Home / โรแมนติก / ห่อไฟรัก / บทที่ 1 หนูไม่มีทางไป (1)

Share

ห่อไฟรัก
ห่อไฟรัก
Author: นลพรรณ

บทที่ 1 หนูไม่มีทางไป (1)

last update Last Updated: 2025-03-14 10:53:07

ไม่มีอะไรน่าง่วงนอนไปกว่าการนั่งฟังคุณนายอรอรพูดโน้มน้าวให้เขาหาผู้หญิงมาทำลูกสักครอกอีกแล้ว

แค่นึกว่าในแต่ละวันที่ตื่นขึ้นมาแล้วเจอสิ่งมีชีวิตตัวจิ๋วที่ควบคุมได้ยากนั้นมาวิ่งเล่นส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวในบ้านที่เขาหนีมาสร้างอยู่กลางไร่กว้าง อาทิตย์ก็คิดว่าหายนะเกิดกับเขาแน่นอนแล้ว

ชายหนุ่มลอบถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ แต่ดูว่าคุณนายยังไม่มีวี่แววว่าจะยอมถอยเหมือนกัน ตราบใดที่ยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการ

“ถ้าแกนึกถึงข้อดีของการมีครอบครัวไม่ออก ก็ลองจินตนาการว่า ถ้าปุบปับแกเป็นอะไรไป สมบัติที่แกหามาได้อย่างฟลุกๆ ตั้งมากมายจะตกเป็นของการกุศล แกจะทนได้เหรอ”

นี่เอาทุกทางเลยใช่ไหม กล่อมไม่สำเร็จก็แช่งให้ตายซะดื้อๆ เอากับคุณนายเขาสิ!

“แกว่าไง ฉันพูดจนปากเปียกปากแฉะมาเป็นชั่วโมง แกจะไม่หือไม่อือสักคำเลยหรือ”

“หิวน้ำไหมแม่”

อาทิตย์โพล่งถาม จ้องหน้าแม่นิ่งๆ แววตาบอกว่าจริงจัง ทำเอาคุณนายอรอรถึงกับชะงัก ความจังงังกระแทกเข้าอย่างจัง

“เมื่อกี้แกว่าอะไรนะ”

“ผมถามว่าหิวน้ำไหม หรือว่าอยากกินอะไรหรือเปล่า จะได้บอกเด็กให้ทำมาให้ แม่ก็รู้ตัวว่าพูดมาเป็นชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่เหนื่อยก็ต้องหิวบ้างละ”

ได้ฟังคำพูดของลูกชายคนโต คุณนายเจ้าของห้างสรรพสินค้าประจำจังหวัดก็ถึงกับค้อนขวับ

“แกนี่จริงๆ เลย ที่บอกว่าให้แกพูด ฉันหมายถึงบอกให้ฉันรู้สักหน่อยว่าเมื่อไรแกจะเอาเมีย ฉันเตรียมไว้ให้เลือกตั้งหลายคน ดีๆ ทั้งนั้น ลูกผู้ว่าฯ ก็มี หรือหลานสาวของนายกสโมสรการค้าจังหวัดเราก็ได้ แกก็รู้จักดีอยู่แล้ว เลือกมาสักคนแล้วฉันจะจัดการให้ คัดมาแต่แม่พันธุ์ดีๆ หลานฉันจะได้ออกมาน่ารักและฉลาด”

จบถ้อยคำที่แม่กรอกหูเขามาหลายครั้งแล้ว อาทิตย์ก็เอนกายอิงพนักโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง 

สองสาวที่แม่พูดถึงนั้นก็ดีอยู่หรอก...แต่พวกเธอไม่เหมาะจะเป็นเมียเขาแน่นอน

“หลานของนายกสโมสรการค้า ดร.พิจิกา นั่นเหรอ แค่นึกถึง ผมก็เหี่ยวจนปลุกไม่ตื่นแล้ว ไม่เอาหรอก จนตอนนี้ยายพริกก็ยังข่มผมเรื่องให้ลอกข้อสอบตอนประถมอยู่เลย เรื่องมันผ่านมาไม่รู้กี่สิบปี ยังจำอยู่ได้ ผมไม่ชอบเมียความจำดี เธอฉลาดเกินไป คนนี้ไม่ผ่าน”

ไม่ผ่านแน่นอน! ก็นั่นเพื่อนของเขา คลุกคลีกันมาตั้งแต่เรียนประถมจนถึงมัธยม มาแยกกันก็ตอนเรียนปริญญาตรี แต่พอไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ ทั้งสองคนก็ดันเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกันอีก มันช่างบังเอิญสิ้นดี แล้วที่สำคัญหล่อนก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วด้วย แถมไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนของเขาที่รู้จักกันตอนเรียนเมืองนอกนั่นเอง

อาทิตย์พูดใส่หน้าคนทั้งคู่อยู่บ่อยๆ ว่า แก่จนปูนนี้แล้วก็ไม่รู้จะปิดครอบครัวไปทำไม เปิดตัวไปเสีย ผู้ใหญ่จะได้เลิกจับคู่ให้หล่อนและเขาเสียที

“ถ้าไม่เอาคนนี้ แล้วลูกสาวท่านผู้ว่าฯ ล่ะ นี่ฉันก็เพิ่งเจอในงานเลี้ยงรับรองผู้ใหญ่เมื่อสัปดาห์ก่อน กิริยามารยาทเรียบร้อย พูดจานุ่มนวล มองมุมไหนก็น่ารักไปหมด ฉันมองๆ ก็นึกไปว่าถ้ามีลูกสาวสักคนก็อยากให้ออกมาแบบนี้แหละ แต่พอมันไม่มี ให้มาเป็นลูกสะใภ้แทนก็ได้”

คุณนายอรอรทำท่าเคลิ้มฝัน สำหรับคนนี้อาทิตย์ถึงกับกลั้นลมหายใจ เพราะเท่าที่เขารู้มา ลูกสาวของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดคนปัจจุบันนั้นห่างไกลจากคำที่แม่สาธยายนัก กระนั้นเขาก็ไม่ขัด เพราะไม่อยากพูดถึงผู้หญิงลับหลัง…ยกเว้นก็แต่เพื่อนสาวอย่างพิจิกาที่จิกกัดกันมาตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้มันติดจนเลิกไม่ได้เสียแล้ว

“ผมว่าแม่วางมือและตัดใจเรื่องของผมดีกว่า ยังมีนายโอ๊ตกับนายอู๋อีกตั้งสองคน แม่ไปดันพวกนั้นดีกว่านะ พอจะเห็นทางสำเร็จเห็นแววมากกว่าผม ส่วนผมสงสัยจะขึ้นคานแล้วแหละ”

“แกเป็นพี่คนโต ยังไงแกก็ต้องแต่งงานก่อนน้อง”

“นี่มันยุคไหนแล้ว แม่ยังเอาธรรมเนียมสมัยอากงอาม่ามาใช้กับพวกเราอีกหรือไง สำหรับผมนะ ไม่ต้องรอ เพราะผมรู้สึกตงิดๆ ว่าตัวเองจะขึ้นคาน อย่างนี้แม่จะปล่อยให้ลูกชายของแม่อีกสองคนขึ้นคานตามผมไปด้วยหรือไง ไม่เหลือทายาทสืบสกุลสักคนเดียว มันน่าเศร้านะแม่ คิดดูดีๆ นะ ไปบอกสองคนนั้นให้หาเมียแทนผมเถอะ นายอู๋ก็อายุยี่สิบเก้าปีแล้ว ส่วนนายโอ๊ตก็ตั้งสามสิบเอ็ดปี เกิดหลังผมแค่สิบเอ็ดเดือน พวกนี้หาเมียมาทำลูกให้แม่ได้แล้วเหมือนกัน”

“โอ๊ย! ไม่ต้องเอาน้องมาอ้าง สองคนนั้นก็นิสัยเหมือนแกนั่นแหละ ฉันเหนื่อยกับพวกแกจริงๆ มีลูกชายสามคน ไม่ได้ดังใจฉันเลยสักคน”

“นี่แสดงว่าไปเคี่ยวเข็ญเอาจากพวกนั้นมาแล้วใช่ไหม”

ลูกชายคนโตดักคออย่างรู้ทัน คุณนายอรอรหุบปากฉับแล้วสะบัดหน้า ก่อนจะกวาดสายตามองรอบโถงของบ้านหลังใหญ่โตของลูกชาย 

เธอภูมิใจอยู่หรอกที่ลูกทำงานแล้วสร้างทุกอย่างมาด้วยตัวเอง แต่ด้วยความเป็นแม่ก็อดที่จะรู้สึกห่วงไม่ได้ เธอมีลูกชายอยู่ตั้งสามคน แต่ไม่มีวี่แววว่าจะปักหลักแต่งงานเลยสักคน ทั้งที่ลูกๆ ของเพื่อนที่อยู่ในวัยเดียวกันก็ทยอยออกเรือนกันไปหลายคนแล้ว

แล้วหางตาก็เห็นกลุ่มคนนั่งทำงานกันอยู่เงียบๆ ตรงมุมใกล้กับห้องครัว จำได้ว่าที่ตรงนั้นมักถูกใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ของคนทำงานบ้าน

ดวงตาของคุณนายอรอรหรี่ลง...นอกจากแม่บ้าน เด็กในบ้านที่คุ้นตา แล้วยังมีใครอีกคนที่นั่งหันหลังให้ 

เธอมองไม่เห็นหน้าค่าตาของผู้หญิงคนนั้น แต่ประเมินจากรูปร่างและเรือนผมดำขลับเป็นพวงยาวที่ผูกเป็นหางม้ากับต้นคอระหงนั้น ฟันธงได้ว่าไม่ใช่คนงานในบ้านอย่างแน่นอน

คุณนายอรอรลุกขึ้นทันทีอย่างไม่ให้ความสงสัยค้างคาอยู่ ก่อนที่จะย่างเท้าตรงไปหาก็ยังทิ้งหางตาครุ่นคิดระคนไม่วางใจไปทางลูกชายที่นั่งก้มหน้านิ่งเหมือนคนปลงตกกับชีวิต

อาทิตย์ถอนหายใจยาว แล้วเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของแม่เดินห่างออกไป แต่เมื่อปรายตามองก็เห็นทิศทางของแม่ที่จ้ำไปหา ทำให้เขาต้องผุดลุกขึ้นอย่างไว 

“แม่! หยุดก่อน”

แค่ไม่กี่วินาที อาทิตย์ก็ตามไปคว้าข้อมืออวบของผู้ให้กำเนิดไว้ได้ อีกฝ่ายหันมองเขาอย่างสงสัยในท่าที ดวงตาคมรีที่หรี่ลงนั้นบ่งบอกชัดว่าไม่ไว้ใจ...แต่จะเป็นเรื่องอะไรนั้น อาทิตย์ไม่คิดจะอยากรู้

“แม่จะกลับบ้านแล้วใช่ไหม เดี๋ยวผมไปส่ง ผมจะออกไปข้างนอกเหมือนกัน”

“ฉันกลับเองได้ นัดเวลากับนายนวยไว้แล้ว เดี๋ยวเขาก็มา”

“ไม่เป็นไร ผมจะบอกนายนวยว่าไม่ต้องมาแล้ว เพราะผมจะไปส่งแม่ที่บ้านเอง ไปกันเถอะ...ผมไม่ได้เข้าบ้านเรานานแล้ว”

คุณนายอรอรเอียงคอมองลูกชายอย่างพินิจ ท่าทางอ้ำอึ้ง มือข้างที่ว่างนั้นดูเกะกะเหมือนไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหนดี นี่ไม่ใช่พฤติกรรมคุ้นตาของลูกชายคนโตของเธอแล้วนะ

หากก็ยอมเดินตามเขากลับไป ก็พ่อเจ้าประคุณเกิดนึกอยากรักแม่กะทันหัน โดยจับมือเธอไว้แน่นอย่างไม่ยอมปล่อย

หากก่อนจะพ้นจากโถงบ้าน หญิงวัยกลางคนยังหันไปมองยังทิศทางเดิมอย่างติดใจ คนเป้าหมายที่เธอตั้งใจจะเดินไปดูเมื่อสักครู่นั้นยังก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่เช่นเดิม 

ทรวดทรงเรือนร่างที่เห็นจากด้านหลังนั้นได้สัดส่วนเหมาะเจาะ แถมท่านั่งที่มองปราดเดียวก็เห็นว่าแตกต่างจากคนที่นั่งรายล้อม 

คุณนายอรอรเก็บข้อมูลมาจนครบภายในไม่กี่วินาที มาดหมายไว้ในใจว่า ต่อให้ลูกชายอมโบสถ์มาบอกว่าเป็นแค่คนงานในบ้าน เธอก็ไม่มีวันเชื่อ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ห่อไฟรัก   บทที่ 2 หนูไม่มีทางไป (2)

    อาทิตย์กลับเข้ามาในบ้านในเวลาเกือบสองทุ่ม กลางโถงกว้างเมื่อตอนกลางวันมีคนงานอยู่พลุกพล่าน หากเวลานี้กลับเงียบสงัดไร้ใครสักคนที่ยังคงอยู่แสงไฟส่องสว่างจากโคมไฟประดับหรูตรงเพดานสูงนั้นทำให้เขามองเห็นรอบตัวได้ชัดเจน สายตาทอดไปยังทิศทางด้านในใกล้กับห้องครัว แล้วจับตามองนิ่ง ‘คนพวกนั้นทำอะไรกัน แล้วนั่นคนงานบ้านแกทุกคนเลยหรือ’แม่ถามขึ้นทันทีเมื่อเขาทำหน้าที่สารถีพาออกจากบ้านในช่วงบ่าย ‘ใช่มั้งครับ’‘ใช่มั้ง? หมายความว่ายังไง แกจำคนงานในบ้านไม่ได้หรือไง แล้วอย่างนี้ปล่อยให้ใครต่อใครเข้ามาในบ้านได้ง่ายๆ งั้นหรือ’‘ไม่ขนาดนั้นหรอกแม่ ถึงจำชื่อไม่ได้แต่ก็พอคุ้นหน้า ใครแปลกหน้าเข้ามาผมก็รู้’‘ถ้าอย่างนั้นพวกที่จับกลุ่มนั่งเจียนใบตองอยู่ในบ้าน แกก็คุ้นหน้าทุกคนสินะ’เขารู้ว่าแม่พยายามเลียบเคียงถามถึงบางคนที่นั่งรวมอยู่ในกลุ่มนั้น เขาเองก็เพิ่งสังเกตเห็นเธอตอนที่แม่พุ่งไปหานั่นละดวงตาคมปรายมองไปทางด้านใน ก่อนจะสาวเท้ายาวๆ ตรงไปหาอย่างเห็นเป้าหมายเสียงเคาะประตูดังขึ้นหนักๆ สามครั้ง จิณณาผุดลุกขึ้นนั่งหลังจากนอนเกร็งตัวอยู่นานนับสิบนาทีตั้งแต่ได้ยินเสียงรถแล่นมาจอดแล้วโรงรถอยู่ใกล้กับห้องพัก

    Last Updated : 2025-03-14
  • ห่อไฟรัก   บทที่ 3 หนูไม่มีทางไป (3)

    “ฉันเห็นว่าช่วงนี้เด็กจบใหม่ตกงานกันเยอะ แล้วคิดยังไงถึงไม่ทำงานที่กรุงเทพฯ”“หนูถูกให้ออกจากงานค่ะ บริษัทต้องการลดคนทำงาน หนูไม่มีรายได้ เลยคิดว่ากลับมาตั้งหลักที่นี่ดีกว่า”“เธอหมายถึงตั้งหลักที่บ้านของฉันงั้นหรือ”อาทิตย์เลิกคิ้วถาม จิณณาเบิกตาโตเมื่อเห็นว่าเขาเข้าใจหล่อนผิด จึงรีบแก้ไขความเข้าใจเสียใหม่ด้วยเสียงรัวเร็ว“ไม่ใช่ค่ะ หนูหมายถึงกลับมาบ้านของหนูที่อยู่จังหวัดนี้ แต่ตอนนี้หนูอยู่บ้านไม่ได้ มีปัญหาเกิดขึ้นเล็กน้อย หนูเลยต้องขออาศัยอยู่ห้องของป้าแววก่อน ป้าแววบอกว่าให้หนูอยู่ได้ เพราะแกย้ายไปอยู่บ้านพักคนงานกับลูกสาวในไร่แล้ว”“ห้องของป้าแววที่เธอว่า มันก็คือบ้านของฉัน”“หนูทราบค่ะ ระหว่างนี้หนูจะทำงานแลกกับค่าที่พัก...แล้วก็ค่าอาหารด้วยค่ะ”“เธอจนตรอกขนาดนั้นเลยหรือ”‘จนตรอก’ เขาพูดออกมาอย่างเรียบเรื่อย แต่ทำให้คนฟังคอแข็งจิณณายอมรับว่าตัวเองไม่มีทางไป หล่อนตกงาน ไม่มีรายได้ จึงอยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ หล่อนดิ้นรนจนสุดทางแล้ว แต่ก็มองหาทางที่ดีขึ้นไม่ได้ ชีวิตเหมือนจะจมดิ่งลงเรื่อยๆ ยิ่งเดินหน้าก็ยิ่งมืดมน สุดท้ายจึงตัดสินใจกลับบ้าน...แต่ก็พบว่าบ้านที่เคยอยู่มาตั้งแต่เด็กน

    Last Updated : 2025-03-14
  • ห่อไฟรัก   บทที่ 4 ไม่ใช่เพื่อน (1)

    อาทิตย์เดินเข้ามาในห้องนอน แล้วล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขาติดต่อไปหาคนที่คิดว่าต้องมีส่วนรับผิดชอบในความหงุดหงิดที่ตัวเองกำลังเผชิญ และเมื่อปลายสายตอบรับ เขาก็ส่งคำพูดไปทันที“มารับลูกศิษย์เธอกลับไปด้วย”“นายพูดเรื่องอะไร รับใคร แล้วรับที่ไหน”“อย่ามาทำไก๋ ยายขนุนนั่นยังอยู่ที่บ้านฉัน วันที่เด็กคนนี้เข้ามาในบ้านของฉัน เธอโทร.มาบอกฉัน เธอรู้ก่อนที่ฉันจะรู้เสียอีก แล้วฉันก็เพิ่งนึกออกว่าเคยเห็นเด็กคนนี้อยู่กับเธอตั้งแต่เจ้าตัวยังเป็นเด็กนักเรียน ฉันจำได้ ยังไงฉันก็ไม่เชื่อว่าเธอไม่รู้เห็นเป็นใจให้เด็กหอบผ้าเข้ามาปักหลักในบ้านของฉัน แถมแม่ตัวดีก็ไม่มีกำหนดออกไปด้วย”“นายพูดถึงขนุนเหรอ แล้วขนุนเป็นใคร” ปลายสายทวนเสียงงุนงง อาทิตย์หลุดเสียงจิ๊จ๊ะออกมาอย่างไม่ได้ดังใจ แต่ก่อนที่เขาจะได้อธิบาย อีกฝ่ายก็ถึงบางอ้อขึ้นเสียก่อน“ฉันนึกออกแล้วละ แหม! เด็กชื่อจิณณา ชื่อออกจะเพราะ แต่นายเรียกขนุน ฉันเลยงงๆ ไป” พอพูดจบ คนที่อาทิตย์ต้องการให้ช่วยเหลือก็หลุดหัวเราะออกมาเต็มเสียง ดูว่าเจ้าหล่อนจะไม่รับรู้ถึงความทุกข์ร้อนของเขาจริงๆ “เด็กนั่นบอกว่ารองาน แต่ฉันมองปราดเดียวก็รู้ว่าคงตกง

    Last Updated : 2025-03-14
  • ห่อไฟรัก   บทที่ 5 ไม่ใช่เพื่อน (2)

    “อะไรนะ! เลิกกันแล้วเหรอ เลิกกันทำไม แล้วเลิกตั้งแต่เมื่อไร ทำไมฉันไม่รู้เรื่อง”ยอมรับว่าตกใจและคาดไม่ถึง เพราะเท่าที่รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของสองคนนี้ มันก็ไม่มีสัญญาณบอกเหตุใดๆ ว่าเรื่องราวจะจบลงในรูปแบบนี้“หมดความปรารถนาในกันและกัน แรงดึงดูดระหว่างกันไม่เหลือแล้ว”ถ้อยคำสวยงามของพิจิกา อาทิตย์คงไม่คิดจะติดใจ ถ้าน้ำเสียงนั้นไม่เหมือนการท่องจำมาบอก“เธอหรือนายกรณ์ที่รู้สึกอย่างนี้”“กรณ์บอกฉัน”อาทิตย์แทบพ่นลมหายใจเมื่อได้ยินคำตอบคิดอยู่แล้วเชียว...อย่างยายพริกนะหรือที่จะรู้ตัวเองและเป็นฝ่ายบอกนายกรณ์ก่อน“แล้วเธอโอเคไหม”“ตอนแรกฉันก็งง ไม่รู้ว่าเวลาถูกบอกเลิกต้องทำตัวยังไง มันมึนๆ ตื้อๆ ไปหมด ฉันสอนเด็กไม่รู้เรื่องเลย เพื่อนนายนิสัยแย่มาก บอกเลิกฉันตอนเช้าในวันที่ฉันมีสอนเต็มวัน สรุปว่าวันนั้นฉันไม่มีสมาธิ ไม่รู้ว่านักศึกษาจะคิดยังไงกันบ้าง”พอได้ฟังเรื่องราวของแม่คุณ อาทิตย์ก็เป็นฝ่ายมึนตื้อขึ้นมาบ้าง“เดี๋ยวนะ เธอถูกบอกเลิก แล้ว...เธอไม่เสียใจเหรอ”“ฉันบอกแล้วไงว่าทำตัวไม่ถูก ตอนนั้นฉันงงและมึนไปหมด”“แล้วทำไมไม่โทร.มาล่ะ ตกลงเลิกกันเมื่อไหร่”“นั่นสินะ ทำไมฉันไม่โทร.หานาย” พิจิ

    Last Updated : 2025-03-14
  • ห่อไฟรัก   บทที่ 6 ไม่ใช่เพื่อน (3)

    “หนูรู้สึกได้เอง” ก็แค่ตอนที่จิณณาช่วยขนอาหารออกไปให้คนงานได้รับประทานตอนพักเที่ยง แล้วได้ยินพวกเขาถามกันว่ามื้อนี้เป็นฝีมือของใคร พอรู้ว่าไม่ใช่ของหล่อน ต่างก็หัวเราะดีใจกันยกใหญ่แต่ก็ยังดีนะ ที่พอเห็นว่าหล่อนยืนอยู่ใกล้ๆ พวกเขาก็อุบอิบบอกขอโทษ ก่อนจะพากันเดินหนีหลบหน้าหล่อนไปจนหมดจิณณาถอนหายใจยาว แล้วระบายต่ออย่างได้โอกาส“หนูทำงานไม่เป็น ทั้งที่เกิดมาเป็นลูกแม่ค้าในตลาด ไม่ใช่คุณหนูที่ไหนสักหน่อย”“ก็หนูจิณเรียนหนังสือตั้งแต่เด็กจนโต แล้วจะมีเวลาที่ไหนมาทำงานกันล่ะ ตั้งใจเรียนจนจบก็ดีแล้วนี่”“หนูเรียนจบแล้วทำงาน แต่หนูก็ถูกปลดจากงาน แสดงว่าหนูเป็นคนไม่เอาไหนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบ้านงานครัว หรืองานตามสายที่เรียนมา”“โธ่เอ๊ย! ชีวิตมันไม่ได้มีแค่นี้ เดี๋ยวหนูก็เจอทางที่ถนัดเอง”“แต่ปากท้องมันรอนานไม่ได้สิจ๊ะ”“แล้วจะเร่งรีบไปทำไม อยู่ช่วยงานที่นี่ไปเรื่อยๆ นี่แหละ แล้วไม่ต้องกลับไปอยู่บ้านแม่อีกนะ ความโชคดีไม่ได้เป็นของเราทุกคราว”สีหน้าของจิณณาสลดลง หล่อนเผลอยกมือขึ้นลูบแก้มด้านซ้ายภาพความเกรี้ยวกราดของแม่ในวันนั้นผุดขึ้นมา...วันที่จิณณากลับมาจากกรุงเทพฯ ด้วยหวังจะตั้งหลักอยู่กั

    Last Updated : 2025-03-14
  • ห่อไฟรัก   บทที่ 7 ไม่ใช่เพื่อน (4)

    “ฉันแค่ตลกเธอ ทำไมเธอต้องพูดดิฉันกับฉันด้วย” แม้เขาจะไม่ปล่อยให้หล่อนได้สงสัยนาน แต่จิณณาก็ไม่คิดจะขอบคุณเขาหรอกนะ“อ้าว! ก็คุณไม่ให้ดิฉันแทนตัวเองว่าหนู”“แล้วตอนเธอคุยกับคนอื่น เธอแทนตัวเองว่าอะไร”“ก็...หนู”“เพื่อนเธอล่ะ”“แต่คุณไม่ใช่เพื่อนดิฉันนี่คะ”“แน่นอน ฉันไม่ใช่เพื่อนเธอ ให้ตายยังไงฉันก็ไม่รับเธอเป็นเพื่อนของฉัน”“ค่ะ” หญิงสาวเผลอยู่ปาก คนระดับอาทิตย์จะมาคบเธอเป็นเพื่อนได้อย่างไร แค่เขามองเห็นเธอเป็นคนคนหนึ่ง ไม่ใช่ฝุ่นละอองที่ลอยฟุ้งในอากาศก็ถือว่าเกินคาดไปมากแล้ว“เมื่อกี้เธอรับคำว่าค่ะ...ค่ะ? คืออะไร”“ก็รับทราบว่าไม่ใช่เพื่อนค่ะ”อาทิตย์มองดวงหน้าสวยสุกปลั่งด้วยไอแดด มองเพื่อให้มั่นใจว่าคำพูดนั้นไม่ได้แฝงการประชด หากก็ไม่พบอารมณ์อื่นใดในแววตาของหล่อน นอกจากการคาดคะเนและรอลุ้นจนชายหนุ่มอดที่จะใจอ่อนไม่ได้ สุดท้ายจึงบอกออกมา“ถ้าเธออยากทำงานในไร่ก็ตามใจ แต่ไม่ต้องย้ายไปบ้านพักคนงาน” อาทิตย์เว้นจังหวะ มองดวงหน้าของหญิงสาวที่ค่อยๆ แย้มเบิกอย่างดีใจใช่ นั่นละ นึกไว้อยู่แล้วว่าจะได้เห็น“บ้านพักคนงานไม่มีหลังที่ว่างสำหรับเธอ แล้วส่วนใหญ่พวกเขาอยู่กันเป็นครอบครัว เป็นผัว

    Last Updated : 2025-03-14
  • ห่อไฟรัก   บทที่ 8 คนงานใหม่ (1)

    ใกล้เที่ยงวัน แม้สายลมหนาวจะพัดมาเป็นระลอก แต่จิณณาก็รู้สึกแสบร้อนผิวหน้าเพราะแสงแดดที่แผดจ้า หล่อนคลี่ผ้าคลุมไหล่ผืนสวยขึ้นมาคลุมศีรษะเพื่อป้องกันแสงแดด แล้วก้มหน้าทำงานต่อ พลันก็ได้ยินเสียงคุ้นหูของหัวหน้าคนงานดังอยู่ใกล้ๆ“หน้าแดงยังกับกุ้งต้ม ไปพักที่ร่มก่อนเถอะหนูจิณ ช่วงบ่ายค่อยมาทำต่อ”“ขอบคุณค่ะลุงชื่น แต่จิณจะตัดใบแปลงนี้ให้หมดก่อนแล้วค่อยพัก ดูของคนอื่นสิ เสร็จนำหน้าจิณไปอีกแล้ว”จิณณาบอกทั้งยังไม่เงยหน้าขึ้นจากต้นสตรอว์เบอร์รีที่ปลูกเรียงรายบนแปลง พลางใช้กรรไกรตัดใบแห้งบริเวณโคนต้นออกเพื่อรอรับผลผลิตที่จะตามมา“งั้นก็ทำไปเถอะ แต่ไม่ต้องรีบ เอาที่เราทำไหว คุณอั๋นไม่ได้เคี่ยวเข็ญกับพวกเรามาก คนงานในไร่นี้ นอกจากพวกที่เรี่ยวแรงยังดีก็ยังมีพวกง่อนแง่นอย่างยายป้อมและลุงผินอยู่ด้วย พวกนี้ก็ทำไปพักไปตามที่สังขารอำนวย”จิณณาเงยหน้าขึ้นมามองโดยรอบอย่างสังเกตตาม คนงานในไร่มีหลายวัยจริงตามที่ลุงชื่นพูด นอกจากคนหนุ่มสาวแล้วยังมีคนแก่ชรา กลุ่มหลังก็ทำงานได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย...จึงอดที่จะสงสัยไม่ได้“แล้วคุณอาทิตย์ไม่ขาดทุนแย่หรือจ๊ะ ถ้าเราทำงานกันแบบนี้ มันจะไม่คุ้มเงินค่าจ้างเอาสิ แล

    Last Updated : 2025-03-14
  • ห่อไฟรัก   บทที่ 9 คนงานใหม่ (2)

    ตะวันคงบ่ายคล้อยแล้ว ไม่รู้ว่าแสงแดดข้างนอกยังแผดจ้าอยู่หรือเปล่า แต่สำหรับในห้องพักนี้ จิณณารู้สึกเหมือนกำลังนอนอยู่ในตู้อบ“ร้อนจังเลย”เสื้อเชิ้ตเข้ารูปแขนยาวที่หวังจะให้กันแดดยามทำงานในไร่ เวลานี้มันรัดรึงจนแทบหายใจไม่ออกเรียวนิ้วที่เริ่มหยาบกร้านไต่ขึ้นตามสาปเสื้อ ไล่คลำหากระดุมเสื้อเม็ดบนสุดแล้วปลดออกโดยใช้เวลาเกือบนาที ก่อนจะเลื่อนมือลงไปหากระดุมเม็ดถัดไปเสียงครางอือในลำคออย่างพอใจเมื่อรู้สึกสบายตัวมากขึ้นทั้งที่ดวงตายังหลับพริ้ม จนเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะสะดวกสบายพอ มือเรียวขาวสะอาดจึงหล่นมาวางขนาบข้างลำตัวเรือนร่างอวบอิ่มทอดนิ่งอยู่บนเตียงนอนขนาดสามฟุตที่วางชิดผนังห้อง โดยมีฟูกนอนบางๆ รองรับ พัดลมตัวเดียวตรงมุมห้องยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งบ้านเงียบสงบ จิณณารู้สึกผ่อนคลายจนปล่อยตัวเองให้หลับใหล เพราะไม่อาจทนกับความเมื่อยล้าจากการกรำงานในไร่มาตลอดทั้งสัปดาห์ได้อีกอาทิตย์จิบเบียร์เย็นพลางทอดมองน้องชายและหญิงสาวร่างโปร่งบางที่กำลังไดร์ฟกอล์ฟอยู่เบื้องหน้าไกลๆ จนเมื่อรู้สึกถึงแรงตบตรงหัวไหล่จนเขาถึงก

    Last Updated : 2025-03-14

Latest chapter

  • ห่อไฟรัก   บทที่ 14 เผยกายใต้หมอกฝัน (1)

    จิณณาล่องลอยอยู่ในความฝัน ท่ามกลางเมฆหมอกสวยงาม...แต่บางสิ่งก็ค้านว่ามันอาจเป็นความจริงไฟร้อนอบอ้าวที่แผดเผาหล่อนมานานกำลังมอดดับลง ร่างกายเริ่มเย็นสบาย สายลมเย็นนั้นไล้ทั่วกาย ช่างให้ความรู้สึกดีจนจิณณาต้องปล่อยเสียงหัวเราะอย่างสุขใจนานทีเดียวกว่าสายลมเย็นนั้นจะหยุดไล้เรือนกาย เมื่อทุกอย่างหยุดนิ่ง จิณณาถึงรับรู้ว่าไฟร้อนที่แผดเผากลับมาหาหล่อนอีกแล้ว จิณณาไม่ต้องการ หล่อนอยากหนีไปให้ไกล แต่ตะโกนร้องจนเสียงแห้งก็ไม่มีใครได้ยินเลยน้ำตาแห่งความอาดูรไหลพราก หล่อนไม่อยากกลับไปทรมานอยู่กับความร้อนนั้นอีกแล้วร่างกายก็ลอยขึ้นไปกลางอากาศ จิณณาล่องลอย รู้สึกกายเบาหวิวคล้ายวัตถุไร้น้ำหนัก หล่อนเคลื่อนกายผ่านมวลเมฆสวยงามก้อนแล้วก้อนเล่า ความอบร้อนไม่มาเยือนอีกเลย หญิงสาวครางในลำคออย่างพอใจกระทั่งเคลื่อนเข้าไปอยู่ในมวลอากาศที่เย็นฉ่ำแสนชื่นใจ ร่างกายจึงเคลื่อนลงต่ำ แล้วเอนลงบนผืนหญ้านุ่มดุจพรมเนื้อดีที่ตรงนี้ดีเหลือเกิน เย็นฉ่ำชื่นใจ ไม่ร้อนอบอ้าว แถมยังนุ่มสบายอีกด้วยอาทิตย์ชะงักฝีเท้าแล้วหันขวับไปมองบนเตียงนอนของตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงหัวเ

  • ห่อไฟรัก   บทที่ 13 ซ่อนอยู่ในความคิด (3)

    กว่าห้าโมงเย็น รถยนต์คันสีขาวแล่นเข้ามาในเขตไร่กว้างขวางที่จัดสรรพื้นที่ปลูกพืชแต่ละชนิดไว้อย่างเป็นสัดส่วน เมื่อมองจากถนนดาดคอนกรีตที่รถแล่นผ่านเข้ามาช้าๆ พืชผลที่พร้อมเก็บเกี่ยวหลายแปลงกำลังต้องแสงอาทิตย์ยามเย็นทำให้เกิดภาพงดงามอาทิตย์จอดรถตรงที่เดิม จุดที่เคยจอดเมื่อตอนขับรถออกจากไร่ในตอนเที่ยงวันคราวนี้ลุงชื่นที่รอท่ากันอยู่แล้วก็ปรี่มาหา โดยไม่ต้องรอให้เจ้านายเดินไปเอง พร้อมกับรายงานอย่างกระตือรือร้น“คนงานกำลังขนเคปกูสเบอร์รีขึ้นรถ งวดนี้เราคัดขนาดและตรวจคุณภาพก่อนแพ็กตามที่คุณอั๋นบอกไว้เป๊ะเลย พร้อมส่งเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตของคุณนายไม่เกินหกโมงเย็น คุณอั๋นจะดูของก่อนไหมครับ”“ลุงตรวจสอบความเรียบร้อยแล้วใชไหม”“เรียบร้อยแล้วครับ หลังจากคนงานทำเสร็จ ผมก็เช็กเองอีกรอบ นับจำนวน แยกตามขนาด แล้วจดไว้ในกระดาษแผ่นนี้ครับ”ลุงชื่นรีบยื่นกระดาษแผ่นเดียวให้กับเจ้านาย และเขาก็รับมากวาดสายตาดูคร่าวๆ ก่อนจะพับเก็บในกระเป๋ากางเกงเช่นทุกครั้งอาทิตย์เงยหน้าขึ้นมาแล้วกวาดสายตามองโดยรอบ ต่อเมื่อไม่เห็นคนเป้าหมาย

  • ห่อไฟรัก   บทที่ 12 ซ่อนอยู่ในความคิด (2)

    อาทิตย์คีบกระดาษแผ่นเดียวที่พับอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วหยิบปากกาที่เหน็บอยู่กับกระเป๋าเสื้อมาวางบนโต๊ะ รายงานผลผลิตของผักและผลไม้ในไร่และช่วงเวลาที่คาดว่าจะส่งเข้าไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าของมารดาได้กว่าสิบนาทีที่คุณนายเจ้าของห้างสรรพสินค้าใหญ่ประจำจังหวัดนั่งฟังโดยไม่ขัดจังหวะ และเมื่อลูกชายรายงานผลจบลง เธอก็ถามขึ้น“แกดูแลไร่เองทั้งหมดเลยหรือ”“ก็ใช่สิครับ”อาทิตย์ตอบพลางเลิกคิ้วสงสัย เพราะคิดว่าเรื่องนี้แม่ก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว“นอกจากลุงชื่นและคนงานในไร่ แกมีใครช่วยงานอีกหรือเปล่า”ถามขึ้นเพราะเห็นกระดาษแผ่นเดียวที่ลูกชายเอาติดมา แถมลายมือก็ยังโย้เย้น่าปวดหัว“ไม่มีครับ แต่มันไม่จำเป็นหรอก ผมดูแลไร่ได้ แม่ไม่ต้องหาคนมาช่วยงานผม เพราะผมกลัวว่าจะเข้ามาเกะกะให้เสียงานมากกว่าผมจะได้งาน”ชายหนุ่มรีบปิดทาง เพราะคิดว่าแม่จะวกไปหาเรื่องเดิมๆ นั่นคือส่งสาวๆ มาให้เขาพิจารณาโดยผ่านทางการทำงาน“แกไม่ต้องออกตัวขนาดนั้น ฉันก็ไม่อยากยุ่งกับแกแล้วเหมือนกัน” คุณนาย

  • ห่อไฟรัก   บทที่ 11 ซ่อนอยู่ในความคิด (1)

    แค่รถปอร์เช่คันสีขาวเลี้ยวออกจากสนามไดร์ฟกอล์ฟสู่ถนนสายหลักระหว่างเมืองมาได้ไม่กี่ร้อยเมตร เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ต่อเมื่อรับสาย ถ้อยคำจากคนปลายสายก็ส่งเข้ามา“แกจะมาหาฉันใช่ไหม”“ใช่ครับ ผมกำลังไปที่สำนักงาน แม่อยู่ที่ไหนแล้วครับตอนนี้”อาคารสำนักงานอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีซูเปอร์มาร์เก็ตที่เป็นแหล่งขายผักและผลไม้ปลอดสารพิษรวมอยู่ด้วย“ฉันกลับมาบ้านแล้ว วันนี้ออกข้างนอกทั้งวัน มีทั้งงานแต่งงาน งานเปิดร้านของลูกหลานผู้ใหญ่ในจังหวัด จนปวดเนื้อปวดตัวไปหมด เข้าสำนักงานไม่ไหวแล้ว คนแก่ก็อย่างนี้แหละ สังขารไม่แน่นอน นิดๆ หน่อยๆ ก็ทำท่าจะทรุด”“แม่ยังอยู่อีกนานครับ แล้วร่ายมาขนาดนี้ ต้องการอะไรครับ”อาทิตย์ขัดคอเสียงเรียบแล้วถามกลับ จนได้ยินเสียงบ่นลอดไรฟันอยู่สองสามประโยคจากผู้ให้กำเนิด ซึ่งล้วนแต่ทำให้เขาต้องหัวเราะออกมา“ผมว่าถ้าแม่อยากได้ลูกสะใภ้ก็ต้องซ้อมบทแม่ผัวใจดีมีเมตตาไว้ได้แล้วนะครับ เผื่อจับพลัดจับผลูได้มาแบบไม่ทันตั้งตัว ลูกสะใภ้จะได้ไม่เผ่นหนี

  • ห่อไฟรัก   บทที่ 10 คนงานใหม่ (3)

    “เพ้อเจ้อน่า”เสียงพึมพำหลุดจากเรียวปากหยัก โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าเขาบอกตัวเองหรือบอกเพื่อนที่ยังเซ้าซี้ถาม“นายแค่สนุกกับงาน แต่สักพักมันจะเหงา อยากมีคนดูแล”อาทิตย์พยายามห้ามความคิดไม่ให้จดจ่อถึงผู้หญิงคนนั้น แต่ดูว่าช่างยากเหลือเกิน จนต้องเสหยิบแก้วเบียร์มาจิบอีกรอบด้วยอยากกลบเกลื่อนความรู้สึกเมื่อคิดว่าปรับอารมณ์ตัวเองได้แล้ว จึงโต้กลับด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยดังเดิม“ไม่ต้องมากล่อมฉัน เพราะนายอีกคนนี่แหละที่เป็นต้นเหตุให้แม่มาเร่งฉันให้แต่งงาน”ปราชญ์หัวเราะร่วน เขาเข้าใจถึงความนัยในคำพูดนั้นดี เพราะชีวิตส่วนตัวของเขาถูกบรรดาแม่ๆ ของเพื่อนนำไปเปรียบเทียบ แล้วเร่งให้แต่งงานกันหลายคนแล้วสำหรับเขาที่แต่งงานตั้งแต่อายุยี่สิบห้าปีกับเพื่อนหญิงที่รู้จักกันตั้งแต่เรียนมัธยม จนตอนนี้ก็มีลูกชายหญิงรวมสามคนแล้ว“ก็ฉันคบกับป่านมาตั้งแต่เป็นนักเรียน รวมเวลาก็นับสิบปี ขืนให้รอนานกว่านี้ แม่ยายจะได้ยกลูกสาวให้คนอื่นปะไร”“นายเลยมีลูกทันใช้อยู่คนเดียว”“ถ้านายสตาร

  • ห่อไฟรัก   บทที่ 9 คนงานใหม่ (2)

    ตะวันคงบ่ายคล้อยแล้ว ไม่รู้ว่าแสงแดดข้างนอกยังแผดจ้าอยู่หรือเปล่า แต่สำหรับในห้องพักนี้ จิณณารู้สึกเหมือนกำลังนอนอยู่ในตู้อบ“ร้อนจังเลย”เสื้อเชิ้ตเข้ารูปแขนยาวที่หวังจะให้กันแดดยามทำงานในไร่ เวลานี้มันรัดรึงจนแทบหายใจไม่ออกเรียวนิ้วที่เริ่มหยาบกร้านไต่ขึ้นตามสาปเสื้อ ไล่คลำหากระดุมเสื้อเม็ดบนสุดแล้วปลดออกโดยใช้เวลาเกือบนาที ก่อนจะเลื่อนมือลงไปหากระดุมเม็ดถัดไปเสียงครางอือในลำคออย่างพอใจเมื่อรู้สึกสบายตัวมากขึ้นทั้งที่ดวงตายังหลับพริ้ม จนเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะสะดวกสบายพอ มือเรียวขาวสะอาดจึงหล่นมาวางขนาบข้างลำตัวเรือนร่างอวบอิ่มทอดนิ่งอยู่บนเตียงนอนขนาดสามฟุตที่วางชิดผนังห้อง โดยมีฟูกนอนบางๆ รองรับ พัดลมตัวเดียวตรงมุมห้องยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งบ้านเงียบสงบ จิณณารู้สึกผ่อนคลายจนปล่อยตัวเองให้หลับใหล เพราะไม่อาจทนกับความเมื่อยล้าจากการกรำงานในไร่มาตลอดทั้งสัปดาห์ได้อีกอาทิตย์จิบเบียร์เย็นพลางทอดมองน้องชายและหญิงสาวร่างโปร่งบางที่กำลังไดร์ฟกอล์ฟอยู่เบื้องหน้าไกลๆ จนเมื่อรู้สึกถึงแรงตบตรงหัวไหล่จนเขาถึงก

  • ห่อไฟรัก   บทที่ 8 คนงานใหม่ (1)

    ใกล้เที่ยงวัน แม้สายลมหนาวจะพัดมาเป็นระลอก แต่จิณณาก็รู้สึกแสบร้อนผิวหน้าเพราะแสงแดดที่แผดจ้า หล่อนคลี่ผ้าคลุมไหล่ผืนสวยขึ้นมาคลุมศีรษะเพื่อป้องกันแสงแดด แล้วก้มหน้าทำงานต่อ พลันก็ได้ยินเสียงคุ้นหูของหัวหน้าคนงานดังอยู่ใกล้ๆ“หน้าแดงยังกับกุ้งต้ม ไปพักที่ร่มก่อนเถอะหนูจิณ ช่วงบ่ายค่อยมาทำต่อ”“ขอบคุณค่ะลุงชื่น แต่จิณจะตัดใบแปลงนี้ให้หมดก่อนแล้วค่อยพัก ดูของคนอื่นสิ เสร็จนำหน้าจิณไปอีกแล้ว”จิณณาบอกทั้งยังไม่เงยหน้าขึ้นจากต้นสตรอว์เบอร์รีที่ปลูกเรียงรายบนแปลง พลางใช้กรรไกรตัดใบแห้งบริเวณโคนต้นออกเพื่อรอรับผลผลิตที่จะตามมา“งั้นก็ทำไปเถอะ แต่ไม่ต้องรีบ เอาที่เราทำไหว คุณอั๋นไม่ได้เคี่ยวเข็ญกับพวกเรามาก คนงานในไร่นี้ นอกจากพวกที่เรี่ยวแรงยังดีก็ยังมีพวกง่อนแง่นอย่างยายป้อมและลุงผินอยู่ด้วย พวกนี้ก็ทำไปพักไปตามที่สังขารอำนวย”จิณณาเงยหน้าขึ้นมามองโดยรอบอย่างสังเกตตาม คนงานในไร่มีหลายวัยจริงตามที่ลุงชื่นพูด นอกจากคนหนุ่มสาวแล้วยังมีคนแก่ชรา กลุ่มหลังก็ทำงานได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย...จึงอดที่จะสงสัยไม่ได้“แล้วคุณอาทิตย์ไม่ขาดทุนแย่หรือจ๊ะ ถ้าเราทำงานกันแบบนี้ มันจะไม่คุ้มเงินค่าจ้างเอาสิ แล

  • ห่อไฟรัก   บทที่ 7 ไม่ใช่เพื่อน (4)

    “ฉันแค่ตลกเธอ ทำไมเธอต้องพูดดิฉันกับฉันด้วย” แม้เขาจะไม่ปล่อยให้หล่อนได้สงสัยนาน แต่จิณณาก็ไม่คิดจะขอบคุณเขาหรอกนะ“อ้าว! ก็คุณไม่ให้ดิฉันแทนตัวเองว่าหนู”“แล้วตอนเธอคุยกับคนอื่น เธอแทนตัวเองว่าอะไร”“ก็...หนู”“เพื่อนเธอล่ะ”“แต่คุณไม่ใช่เพื่อนดิฉันนี่คะ”“แน่นอน ฉันไม่ใช่เพื่อนเธอ ให้ตายยังไงฉันก็ไม่รับเธอเป็นเพื่อนของฉัน”“ค่ะ” หญิงสาวเผลอยู่ปาก คนระดับอาทิตย์จะมาคบเธอเป็นเพื่อนได้อย่างไร แค่เขามองเห็นเธอเป็นคนคนหนึ่ง ไม่ใช่ฝุ่นละอองที่ลอยฟุ้งในอากาศก็ถือว่าเกินคาดไปมากแล้ว“เมื่อกี้เธอรับคำว่าค่ะ...ค่ะ? คืออะไร”“ก็รับทราบว่าไม่ใช่เพื่อนค่ะ”อาทิตย์มองดวงหน้าสวยสุกปลั่งด้วยไอแดด มองเพื่อให้มั่นใจว่าคำพูดนั้นไม่ได้แฝงการประชด หากก็ไม่พบอารมณ์อื่นใดในแววตาของหล่อน นอกจากการคาดคะเนและรอลุ้นจนชายหนุ่มอดที่จะใจอ่อนไม่ได้ สุดท้ายจึงบอกออกมา“ถ้าเธออยากทำงานในไร่ก็ตามใจ แต่ไม่ต้องย้ายไปบ้านพักคนงาน” อาทิตย์เว้นจังหวะ มองดวงหน้าของหญิงสาวที่ค่อยๆ แย้มเบิกอย่างดีใจใช่ นั่นละ นึกไว้อยู่แล้วว่าจะได้เห็น“บ้านพักคนงานไม่มีหลังที่ว่างสำหรับเธอ แล้วส่วนใหญ่พวกเขาอยู่กันเป็นครอบครัว เป็นผัว

  • ห่อไฟรัก   บทที่ 6 ไม่ใช่เพื่อน (3)

    “หนูรู้สึกได้เอง” ก็แค่ตอนที่จิณณาช่วยขนอาหารออกไปให้คนงานได้รับประทานตอนพักเที่ยง แล้วได้ยินพวกเขาถามกันว่ามื้อนี้เป็นฝีมือของใคร พอรู้ว่าไม่ใช่ของหล่อน ต่างก็หัวเราะดีใจกันยกใหญ่แต่ก็ยังดีนะ ที่พอเห็นว่าหล่อนยืนอยู่ใกล้ๆ พวกเขาก็อุบอิบบอกขอโทษ ก่อนจะพากันเดินหนีหลบหน้าหล่อนไปจนหมดจิณณาถอนหายใจยาว แล้วระบายต่ออย่างได้โอกาส“หนูทำงานไม่เป็น ทั้งที่เกิดมาเป็นลูกแม่ค้าในตลาด ไม่ใช่คุณหนูที่ไหนสักหน่อย”“ก็หนูจิณเรียนหนังสือตั้งแต่เด็กจนโต แล้วจะมีเวลาที่ไหนมาทำงานกันล่ะ ตั้งใจเรียนจนจบก็ดีแล้วนี่”“หนูเรียนจบแล้วทำงาน แต่หนูก็ถูกปลดจากงาน แสดงว่าหนูเป็นคนไม่เอาไหนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบ้านงานครัว หรืองานตามสายที่เรียนมา”“โธ่เอ๊ย! ชีวิตมันไม่ได้มีแค่นี้ เดี๋ยวหนูก็เจอทางที่ถนัดเอง”“แต่ปากท้องมันรอนานไม่ได้สิจ๊ะ”“แล้วจะเร่งรีบไปทำไม อยู่ช่วยงานที่นี่ไปเรื่อยๆ นี่แหละ แล้วไม่ต้องกลับไปอยู่บ้านแม่อีกนะ ความโชคดีไม่ได้เป็นของเราทุกคราว”สีหน้าของจิณณาสลดลง หล่อนเผลอยกมือขึ้นลูบแก้มด้านซ้ายภาพความเกรี้ยวกราดของแม่ในวันนั้นผุดขึ้นมา...วันที่จิณณากลับมาจากกรุงเทพฯ ด้วยหวังจะตั้งหลักอยู่กั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status