เสียงค้อนกระทบไม้ดังสนั่นหวั่นไหว เหล่าคนงานต่างเร่งมือสร้างที่พักอาศัยอย่างขะมักเขม้น ภายใต้คำสั่งของท่านแม่ทัพ ค่ายอพยพเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยพลังเวทของทุกคนเพียงสองชั่วยามผ่านไป เรือนนอนขนาดใหญ่ 5 หลังก็ตั้งตระหง่านท่ามกลางหิมะขาวโพลน โครงสร้างไม้ที่แข็งแรงรับน้ำหนักของหิมะที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย ภายในเรือนอบอวลไปด้วยไออุ่นจากเตาผิงที่ถูกจุดขึ้นถัดจากเรือนนอนคือ โรงเรือนทำอาหารก็ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ หลินหลินนำเนื้อออกมาย่างรอทุกคน กลิ่นหอมของอาหารเริ่มโชยออกมา ชวนให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันทีทว่า หลินหลินกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังขาดสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง"ห้องน้ำ..."หลินหลินพึมพำกับตัวเอง"ทุกคนเป็นผู้ชาย ห้องน้ำจึงถูกสร้างแบบง่ายๆ หากนางไปใช้คงไม่เหมาะสมนัก"นางรีบเปิดโกดังมิติ"สุขาเคลื่อนที่!" หลินหลินร้องออกมาอย่างดีใจ เมื่อเห็นสิ่งที่นางต้องการนางจำได้ว่าเคยซื้อมันมาเพราะไม่แน่ใจว่าห้องน้ำในยุคนี้จะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง"โชคดีที่ข้าซื้อมันมา"หลินหลินยิ้มออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะนำสุขาเคลื่อนที่ออกมาวางไ
หลินหลินมองฝูงไฮยีน่าหิมะด้วยสายตาเรียบเฉย พวกมันเป็นเพียงอสูรระดับ 1 ไม่คู่ควรแม้แต่จะทำให้นางต้องขยับตัว ทว่าการเจรจาต่อรองกับสัตว์ร้ายนั้นเป็นไปไม่ได้ พวกมันไม่มีทางยอมล่าถอยไปเอง ในโลกใบนี้ การต่อสู้คือหนทางเดียวที่จะอยู่รอด หากไม่สู้ ก็มีแต่จะตกเป็นเหยื่อ"จัดการพวกมัน" หลินหลินออกคำสั่งเสียงเรียบ เหล่าทหารทั้งสี่นายพุ่งเข้าใส่ฝูงไฮยีน่าทันที พวกเขาแต่ละคนล้วนมีฝีมือเหนือชั้น การรับมือกับอสูรระดับ 1 จึงเป็นเรื่องง่ายดายราวกับปัดฝุ่นหลินหลินหันมาสนใจเจ้ากระต่ายน้อยที่ยังคงซุกตัวอยู่ในกระโปรง นางค่อย ๆ ลูบหัวมันอย่างแผ่วเบา ก่อนจะอุ้มมันขึ้นมาแนบอก เจ้ากระต่ายน้อยขดตัวแน่นในอ้อมกอดของนาง ราวกับพบที่พักพิงอันปลอดภัยไม่นานนัก เสียงต่อสู้ก็สงบลง เหล่าทหารกลับมารายงาน"จัดการเรียบร้อยแล้วขอรับ"หลินหลินมองซากไฮยีน่าทั้งแปดตัวที่นอนจมกองเลือด "เราจะเอาพวกมันไปทำอะไรได้บ้างเจ้าคะ ท่านแม่ทัพ""เนื้อของพวกมันเป็นเนื้ออสูร สามารถนำไปทำอาหารได้ จะช่วยเพิ่มพลังให้กับผู้ที่กิน"หลินหลินพยักหน้า โลกใบนี้ยังมีอีกหลายสิ่งที่นางต้องเรียนรู้ เหล่าทหารช่วยกันเก็บซากไฮยีน่าใส่ถุงมิติ หลินหลินจึง
หวาหวาน้อยเห็นพี่รองทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นก็รีบวิ่งเข้าไปหาด้วยขาสั้นๆ "พี่รอง..."หลินหลินยิ้มให้ หยาดเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผาก"พี่ไม่เป็นไร แค่เป็นห่วงพวกเจ้าเท่านั้น"นางอ้าแขนรับร่างน้อยๆ เข้ามากอด และอีกแขนหนึ่งก็รอโอบกอดอาจินน้องชายที่วิ่งตามมาติดๆเราต้องเสริมปราการให้แข็งแกร่งกว่านี้หลินหลินคิดในใจ ไม่อย่างนั้นตอนออกไปทำภารกิจ ข้าคงไม่สบายใจเมื่อทุกคนกลับมาพร้อมหน้า พวกเขารวมตัวกันทานอาหารเย็น บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยในวันนี้ แม้จะเหนื่อยล้า แต่ทุกคนก็รู้สึกภูมิใจที่ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีคืนนั้น เสียงหมาป่าหอนระงมดังมาจากป่าโดยรอบ หลินหลินแทบนอนไม่หลับ นางเปิดอ่านรายละเอียดของปราการเวทอย่างละเอียดถี่ถ้วน นางต้องการปราการที่แข็งแกร่งกว่านี้ เพื่อปกป้องทุกคนในค่ายรุ่งเช้า ภารกิจที่ได้รับก็ยังคงคล้ายกับเมื่อวาน หลินหลินจึงขอให้เทียนชุนนำทีมออกไปเก็บทรัพยากร ส่วนนางจะอยู่ที่ค่ายเพื่อศึกษาการสร้างปราการเวท หากไม่มีขายแบบสำเร็จรูป นางก็จะสร้างมันขึ้นมาเอง!วันเวลาผ่านไป ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ในค่ายอพยพแห่งนี้มานับสิบวันแล้ว หลินหลินแยกเรือนออกมาจากเด็กๆ เพื่อให้มีสมาธิในการสร้
"หลับไปก่อนนะคนดี พี่ยังไม่อิ่มเลย.. ".พร้อมสวนลำแท่งที่ใหญ่และยาวมาจากทางด้านหลัง"อ๊า!!! "ตลอดทั้งคืนนั้น เทียนชุนไม่สามารถละมือจากร่างกายอันงดงามของหลินหลินได้ เขาปลดปล่อยความปรารถนาออกมาถึงสี่ครั้ง แต่ละครั้งล้วนเต็มไปด้วยความรักและความหลงใหลที่มีต่อนางเมื่อแสงแรกแห่งอรุณรุ่งสาดส่องเข้ามาในห้อง เทียนชุนและหลินหลินยังคงกอดกันกลม ดวงตาของทั้งคู่ปิดสนิท ใบหน้าเปื้อนยิ้มแห่งความสุข หลินหลินค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น ขนตายาวงอนขยับไหว ภาพเบื้องหน้าพร่ามัวเล็กน้อยก่อนจะโฟกัส พบว่าตัวเองยังคงอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของเทียนชุน กลิ่นกายหอมกรุ่นของเขาโอบล้อมตัวนาง ราวกับผ้าห่มนุ่มๆ ที่ห่อหุ้มร่างกายไว้ นางขยับตัวเล็กน้อย ทำให้เห็นรอยแดงจางๆ ทั่วร่างกาย ทั้งบนหน้าอก เอว และต้นขา ใบหน้าของหลินหลินแดงก่ำขึ้นทันที โชคดีที่รอยเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เปิดเผย ไม่เช่นนั้นนางคงต้องอายทุกคนในค่ายแน่ๆหลินหลินค่อยๆ ลุกออกจากเตียงอย่างระมัดระวัง พยายามไม่ปลุกเทียนชุนให้ตื่น นางเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายและแต่งตัว วันนี้นางเลือกสวมเสื้อกันหนาวที่รัดกุมกว่าปกติ เพื่อปกปิดร่องรอยแห่งความรักเมื่
ทันทีที่กลุ่มของหลินหลินและเทียนชุนเดินทางกลับถึงค่ายอพยพ เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น ทำหลินหลินหยุดชะงัก"ประกาศภารกิจเร่งด่วน! " ภารกิจ : ทุกคนในค่ายให้ดูดซับพลังจากหินเวท!อย่างต่ำ2ก้อนหลินหลินขมวดคิ้วด้วยความกังวล คำว่า "ทุกคน"นั้นหมายถึงน้องๆ ของนางด้วยและจำนวนมากถึง 2ก้อน! พวกเขายังเด็กเกินไปที่จะรับมือกับพลังงานมหาศาลจากหินเวท นางจึงรีบไปคัดเลือกหินเวทที่เล็กที่สุดเท่ากำปั้นเด็ก ให้หวาหวาและอาจิน"ทุกคนรีบไปเถอะ" เทียนชุนสั่งการ เหล่าทหารรับหินเวทตามธาตุของตนเอง ก่อนจะแยกย้ายกันไปยังที่พักส่วนตัว"ไป๋หู๋ เสี่ยวเฮย"หลินหลินหันไปหาสัตว์อสูรคู่ใจของนาง"ฝากพวกเจ้าดูแลค่ายด้วยนะ"ไป๋หูและเสี่ยวเฮยพยักหน้ารับคำอย่างแข็งขัน พวกมันเข้าใจสถานการณ์ดี และพร้อมที่จะปกป้องค่ายในยามที่ทุกคนต้องเก็บตัวหลินหลินเดินกลับเข้าเรือน พบว่าหวาหวาและอาจินกำลังนั่งมองหินเวทในมืออย่างตื่นเต้น"พี่รอง ให้ข้าหรือเจ้าคะ?" หวาหวาถามหลินหลินยิ้มอ่อนโยน"ใช่พี่ให้ พวกเจ้าต้องดูดซับพลังจากมันนะ" นางอธิบายวิธีการใช้หินเวทให้เด็กๆ ฟังอย่างละเอียด ก่อนจะปล่อยให้พวกเขาไปฝึกฝนกันเอง เพราะพวกเขามีพื้นฐาน
"อา..อืม.. "เทียนชุนเพิ่งรู้ว่าเขาชอบท่านี้ เพราะมันทำให้นางกอดเขาแน่น “หลินเอ๋อร์เจ้าชอบท่านี้หรือไม่? “"อะ..อะ..อะ...อ๊าาา!! ""ไม่ตอบแสดงว่าพี่ยังทำได้ไม่ดี .... "หลินหลินที่ได้ยินดังนั้นก็จะรีบตอบเขา...แต่ยังไม่ทันได้ตอบ..!ก็ต้องร้องครางแทน"อร๊าา!...ซี๊ดดด.!..พี่..เทียน"เทียนชุนยึดต้นขาของนางแน่นกว่าเดิม ก่อนกระแทกตัวเข้ามาอย่างแรง เขาจับนางยกขึ้นและสวนกระแทกนางเป็นจังหวะแบบนั้น"ไม่...ไหว...อ๊ออค...อ๊า...... "ร่างบางกระตุกเกร็งสุขสมเป็นครั้งที่สองเทียนชุนชอบท่านนี้มากเขาจับนางยกขึ้นทั้งตัว และกระแทกลงมาในจังหวะที่เขาสวนท่อนเอ็นเสยขึ้นไป...เขารู้สึกจะเสร็จ..."อ้า..."ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ...."พี่จะเสร็จแล้ว...อีกนิด...ยอดรัก... ".ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ....เสียงเนื้อกระแทกกันดังกึกก้อง...ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ.."อีกนิด... "ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ...."อ้า... "ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ....อืม...ในที่สุดร่างหนาก็เกร็งกระตุก ปลอดปล่อยน้ำรักจำนวนมากออกมาเต็มท้องนางจนอุ่นร้อน..."อ๊าา.. "หลินหลินเผลอครางออกไป"อ๊ะ! ท่าน......! "เทียนชุนสาวเท้าไปกระจกบานใหญ่ เขาให้นางหันหน้าเข้า
หลินหลิน เทียนชุน และเหล่าทหาร ก้าวเข้าไปในหมู่บ้านเอล์ฟอย่างระมัดระวัง เสียงฝีเท้าของพวกเขาเหยียบย่ำบนหิมะที่ปกคลุมพื้นเบา ๆความเงียบสงัดรอบข้างทำให้เสียงนั้นดังก้องอยู่ในใจราวกับกลัวว่าจะรบกวนความสงบสุขของสถานที่แห่งนี้แต่ทันทีที่พวกเขาเดินลึกเข้าไปในหมู่บ้าน ภาพเบื้องหน้าก็ทำให้ทั้งสองแทบลืมหายใจ หมู่บ้านเอล์ฟแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ลาดชัน บ้านเรือนน้อยใหญ่ปลูกสร้างจากไม้แกะสลักอย่างประณีต ประดับประดาด้วยลวดลายดอกไม้และเถาวัลย์ หลังคาบ้านแต่ละหลังประดับด้วยผลึกคริสตัลหลากสีสัน ระยิบระยับราวกับอัญมณี ยิ่งเมื่อต้องแสงอาทิตย์ยามเย็น คริสตัลเหล่านั้นก็ยิ่งเปล่งประกายเจิดจรัส สะท้อนแสงสีรุ้งทั่วทั้งหมู่บ้าน ลำธารใสสะอาดไหลผ่านหมู่บ้าน มีสะพานไม้เล็กๆ ทอดข้าม สองฝั่งลำธารเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่ ส่งกลิ่นหอมอบอวล ผีเสื้อหลากสีบินว่อน ราวกับภาพวาดในเทพนิยาย เหนือยอดไม้สูงมีแสงสว่างเรืองรอง หลินหลินและเทียนชุนเงยหน้าขึ้นมอง พบว่ามีดวงไฟนับร้อยดวงลอยอยู่กลางอากาศ ดวงไฟเหล่านั้นเปล่งแสงสีฟ้า เขียว และม่วง ส่องสว่างทั่วทั้งหมู่บ้านราวกับดวงดาวน้อยๆ ที่หลุดลงมาจากฟ
หลินหลินสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามสงบสติอารมณ์ก่อนจะเผชิญหน้ากับอสรพิษตรงหน้า นางจำได้ว่าดวงตาตรวจสอบบอกว่ามันคือ อสรพิษแสงอาทิตย์ งูพิษระดับ 5 ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการกินงูพิษอื่นเป็นอาหาร ถึงแม้จะมีพิษร้ายแรง แต่มันก็ขึ้นชื่อเรื่องนิสัยรักสงบ ไม่ดุร้าย"เจ้าพูดได้ไหม?" หลินหลินเอ่ยถามอย่างระมัดระวังดวงตาสีทองของอสรพิษหรี่ลงเล็กน้อย"ข้าย่อมสื่อสารกับมนุษย์ได้" เสียงของมันดังก้องอยู่ในหัวของหลินหลิน "เจ้าเก็บของวิเศษที่นี่ไปหรือ?”"ใช่ ข้าเก็บไป"หลินหลินตอบอย่างตรงไปตรงมา"เจ้าต้องการมันหรือ?"หลินหลินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ "ใช่"อสรพิษแสงอาทิตย์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง มันรู้ดีว่าไม่อาจต่อกรกับมนุษย์ตรงหน้าได้ ด้วยพลังเวทระดับสูงที่แผ่อยู่รอบกายนาง แต่นางมิใช่... นางมิใช่คนผู้นั้นที่ข้ารอคอย มันครุ่นคิดถึงคำทำนายโบราณ ที่กล่าวถึงคู่พันธะสัญญา ที่จะมาปลดปล่อยมันจากพันธนาการแห่ง บึงพิษ นับร้อยปีที่มันเฝ้ารอคอยคนผู้นั้น ผู้มีกลิ่นอายที่นางไม่เคยลืมเลือน มิใช่สตรีตรงหน้า ที่มีกลิ่นอายแห่งดวงจันทร์เช่นนี้แต่... เหตุใด มันจึงรู้สึกคุ้นเคยกับสตรีผู้นี้เช่นนี้? ราวกับเคยพบพาน
บทพิเศษเสี่ยวเฮย และ เสี่ยวหมี(หมีหิมะ)ภายในมิติ ทันทีที่หลินหลินจากไป เสี่ยวเฮยทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม"ฮือๆ นายหญิง... ทำไม... ทำไมถึงทิ้งข้า"เสี่ยวเฮยคร่ำครวญด้วยความเสียใจเสี่ยวหมีเดินเข้ามาใกล้ "เสี่ยวเฮย เจ้าอย่าเสียใจไปเลย นายหญิงคงมีเหตุผลของนาง""เหตุผลอะไรกัน ข้าไม่เข้าใจ!" เสี่ยวเฮยร้องไห้โฮ "ข้ารักนายหญิง ข้าอยากอยู่กับนายหญิงตลอดไป"เสี่ยวหมีมองเสี่ยวเฮยด้วยความสงสาร "เสี่ยวเฮย... " เสี่ยวหมีลังเล "ข้า.. ข้าอ่านตำราโบราณออก""แล้วอย่าไร" เสี่ยวเฮยเงยหน้ามองเสี่ยวหมี"ตำราโบราณกล่าวไว้ว่า หากต้องกำจัดอสูรหิมะ ต้องระเบิดพลังจากภายในด้วยพลังระดับ 8 สองสาย และระดับ 9 หนึ่งสาย"เสี่ยวหมีอธิบายเสี่ยวเฮยขมวดคิ้ว "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายหญิง""นายหญิงเป็นมนุษย์ นางมีพลังระดับ 9 ที่นายหญิงยกเลิกพันธะสัญญา ก็เพราะ... นางต้องการปกป้องเจ้า"เสี่ยวเฮยนิ่งอึ้ง "ปกป้องข้า?""ใช่ นางรู้ว่า หากเจ้ายังมีพันธะสัญญาอยู่ หากนางระเบิดพลังเจ้าจะตายไปด้วย "เสี่ยวหมีพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า "นางรักเจ้ามาก เสี่ยวเฮย"เสี่ยวเฮยเบิกตากว้าง หัวใจของมันรู้สึกอบอุ่น ใน
ภายในจวนท่านแม่ทัพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความคาดหวัง เสียงร้องโอดโอยของหลินหลินดังเล็ดลอดออกมาจากห้องคลอดเป็นระยะๆ ทำให้เทียนชุนที่ยืนรออยู่ด้านนอกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เขากำมือแน่น พยายามสะกดกลั้นความกังวลเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจหยุดความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวได้"หลินเอ๋อร์ เจ้าต้องปลอดภัยนะ"เขาพึมพำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าบิดามารดาของทั้งสองฝ่ายก็อยู่ในอาการไม่ต่างกัน พวกเขานั่งรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เสียงร้องของหลินหลินแต่ละครั้งทำให้หัวใจของพวกเขาแทบจะหยุดเต้น"ลูกต้องปลอดภัยนะ"มารดาของหลินหลินพึมพำภาวนา ทันใดนั้นเสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงัดในจวน ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องคลอดด้วยความตื่นเต้นไม่นาน หมอตำแยก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง "ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ฮูหยินคลอดลูกแฝดชายหญิง เป็นเด็กที่แข็งแรงมาก"เทียนชุนรีบพุ่งเข้าไปในห้องคลอดทันที เขาเห็นหลินหลินนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียวแต่ก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ข้างกายนางมีทารกน้อยสองคนนอนอยู่เทียนชุนทรุดตัวลงข้างเตียง จับมือภรรยาไว้แน่น"หลินเอ๋อร์ เจ้าเก่งมาก"
หลินหลินค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคยของเทียนชุน ทันทีที่สติกลับคืนมา ภาพเหตุการณ์สุดท้ายก่อนหมดสติก็ฉายชัดขึ้นในห้วงความคิด เสียงระเบิดดังสนั่น ภาพดวงตาที่ทั้งสองมองมาที่นาง…น้ำตาไหลอาบแก้มหลินหลินอีกครั้ง ความเจ็บปวดของความสูญเสียกัดกินหัวใจของนางอย่างรุนแรง นางพยายามสะกดกลั้นเสียงสะอื้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งมันได้"เสี่ยวเฮย... เสี่ยวหมี..."นางพึมพำชื่อของพวกมันซ้ำๆ ราวกับต้องการเรียกพวกเขากลับมาเทียนชุนตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากร่างกายของภรรยา เขามองหลินหลินที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก หัวใจของเขาเจ็บปวดไม่ต่างกัน เขาโอบกอดนางไว้แน่น พยายามปลอบโยน" หลินเอ๋อร์"เขาพูดเสียงแผ่วเบา "ทุกอย่างจบแล้ว"หลินหลินเงยหน้ามองสามี น้ำตาไหลอาบแก้ม "ข้า... ข้าทำไม่สำเร็จ"นางพูดเสียงสั่นเครือ "ข้าไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้"เทียนชุนส่ายหน้า "ไม่ใช่ความผิดของเจ้า พวกเขาเลือกที่จะเสียสละตัวเองเช่นเจ้าเลือกที่จะสละตัวเองเพื่อพวกเรา""แต่..."หลินหลินยังคงร้องไห้ไม่หยุดเทียนชุนเช็ดน้ำตาให้ภรรยาอย่างอ่อนโยน "เสี่ยวเฮยและเสี่ยวหมีคงภูมิใจในตัวเอง ที่พวกเขา
หลินหลินรีบร้อนเข้าสู่มิติเพื่อเตรียมตัวรับมือกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ แม้จะมีเวลาจำกัดเพียงสองชั่วยาม (สี่ชั่วโมง) แต่นางก็ไม่รอช้า มุ่งตรงไปยังหอตำราเวททันทีภายในหอตำรา บรรยากาศเงียบสงบและเคร่งขรึม อักษรโบราณสีทองเรียงรายอยู่บนผนังถ้ำสูงตระหง่าน หลินหลิน ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอสูรหิมะ สัตว์ในตำนานที่กำลังคุกคามพวกเขา ครั้งนี้อักษรไม่ได้พุงเข้ามาที่ตัวของนางแต่ปรากฏหนังสือโบราณเก่าแก่อสูรหิมะ... สัตว์ในตำนานที่ถือกำเนิดจากพายุหิมะอันรุนแรง ดูดกลืนพลังจากความหนาวเย็นจนกลายเป็นอสูรร้ายทรงพลัง มันออกตามล่านักเวทระดับ 9 เพื่อดูดกลืนพลังขั้นสุดท้ายของพวกเขาหลินหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตัวอักษรในตำราเต้นระริกราวกับจะตอกย้ำความจริงที่ว่า มีเพียงนางและสามีเท่านั้นที่อยู่ในระดับ 9 มือของนางเริ่มสั่นไหว ความกลัวกัดกินหัวใจนางพลิกหน้าตำราต่อไปอย่างรวดเร็ว ค้นหาวิธีที่จะหยุดยั้งอสูรตนนี้มีเพียงสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจ 9 ครั้งเท่านั้นที่จะสังหารมันได้ หรือ... การระเบิดพลังจากภายใน ต้องใช้พลังเวทระดับ9 หนึ่งขุม หรือระดับ 8 สองขุม ถึงจะจัดการกับอสูรหิมะตนนี้ได้หลินหลินหน้าซีดเผือด มือบางสั่นเทาจนเสี่ยวเ
"เราจะพักที่นี่เอาแรงก่อน" หลินหลินหันไปบอกกับทั้งสามคน ก่อนจะมอบน้ำทิพย์ให้พวกเขาคนละกระบอกนางใช้เวลาพูดคุยกับครอบครัวอีกหนึ่งเค่อ (30 นาที) ก่อนจะขอตัวกลับไปทำภารกิจต่อระบบแจ้งเตือนว่ายังมีผู้รอดชีวิตอีก 2 คน แต่ดวงตาตรวจสอบของนางกลับใช้การไม่ได้ในพายุหิมะที่รุนแรงเช่นนี้ นางต้องพึ่งดวงล้วนๆในการค้นหาพวกเขาหลินหลินและเหล่าทหารกลับมายังจวนแม่ทัพอีกครั้งครั้งนี้นางร่ายโล่เวทขึ้นมาเพื่อต้านทานพายุ นางจะเป็นผู้นำทัพหน้า ส่วนหลิวเคออยู่ซ้าย โหลกังอยู่ขวา และอิงหานคอยระวังหลัง ทุกคนต่างดึงพลังเวทของตนเองออกมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้กับพายุที่โหมกระหน่ำพวกเขาเดินฝ่าพายุหิมะไปอย่างยากลำบาก หิมะหนาแน่นจนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้า ลมพัดกระหน่ำจนแทบจะปลิวไปตามลม หลายครั้งที่พวกเขาเกือบจะล้มลง แต่ก็ยังคงประคองกันและกันไว้ได้ตอนนี้พวกเขาพบกับภาพที่น่าสลดใจที่สุด...เท่าที่เคยพบเจอ สองตายายนอนกอดกัน ร่างกายของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนา ราวกับกำลังหลับใหลอย่างสงบ แต่หลินหลินรู้ดีว่าพวกเขาจากไปแล้วหลินหลินทรุดตัวลงข้างๆ ร่างของสองตายาย น้ำตาไหลอาบแก้มของนางอย่างไม่อาจควบคุมได้ น
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เทียนชุนยังคงโอบกอดหลินหลินไว้แนบอก ความรู้สึกภายในของเขาลึกล้ำเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดในฐานะสามี เขาอยากปกป้องภรรยาสุดที่รักจากอันตรายข้างนอก แต่ในฐานะแม่ทัพ เขาก็ไม่อาจละทิ้งประชาชนในแดนเหนือได้เช่นกัน เขาติดอยู่ในวังวนของความขัดแย้งภายในใจ ปล่อยนางไปก็ห่วง กักตัวนางไว้ก็ผิดต่อหน้าที่หลินหลินที่จมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง เริ่มตั้งสติและรวบรวมความกล้า นางไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ และการเดิมพันครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยงเพื่อคนที่นางรักหลินหลินค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดที่อบอุ่นของสามี เงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างแน่วแน่"ท่านพี่" นางเอ่ยเสียงหนักแน่น"สำหรับข้า ท่านคือโลกทั้งใบ ดังนั้นข้าจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ กลับมาเคียงข้างท่านให้ได้ ข้าสัญญา"แววตาของหลินหลินเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความรักที่ล้นปรี่ เทียนชุนมองลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น เขาเห็นถึงความแข็งแกร่งและความเสียสละที่ซ่อนอยู่ภายใน แม้ใจจะแหลกสลายที่ต้องปล่อยนางไป แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งภรรยาของเขาได้เขาพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า รู้สึกถึงก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอ "พี่จะรอเจ้า...
ยามจื่อ (00.00 น.) ความมืดมิดปกคลุมราตรีไร้เสียง มองเห็นเพียงแสงเทียนริบหรี่จากบ้านเรือนบางหลัง ทว่าในเงามืดนั้น มีกลุ่มเงาเคลื่อนไหวอย่างว่องไวและเงียบเชียบ นำโดยหลิวเคอ และทหารฝีมือดีของหลินหลินอีกหลายสิบนาย ด้วยวรยุทธ์และพลังเวทที่สูงส่งถึงระดับ 7 พวกเขาเคลื่อนไหวราวกับภูตพราย ไร้ร่องรอย ไม่มีใครแม้แต่จะรู้สึกถึงการมีอยู่ของพวกเขา แต่ละคนล้วนมีถุงมิติขนาดเล็กที่หลินหลินกว้านซื้อมาจากระบบมากถึง 500 ใบบ้านเรือนทุกหลังในเมืองถูกเยี่ยมเยือนโดยกลุ่มเงาเหล่านี้ พวกเขาเข้าออกอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ของมีค่าทุกชิ้นถูกกวาดลงถุงมิติอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน เครื่องประดับ หรือของสำคัญอื่นๆ ล้วนถูกเก็บลงถุงมิติข้างตัวยามหยิน (03.00น.)ไม่มีบ้านเรือนหลังไหนที่พวกเขาไม่ไปเยือน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว ราวกับปฏิบัติการลับที่ได้รับการวางแผนมาอย่างดีรุ่งเช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับความโกลาหล เมื่อชาวเมืองทุกหลังคาเรือนตื่นขึ้นมาพบว่าของมีค่าภายในบ้านหายไปอย่างไร้ร่องรอย! แม้แต่โต๊ะรับแขกไม้เนื้อดีก็ยังอันตรธานไป สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวไปทั่วหลินหลินคาดกา
ขณะที่หลินหลินกำลังมุ่งหน้าไปยังถ้ำแห่งต่อไป นางก็สำลักเลือดออกมาจนเปรอะเปื้อนอาภรณ์ ทหารที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจ"นายหญิง!!"หลินหลินยกมือขึ้นเช็ดคราบเลือดอย่างไม่ใส่ใจ "ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นอะไร"นางฝืนยิ้มให้พวกเขา แต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้ง พลังเวทในตัวนางเหลือน้อยเต็มที การสร้างปราการครั้งใหญ่เมื่อครู่นี้ดูดพลังของนางไปมากมาย หลินหลินกัดฟันข่มความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาในอก พยายามรักษาท่าทีให้นิ่งสงบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นางรู้ดีว่าร่างกายของนางกำลังส่งสัญญาณเตือน"ไม่เป็นไรหลินหลิน เจ้าจะไม่เป็นอะไร"หลินหลินพูดเสียงแผ่วเบา เพื่อส่งกำลังใจให้ตัวเองข้าจะต้องเข้มแข็ง ข้าต้องทำได้ นางบอกตัวเองในใจภาพความฝันที่สองเมื่อคืนยังคงตามหลอกหลอนนาง ความรู้สึกผิดที่ไม่อาจปกป้องทุกคนได้ยังคงกัดกินหัวใจของนาง นางไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกในความฝันนั้น นางเห็นตัวเองเลือกสร้างปราการคุ้มกันเมืองแดนเหนือเอาไว้ เพราะคิดว่าเพียงแค่พายุผ่านไปทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ ค่ายทหารถูกพายุถล่มจนพังพินาศ และเมื่อพายุสงบลง กองกำลังศัตรูก็บุกเข้าโจมตีทันที แม้ว่าในท้ายที่สุด นางแล
เทียนชุนแทบไม่ได้ฟังที่หลินหลินพูด เขาจดจ้องอยู่แต่กับเรือนร่างตรงหน้า เทียนชุนประกบจูบหญิงสาวอย่างโหยหา หลายวันมานี้เขาคิดถึงนางแทบขาดใจ เมื่อคืนที่เห็นนางเหนื่อยจึงไม่อยากรบกวนนาง อยากให้นางได้พักผ่อน แต่ไม่คิดว่าเช้ามาเขาจะได้อาหารเช้าที่แสนวิเศษ "ท่านพี่...อ้า.. "นิ้วสากลูบไล้เนื้ออวบอูมอย่างช่ำชอง นิ้วหนาชำแหละกลีบชมพูเข้าไปในช่องทางรักอย่างโหยหา..เขาชักนิ้วเข้าออกระรัวจนร่างบางหวีดร้อง....."อะๆๆๆ..อ้า! " ร่างบางบิดเร้าด้วยความเสียว เทียนชุนดึงนิ้วที่เปียกย้อมด้วยน้ำรักของสตรีตรงหน้าออกมา เขาชูให้นางดูก่อนใช้ลิ้นเลียนิ้วหนา หลินหลินมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว เขาดูเซ็กซี่ขยี้ใจนางมาก..."อ้า... "ร่างกายเริ่มร้อนรุ่มหนัก เทียนชุนควักท่อนเอ็นที่พองโตออกมาชักรูดสองสามทีก่อนเสียบอัดเข้าไปจนมิดด้าม"อ้า..หลินเอ๋อร์... "ร่างหนาครางต่ำ..."อืมมมม!!! "พั่บ..พั่บ..พั่บ..พั่บ..เสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องห้องนอน หลินหลินตัวโยกไปตามแรงกระแทกของสามี"อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ! งื้อ... ""ใหญ่มากท่านพี่ของท่านใหญ่มาก..." เทียนชุนที่ได้ยินภรรยา