Share

บทที่ 83

Author: ลูกพีชแสนสวย
ออกมาจากโรงพยาบาลก็เป็นเวลาบ่ายสามแล้ว

ทางทนายได้ถอนคดีแล้ว และหลังจากที่กู้จือโม่ไปรับเฉินเยวี่ย เขาก็ส่งรูปถ่ายมาให้ฉัน

ฉันเปิดโทรศัพท์ดูเพียงแค่แวบเดียว ก่อนจะล็อกหน้าจอ

ไม่ว่ากู้จือโม่กับเฉินเยวี่ยจะทำอะไรกัน มันก็ไม่เกี่ยวกับฉันอีกต่อไป ตอนนี้ฉันไม่สนใจเลยว่าเขาทำอะไรหรือจะทำอะไรต่อไป

สิ่งเดียวที่ฉันต้องการตอนนี้ คือการพาย่ามาอยู่กับฉัน เพื่อให้ท่านได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุขและมีสุขภาพแข็งแรง

ฉันเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ห่อตัวในเสื้อโค้ตขนสัตว์ให้กระชับขึ้น แล้วยกมือเตรียมเรียกรถกลับไปที่โรงเรียน

ทันทีที่ฉันยกมือ รถเบนท์ลีย์สีดำก็จอดอยู่ตรงหน้าฉัน

กระจกสีดำลดลง เผยให้เห็นลั่วอี้ฝานที่ยิ้มแย้มทักทายฉัน "เฮ้ ซิงลั่ว เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไง? มาหาฉันเป็นพิเศษหรือเปล่า?"

ฉันมองเขา แล้วใช้นิ้วปัดผมที่ปลิวจากลมพร้อมตอบเสียงเรียบ "นายมีธุระอะไรหรือเปล่า? ถ้าไม่มี ช่วยหลบไปหน่อย ฉันจะเรียกรถ"

เสียงของฉันฟังดูแหบแห้งเหมือนมีเม็ดทรายอยู่ในลำคอ คงเพราะอาการไข้และการไม่ได้พูดหรือกินอะไรนาน

ลั่วอี้ฝานขมวดคิ้วก่อนจะเปิดประตูลงมาจากรถ "เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? ไม่สบายเหรอ?"

เขาพูดพร้อมกับย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 84

    ดูเหมือนลั่วอี้ฝานจะหิวมาก เลยสั่งอาหารมาเสียเต็มโต๊ะเลยไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟฉันก้มหน้ากินโจ๊ก ขณะที่ลั่วอี้ฝานก้มหน้ากินข้าวไปด้วยแต่พอกินไปได้แค่ไม่กี่คำ ฉันก็รู้สึกกินไม่ลงแล้วฉันวางช้อนลงแล้วเงยหน้ามองลั่วอี้ฝานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม พยายามหาเรื่องคุย “แม่ของนายดีขึ้นหรือยัง?”ลั่วอี้ฝานเงยหน้าขึ้น ก่อนจะหยิบกระดาษเช็ดปากมาเช็ดปากเล็กน้อย “อาการทางกายไม่มีปัญหาอะไรแล้ว แค่ไม่ทำอะไรที่เกินกำลัง ก็น่าจะอยู่ถึงอายุร้อยปีได้สบาย”เขายังสามารถพูดเล่นได้อีก แสดงว่าเขาน่าจะโอเคแล้ว ฉันเลยไม่ได้พูดอะไรต่อพอเขากินไปอีกสักพัก ฉันคิดว่าถึงฉันจะเป็นคนตบหน้าเขา ฉันก็ควรเป็นฝ่ายจ่ายค่าอาหารให้ ถือว่าเป็นการขอโทษฉันจึงหาข้ออ้างและพูดขึ้น “ฉันขอไปห้องน้ำหน่อย นายกินไปก่อนนะ”ลั่วอี้ฝานกำลังแทะน่องไก่อยู่ เขาเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินฉันพูด “เธอคงไม่ทิ้งฉันไว้คนเดียวแบบครั้งที่แล้วอีกใช่ไหม?”“...”ใครว่าใจผู้หญิงลึกซึ้งเหมือนมหาสมุทร ใจผู้ชายก็ใช่ย่อยเหมือนกัน“ฉันจะกลับมาในสิบนาที”“ตกลง” ลั่วอี้ฝานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดสองครั้ง หน้าจอของเขาสว่างขึ้น “ตอนนี้เวลาบ่ายสามโมงห้าสิบเอ็ดนา

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 85

    ฉันหันหลังเดินจากไป ปล่อยให้เฉินเยวี่ยยืนโกรธอยู่ที่เดิมจากที่ตกลงกับลั่วอี้ฝานไว้ว่าฉันจะกลับมาภายในสิบนาที แต่ฉันเกินเวลามาห้านาทีแล้วตอนที่ฉันกลับมา เขากำลังมองหาฉันอยู่ฉันเดินไปตรงหน้าเขา เขาหันกลับมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่เคยขมวดคิ้วผ่อนคลายลงทันที “ฉันนึกว่าเธอหนีไปอีกแล้วซะอีก”ฉันกลับมานั่งที่โต๊ะ “บอกว่าไม่หนีก็คือไม่หนี ฉันรักษาคำพูดเสมอ”ลั่วอี้ฝานยกคิ้วขึ้น ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามฉัน “ฉันก็รักษาคำพูดเหมือนกัน สิ่งที่ฉันเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ลองคิดดูอีกที เรามาคบกันเถอะ”ถ้าเป็นแต่ก่อน พอลั่วอี้ฝานพูดอะไรแบบนี้ ฉันคงจะด่าเขาไปแล้วแต่วันนี้ฉันกลับไม่อยากจะด่าเขาฉันเงยหน้ามองเขา มือยังถือช้อนกวนโจ๊กในถ้วยไปมาเมื่อเห็นว่าฉันไม่พูดอะไร และก็ไม่ด่าเขา ลั่วอี้ฝานจึงจัดเสื้อของเขาและยกคิ้วขึ้น “ว่าไง? ตกลงจะยอมเป็นแฟนฉันแล้วใช่ไหม?”ก่อนที่ฉันจะตอบ สีหน้าขี้เล่นของลั่วอี้ฝานก็เปลี่ยนไป เขาวางตะเกียบลงอย่างแรงและขมวดคิ้วพร้อมพูดอย่างหัวเสีย “ซวยชะมัด!”ฉันเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปแบบนี้ พอหันตามสายตาของเขา ฉันก็เห็นกู้จือโม่กับเฉินเยวี่ยและกลุ่มคนเดินเข้าม

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 86

    ฉันไม่อยากขยับตัวเลยสักนิด แต่พอคิดถึงเงื่อนไขการจ้างงานที่บอกไว้ว่านอกจากให้บริการด้านงานแล้ว ฉันยังต้องช่วยเหลือในเรื่องส่วนตัวของอัลเลนบ้างเป็นครั้งคราว ฉันจึงตัดสินใจพิมพ์ตอบกลับไปแค่คำว่า "ได้"ไม่นานหลังจากนั้น อัลเลนก็ส่งข้อความมาอีกครั้งเขาบอกให้ฉันเพิ่มเขาเป็นเพื่อนในวีแชทและบันทึกเบอร์โทรของเขาไว้ เผื่อมีอะไรจะได้ติดต่อกันสะดวกฉันทำตามที่เขาบอก เพิ่มวีแชทของเขาและบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ไว้หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ ฉันก็ทำใจลุกขึ้น กินยาที่โรงพยาบาลให้มา แล้วเรียกรถไปที่บาร์ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ฉันก็มาถึงที่อยู่ที่อัลเลนบอกไว้ฉันให้พนักงานพาฉันไปที่ห้องส่วนตัว พอเปิดประตูเข้าไปก็พบกู้จือโม่ที่เมาจนหมดสภาพฉันหันหลังเตรียมจะเดินออกไป แต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นสายจากอัลเลนฉันกดรับสาย อัลเลนก็ถามขึ้นมาทันที “แอนนา เธอรับคนหรือยัง? รบกวนเธอหน่อยนะ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง เมื่อกี้ตอนฉันกำลังวาดแบบอยู่ที่บาร์โทรมาบอกให้ฉันไปรับเขา แต่ฉันออกไปไม่ได้”“ฉันไม่รู้จักใครในปักกิ่ง ก็เลยนึกถึงเธอ หวังว่าเขาจะไม่ทำให้เธอลำบากเกินไป”“สิ้นเดือนฉันจะจ่ายโบนัสให้ ขอบคุณม

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 87

    ดูเหมือนว่าเขาจะเจ็บจริง ๆ เพราะกู้จือโม่ปล่อยมือออกในที่สุดฉันดึงมือกลับมาโดยไม่สนใจที่จะมองเขาอีกแม้แต่นิดเดียวครึ่งชั่วโมงต่อมา รถก็จอดที่หน้าบ้านของกู้จือโม่ฉันพยายามดึงเขาลงมาจากรถ น้ำหนักตัวทั้งหมดของเขากดทับอยู่บนตัวฉันฉันเองเพิ่งฟื้นตัวจากการป่วยหนัก ทำให้แบกร่างใหญ่ขนาดนี้ไม่ไหว พยายามพยุงเขาเดินไปได้สองก้าว แต่ยังไม่ทันถึงหน้าประตู เท้าของฉันก็สะดุดและเราทั้งคู่ก็ล้มลงไปกับพื้นแต่ความเจ็บปวดที่คาดหวังไว้กลับไม่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตำแหน่งของเราสลับกัน คนที่ล้มลงไปก็คือกู้จือโม่ฉันได้ยินเสียงเขาครางออกมาเบา ๆ และเห็นเขาขมวดคิ้วเพราะความเจ็บปวด เขาลืมตาขึ้นฉันรีบลุกขึ้นจากตัวเขาและถามด้วยความเป็นห่วง "นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"กู้จือโม่ยกมือขึ้นกุมที่ท้ายทอย "เจ็บ"เสียง "ตุบ" ที่ได้ยินเมื่อกี้คือศีรษะเขากระแทกพื้นหรือเปล่านะ?ฉันรีบย่อตัวลงไปช่วยพยุงเขานั่งขึ้น "เจ็บตรงไหน? มีเลือดออกไหม?"พูดจบ ฉันก็เอื้อมมือไปตรวจดูบริเวณท้ายทอยของเขาไม่มีเลือดออก แต่มีรอยบวมปูดใหญ่มากฉันแตะเบา ๆ ที่รอยบวมนั้น ทำให้กู้จือโม่สูดลมหายใจเข้าอย่างเจ็บปวด "ซี้ด"

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 88

    "แล้วก็เรื่องย่าของเธอ เฉียวเจี้ยนกั๋วจะไม่กล้ามาใช้ย่าเธอข่มขู่เธออีกแล้ว""ลั่วลั่ว" กู้จือโม่พยายามยื่นมือมาจับมือฉัน "อย่าเกลียดฉันได้ไหม?""กู้จือโม่" ฉันดึงมือกลับไปไว้ด้านหลังแล้วจ้องเข้าไปในตาของเขา "นายชอบฉันใช่ไหม?"กู้จือโม่เป็นคนหยิ่งทะนงและไม่ถนัดในการแสดงออกทางคำพูด หลายครั้งที่คำพูดของเขามักไม่ตรงกับสิ่งที่เขาคิดในใจ เขาเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะ ทำให้ตั้งแต่เกิดเขาก็ได้รับสิทธิพิเศษในการที่คนอื่นต้องมารุมล้อมชื่นชมเขา ซึ่งนั่นทำให้เขาไม่ค่อยรู้วิธีแสดงออกทางอารมณ์ฉันคุ้นชินกับความดื้อรั้นและปากแข็งของเขา แต่ท่าทีที่เขาตั้งใจลดลงในตอนนี้ ทำให้ฉันรู้สึกไม่คุ้นเคย และไม่อาจมองข้ามความเปลี่ยนแปลงของเขาที่มีต่อฉันได้แต่ทั้งหมดนี้มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กู้จือโม่เริ่มมีความรู้สึกที่ต่างไปจากเดิมกับฉัน?ฉันจ้องมองกู้จือโม่ แต่ก็นึกถึงสัญญาณอะไรของเรื่องนี้ไม่ออกเลยฉันหวังให้กู้จือโม่ตอบว่า "ไม่ใช่" แต่หลังจากที่ฉันถามออกไป สีหน้าของเขากลับดูผ่อนคลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกู้จือโม่มองฉันอย่างตรงไปตรงมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ "ใช่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 89

    ไม่รู้ว่าหนุ่มน้อยคนนั้นพูดอะไรกับเฉินเยวี่ย แต่เธอก็ซบอยู่ในอ้อมกอดของเขา หัวเราะอย่างมีความสุขท่ามกลางสายตาของคนรอบข้าง พวกเขากอดกันอย่างไม่อายใครหรือว่ากู้จือโม่ถูกเฉินเยวี่ยนอกใจแล้ว?ฉันมองอย่างเหม่อลอย จนกระทั่งพนักงานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทักขึ้น "คุณผู้หญิงคะ จะเลือกหม้อไฟแบบไหนดีคะ?"ฉันจึงได้สติกลับมาและรีบหลบสายตา "ขอโทษทีค่ะ" ฉันยิ้มอย่างขอโทษและมองไปที่เมนู "เอาหม้อไฟแบบยวนยาง[footnoteRef:0]นะคะ ขอบคุณค่ะ" [0: หม้อไฟแบบที่แบ่งช่องใส่ได้สองน้ำซุป] หลังจากพนักงานเดินจากไป ฉันก็สั่งอาหารเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยมื้อนั้นเป็นมื้อที่สนุกมากอาจจะเป็นเพราะความเผ็ดทำให้ฉันเจริญอาหาร ฉันเลยกินได้เยอะกว่าปกติระหว่างที่ฉันไปเข้าห้องน้ำ พอออกมาฉันก็เห็นเฉินเยวี่ยยืนเติมเครื่องสำอางอยู่ที่อ่างล้างหน้าพอเธอเห็นฉัน ดวงตาของเธอก็มีแววหวั่นไหวเล็กน้อย แต่ไม่นานเธอก็กลับมาทำตัวเป็นปกติฉันเดินไปเปิดก๊อกน้ำล้างมือ พอเช็ดมือเสร็จ เฉินเยวี่ยก็พูดขึ้นมา "เฉียวซิงลั่ว ตอนนี้เธอคงรู้สึกภูมิใจมากสินะ?"ภูมิใจงั้นเหรอ?ฉันภูมิใจเรื่องอะไร?ฉันเอียงหัวมองเฉินเยวี่ย กำลังจะถามเธอว่าฉันภูมิใจ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 90

    ฉันหัวเราะเบา ๆ “น่าเสียดายเหมือนกันนะ พวกเขาก็ดูเหมาะสมกันดีอยู่แท้ ๆ”ตอนที่เฉินเยวี่ยใส่ร้ายฉัน ฉันได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อน ๆ ฟังแล้วหลี่เสี่ยวอวี่และเจี่ยนซินสบตากัน เจี่ยนซินดูเหมือนจะอยากถามอะไรบางอย่าง แต่หลี่เสี่ยวอวี่รีบเอามือปิดปากเธอและลากตัวเธอออกไป “พอแล้ว ๆ เล่าข่าวซุบซิบจบแล้ว ทีนี้เรามาคิดกันดีกว่าว่าคืนนี้จะกินอะไรกัน”“จริงด้วย” หลี่เสี่ยวอวี่กดเจี่ยนซินให้นั่งลงบนเก้าอี้แล้วหันกลับมาถามฉัน “เธอจะกลับบ้านพรุ่งนี้ใช่ไหม? แล้วไฟลต์บินกี่โมง?”“บ่ายสามโมง”…… ที่อวิ๋นเฉิงพอฉันออกมาจากสนามบิน ก็สัมผัสได้ถึงลมร้อนที่พัดมาปะทะหน้าคงเพราะฉันชินกับฤดูหนาวของปักกิ่งแล้ว ฉันจึงต้องใช้เวลาสักพักเพื่อปรับตัว ก่อนจะถอดเสื้อโค้ตขนเป็ดออก“คุณหนู”ขณะที่ฉันเพิ่งถอดเสื้อโค้ตลง คนขับรถของบ้านก็มาถึงพอดีฉันพยักหน้าให้ ส่งกระเป๋าเดินทางให้เขา แล้วก้มตัวขึ้นรถในกรุ๊ปแชทหอพัก หลี่เสี่ยวอวี่กับเจี่ยนซินถามฉันว่าถึงหรือยังฉันตอบพวกเธอแล้วก็พูดคุยกันสักพัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วพบว่าทางที่เรากำลังไปนั้นไม่ใช่ทางกลับบ้านตระกูลเฉียวฉันขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม “ลุงหวัง เร

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 91

    หลังจากที่เฉิงเฉิงพูดจบ ฉันก็ขมวดคิ้วฉันไม่คุ้นเคยกับฟางฉิงหยางเลย ปกติก็ไม่ได้ติดต่อกัน ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะต้องขึ้นเรือไปกับพวกเขา เขาสามารถบอกกับเฉิงเฉิงล่วงหน้าได้ยังไง?มีคำตอบหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว แต่ฉันไม่อยากคิดไปในทางนั้นฉันหันกลับมามองเฉิงเฉิง "ฟางฉิงหยางบอกเธอเมื่อไหร่?"“วันพุธไง ตอนนั้นพวกเรากำลังกินข้าวกันอยู่ที่โรงอาหาร เขารับประกันกับฉันเลยว่าเธอจะกลับมา ฉันถึงได้แอบกลับมาอย่างลับ ๆ”“เดิมทีฉันจะส่งข้อความทางวีแชทไปหาเธอ” เฉิงเฉิงขมวดคิ้ว “แต่ฟางฉิงหยางไม่ยอม บอกว่าอยากให้เธอเซอร์ไพรส์ดีใจตอนเจอฉัน”วันที่หนึ่งมกราคมปีสองพันยี่สิบห้าเป็นวันเสาร์พอดี และก็เป็นวันที่เฉียวเจี้ยนกั๋วโทรหาฉันพอดีด้วยเฉียวเจี้ยนกั๋วและกู้จือโม่วางแผนกันมาก่อนแล้วหรือเปล่า?ฉันเบือนสายตาไปตกอยู่ที่ร่างของกู้จือโม่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเจอกู้จือโม่ในรอบกว่าครึ่งเดือน นับตั้งแต่เราจากกันไม่ดีที่อพาร์ตเมนต์ของเขาเมื่อครั้งที่แล้วเขาสวมแว่นกันแดด เผยให้เห็นเพียงครึ่งล่างของใบหน้าที่ริมฝีปากเม้มลงเท่านั้น ดูไปแล้วช่างเย็นชาและเข้าถึงยาก ชุดลำลองสีดำทั้งตัวที่สวมใส่อยู่ ทำให้เขาดู

Latest chapter

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 348

    แววตาของเขาสะท้อนอารมณ์ที่ซับซ้อนออกมาเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เอ่ยขึ้นว่า “ฉันแค่เป็นห่วงเธอ ไม่อยากให้เธอได้รับบาดเจ็บหรือเจอเรื่องร้าย”ฉันถอนหายใจเบา ๆ ในใจรู้สึกซับซ้อนอยู่ไม่น้อยความห่วงใยของกู้จือโม่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกดดันไปด้วยฉันไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด และยิ่งไม่อยากให้เขาทำอะไรที่หุนหันพลันแล่นเพราะความเข้าใจผิดนั้น“กู้จือโม่ ฉันรู้ว่านายหวังดี แต่ฉันกับซูข่ายเหวินเป็นแค่เพื่อนกันจริง ๆ เราทั้งคู่กำลังพยายามเปิดโปงความผิดของศาสตราจารย์จาง ฉันหวังว่านายจะเข้าใจนะ”ฉันพยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองฟังดูจริงใจที่สุดเขาเงียบไปสักพัก แล้วค่อย ๆ พยักหน้า“ได้ ฉันเชื่อเธอ แต่เธอต้องระวังตัวให้ดี ศาสตราจารย์จางไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่าย ๆ”ฉันมองเขาด้วยความซาบซึ้งใจ แล้วพยักหน้าเบา ๆ“ฉันจะระวังตัว ขอบคุณนะ กู้จือโม่”เขายิ้มบาง ๆ ดวงตาสะท้อนความอ่อนโยนออกมาเล็กน้อย“ไม่ต้องเกรงใจ ไปเถอะ ฉันจะไปส่งเธอที่หอพักเอง”พวกเราเดินไปด้วยกันในบริเวณโรงเรียน แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องกระทบตัวเรา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเงียบสงบฉันรู้สึกถึงความสงบและความมั่นใจที่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 347

    ฉันแค่นหัวเราะเย็นโดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ส่วนผู้หญิงตรงหน้าดูจะไม่พอใจอย่างมากในตอนนี้“ฉันก็ไม่อยากพูดคำสวยหรูพวกนี้กับคุณ และก็ไม่มีเวลาจะเสียไปมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นพอแค่นี้เถอะ ฉันจะไปแล้ว”ฉันหันหลังแล้วเดินจากไป ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นตะโกนด่าทออยู่ข้างหลัง แต่ก็ทำอะไรฉันไม่ได้เลยพอฉันกลับมาถึงมหาวิทยาลัยก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นอยู่ไม่ไกลตามคาดกู้จือโม่เดินเข้ามาหาทันที พร้อมจ้องมองฉันด้วยสายตาร้อนแรง“ได้ยินมาว่าเธอได้รับบาดเจ็บ เป็นยังไงบ้าง?”ฉันยิ้มบาง ๆ พยายามทำให้ตัวเองไม่ดูอ่อนแอจนเกินไป“ไม่มีอะไรน่าห่วง แค่บาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น”กู้จือโม่ดูเหมือนไม่ค่อยเชื่อคำพูดของฉันนัก เขาขมวดคิ้วแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล“เธอแน่ใจนะ? ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ต้องบอกฉันนะ”ฉันพยักหน้าเบา ๆ ความอบอุ่นเอ่อล้นขึ้นในใจในโลกที่ซับซ้อนใบนี้ การมีใครสักคนที่ห่วงใยอยู่เสมอเป็นเรื่องที่อบอุ่นใจฉันไม่ได้แหลมคมเฉียบขาดเหมือนเมื่อก่อน และก็ไม่มีออร่าที่แข็งแกร่งแบบเดิมอีกแล้ว“ขอบคุณนะ ฉันจะระวังตัว”กู้จือโม่ดูเหมือนจะอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของฉั

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 346

    ในช่วงหลายวันต่อมา ฉันและซูข่ายเหวินให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของตำรวจอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งติดตามข่าวจากสื่ออย่างใกล้ชิดไม่นานนัก อาชญากรรมของศาสตราจารย์จางก็ถูกเปิดเผยออกมาทีละเรื่องแต่สิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจก็คือ เรื่องนี้กลับถูกกลบด้วยเหตุการณ์อื่นอย่างรวดเร็วและเรื่องนี้ก็ถูกตำรวจจัดการเรียบร้อยแล้ว แต่ฉันไม่คาดคิดเลยว่าคำตอบสุดท้ายจะทำให้ฉันประหลาดใจมาก โดยเฉพาะตอนที่ตำรวจยืนอยู่ตรงหน้าฉันและอธิบายทุกอย่างให้ฟัง“จากการสืบสวนของเรา พบว่าผู้ก่อเหตุเพียงแค่ต้องการปล้นเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาถูกจ้างวานให้ฆ่าแต่อย่างใด”ฉันเบิกตากว้าง แทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินปล้นงั้นเหรอ?เป็นไปได้ยังไง?คนนั้นชัดเจนว่าเล็งเป้าหมายมาที่ฉันโดยตรง แถมยังทิ้งคำพูดที่เกี่ยวข้องกับศาสตราจารย์จางไว้หลังจากก่อเหตุ นี่มันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญได้จริง ๆ เหรอ?“แต่... มีดในมือของเขา วิธีที่เขาโจมตีฉัน รวมถึงคำพูดนั้น...”ฉันพยายามอธิบาย แต่เสียงของฉันกลับอ่อนลงเรื่อย ๆซูข่ายเหวินจับมือฉันไว้ เป็นสัญญาณให้ฉันสงบสติอารมณ์ลงเขาหันไปมองตำรวจ ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยและความไม่เข้าใจตำรวจดู

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 345

    ฉันตกใจอย่างมาก คาดไม่ถึงเลยว่าคนคนนี้จะลงมือทำร้ายฉันจริง ๆฉันรีบปรับสภาพจิตใจของตัวเองอย่างรวดเร็ว เตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีที่อาจตามมาคนขี่มอเตอร์ไซค์ดูเหมือนไม่คิดจะให้ฉันมีโอกาสได้พักหายใจเลย เขาเงื้อไม้เบสบอลขึ้นอีกครั้งแล้วฟาดมาทางฉันอย่างรุนแรง!ฉันหลบหลีกอย่างคล่องแคล่ว พลางมองหาจังหวะที่จะตอบโต้กลับไปหลังจากปะทะกันไปหลายครั้ง ฉันสังเกตได้ว่าคนคนนี้มีฝีมือพอตัว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผ่านการฝึกฝนอย่างเป็นทางการฉันรู้สึกยินดีอยู่ลึก ๆ ในใจ เพราะเห็นโอกาสเล็กน้อยที่จะเอาชนะเขาได้ฉันเริ่มเป็นฝ่ายโจมตีก่อน พยายามทำลายจังหวะของเขาเพื่อให้เขาเสียสมดุลและเปิดช่องโหว่หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดอยู่พักหนึ่ง ฉันก็พบช่องโหว่และซัดหมัดตรงเข้าที่ท้องของเขาเต็มแรง!เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้นฉันถือโอกาสพุ่งเข้าไป หวังจะควบคุมตัวเขาให้สิ้นฤทธิ์แต่ในขณะนั้นเอง เขากลับควักมีดออกมาจากกระเป๋าแล้วพุ่งแทงมาทางฉัน!ฉันตกใจสุดขีด รีบถอยหลังออกไปทันทีแต่ฉันก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ไม่มีแรงมากนัก จะรับมือกับชายที่ดุดันเช่นนี้ได้อย่างไร?มีดสั้นพุ่งตรงมาทางฉัน ก่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 344

    “บางทีคุณอาจพูดถูก หากไม่มีการสนับสนุนจากคุณ ฉันอาจต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายมากขึ้น แต่ฉันก็เชื่อว่า ตราบใดที่ฉันพยายามมากพอและยืนหยัดอย่างมั่นคง สักวันหนึ่งฉันจะทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริงได้ และฉันก็เชื่อว่า บนโลกนี้ยังมีอีกหลายคนที่มีความฝันและพรสวรรค์เหมือนฉัน พวกเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคุณ แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จในวงการนี้ได้!”เขาชัดเจนว่าโกรธจัดเพราะคำพูดของฉัน ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธขณะที่จ้องมองฉันอย่างดุดัน“เธอคิดว่าพูดแบบนี้แล้วจะเปลี่ยนอะไรได้งั้นเหรอ? ฉันจะบอกให้รู้ไว้เลยนะว่าเธอคิดผิด! เธอจะต้องเสียใจในทุกสิ่งที่เธอทำในวันนี้แน่นอน!”ฉันยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืน“บางทีฉันอาจจะเสียใจ แต่ฉันจะไม่มีวันเสียใจในสิ่งที่ฉันเลือก เพราะฉันรู้ดีว่า มีเพียงหนทางนี้เท่านั้นที่ทำให้ฉันเป็นตัวของตัวเอง และทำให้ฉันสามารถเติมเต็มความฝันของตัวเองได้ และสำหรับคุณ ศาสตราจารย์จาง คุณจะต้องกลายเป็นฝันร้ายของตัวเอง”พูดจบ ฉันหันหลังแล้วเดินออกจากห้องไปตอนนั้นเอง ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาซูข่ายเหวิน“หลักฐานทั้งหมดเก็บรวบรวมเรียบร้อยหรือ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 343

    คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกและเหยียดหยาม ราวกับว่าเขาได้จัดฉันให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับเด็กสาวที่ยอมประนีประนอมเพื่อผลประโยชน์ไปแล้วอย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้อ่อนแอและถูกกดขี่ยังไงก็ได้อย่างที่เขาคิด ฉันมีหลักการและขอบเขตของตัวเองฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อทำให้จิตใจสงบลง จากนั้นก็มองเขาด้วยสายตาที่เยือกเย็น“ศาสตราจารย์จาง บางทีคุณอาจเข้าใจอะไรผิดไป ฉันมาที่นี่เพราะความหลงใหลในงานออกแบบและความกระหายในความรู้ ไม่ใช่เพราะเหตุผลอย่างที่คุณว่า ถ้าคุณคิดว่าการกระทำของคุณจะทำให้ฉันยอมจำนน ฉันคงต้องบอกว่าคุณคิดผิดแล้ว”เขาไม่คาดคิดว่าฉันจะกล้าตอบโต้เขาอย่างตรงไปตรงมา สีหน้าของเขาพลันมืดครึ้มลงทันที ดวงตาเผยให้เห็นแววโกรธเคืองแวบหนึ่งอย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้ถอยหนีเพราะเหตุนี้ ฉันยังคงอธิบายจุดยืนของตัวเองต่อไป“ฉันรู้ว่า ในวงการนี้มีบางคนที่ใช้ตำแหน่งและอำนาจของตัวเองทำเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่ฉันอยากบอกว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น และฉันก็จะไม่มีวันเป็นแบบนั้น ฉันให้เกียรติตัวเอง ทั้งยังให้เกียรติผู้อื่น ฉันหวังว่าคุณจะเคารพการตัดสินใจของฉันด้วย”เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะหัวเราะเยาะออกมาเบา

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 342

    บางทีอาจเป็นเพราะฉันเคยพบเจอผู้คนมามากมาย จึงทำให้ฉันเข้าใจได้ว่าคนประเภทนี้มีความคิดที่รอบคอบเพียงใด และยังทำให้ฉันรับรู้ได้ถึงเจตนาที่แท้จริงของพวกเขาด้วยนี่คิดจะใช้วิธีนี้เพื่อล่อให้ฉันตกหลุมพรางงั้นเหรอ? ดูเหมือนจะโง่ไปหน่อยนะ แต่ฉันจะไม่รีบร้อนหรอก ของดีมักจะมาในตอนท้าย และฉันมั่นใจว่าจะสามารถจับจุดอ่อนของเขาได้แน่นอนฉันแสร้งทำเป็นมีท่าทีคาดหวังอย่างตั้งใจ สีหน้าของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นความหมายที่ยากจะคาดเดา จากนั้นสายตาของเขาก็เริ่มเปล่งประกายร้อนแรงขณะมองมาที่ฉัน แล้วก้าวเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น“ฉันได้พิจารณาแบบร่างของเธออย่างละเอียดแล้ว ก็ต้องบอกตรง ๆ ว่าค่อนข้างธรรมดานะ แต่ที่เธอสามารถโดดเด่นขึ้นมาได้ในครั้งนี้ คงเป็นเพราะโชคช่วยเสียมากกว่า เพราะอันดับของเธอไม่ได้อยู่ในระดับต้น ๆ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ครั้งนี้เธอได้รับโอกาสที่ดีมาก ก็หวังว่าเธอจะสามารถใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์และค้นพบศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่”เมื่อได้ยินคำวิจารณ์ของเขา ฉันแทบกลั้นขำไว้ไม่อยู่ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้จักนิสัยที่แท้จริงของฉันเลย แต่การที่เขาพูดแบบนี้ออกมาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 341

    เมื่อมีความคิดเช่นนี้ ฉันก็รักษาสีหน้าที่อ่อนโยนไว้ทันที เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ จนกระทั่งรถจอดลงที่นี่ ฉันก็เดินตามผู้ชายคนนั้นขึ้นไปบนชั้นอย่างรวดเร็วขณะอยู่ในลิฟต์ เขาหันกลับมามองฉันแวบหนึ่ง จากนั้นสายตาของเขาก็แฝงไปด้วยอารมณ์ที่ทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจและแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก“ศาสตราจารย์จางเป็นอาจารย์ที่ทุกคนยกย่องมาโดยตลอด การที่เธอได้รับโอกาสนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่หายาก แต่มีบางเรื่องที่ฉันต้องอธิบายให้เธอเข้าใจ”ฉันพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมแสร้งทำท่าทางเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้อีกฝ่ายเชื่อจริง ๆ ว่าฉันเป็นคนไร้เดียงสาและใสซื่อ“ต่อจากนี้ ศาสตราจารย์จางอาจจะให้คำแนะนำเธอเกี่ยวกับบางประเด็น และยังเสนอวิธีที่ดียิ่งขึ้นให้กับเธอ เพื่อที่เธอจะสามารถก้าวไปได้ไกลขึ้นบนเส้นทางที่เกี่ยวข้องนี้”ฉันย่อมรู้ดีว่า ‘วิธี’ ที่ว่าก็คือการเรียนการสอนตามเส้นทางที่เป็นทางการเท่านั้น แต่ในตอนนี้ ฉันกลับแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเลย พร้อมกับถามเขาด้วยท่าทีไร้เดียงสา“แล้วทำไมถึงนัดที่นี่ล่ะคะ? นัดในห้องเรียนไม่ได้เหรอ?”ฉันแสร้งทำเป็นรู้

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 340

    หลังจากวางสาย ฉันรีบแจ้งเรื่องนี้ให้ซูข่ายเหวินรู้เป็นอันดับแรก แต่เขากลับไม่ได้แสดงท่าทีประหลาดใจอย่างที่ฉันคาดไว้เลย ตรงกันข้าม เขากลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ จากนั้นก็เผยรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้า“ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ฉันคาดไว้ ถ้าอย่างนั้น ต่อจากนี้คงต้องลำบากเธอหน่อย การต้องอยู่กับคนเลวแบบนี้คงเป็นเรื่องที่เหนื่อยแน่ ๆ เธอต้องทำให้เขาตายใจและลดความระมัดระวังลงให้ได้”ฉันพยักหน้าตอบรับ แน่นอนว่าฉันรู้ดีว่าสิ่งนี้อันตรายแค่ไหน และก็รู้เช่นกันว่าต้องจัดการเรื่องนี้อย่างรอบคอบให้ดีที่สุด“อุปกรณ์ที่ฉันให้เธอ อย่าลืมใช้ล่ะ เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดแน่ ๆ แต่มั่นใจได้เลยว่าอุปกรณ์ที่ฉันให้ จะสามารถบันทึกหลักฐานความผิดของเขาได้ทั้งหมด”ฉันพยักหน้า เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่ซูข่ายเหวินให้ฉันนั้นต้องมีประโยชน์อย่างมาก ดังนั้นฉันจะไม่ยอมให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นอย่างแน่นอนด้วยแผนการที่รอบคอบของเราทั้งสองคน เชื่อว่าเรื่องนี้จะต้องถูกเปิดโปงอย่างแน่นอน และเมื่อนั้นก็จะไม่มีใครสามารถคุกคามสาว ๆ ที่ไร้เดียงสาเหล่านี้ได้อีกต่อไปเมื่อลมเย็นพัดผ่านตัวฉันในค่ำคืนนี้ ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าเวลานัดห

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status