เมื่อก่อน เฉียวซุนไม่ค่อยได้ไปที่เหล่านั้นเท่าไหร่เพราะลู่เจ๋อไม่ชอบ!ตอนนี้เธอไม่สนใจอีกต่อไปว่าเขาจะชอบหรือไม่ จึงได้ทำการนัดกับหลินเซียวไว้เสียงเพลงในบาร์ดังจนหนวกหู หลินเซียวกำลังเต้นอย่างเพลิดเพลินเนื่องจากเธอชอบใช้ชีวิตหรูหราและฟุ่มเฟือยมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ต่อมาเธอจึงสั่งไวน์แดงหนึ่งขวดให้เฉียวซุน “ไวน์นี้ดื่มแล้วไม่เมา!”เฉียวซุนดึงเธอนั่งลงแล้วถามเบา ๆ “ทำไมถึงเลือกที่นี่ล่ะ?”เธอกังวลหลินเซียวไม่มีใครรู้ว่าหูข้างซ้ายของหลินเซียวนั้นสูญเสียการได้ยินเพราะมีสาเหตุมาจากการโดนคนเก็บหนี้ของพ่อแม่ตบเข้าครั้งเมื่อเธอยังเป็นเด็ก แม้ว่าเฉียวซุนจะขอให้เฉียวสือเยี่ยนใช้เงินมากมายในการหาที่รักษาหู คอ จมูกจนทั่วเมืองบี แต่ก็กลับช่วยอะไรไว้ไม่ได้หลินเซียวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเธอก็นั่งลงแล้วค่อย ๆ เสยผมสีดำที่สยายยาวราวกับสาหร่ายทะเลพร้อมยิ้มอย่างไม่ใส่ใจและพูด “ไอความเจ็บที่ผ่านมานานแล้ว ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกเจ็บมันอีกต่อไปแล้วล่ะ! คนเรายังมีชีวิตอยู่ก็ต้องดื่มไวน์วันนี้และเมาให้เละสิ ไม่ว่าจะเป็นลู่เจ๋อ ลู่จิ้นเซิงหรือไป๋เซียวเซียวอะไรนั่นก็ไสหัวไปไกล ๆ เหอะว่ะ!”เว
เฉียวซุนเมาเล็กน้อยตอนดึกเมื่อเวลา 5 ทุ่ม เธอกำลังจะเตรียมจ่ายเงินและออกไป ลู่เจ๋อเองก็เดินเข้าไปในบาร์จากด้านนอกเช่นกันในคืนฤดูหนาวนี้ เขาสวมเสื้อคลุมสีดำบาง ๆ แต่ด้านในเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเนื้อละเอียดด้านล่างช่วยขจัดความหมองทำให้เขาดูหล่อขึ้น ข้างนอกฝนยังคงตกอยู่เล็กน้อย มีหยดน้ำอยู่ด้านนอกเสื้อคลุมของเขาและคิ้วของเขาทำให้เขายิ่งดูหล่อขึ้นไปอีก นี่มันยิ่งเหมือนว่าเขามาจากสายลมและสายฝนอย่างไรอย่างนั้นในบาร์ยังคงอึกระทึกครึกโครมพวกเขาสองคนมองหน้ากันท่ามกลางฝูงชน ผู้ชายคิดลึกซึ้ง ส่วนผู้หญิงนั้นมีท่าทีเย็นชาเฉียวซุนสวมเสื้อเชิ้ตผ้าไหมซีทรู กระโปรงยาวสีดำที่มีสีเดียวกันข้างใต้ซึ่งมันดูเย้ายวนมากกว่าชุดที่ดูสง่างามตามปกติของเธอ... ดวงตาของลู่เจ๋อนั้นมืดลงจากนั้นไม่นานเขาก็เดินเข้าไปหาเธอลู่เจ๋อหยิบเสื้อคลุมจากมือของเธอแล้วสวมให้ จากนั้นก็ติดกระดุมให้แน่น เขาติดกระดุมจากล่างขึ้นบนแบบไม่พลาดสักเม็ดเดียวความคิดดำมืดของผู้ชายมันหลอกคนอื่นไม่ได้เฉียวซุนรู้สึกขำขัน เมื่อเขาจับมือเธอ เธอเองก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยไปว่า “ลู่เจ๋อ ทำไมต้องทำตัวแสดงความรักขนาดนี้ด้วย! ฉันไม่ใช่เด็
เขาอุ้มเธอไปที่เตียงเสื้อผ้า รองเท้า ถุงน่อง แม้แต่ความเสน่ห์หาก็ถูกโยนลงไปเต็มพื้น...เฉียวซุนกินไวน์มาจนรู้สึกทรงตัวไม่อยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะโอบไหล่ของลู่เจ๋อในขณะนี้มือถือที่ถูกโยนไปยังที่หัวเตียงก็ดังขึ้นมันเป็นโทรศัพท์มือถือของเฉียวซุนเฉียวซุนเอื้อมมือไปหยิบ แต่ก็ถูกลู่เจ๋อจับได้ก่อน เขาคิดว่าว่าเฮ่อจี้ถังคงอยากจะมาพูดเรื่องราวชีวิตกับภรรยาเขาอีก แต่พอเปิดมือถือมาก็พบว่าเป็นรูปโปรไฟล์ที่ไม่คุ้นเคย หน้าตาดีแถมยังเด็กอยู่ด้วยพี่สาวครับ ผมอยากเจอพี่อีกครั้งได้ไหมครับ? ใบหน้าของลู่เจ๋อมืดมนราวกับน้ำ เขาจ้องมองไปที่เฉียวซุน “รู้จักกันที่ร้านเหล้าหรอ? คุณแอดวีแชทเขาหรอ?”ที่จริงแล้วมันเป็นหลินเซียวต่างหากที่เป็นคนแอดไปแต่เฉียวซุนจะเต็มใจสารภาพในเวลานี้ได้อย่างไร เธอไม่เพียงไม่อธิบาย แถมยังกอดคอของเขาแล้วพูดเบา ๆ ไปว่า “ใช่อยู่แล้วสิ! เด็กนี่ทั้งยังหนุ่มแถมยังหน้าตาดีมาก! ลู่เจ๋อ คุณกับไป๋เซียวเซียวยังแอบคบกันได้เลย แล้วทำไมฉันจะแอดหนุ่ม ๆ หล่อ ๆ ให้ตัวเองมีความสุขบ้างไม่ได้ล่ะ? ถ้าคุณทนไม่ไหวจะหย่าก็ได้นะ!"ผมสีดำของเธอยังคงคลุมหมอน เธอสวยอย่างน่าทึ่งเสียจริงแต่เวลานี้
ในช่วงดึก ลู่เจ๋อก็ไปโรงพยาบาลลู่สาเหตุคือเพราะเขาเสียเลือดมากเกินไปแม้ว่าเขาจะพยายามซ่อน แต่หมอที่รักษาเขาก็ยังคงได้กลิ่นผู้ชายจาง ๆ บนตัวของเขา อีกทั้งยังมีเสื้อเชิ้ตกับกางเกงที่เขาใส่แบบสบาย ๆ สันนิษฐานได้ว่าก่อนมาโรงพยาบาลเขาคงมีทำกิจกรรมที่ต้องออกกำลังเยอะ ๆ มาคุณหมอถึงกับพูดไม่ออกตอนเย็บแผล เขาก็ไอเบา ๆ แล้วก็พูดแนะนำ “คุณลู่ครับ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกในครั้งต่อไป คุณต้องหยุดทำอะไรที่ใช้แรงแล้วรีบมาทำแผลที่โรงพยาบาลนะครับ ไม่งั้นจะร้ายแรงกว่าเดิม”"มันหยุดไม่ได้!"ลู่เจ๋อเอนตัวบนโซฟาแล้วจ้องมองเฉียวซุนด้วยดวงตาสีดำเข้มของเขาเธอยังพอเป็นคนดีที่พาเขามาโรงพยาบาล บางทีอาจจะแค่ดูเป็นเรื่องตลกของเขาก็ได้!เฉียวซุนไม่สนใจเขา เธอถือโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือและกำลังอ่านข้อความ ลู่เจ๋ออดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเธอกำลังแอบนอกใจไปจีบเจ้าสุนัขตัวน้อยนั่นอยู่หรือเปล่าเฉียวซุนเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่แล้วพูดอย่างใจเย็น “ไม่ใช่ว่าทุกคนจะโสมมเหมือนคุณนะ”ลู่เจ๋อหัวเราะเยาะ “ถึงผมจะโสมมแค่ไหน คุณก็ยังสนุกไปกับมันนี่!”คุณหมอทำเป็นไม่มองไม่สนใจเขาไม่กล้าแอบฟังความลับเรื่องสามีภรรยาขอ
เขากำลังเหม่อลอย เพราะยังจมอยู่กับคำพูดของเฉียวซุนเมื่อกี้นี้เมื่อประตูเปิดออก เขาคิดว่าเป็นเฉียวซุนที่จะกลับเข้ามา เลยอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เฉียวซุน ในความฝันของคุณมีผมบ้างไหม”ใบหน้าของไป๋เซียวเซียวซีดเซียวราวกับกระดาษเธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เธอได้ยินว่าลู่เจ๋อเกือบจะสารภาพรักกับเฉียวซุนไปเสียแล้ว เธอได้ยินน้ำเสียงอ่อนโยนที่เขาไม่เคยจะพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงนี้มาก่อนไม่มีการตอบสนองที่ประตูอยู่เป็นเวลานานลู่เจ๋อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นไป๋เซียวเซียวในขณะนั้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนล้า เขาก็เอนหลังแล้วพูดเบา ๆ “ทำไมคุณถึงเป็นคุณล่ะ?ดึกขนาดนี้แล้วกลับไปพักที่ห้องคนป่วยเถอะ!”ไป๋เซียวเซียวเจ็บปวดมาก เธอมองลู่เจ๋ออยู่นานก่อนที่จะรวบรวมความกล้าถามว่า “คุณชอบเธอมากใช่ไหม”ลู่เจ๋อไม่ได้ตอบไป๋เซียวเซียวเกือบจะร้องไห้ แต่เธอยังคงแสร้งทำเป็นเข้มแข็งอยู่ “ไม่เป็นไรค่ะคุณลู่! ฉันทำได้เพียงแค่ดีใจกับคุณก็เท่านั้น! แต่ถ้าคุณนายลู่รักคุณมันก็คงจะดีกว่านี้”ลู่เจ๋อไม่สนใจฟังเธอเลยแม้แต่น้อยเขากดเรียกแพทย์กับพยาบาลให้พวกเขาพาไป๋เซียวเซียวออกไป ในขณะเดียวกันแม่ไป๋ก็เข้ามาเพื่ออ
นอกห้องผู้ป่วยมีเสียงเคาะสองครั้ง จากนั้นประตูก็ถูกผลักออกคนที่เข้ามาไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจากแม่ของลู่เจ๋อนั่นเอง แม้ว่าจะเป็นช่วงดึก แต่คุณนายลู่ก็ยังสวมเสื้อผ้าและเครื่องประดับราคาแพงและดูสูงส่งอยู่เสมอลู่เจ๋อมองเธออย่างเงียบ ๆเขายังถือรูปถ่ายไว้ด้วยปลายนิ้วมืออันเรียวยาวของเขาคุณนายลู่อยู่ที่ประตู ดวงตาของเธอก็จ้องมองไปที่รูปถ่ายระหว่างนิ้วของเขาด้วยเช่นกัน ใจของแม่กับลูกชายเชื่อมต่อกันและตอนนี้เธอรู้ว่าลู่เจ๋อกำลังคิดอะไรอยู่เธอหันไปด้านข้างแล้วพูดกับคนรับใช้ที่ติดตามเธอมาว่า “แม่จาง ออกไปรอข้างนอกก่อนเถอะ”แม่จางสังเกตเห็นบรรยากาศว่ามันมีบางอย่างผิดปกติไป จึงรีบออกไปและปิดประตูคุณนายลู่มองดูประตูที่ปิดอยู่แล้วเดินไปนั่งบนโซฟา เธอนั้นเกิดในตระกูลที่สูงส่ง สมัยวัยสาวเธอเคยถูกสามีทรยศนอกใจ ทำให้หัวใจของเธอนั้นเย็นเฉียบเหมือนมีดที่เอาไว้ฆ่าปลาภายใต้โคมไฟ ใบหน้าของเธอดูใจร้ายเล็กน้อยเธอมองไปที่ลูกชายของเธอแล้วพูดว่า “ฉันได้ยินมาจากที่บ้านว่าเฉียวซุนไปดื่มเหล้าที่บาร์และยังทะเลาะกับลูกจนต้องเข้าโรงพยาบาลอีกด้วย! เธอเป็นถึงคุณนายตระกูลลู่ พฤติกรรมของเธอนี่มันหยั่งกับอะ
ถึงแม้จะเป็นห้องผู้ป่วยวีไอพี แต่ก็ยังได้ยินเสียงฝนที่กระทบอยู่ในใจของลู่เจ๋ออย่างชัดเจนเขาเปิดอัลบั้มรูปในมือถือแล้วดูรูปถ่ายของเฉียวซุนที่นอนอยู่บนหมอนตอนนั้นคำพูดของคุณนายลู่ก็เริ่มสะท้อนเข้ามา“แต่ลู่เจ๋อ ลูกลองคิดดูสิว่าตอนแต่งงานใหม่ ๆ ลูกก็กลับบ้านทุกวัน... ลูกยังจะกล้าพูดว่าลูกไม่ติดใจอีกเหรอ?” ลู่เจ๋อไม่สามารถจะปฏิเสธมันได้ภาพนี้เป็นหลักฐานที่ดีที่สุดของรสชาติอาหารของเขา หลังจากการแต่งงานมาสามปี เขาเกลียดเฉียวซุนแต่เป็นเขาเองที่กลับเสพติดเขาเป็นคนที่ทรมานเฉียวซุนมาตลอดเป็นเวลาสามปีนั่นคือเขา!ฝนข้างนอกยังคงตกอยู่ ลู่เจ๋อก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้า...ในคืนที่ฝนตก รถโรลส์รอยซ์สีดำคันหนึ่งขับเข้าไปในวิลล่าหลังจากที่รถหยุด ก็มีที่ปัดน้ำฝนที่ยังคงทำงานอยู่ หน้ารถมีโลโก้เทพธิดาสีทองที่ยืนหยัดท่ามกลางสายฝนอย่างภาคภูมิใจ แต่ก็ดูเหมือนกำลังร้องไห้ไปในเวลาเดียวกันลู่เจ๋อนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับเสื้อเชิ้ตสีขาวโดดเด่นในคืนที่มืดมิด เวลานี้คนรับใช้กลับหลับกันหมดจนไม่ได้มาต้อนรับเขา เขามองไปทางชั้นสองก็เห็นว่าไฟนั้นมืดดับหมดแล้ว!ลู่เจ๋อนั่งอยู่เงียบ ๆเมื่อเขากลับมาที่วิลล
ลู่เจ๋อหลับไปเพียงแค่สามชั่วโมงเมื่อตื่นขึ้นมา เขากอดเฉียวซุนไว้แน่น ชุดนอนผ้าไหมที่เธอสวมยุ่งเหยิงเล็กน้อย เผยให้เห็นไหล่ข้างหนึ่ง ปลดปล่อยความกระจ่างใสท่ามกลางแสงแดดบางเบาในตอนเช้าเธอยังอยู่ในอ้อมกอด!ลู่เจ๋อก้มศีรษะ เขาเอาหน้าเข้าไปใกล้ตรงซอกคอของเธอ เรียกคนที่นอนหลับสบายอย่างอบอุ่นหลังจากเอาแต่ใจสักครู่หนึ่ง เขาก็ลุกขึ้นจากเตียงในตอนเช้าที่บริษัทมีประชุมการเปิดประมูลที่สำคัญ เขาจำเป็นต้องไปลู่เจ๋อลุกจากเตียงแล้วล้างหน้าแปรงฟัน เขาเปลี่ยนชุดใหม่ เดินเข้ากลับไปที่ห้องนอนตอนที่กำลังผูกเนคไท......เฉียวซุนตื่นแล้ว เธอกำลังนั่งอยู่หัวเตียงด้วยความมึนงง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เธอก็เงยหน้ามอง สบตากับลู่เจ๋อพอดีหลังจากนั้นไม่กี่วินาที ดูเหมือนว่าเธอจะจำสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ได้เธอเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงไม่ยินดียินร้าย “ลู่เจ๋อ ความเป็นจริงไม่สำคัญแล้ว! มันผ่านไปนานแล้ว ฉันไม่ได้สนใจอีกแล้วล่ะ พวกเราควรก้าวไปข้างหน้า ต้องก้าวไปข้างหน้าได้แล้ว”แสงยามเช้าส่องไปที่เธออย่างนุ่มนวลสิ่งที่เธอพูดนั้นมีเหตุผล “ที่ฉันพูดเมื่อคืนนี้ คุณลองคิดดูดี ๆ นะ”ลู่เจ๋อไม่ส่งเสียงใด ๆเขาก