๋อเจ้าหนูลู่เหยียนจ้องตามตาไม่กะพริบน่องไก่มีแค่สองอันเท่านั้น เมื่อกี้เพิ่ง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 431

    ลู่เจ๋ออยู่ด้วยเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะโทรเข้าโทรศัพท์บ้าน เรียกให้ป้าแม่บ้านขึ้นมาป้าเคาะประตูก่อน แล้วเดินเข้ามา พอเห็นว่าเจ้าหนูลู่เหยียนและเจ้าหนูลู่ฉวินหลับไปแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปให้แน่ใจว่า “หลับไปแล้วอย่างนั้นเหรอคะ? ”ลู่เจ๋อมองดูพวกเขาด้วยสายตาอ่อนโยนหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นเบา ๆ “ฝากดูแลที่นี่ต่อทีครับ”ป้าพูดขึ้นอย่างชาญฉลาด “คุณผู้ชายไปจัดการธุระเถอะค่ะ ตรงนี้ให้เป็นหน้าที่ของป้าก็พอค่ะ”สีหน้าของลู่เจ๋อเปลี่ยนไปเล็กน้อยเขาเข็นรถเข็น ออกมาจนถึงนอกห้องนอน แต่เขาก็กลับไม่เห็นเฉียวซุน......สุดท้าย เขาก็ไปหาเธอที่ห้องโถงเล็กเธอพิงหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน และกำลังคุยโทรศัพท์แสงแดดยามบ่าย ส่องผ่านกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน ปกคลุมเรือนร่างของเฉียวซุน ทำให้ผิวของเธอดูขาวเปล่งประกาย และดูละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น เธอดูผ่อนคลายและมีความสุขขณะที่พูดคุยกับคนที่อยู่ปลายสายสิ่งนี้ทำให้ลู่เจ๋อนึกอะไรขึ้นมาได้ ครึ่งปีก่อนตอนที่เธอจากเขาไป เธอก็ใช้คำพูดที่มีความสุขเช่นนี้เหมือนกันตอนนั้นคือเมิ่งเยียนหุยตอนนี้ ก็เปลี่ยนเป็นหลินซวง......อันที่จริง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 432

    ลู่เจ๋อเฝ้ามองดูอยู่ข้าง ๆ ......จู่ ๆ เขาก็นึกถึงเรื่องเมื่อปีนั้นได้ นึกถึงภรรยาตัวน้อยที่แม้แต่ตอนที่เธออยากจะขอเงินห้าแสนจากเขายังต้องเกรงใจแล้วเกรงใจอีก ในตอนนั้น เขาคิดว่าเฉียวซุนเปรียบเสมือนดอกถูซือ แต่ตอนนี้เฉียวซุนได้กลายเป็นดอกกุหลาบที่ถึงแม้จะบอบบาง แต่ก็ยังคงอันตรายไปแล้ว......แสงสีส้มของพระอาทิตย์ตก ให้ความรู้สึกราวกับเปลวเพลิงโรลส์-รอยซ์ แฟนทอมสีเงินค่อย ๆ ขับออกจากคฤหาสน์ช้า ๆ หัวใจของลู่เจ๋อกลับดูว่างเปล่า......สุดท้ายเธอก็ยังคงจากไปอยู่ดีเขาเริ่มตั้งหน้าตั้งตารอการพบกันในครั้งต่อไป......ยี่สิบนาทีต่อมา เฉียวซุนขับรถเข้าไปในคฤหาสน์เดี่ยวแห่งหนึ่ง ตั้งแต่กลับมาจากเมืองเซียง เธอก็ตัดสินใจย้ายเข้ามาพักที่คฤหาสน์......ในบ้านได้จ้างป้าแม่บ้านเข้ามาเพิ่ม การอาศัยในคฤหาสน์ทำให้มีพื้นที่กว้างขึ้นอีกหน่อยนอกจากนี้ ระยะห่างของที่นี่กับลู่เจ๋อก็ใกล้มากขึ้นพอสมควรขณะที่เธอจอดรถ ท้องฟ้าก็เป็นเวลาพลบค่ำ และพลบค่ำก็ได้นำพาร่องรอยแสงสีส้มสุดท้ายของพระอาทิตย์หายลับไปเฉียวซุนอุ้มเด็ก ๆ ลงจากรถเจ้าหนูลู่เหยียนกอดตุ๊กตา แล้วพูดขึ้นมาว่า “พ่อจะยกเซี่ยลี่ตัวน้อยให้หนูด้วย

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 433

    สลับกันไปมา......ต่อมา เฉียวซุนก็ได้ผล็อยหลับไป ในตอนที่เธอตื่นขึ้นมาอีกที เวลาก็ปาไปเที่ยงคืนแล้ว มีข้อความไลน์สิบกว่าข้อความถูกส่งมาในโทรศัพท์ ต่างก็เป็นข้อความของลู่เจ๋อเธอเฝ้ามองข้อความเหล่านั้นเงียบ ๆ ท่ามกลางความมืดในยามค่ำคืน แต่ก็ไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใดหลังจากนั้น เธอก็ลุกขึ้นมาดูลูก ๆ ของเธอเธอไม่ได้อาศัยอยู่กับลู่เจ๋อ ระยะห่างระหว่างพวกเขาเดี๋ยวใกล้เดี๋ยวไกล......แต่คนรอบข้างกลับไม่มีใครรู้ การที่จะปักหลักอาศัยอยู่เมืองใดเมืองหนึ่งเหมือนตอนนี้ สำหรับพวกเขาแล้ว ค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องยากพอสมควรความสุขและความทุกข์เหล่านั้นกำลังได้รับการเติมเต็มอีกครั้งต่อมา พวกเขาก็มักจะติดต่อกันอยู่บ่อย ๆบนโลกใบนี้พวกเขาเป็นเหมือนคู่สามีภรรยาที่เหมาสมกันมากที่สุด ช่วยกันเลี้ยงดูลูก ๆ ปรึกษาถึงเรื่องการเติบโตของลูก ๆ ด้วยกัน......เจ้าหนูลู่เหยียนอายุ 6 ขวบ เธอเป็นนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลที่พร้อมจะขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 แล้วเฉียวซุนกล่าวว่า “ลู่เจ๋อ คุณค่อนข้างเป็นคนกว้างขวางในเมือง B เรื่องที่เรียนของเจ้าหนูลู่เหยียนก็ให้คุณเป็นคนจัดการก็แล้วกัน”ลู่เจ๋อเองก็เห็นด้วย เขาเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 434

    ความปรารถนาในดวงตาของลู่เจ๋อ ทำให้จางหยวนรู้สึกท้อแท้เธออยู่ในคฤหาสน์มานานมากขนาดนี้ อยู่กับประธานลู่แทบจะตลอดเวลา ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยแสดงท่าทีที่อยากจะแต่งงานใหม่กับเฉียวซุนเลยแม้แต่น้อย กระทั่งเขาเองก็ยังไม่เคยบินไปดูลูก ๆ ที่เมืองเซียงเลยด้วยซ้ำแต่แค่เฉียวซุนกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป!ประธานลู่มักจะชอบเหม่ออยู่คนเดียว เขากลายเป็นคนที่ไม่กล้าได้กล้าเสียอีกต่อไป ทั้งหมดนี่ก็เป็นเพราะอดีตภรรยาของเขา......ผู้หญิงมักจะอ่อนไหวกับความรู้สึกเสมอ จางหยวนรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเฉียวซุนที่มีต่อลู่เจ๋อ ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความรัก แค่มองตาก็สามารถรับรู้ได้ทำไมกัน! ทำไม!เห็นได้ชัดว่าพวกเขาหย่าร้างกันแล้ว แล้วเธอจะกลับมาทำไมอีก จะกลับมาทำให้ความมุ่งมั่นของประธานลู่สั่นคลอนหรือยังไง?จางหยวนไม่ชอบเฉียวซุนเอามาก ๆแต่ในเวลานี้เธอกลับต้องก้มหัวลง “ค่ะ คุณเฉียวเองก็จะไปด้วย”เธอไม่อยากที่จะเห็นความสุขบนใบหน้าของลู่เจ๋อเลยสักนิด เธอจึงรีบปิดประตูทันทีลู่เจ๋อยังคงมองออกไปนอกหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน แสงสว่างจ้า ทำให้กระจกสะท้อนเงาของเขา......เป็นรูปร่างของผู้ชายที่นั่งอยู่บนรถเข็นคน

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 435

    เฮ่อจี้ถังมองออกไปข้างนอก แล้วปิดประตูเขาไม่ได้เดินเข้าไป ได้แต่ยืนอยู่ข้างประตู แล้วถามออกไปเบา ๆ “นี่ยังเล่นอยู่อีกเหรอ? นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้วนะ! ”หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็หัวเราะออกมาเขาเคยชอบเฉียวซุนมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าเขายอมแพ้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ใช่เพราะหลังจากที่เขารู้ว่าตัวเองเป็นลุงของลู่เจ๋อ แต่ตั้งแต่ที่ลู่เจ๋อนอนอยู่บนเตียงผ่าตัดต่างหาก เขาก็รู้แล้วว่าชาตินี้ทั้งสองคนคงจะไม่มีวันแยกจากกันอีกแล้วแต่เขาก็ยังอยากให้เฉียวซุนดีขึ้นเขารู้ว่าในใจเธอรู้สึกเศร้า เขาจึงดึงเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามออกมา แล้วนั่งลง จากนั้นก็ถามอย่างจริงจังว่า “คุณต้องการให้ผมอยู่คุยด้วยไหม? ”เฉียวซุนส่ายหัว และยิ้มเบา ๆ “ฉันไม่ใช่สาวน้อยแล้วนะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ฉันสามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้......พี่จี้ถัง ฉันไม่ได้รู้สึกเศร้าเลยแม้แต่น้อย จริง ๆ นะ เหมือนกับตอนนี้ที่ฉันอาศัยอยู่ในเมืองเมืองหนึ่ง ฉันก็คิดว่ามันดีมากแล้ว”เธอพูดจบ เฮ่อจี้ถังก็หัวเราะออกมาจากนั้นพวกเขาก็คุยกันเรื่องห้องทดลองอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เฉียวซุนจะจากไป ในตอนที่เธอขึ้นรถ เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากลู่เจ๋อ เขาพูดว่

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 436

    คำพูดของเธอ ทุกคำต่างก็เต็มไปด้วยการเสียดสีคนใจเย็นมาก ๆ อย่างเมิ่งเยียนหุย ก็ถูกกระตุ้นขึ้นมาได้ง่าย ๆ เช่นกัน คำพูดที่ไม่ควรพูดพวกนั้น เขากลับโพล่งมันออกมา “คุณก็รู้อยู่ว่าผมชอบคุณ! ”บรรยากาศสงบนิ่ง บริเวณโดยรอบก็เงียบราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ อาศัยอยู่ครั้งหนึ่ง เมิ่งเยียนหุยเองก็เคยเสียใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาเป็นทนายความ และเขาก็เป็นคนที่จริงจังมาก ในเมื่อตัวเขาเองได้พูดออกไปแล้ว เขาจึงต้องพูดให้ถึงที่สุดเขาจ้องไปทางเฉียวซุน “คุณยังคอยดูแลลู่เจ๋ออยู่อย่างนั้นเหรอ? ทำไมคุณไม่ลองพิจารณาผมบ้าง? ”น้ำเสียงของเฉียวซุนดูเย็นชาเธอบอกเขาออกไปตรง ๆ “ฉันจะไม่มีวันชอบคุณเด็ดขาด! ฉันจดจำทุกอย่างได้ไม่เคยลืม ว่าคุณทำให้ตระกูลเฉียวต้องพบกับความหายนะยังไง! ให้ฉันคบกับคุณ ทนายเมิ่ง คุณแน่ใจนะคะ ว่าสมองของคุณไม่ได้เพี้ยนไปแล้ว? ”......เมิ่งเยียนหุยจับมือของเธอเอาไว้เฉียวซุนชะงักอยู่ครู่หนึ่ง เธอต้องการที่จะสลัดมือทิ้งแม่เมิ่งเยียนหุยใช้กำลังของผู้ชายที่ตนมีดึงเธอเข้ามาใกล้ ใกล้จนแทบไม่มีระยะห่างระหว่างพวกเขา เขาจ้องมองดวงตาของเธอ ราวกับว่าเพิ่งจะสูญเสียความเป็นคนไป น้ำเสียงของเขา

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 437

    เฉียวซุนไม่อยากให้เขาเห็นเธอเบือนหน้ามองออกไปครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “เปล่าค่ะ! ”เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะ “คุณช่วยบอกให้ป้าแม่บ้านอุ้มลูกลงมาที ฉันไม่ขึ้นไปแล้วล่ะค่ะ”ลู่เจ๋อไม่ได้ขยับแต่อย่างใดภายใต้แสงจันทร์สลัว ดวงตาสีดำของเขาจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด โดยไม่ละสายตาจากเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงขั้นที่ถามเธอออกไปตรง ๆ “ร้องไห้มาก่อนแล้วเหรอ? ”“เปล่า! ”เฉียวซุนทนต่อสายตาแบบนี้ของเขาไม่ได้ เธอจึงรีบลงจากรถ “ฉันจะไปเรียกเอง”ทันทีที่เธอก้าวเท้าลง ก็ถูกใครบางคนคว้าข้อมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ลู่เจ๋อจับเธอเอาไว้ได้ เขาจ้องมองเสื้อผ้าที่สวยงามและเซ็กซี่ของเธอท่ามกลางแสงจันทร์ และตรงข้อมือของเธอยังคงหลงเหลือรอยแดงจาง ๆ อยู่ด้วย......ด้วยความดื้อรั้น เขาจึงค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาร่างกายของเฉียวซุนสั่นเล็กน้อยพวกเขาอยู่ใกล้กันมาก ลู่เจ๋อค่อย ๆ ใช้มือลูบไปบนใบหน้าของเธอ จากนั้นก็ปาดน้ำตาออกอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาแทบจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลย เขาถามขึ้นว่า “ที่ตัวสั่นขนาดนี้ เป็นเพราะเรื่องที่แอบเล่นชู้ หรือว่าเรื่องอื่นกันล่ะ? ”เธอนึกอะไรขึ้นมาได้เขาจับเอว

บทล่าสุด

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 445

    ใบหน้าของเมิ่งเยียนซีดลงเธอก้มศีรษะลง นิ้วเรียวเล็กสีขาวของเขาแตะท้องตัวเองเบา ๆ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในนี้จะมีเด็กแล้วจริง ๆ แต่สามีของเธอกลับถามเธอ......ถามเธอว่าใครคือพ่อของเด็กนอกจากเขาแล้ว ยังจะเป็นใครไปได้อีกกัน?ลูกของเหอโม่รึไง?ในอดีต ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เหมือนกับว่าเมิ่งเยียนจะเป็นฝ่ายที่ตกหลุมรักเขาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นรูปถ่ายของเขาที่จูบกับผู้หญิงคนอื่น เธอรู้ดี......เขาไม่ได้รักเธอเธอเองก็ไม่ได้โง่ เธอเคยแอบตรวจสอบมาบ้างแล้วเหมือนกันเลขาของพี่ชายพยายามบอกเธออย่างคลุมเครือว่าอย่ายั่วยุเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไร บอกว่าเขากับพี่ชายไม่ลงรอยกัน แต่เธอไม่ใช่แค่ยั่วยุเขา เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเธอถึงขั้นแต่งงานกับเขาเลยด้วยซ้ำเมิ่งเยียนไม่ได้อธิบายอะไรเธองอเรือนร่างเพรียวบางของเธอ และโค้งเอวลงเล็กน้อย ราวกับพยายามปกป้องทารกตัวน้อยในครรภ์ของเธอ เธอบ่นพึมพำกับเฉียวสือเยี่ยนว่า “คุณยังต้องการเด็กคนนี้อยู่ไหม? ”เป็นคำถามที่ยากจะให้คำตอบ......หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวสือเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา จึงทำให้เมิ่งเยียนเข้าใจได้ในท

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 444

    เมิ่งเยียนขดตัวอยู่ตรงมุมมุมหนึ่งหากเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะถูกเขาทำให้ตกใจจนร้องไห้ไปแล้ว แต่วันนี้เธอกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เธอถึงขั้นกล้ามองมองตาเขา แล้วถามกลับ “คุณไม่รักฉัน! คุณมาขอฉันแต่งงานทำไม? ”อันที่จริงคำตอบนั้นง่ายมากหากต้องการแก้แค้น บางครั้งก็ควรที่จะบอกเรื่องจริงกับเธอ จากนั้นก็รอดูสีหน้าที่ตกตะลึงของเธอแต่เฉียวสือเยี่ยนกลับไม่ได้ทำแบบนั้น กลับกัน ในใจเขารู้สึกหงุดหงิดมากกว่า เขาใช้แรงที่มีดูดบุหรี่ที่เหลืออยู่จนหมดในคราวเดียว จากนั้นก็ดับบุหรี่ลง......ต่อมา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำแต่เมื่อกลับมาถึงบ้านพักที่เปรียบเสมือนคุกหลังนั้น หลังจากที่เขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้ว เขาก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วลากเธอเข้าไปในบ้านพัก...... เมิ่งเยียนตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เธอจึงปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแต่เฉียวสือเยี่ยนเป็นคนใจแข็งเขาอุ้มเธอขึ้นมา แล้วพาเธอไปที่ห้องนอนหลักบนชั้นสอง เขาโยนเธอลงบนเตียงนุ่ม ๆ แล้วเริ่มลงโทษเธอ เขาถอดเสื้อผ้าของเธอออก ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการกบฏในใจเธอเขากดศักดิ์ศรีของเธอลงจนจมดินร่างกายของเธอเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 443

    ร้านอาหารสุดหรู แจกันฝรั่งเศสสีน้ำเงิน เชิงเทียนเงินสเตอร์ลิงเมิ่งเยียนจ้องมองดูหนังสือพิมพ์อยู่นานมากทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็มีข้อความไลน์เด้งขึ้นมา เป็นคนแปลกหน้าที่ส่งเข้ามา [สวัสดีนักเรียนเมิ่ง! ผมชื่อว่าเหอโม่ ผมอยากรู้จักคุณ ได้ไหม? ] ประโยคประโยคนั้น เมิ่งเยียนจ้องมองอยู่พักใหญ่จู่ ๆ เธอก็อยากรู้ว่าการที่ได้รับความรักที่แท้จริงมันรู้สึกยังไง จากนั้นเธอก็หน้ามืดตามัวตอบออกไปว่า [ตกลง]......สามวันต่อมา คนรับใช้ในคฤหาสน์ก็โทรหาเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าหลังจากที่คุณนายเลิกเรียน ก็มักจะขึ้นรถบัสกลับบ้านเสมอคำพูดของคนรับใช้เหมือนมีนัยบางอย่างอยู่ด้วย “คุณนายอารมณ์ดีมากเลยค่ะ”เฉียวสือเยี่ยนพูดอย่างใจเย็น “รู้แล้ว! ”หลังจากที่เขาวางสายโทรศัพท์ เขาก็โน้มตัวไปกดโฟนอินภายในทันที “เลขาจิน มานี่หน่อย”สักพัก เลขาจินคนสวยก็เดินเข้ามา “ประธานเฉียวคะ มีเรื่องอะไรจะสั่งเหรอคะ? ”เฉียวสือเยี่ยนเอนหลังพิงเก้าอี้ เขาเอื้อมมือไปลูบผมสีดำที่หวีเรียบร้อย แล้วมองขึ้นไปที่แสงไฟด้านบน จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ไปตรวจสอบตารางเรียนวันนี้ของคุณนายที”เลขาจินยิ้ม “ได้ค่ะ ประธานเฉียว”เธอจัดการไ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 442

    เขามองดูใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอเธอยังเด็ก และไม่มีประสบการณ์มาก่อน เธอไม่สามารถเก็บซ่อนหรือควบคุมอะไรได้......แค่ครั้งเดียวเขาก็แทบจะครอบครองทุกอย่างที่มีในตัวเธอ แต่เฉียวสือเยี่ยนกำลังอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการเรื่องพวกนี้มากที่สุด แค่นี้มันจะไปพอได้ยังไง?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วด้วย!หลังจากที่ทำกับเธอไปจนถึงตอนสุดท้าย ทุกอย่างมันก็ยุ่งเหยิงไปหมด เมิ่งเยียนก็เหนื่อยหอบจนหมดสติไป......เฉียวสือเยี่ยนก้มศีรษะลง และจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่บนโซฟาเธอช่างน่าสังเวชจริง ๆสักพัก เขาก็เช็ดเธอด้วยเสื้อเชิ้ตของเขา จากนั้นก็อุ้มเธอไปที่เตียงในห้องนอนชั้นสอง แน่นอนว่าเขาจะไม่ช่วยเธออาบน้ำ แล้วก็ไม่มีความรักระหว่างสามีภรรยาอะไรแบบนั้นด้วยเช่นกันเขาห่มผ้าห่มให้เธอ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายหลังจากที่ได้ระบายออกไป เขาก็ไม่ได้มีความคะนึงหาอยู่เลยแม้แต่น้อยพอเมิ่งเยียนตื่นขึ้นมา เฉียวสือเยี่ยนก็แต่งตัวเสร็จแล้ว และกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอก......เธอลุกขึ้นจากเตียงทันที และถามเขาอย่างระมัดระวัง “คุณจะไปอีกแล้วเหรอ? ”เฉียวสือเยี่ยนบีบแก้มเธอเบา ๆ ด้

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 441

    หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวซุนก็พูดขึ้นว่า “พี่คะ นี่พี่บ้าไปแล้วเหรอ!”เธอไม่เคยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อนเฉียวสือเยี่ยนเองก็ตกตะลึงเช่นกันในเวลานี้ เขาพักอยู่ที่คฤหาสน์สุดหรูในเมืองเซียง คฤหาสน์ทั้งหลังตกแต่งด้วยงาช้างและของตกแต่งที่ทำมาจากทองคำ แลดูฟุ่มเฟือยเป็นอย่างมาก และนี่ก็เป็นบ้านสีทองที่เฉียวสือเยี่ยนมีไว้เพื่อเก็บซ่อนของสวย ๆ งาม ๆ เอาไว้เมิ่งเยียน น้องสาวของเมิ่งเยียนหุยในตอนที่เมิ่งเยียนอายุได้ 20 ปี เธอก็ได้กลายเป็นคุณนายไปแล้ว หลังจากแต่งงาน เธอก็ถูกเฉียวสือเยี่ยนจัดแจงให้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ ทุก ๆ วันเธอจะนั่งรถสุดหรูส่วนตัวไปเรียนที่สถาบันวิจิตรศิลป์ พอเลิกเรียน เธอก็จะละทิ้งการเข้าสังคมทั้งหมด และกลับมาที่บ้านพักแห่งนี้ หลังจากผ่านไปหนึ่งปี ข้างกายเธอก็ไม่มีเพื่อนเหลืออยู่อีกเลย ราวกับว่าเธอเพิ่งจะถูกตัดแขนขาออก และกลายเป็นภรรยาตัวน้อยของเขาเท่านั้นเขาแทบไม่อยากจะให้เธอเรียนรู้อะไรเลยเขายิ่งไม่ต้องการให้เธอทำงานบ้าน และไม่ต้องการให้เธอเรียนรู้อะไรจากคุณนายคั่วเลยด้วยซ้ำ เขาแค่อยากเป็นคนเลี้ยงดูเธอ เธอต้องการที่จะเลี้ยงดูเธอให้กลายเป็นคนที่นอกจากเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 440

    เฉียวซุนเต็มใจที่จะให้อภัย แต่เขาไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้......ในช่วงกลางดึก ลู่เจ๋อลงมายังชั้นล่างจางหยวนยังคงอยู่ที่นั่นเธอเพิ่งทำสิ่งที่น่าละอาย และด้วยความรู้สึกผิด ทันทีที่เธอเห็นลู่เจ๋อกำลังลงมา เธอก็เริ่มพูดใส่ร้ายทันที “ประธานลู่คะ คุณเฉียวล้ำเส้นเกินไปแล้วนะคะ เรื่องในคฤหาสน์เดิมทีเธอไม่ควรเข้ามายุ่งเลยด้วยซ้ำ”“ไม่งั้นจะให้ใครจัดการ? ”เสียงของลู่เจ๋อดูเย็นชา เขามองดูหมอสาวที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าเขาต้องการที่จะไล่เฉียวไป แต่เขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกที่คลุมเครือกับผู้ดูแลสาวคนนี้เลย และเขาก็ไม่เคยบอกใบ้ให้ท่าอะไรกับเธอด้วยจางหยวนตกตะลึงลู่เจ๋อบอกเธอไปตรง ๆ ว่าเขาจะใช้เส้นสายของเขาเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของเธอ ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่สามารถเป็นหมอได้อีกต่อไป“นอกจากนี้...... ”ลู่เจ๋อพูดออกไปด้วยความเย็นชา “ออกจากเมือง B ภายในสองวัน! อย่าคิดที่จะหลีกเลี่ยง ผมจะให้คนไปเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณ และส่งคุณไปยังเมืองซีเป่ย......ต่อไป พวกเขาจะคอยจับตาดูคุณเอาไว้! ”“ตอนที่คุณกินข้าว พวกเขาก็จะอยู่ข้าง ๆ”“ตอนคุณนอน หรือเข้าห้องน้ำ พวกเขาก็จะคอยดูแลคุณ”“หมอจาง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 439

    ลู่เจ๋อไม่สามารถตอบคำถามได้ในตอนนี้ เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะถามหาคำตอบอยู่แล้ว พวกเขาทำได้แค่อดทนอยู่ใต้แสงไฟ รอคอยการมาถึงของเสิ่นชิง......ตกกลางดึก ก็มีเสียงรถดังขึ้นตรงลานหน้าบ้าน เสิ่นชิงมาถึงห้องนอนหลักชั้นสองอย่างรวดเร็วพอเห็นว่าเธอมาถึง เฉียวซุนก็พอที่จะหายใจได้ด้วยความโล่งอก และอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยเสียงต่ำ “ป้าเสิ่น”“พาป้าไปดูเด็ก ๆ หน่อย”เสิ่นชิงดูสงบมาก เธออุ้มเจ้าหนูลู่เหยียนขึ้นมาแล้วตบเบา ๆ จากนั้นก็ตรวจเช็คอุณหภูมิ เธอพูดกับเจ้าหนูลู่เหยียนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา......เจ้าหนูลู่เหยียนยังคงตกอยู่ในฝันร้ายหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ร้องไห้และเรียกหาคุณยาย จากนั้นก็พูดอย่างคลุมเครือว่า “ป้าจางนั่นทำให้หนูตกใจ เธอบอกว่าพ่อปฏิบัติกับแม่ไม่ดี บอกว่าพ่อส่งแม่ไปขังไว้ที่บ้านพักรักษา เธอบอกว่าพ่อไม่ต้องการแม่อีกต่อไป และกำลังจะหาภรรยาใหม่...... ”หัวใจของเสิ่นชิงเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายเธอเอ็นดูเจ้าหนูลู่เหยียนเอามาก ๆ เธอยิ่งเอ็นดูเฉียวซุน ใจของเธอแทบจะแตกสลาย แต่เธอยังคงเอาหน้าแนบชิดกับใบหน้าของเจ้าหนูลู่เหยียน และปลอบเธออย่างอ่อนโยนด้วยความรัก “สิ่งเหล่านั้นก็

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 438

    จริง ๆ แล้วเขาก็ใส่ใจเรื่องนี้มาโดยตลอดผู้ชายคนไหนที่ไม่มีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกันล่ะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอย่างลู่เจ๋อเลย......เฉียวซุนจ้องมองตามแผ่นหลังของเขา จากนั้นก็ลดเปลือกตาลง......มีบางอย่างอยู่ในใจของเธอไม่เช่นนั้น คืนนี้เธอคงสามารถจับลู่เจ๋อให้อยู่หมัดได้ เดิมทีร่างกายของเขาก็มีความต้องการอยู่แล้ว บวกกับที่ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ามาตั้งหลายปี ก็แค่คืนนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดีก็เท่านั้น เลยไม่ได้รู้สึกอยากทำเท่าไหร่เธอยังคงนึกถึงสิ่งที่เมิ่งเยียนหุยเคยพูด และนึกถึงเรื่องที่พี่ชายตัวเองแต่งงานกับเมิ่งเยียน พอมีเรื่องพวกนี้เพิ่มเข้ามา มันกลับยังคงถูกกดเอาไว้ส่วนลึกในใจของเธออยู่เฉียวซุนรอลู่เจ๋ออยู่ตลอดแต่เธอก็ยังไม่เห็นลู่เจ๋อ กลับกัน เป็นป้าแม่บ้านที่วิ่งลงมาแทน น้ำเสียงของป้าแม่บ้านค่อนข้างลนลาน “คุณนายคะ เกิดเรื่องกับคุณหนูเหยียนเหยียนแล้วค่ะ จู่ ๆ คุณหนูก็ละเมอขึ้นมาอย่างรุนแรง! คุณผู้ชายเชิญให้คุณไปดูหน่อยค่ะ”“เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ”เฉียวซุนพลางถาม พลางก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็วไปยังคฤหาสน์เธอเดินเร็วมาก ป้าแม่บ้านเองก็เดินตามเธอมาติด ๆ แล้วพูดขึ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 437

    เฉียวซุนไม่อยากให้เขาเห็นเธอเบือนหน้ามองออกไปครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “เปล่าค่ะ! ”เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะ “คุณช่วยบอกให้ป้าแม่บ้านอุ้มลูกลงมาที ฉันไม่ขึ้นไปแล้วล่ะค่ะ”ลู่เจ๋อไม่ได้ขยับแต่อย่างใดภายใต้แสงจันทร์สลัว ดวงตาสีดำของเขาจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด โดยไม่ละสายตาจากเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงขั้นที่ถามเธอออกไปตรง ๆ “ร้องไห้มาก่อนแล้วเหรอ? ”“เปล่า! ”เฉียวซุนทนต่อสายตาแบบนี้ของเขาไม่ได้ เธอจึงรีบลงจากรถ “ฉันจะไปเรียกเอง”ทันทีที่เธอก้าวเท้าลง ก็ถูกใครบางคนคว้าข้อมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ลู่เจ๋อจับเธอเอาไว้ได้ เขาจ้องมองเสื้อผ้าที่สวยงามและเซ็กซี่ของเธอท่ามกลางแสงจันทร์ และตรงข้อมือของเธอยังคงหลงเหลือรอยแดงจาง ๆ อยู่ด้วย......ด้วยความดื้อรั้น เขาจึงค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาร่างกายของเฉียวซุนสั่นเล็กน้อยพวกเขาอยู่ใกล้กันมาก ลู่เจ๋อค่อย ๆ ใช้มือลูบไปบนใบหน้าของเธอ จากนั้นก็ปาดน้ำตาออกอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาแทบจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลย เขาถามขึ้นว่า “ที่ตัวสั่นขนาดนี้ เป็นเพราะเรื่องที่แอบเล่นชู้ หรือว่าเรื่องอื่นกันล่ะ? ”เธอนึกอะไรขึ้นมาได้เขาจับเอว

DMCA.com Protection Status