แชร์

บทที่ 194

ผู้เขียน: ลูกพีชแสนสวย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-27 17:00:00
โจวอวิ๋นยืนขึ้นทันทีและพยักหน้าอย่างแรง "ขอบคุณค่ะ ขอบคุณค่ะคุณท่าน"

"แต่ในขณะเดียวกัน..." กู้เซิ่งเหยียนจ้องไปที่โจวอวิ๋น "การหมั้นหมายของเด็กสองคนที่เคยสัญญาไว้ก่อนหน้านี้ จะถือว่าเป็นโมฆะ"

โจวอวิ๋นไม่คาดคิดว่ากู้เซิ่งเหยียนจะยกเลิกการหมั้นหมาย เธอนิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากแล้วร้องไห้ออกมา "คุณท่านทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ! ทำแบบนี้ก็เหมือนไปแยกคนรักกันออกจากกันไม่ใช่เหรอคะ?"

"เด็กสองคนรักกันมากนะคะ" โจวอวิ๋นทรุดตัวลงบนเก้าอี้อีกครั้ง "นี่ไม่ใช่การทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาหรอกเหรอ?"

"ถ้าทำแบบนี้ เด็กสองคนจะต้องโกรธท่านแน่ ๆ"

"อาโม่ไม่ได้ชอบเฉินเยวี่ย" กู้เซิ่งเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น "หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ฉันจะส่งเธอกับเฉินเยวี่ยไปอยู่ต่างประเทศ ตั้งแต่นั้นไป อย่าได้กลับมาอีก"

"ไม่..." โจวอวิ๋นตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ "ไม่มีทาง! อาโม่น่ะเหรอที่จะไม่ชอบเยวี่ยเยวี่ยของฉัน?!"

"เด็กสองคนโตมาด้วยกัน อาโม่ดูแลเยวี่ยเยวี่ยดีมาก แล้วเขาจะไม่ชอบเยวี่ยเยวี่ยได้ยังไง?"

"พาแขกออกไปได้แล้ว" กู้เซิ่งเหยียนหมดความอดทน เขาหันหลังเดินออกจากห้องทำงานทันที

โจวอวิ๋นรีบ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 195

    เมื่อพ่อบ้านหลี่สบเข้ากับสายตาลุ่มลึกเย็นชาของกู้จือโม่ เขาก็เงียบกริบทันทีกู้จือโม่มองเขาอยู่สองสามวินาที ก่อนจะหันหลังเดินตรงไปยังห้องทำงานของกู้เซิ่งเหยียนผู้เป็นปู่ในห้องทำงาน กู้เซิ่งเหยียนไม่ได้พักผ่อน เขายืนอยู่ตรงหน้าต่าง มองลงไปเห็นโจวอวิ๋นถูกคนรับใช้ของบ้านหิ้วออกไปโยนทิ้งไว้ข้างถนน จากนั้นโจวอวิ๋นก็ลุกขึ้นมาต่อปากต่อคำกับพวกคนรับใช้ ก่อนจะถูกคนหนึ่งเตะจนเซและถูกขู่จนเธอยอมลดท่าที และเดินโซเซออกไปอย่างจำนนเสียงเปิดประตูดังขึ้น กู้เซิ่งเหยียนได้ยินจึงค่อย ๆ หันกลับมาหลังจากเหตุการณ์ที่กู้เซิ่งเหยียนช่วยปกป้องเฉินเยวี่ยในคดีที่เธอสั่งให้คนไปลักพาตัวโจวซิงลั่ว กู้จือโม่ก็ทะเลาะกับผู้เป็นปู่อย่างหนัก และไม่เคยกลับมาที่บ้านหลังนี้อีกเลยเป็นเวลาสองเดือนหลังจากหยุดพักกลับมาที่อวิ๋นเฉิงได้ประมาณครึ่งเดือน เขาก็พักอยู่แต่ในอพาร์ตเมนต์ของตัวเองโดยไม่เคยกลับมาที่บ้านเลยแม้แต่ครั้งเดียวในวันส่งท้ายปีพ่อบ้านหลี่ไปหาเขาที่อพาร์ตเมนต์ พูดจาเกลี้ยกล่อมด้วยความตั้งใจอยู่นาน แต่เขาก็ยังไม่ยอมกลับบ้านการที่เขาปรากฏตัวในวันนี้ทำให้กู้เซิ่งเหยียนไม่แน่ใจว่ากู้จือโม่รู้เรื่องอะไรบางอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 196

    ฟางฉิงหยางที่แอบออกมาโดยไม่ให้เฉิงเฉิงรู้ ครึ่งชั่วโมงต่อมาเขาก็เปิดประตูห้องส่วนตัวเข้าไปก็เห็นกู้จือโม่กำลังดื่มเหล้าอยู่ ขวดไวน์แดงบนโต๊ะพร่องไปแล้วกว่าครึ่งมือซ้ายของกู้จือโม่คีบบุหรี่อยู่ ส่วนมือขวาถือโทรศัพท์ก้มหน้าทำอะไรบางอย่าง จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูจึงเงยหน้าขึ้นมองในฐานะเพื่อนสนิทของกู้จือโม่ การเปลี่ยนแปลงของอีกฝ่ายในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาล้วนอยู่ในสายตาของฟางฉิงหยางจากที่ไม่เคยแตะบุหรี่และเหล้า ชายหนุ่มก็กลายเป็นคนที่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และเงียบขรึมมากขึ้น บาดแผลจากการถูกแทงเมื่อไม่นานมานี้ก็ยังไม่หายดี แถมยังผ่ายผอมลงจนแทบจำไม่ได้ รัศมีรอบตัวของเขาดูเย็นชาและไม่เป็นมิตรฟางฉิงหยางถอนหายใจ เดินเข้าไปหา “แผลหายดีแล้วหรือไง นายยังจะสูบบุหรี่อีก?”“เร็ว ๆ นี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับซิงลั่วหรือเปล่า?” กู้จือโม่เงยหน้าขึ้นพลางดับบุหรี่ในที่เขี่ยอย่างไม่สนใจ“...” ฟางฉิงหยางมองเพื่อนสนิทอย่างหนักใจ แต่ก็ไม่พูดอะไรกู้จือโม่มองเขานิ่ง ๆ “เฉิงเฉิงห้ามไม่ให้นายพูด?”“งั้นก็ไม่ต้องพูด” กู้จือโม่ยิ้มบาง ๆ ยกขวดไวน์มารินให้ฟางฉิงหยาง “ดื่มหน่อยไหม? นานแล้วที่พวกเราไม่ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 197

    กู้จือโม่ชะงักทุกการกระทำในทันที ก่อนจะตัดสายโทรศัพท์ไปเฉินเยวี่ยฆ่าย่าของเฉียวซิงลั่วงั้นเหรอ?กู้จือโม่ไม่อยากเชื่อ สมองของเขาเต็มไปด้วยเสียงก้องวุ่นวายเต็มไปหมด"ฉันไม่เชื่อ" เขาพึมพำ ก่อนลุกขึ้นเดินออกไป ขณะที่เดินขาของเขาก็ชนเข้ากับมุมโต๊ะอย่างแรง จนกางเกงขายาวสีเข้มของเขาถูกย้อมด้วยสีแดงสดเขาคว้ากุญแจรถบนโต๊ะแล้วเดินออกไปทันที ราวกับว่ากู้จือโม่ไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อยเมื่อออกจากคลับ เขาตั้งใจจะไปที่ลานจอดรถใต้ดินเพื่อขับรถเอง แต่พอไปถึงก็เพิ่งนึกได้ว่าเขาดื่มเหล้ามาเยอะขณะนั้นมีรถแท็กซี่ที่ถูกจองผ่านแอปเข้ามาพอดี กู้จือโม่จึงไม่รอช้า เขาขึ้นรถทันที "ไปที่อะพาร์ตเมนต์หลี่เซี่ยง"คนขับหันมามองเขาอย่างงุนงง "ที่อยู่นี้ไม่ตรงกับที่อยู่ในที่แจ้งเลยนะครับ คุณเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์หมายเลขท้ายศูนย์เจ็ดสามหนึ่งใช่ไหมครับ?"พูดไม่ทันจบ เจ้าของออเดอร์ตัวจริงก็มาถึง"ใช่ ผมเอง!" เจ้าของออเดอร์ยืนอยู่ข้างประตูรถ จ้องมองกู้จือโม่ด้วยความไม่พอใจ "นายเป็นใคร? รถคันนี้ฉันจอง ลงมาซะ"กู้จือโม่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย เขาควักกระเป๋าสตางค์ออกมา ก่อนจะหยิบธนบัตรสีแดงใบละร้อยหลายใบออกม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 198

    แต่ชีวิตคนเราต้องเดินไปข้างหน้า ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อคนที่ยังอยู่ต่อไปให้ดีที่สุดฉันพูดล้อเล่นกับสองคนนั้นแบบไม่คาดคิด ฟางฉิงหยางและเฉิงเฉิงก็หน้าแดงจนเห็นได้ชัดในทันที“ลั่วเป่า เธอชักจะร้ายแล้วนะ กล้าล้อฉันได้แล้ว”เฉิงเฉิงพูดพลางเหลือบตามองฟางฉิงหยางด้วยความเขินอาย ดวงตาทั้งสองคนสบกัน สายตาแห่งความสุขในดวงตาพวกเขาราวกับคลื่นเล็ก ๆ ในน้ำที่กระเพื่อมอย่างแผ่วเบาบ้านที่เคยเงียบเหงาเพราะการจากไปของคุณย่ากลับถูกแต่งแต้มด้วยแสงสว่างอ่อนโยนอีกครั้งฉันมองดูทั้งสองคน ริมฝีปากเผยรอยยิ้มเล็ก ๆ โดยไม่รู้ตัว หัวใจที่หม่นหมองก็พลอยเบาขึ้นตามไปด้วย"เฮ้ ลั่วเป่า เธอยิ้มแล้ว!"เฉิงเฉิงอุทานขึ้นมาอย่างตื่นเต้น พร้อมใช้ข้อศอกสะกิดฟางฉิงหยาง ให้เขามองดูฟางฉิงหยางเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้องมาที่ใบหน้าฉัน ราวกับว่าเขาโล่งใจไปบ้าง "ใช่แล้ว ลั่วเป่า ในที่สุดเธอก็ยิ้มออกมาสักที""นั่นน่ะสิ พักนี้เธอไม่ยิ้มเลย พวกเรา..." เฉิงเฉิงพูดไม่จบ เสียงเธอเริ่มสั่นเล็กน้อย ดวงตาเริ่มแดง เธอหันหน้าไปอีกทางราวกับจะกลั้นน้ำตา ไม่สามารถพูดต่อได้เห็นเธอเป็นแบบนี้ ฉันก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีช่วงนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 199

    เมื่อพวกเขานั่งลง อุ่นไอทั้งสองสายก็โอบล้อมตัวฉันไว้ความกังวลที่เกิดจากสายโทรศัพท์ก็พลันถูกความอบอุ่นนี้ผลักไสออกไปทันใดนั้น ฉันก็ไม่กลัวอีกต่อไปไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นหรือไม่ การมีเพื่อนทั้งสองคนนี้อยู่เคียงข้าง ทำให้ฉันมีความกล้าหาญเพียงพอที่จะเดินหน้าต่อไปฉันสูดหายใจลึกๆ อย่างเงียบๆ และกดรับสายก่อนที่โทรศัพท์จะตัด พร้อมกับเปิดลำโพงเสียงออกมาทันทีที่สายเชื่อมต่อ เสียงทนายที่เคร่งขรึมก็ดังมาจากปลายสาย “คุณเฉียว ผมเพิ่งได้รับแจ้งว่า เฉินเยวี่ยเกิดอาการหัวใจวายอย่างกะทันหันในสถานกักกัน ตอนนี้อาการสาหัส และถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนแล้วครับ”“ใครนะ? ใครหัวใจวาย?”ฉันสะดุ้งขึ้นมาอย่างมึนงง รู้สึกราวกับได้ยินผิดไปทนายกำลังพูดถึงเฉินเยวี่ยใช่ไหม?แต่เฉินเยวี่ยจะเป็นโรคหัวใจได้ยังไงกัน!ฉันอ้าปากหมายจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงโกรธเกรี้ยวของเฉิงเฉิงก็ดังขึ้นก่อน “ร่างกายเฉินเยวี่ยแข็งแรงดี จะเป็นโรคหัวใจได้ยังไง!”เมื่อเฉิงเฉิงพูดแทนฉันแล้ว ฉันจึงปิดปากเงียบ รอคำอธิบายจากทนาย"ผมไม่แน่ใจครับ เพิ่งได้รับแจ้งข่าวนี้มา เลยรีบบอกคุณทันที รายละเอียดเพิ่มเติม ตอนนี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 200

    ทนายเองก็รู้เรื่องนี้ดี เมื่อได้ยินคำพูดของเฉิงเฉิง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจังทันทีหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาเตือนพวกเราอย่างเคร่งขรึมว่า “ครั้งนี้พวกคุณต้องใจเย็นห้ามทำอะไรบุ่มบ่ามเด็ดขาดนะครับ”แต่ฉันรู้สึกว่า คำเตือนนี้เขาหมายถึงฉันเป็นพิเศษในสายตาของเขา ฉันมีประวัติในเรื่องนี้มาก่อนรถเคลื่อนตัวเข้าสู่โรงพยาบาลประชาชนแห่งแรกอย่างรวดเร็ว หลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เพื่อสอบถามถึงที่อยู่ของเฉินเยวี่ยเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ยินชื่อเฉินเยวี่ย สีหน้าของเธอแสดงถึงความระแวดระวัง สายตาจ้องมองพวกเราราวกับว่าเป็นอาชญากร ก่อนจะย้อนถามกลับว่า “พวกคุณเป็นใครคะ?”“ฉัน...” ฉันเพิ่งจะเริ่มพูด แต่ทันใดนั้นข้อมือก็ถูกใครบางคนจับไว้ พร้อมกับแรงดึงที่ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธพาฉันถอยไปข้างหลังฉันก้มมองมือตัวเอง เห็นมือที่เรียวยาวและเต็มไปด้วยข้อกระดูกชัดเจน แล้วเงยหน้ามองทนายที่อยู่ข้างๆทนายที่จับสังเกตได้ว่าฉันมองอยู่ เขาพยักหน้าเล็กน้อยให้ฉัน ราวกับส่งสัญญาณให้ฉันวางใจและปล่อยให้เขาจัดการเรื่องนี้เองฉันลดสายตาลง แล้วถอยหลังออกมาอย่างว่าง่ายทนายเดินขึ้นไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 201

    ทนายคงรู้ว่าตำรวจทั้งสองจะไม่ยอม จึงรีบถอยออกมาหนึ่งก้าวแล้วกล่าวว่า “ถ้าไม่ได้จริง ๆ งั้นให้พวกเรามองดูจากหน้าต่างก็ยังดี”ฉันจ้องมองตำรวจสองนายด้วยความกังวลแต่ทั้งสองคนไม่มีทีท่าว่าจะใจอ่อน “ไม่ได้ครับ”“ไม่มีใครเข้าใกล้ได้ทั้งนั้น”แม้ทนายจะแสดงบัตรประจำตัวที่ทำงานให้ดู แต่ตำรวจทั้งสองกลับไม่กะพริบตาเลยสักนิดท่าทีของพวกเขาแน่วแน่จนไม่มีช่องทางใดๆ ให้ประนีประนอมความคาดหวังในใจฉันค่อยๆ มอดดับ ฉันมองตำรวจสองคนด้วยสายตาเย็นชา ความสงสัยในใจยิ่งชัดเจนขึ้นทนายถอนหายใจแล้วถอยกลับมาเมื่อเห็นทนายกลับมาด้วยท่าทีหมดหวัง ฉันเม้มปากแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไปกันก่อนเถอะค่ะ”คำพูดของฉันฟังดูเย็นชาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป ทิ้งเฉิงเฉิงและคนอื่น ๆ ไว้เบื้องหลังฉันเดินเร็วมาก ราวกับว่าการก้าวเดินที่รวดเร็วนั้นจะช่วยระบายความโกรธในใจออกไปได้เมื่อเดินออกมาจากโถงชั้นหนึ่ง ฉันถึงหยุดฉันยืนอยู่ที่หน้าประตู มองไปไกลอย่างเลื่อนลอย ในใจเริ่มครุ่นคิดถึงจุดประสงค์ที่อีกฝ่ายทำเช่นนี้ไม่นานนัก มีคนแตะเบา ๆ ที่ไหล่ซ้ายของฉันเฉิงเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงแฝงความกังวล “ลั่วเป่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 202

    ฉันมองซ้ายมองขวาอย่างระมัดระวัง พอมั่นใจว่าไม่มีใครสังเกตเห็น ก็รีบเปิดประตูแทรกตัวเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตูอย่างเบามือหมอคนนี้เพิ่งเดินออกมาจากห้องของเฉินเยวี่ย ดูเหมือนเขาจะเป็นหมอเจ้าของไข้ของเธอประวัติการรักษาของเฉินเยวี่ยต้องอยู่ที่นี่แน่ ๆแล้วมันจะอยู่ที่ไหนกันนะ?ฉันมองไปรอบ ๆ แล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่คอมพิวเตอร์บนโต๊ะน่าเสียดายที่คอมพิวเตอร์ถูกล็อกรหัสผ่าน ฉันเปิดไม่ได้ จึงหันไปสนใจตู้เก็บเอกสารแทนฉันรีบเดินไปเปิดประตูตู้อย่างลวก ๆ แล้วเริ่มค้นหาข้อมูลอย่างรวดเร็วเอกสารในตู้นั้นมีจำนวนมากมายมหาศาล ถึงจะพยายามหาอย่างสุดความสามารถ แต่ฉันก็เพิ่งค้นได้เพียงเล็กน้อย และยังไม่เจอประวัติของเฉินเยวี่ยแต่ฉันไม่ยอมแพ้ฉันยังคงค้นหาอย่างตั้งใจขณะที่ฉันกำลังจะเปลี่ยนไปค้นชั้นเล็กอีกช่องหนึ่ง เสียงคนพูดคุยกันดังขึ้นที่หน้าห้อง พร้อมกับเสียงลูกบิดประตูถูกหมุนฉันสะดุ้งเฮือก รีบเก็บเอกสารทั้งหมดกลับเข้าไปในที่เดิมแล้วปิดตู้ให้เรียบร้อยแต่ยังไม่ทันจะหาทางออกจากห้อง ประตูก็ถูกเปิดออกใช่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ใครคิดว่าฉันเป็นขโมย ฉันแค่ปิดประตู แต่ไม่ได้ล็อกคนข้างนอกจึงสา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29

บทล่าสุด

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 240

    เหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ ฉันรู้สึกผิดหวังทันที แต่ก็รีบรวบรวมกำลังใจกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ฉันรู้ดีว่าโอกาสมักเป็นของคนที่เตรียมพร้อม ฉันจึงไม่อาจยอมแพ้ไปง่าย ๆ แบบนี้ นี่คือหนทางเดียวที่ฉันจะพิสูจน์ตัวเองได้ และยังเป็นก้าวแรกในชีวิตของฉันด้วย ฉันสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดอย่างช้า ๆ ว่า “ผู้อาวุโสหนาน ฉันเข้าใจถึงความกังวลของคุณค่ะ แต่ได้โปรดเชื่อว่าโครงการเซาท์เทิร์น ฮิลด์ เรสซิเดนซ์ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานใหม่สำหรับคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่สามารถทำให้แสงแห่งศิลปะของคุณเปล่งประกายได้อีกครั้งด้วย อีกทั้งฉันเชื่อว่าโครงการที่คุณกำลังทำอยู่และโครงการเซาท์เทิร์น ฮิลด์ เรสซิเดนซ์ต้องมีความเชื่อมโยงที่น่าอัศจรรย์บางอย่าง ซึ่งสามารถสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ค่ะ” หลังจากที่ผู้อาวุโสหนานได้ยินดังนั้น แววตาก็ฉายแววความสงสัยขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนคำพูดของฉันจะดึงดูดความสนใจของเขา จนเขาเริ่มพิจารณาข้อเสนอของฉันอีกครั้ง ฉันรีบฉวยโอกาสกล่าวต่อไปว่า “ผู้อาวุโสหนาน คุณทราบหรือเปล่าคะว่าฉันชื่นชมคุณมาโดยตลอด ผลงานของคุณมอบทั้งแรงบันดาลใจและข้อคิดให้ฉันมากมาย ส่วนโครงการเซาท์เ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 239

    ฉันสูดลมหายใจลึก ตัดสินใจที่จะพูดคุยกับผู้อาวุโสหนานให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น หวังว่าจะสามารถกระตุ้นความรักและความมุ่งมั่นที่เขามีต่อศิลปะสวนภูมิทัศน์ในใจของเขาได้ “ผู้อาวุโสหนาน คุณรู้ไหมคะ? ฉันคิดมาตลอดว่าสวนไม่ได้เป็นแค่การจัดวางสิ่งปลูกสร้างกับต้นไม้ แต่มันเหมือนภาพวาดที่มีชีวิต เป็นโลกที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและเรื่องราว และในฐานะที่คุณเป็นปรมาจารย์ด้านศิลปะจีน น่าจะเข้าใจเสน่ห์ของการผสมผสานศิลปะกับการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ” ฉันมองผู้อาวุโสหนานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความปรารถนา หวังว่าสายตานั้นจะสื่อความรู้สึกของฉันออกไปได้ ผู้อาวุโสหนานได้ยินดังนั้น แววตาก็เปล่งประกายวาบหนึ่ง ก่อนจะวางถ้วยชาลงและดูเหมือนจะจมอยู่ในความคิด ฉันรู้ว่าฉันได้แตะต้องจุดที่อ่อนไหวบางอย่างในใจของเขาเข้าแล้ว คนระดับปรมาจารย์ในแวดวงวิชาการแบบนี้มักไม่ใส่ใจเรื่องเงินทอง สำหรับพวกเขา เป็นเพียงของนอกกายเท่านั้น พวกเขาเหมือนภูเขาน้ำแข็งที่ลอยล่องกลางทะเล ซึ่งต้องการคนที่เข้าใจและเข้าถึงได้อย่างแท้จริง และฉันสามารถมอบคุณค่าทางอารมณ์ที่เพียงพอให้กับเขาได้ อีกทั้งยังตอบสนองความปรารถนาของเขาได้อ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 238

    ขณะที่ฉันกำลังครุ่นคิดหนักเพื่อหาเรื่องคุย ก็ไม่คาดคิดว่าผู้อาวุโสหนานจะเป็นฝ่ายพูดถึงโครงการเซาท์เทิร์น ฮิลด์ เรสซิเดนซ์ขึ้นมาก่อนเอง โครงการนี้เดิมทีตั้งใจจะสร้างสวนสไตล์พิเศษ คล้ายกับพระราชวังต้องห้ามสมัยโบราณ แต่ต้องตอบสนองความต้องการด้านความงามยุคสมัยใหม่ โดยผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับความงดงามของสวนโบราณอย่างลงตัว ตอนนี้แบบร่างเบื้องต้นได้ออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีรายละเอียดหลายจุดที่ยังไม่ได้ปรับแก้ มีเพียงโครงร่างคร่าว ๆ เท่านั้น แน่นอนว่าฉันหวังว่าเขาจะเข้าร่วมโครงการนี้ เพื่อช่วยเราเติมเต็มรายละเอียดให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น “โครงการในตอนนี้ยังอยู่ขั้นตอนเริ่มต้น จำเป็นต้องมีแบบร่างและแนวคิดการออกแบบที่ยอดเยี่ยมเพียงพอ เพื่อให้โครงการนี้พัฒนาต่อไปได้อย่างราบรื่นในอนาคตค่ะ” ความหมายข้างต้นชัดเจนมาก หากเราไม่สามารถนำเสนอแบบร่างที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามพึงพอใจได้อย่างเต็มที่ ก็จะไม่สามารถเจรจาธุรกิจนี้ต่อได้ ผู้อาวุโสหนานดูเหมือนจะใส่ใจอยู่ไม่น้อย แต่เพียงแค่นั่งจิบชาโดยไม่เอ่ยคำใด ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แววตาของเขาแฝงด้วยความคิดคำนึงเล็กน้อย บางครั้ง การอยู่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 237

    “เริ่มพยายามตั้งแต่เนิ่น ๆ งั้นเหรอ?” ผู้อาวุโสหนานทวนคำพูดของฉัน ดวงตาแสดงความชื่นชมเล็กน้อย “หนุ่มสาวที่มีความคิดแบบนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากจริง ๆ” เขาลุกขึ้นยืน เดินช้า ๆ ไปยังริมหน้าต่าง มองออกไปไกลราวกับกำลังนึกถึงบางสิ่งในความทรงจำ “เธอรู้ไหม สาวน้อยเฉียว ตอนฉันยังหนุ่ม ฉันเองก็เคยเป็นเหมือนเธอ มีทั้งความฝันและความมุ่งมั่น อยากสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาให้ได้” เสียงของผู้อาวุโสหนานเจือด้วยความเก่าแก่และความรู้สึกซาบซึ้ง “แต่กาลเวลาไม่เคยปรานีใคร ตอนนี้ฉันก็หมดเรี่ยวแรงไปมากแล้ว แค่หวังว่าจะหาหนุ่มสาวที่มีศักยภาพสักคน มารับช่วงต่อจากฉันได้” ฉันยืนอยู่เงียบ ๆ ที่ข้าง ๆ ฟังคำพูดของผู้อาวุโสหนาน พลันเกิดความรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ฉันรู้ดีว่านี่อาจเป็นโอกาสที่ใกล้เคียงกับความสำเร็จที่สุดสำหรับฉัน “ผู้อาวุโสหนาน คุณไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ค่ะ” ฉันพูดอย่างจริงจัง “ไม่ใช่แค่เพื่อตัวฉันเอง แต่เพื่อความคาดหวังของคุณด้วย”ผู้อาวุโสหนานหันกลับมามองฉัน ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความพึงพอใจเล็กน้อย “ดีมาก สาวน้อย ฉันเชื่อในตัวเธอ แต่จำไว้นะ ความสำเร็จไม่ใช

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 236

    บนใบหน้าของลั่วอี้ฝานมีแววประหลาดใจเล็กน้อย คล้ายกับได้เจอเพื่อนรู้ใจที่เข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร ผู้อาวุโสหนานก็เอ่ยขึ้นก่อนว่า “สาวน้อย เธอเล่นหมากรุกเป็นไหม?” จู่ ๆ ก็ถูกเรียกชื่อ ฉันนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะได้สติกลับมาแล้วตอบว่า “เคยเล่นในมือถือไม่กี่ครั้งเองค่ะ ดูเหมือนว่าจะเล่นไม่เป็นค่ะ” ฉันพูดอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งดูเหมือนผู้อาวุโสหนานจะชอบความตรงไปตรงมาของฉันเช่นกัน ท่านโบกมือเรียกฉันพร้อมพูดว่า “มานี่สิ เดี๋ยวฉันสอนให้” ฉันพยักหน้ารับก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไปหา นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของกระดานหมากรุก ผู้อาวุโสหนานอธิบายกฎของหมากล้อมให้ฉันฟัง ฉันตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ ไม่นานนักผู้ช่วยก็เอากระดานหมากรุกชุดใหม่มาให้ ผู้อาวุโสหนานส่งหมากสีดำให้ฉันพร้อมพูดว่า “ลองดูไหม?” ฉันรับมาก่อนจะพูดด้วยความลำบากใจปนลังเลว่า “แต่คุณปู่ต้องอย่าโกรธจนปาแผ่นกระดานนะคะ” “แล้วก็ห้ามไล่พวกเราออกไปด้วยนะคะ”ฉันกอดถ้วยหมากล้อมไว้ มือขวาหยิบหมากสองตัวขึ้นมา พร้อมกล่าวว่า “แม่น้ำแยงซีคลื่นลูกเก่าผลักดันคลื่นลูกใหม่ คุณต้องให้โอกาสพวกเราเติบโตบ้างนะคะ” ความจริงตอนที่พูดคำพวก

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 235

    ออกจากบ้านเดิมตระกูลเฉียว ฉันกับลั่วอี้ฝานขึ้นรถแล้วจากไปทันทีที่ขึ้นรถเสียงหยอกล้อของลั่วอี้ฝานก็ดังขึ้นทันที "เฉียวซิงลั่ว เธอเตรียมตัวมาดีจริง ๆ ถึงขั้นพกเครื่องรูดบัตรมาเลยเหรอ? ในกระเป๋าเธอคงไม่ได้ใส่เครื่องนับเงินมาด้วยใช่ไหม? เอามาให้ฉันดูหน่อยสิ จะได้เปิดหูเปิดตาบ้าง"มือข้างหนึ่งของเขายื่นมาตรงหน้าฉันฉันตบมือลงบนฝ่ามือของเขาเสียงดัง "เพียะ!" พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงรำคาญ "ฉันจะพกเครื่องนับเงินไปทำไมกันล่ะ"แถมหลี่เหม่ยอิงก็คงไม่พกเงินสดหนึ่งร้อยล้านบาทมาให้ฉันหรอกโง่จริง ๆ"นี่" ฉันคลายมือออก เผยให้เห็นบัตรเอทีเอ็มที่อยู่ด้านล่างลั่วอี้ฝานตาเป็นประกายทันที เขาหยิบบัตรเอทีเอ็มขึ้นมา พร้อมกับอุทานอย่างตกใจว่า “นี่มันไม่ใช่หนึ่งร้อยล้านบาทที่หลี่เหม่ยอิงให้เธอหรอกเหรอ?!”"ใช่แล้ว เอาไว้เป็นเงินสำรองสำหรับบริษัท""ดีขนาดนี้เชียว?" ลั่วอี้ฝานเลิกคิ้วฉันตอบ "ใช่ บริษัทมีปัญหา ฉันก็ช่วยได้แค่เรื่องเงินนี่แหละ""ว่าแต่ พรุ่งนี้ไปเจอผู้อาวุโสหนาน นายเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ"ฉันมองไปที่ลั่วอี้ฝานเขาเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ส่วนฉันก็แค่ช่วยเปิดทางเล็กน้อยถ้าเขาไม่ไป โครง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 234

    เมื่อมองเฉียวซิงอวี่ ฉันเผลอคิดเพลินไปว่าที่จริงแล้วเธอก็โชคดีไม่น้อยไม่ว่าจะอย่างไร หลี่เหม่ยอิงก็ยังรักเธอและพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เธอได้สิ่งที่ดีที่สุดแม้ฉันจะเคยด่าว่าเธอทั้งโง่ทั้งไร้เดียงสา แต่บางทีความโง่และไร้เดียงสาแบบนี้อาจเป็นความสุขอย่างหนึ่ง“ฉันง่วงแล้ว จะไปนอนก่อน” ฉันลุกขึ้น ไม่สนใจลั่วอี้ฝาน “ถ้านายไม่กลับบ้านคืนนี้ ก็ไปนอนที่ห้องรับรองแล้วกัน”……เช้าวันรุ่งขึ้นฉันกับลั่วอี้ฝานพาบอดี้การ์ดคุมตัวเฉียวซิงอวี่กลับไปที่บ้านเก่าของตระกูลเฉียว ในตอนที่ไปถึงหลี่เหม่ยอิงก็รออยู่ที่นั่นด้วยสีหน้ากระวนกระวายเฉียวซิงอวี่อุทานออกมาด้วยความดีใจ “แม่คะ!”“ซิงอวี่!” หลี่เหม่ยอิงรีบวิ่งเข้ามาหาพวกเราโดยไม่ทันคิด“หยุดอยู่ตรงนั้น!”ลั่วอี้ฝานตะโกนห้าม น้ำเสียงเย็นชาเต็มไปด้วยการข่มขู่ “ถ้าคุณกล้าเข้ามาอีกก้าวเดียว เราจะไม่ออมมือกับเธอ”หลี่เหม่ยอิงหยุดการเคลื่อนไหวทันที ดวงตามองฉันอย่างเย็นชา ราวกับงูพิษที่กำลังแลบลิ้น "เฉียวซิงลั่ว การลักพาตัวมันผิดกฎหมายนะ!"“แล้วการเอาน้ำกรดมาสาดคนอื่นไม่ผิดกฎหมายหรือไง?” ฉันสวนกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความเย็นชาหลี่เ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 233

    ฉันโทรหาหลี่เหม่ยอิงครั้งแรกเธอไม่รับ ฉันจึงโทรซ้ำอีกครั้งเสียงของหลี่เหม่ยอิงเต็มไปด้วยความโกรธเมื่อเธอรับสาย “เฉียวซิงลั่ว นางเด็กสารเลว พ่อเธอตายเพราะเธอแล้ว ยังจะโทรมาหาฉันอีกทำไม!”ฉันไม่ได้ตอบอะไร ทว่าใช้เล็บที่เพิ่งทำใหม่ขึ้นมาแตะใบหน้าที่แดงก่ำจากการถูกตบของเฉียวซิงอวี่เฉียวซิงอวี่ร้องไห้ออกมาทันที “แม่คะ ช่วยหนูด้วย!”หลี่เหม่ยอิงเงียบไปชั่วขณะก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปทันที “ซิงอวี่เหรอ? เฉียวซิงลั่ว เธอทำอะไรลูกสาวฉัน!”“หึ” ฉันหัวเราะเยาะ เอาโทรศัพท์แนบหู “คุณป้าพูดผิดแล้วล่ะค่ะ ไม่ใช่ฉันที่ทำอะไรน้องสาวตัวเอง คุณป้าน่าจะถามลูกสาวที่แสนดีมากกว่าว่าเธอทำอะไรฉัน”“ให้เวลาครึ่งชั่วโมง... ไม่สิ” ฉันหยุดคิดและเผยรอยยิ้ม “พรุ่งนี้เช้าเก้าโมง เจอกันที่บ้านเดิมตระกูลเฉียว” พูดจบ ฉันก็ตัดสายทันที…… ที่อะพาร์ตเมนต์หลี่เสี่ยงลั่วอี้ฝานมัดมือและเท้าของเฉียวซิงอวี่ แล้วโยนเธอไว้ที่ระเบียงเฉียวซิงอวี่ยังคงร้องไห้เสียงดัง “เฉียวซิงลั่ว ปล่อยฉันนะ! เธอไม่มีสิทธิ์มาจับฉัน! ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ฉันรำคาญเสียงร้องไห้ของเธอ จึงเดินไปที่ครัว เพื่อหยิบผ้าขี้ริ้วออกมา

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 232

    เมื่อเห็นว่าฉันปลอดภัย ลั่วอี้ฝานจึงลากร่างของคนที่สาดน้ำกรดใส่ฉันขึ้นมาฉันเดินเข้าไปใกล้พวกเขา ยกมือขึ้นถอดหน้ากากของคนร้ายทันใดนั้นเองใบหน้าของเฉียวซิงอวี่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าฉัน"เฉียวซิงอวี่?"ฉันจ้องมองใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ดวงตาแดงก่ำ เธอตะโกนด้วยเสียงสะอื้น “ทำไมเธอไม่ไปตายซะ! เฉียวซิงลั่ว ทำไมเธอไม่ไปตายซะ!""แกทำลายพ่อฉัน ทำลายครอบครัวฉันจนพังพินาศ!""เฉียวซิงลั่ว นางสารเลว! ไปตายซะ!""ฉันไม่น่าจะใช้แค่น้ำกรดสาดแก ฉันควรจะเอามีดแทงแกให้ตายไปเลยด้วยซ้ำ!"ใบหน้าฉันเริ่มเย็นชาเมื่อได้ยินคำพูดของเฉียวซิงอวี่ เมื่อเธอพูดจบฉันก็ยกมือขึ้นตบหน้าอีกฝ่ายด้วยแรงทั้งหมดที่มีฉันใส่แรงทั้งหมดลงไปในฝ่ามือนั้นใบหน้าครึ่งหนึ่งของเฉียวซิงอวี่แดงก่ำและบวมขึ้นทันที หมวกที่เธอสวมหล่นลงพื้น เผยให้เห็นผมยาวสยายฉันมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เธอคนที่มีสายเลือดครึ่งหนึ่งเหมือนกับฉันเมื่อครั้งที่อยู่บนเรือ ฉันเคยรู้สึกผิดที่ทำร้ายเธอ เพราะต้องการปกป้องตัวเองจากแผนการของเฉียวเจี้ยนกั๋ว แต่ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกดีใจที่ครั้งนั้นฉันไม่ลังเลที่จะลงมือสำหรับคนในตระกูลเฉียว นอกจากคุณ

DMCA.com Protection Status