แชร์

บทที่ 82

ผู้เขียน: ลูกพีชแสนสวย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-11 18:52:05
ฉันรู้สึกไม่สบายอย่างมาก ทั้งตัวร้อนและปวดเมื่อยไปหมด

ฉันพยายามอดทนจนถึงเที่ยงคืน แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ต้องค่อย ๆ ลุกจากเตียงเพื่อหายา

แต่ฉันประเมินตัวเองสูงไปหน่อย ทันทีที่ลุกขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวก็หมุนติ้วไปหมด ในวินาทีถัดมาฉันก็ล้มลงกับพื้น

หลี่เสี่ยวอวี่ที่นอนอยู่ข้าง ๆ ฉันได้ยินเสียงจึงรีบลุกขึ้นมาเปิดไฟ

เมื่อเห็นว่าฉันนอนคว่ำอยู่บนพื้น เธอก็รีบกระโดดลงจากเตียงมาช่วยพยุงฉันขึ้น “ซิงลั่ว เธอเป็นอะไรไป?”

“เจี่ยนซิน หลี่หลินน่า ช่วยกันหน่อย มาช่วยฉันพยุงซิงลั่ว”

ในไม่ช้า ทุกคนในหอพักก็ตื่นขึ้นเพราะฉัน

“ตัวร้อนจัง” หลี่เสี่ยวอวี่สัมผัสหน้าผากฉัน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล “ซิงลั่ว เธอมีไข้สูงเลย ทำยังไงดี?”

ฉันแทบจะนั่งไม่ไหว ต้องนั่งพิงหลี่เสี่ยวอวี่บนเตียง พร้อมกับหลับตาพูดเบา ๆ “กินยาแก้ไข้แล้วนอนพัก เดี๋ยวก็ดีขึ้น ไม่ต้องห่วง”

เมื่อฉันพูดแบบนั้น พวกเธอก็ไม่พูดอะไรอีก

โชคดีที่เจี่ยนซินมียาสามัญประจำบ้านที่เตรียมไว้ก่อนมาเรียน รวมถึงเครื่องวัดไข้ด้วย

พวกเธอวัดอุณหภูมิให้ฉันแล้วให้ฉันดื่มน้ำอุ่นแก้วใหญ่ก่อนจะกินยาแก้ไข้

จากนั้นก็ช่วยฉันนอนพัก เมื่อจัดการทุกอย่างเร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 83

    ออกมาจากโรงพยาบาลก็เป็นเวลาบ่ายสามแล้วทางทนายได้ถอนคดีแล้ว และหลังจากที่กู้จือโม่ไปรับเฉินเยวี่ย เขาก็ส่งรูปถ่ายมาให้ฉันฉันเปิดโทรศัพท์ดูเพียงแค่แวบเดียว ก่อนจะล็อกหน้าจอไม่ว่ากู้จือโม่กับเฉินเยวี่ยจะทำอะไรกัน มันก็ไม่เกี่ยวกับฉันอีกต่อไป ตอนนี้ฉันไม่สนใจเลยว่าเขาทำอะไรหรือจะทำอะไรต่อไปสิ่งเดียวที่ฉันต้องการตอนนี้ คือการพาย่ามาอยู่กับฉัน เพื่อให้ท่านได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุขและมีสุขภาพแข็งแรงฉันเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ห่อตัวในเสื้อโค้ตขนสัตว์ให้กระชับขึ้น แล้วยกมือเตรียมเรียกรถกลับไปที่โรงเรียนทันทีที่ฉันยกมือ รถเบนท์ลีย์สีดำก็จอดอยู่ตรงหน้าฉันกระจกสีดำลดลง เผยให้เห็นลั่วอี้ฝานที่ยิ้มแย้มทักทายฉัน "เฮ้ ซิงลั่ว เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไง? มาหาฉันเป็นพิเศษหรือเปล่า?"ฉันมองเขา แล้วใช้นิ้วปัดผมที่ปลิวจากลมพร้อมตอบเสียงเรียบ "นายมีธุระอะไรหรือเปล่า? ถ้าไม่มี ช่วยหลบไปหน่อย ฉันจะเรียกรถ"เสียงของฉันฟังดูแหบแห้งเหมือนมีเม็ดทรายอยู่ในลำคอ คงเพราะอาการไข้และการไม่ได้พูดหรือกินอะไรนานลั่วอี้ฝานขมวดคิ้วก่อนจะเปิดประตูลงมาจากรถ "เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? ไม่สบายเหรอ?"เขาพูดพร้อมกับย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 84

    ดูเหมือนลั่วอี้ฝานจะหิวมาก เลยสั่งอาหารมาเสียเต็มโต๊ะเลยไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟฉันก้มหน้ากินโจ๊ก ขณะที่ลั่วอี้ฝานก้มหน้ากินข้าวไปด้วยแต่พอกินไปได้แค่ไม่กี่คำ ฉันก็รู้สึกกินไม่ลงแล้วฉันวางช้อนลงแล้วเงยหน้ามองลั่วอี้ฝานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม พยายามหาเรื่องคุย “แม่ของนายดีขึ้นหรือยัง?”ลั่วอี้ฝานเงยหน้าขึ้น ก่อนจะหยิบกระดาษเช็ดปากมาเช็ดปากเล็กน้อย “อาการทางกายไม่มีปัญหาอะไรแล้ว แค่ไม่ทำอะไรที่เกินกำลัง ก็น่าจะอยู่ถึงอายุร้อยปีได้สบาย”เขายังสามารถพูดเล่นได้อีก แสดงว่าเขาน่าจะโอเคแล้ว ฉันเลยไม่ได้พูดอะไรต่อพอเขากินไปอีกสักพัก ฉันคิดว่าถึงฉันจะเป็นคนตบหน้าเขา ฉันก็ควรเป็นฝ่ายจ่ายค่าอาหารให้ ถือว่าเป็นการขอโทษฉันจึงหาข้ออ้างและพูดขึ้น “ฉันขอไปห้องน้ำหน่อย นายกินไปก่อนนะ”ลั่วอี้ฝานกำลังแทะน่องไก่อยู่ เขาเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินฉันพูด “เธอคงไม่ทิ้งฉันไว้คนเดียวแบบครั้งที่แล้วอีกใช่ไหม?”“...”ใครว่าใจผู้หญิงลึกซึ้งเหมือนมหาสมุทร ใจผู้ชายก็ใช่ย่อยเหมือนกัน“ฉันจะกลับมาในสิบนาที”“ตกลง” ลั่วอี้ฝานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดสองครั้ง หน้าจอของเขาสว่างขึ้น “ตอนนี้เวลาบ่ายสามโมงห้าสิบเอ็ดนา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 85

    ฉันหันหลังเดินจากไป ปล่อยให้เฉินเยวี่ยยืนโกรธอยู่ที่เดิมจากที่ตกลงกับลั่วอี้ฝานไว้ว่าฉันจะกลับมาภายในสิบนาที แต่ฉันเกินเวลามาห้านาทีแล้วตอนที่ฉันกลับมา เขากำลังมองหาฉันอยู่ฉันเดินไปตรงหน้าเขา เขาหันกลับมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่เคยขมวดคิ้วผ่อนคลายลงทันที “ฉันนึกว่าเธอหนีไปอีกแล้วซะอีก”ฉันกลับมานั่งที่โต๊ะ “บอกว่าไม่หนีก็คือไม่หนี ฉันรักษาคำพูดเสมอ”ลั่วอี้ฝานยกคิ้วขึ้น ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามฉัน “ฉันก็รักษาคำพูดเหมือนกัน สิ่งที่ฉันเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ลองคิดดูอีกที เรามาคบกันเถอะ”ถ้าเป็นแต่ก่อน พอลั่วอี้ฝานพูดอะไรแบบนี้ ฉันคงจะด่าเขาไปแล้วแต่วันนี้ฉันกลับไม่อยากจะด่าเขาฉันเงยหน้ามองเขา มือยังถือช้อนกวนโจ๊กในถ้วยไปมาเมื่อเห็นว่าฉันไม่พูดอะไร และก็ไม่ด่าเขา ลั่วอี้ฝานจึงจัดเสื้อของเขาและยกคิ้วขึ้น “ว่าไง? ตกลงจะยอมเป็นแฟนฉันแล้วใช่ไหม?”ก่อนที่ฉันจะตอบ สีหน้าขี้เล่นของลั่วอี้ฝานก็เปลี่ยนไป เขาวางตะเกียบลงอย่างแรงและขมวดคิ้วพร้อมพูดอย่างหัวเสีย “ซวยชะมัด!”ฉันเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปแบบนี้ พอหันตามสายตาของเขา ฉันก็เห็นกู้จือโม่กับเฉินเยวี่ยและกลุ่มคนเดินเข้าม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 86

    ฉันไม่อยากขยับตัวเลยสักนิด แต่พอคิดถึงเงื่อนไขการจ้างงานที่บอกไว้ว่านอกจากให้บริการด้านงานแล้ว ฉันยังต้องช่วยเหลือในเรื่องส่วนตัวของอัลเลนบ้างเป็นครั้งคราว ฉันจึงตัดสินใจพิมพ์ตอบกลับไปแค่คำว่า "ได้"ไม่นานหลังจากนั้น อัลเลนก็ส่งข้อความมาอีกครั้งเขาบอกให้ฉันเพิ่มเขาเป็นเพื่อนในวีแชทและบันทึกเบอร์โทรของเขาไว้ เผื่อมีอะไรจะได้ติดต่อกันสะดวกฉันทำตามที่เขาบอก เพิ่มวีแชทของเขาและบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ไว้หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ ฉันก็ทำใจลุกขึ้น กินยาที่โรงพยาบาลให้มา แล้วเรียกรถไปที่บาร์ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ฉันก็มาถึงที่อยู่ที่อัลเลนบอกไว้ฉันให้พนักงานพาฉันไปที่ห้องส่วนตัว พอเปิดประตูเข้าไปก็พบกู้จือโม่ที่เมาจนหมดสภาพฉันหันหลังเตรียมจะเดินออกไป แต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นสายจากอัลเลนฉันกดรับสาย อัลเลนก็ถามขึ้นมาทันที “แอนนา เธอรับคนหรือยัง? รบกวนเธอหน่อยนะ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง เมื่อกี้ตอนฉันกำลังวาดแบบอยู่ที่บาร์โทรมาบอกให้ฉันไปรับเขา แต่ฉันออกไปไม่ได้”“ฉันไม่รู้จักใครในปักกิ่ง ก็เลยนึกถึงเธอ หวังว่าเขาจะไม่ทำให้เธอลำบากเกินไป”“สิ้นเดือนฉันจะจ่ายโบนัสให้ ขอบคุณม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 87

    ดูเหมือนว่าเขาจะเจ็บจริง ๆ เพราะกู้จือโม่ปล่อยมือออกในที่สุดฉันดึงมือกลับมาโดยไม่สนใจที่จะมองเขาอีกแม้แต่นิดเดียวครึ่งชั่วโมงต่อมา รถก็จอดที่หน้าบ้านของกู้จือโม่ฉันพยายามดึงเขาลงมาจากรถ น้ำหนักตัวทั้งหมดของเขากดทับอยู่บนตัวฉันฉันเองเพิ่งฟื้นตัวจากการป่วยหนัก ทำให้แบกร่างใหญ่ขนาดนี้ไม่ไหว พยายามพยุงเขาเดินไปได้สองก้าว แต่ยังไม่ทันถึงหน้าประตู เท้าของฉันก็สะดุดและเราทั้งคู่ก็ล้มลงไปกับพื้นแต่ความเจ็บปวดที่คาดหวังไว้กลับไม่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตำแหน่งของเราสลับกัน คนที่ล้มลงไปก็คือกู้จือโม่ฉันได้ยินเสียงเขาครางออกมาเบา ๆ และเห็นเขาขมวดคิ้วเพราะความเจ็บปวด เขาลืมตาขึ้นฉันรีบลุกขึ้นจากตัวเขาและถามด้วยความเป็นห่วง "นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"กู้จือโม่ยกมือขึ้นกุมที่ท้ายทอย "เจ็บ"เสียง "ตุบ" ที่ได้ยินเมื่อกี้คือศีรษะเขากระแทกพื้นหรือเปล่านะ?ฉันรีบย่อตัวลงไปช่วยพยุงเขานั่งขึ้น "เจ็บตรงไหน? มีเลือดออกไหม?"พูดจบ ฉันก็เอื้อมมือไปตรวจดูบริเวณท้ายทอยของเขาไม่มีเลือดออก แต่มีรอยบวมปูดใหญ่มากฉันแตะเบา ๆ ที่รอยบวมนั้น ทำให้กู้จือโม่สูดลมหายใจเข้าอย่างเจ็บปวด "ซี้ด"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 88

    "แล้วก็เรื่องย่าของเธอ เฉียวเจี้ยนกั๋วจะไม่กล้ามาใช้ย่าเธอข่มขู่เธออีกแล้ว""ลั่วลั่ว" กู้จือโม่พยายามยื่นมือมาจับมือฉัน "อย่าเกลียดฉันได้ไหม?""กู้จือโม่" ฉันดึงมือกลับไปไว้ด้านหลังแล้วจ้องเข้าไปในตาของเขา "นายชอบฉันใช่ไหม?"กู้จือโม่เป็นคนหยิ่งทะนงและไม่ถนัดในการแสดงออกทางคำพูด หลายครั้งที่คำพูดของเขามักไม่ตรงกับสิ่งที่เขาคิดในใจ เขาเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะ ทำให้ตั้งแต่เกิดเขาก็ได้รับสิทธิพิเศษในการที่คนอื่นต้องมารุมล้อมชื่นชมเขา ซึ่งนั่นทำให้เขาไม่ค่อยรู้วิธีแสดงออกทางอารมณ์ฉันคุ้นชินกับความดื้อรั้นและปากแข็งของเขา แต่ท่าทีที่เขาตั้งใจลดลงในตอนนี้ ทำให้ฉันรู้สึกไม่คุ้นเคย และไม่อาจมองข้ามความเปลี่ยนแปลงของเขาที่มีต่อฉันได้แต่ทั้งหมดนี้มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กู้จือโม่เริ่มมีความรู้สึกที่ต่างไปจากเดิมกับฉัน?ฉันจ้องมองกู้จือโม่ แต่ก็นึกถึงสัญญาณอะไรของเรื่องนี้ไม่ออกเลยฉันหวังให้กู้จือโม่ตอบว่า "ไม่ใช่" แต่หลังจากที่ฉันถามออกไป สีหน้าของเขากลับดูผ่อนคลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกู้จือโม่มองฉันอย่างตรงไปตรงมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ "ใช่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 89

    ไม่รู้ว่าหนุ่มน้อยคนนั้นพูดอะไรกับเฉินเยวี่ย แต่เธอก็ซบอยู่ในอ้อมกอดของเขา หัวเราะอย่างมีความสุขท่ามกลางสายตาของคนรอบข้าง พวกเขากอดกันอย่างไม่อายใครหรือว่ากู้จือโม่ถูกเฉินเยวี่ยนอกใจแล้ว?ฉันมองอย่างเหม่อลอย จนกระทั่งพนักงานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทักขึ้น "คุณผู้หญิงคะ จะเลือกหม้อไฟแบบไหนดีคะ?"ฉันจึงได้สติกลับมาและรีบหลบสายตา "ขอโทษทีค่ะ" ฉันยิ้มอย่างขอโทษและมองไปที่เมนู "เอาหม้อไฟแบบยวนยาง[footnoteRef:0]นะคะ ขอบคุณค่ะ" [0: หม้อไฟแบบที่แบ่งช่องใส่ได้สองน้ำซุป] หลังจากพนักงานเดินจากไป ฉันก็สั่งอาหารเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยมื้อนั้นเป็นมื้อที่สนุกมากอาจจะเป็นเพราะความเผ็ดทำให้ฉันเจริญอาหาร ฉันเลยกินได้เยอะกว่าปกติระหว่างที่ฉันไปเข้าห้องน้ำ พอออกมาฉันก็เห็นเฉินเยวี่ยยืนเติมเครื่องสำอางอยู่ที่อ่างล้างหน้าพอเธอเห็นฉัน ดวงตาของเธอก็มีแววหวั่นไหวเล็กน้อย แต่ไม่นานเธอก็กลับมาทำตัวเป็นปกติฉันเดินไปเปิดก๊อกน้ำล้างมือ พอเช็ดมือเสร็จ เฉินเยวี่ยก็พูดขึ้นมา "เฉียวซิงลั่ว ตอนนี้เธอคงรู้สึกภูมิใจมากสินะ?"ภูมิใจงั้นเหรอ?ฉันภูมิใจเรื่องอะไร?ฉันเอียงหัวมองเฉินเยวี่ย กำลังจะถามเธอว่าฉันภูมิใจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 90

    ฉันหัวเราะเบา ๆ “น่าเสียดายเหมือนกันนะ พวกเขาก็ดูเหมาะสมกันดีอยู่แท้ ๆ”ตอนที่เฉินเยวี่ยใส่ร้ายฉัน ฉันได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อน ๆ ฟังแล้วหลี่เสี่ยวอวี่และเจี่ยนซินสบตากัน เจี่ยนซินดูเหมือนจะอยากถามอะไรบางอย่าง แต่หลี่เสี่ยวอวี่รีบเอามือปิดปากเธอและลากตัวเธอออกไป “พอแล้ว ๆ เล่าข่าวซุบซิบจบแล้ว ทีนี้เรามาคิดกันดีกว่าว่าคืนนี้จะกินอะไรกัน”“จริงด้วย” หลี่เสี่ยวอวี่กดเจี่ยนซินให้นั่งลงบนเก้าอี้แล้วหันกลับมาถามฉัน “เธอจะกลับบ้านพรุ่งนี้ใช่ไหม? แล้วไฟลต์บินกี่โมง?”“บ่ายสามโมง”…… ที่อวิ๋นเฉิงพอฉันออกมาจากสนามบิน ก็สัมผัสได้ถึงลมร้อนที่พัดมาปะทะหน้าคงเพราะฉันชินกับฤดูหนาวของปักกิ่งแล้ว ฉันจึงต้องใช้เวลาสักพักเพื่อปรับตัว ก่อนจะถอดเสื้อโค้ตขนเป็ดออก“คุณหนู”ขณะที่ฉันเพิ่งถอดเสื้อโค้ตลง คนขับรถของบ้านก็มาถึงพอดีฉันพยักหน้าให้ ส่งกระเป๋าเดินทางให้เขา แล้วก้มตัวขึ้นรถในกรุ๊ปแชทหอพัก หลี่เสี่ยวอวี่กับเจี่ยนซินถามฉันว่าถึงหรือยังฉันตอบพวกเธอแล้วก็พูดคุยกันสักพัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วพบว่าทางที่เรากำลังไปนั้นไม่ใช่ทางกลับบ้านตระกูลเฉียวฉันขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม “ลุงหวัง เร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11

บทล่าสุด

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 244

    การไม่รบกวนเขา คือสิ่งที่ฉันสามารถทำได้มากที่สุด เมื่อฉันก้าวเข้าไปในโรงแรมด้วยชุดเดรสยาวสีฟ้าน้ำทะเล สายตาหลายคู่ก็จับจ้องมาที่ฉันในทันที บางทีสำหรับฉันในตอนนี้ ความอ่อนเยาว์และความงามอาจเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุด คนจำนวนมากมักจะมองแต่เปลือกนอกของผู้อื่นอย่างผิวเผิน หากแม้แต่ความตั้งใจที่จะทำความเข้าใจยังไม่มี แล้วโอกาสที่จะพัฒนาให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? โชคดีที่ตอนนี้ฉันมีทุกอย่างแล้ว ใบหน้าที่ซีดเซียวในอดีตหายไปแล้ว แต่สิ่งที่ได้มาคือร่างกายที่สดใหม่ อ่อนเยาว์ และงดงามกว่าเดิม เมื่อฉันไปร่วมงานเลี้ยงเพียงลำพัง มองดูอาหารอันโอชะบนโต๊ะและกลุ่มคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ใจฉันก็พอจะเข้าใจแล้วว่างานเลี้ยงคืนนี้มีความหมายว่าอย่างไรไม่ใช่เงินทุกก้อนที่จะหามาได้ง่าย ๆ บางก้อนนั้นต้องแลกด้วยชีวิต เพื่อแสดงถึงความจริงใจของตัวเอง และเพื่อให้โดดเด่นท่ามกลางคนเหล่านี้ ฉันยกแก้วขึ้นกล่าวคำเชิญดื่มก่อนเป็นคนแรก จากนั้นก็แสดงเจตจำนงของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาและมั่นใจ คนเหล่านี้ก็ดูจะคอแข็งกันทั้งนั้น อาจเป็นเพราะเก่งเรื่องงานสังคม พอดื่มไปได้สักพัก ฉันก็เริ่มรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 243

    เดิมทีอากาศค่อนข้างแจ่มใส แต่ตอนนี้กลับมีฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ฝนที่ตกลงมาอย่างกะทันหัน ทำให้ฉันรู้สึกกระวนกระวายยิ่งขึ้น และยังเกิดความไม่สบายใจขึ้นมาในใจ โชคดีที่ไม่นานฉันก็กลับถึงบ้าน และพอถึงบ้าน ฉันรีบลงไปแช่น้ำร้อนในอ่างทันที ฉันพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปล่อยวางทุกอย่าง ทำให้จิตใจของตัวเองค่อย ๆ กลับมาสงบอีกครั้ง อย่าให้เรื่องใดมาส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของฉัน และอย่าให้ความรู้สึกใด ๆ มาควบคุมเส้นทางชีวิตของฉัน ชาติที่แล้วฉันใช้เวลาทั้งหมดไปกับการพยายาม แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่เป็นที่น่าพอใจ แถมยังทำให้ฉันรู้สึกขำตัวเอง เพราะการทุ่มเทความรู้สึกทั้งหมดไปกับความรักนั้น สุดท้ายก็แค่ทำให้ตัวเองยิ่งลำบากและน่าสมเพชมากขึ้นเท่านั้น ครั้งนี้ ฉันมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตา แต่ฉันไม่แน่ใจว่าตัวเองจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้หรือไม่ เมื่อฉันยืนอยู่ในห้องมืด ๆ สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำ มองลงไปข้างล่างผ่านหน้าต่าง ฝนที่เทกระหน่ำภายใต้แสงไฟถนนกลับดูงดงามอย่างน่าเศร้าใจ พาให้ความคิดของฉันย้อนกลับไปในชาติที่แล้ว ซึ่งเป็นค่ำคืนฝนตกที่เย็นชาและเงียบงันไม่ต่างกัน วันนั้นฉันสวมเสื้อโค้ตผ้าขนสั

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 242

    เขาเป็นพ่อของฉันจริง ๆ ซึ่งฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อนี้ได้ แต่เขากลับต้องการขายลูกสาวเพื่อไต่เต้า แถมยังมองฉันเป็นเพียงเครื่องมือที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ตามใจอีก เขามีลูกสาวสองคน แต่ชีวิตของเราสองคนกลับแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ราวกับว่าฉันเป็นเพียงรองเท้าคู่หนึ่งที่ใครก็สามารถหยิบไปใส่ได้ เขาไม่เคยใส่ใจหรือให้ความสำคัญกับฉันเลย บางทีอาจเป็นเพราะฉันคาดหวังในความสัมพันธ์นี้มากเกินไป หรือเพราะฉันต้องการความรักจากครอบครัวที่ไม่เคยได้รับมาก่อน จึงผลักดันตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนถึงทางตัน “ตอนนั้นตระกูลเฉียวได้รับผลประโยชน์จากฉันไปไม่น้อย ฉันก็หวังให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการ แต่ภายหลังก็เพิ่งเข้าใจว่า เรื่องดี ๆ จะมีมากมายขนาดนั้นได้ยังไงกัน?” บางทีอาจมีเพียงในสถานการณ์แบบนี้เท่านั้นที่ฉันจะพูดอะไรออกมาได้ แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะช่วยให้ฉันสงบลงได้ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเรื่องตลกที่น่าขัน ทำได้เพียงบอกความในใจที่ไม่กล้าพูดออกไปให้คนข้าง ๆ ฟัง เขาเพียงรับฟังอย่างเงียบ ๆ เป็นผู้ฟังที่ซื่อสัตย์ที่สุด ส่วนฉันในตอนนั้นก็ได้แต่ครุ่นคิดทุกสิ่งเงียบ ๆ พร้อมกับค่อย ๆ ระบายความเจ็บปวดในใจออก

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 241

    ผู้อาวุโสหนานเผยรอยยิ้มเล็กน้อยด้วยความพึงพอใจ ท่าทีที่มองฉันก็แฝงไว้ด้วยความภูมิใจเล็กน้อย ฉันรู้ว่านี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก แต่การจะคว้ามันไว้ได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของฉันเองล้วน ๆ “สาวน้อยเฉียว เธออย่าเพิ่งดีใจไป ฉันอยากแนะนำเขาให้เธอก็จริง แต่เขานิสัยประหลาดกว่าฉันอีกนะ จะทำให้เขายอมรับนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย” ผู้อาวุโสหนานรีบพูดขัดทันที ทำให้ฉันยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น ราวกับว่าตอนที่ฉันกำลังตกอยู่ในวิกฤต ฉันคว้าไว้ได้เพียงฟางเส้นสุดท้าย แต่กลับพบว่าฟางเส้นนี้ช่วยอะไรฉันไม่ได้เลย “แต่ด้วยความสามารถของเธอ ฉันเชื่อว่าเธอจัดการได้แน่นอน” ความกดดันถาโถมเข้ามาอย่างมหาศาล จนฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะล้มลง และในชั่วขณะหนึ่งก็ไม่รู้จะไปทางไหนต่อดี ทุกสิ่งในตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย การจะดำเนินไปตามเส้นทางในชาติที่แล้วนั้นเป็นเรื่องยากเหลือเกิน แต่ข้อมูลที่ฉันมีอยู่มากพอที่จะทำให้ฉันคว้าความได้เปรียบล่วงหน้ามื้อนี้เป็นมื้อที่น่าพึงพอใจ แม้จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ก็ได้พบกับวิธีแก้ไขใหม่ ๆ แทน เม้มริมฝีปากแน่น ไม่พูดอะไรตลอดทางกลับบ้าน นั่งอยู่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 240

    เหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ ฉันรู้สึกผิดหวังทันที แต่ก็รีบรวบรวมกำลังใจกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ฉันรู้ดีว่าโอกาสมักเป็นของคนที่เตรียมพร้อม ฉันจึงไม่อาจยอมแพ้ไปง่าย ๆ แบบนี้ นี่คือหนทางเดียวที่ฉันจะพิสูจน์ตัวเองได้ และยังเป็นก้าวแรกในชีวิตของฉันด้วย ฉันสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดอย่างช้า ๆ ว่า “ผู้อาวุโสหนาน ฉันเข้าใจถึงความกังวลของคุณค่ะ แต่ได้โปรดเชื่อว่าโครงการเซาท์เทิร์น ฮิลด์ เรสซิเดนซ์ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานใหม่สำหรับคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่สามารถทำให้แสงแห่งศิลปะของคุณเปล่งประกายได้อีกครั้งด้วย อีกทั้งฉันเชื่อว่าโครงการที่คุณกำลังทำอยู่และโครงการเซาท์เทิร์น ฮิลด์ เรสซิเดนซ์ต้องมีความเชื่อมโยงที่น่าอัศจรรย์บางอย่าง ซึ่งสามารถสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ค่ะ” หลังจากที่ผู้อาวุโสหนานได้ยินดังนั้น แววตาก็ฉายแววความสงสัยขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนคำพูดของฉันจะดึงดูดความสนใจของเขา จนเขาเริ่มพิจารณาข้อเสนอของฉันอีกครั้ง ฉันรีบฉวยโอกาสกล่าวต่อไปว่า “ผู้อาวุโสหนาน คุณทราบหรือเปล่าคะว่าฉันชื่นชมคุณมาโดยตลอด ผลงานของคุณมอบทั้งแรงบันดาลใจและข้อคิดให้ฉันมากมาย ส่วนโครงการเซาท์เ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 239

    ฉันสูดลมหายใจลึก ตัดสินใจที่จะพูดคุยกับผู้อาวุโสหนานให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น หวังว่าจะสามารถกระตุ้นความรักและความมุ่งมั่นที่เขามีต่อศิลปะสวนภูมิทัศน์ในใจของเขาได้ “ผู้อาวุโสหนาน คุณรู้ไหมคะ? ฉันคิดมาตลอดว่าสวนไม่ได้เป็นแค่การจัดวางสิ่งปลูกสร้างกับต้นไม้ แต่มันเหมือนภาพวาดที่มีชีวิต เป็นโลกที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและเรื่องราว และในฐานะที่คุณเป็นปรมาจารย์ด้านศิลปะจีน น่าจะเข้าใจเสน่ห์ของการผสมผสานศิลปะกับการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ” ฉันมองผู้อาวุโสหนานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความปรารถนา หวังว่าสายตานั้นจะสื่อความรู้สึกของฉันออกไปได้ ผู้อาวุโสหนานได้ยินดังนั้น แววตาก็เปล่งประกายวาบหนึ่ง ก่อนจะวางถ้วยชาลงและดูเหมือนจะจมอยู่ในความคิด ฉันรู้ว่าฉันได้แตะต้องจุดที่อ่อนไหวบางอย่างในใจของเขาเข้าแล้ว คนระดับปรมาจารย์ในแวดวงวิชาการแบบนี้มักไม่ใส่ใจเรื่องเงินทอง สำหรับพวกเขา เป็นเพียงของนอกกายเท่านั้น พวกเขาเหมือนภูเขาน้ำแข็งที่ลอยล่องกลางทะเล ซึ่งต้องการคนที่เข้าใจและเข้าถึงได้อย่างแท้จริง และฉันสามารถมอบคุณค่าทางอารมณ์ที่เพียงพอให้กับเขาได้ อีกทั้งยังตอบสนองความปรารถนาของเขาได้อ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 238

    ขณะที่ฉันกำลังครุ่นคิดหนักเพื่อหาเรื่องคุย ก็ไม่คาดคิดว่าผู้อาวุโสหนานจะเป็นฝ่ายพูดถึงโครงการเซาท์เทิร์น ฮิลด์ เรสซิเดนซ์ขึ้นมาก่อนเอง โครงการนี้เดิมทีตั้งใจจะสร้างสวนสไตล์พิเศษ คล้ายกับพระราชวังต้องห้ามสมัยโบราณ แต่ต้องตอบสนองความต้องการด้านความงามยุคสมัยใหม่ โดยผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับความงดงามของสวนโบราณอย่างลงตัว ตอนนี้แบบร่างเบื้องต้นได้ออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีรายละเอียดหลายจุดที่ยังไม่ได้ปรับแก้ มีเพียงโครงร่างคร่าว ๆ เท่านั้น แน่นอนว่าฉันหวังว่าเขาจะเข้าร่วมโครงการนี้ เพื่อช่วยเราเติมเต็มรายละเอียดให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น “โครงการในตอนนี้ยังอยู่ขั้นตอนเริ่มต้น จำเป็นต้องมีแบบร่างและแนวคิดการออกแบบที่ยอดเยี่ยมเพียงพอ เพื่อให้โครงการนี้พัฒนาต่อไปได้อย่างราบรื่นในอนาคตค่ะ” ความหมายข้างต้นชัดเจนมาก หากเราไม่สามารถนำเสนอแบบร่างที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามพึงพอใจได้อย่างเต็มที่ ก็จะไม่สามารถเจรจาธุรกิจนี้ต่อได้ ผู้อาวุโสหนานดูเหมือนจะใส่ใจอยู่ไม่น้อย แต่เพียงแค่นั่งจิบชาโดยไม่เอ่ยคำใด ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แววตาของเขาแฝงด้วยความคิดคำนึงเล็กน้อย บางครั้ง การอยู่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 237

    “เริ่มพยายามตั้งแต่เนิ่น ๆ งั้นเหรอ?” ผู้อาวุโสหนานทวนคำพูดของฉัน ดวงตาแสดงความชื่นชมเล็กน้อย “หนุ่มสาวที่มีความคิดแบบนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากจริง ๆ” เขาลุกขึ้นยืน เดินช้า ๆ ไปยังริมหน้าต่าง มองออกไปไกลราวกับกำลังนึกถึงบางสิ่งในความทรงจำ “เธอรู้ไหม สาวน้อยเฉียว ตอนฉันยังหนุ่ม ฉันเองก็เคยเป็นเหมือนเธอ มีทั้งความฝันและความมุ่งมั่น อยากสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาให้ได้” เสียงของผู้อาวุโสหนานเจือด้วยความเก่าแก่และความรู้สึกซาบซึ้ง “แต่กาลเวลาไม่เคยปรานีใคร ตอนนี้ฉันก็หมดเรี่ยวแรงไปมากแล้ว แค่หวังว่าจะหาหนุ่มสาวที่มีศักยภาพสักคน มารับช่วงต่อจากฉันได้” ฉันยืนอยู่เงียบ ๆ ที่ข้าง ๆ ฟังคำพูดของผู้อาวุโสหนาน พลันเกิดความรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ฉันรู้ดีว่านี่อาจเป็นโอกาสที่ใกล้เคียงกับความสำเร็จที่สุดสำหรับฉัน “ผู้อาวุโสหนาน คุณไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ค่ะ” ฉันพูดอย่างจริงจัง “ไม่ใช่แค่เพื่อตัวฉันเอง แต่เพื่อความคาดหวังของคุณด้วย”ผู้อาวุโสหนานหันกลับมามองฉัน ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความพึงพอใจเล็กน้อย “ดีมาก สาวน้อย ฉันเชื่อในตัวเธอ แต่จำไว้นะ ความสำเร็จไม่ใช

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 236

    บนใบหน้าของลั่วอี้ฝานมีแววประหลาดใจเล็กน้อย คล้ายกับได้เจอเพื่อนรู้ใจที่เข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร ผู้อาวุโสหนานก็เอ่ยขึ้นก่อนว่า “สาวน้อย เธอเล่นหมากรุกเป็นไหม?” จู่ ๆ ก็ถูกเรียกชื่อ ฉันนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะได้สติกลับมาแล้วตอบว่า “เคยเล่นในมือถือไม่กี่ครั้งเองค่ะ ดูเหมือนว่าจะเล่นไม่เป็นค่ะ” ฉันพูดอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งดูเหมือนผู้อาวุโสหนานจะชอบความตรงไปตรงมาของฉันเช่นกัน ท่านโบกมือเรียกฉันพร้อมพูดว่า “มานี่สิ เดี๋ยวฉันสอนให้” ฉันพยักหน้ารับก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไปหา นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของกระดานหมากรุก ผู้อาวุโสหนานอธิบายกฎของหมากล้อมให้ฉันฟัง ฉันตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ ไม่นานนักผู้ช่วยก็เอากระดานหมากรุกชุดใหม่มาให้ ผู้อาวุโสหนานส่งหมากสีดำให้ฉันพร้อมพูดว่า “ลองดูไหม?” ฉันรับมาก่อนจะพูดด้วยความลำบากใจปนลังเลว่า “แต่คุณปู่ต้องอย่าโกรธจนปาแผ่นกระดานนะคะ” “แล้วก็ห้ามไล่พวกเราออกไปด้วยนะคะ”ฉันกอดถ้วยหมากล้อมไว้ มือขวาหยิบหมากสองตัวขึ้นมา พร้อมกล่าวว่า “แม่น้ำแยงซีคลื่นลูกเก่าผลักดันคลื่นลูกใหม่ คุณต้องให้โอกาสพวกเราเติบโตบ้างนะคะ” ความจริงตอนที่พูดคำพวก

DMCA.com Protection Status