บทที่ 18 ว่าที่เพื่อนใหม่ของเจ้าตัวน้อย (2/2) เมื่อทุกคนกลับมาถึงบ้าน หลี่เฟยเจินก็วางเด็กชายที่อยู่บนหลังเขานอนลง ที่นั่งเล่นประจำของพวกเขาในห้องนั่งเล่น ก่อนจะวิ่งไปตามคุณแม่ที่อยู่ในห้องหนังสือ “อาช่าง นายช่วยไปบอกให้พี่จงชางเตรียมรถที คุณแม่มาจะได้รีบไปโรงพยาบาลกัน” เฉินหวงช่างทำตามโดยไม่คิดอะไรให้มากความ เขาคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้ เมื่อหลี่เฟยฮุ้ย ให้เพื่อนสนิทไปตามคนขับรถตามที่น้องสาวแอบกระซิบบอกแล้ว เขาก็วางหลี่เฟยหย่าลง เจ้าตัวน้อยเดินเข้าไปหาคนป่วย ก่อนจะหยดน้ำตกมรกตให้เด็กชายที่นอนไม่ได้สติอยู่ แค่พอให้เขาบรรเทาอาการลง ไม่ได้ให้กินมันจนหายดีเพราะเธอไม่รู้ ว่าทำไมเพื่อนใหม่ของเธอถึงได้ออกมานอนหมดสติอยู่ข้างนอกแบบนี้ แต่ดูจากรอยช้ำที่มุมปากและรอบช้ำตามแขนนี้อีก ไม่รู้ว่าเนื้อตัวภายใต้ร่มผ้าจะขนาดไหน ทางที่ดีพาไปโรงพยาบาลจะดีที่สุด อย่างน้อยๆ จะได้มีหลักฐานการรักษาและคุณหมอจะได้เป็นพยานให้ด้วย เผื่อเกิดเรื่องไม่คาดคิดอะไรขึ้นมา หลังจากได้กินน้ำตกมรกตไปแล้ว อาการหอบของเขาก็เบาลงตัวที่ร้อนเป็นไฟ ก็น่าจะลดอุณหภูมิไปหลายองศาเลยทีเ
บทที่ 19 เพื่อนใหม่ที่น่าสงสาร เด็กชายขอบคุณเด็กหญิงตัวกลม ที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนเตียงข้างๆ ขาเขา “พอจะเล่าให้น้าฟังได้รึเปล่าคะ เกิดอะไรขึ้นกับหลานถึงได้ไปนอนหมดสติที่สวนอย่างนั้น ที่บ้านไม่มีผู้ใหญ่อยู่หรือ” ซ่งผู่เย่วถามออกมาแบบกว้างๆ ไม่ได้ถามถึงรอยฟกช้ำรุนแรงตามร่างกาย เพราะอยากให้เด็กชายตรงหน้า เล่าเรื่องทั้งหมดออกมาเอง เด็กชายเมื่อรู้สึกถึงความปลอดภัย เมื่อได้อยู่ใกล้ครอบครัวผู้ช่วยเหลือเขา ก็ยอมเล่าเรื่องออกมาทั้งหมด เขาชื่อหยางต้าหยวน บ้านอยู่ในเขตพิเศษ ถนนสายที่เจ็ด บ้านของเขามีแค่พ่อที่เป็นเจ้าบ้าน คุณแม่หรือแม้แต่ปู่ย่าตายายล้วนเสียชีวิตหมดแล้ว เขาไม่มีญาติที่ไหนอีก คุณแม่ของเขาพึ่งเสียชีวิตไปเมื่อหนึ่งปีก่อน หลังจากที่ท่านจากไปเขาก็อยู่กับป้าโจวหัวหน้าแม่บ้าน และแม่บ้านอีกสองคนมาตลอด ส่วนคุณพ่อของเขา ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน เพราะต้องออกไปทำภารกิจบ่อยๆ ถึงจะยศพลโทแล้วแต่ยังไม่สูงพอให้ประจำอยู่ที่ปักกิ่ง ต้องออกทำภารกิจต่างเมืองอยู่ แต่เมื่อสามเดือนก่อน ที่คุณพ่อของเขาไปทำภารกิจแถวชนบทที่มณฑลหนึ่ง เขาก็โดนแม่ม่ายล
บทที่ 20 แม่เลี้ยง เช้าวันต่อมา ภายในเรือนแบบประยุกต์ของตระกูลหยาง ถังลี่จูภรรยาคนใหม่ของหยางตงหยาง ตอนนี้กำลังกระวนกระวายใจ ที่ลูกเลี้ยงของเธอหนีออกไปได้ หลังกลับมาจากออกไปรับพ่อแม่ของเธอเพื่อจะพามาอยู่ด้วยกัน กลับมาถึงบ้านพวกแม่บ้านที่ให้อยู่เฝ้าบ้าน วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาแจ้งเธอ ว่าหยางต้าหยวนหนีออกไปได้ ด้วยความโมโหที่แม่บ้านสองคนนี้ที่เธอมอบหมายหน้าที่ให้คอยเฝ้าลูกเลี้ยงทำงานง่ายๆ แค่นี้ยังทำไม่ได้ เด็กคนเดียวยังปล่อยให้มันทำร้ายจนหนีออกไปได้ ถังลี่จูจึงระบายอารมณ์ด้วยการทุบตีแม่บ้านทั้งสองอย่างรุนแรง ก่อนจะสั่งให้ทุกคนแยกย้ายกันตามหา หัวหน้าแม่บ้านโจวที่อยู่กับตระกูลหยางมาเป็นสิบปี แต่กลับหักหลังเจ้านาย เพราะเห็นว่าหยางตงหยางมีภรรยาใหม่แล้ว ย่อมลืมลูกชายของตัวเองและคิดเอาเองว่าถ้าเอาใจคุณนายคนใหม่ จะต้องได้ดีกว่าเดิมแน่ ดูได้จากเงินที่เธอมักจะควักจ่ายทุกครั้ง เมื่อทำงานเล็กๆ น้อยๆ ให้ตลอด รวมถึงทำเป็นหูหนวกตาบอดเวลาที่ลูกติดของเธอรังแกคุณชายของบ้าน เรื่องทั้งหมดนี้เธอรู้เห็นเป็นใจในทุกเรื่อง รวมถึงทำลายจดหมาย ที่หยางตงหยา
บทที่ 21 เติบโต เวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังเรื่องทุกอย่างของครอบครัวหยางคลี่คลาย หยางต้าหยวนพาหยางตงหยางบิดาของเขาไปทำความรู้จักกับครอบครัวหลี่ หยางตงหยางได้ขอคำปรึกษาเรื่องหาแม่บ้านคนใหม่ ตอนที่เขาต้องออกทำภารกิจหลังจากนี้ จะได้มีคนคอยดูแลลูกชายของเขา คุณย่าจางจึงช่วยจัดหาคนให้ ซึ่งไม่ใช้คนอื่นคนไกลที่ไหน เป็นครอบครัวน้องชายของลุงจงเกอคนขับรถ สามีของป้าฉางแม่บ้านใหญ่ของครอบครัวหลี่ ครอบครัวน้องชายลุงจงเกอมีกันอยู่สามคน จงกุ้ยชายวัยกลางคน ท่าทางคล่องแคล่วแววตาซื่อตรง ภรรยาของเขาและลูกชายอายุยี่สิบสองเป็นคนซื่อตรงไม่ต่างกัน พอทุกคนได้พบคนทั้งสามก็รู้สึกวางใจไปได้เปลาะหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ละเลยอย่างครั้งที่แล้ว เพราะมีตัวอย่างให้เห็นแล้ว หยางตงหยางจึงรบกวนครอบครัวหลี่ช่วยสอดส่องบ้างยามเขาไม่อยู่ด้วยอีกแรง พวกเด็กๆ จึงได้ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ เจ้าตัวน้อยหลี่เฟยหย่าได้เพื่อนเล่นสมใจ อย่างที่ต้องการแล้วจึงมีความสุขมาก วันเวลาผ่านพ้นไปมีเหตุการณ์ต่างๆ มากมายเกิดขึ้นนอกเขตพิเศษที่แสนสงบและปลอดภัยแห่งนี้ ช่วงนี้ผู้คนไม่กล้าออกไปข้างนอกมากนัก หากไ
บทที่ 22 แก๊งเพื่อนที่น่ารัก หลี่เฟยหย่าเปิดกระเป๋า ทำเหมือนหยิบส้มลูกใหญ่ออกมาจากในนั้น แต่จริงๆเอาออกมาจากในมิติ เธอหยิบออกมาเจ็ดแปดลูก แบ่งให้สองพี่น้องเป็นการห้ามศึกระหว่างพวกเขา “ส้มพวกนี้หวานมากนะ คุณลุงหลี่เจี๋ยเอามาฝากจากทางใต้น่ะ” เธอเอาคุณลุง ที่สองเพื่อนสนิทไม่ค่อยได้เจอมาอ้าง “ว้าว ส้มหวานมากขอบคุณนะหย่าหยา” หวงหนิงเฉิงผู้ชอบกินเกาะส้มออกมาชิมทันที พูดออกมาอย่างสดใส ลืมว่างอนน้องสาวฝาแฝดของเขาไปทันที และแบ่งส้มที่ปอกเปลือกแล้วให้น้องสาวลองชิมบ้าง “อื้ม หวานมากอยากซื้อไปให้คุณแม่บ้างเลย ท่านต้องชอบมากแน่นอน” หวงหนิงอ้ายพูดออกมาอย่างชอบใจ ในความหวานสดชื่นของส้มลูกใหญ่ ผลไม้ดีๆ แบบนี้ราคาแพงและหาซื้อยากมาก เธอคิดอย่างเสียดายเมื่อนึกได้ว่า ที่มาของมันอยู่ไกลถึงทางใต้เชียว “ได้นะที่บ้านยังมีอีกมาก เดี๋ยวตอนไปส่งฉันที่บ้านฝากเอาไปให้คุณป้าด้วยนะ” หลี่เฟยหย่าบอกกับหวงหนิงอ้าย เมื่อเห็นว่าเพื่อนอยากจะซื้อไปฝากคนที่บ้าน แน่นอนว่าส้มนี่น่ะมีแค่ในมิติเธอเท่านั้นที่รสชาติด
บทที่ 23 ความอิจฉา หนังจบแล้ว แต่คนดูอย่างกลุ่มเพื่อนของหลี่เฟยหย่ายังไม่จบ พวกเขาพากันเดินออกมาจากโรงภาพยนตร์ และพูดคุยเกี่ยวกับฉากต่างๆ อย่างออกรส แต่เมื่อพูดถึงสหายวัยเยาว์ในเรื่อง พวกเขาต่างก็พากันเศร้าที่หนึ่งในกลุ่มสหาย ยอมเสียสละชีวิตเพื่อให้เพื่อนๆ ของเขารอดไปได้ และขอให้ทุกคนออกผจญภัยอย่างนี้ต่อไปแทนเขาด้วย เด็กหนุ่มสาวคุยกันอย่างสนุกสนาน เห็นเวลาว่ายังเหลืออยู่อีกนาน ที่ลุงคนขับรถบ้านหวงจะมารับ พวกเขาจึงตกลงกันว่าจะไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าก่อน แต่ทางไปห้างสรรพสินค้าต้องเดินเข้าตรอก ที่อยู่ข้างโรงภาพยนตร์ก่อนถึงจะเจอถนน ที่ต้องข้ามไปห้างสรรพสินค้าได้ ระหว่างทางเดินก็ผ่านซอยต่างๆ ที่แยกออกไปบางซอยก็เป็นซอยเปลี่ยวไม่มีคนเดิน ถ้ามีก็น้อยพวกเธอเคยมาทางนี้อยู่หลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่รู้สึกถึงลางสังหรณ์แปลกๆ เหมือนครั้งนี้เลย ถึงทางเดินจะเงียบแต่มันไม่เคยดูเปลี่ยวร้างขนาดครั้งนี้ เสียงพูดคุยกันระหว่างเด็กหนุ่มสาวเริ่มหยุดลง เมื่อต่างคนต่างก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศไม่ชอบมาพากล จึงรีบเร่งฝีเท้าเดินให้พ้นตรอกนี้ทันที
บทที่ 24 รังของพ่อค้ามนุษย์ เหล่าคนร้ายขับรถออกนอกเมือง ไปตามเส้นทางร้างไร้ผู้คน พวกมันดูชำนาญเส้นทางมาก มีการคุยเล่นกันอย่างไม่มีทุกข์ร้อนแต่อย่างใด ประหนึ่งว่าหนึ่งวันพวกมันทำแบบนี้หลายรอบ และขับรถไปเส้นทางที่มันจะไปอยู่บ่อยครั้ง หลี่เฟยหย่านอนหลับตาแกล้งหมดสติ มองภาพที่เจ้าเฟยเฟยส่งเข้ามาในหัวให้เธอดูไปพร้อมกับมัน พลางวิเคราะห์การกระทำของพวกคนร้ายไปด้วย เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ที่พวกมันขับรถด้วยความเร็วสูงบวกกับท้องถนนที่ไร้รถคันอื่น รถยนต์สองคันก็วิ่งเข้าสู่เขตพื้นที่นอกเมือง เขตเหมินโถวโกว เขตนี้มีแต่ป่าไม้และแม่น้ำ รถแล่นเข้าเขตนี้ไม่นานก็ไปจอดอยู่หน้าเรือนไม้ ที่มีรั้วรอบขอบชิดหลังใหญ่ ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์หยุดพูดคุยกันก่อนดับเครื่องรถยนต์ และเปิดประตูไปอุ้มเด็กหนุ่มสาวทั้งสามคนตรงเบาะหลัง เดินเข้าประตูเรือนหลังใหญ่ไป ภายในบ้านยังมีชายหนุ่มวัยเดียวกันเป็นสิบคน นั่งมั่วสุมเฝ้าอยู่ภายในรั้วหน้าเรือนใหญ่ “โอ้ ได้ของดีมาถึงสองคน ฉันขอเล่นด้วยสักคนหน่อยนะพี่สิง” ลูกน้องปากเปราะ หนึ่งในคนที่นั่งมั่วสุมกันอยู่ขอ
บทที่ 25 ร่วมแรงร่วมใจ “ฉันได้ยินพวกมันจะส่งพวกฉันขึ้นเรือไปขายนอกประเทศน่ะ แต่ฉันไม่รู้ว่าพวกมันจะส่งทุกคนขึ้นเรือไปเหมือนกันรึเปล่า” หลี่เฟยหย่าเล่าในสิ่งที่เธอแอบได้ยิน ที่พวกคนข้างนอกคุยกันให้ทุกคนรับรู้ แน่นอนว่าเมื่อพวกเขาได้ยินแบบนั้น ก็แทบอยากจะกรีดร้อง และวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ทันที แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้นไม่ มีใครกล้าส่งเสียงออกไป ทำได้แค่รีบยกมือขึ้นมาปิดปากกันเสียงเล็ดลอดออกไป แม้แต่เด็กเล็กๆ ที่ไม่น่าจะควบคุมความหวาดกลัวได้ไหว พวกเขาก็ยังรู้จักเก็บเสียงได้ นี่ไม่ใช่ว่าทุกครั้งที่พวกมันเข้ามาต้องทำอะไรให้เด็กๆ กลัวมากขนาดนี้หรอกหรือ “ฉันมีวิธีพาทุกคนออกไปได้นะ แต่ต้องตกลงกันก่อน พวกคุณยินดีทำตามแผนของฉันรึเปล่า” หลี่เฟยหย่าไม่อยากปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปมากกว่านี้แล้ว ดูได้จากความหวาดกลัวของเด็กๆ แบบนี้ ต้องรีบวางแผนก่อนที่พวกมันคนใดคนหนึ่ง จะลงมาก่อเรื่องให้พวกเขาหวาดกลัวอีกรอบ “ตกลง!! ฉันเชื่อใจในมันสมองของเธอ ที่ผ่านมาจอมวางแผนแบบเธอไม่เคยพลาดนี่นา” สองพี่น้องฝาแฝด ตอบตกลงเพื่อนสนิทไปแทบจะในทันทีที
บทที่ 50 ชีวิตคู่ที่ถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ จบคำสารภาพรักด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเป็นการยืนยัน พ่อหนุ่มเจ้าน้ำตาที่ก้มหน้าหลุบตาลงมองต่ำดูเศร้าสร้อย พานให้คนมองใจอ่อนยวบแอบชะงักไปหนึ่งจังหวะเล็กๆ ซ่อนสีหน้าดีใจไว้ได้อย่างมิดชิด ถึงได้ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบสายตากับดวงตากลมโต ที่จ้องมองมาอย่างต้องการยืนยันคำพูดจากใจจริงของเธออย่างน่าเอ็นดู คนพี่เม้มปากข่มใจไม่ให้หลงอ่อนข้อไปกับความน่ารักตรงหน้า เขาเล่นใหญ่สวมบทคนรักจิตใจอ่อนไหวขี้น้อยใจขนาดนี้แล้ว ต้องเอาคนตัวเล็กตรงหน้าให้อยู่หมัด “ถ้าน้องยืนยันอย่างหนักแน่นขนาดนี้พี่ก็เชื่อจนหมดใจแล้วครับ พี่ก็รักหย่าเออร์มากขึ้นในทุกๆ วันเหมือนกัน สัญญาแล้วนะครับ หลังเรียนจบแต่งเลยทันที” “ค่ะ! ไม่ผิดสัญญาแน่ค่ะ” “ครับ… ดีมากครับเด็กน่ารักต้องไม่ผิดสัญญา แต่….” คนเจ้าแผนการเริ่มคิดอยากกลับมาแผลงฤทธิ์อีกครั้งแล้ว “อะ อะไรคะ! ตะ แต่อะไรถามน้องมาให้หมดเลยค่ะ พี่ช่างอยากรู้อะไรน้องจะตอบทุกเรื่องเลย” คนน้องหลงคิดว่าคนพี่จะหมดข้อข้องใจแล้ว เพราะเขาก็บอกรักเธอกลั
บทที่ 49 สวมบทพ่อหนุ่มเจ้าน้ำตา หลังกอดปลอบเพื่อนสาวจนหายน้อยใจแล้ว หวงหนิงอ้ายก็ขอแยกตัวไปนั่งตรงโซนบาร์เครื่องดื่ม ด้วยรู้ว่าเพื่อนตัวน้อยต้องขึ้นไปหาคู่หมั้นหนุ่มที่ห้องทำงาน เหมือนทุกครั้งที่พวกเขาพากันมาที่นี่ “หยะ-…” ……. “อ๋า! น้องสาว... หย่าเออร์ เลิกเรียนแล้ว น้องกินอะไรมารึยัง หิวรึเปล่า วันนี้เรียนหนักรึเปล่า ถ้าเหนื่อยเกินไปน้องเปลี่ยนคณะที่เรียนใหม่ได้นะ…” พอเปิดประตูห้องทำงานใหญ่ของสามหนุ่มเพื่อนสนิทเข้ามา หวงหนิงเฉิงที่ความรู้สึกไวที่สุดและรอคนรักอย่างใจจดใจจ่ออยู่ก่อนแล้ว เอ่ยเรียกคู่หมั้นตัวน้อยยังไม่ทันจบ เจ้าเพื่อนรักแฝดคนพี่รีบทิ้งปากกาในมืออย่างของไร้ความหมาย ก่อนแกล้งส่งเสียงแปร๋นอย่างแตกสาวกลบเสียงเพื่อนสนิทจนไม่ได้ยิน พร้อมกันนั้นเจ้าเพื่อนแฝดคนน้องก็ลุกจากที่นั่งไปโอบน้องน้อยของพวกเขา พามานั่งเบียดกันสามคนบนโซฟาตัวเดียวกัน ทำเมินเพื่อนหนุ่มราวกับห้องนี้มีกันอยู่แค่พวกเขาสามพี่น้อง “……..” คนถูกเมินได้แต่ยืนกอดอกพิงสะโพกกับโต๊ะทำงานตัวใหญ่รอให้มองทั้งสามนั่งกอดกันกลม
บทที่ 48 ยอมรับความแตกต่าง เมื่อไม่มีใครเป็นอะไรพวกเขาจึงแยกกันกลับบ้าน เหมือนไม่มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ก้าวผ่านร่างของสวีหยู่เยียนซึ่งกำลังโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บร่าง และสืบสวนเรื่องราวเพื่อนดำเนินคดีต่อไป มันก็เป็นแค่เรื่องร้ายๆ เรื่องหนึ่งที่อาจจะหนักหน่อย ผ่านพ้นไปได้อีกเรื่องในวัยสิบหกปีของพวกเขา ภายหลังผลคดีจากการสืบสวนออกมาอีกว่า สวีหยู่เยียนฆ่าชายพนักงานโรงแรมรัฐแห่งหนึ่งตาย แต่ก่อนการลงมือฆาตกรรม เพื่อนข้างห้องได้ยินเสียงทำร้ายร่างกายด่าทอตบตีกัน มีการข่มขู่ทรมานเอาเงินจากเธอแถมยังกักขังสวีหยู่เยียนไว้ในห้องไว้ข่มขืนซ้ำๆ ไม่ปล่อยเธอออกจากห้องจนสุดท้ายเธอจึงก่อเหตุลงมือกับชายคนนั้น นี่อาจจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เธอสติหลุด จากเรื่องที่ชายคนนั้นทำเรื่องเลวทรามกับเธอ ส่วนแม่ที่เป็นญาติเพียงคนเดียวของเธอ ก็ได้หอบเงินหนีไปก่อนแล้วตอนที่เซี่ยเหว่ยพ่อเลี้ยงของเธอโดนจับ ทิ้งให้เธออยู่คนเดียวที่บ้านหลังนั้นโดยที่มีเซี่ยเติ้งหลุนคอยเข้าออกบ้างยามต้องการใช้ประโยชน์จากเธอ หลังเรื่องราววุ่นวายจบลง บรรดาผู้คนรอบตัวของหลี่เฟยหย่าทั้งค
บทที่ 47 ความขาดสติจนกลายเป็นความบ้าคลั่ง 2/2 สวีหยู่เยียนเลือกมาอาละวาดก่อเรื่องในเวลาเลิกเรียนพอดี คนในส่วนหน้าโรงเรียนจึงเยอะ พวกเขาต่างพากันลนลานวิ่งหาที่หลบลูกกระสุนที่ถูกปล่อยออกมาในบางจังหวะที่สวีหยู่เยียนคลุ้มคลั่ง สวนสวยเพื่อนั่งเล่นและเป็นซุ้มรอรถตรงนี้ เหล่าคนในโรงเรียนจะรู้กัน ว่าเป็นที่นั่งของเหล่าลูกหลานคนมีเงินเพื่อมานั่งรอรถที่บ้านมารับ กลุ่มที่รู้ฐานะตัวเองพวกเขามักจะหลีกเลี่ยงไม่มานั่งที่นี่ ถึงแม้พื้นที่ตรงนี้ไม่ได้แบ่งแยกให้ใครนั่งได้หรือไม่ได้ เมื่อปฏิบัติต่อๆ กันมาเรื่อยๆ หลักปีนานเข้า มันก็กลายเป็นพื้นที่อภิสิทธิ์เฉพาะไปโดยปริยาย ถึงพวกเขาจะก้มลงหมอบหาที่หลบซ่อนตัวแล้ว แต่สวีหยู่เยียนที่กำลังเดินผ่านเพื่อไปยังซุ้มตรงที่หลี่เฟยหย่าหลบอยู่ สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็น กลุ่มคนที่เธอเคยไปมีเรื่องด้วยเพราะความอิจฉาอยู่หลายคนทีเดียว “ฮ่าๆ! อ้อ… ฉันก็เผลอแปลกใจไปแวบหนึ่ง ที่เจอพวกคนสารเลวชอบทำตัวสูงส่งอย่างพวกแกไป ลืมไปได้ยังไงกันนะ แหม! ก็นี่มันสวนชนชั้นสูงของพวกแกนี่นา ดี! จะได้ไม่ต้องไปตามคิดบัญชีนังพวกที่ชอบดูถูกฉันให้เหนื่อ
บทที่ 46 ความขาดสติจนกลายเป็นความบ้าคลั่ง 1/2 หลังกลับมาจากค่ายนอกเมืองแล้วกลับเข้ามาทำงานต่อ โดยลากเพื่อนสนิททั้งสองมาเคลียร์เอกสาร ที่เหมือนทำเท่าไรก็ไม่หมดในส่วนของพวกเขา ที่บางครั้งเฉินหวงช่างต้องรับมาทำ เพราะสองพี่น้องมีงานต้องออกไปทำนอกพื้นที่ตลอด จนหาเวลานั่งติดเก้าอี้เคลียร์เอกสารน้อยเหลือเกิน วันนี้อยู่ด้วยกันแล้วถือโอกาสเปิดห้องประชุมไปด้วยเลยแล้วกัน หลี่เฟยฮุ้ยและหลี่เฟยเจินหลังจากนี้ ไม่จำเป็นต้องปิดบังตัวตนเข้ามายังตลาดลับ ที่พวกเขาร่วมลงทุนอีก คนที่เป็นเจ้านายใหญ่โดยถือเปอร์เซ็นถึง70% เลยคือเฉินหวงช่าง ส่วนสองแฝดถือคนละ 15% เมื่อหลายเดือนก่อน หยางต้าหยวนที่ถือเปอร์เซ็นอยู่ 7% อยู่ๆ ก็คิดขายคืนให้เฉินหวงช่าง ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้มีคำถามขอคำอธิบายใดๆ ให้หยางต้าหยวนตอบ เขาเพียงทำเอกสารการรับซื้อยื่นให้อีกฝ่ายเซ็น พร้อมกับให้ลูกน้องไปเอาเงินถึงสองกระเป๋าใหญ่ ส่งให้หยางต้าหยวนง่ายๆ เท่านั้น “พวกนายไปขอให้คุณลุงหลี่เจี๋ย ปล่อยข่าวการรับสมัครบอดี้การ์ดให้กับทหารปลดเกษียณที่ค่ายทางใต้ด้วยแล้วกัน” เฉินหวงช่างบอกสหายหลั
บทที่ 45 ทรมานเจ้าคนน่าขนลุก NC 🔥ชน/ช รุนแรง* ผัวะๆ!! “อ่า!... อ๊ากกก! ปล่อยฉันๆ! พวกแกมันก็ค้าขายทำลายชาติไม่ต่างจากฉันนี่ แล้วจะมาทำลายพวกเดียวกันทำไม ฮะ! อั่ก!!” เซี่ยเติ้งหลุนที่โดนฝ่าเท้าหนักๆ สองพี่น้องบ้านหลี่รุมอย่างไม่ยั้งแรง ร้องตะโกนโต้แย้งอย่างสู้อะไรไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ดูจะยังแข็งแรงดีมากๆ อยู่บ่งบอกถึงความถึกที่ซ่อนไว้ ขัดแย้งกับภาพลักษณ์คุณชายแสนสุภาพเจ้าสำอางที่แสดงให้เห็นไปก่อนหน้า พลั่กๆ!! “เหอะ! ไอ้เวร สารเลวนี่มันปากดี มีแรงพูดไม่หยุดจริงๆ! ฉันขอเตือนให้แกเก็บเสียงไว้แหกปากหลังจากนี้ดีกว่าไหม แกได้แหกปากเหม็นๆ นี่จนพอใจแน่” หลี่เฟยฮุ้ยพูดออกมาอย่างเหลืออด กับการแหกปากพ่นคำพูดหาความสำนึกไม่ได้นี่ ขณะยกเท้ากระทืบหนักๆ ลงบนร่างคุดคู้ที่พื้น เซี่ยเติ่งหลุนโดนลูกน้องของเฉินหวงช่าง พากลับมาขังไว้ก่อนหน้านี้ กำลังโดนสองแฝดบ้านหลี่จัดการทรมานระบายอารมณ์ หลังเหตุการณ์คืนวันงานเลี้ยงเมื่อวันก่อนหลายวันก่อนผ่านไป บ้านตระกูลหลี่และตระกูลเฉินทั้งสองบ้านได้ตกลงเกี่ยวดองกั
บทที่ 44 สถานะที่เปลี่ยนไป หลี่เฟยหย่าไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหนแล้ว มารู้สึกตัวด้วยความหงุดหงิด ก็ตอนที่เหมือนโดนกอดรัดจนขยับพลิกตัวไม่ได้นี่ละ แถมยังมีไอ้เจ้าความรู้สึกที่เหมือนโดนปลุกเร้าที่ร่องกลีบอวบ และปลายยอดถันนี่อีก “จ๊วบ~ จุ๊บ… จุ๊บ… ฟอด ~ จุ๊บ!….” คนหื่นที่ไม่ยอดหลับยอมนอน แม้จะปล่อยให้อีกฝ่ายนอนหลับได้เต็มอิ่ม แต่เขาก็ยังคงคลอเคลียไม่ห่าง ใบหน้าที่ติดเรียบนิ่งจนดูเย่อหยิ่งเป็นปกตินั่น ตอนนี้กลับมีแววหวาน นัยน์ตาฉายความหลงใหลอย่างแสนรัก ที่หลี่เฟยหย่าไม่คิดว่าจะได้เห็น แต่เฉินหวงช่างที่เงยหน้าขึ้นมา สบเข้ากับแววตานิ่งค้างของหลี่เฟยหย่า ที่เห็นสีหน้าและแววตาเปิดเปลือยความรู้สึกในใจตอนเผลอไปจนหมดเปลือก ชายหนุ่มไม่ได้คิดจะปกปิดแต่อย่างใด กลับยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาเลียกลีบปากอิ่ม ที่บวมช้ำของคนตัวเล็กคล้ายต้องการจะยั่วยวนกัน กอดกระชับขาเรียวเล็กข้างหนึ่ง ที่นอนในท่านอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าหากัน ให้มาก่ายเกยบนท่อนแขนกำยำของตนมากขึ้น สะโพกแกร่งแสนร้ายกาจขยับในจังหวะเนิบนาบ ให้ท่อนเอ็นที่ไม่ยอมหลับยอมนอนตามเจ้าของ คอยเสียดแ
บทที่ 43 เฉินหวงช่าง NC 🔞🔥+++ 2/2 สองมือเรียวเล็กของหลี่เฟยหย่า ดึงรั้งกางเกงแสนเกะกะออกจากสะโพกหนั่นแน่น ที่ยกขึ้นให้ร่างเล็กถอดออกอย่างง่ายดาย “ฮ่าส์!…..” ร่างสูงหลุดครางเสียงพร่า หลังโดนสองมือเล็ก แสนเผด็จการ กดเข้ากลางลำคอหนา ให้ทิ้งตัวนอนหงาย ตรึงร่างแกร่งไว้กับพื้นเตียง ก่อนที่ร่างเล็กจะขึ้นคร่อมทิ้งสะโพกกลมมน ลงมาบดเบียดกลีบสาวอวบอูม ให้แย้มผลิบานโอบแนบไปกับแท่งร้อนลำใหญ่ “อาส์… หย่าเออร์… ฮื้มส์….” เสียงทุ้มครางเสียงต่ำสั่นพร่าอย่างกระสันซ่าน ไปกับการร่อนสะโพกเด้งๆ นั่น บดขยี้ไปกับแท่งร้อนของเขาอย่างเร่งร้อน น้ำหวานสีใสไหลอาบเคลือบความแข็งขืนจนเกิดเสียงเฉอะแฉะน่าอาย “ฮ่าส์ พี่ช่าง….. พี่ช่างขา… อ่าส์!” คนพี่โดนน้องน้อยของเขาครางเรียก ด้วยเสียงหวานหยาดเยิ้มเข้าซ้ำๆ ก็ยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านจนปลายหัวหยักสีฉ่ำปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมา เรียวปากหยักยกยิ้มร้ายอย่างชอบใจกับการกดตรึงร่าง จนเหมือนเขาเป็นทาสราคะ อย่างเอาแต่ใจของคนตัวเล็ก ชายหนุ่มโอบร่างเล็กให้ลงมาแนบอกอวบอิ่มไปกับแผงอกกว้าง
บทที่ 42 เฉินหวงช่าง NC 🔞 +++ 1/2 ยังไม่ทันได้พูดพล่ามความเสียสติออกมาจนจบประโยคดี เซี่ยเติ้งหลุนก็โดนมือปริศนากระชากผมจากทางด้านหลัง ให้ทันกลับมารับหมัดหนักๆ ซัดเข้าที่หน้าตรงจมูกจุดที่มีปลายประสาทจำนวนมาก “อั๊กๆ !!!” เมื่อได้รับหมัดแรกแล้วหมัดที่สอง ที่สามก็ตามมาติดๆ ซัดเข้าที่จุดเดิมซ้ำๆ เว้นดวงตาให้มันไว้มองการทรมานแสนโหดร้ายจากเขา หลังจากจบเรื่องหลังจากนี้ เฉินหวงช่างก้าวเท้ายาวๆ ตามเซี่ยเติ้งหลุน ที่พยายามลนลานลุกหนีไป จนล้มลุกคลุกคลานไปกับพื้น เพราะรู้ตัวว่าสู้ไม่ไหวแต่สุดท้าย ก็โดนตามมาเหยียบด้วยเท้าหนักๆ เข้าที่กลางหลัง ก่อนจะโดนพลิกตัวให้หันกลับมารับฝ่าเท้าหนักๆ อัดเข้าที่กลางอก และกลางลำตัวเข้าซ้ำๆ ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ชายหนุ่มไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำ มีเพียงแค่สีหน้าเหี้ยมเกรียมอย่างคนโกรธจัดเท่านั้น กร๊อบๆ!!!! “อั๊ก!!… อ๊ากกกกก!!!!” เฉินหวงช่างไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ เมื่อเห็นร่างเล็กบอบบางสั่นเทาอย่างไม่สู้ดีนัก เขาเลือกจับเซี่ยเติ้งหลุนหักขาออกจากข้อต่อทั้งสองข้างอย่างเลือดเย็น ไม่น