Share

บทที่ 16

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-03 18:22:13

เพราะใครล่ะที่ทำให้เราเป็นอย่างนี้...กุลนิภาแย้งในใจ พยายามตัดความสงสารตัวเองทิ้งไป แม้คนอื่นมองเธอน่าสมเพชและไร้ค่าสักแค่ไหน แต่เธอไม่ควรซ้ำเติมตัวเอง

 หากไม่ทันที่เธอจะได้กินเบอร์ริโต้ไก่ในมือตัวเอง กลิ่นเบอร์ริโต้เนื้อของชนกันต์ก็โชยมาเตะจมูก มันทำให้เธอรู้สึกพะอืดพะอม

 เหม็น...

 หญิงสาวกลั้นลมหายใจ เธอรอให้เขากินเสร็จ หากกลิ่นเนื้อยังอวลอยู่รอบตัว มันไม่หายไปไหนเลย แม้รถเปิดประทุนโล่งแล้วก็ตาม เธออยากจะอาเจียน แต่กลับไม่มีอะไรในท้องออกมา เธอจึงทิ้งตัวลงกับเก้าอี้อีกหน ทั้งที่ในมือยังถืออาหารและเธอก็หิวจนติดหมัด แต่ไม่เธอสามารถกินได้

 ทรมานเหลือเกิน...แค่หิวข้าว แต่ทำไมถึงทรมานอย่างนี้นะ

 กุลนิภาได้ยินเสียงถามดังข้างหู เธอรู้ว่าเป็นเสียงของชนกันต์ เขาถามว่าเธอเป็นอะไร แล้วเขายังบ่นอีกยืดยาว เธอบอกให้เขาหยุดพูด เพราะเธอรู้สึกเวียนศีรษะมาก แต่กลับได้ยินเพียงเสียงอือออของตัวเองดังออกมา

 พลันเธอสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิเย็นฉ่ำ กลิ่นเนื้อและเครื่องเทศของอาหารหายไป เหลือเพียงกลิ่นน้ำหอมปรับอากาศในรถที่เธอคุ้นเคย มันทำให้เธอรู้สึกดี
Bab Terkunci
Membaca bab selanjutnya di APP

Bab terkait

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 17

    ดูท่าทางวิธี ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ คงใช้ได้ผล เพราะคนตัวโตเงียบไปแล้ว เขาเปิดประตูรถแล้วก้าวออกไปพร้อมกับเอกสารในมือ กุลนิภาจึงรีบเปิดประตูรถลงตาม เธอรีบจ้ำเท้าตามเขาเข้าไปข้างในอาคาร...เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น กระทั่งคนทั้งคู่เข้าไปในลิฟต์ เขาก็พูดโพล่งออกมาอย่างที่ทำให้เธอต้องตีสีหน้าเลิ่กลั่กเหมือนกลัวใครจะมาได้ยินทั้งที่อยู่กันสองคน“คุณคิดอย่างนั้นก็ได้ ผมไม่สนใจ เพราะยังไงผมก็ได้ตัวคุณมานอนด้วยอยู่แล้ว”สำนักงานราชเวคิน กรุ๊ปเป็นตึกสูงสามสิบชั้น ห้องทำงานของชนกันต์ตั้งอยู่บนชั้นที่ยี่สิบแปด เธอเห็นห้องทำงานอีกห้องตั้งอยู่ติดกัน มันคงเป็นห้องทำงานของผู้บริหารใหญ่สักคน เพราะเธอเห็นว่ามีโต๊ะเลขาฯ วางอยู่ตรงหน้าห้องด้วย ส่วนหน้าห้องของชนกันต์นั้นกลับโล่งว่างกุลนิภาถูกดันหลังให้เข้าไปในห้องทำงานของเขา เขาพาเธอเดินผ่านเข้าไปด้านใน เธอจึงไม่ทันได้สังเกตอะไร เพราะสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ยอมรับว่าเธอกำลังรู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่น แถมยังต้องระมัดระวังตัว เพราะไม่รู้ว่าชนกันต์พาเธอเข้ามาใน

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-04
  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 18

    เป็นธีทัตอีกเช่นเคยที่ดึงการสนทนากลับไปยังงาน การประชุมในวันนี้ถือเป็นการประชุมภายในสำหรับผู้บริหาร นอกจากนายเนตรซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้ลูกชายอยู่เบื้องหลังแล้ว ยังมีผู้บริหารที่มีบทบาทสำคัญอีกสามคน กระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่าสองชั่วโมง เมื่อทุกคนได้รับรู้ผลประกอบการและได้พูดคุยถึงทิศทางของบริษัทในไตรมาสถัดไปแล้ว ผู้บริหารทั้งสามคนก็ลุกจากเก้าอี้แล้วออกไปจากห้องประชุม...เหลือเพียงพ่อและลูกชายในตระกูลราชเวคินที่นั่งดื่มกาแฟกันต่อ“ทำไมเปลี่ยนเสื้อ เฮียก่อถ่ายรูปกับนายที่สนามบิน ฉันยังเห็นว่าเมื่อเช้านายใส่เสื้อสีดำอยู่เลย”ก่อฤกษ์โพสต์รูปและแท็กหาเมีย พี่ชายของเขาคงอยากรายงานเมียว่ากำลังจะขึ้นเครื่องบินกลับออสเตรเลีย และยังบอกว่าชนกันต์เป็นคนขับรถไปส่งที่สนามบินด้วยตัวเอง ภพธรจำได้ดีว่าในรูปถ่ายนั้นชนกันต์สวมเสื้อผ้าสีดำทั้งชุด แต่ตอนนี้เจ้าตัวเปลี่ยนมาใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินแล้ว แม้เป็นเสื้อเชิ้ตที่มีรูปแบบคล้ายกัน แต่มันเป็นเสื้อคนละตัว...“เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง ทำไมนายต้องเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ นายไปทำอะไรมาหรือเปล่า ที่สำคัญวันนี้นายยังเข้า

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-05
  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 19

    “ไม่ ผมแค่เอาเธอมานอนด้วย ผมไม่เคยคิดจะแต่งงานกับเธออยู่แล้ว ส่วนการที่เธอมาอยู่กับผม ผมก็ไม่ได้บังคับ ทุกอย่างเป็นไปตามความสมัครใจของเธอเอง มันเป็นเรื่องผลประโยชน์ต่างตอบแทนกัน”“พ่อไม่เคยว่าถ้าแกจะเลี้ยงผู้หญิงสักคน เพราะแกยังไม่แต่งงาน พ่อเข้าใจเรื่องพวกนี้ดี แกมีผู้หญิงเป็นตัวเป็นตนสักคน มันดีกว่าการที่แกไปนอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แต่แกต้องมั่นใจว่าแกควบคุมผู้หญิงคนนี้ได้...ถ้าแกไม่คิดจริงจังกับเธอ แกก็อย่าประมาทให้เธอจับแกแต่งงานได้”“อิงไม่กล้าหือกับผมหรอกครับ ผมควบคุมเธอได้”ชนกันต์กระตุกมุมปากยิ้มขำทั้งที่พ่อกับพี่ชายยังตีสีหน้าเรียบ ไม่มีใครขำไปกับเขา...เขาไม่กังวลเรื่องนี้สักนิด กุลนิภาเปรียบเหมือนลูกไก่ในกำมือของเขา เขาสามารถชี้เป็นชี้ตายชีวิตของเธอได้ด้วยซ้ำ“ความมั่นใจนี่แหละที่จะทำให้แกพลาดสักวัน” ธีทัตพูดเตือนสติในฐานะคนที่ผ่านชีวิตอันยุ่งเหยิงมาแล้วชนกันต์เลิกคิ้วสูง เขาไม่เถียง แม้ไม่เชื่อว่าสิ่งที่พี่ชายพูดจะเกิดขึ้นกับเขา เพราะเขาคว

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-05
  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 20

    ด้านในห้องทำงานไร้คนตัวบางที่เขาย้ำนักหนาว่าให้เธอรอเขาอยู่ในนี้ ห้ามออกไปเพ่นพ่านข้างนอกโดยเด็ดขาดชนกันต์โยนเอกสารลงบนโต๊ะใกล้ตัวด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ เขาอยากเอาเรื่องหล่อนให้หนัก โทษฐานที่ไม่ทำตามคำสั่งของเขา“อย่าให้รู้นะว่าจงใจเดินออกไปให้ใครต่อใครเห็น เธอจะประกาศตัวว่าเป็นเมียฉันหรือยังไง”ทายาทคนที่สามของราชเวคิน กรุ๊ปพึมพำอย่างหัวเสีย เขาเดินอาดๆ ผ่านประตูห้องทำงานออกไป ซึ่งบริเวณนี้ไร้วี่แววของกุลนิภาเช่นกัน กระทั่งเขาเห็นผู้ช่วยเลขาฯ ของน้องชายนั่งอยู่ตรงโต๊ะของเธอ เขาจึงสาวเท้าไปหา“ผู้หญิงในห้องของผมหายไปไหน”“หนูไม่ทราบค่ะ หนูสั่งอาหารมาให้เธอ จากนั้นหนูก็ เอ่อ...มานั่งตรงนี้”เจ้าหล่อนออกอาการเลิ่กลั่ก สีหน้าแสดงความหวาดหวั่น ชนกันต์จึงรู้ตัวว่าตนไม่ได้ระงับอารมณ์โกรธ ดังนั้นเขาจึงปรับสีหน้าเสียใหม่ แล้วพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง“เธอไม่อยู่ในห้อง อาหารก็ยังเหลือเต็มจาน”“หนูสั่งมะม่วงกับสับ

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-06
  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 21

    เสียงลมหายใจหอบกระเส่าจากคนที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือกายบางดังคลอเคล้าเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ร่างกายของกุลนิภาสั่นคลอนตามแรงกระแทกกระทั้น เธอหลับตารอกระทั่งทุกอย่างจบลงพร้อมกับความสุขสมที่พรายพร่างอยู่ในกายมันทรมาน มันเจ็บปวด หากเจือความสุขล้ำ...มันเป็นรสชาติที่กุลนิภาเพิ่งได้สัมผัส เธอไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกที่กำลังเกิดกับตัวเองนั้นเป็นเรื่องปกติไหม คู่รักทั่วไปรู้สึกเหมือนเธอหรือเปล่า...หรือมีเพียงเธอที่จมอยู่กับมันเมื่อเขาผละออก กุลนิภาจึงดึงผ้าห่มออกมาห่อกาย ขยับออกห่างจากเขา ตั้งใจจะเข้าห้องน้ำ แต่ต้องหยุดตัวเองทันทีเมื่อเขาคว้าเธอไปกักกันไว้ในอ้อมกอด...“ทำไมถึงไม่เข้าห้องน้ำในห้องทำงานของผม”กุลนิภาเบนหน้าไปมองเขาทั้งที่ไม่อยากมอง เพราะเธออยากรู้ว่าทำไมเขาถึงติดใจเรื่องนี้นัก...เขาเป็นบ้าอะไร“ฉันแค่ไม่อยากใช้ มันเป็นห้องน้ำส่วนตัวของคุณ”“คุณรังเกียจ? แล้วทีอย่างนี้ล่ะ เราอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน นอนเตียงเดียวกัน ใช้ห้องน้ำเดียวกัน ทำไมคุณถึงทำได้&

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-07
  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 22

    เธอไม่ได้ละอายต่อการกระทำของตัวเอง เพราะเธอยืนยันคำเดิมว่าไม่เคยคิดจะจับเขา การเข้ามาทำงานของเธอไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง เธอแค่ต้องการทำงาน แต่เธอกำลังรู้สึกละอายต่อการกระทำของแม่ต่างหากสายเรียกเข้าดังขึ้นมา เป็นเสียงจากโทรศัพท์มือถือของชนกันต์ กุลนิภามองตามทิศทางของเสียง...มันดังมาจากหน้าเตียงนอนนั่นเอง“หยิบให้หน่อยสิ”เขาสั่งพลางคลายอ้อมแขนออกจากเธอ กุลนิภาทำตามอย่างไม่คิดค้าน เพราะถือว่าตัวเองอยู่ใกล้มันมากกว่าเขา หญิงสาวกระชับผ้าห่มห่อร่าง แล้วขยับกายไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงสแล็กส์สีดำที่ถูกถอดกองไว้หน้าเตียงมาส่งให้เขา หากสายตาเจ้ากรรมดันเหลือบเห็นชื่อของเจ้าของสายบนหน้าจอโทรศัพท์เข้าเสียแล้วคุณไอซ์...หัวใจกระตุก เธอพยายามรักษาสีหน้าเอาไว้ แล้วฉวยโอกาสในขณะที่เขากำลังรับสายรีบลุกออกจากเตียงนอนโดยไวกุลนิภาชำระล้างร่างกายไม่นาน แต่เธอยังถ่วงเวลาจนมั่นใจว่าชนกันต์พูดสายกับอรรพีเสร็จแล้ว เมื่อเธอเดินออกมา จึงเห็นเขานั่งกอดอกพิงหัวเตียงอยู่ดวงตาคมทอดมองเธอนิ่งๆ มั

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-08
  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 23

    รถพอร์เชอคันสีเหลืองสดชะลอความเร็วเมื่อมาถึงหน้าร้านขายยา บริเวณหน้าร้านไม่มีที่จอดรถ ชนกันต์จึงต้องเคลื่อนรถผ่านไปอย่างช้าๆ เพื่อตรงไปยังที่จอดรถชั่วคราวที่เขาหมายตาเอาไว้ แต่มันอยู่ห่างจากร้านขายยาพอสมควร“ฉันจะเข้าไปซื้อของคนเดียว คุณนำรถไปจอดรอฉันก็แล้วกันค่ะ พอซื้อเสร็จแล้วฉันจะไปหาคุณเอง หรือถ้าฉันไปหาคุณช้า คุณจะไปทำธุระเลยก็ได้ ฉันจะเดินกลับคอนโดเอง”“ผมจะรอคุณ”ชนกันต์บอกเสียงเข้ม กุลนิภาจึงไม่เถียงและไม่พยายามเสนอทางเลือกอื่นให้เขาอีกหญิงสาวก้าวลงจากรถคันหรูแล้วตรงไปยังประตูร้านขายยา เมื่อชำเลืองมองรถคันนั้น แล้วเห็นว่ามันเคลื่อนห่างออกไปแล้ว เธอจึงผลักประตูกระจกแล้วบอกกับเภสัชกรที่อยู่หลังเคาน์เตอร์“ขอซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์ค่ะ”“น้องมาซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์เหมือนกันหรือคะ ของพี่ประจำเดือนขาดไปเดือนกว่าแล้ว พี่กำลังลุ้นจะมีเจ้าตัวเล็กอยู่เลยค่ะ”ไม่ใช่คำพูดของเภสัชกร แต่เป็นคำพูดของหญิงสาววัยประมาณสามส

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-09
  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 24

    “ฉันกำลังบอกคุณกันต์ว่าเขาไม่ได้มาสาย แต่เป็นพวกเราเองที่นัดกันโดยไม่ได้ถามเวลาที่เขาสะดวกก่อน เขาเลยต้องตามมาทีหลังพวกเรา”“อ๋อ! เรื่องนี้เอง ไม่เป็นไรค่ะคุณกันต์ พวกเราคนกันเองทั้งนั้น”เพื่อนสาวเออออตามอรรพี เพราะหน้าที่ของพวกเธอก็คือทำให้ชนกันต์เกิดความสะดวกสบายใจที่จะเข้ามาร่วมสังสรรค์กับกลุ่มของพวกเธอในขณะที่ชนกันต์กำลังสังสรรค์กับเซเลบสาวพร้อมกับเพื่อนของเธอ คนที่เขาขับรถมาส่งที่คอนโดมิเนียมกลับกำลังนั่งคู้ตัวอยู่บนโซฟาตามลำพัง ในมือมีชุดตรวจการตั้งครรภ์ที่เพิ่งใช้งาน เธอถือมันไว้อย่างนั้น แล้วเพ่งมองขีดสีแดงสองขีดที่ปรากฎบนแท่งสีขาวด้วยหัวใจหนักอึ้ง“ลูก? เราท้อง…”มันไม่ใช่ฝัน กุลนิภาไม่อาจหลอกตัวเองว่าผลตรวจการตั้งครรภ์คลาดเคลื่อน เพราะผลที่ได้จากการตรวจในร้านขายยาก็ให้ผลตรงกับการตรวจในครั้งนี้ ซึ่งต่างกับผู้หญิงอีกคนที่ให้ผลตรงกันข้าม เธอคนนั้นผิดหวังเป็นอย่างมากที่ยังไม่ตั้งครรภ์ ในขณะที่กุลนิภาได้แต่ยืนนิ่งงัน เพราะรู้สึกชาหนึบไปทั้งตัว‘พี่ยินดีกับน

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-10

Bab terbaru

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 39

    เมื่อเดินไปถึงห้องรับประทานอาหาร ชายหนุ่มก็พูดออกมาทั้งที่ความสงสัยยังไม่หายไป“นั่งกันครบองค์ประชุมเลยเหรอ มีวาระสำคัญหรือเปล่า ทำไมผมไม่รู้อยู่คนเดียว”สายตาแทบทุกคู่หันมามองเขา ชนกันต์อ่านความรู้สึกของคนในครอบครัวไม่ออก เพราะเป็นสายตาที่เขาไม่ชินเอาเสียเลย แต่รู้ว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง มันไม่ใช่สถานการณ์ปกติ หากชายหนุ่มไม่ทันได้ถามใคร เขาก็เห็นดวงหน้าสวยโดดเด่นของใครบางคนที่เบือนมาส่งยิ้มให้เขา“คุณไอซ์!”ภายในห้องชุดของคอนโดมิเนียมหรูถูกปกคลุมด้วยความมืดทั้งที่เป็นเวลาไม่ถึงสองทุ่ม คนที่อยู่ในห้องยังไม่เข้านอน เธอนั่งคุดคู้อยู่บนโซฟาภายในห้องนั่งเล่น เธอไม่ยอมเปิดสวิตช์ไฟให้แสงสว่างส่องลงมา คล้ายกับว่าเธอยินดีที่จะอยู่ในความมืด เพราะต้องการให้มันพรางตัวเธอให้หายไปจากโลกใบนี้เมื่อเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา หัวใจที่แห้งเหี่ยวเกิดพองโต เพราะเชื่อมั่นว่าชนกันต์เป็นเจ้าของสายเรียกนั้น แต่เธอรีบปรับความรู้สึกเสียใหม่ เพราะสำนึกได้ว่าเธอไม่ควรดีใจกับการที่คนที่เพิ่งยื

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 38

    ชนกันต์ไม่ได้บอกไว้ว่าเย็นนี้เขากลับมาที่คอนโดมิเนียมหรือกลับไปที่บ้านราชเวคิน...กุลนิภาจึงได้แต่ยืนมองเนื้อวากิวสำหรับทำสเต๊กอย่างลังเล นานชั่วอึดใจกว่าเธอจะตัดสินใจเก็บมันกลับเข้าตู้เย็น“ถ้าพ่อไม่มาหาเรา สเต๊กเนื้อก็เป็นหมัน เพราะแม่กินเนื้อไม่ได้ เดี๋ยวจะเสียของเปล่าๆ ช่วงนี้แม่เหม็นเนื้อมาก สงสัยหนูคงจะไม่ชอบเนื้อใช่ไหมจ๊ะ เพราะเมื่อก่อนแม่ยังกินเนื้อกับพ่อได้อยู่เลย”กุลนิภาพูดคุยกับลูกในท้อง เธอทำเหมือนกับลูกได้ยินและเข้าใจคำพูดของเธอ ในแต่ละวันมันจึงกลายเป็นความสุขอย่างหนึ่งของเธอ เพราะเธอรู้สึกเหมือนมีคนคนหนึ่งอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาหญิงสาวเข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่น ทำท่าจะเปิดโทรทัศน์ แต่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นมา แม้รู้ว่ามีแค่คนเดียวที่จะเข้ามาในห้องนี้ได้ แต่เธอก็เดินออกไปดูด้วยความเคยชินความประหลาดใจทอขึ้นมาในดวงตาหวาน ซึ่งคนตัวใหญ่ที่เดินเข้ามาต้องเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม“มีอะไรหรือเปล่าถึงมองผมอย่างนี้”“ฉันไม่รู้ว่าวันนี้คุณจะกลับมาที่คอนโด”“ไม่ใช่จะ

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 37

    เสียงแดดยามสายที่ทอทอดเข้ามาทางหน้าต่างของห้องครัวขับไล่ความอึมครึมได้เป็นอย่างดี ไม่รู้กุลนิภาคิดไปเองหรือเปล่าว่าวันนี้อากาศสดใสมากกว่าเมื่อวาน ทั้งที่เธอฟังพยากรณ์อากาศแล้วพบว่าทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนจากเดิม ไม่ว่าอุณหภูมิ เมฆฝน หรือความโปร่งของท้องฟ้าในช่วงปลายหน้าร้อนที่กำลังย่างเข้าสู่หน้าฝนเมื่อเธอมองอาหารมื้อเช้าที่บรรจงทำเตรียมไว้สำหรับสองคน เรียวปากสวยก็แย้มยิ้ม คิดจะไปเรียกชนกันต์ให้มากินอาหาร เพราะเขาคงอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ทว่าเขาเข้ามาในห้องครัวเสียก่อน แล้วพูดถึงเรื่องที่เธอไม่อยากฟัง“ถ้าผมแต่งงาน คุณจะเสียใจไหม”กุลนิภานิ่งงัน ฝันหวานกับโลกใบสีชมพูที่เธอเพียรสร้างเมื่อครู่นี้แตกยับอย่างไม่มีชิ้นดี...มันเป็นคำถามที่เธอไม่จำเป็นต้องตอบและเขาไม่ควรถามเธอด้วย“ฉันทำมื้อเช้าให้คุณแล้วค่ะ”กุลนิภาบอกไปอีกทาง ก่อนเธอจะเดินเบี่ยงกายออกห่างจากเขา เธอตั้งใจจะออกไปจากห้องครัว หากเขารั้งต้นแขนของเธอไว้“กินด้วยกัน”&l

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 36

    “ถ้าคุณแต่งงาน คุณจะมีลูกไหมคะ”กุลนิภาถามขึ้นมาหลังจากสงครามรักบนเตียงนอนของยามเช้าจบลง ซึ่งเธอซุกซบอยู่บนอกเขามาสักพักแล้ว“ถามทำไม หรือคุณรู้อะไรมา”รู้อะไร?...กุลนิภาระแวงว่าชนกันต์จะรู้เรื่องลูกในท้อง ในขณะที่เขากลับนึกถึงผู้หญิงอีกคน“ฉันแค่อยากรู้ความคิดของคุณ แต่ถ้าคุณไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร”“ถ้าคนที่ผมแต่งงานด้วยเขาไม่อยากมีลูก ผมก็ไม่มีปัญหา ผมแต่งงานกับใครก็เพราะผมอยากอยู่กับคนคนนั้น ส่วนลูก...ผมยังนึกภาพตัวเองมีลูกไม่ออก บางทีผมอาจไม่ได้รักเด็กขนาดที่จะมีลูกเอง ผมคงไม่พร้อมที่จะทุ่มเทให้ลูกของผมเหมือนอย่างที่พ่อแม่เคยให้กับผม”น่าอิจฉาจัง...ความรู้สึกนี้โฉบเข้ามาในหัวของกุลนิภาชนกันต์มีพ่อแม่ที่รักเขามาก จนเขากลัวว่าตัวเองอาจไม่สามารถทุ่มเทและรักลูกได้เหมือนอย่างที่พ่อแม่ของเขาเคยเป็น...ในขณะที่เธอไม่กล้าคิดถึงแม่ของตัวเอง ถึงแม้เธอจะไม่เชื่อว่าแม่ไม่รักเธอ เธอยังคิดเสมอว่าแม่คงมีเหตุผลที่เธอไม่รู้และไม่เข้าใจ แต่นั่นแหละ การกระทำของแม่ส

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 35

    “อือ...”เสียงห้าวทุ้มดังอยู่ข้างหู กุลนิภารู้ว่าเป็นเสียงของชนกันต์ เธอจำได้ดี แต่ตอนนี้เธออยากหลับ ไม่อยากตื่นขึ้นมารับสายของเขาแล้ว อยากบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน แต่เธอทำได้แค่บอกเสียงอือออในลำคอ...เขาคงเข้าใจ เพราะเธอได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากเขาหากเมื่อจะพาตัวเองเข้าสู่นิทรารมย์อีกหน กุลนิภากลับรู้สึกถึงรอยสัมผัสบริเวณแก้ม ริมฝีปาก แม้กระทั่งซอกคอ จนเธอต้องพลิกกายหนี“ผมจะไปอาบน้ำ เดี๋ยวกลับมา”“อืม...”ในความรู้สึกกึ่งหลับกึ่งตื่นนั้น กุลนิภาได้ยินเสียงฝีเท้าเดินห่างออกไป นึกแปลกใจว่าเธอกำลังคุยโทรศัพท์กับชนกันต์ แต่ทำไมมันถึงคล้ายกับเขามาอยู่ใกล้เธอ หากนั่นแหละ เธอไม่คิดจะหาคำตอบ เธอปล่อยความสงสัยไว้ตรงนี้ เพราะตอนนี้เธอต้องการหลับกุลนิภารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้นและสากระคายที่กำลังตวัดไล้อยู่ตรงยอดอก มือบางคว้าหมับเจ้าสิ่งนั้นไว้หวังจะให้มันหยุด เพราะเธอรู้สึกถึงความซ่านสยิวมที่โจมตีเข้ามาอย่างรุนแรง“ห

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 34

    ทั้งผลไม้รสเปรี้ยวทั้งยาลมและยาหอมยังไม่อาจช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะของชนกันต์ได้ มันทรมาน เขาอยากกอดกายบางและซุกใบหน้ากับอกอวบของเธอแล้วหลับไปจนถึงตอนเช้า แต่สิ่งที่คว้าได้นั้นมีแต่หมอนข้างชายหนุ่มลุกขึ้นมานั่งกลางเตียง ผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง เขายกมือขึ้นมาเสยผมลวกๆ เมื่อหันซ้ายแลขวาไม่เห็นสิ่งที่ต้องการ ไม่มีสิ่งใดแทนเธอได้ ความรู้สึกหงุดหงิดก็พุ่งขึ้นสูง มือหนาคว้าโทรศัพท์มือถือแล้วโทร.ไปหาเธออย่างไวกุลนิภากำลังเคลิ้มหลับ เธอสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือ เธอหยิบมันขึ้นมาดูหน้าจอทั้งที่พอจะรู้ว่าใครโทร.มาในเวลานี้“คุณนอนหรือยัง”“ฉันกำลังจะหลับค่ะ”กุลนิภาตอบ คิดว่าชนกันต์คงมีธุระสำคัญ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่โทร.มาหาเธอในเวลาใกล้ดึกเช่นนี้ เธอจึงรอฟังเขาพูดด้วยใจจดจ่อ ทว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นกลับเป็นเสียงบ่นที่บอกให้รู้ว่าเขากำลังหงุดหงิดเหลือทน...แต่เขาหงุดหงิดอะไร เธอก็ยังจับใจความไม่ได้“ผมนอนไม่หลับ ผมเวียนหัวจะตายอยู่แล้ว ผมเป็นอะ

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 33

    กุลนิภาไม่ทันได้วางโทรศัพท์ลง เสียงของสายเรียกเข้าก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวถอนหายใจ...ไม่ว่าอย่างไรชนกันต์ก็ยังเป็นชนกันต์คนเดิม เขาไม่มีวันยอมจบเรื่องง่ายๆเธอกดรับสายทันที ไม่มีอาการรีรอเหมือนคราวก่อน“ถ้าคุณกลัวจะติดไข้จากฉัน ฉันยืนยันได้เลยว่าฉันไม่ได้ป่วย ฉันไม่ได้เป็นโรคร้าย ไม่มีเชื้อโรคจากตัวฉันที่จะทำให้คุณป่วยตายอย่างแน่นอน ส่วนการที่คุณเวียนหัวคลื่นไส้ คุณต้องไปหาคำตอบจากหมอเอาเอง ฉันให้คำตอบคุณไม่ได้ เพราะอาการของคุณไม่เกี่ยวกับฉัน”กุลนิภาพูดรัวม้วนเดียวจบ โดยไม่เว้นจังหวะให้อีกฝ่ายได้พูด ตัวเธอเองก็แทบไม่ได้หายใจ...หากนึกทึ่งตัวเองเสียด้วยซ้ำที่กล้าเถียงเขาได้ถึงขนาดนี้หญิงสาวตั้งสติรออีกฝ่ายโต้ตอบกลับมา แต่เขายังเงียบ...มันเงียบเสียจนเธอรู้สึกแปลกใจ เพราะตามปกติชนกันต์ไม่เคยยอมแพ้เธอ เมื่อต่อปากต่อคำกันคราใด เขาพร้อมจะสวมวิญญาณเด็กสามขวบงัดทุกวิถีทางมาสู้กับเธอทุกทีมือบางดึงโทรศัพท์มือถือออกมามองหน้าจอ พลันต้องเบิกตากว้าง เพราะมันเป็นเบอร์โทร.ของคนที่เธอไม่รู้จัก ซึ่ง

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 32

    อาการแพ้ท้องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ทำให้กุลนิภานอนซมอยู่บนเตียง เมื่อร่างกายอ่อนแอจนถึงที่สุด เธอก็นึกถึงชนกันต์ แต่ความคิดนั้นกลับกลายเป็นความกลัวในเวลาถัดมา...เธอกลัวเขาจะมาพรากลูกไปจากเธอเมื่อสายเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา มันเป็นเบอร์ที่เธอไม่รู้จัก กุลนิภากำลังจะตัดสายทิ้ง เพราะเธอไม่มีอารมณ์จะคุยกับใคร หากฉุกคิดถึงคนที่เธอเพิ่งให้เบอร์โทร.ไปได้ เมื่อกดรับสาย เธอจึงรู้ว่ามันเป็นสายจากพี่ชายต่างมารดาของเธอจริงๆ“อิงอิงใช่ไหมครับ พี่นิคเองนะครับ”“พี่นิค...”เธอพยายามทำน้ำเสียงให้สดใส แต่พูดออกมาแค่คำเดียว เสียงของเธอก็ขาดหาย แถมมันยังแผ่วเครืออีกด้วย“อิงอิงเป็นยังไงบ้าง เราท้องอยู่ใช่ไหม”คำถามที่สองทำให้กุลนิภานิ่งงัน แม้เตรียมใจไว้แล้วว่าอคินรู้เรื่องนี้ได้ไม่ยาก แต่เขาทำให้เธอไม่ทันได้ตั้งตัว“ใช่ค่ะ อิงกำลังท้อง แต่อิงไม่อยากให้ใครรู้”เมื่อมาถึงขั้นนี้ กุลนิภาจึงบอกอคินไปตรงๆ เธอ

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 31

    ประตูห้องชุดถูกเปิดออกอย่างระมัดระวัง เมื่อกุลนิภาเข้ามาข้างใน เธอรับรู้ได้ทันทีว่าไม่มีใครอยู่...แม้รู้อยู่แล้วว่าชนกันต์ไม่อยู่ที่นี่ แต่อีกใจเธอยังลุ้นว่าเขาอาจกลับมาเซอร์ไพรส์เธอ เธออาจเห็นเขานั่งรออยู่บนโซฟายาวตัวนี้หญิงสาววางกระเป๋าสะพายลง แล้วหย่อนกายนั่งบนโซฟาเพื่อพักให้หายเหนื่อย มือบางลูบหน้าท้อง ไล้วนเบาๆ ด้วยอยากสื่อไปถึงลูกน้อยที่นอนซุกตัวอยู่ในท้อง“พ่อของหนูไม่อยู่ที่ห้อง เขากลับไปที่บ้านราชเวคิน บ้านหลังนั้นมีคนอยู่หลายคน...ช่วงนี้พ่อต้องกลับไปช่วยพี่ชายของเขาเลี้ยงหลาน”พี่ชายของเขาและหลานชายของเขา...หากนับไปก็เป็นญาติสนิทของลูกในท้องของเธอ“แม่รู้ว่าถ้าหนูได้อยู่กับพวกเขา พวกเขาจะเลี้ยงดูหนูเป็นอย่างดี แต่อีกใจหนึ่งแม่ก็กลัว...แม่เลยไม่กล้าปล่อยให้หนูไป แม่กลัวว่าสิ่งที่แม่เคยเจอในวัยเด็กมันจะย้อนกลับมาหนู ถ้าเป็นอย่างนั้น แม่คงทำใจไม่ได้”ถ้าหากชนกันต์รู้เรื่องลูก รับรองเลยว่าเขาจะต้องแย่งลูกไปเลี้ยงดูเอง เขามีความพร้อมมากกว่าเธอหลาย

DMCA.com Protection Status