แชร์

บทที่ 13

ผู้เขียน: นลพรรณ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-30 18:21:18

“ให้ผมเลิกกับคุณเหรอ เลิกได้ยังไง ในเมื่อเราไม่เคยคบกัน”

ชนกันต์ไม่พลาดที่จะพูดจาทำร้ายจิตใจเธอ ทั้งที่เขาเข้าใจดีว่าเธอหมายถึงเรื่องอะไร กุลนิภาต้องใช้ความเข้มแข็งเป็นอย่างมากเพื่อมองข้ามมันไป

“คุณต้องซื่อสัตย์กับเธอ”

“กับใคร?”

“ซื่อสัตย์กับผู้หญิงที่คุณจะแต่งงานด้วย”

“ตอนนี้ผมยังไม่แต่งงานและผมอยากได้ตัวคุณ”

“ฉันขอเวลาทำงานและจะเก็บเงินมาใช้คืนคุณให้ครบ”

“คุณทุจริตเงิน รู้ใช่ไหมว่าพนักงานที่โดนข้อหานี้คงไม่มีบริษัทไหนเสี่ยงรับเข้าทำงาน”

กุลนิภารู้เรื่องนี้ดี มันเสี่ยงกับอนาคตของเธอ แต่เธอจะใช้ชีวิตอย่างไรถ้าในอนาคตเธอไม่สามารถหางานทำ ไม่มีรายได้มาเลี้ยงดูตัวเอง เธอไม่อยากถูกขึ้นแบล็กลิสต์จากราชเวคิน กรุ๊ป ซึ่งมันเป็นอีกเหตุผลที่ตอนนั้นเธอตัดสินใจชดใช้ให้ชนกันต์จนจบสิ้นก่อน แม้ทางเลือกมีเพียงชดใช้ด้วยร่างกายก็ตาม

“ถ้าคุณจะกรุณา ช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 14

    อากาศภายในห้องเย็นฉ่ำ หากกายหนาที่ขยับโยกเหนือกายบางกลับมีเม็ดเหงื่อผุดพราย เสียงครางหวานจากคนใต้ร่างดังคลอเคล้าเสียงคำรามเข้ม เขาจับร่างสาวพลิกหงายพลิกคว่ำกระแทกกระทั้นมานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว กระทั่งใกล้จะถึงจุดปลดปล่อย ชายหนุ่มจึงเคลื่อนไหวถี่กระชั้น ช่องทางสาวที่แสนอุ่นนุ่มก็บีบรัดอย่างรุนแรงมือบางคว้าร่างหนาใหญ่ไว้ด้วยต้องการเป็นหลักยึด กุลนิภากำลังรู้สึกเหมือนตัวเองถูกเหวี่ยงขึ้นสูงจนลอยละล่อง ความเสียวซ่านกำลังโจมตีทั้งกาย เธอกอดเขาอย่างแนบแน่น ชั่วอึดใจต่อมาสายรุ้งก็ระเบิดพร่าง เธอเกร็งไปทั้งร่าง เธอกำลังสูญสิ้นการควบคุมตัวเองชนกันต์หายใจหอบขณะกระแทกแก่นกายอย่างทรงพลังเข้าสู่ร่างอวบอัดของหญิงสาว ก่อนจะปล่อยให้ความอุ่นร้อนฉีดพ่นเข้าสู่กายของเธอ“อิงเป็นของผม จำไว้ ผมไม่มีทางปล่อยคุณไป”เสียงกระซิบห้าวพร่าดังขึ้นอย่างชัดเจน กุลนิภาเบือนหน้าหนีไปทางอื่น แม้ร่างกายยังถูกตอกตรึงด้วยร่างกายของเขา กระทั่งมือหนาจับปลายคางมนเอาไว้ แล้วบังคับให้เธอหันกลับมา“ลืมตาสิ มองผม”เมื่อเธอดื้อ เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 15

    “คนบ้า หน้ามืด บ้ากามที่สุดเลย”เสียงแผ่วเบาหลุดออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่คนที่เดินออกมาจากห้องนอนกลับได้ยินอย่างชัดเจน เขายืนกางขาน้อยๆ แล้วเอียงคอมองเธอวินาทีนั้นกุลนิภาถึงได้รู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกไป เธอชะงักเท้ากึก แล้วค่อยๆ ถอยหลังเพื่อให้ห่างจากเขา“หิวหรือเปล่า”“คะ? คุณถามฉันเหรอ”“อยู่กันสองคน ผมคงถามกุมารทองมั้ง”“ยัง...”เธอยังพูดไม่ทันจบ เขาก็ถามสวนขึ้นมา“วันนี้คุณกินข้าวหรือยัง”กุลนิภาส่ายหน้า ตัดสินใจบอกไปตามตรง เพราะเขาคงคาดคั้นจนรู้ความจริง ทั้งที่ตอนแรกเธอคิดจะรอให้เขาออกไปข้างนอกเสียก่อน ช่วงบ่ายวันนี้ชนกันต์ต้องเข้าไปที่สำนักงานของราชเวคิน กรุ๊ป เธอจำตารางงานของเขาได้ เธอตั้งใจจะใช้ช่วงเวลานั้นเข้าไปทำกับข้าวในครัวกินเอง“ไปแต่งตัว ผมจะพาคุณไปกินข้าวข้างนอก”“ไม่ไปค่ะ”“อะไรนะ?”ชายหนุ่มถามย้ำ เขาได้ยินคำพูดของเธอชัดเจน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 16

    เพราะใครล่ะที่ทำให้เราเป็นอย่างนี้...กุลนิภาแย้งในใจ พยายามตัดความสงสารตัวเองทิ้งไป แม้คนอื่นมองเธอน่าสมเพชและไร้ค่าสักแค่ไหน แต่เธอไม่ควรซ้ำเติมตัวเองหากไม่ทันที่เธอจะได้กินเบอร์ริโต้ไก่ในมือตัวเอง กลิ่นเบอร์ริโต้เนื้อของชนกันต์ก็โชยมาเตะจมูก มันทำให้เธอรู้สึกพะอืดพะอมเหม็น...หญิงสาวกลั้นลมหายใจ เธอรอให้เขากินเสร็จ หากกลิ่นเนื้อยังอวลอยู่รอบตัว มันไม่หายไปไหนเลย แม้รถเปิดประทุนโล่งแล้วก็ตาม เธออยากจะอาเจียน แต่กลับไม่มีอะไรในท้องออกมา เธอจึงทิ้งตัวลงกับเก้าอี้อีกหน ทั้งที่ในมือยังถืออาหารและเธอก็หิวจนติดหมัด แต่ไม่เธอสามารถกินได้ทรมานเหลือเกิน...แค่หิวข้าว แต่ทำไมถึงทรมานอย่างนี้นะกุลนิภาได้ยินเสียงถามดังข้างหู เธอรู้ว่าเป็นเสียงของชนกันต์ เขาถามว่าเธอเป็นอะไร แล้วเขายังบ่นอีกยืดยาว เธอบอกให้เขาหยุดพูด เพราะเธอรู้สึกเวียนศีรษะมาก แต่กลับได้ยินเพียงเสียงอือออของตัวเองดังออกมาพลันเธอสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิเย็นฉ่ำ กลิ่นเนื้อและเครื่องเทศของอาหารหายไป เหลือเพียงกลิ่นน้ำหอมปรับอากาศในรถที่เธอคุ้นเคย มันทำให้เธอรู้สึกดี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 17

    ดูท่าทางวิธี ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ คงใช้ได้ผล เพราะคนตัวโตเงียบไปแล้ว เขาเปิดประตูรถแล้วก้าวออกไปพร้อมกับเอกสารในมือ กุลนิภาจึงรีบเปิดประตูรถลงตาม เธอรีบจ้ำเท้าตามเขาเข้าไปข้างในอาคาร...เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น กระทั่งคนทั้งคู่เข้าไปในลิฟต์ เขาก็พูดโพล่งออกมาอย่างที่ทำให้เธอต้องตีสีหน้าเลิ่กลั่กเหมือนกลัวใครจะมาได้ยินทั้งที่อยู่กันสองคน“คุณคิดอย่างนั้นก็ได้ ผมไม่สนใจ เพราะยังไงผมก็ได้ตัวคุณมานอนด้วยอยู่แล้ว”สำนักงานราชเวคิน กรุ๊ปเป็นตึกสูงสามสิบชั้น ห้องทำงานของชนกันต์ตั้งอยู่บนชั้นที่ยี่สิบแปด เธอเห็นห้องทำงานอีกห้องตั้งอยู่ติดกัน มันคงเป็นห้องทำงานของผู้บริหารใหญ่สักคน เพราะเธอเห็นว่ามีโต๊ะเลขาฯ วางอยู่ตรงหน้าห้องด้วย ส่วนหน้าห้องของชนกันต์นั้นกลับโล่งว่างกุลนิภาถูกดันหลังให้เข้าไปในห้องทำงานของเขา เขาพาเธอเดินผ่านเข้าไปด้านใน เธอจึงไม่ทันได้สังเกตอะไร เพราะสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ยอมรับว่าเธอกำลังรู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่น แถมยังต้องระมัดระวังตัว เพราะไม่รู้ว่าชนกันต์พาเธอเข้ามาใน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 18

    เป็นธีทัตอีกเช่นเคยที่ดึงการสนทนากลับไปยังงาน การประชุมในวันนี้ถือเป็นการประชุมภายในสำหรับผู้บริหาร นอกจากนายเนตรซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้ลูกชายอยู่เบื้องหลังแล้ว ยังมีผู้บริหารที่มีบทบาทสำคัญอีกสามคน กระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่าสองชั่วโมง เมื่อทุกคนได้รับรู้ผลประกอบการและได้พูดคุยถึงทิศทางของบริษัทในไตรมาสถัดไปแล้ว ผู้บริหารทั้งสามคนก็ลุกจากเก้าอี้แล้วออกไปจากห้องประชุม...เหลือเพียงพ่อและลูกชายในตระกูลราชเวคินที่นั่งดื่มกาแฟกันต่อ“ทำไมเปลี่ยนเสื้อ เฮียก่อถ่ายรูปกับนายที่สนามบิน ฉันยังเห็นว่าเมื่อเช้านายใส่เสื้อสีดำอยู่เลย”ก่อฤกษ์โพสต์รูปและแท็กหาเมีย พี่ชายของเขาคงอยากรายงานเมียว่ากำลังจะขึ้นเครื่องบินกลับออสเตรเลีย และยังบอกว่าชนกันต์เป็นคนขับรถไปส่งที่สนามบินด้วยตัวเอง ภพธรจำได้ดีว่าในรูปถ่ายนั้นชนกันต์สวมเสื้อผ้าสีดำทั้งชุด แต่ตอนนี้เจ้าตัวเปลี่ยนมาใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินแล้ว แม้เป็นเสื้อเชิ้ตที่มีรูปแบบคล้ายกัน แต่มันเป็นเสื้อคนละตัว...“เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง ทำไมนายต้องเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ นายไปทำอะไรมาหรือเปล่า ที่สำคัญวันนี้นายยังเข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 19

    “ไม่ ผมแค่เอาเธอมานอนด้วย ผมไม่เคยคิดจะแต่งงานกับเธออยู่แล้ว ส่วนการที่เธอมาอยู่กับผม ผมก็ไม่ได้บังคับ ทุกอย่างเป็นไปตามความสมัครใจของเธอเอง มันเป็นเรื่องผลประโยชน์ต่างตอบแทนกัน”“พ่อไม่เคยว่าถ้าแกจะเลี้ยงผู้หญิงสักคน เพราะแกยังไม่แต่งงาน พ่อเข้าใจเรื่องพวกนี้ดี แกมีผู้หญิงเป็นตัวเป็นตนสักคน มันดีกว่าการที่แกไปนอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แต่แกต้องมั่นใจว่าแกควบคุมผู้หญิงคนนี้ได้...ถ้าแกไม่คิดจริงจังกับเธอ แกก็อย่าประมาทให้เธอจับแกแต่งงานได้”“อิงไม่กล้าหือกับผมหรอกครับ ผมควบคุมเธอได้”ชนกันต์กระตุกมุมปากยิ้มขำทั้งที่พ่อกับพี่ชายยังตีสีหน้าเรียบ ไม่มีใครขำไปกับเขา...เขาไม่กังวลเรื่องนี้สักนิด กุลนิภาเปรียบเหมือนลูกไก่ในกำมือของเขา เขาสามารถชี้เป็นชี้ตายชีวิตของเธอได้ด้วยซ้ำ“ความมั่นใจนี่แหละที่จะทำให้แกพลาดสักวัน” ธีทัตพูดเตือนสติในฐานะคนที่ผ่านชีวิตอันยุ่งเหยิงมาแล้วชนกันต์เลิกคิ้วสูง เขาไม่เถียง แม้ไม่เชื่อว่าสิ่งที่พี่ชายพูดจะเกิดขึ้นกับเขา เพราะเขาคว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 20

    ด้านในห้องทำงานไร้คนตัวบางที่เขาย้ำนักหนาว่าให้เธอรอเขาอยู่ในนี้ ห้ามออกไปเพ่นพ่านข้างนอกโดยเด็ดขาดชนกันต์โยนเอกสารลงบนโต๊ะใกล้ตัวด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ เขาอยากเอาเรื่องหล่อนให้หนัก โทษฐานที่ไม่ทำตามคำสั่งของเขา“อย่าให้รู้นะว่าจงใจเดินออกไปให้ใครต่อใครเห็น เธอจะประกาศตัวว่าเป็นเมียฉันหรือยังไง”ทายาทคนที่สามของราชเวคิน กรุ๊ปพึมพำอย่างหัวเสีย เขาเดินอาดๆ ผ่านประตูห้องทำงานออกไป ซึ่งบริเวณนี้ไร้วี่แววของกุลนิภาเช่นกัน กระทั่งเขาเห็นผู้ช่วยเลขาฯ ของน้องชายนั่งอยู่ตรงโต๊ะของเธอ เขาจึงสาวเท้าไปหา“ผู้หญิงในห้องของผมหายไปไหน”“หนูไม่ทราบค่ะ หนูสั่งอาหารมาให้เธอ จากนั้นหนูก็ เอ่อ...มานั่งตรงนี้”เจ้าหล่อนออกอาการเลิ่กลั่ก สีหน้าแสดงความหวาดหวั่น ชนกันต์จึงรู้ตัวว่าตนไม่ได้ระงับอารมณ์โกรธ ดังนั้นเขาจึงปรับสีหน้าเสียใหม่ แล้วพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง“เธอไม่อยู่ในห้อง อาหารก็ยังเหลือเต็มจาน”“หนูสั่งมะม่วงกับสับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 21

    เสียงลมหายใจหอบกระเส่าจากคนที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือกายบางดังคลอเคล้าเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ร่างกายของกุลนิภาสั่นคลอนตามแรงกระแทกกระทั้น เธอหลับตารอกระทั่งทุกอย่างจบลงพร้อมกับความสุขสมที่พรายพร่างอยู่ในกายมันทรมาน มันเจ็บปวด หากเจือความสุขล้ำ...มันเป็นรสชาติที่กุลนิภาเพิ่งได้สัมผัส เธอไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกที่กำลังเกิดกับตัวเองนั้นเป็นเรื่องปกติไหม คู่รักทั่วไปรู้สึกเหมือนเธอหรือเปล่า...หรือมีเพียงเธอที่จมอยู่กับมันเมื่อเขาผละออก กุลนิภาจึงดึงผ้าห่มออกมาห่อกาย ขยับออกห่างจากเขา ตั้งใจจะเข้าห้องน้ำ แต่ต้องหยุดตัวเองทันทีเมื่อเขาคว้าเธอไปกักกันไว้ในอ้อมกอด...“ทำไมถึงไม่เข้าห้องน้ำในห้องทำงานของผม”กุลนิภาเบนหน้าไปมองเขาทั้งที่ไม่อยากมอง เพราะเธออยากรู้ว่าทำไมเขาถึงติดใจเรื่องนี้นัก...เขาเป็นบ้าอะไร“ฉันแค่ไม่อยากใช้ มันเป็นห้องน้ำส่วนตัวของคุณ”“คุณรังเกียจ? แล้วทีอย่างนี้ล่ะ เราอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน นอนเตียงเดียวกัน ใช้ห้องน้ำเดียวกัน ทำไมคุณถึงทำได้&

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07

บทล่าสุด

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 39

    เมื่อเดินไปถึงห้องรับประทานอาหาร ชายหนุ่มก็พูดออกมาทั้งที่ความสงสัยยังไม่หายไป“นั่งกันครบองค์ประชุมเลยเหรอ มีวาระสำคัญหรือเปล่า ทำไมผมไม่รู้อยู่คนเดียว”สายตาแทบทุกคู่หันมามองเขา ชนกันต์อ่านความรู้สึกของคนในครอบครัวไม่ออก เพราะเป็นสายตาที่เขาไม่ชินเอาเสียเลย แต่รู้ว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง มันไม่ใช่สถานการณ์ปกติ หากชายหนุ่มไม่ทันได้ถามใคร เขาก็เห็นดวงหน้าสวยโดดเด่นของใครบางคนที่เบือนมาส่งยิ้มให้เขา“คุณไอซ์!”ภายในห้องชุดของคอนโดมิเนียมหรูถูกปกคลุมด้วยความมืดทั้งที่เป็นเวลาไม่ถึงสองทุ่ม คนที่อยู่ในห้องยังไม่เข้านอน เธอนั่งคุดคู้อยู่บนโซฟาภายในห้องนั่งเล่น เธอไม่ยอมเปิดสวิตช์ไฟให้แสงสว่างส่องลงมา คล้ายกับว่าเธอยินดีที่จะอยู่ในความมืด เพราะต้องการให้มันพรางตัวเธอให้หายไปจากโลกใบนี้เมื่อเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา หัวใจที่แห้งเหี่ยวเกิดพองโต เพราะเชื่อมั่นว่าชนกันต์เป็นเจ้าของสายเรียกนั้น แต่เธอรีบปรับความรู้สึกเสียใหม่ เพราะสำนึกได้ว่าเธอไม่ควรดีใจกับการที่คนที่เพิ่งยื

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 38

    ชนกันต์ไม่ได้บอกไว้ว่าเย็นนี้เขากลับมาที่คอนโดมิเนียมหรือกลับไปที่บ้านราชเวคิน...กุลนิภาจึงได้แต่ยืนมองเนื้อวากิวสำหรับทำสเต๊กอย่างลังเล นานชั่วอึดใจกว่าเธอจะตัดสินใจเก็บมันกลับเข้าตู้เย็น“ถ้าพ่อไม่มาหาเรา สเต๊กเนื้อก็เป็นหมัน เพราะแม่กินเนื้อไม่ได้ เดี๋ยวจะเสียของเปล่าๆ ช่วงนี้แม่เหม็นเนื้อมาก สงสัยหนูคงจะไม่ชอบเนื้อใช่ไหมจ๊ะ เพราะเมื่อก่อนแม่ยังกินเนื้อกับพ่อได้อยู่เลย”กุลนิภาพูดคุยกับลูกในท้อง เธอทำเหมือนกับลูกได้ยินและเข้าใจคำพูดของเธอ ในแต่ละวันมันจึงกลายเป็นความสุขอย่างหนึ่งของเธอ เพราะเธอรู้สึกเหมือนมีคนคนหนึ่งอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาหญิงสาวเข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่น ทำท่าจะเปิดโทรทัศน์ แต่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นมา แม้รู้ว่ามีแค่คนเดียวที่จะเข้ามาในห้องนี้ได้ แต่เธอก็เดินออกไปดูด้วยความเคยชินความประหลาดใจทอขึ้นมาในดวงตาหวาน ซึ่งคนตัวใหญ่ที่เดินเข้ามาต้องเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม“มีอะไรหรือเปล่าถึงมองผมอย่างนี้”“ฉันไม่รู้ว่าวันนี้คุณจะกลับมาที่คอนโด”“ไม่ใช่จะ

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 37

    เสียงแดดยามสายที่ทอทอดเข้ามาทางหน้าต่างของห้องครัวขับไล่ความอึมครึมได้เป็นอย่างดี ไม่รู้กุลนิภาคิดไปเองหรือเปล่าว่าวันนี้อากาศสดใสมากกว่าเมื่อวาน ทั้งที่เธอฟังพยากรณ์อากาศแล้วพบว่าทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนจากเดิม ไม่ว่าอุณหภูมิ เมฆฝน หรือความโปร่งของท้องฟ้าในช่วงปลายหน้าร้อนที่กำลังย่างเข้าสู่หน้าฝนเมื่อเธอมองอาหารมื้อเช้าที่บรรจงทำเตรียมไว้สำหรับสองคน เรียวปากสวยก็แย้มยิ้ม คิดจะไปเรียกชนกันต์ให้มากินอาหาร เพราะเขาคงอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ทว่าเขาเข้ามาในห้องครัวเสียก่อน แล้วพูดถึงเรื่องที่เธอไม่อยากฟัง“ถ้าผมแต่งงาน คุณจะเสียใจไหม”กุลนิภานิ่งงัน ฝันหวานกับโลกใบสีชมพูที่เธอเพียรสร้างเมื่อครู่นี้แตกยับอย่างไม่มีชิ้นดี...มันเป็นคำถามที่เธอไม่จำเป็นต้องตอบและเขาไม่ควรถามเธอด้วย“ฉันทำมื้อเช้าให้คุณแล้วค่ะ”กุลนิภาบอกไปอีกทาง ก่อนเธอจะเดินเบี่ยงกายออกห่างจากเขา เธอตั้งใจจะออกไปจากห้องครัว หากเขารั้งต้นแขนของเธอไว้“กินด้วยกัน”&l

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 36

    “ถ้าคุณแต่งงาน คุณจะมีลูกไหมคะ”กุลนิภาถามขึ้นมาหลังจากสงครามรักบนเตียงนอนของยามเช้าจบลง ซึ่งเธอซุกซบอยู่บนอกเขามาสักพักแล้ว“ถามทำไม หรือคุณรู้อะไรมา”รู้อะไร?...กุลนิภาระแวงว่าชนกันต์จะรู้เรื่องลูกในท้อง ในขณะที่เขากลับนึกถึงผู้หญิงอีกคน“ฉันแค่อยากรู้ความคิดของคุณ แต่ถ้าคุณไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร”“ถ้าคนที่ผมแต่งงานด้วยเขาไม่อยากมีลูก ผมก็ไม่มีปัญหา ผมแต่งงานกับใครก็เพราะผมอยากอยู่กับคนคนนั้น ส่วนลูก...ผมยังนึกภาพตัวเองมีลูกไม่ออก บางทีผมอาจไม่ได้รักเด็กขนาดที่จะมีลูกเอง ผมคงไม่พร้อมที่จะทุ่มเทให้ลูกของผมเหมือนอย่างที่พ่อแม่เคยให้กับผม”น่าอิจฉาจัง...ความรู้สึกนี้โฉบเข้ามาในหัวของกุลนิภาชนกันต์มีพ่อแม่ที่รักเขามาก จนเขากลัวว่าตัวเองอาจไม่สามารถทุ่มเทและรักลูกได้เหมือนอย่างที่พ่อแม่ของเขาเคยเป็น...ในขณะที่เธอไม่กล้าคิดถึงแม่ของตัวเอง ถึงแม้เธอจะไม่เชื่อว่าแม่ไม่รักเธอ เธอยังคิดเสมอว่าแม่คงมีเหตุผลที่เธอไม่รู้และไม่เข้าใจ แต่นั่นแหละ การกระทำของแม่ส

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 35

    “อือ...”เสียงห้าวทุ้มดังอยู่ข้างหู กุลนิภารู้ว่าเป็นเสียงของชนกันต์ เธอจำได้ดี แต่ตอนนี้เธออยากหลับ ไม่อยากตื่นขึ้นมารับสายของเขาแล้ว อยากบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน แต่เธอทำได้แค่บอกเสียงอือออในลำคอ...เขาคงเข้าใจ เพราะเธอได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากเขาหากเมื่อจะพาตัวเองเข้าสู่นิทรารมย์อีกหน กุลนิภากลับรู้สึกถึงรอยสัมผัสบริเวณแก้ม ริมฝีปาก แม้กระทั่งซอกคอ จนเธอต้องพลิกกายหนี“ผมจะไปอาบน้ำ เดี๋ยวกลับมา”“อืม...”ในความรู้สึกกึ่งหลับกึ่งตื่นนั้น กุลนิภาได้ยินเสียงฝีเท้าเดินห่างออกไป นึกแปลกใจว่าเธอกำลังคุยโทรศัพท์กับชนกันต์ แต่ทำไมมันถึงคล้ายกับเขามาอยู่ใกล้เธอ หากนั่นแหละ เธอไม่คิดจะหาคำตอบ เธอปล่อยความสงสัยไว้ตรงนี้ เพราะตอนนี้เธอต้องการหลับกุลนิภารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้นและสากระคายที่กำลังตวัดไล้อยู่ตรงยอดอก มือบางคว้าหมับเจ้าสิ่งนั้นไว้หวังจะให้มันหยุด เพราะเธอรู้สึกถึงความซ่านสยิวมที่โจมตีเข้ามาอย่างรุนแรง“ห

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 34

    ทั้งผลไม้รสเปรี้ยวทั้งยาลมและยาหอมยังไม่อาจช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะของชนกันต์ได้ มันทรมาน เขาอยากกอดกายบางและซุกใบหน้ากับอกอวบของเธอแล้วหลับไปจนถึงตอนเช้า แต่สิ่งที่คว้าได้นั้นมีแต่หมอนข้างชายหนุ่มลุกขึ้นมานั่งกลางเตียง ผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง เขายกมือขึ้นมาเสยผมลวกๆ เมื่อหันซ้ายแลขวาไม่เห็นสิ่งที่ต้องการ ไม่มีสิ่งใดแทนเธอได้ ความรู้สึกหงุดหงิดก็พุ่งขึ้นสูง มือหนาคว้าโทรศัพท์มือถือแล้วโทร.ไปหาเธออย่างไวกุลนิภากำลังเคลิ้มหลับ เธอสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือ เธอหยิบมันขึ้นมาดูหน้าจอทั้งที่พอจะรู้ว่าใครโทร.มาในเวลานี้“คุณนอนหรือยัง”“ฉันกำลังจะหลับค่ะ”กุลนิภาตอบ คิดว่าชนกันต์คงมีธุระสำคัญ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่โทร.มาหาเธอในเวลาใกล้ดึกเช่นนี้ เธอจึงรอฟังเขาพูดด้วยใจจดจ่อ ทว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นกลับเป็นเสียงบ่นที่บอกให้รู้ว่าเขากำลังหงุดหงิดเหลือทน...แต่เขาหงุดหงิดอะไร เธอก็ยังจับใจความไม่ได้“ผมนอนไม่หลับ ผมเวียนหัวจะตายอยู่แล้ว ผมเป็นอะ

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 33

    กุลนิภาไม่ทันได้วางโทรศัพท์ลง เสียงของสายเรียกเข้าก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวถอนหายใจ...ไม่ว่าอย่างไรชนกันต์ก็ยังเป็นชนกันต์คนเดิม เขาไม่มีวันยอมจบเรื่องง่ายๆเธอกดรับสายทันที ไม่มีอาการรีรอเหมือนคราวก่อน“ถ้าคุณกลัวจะติดไข้จากฉัน ฉันยืนยันได้เลยว่าฉันไม่ได้ป่วย ฉันไม่ได้เป็นโรคร้าย ไม่มีเชื้อโรคจากตัวฉันที่จะทำให้คุณป่วยตายอย่างแน่นอน ส่วนการที่คุณเวียนหัวคลื่นไส้ คุณต้องไปหาคำตอบจากหมอเอาเอง ฉันให้คำตอบคุณไม่ได้ เพราะอาการของคุณไม่เกี่ยวกับฉัน”กุลนิภาพูดรัวม้วนเดียวจบ โดยไม่เว้นจังหวะให้อีกฝ่ายได้พูด ตัวเธอเองก็แทบไม่ได้หายใจ...หากนึกทึ่งตัวเองเสียด้วยซ้ำที่กล้าเถียงเขาได้ถึงขนาดนี้หญิงสาวตั้งสติรออีกฝ่ายโต้ตอบกลับมา แต่เขายังเงียบ...มันเงียบเสียจนเธอรู้สึกแปลกใจ เพราะตามปกติชนกันต์ไม่เคยยอมแพ้เธอ เมื่อต่อปากต่อคำกันคราใด เขาพร้อมจะสวมวิญญาณเด็กสามขวบงัดทุกวิถีทางมาสู้กับเธอทุกทีมือบางดึงโทรศัพท์มือถือออกมามองหน้าจอ พลันต้องเบิกตากว้าง เพราะมันเป็นเบอร์โทร.ของคนที่เธอไม่รู้จัก ซึ่ง

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 32

    อาการแพ้ท้องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ทำให้กุลนิภานอนซมอยู่บนเตียง เมื่อร่างกายอ่อนแอจนถึงที่สุด เธอก็นึกถึงชนกันต์ แต่ความคิดนั้นกลับกลายเป็นความกลัวในเวลาถัดมา...เธอกลัวเขาจะมาพรากลูกไปจากเธอเมื่อสายเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา มันเป็นเบอร์ที่เธอไม่รู้จัก กุลนิภากำลังจะตัดสายทิ้ง เพราะเธอไม่มีอารมณ์จะคุยกับใคร หากฉุกคิดถึงคนที่เธอเพิ่งให้เบอร์โทร.ไปได้ เมื่อกดรับสาย เธอจึงรู้ว่ามันเป็นสายจากพี่ชายต่างมารดาของเธอจริงๆ“อิงอิงใช่ไหมครับ พี่นิคเองนะครับ”“พี่นิค...”เธอพยายามทำน้ำเสียงให้สดใส แต่พูดออกมาแค่คำเดียว เสียงของเธอก็ขาดหาย แถมมันยังแผ่วเครืออีกด้วย“อิงอิงเป็นยังไงบ้าง เราท้องอยู่ใช่ไหม”คำถามที่สองทำให้กุลนิภานิ่งงัน แม้เตรียมใจไว้แล้วว่าอคินรู้เรื่องนี้ได้ไม่ยาก แต่เขาทำให้เธอไม่ทันได้ตั้งตัว“ใช่ค่ะ อิงกำลังท้อง แต่อิงไม่อยากให้ใครรู้”เมื่อมาถึงขั้นนี้ กุลนิภาจึงบอกอคินไปตรงๆ เธอ

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 31

    ประตูห้องชุดถูกเปิดออกอย่างระมัดระวัง เมื่อกุลนิภาเข้ามาข้างใน เธอรับรู้ได้ทันทีว่าไม่มีใครอยู่...แม้รู้อยู่แล้วว่าชนกันต์ไม่อยู่ที่นี่ แต่อีกใจเธอยังลุ้นว่าเขาอาจกลับมาเซอร์ไพรส์เธอ เธออาจเห็นเขานั่งรออยู่บนโซฟายาวตัวนี้หญิงสาววางกระเป๋าสะพายลง แล้วหย่อนกายนั่งบนโซฟาเพื่อพักให้หายเหนื่อย มือบางลูบหน้าท้อง ไล้วนเบาๆ ด้วยอยากสื่อไปถึงลูกน้อยที่นอนซุกตัวอยู่ในท้อง“พ่อของหนูไม่อยู่ที่ห้อง เขากลับไปที่บ้านราชเวคิน บ้านหลังนั้นมีคนอยู่หลายคน...ช่วงนี้พ่อต้องกลับไปช่วยพี่ชายของเขาเลี้ยงหลาน”พี่ชายของเขาและหลานชายของเขา...หากนับไปก็เป็นญาติสนิทของลูกในท้องของเธอ“แม่รู้ว่าถ้าหนูได้อยู่กับพวกเขา พวกเขาจะเลี้ยงดูหนูเป็นอย่างดี แต่อีกใจหนึ่งแม่ก็กลัว...แม่เลยไม่กล้าปล่อยให้หนูไป แม่กลัวว่าสิ่งที่แม่เคยเจอในวัยเด็กมันจะย้อนกลับมาหนู ถ้าเป็นอย่างนั้น แม่คงทำใจไม่ได้”ถ้าหากชนกันต์รู้เรื่องลูก รับรองเลยว่าเขาจะต้องแย่งลูกไปเลี้ยงดูเอง เขามีความพร้อมมากกว่าเธอหลาย

DMCA.com Protection Status