เจ็ดวันผ่านไปในมิติแห่งนี้ เทียนชุนไม่อาจตัดใจจากไปได้ ใจเขาปรารถนาเพียงอยู่เคียงข้างนางไปชั่วนิรันดร์ ยามเห็นนางทะนุถนอมน้องๆ สายตาของนางอ่อนโยนน่าหลงใหล
ทำให้นึกฝัน....ถึงภาพครอบครัวอันแสนอบอุ่น เขามีลูกสักสองคน ขอให้ได้ทั้งลูกชายและลูกสาว บุตรชายขอให้แข็งแกร่งโตมาปกป้องมารดาและน้องสาวได้
ส่วนบุตรสาวขอให้งามละมุนละไมเหมือนมารดา แค่คิดเขาก็มีความสุขแล้ว
หากมีเด็กน้อยที่หน้าตาเหมือนนาง ก็เหมือนเขาได้ย้อนเวลากลับไปเห็นหลินเอ๋อร์ตัวน้อย เห็นการเติบโตขึ้นทุกวัน ทุกช่วงเวลาในวัยเยาว์ของนาง ที่เขาไม่อาจสัมผัสได้ คงได้ย้อนเห็นภาพเหล่านั้นผ่านทางบุตรสาวตัวน้อยแทนเท่านั้น
ท่านแม่ทัพท่านจะยังไม่ออกไปจากมิติแห่งนี้หรือเจ้าคะ"
"ยังก่อนหลินเอ๋อร์ พี่จะออกไปเมื่อยามเหว่ยมา วันนี้เพิ่งเข้าวันที่เจ็ดเอง...เวลาที่เหลือพี่ย่อมอยากอยู่กับเจ้า
พี่เพิ่งรู้ว่าเวลาในมิติของเจ้านี้ช่างเชื่องช้ากว่าโลกภายนอกมากนัก การได้มาอยู่ที่นี่ ทำให้เรามีช่วงเวลาอันมีค่าร่วมกัน พี่จะได้อยู่กับเจ้าได้นานขึ้นอีกหน่อย
หลินหลินส่งยิ้มหวาน
และแล้ววันที่ทำภารกิจก็มาถึง ทุกคนรวมตัวกันที่หน้าเรือนไม้ของนางกับน้อง ๆ หลินหลินบอกให้ทุกคนเตรียมตัว เพราะระบบแจ้งเตือนว่าให้กดยืนยันเมื่อพร้อมเท่านั้น นางกวาดตามองเมื่อทุกคนพร้อมแล้วหลินหลินกดปุ่ม ยืนยัน บนหน้าจอโฮโลแกรมเบื้องหน้า หลินหลินอ่านชื่อบนหน้าจอ...ที่ตอนนี้ขึ้นชื่อภารกิจใหม่ที่นางได้รับมอบหมายจากระบบมิติ การสร้างค่ายอพยพในดินแดนหิมะ เพื่อตามหาของวิเศษกดยืนยัน ทันทีที่กดยืนยัน โลกทั้งใบก็พลันบิดเบี้ยว อากาศที่แสนสบายหายวับไป แทนที่ด้วยความเย็นยะเยือกที่แทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังหลินหลินเบิกตากว้างอย่างตกใจ ภาพตรงหน้าไม่ใช่มิติฟาร์มที่คุ้นเคยอีกต่อไป แต่เป็นทุ่งหิมะสีขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา เกล็ดหิมะร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าสีเทาหม่น ปะทะใบหน้าของนางจนรู้สึกชา"ที่นี่..."หลินหลินพึมพำ มองไปรอบๆ ตัวอย่างตื่นตะลึงทุกสิ่งทุกอย่างในมิติเปลี่ยนไปแล้ว ต้นไม้เขียวขจีกลายเป็นกิ่งก้านแห้งกรังปกคลุมด้วยหิมะหนา เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วถูกแทนที่ด้วยเสียงลมหวีดหวิวอากาศที่เคยอบอุ่นกลับกลายเป็นความหนาวเหน็บที่แทบจะหยุดลมหายใจ ทุกคนหยิบชุดกันหนาวที่นางเตรียมไว้ให้ทุกคนออกมาสวมใส่ โด
เสียงค้อนกระทบไม้ดังสนั่นหวั่นไหว เหล่าคนงานต่างเร่งมือสร้างที่พักอาศัยอย่างขะมักเขม้น ภายใต้คำสั่งของท่านแม่ทัพ ค่ายอพยพเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยพลังเวทของทุกคนเพียงสองชั่วยามผ่านไป เรือนนอนขนาดใหญ่ 5 หลังก็ตั้งตระหง่านท่ามกลางหิมะขาวโพลน โครงสร้างไม้ที่แข็งแรงรับน้ำหนักของหิมะที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย ภายในเรือนอบอวลไปด้วยไออุ่นจากเตาผิงที่ถูกจุดขึ้นถัดจากเรือนนอนคือ โรงเรือนทำอาหารก็ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ หลินหลินนำเนื้อออกมาย่างรอทุกคน กลิ่นหอมของอาหารเริ่มโชยออกมา ชวนให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันทีทว่า หลินหลินกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังขาดสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง"ห้องน้ำ..."หลินหลินพึมพำกับตัวเอง"ทุกคนเป็นผู้ชาย ห้องน้ำจึงถูกสร้างแบบง่ายๆ หากนางไปใช้คงไม่เหมาะสมนัก"นางรีบเปิดโกดังมิติ"สุขาเคลื่อนที่!" หลินหลินร้องออกมาอย่างดีใจ เมื่อเห็นสิ่งที่นางต้องการนางจำได้ว่าเคยซื้อมันมาเพราะไม่แน่ใจว่าห้องน้ำในยุคนี้จะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง"โชคดีที่ข้าซื้อมันมา"หลินหลินยิ้มออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะนำสุขาเคลื่อนที่ออกมาวางไ
หลินหลินมองฝูงไฮยีน่าหิมะด้วยสายตาเรียบเฉย พวกมันเป็นเพียงอสูรระดับ 1 ไม่คู่ควรแม้แต่จะทำให้นางต้องขยับตัว ทว่าการเจรจาต่อรองกับสัตว์ร้ายนั้นเป็นไปไม่ได้ พวกมันไม่มีทางยอมล่าถอยไปเอง ในโลกใบนี้ การต่อสู้คือหนทางเดียวที่จะอยู่รอด หากไม่สู้ ก็มีแต่จะตกเป็นเหยื่อ"จัดการพวกมัน" หลินหลินออกคำสั่งเสียงเรียบ เหล่าทหารทั้งสี่นายพุ่งเข้าใส่ฝูงไฮยีน่าทันที พวกเขาแต่ละคนล้วนมีฝีมือเหนือชั้น การรับมือกับอสูรระดับ 1 จึงเป็นเรื่องง่ายดายราวกับปัดฝุ่นหลินหลินหันมาสนใจเจ้ากระต่ายน้อยที่ยังคงซุกตัวอยู่ในกระโปรง นางค่อย ๆ ลูบหัวมันอย่างแผ่วเบา ก่อนจะอุ้มมันขึ้นมาแนบอก เจ้ากระต่ายน้อยขดตัวแน่นในอ้อมกอดของนาง ราวกับพบที่พักพิงอันปลอดภัยไม่นานนัก เสียงต่อสู้ก็สงบลง เหล่าทหารกลับมารายงาน"จัดการเรียบร้อยแล้วขอรับ"หลินหลินมองซากไฮยีน่าทั้งแปดตัวที่นอนจมกองเลือด "เราจะเอาพวกมันไปทำอะไรได้บ้างเจ้าคะ ท่านแม่ทัพ""เนื้อของพวกมันเป็นเนื้ออสูร สามารถนำไปทำอาหารได้ จะช่วยเพิ่มพลังให้กับผู้ที่กิน"หลินหลินพยักหน้า โลกใบนี้ยังมีอีกหลายสิ่งที่นางต้องเรียนรู้ เหล่าทหารช่วยกันเก็บซากไฮยีน่าใส่ถุงมิติ หลินหลินจึง
หวาหวาน้อยเห็นพี่รองทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นก็รีบวิ่งเข้าไปหาด้วยขาสั้นๆ "พี่รอง..."หลินหลินยิ้มให้ หยาดเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผาก"พี่ไม่เป็นไร แค่เป็นห่วงพวกเจ้าเท่านั้น"นางอ้าแขนรับร่างน้อยๆ เข้ามากอด และอีกแขนหนึ่งก็รอโอบกอดอาจินน้องชายที่วิ่งตามมาติดๆเราต้องเสริมปราการให้แข็งแกร่งกว่านี้หลินหลินคิดในใจ ไม่อย่างนั้นตอนออกไปทำภารกิจ ข้าคงไม่สบายใจเมื่อทุกคนกลับมาพร้อมหน้า พวกเขารวมตัวกันทานอาหารเย็น บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยในวันนี้ แม้จะเหนื่อยล้า แต่ทุกคนก็รู้สึกภูมิใจที่ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีคืนนั้น เสียงหมาป่าหอนระงมดังมาจากป่าโดยรอบ หลินหลินแทบนอนไม่หลับ นางเปิดอ่านรายละเอียดของปราการเวทอย่างละเอียดถี่ถ้วน นางต้องการปราการที่แข็งแกร่งกว่านี้ เพื่อปกป้องทุกคนในค่ายรุ่งเช้า ภารกิจที่ได้รับก็ยังคงคล้ายกับเมื่อวาน หลินหลินจึงขอให้เทียนชุนนำทีมออกไปเก็บทรัพยากร ส่วนนางจะอยู่ที่ค่ายเพื่อศึกษาการสร้างปราการเวท หากไม่มีขายแบบสำเร็จรูป นางก็จะสร้างมันขึ้นมาเอง!วันเวลาผ่านไป ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ในค่ายอพยพแห่งนี้มานับสิบวันแล้ว หลินหลินแยกเรือนออกมาจากเด็กๆ เพื่อให้มีสมาธิในการสร้
"หลับไปก่อนนะคนดี พี่ยังไม่อิ่มเลย.. ".พร้อมสวนลำแท่งที่ใหญ่และยาวมาจากทางด้านหลัง"อ๊า!!! "ตลอดทั้งคืนนั้น เทียนชุนไม่สามารถละมือจากร่างกายอันงดงามของหลินหลินได้ เขาปลดปล่อยความปรารถนาออกมาถึงสี่ครั้ง แต่ละครั้งล้วนเต็มไปด้วยความรักและความหลงใหลที่มีต่อนางเมื่อแสงแรกแห่งอรุณรุ่งสาดส่องเข้ามาในห้อง เทียนชุนและหลินหลินยังคงกอดกันกลม ดวงตาของทั้งคู่ปิดสนิท ใบหน้าเปื้อนยิ้มแห่งความสุข หลินหลินค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น ขนตายาวงอนขยับไหว ภาพเบื้องหน้าพร่ามัวเล็กน้อยก่อนจะโฟกัส พบว่าตัวเองยังคงอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของเทียนชุน กลิ่นกายหอมกรุ่นของเขาโอบล้อมตัวนาง ราวกับผ้าห่มนุ่มๆ ที่ห่อหุ้มร่างกายไว้ นางขยับตัวเล็กน้อย ทำให้เห็นรอยแดงจางๆ ทั่วร่างกาย ทั้งบนหน้าอก เอว และต้นขา ใบหน้าของหลินหลินแดงก่ำขึ้นทันที โชคดีที่รอยเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เปิดเผย ไม่เช่นนั้นนางคงต้องอายทุกคนในค่ายแน่ๆหลินหลินค่อยๆ ลุกออกจากเตียงอย่างระมัดระวัง พยายามไม่ปลุกเทียนชุนให้ตื่น นางเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายและแต่งตัว วันนี้นางเลือกสวมเสื้อกันหนาวที่รัดกุมกว่าปกติ เพื่อปกปิดร่องรอยแห่งความรักเมื่
ทันทีที่กลุ่มของหลินหลินและเทียนชุนเดินทางกลับถึงค่ายอพยพ เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น ทำหลินหลินหยุดชะงัก"ประกาศภารกิจเร่งด่วน! " ภารกิจ : ทุกคนในค่ายให้ดูดซับพลังจากหินเวท!อย่างต่ำ2ก้อนหลินหลินขมวดคิ้วด้วยความกังวล คำว่า "ทุกคน"นั้นหมายถึงน้องๆ ของนางด้วยและจำนวนมากถึง 2ก้อน! พวกเขายังเด็กเกินไปที่จะรับมือกับพลังงานมหาศาลจากหินเวท นางจึงรีบไปคัดเลือกหินเวทที่เล็กที่สุดเท่ากำปั้นเด็ก ให้หวาหวาและอาจิน"ทุกคนรีบไปเถอะ" เทียนชุนสั่งการ เหล่าทหารรับหินเวทตามธาตุของตนเอง ก่อนจะแยกย้ายกันไปยังที่พักส่วนตัว"ไป๋หู๋ เสี่ยวเฮย"หลินหลินหันไปหาสัตว์อสูรคู่ใจของนาง"ฝากพวกเจ้าดูแลค่ายด้วยนะ"ไป๋หูและเสี่ยวเฮยพยักหน้ารับคำอย่างแข็งขัน พวกมันเข้าใจสถานการณ์ดี และพร้อมที่จะปกป้องค่ายในยามที่ทุกคนต้องเก็บตัวหลินหลินเดินกลับเข้าเรือน พบว่าหวาหวาและอาจินกำลังนั่งมองหินเวทในมืออย่างตื่นเต้น"พี่รอง ให้ข้าหรือเจ้าคะ?" หวาหวาถามหลินหลินยิ้มอ่อนโยน"ใช่พี่ให้ พวกเจ้าต้องดูดซับพลังจากมันนะ" นางอธิบายวิธีการใช้หินเวทให้เด็กๆ ฟังอย่างละเอียด ก่อนจะปล่อยให้พวกเขาไปฝึกฝนกันเอง เพราะพวกเขามีพื้นฐาน
"อา..อืม.. "เทียนชุนเพิ่งรู้ว่าเขาชอบท่านี้ เพราะมันทำให้นางกอดเขาแน่น “หลินเอ๋อร์เจ้าชอบท่านี้หรือไม่? “"อะ..อะ..อะ...อ๊าาา!! ""ไม่ตอบแสดงว่าพี่ยังทำได้ไม่ดี .... "หลินหลินที่ได้ยินดังนั้นก็จะรีบตอบเขา...แต่ยังไม่ทันได้ตอบ..!ก็ต้องร้องครางแทน"อร๊าา!...ซี๊ดดด.!..พี่..เทียน"เทียนชุนยึดต้นขาของนางแน่นกว่าเดิม ก่อนกระแทกตัวเข้ามาอย่างแรง เขาจับนางยกขึ้นและสวนกระแทกนางเป็นจังหวะแบบนั้น"ไม่...ไหว...อ๊ออค...อ๊า...... "ร่างบางกระตุกเกร็งสุขสมเป็นครั้งที่สองเทียนชุนชอบท่านนี้มากเขาจับนางยกขึ้นทั้งตัว และกระแทกลงมาในจังหวะที่เขาสวนท่อนเอ็นเสยขึ้นไป...เขารู้สึกจะเสร็จ..."อ้า..."ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ...."พี่จะเสร็จแล้ว...อีกนิด...ยอดรัก... ".ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ....เสียงเนื้อกระแทกกันดังกึกก้อง...ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ.."อีกนิด... "ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ...."อ้า... "ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ....อืม...ในที่สุดร่างหนาก็เกร็งกระตุก ปลอดปล่อยน้ำรักจำนวนมากออกมาเต็มท้องนางจนอุ่นร้อน..."อ๊าา.. "หลินหลินเผลอครางออกไป"อ๊ะ! ท่าน......! "เทียนชุนสาวเท้าไปกระจกบานใหญ่ เขาให้นางหันหน้าเข้า
หลินหลิน เทียนชุน และเหล่าทหาร ก้าวเข้าไปในหมู่บ้านเอล์ฟอย่างระมัดระวัง เสียงฝีเท้าของพวกเขาเหยียบย่ำบนหิมะที่ปกคลุมพื้นเบา ๆความเงียบสงัดรอบข้างทำให้เสียงนั้นดังก้องอยู่ในใจราวกับกลัวว่าจะรบกวนความสงบสุขของสถานที่แห่งนี้แต่ทันทีที่พวกเขาเดินลึกเข้าไปในหมู่บ้าน ภาพเบื้องหน้าก็ทำให้ทั้งสองแทบลืมหายใจ หมู่บ้านเอล์ฟแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ลาดชัน บ้านเรือนน้อยใหญ่ปลูกสร้างจากไม้แกะสลักอย่างประณีต ประดับประดาด้วยลวดลายดอกไม้และเถาวัลย์ หลังคาบ้านแต่ละหลังประดับด้วยผลึกคริสตัลหลากสีสัน ระยิบระยับราวกับอัญมณี ยิ่งเมื่อต้องแสงอาทิตย์ยามเย็น คริสตัลเหล่านั้นก็ยิ่งเปล่งประกายเจิดจรัส สะท้อนแสงสีรุ้งทั่วทั้งหมู่บ้าน ลำธารใสสะอาดไหลผ่านหมู่บ้าน มีสะพานไม้เล็กๆ ทอดข้าม สองฝั่งลำธารเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่ ส่งกลิ่นหอมอบอวล ผีเสื้อหลากสีบินว่อน ราวกับภาพวาดในเทพนิยาย เหนือยอดไม้สูงมีแสงสว่างเรืองรอง หลินหลินและเทียนชุนเงยหน้าขึ้นมอง พบว่ามีดวงไฟนับร้อยดวงลอยอยู่กลางอากาศ ดวงไฟเหล่านั้นเปล่งแสงสีฟ้า เขียว และม่วง ส่องสว่างทั่วทั้งหมู่บ้านราวกับดวงดาวน้อยๆ ที่หลุดลงมาจากฟ
บทพิเศษเสี่ยวเฮย และ เสี่ยวหมี(หมีหิมะ)ภายในมิติ ทันทีที่หลินหลินจากไป เสี่ยวเฮยทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม"ฮือๆ นายหญิง... ทำไม... ทำไมถึงทิ้งข้า"เสี่ยวเฮยคร่ำครวญด้วยความเสียใจเสี่ยวหมีเดินเข้ามาใกล้ "เสี่ยวเฮย เจ้าอย่าเสียใจไปเลย นายหญิงคงมีเหตุผลของนาง""เหตุผลอะไรกัน ข้าไม่เข้าใจ!" เสี่ยวเฮยร้องไห้โฮ "ข้ารักนายหญิง ข้าอยากอยู่กับนายหญิงตลอดไป"เสี่ยวหมีมองเสี่ยวเฮยด้วยความสงสาร "เสี่ยวเฮย... " เสี่ยวหมีลังเล "ข้า.. ข้าอ่านตำราโบราณออก""แล้วอย่าไร" เสี่ยวเฮยเงยหน้ามองเสี่ยวหมี"ตำราโบราณกล่าวไว้ว่า หากต้องกำจัดอสูรหิมะ ต้องระเบิดพลังจากภายในด้วยพลังระดับ 8 สองสาย และระดับ 9 หนึ่งสาย"เสี่ยวหมีอธิบายเสี่ยวเฮยขมวดคิ้ว "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายหญิง""นายหญิงเป็นมนุษย์ นางมีพลังระดับ 9 ที่นายหญิงยกเลิกพันธะสัญญา ก็เพราะ... นางต้องการปกป้องเจ้า"เสี่ยวเฮยนิ่งอึ้ง "ปกป้องข้า?""ใช่ นางรู้ว่า หากเจ้ายังมีพันธะสัญญาอยู่ หากนางระเบิดพลังเจ้าจะตายไปด้วย "เสี่ยวหมีพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า "นางรักเจ้ามาก เสี่ยวเฮย"เสี่ยวเฮยเบิกตากว้าง หัวใจของมันรู้สึกอบอุ่น ใน
ภายในจวนท่านแม่ทัพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความคาดหวัง เสียงร้องโอดโอยของหลินหลินดังเล็ดลอดออกมาจากห้องคลอดเป็นระยะๆ ทำให้เทียนชุนที่ยืนรออยู่ด้านนอกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เขากำมือแน่น พยายามสะกดกลั้นความกังวลเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจหยุดความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวได้"หลินเอ๋อร์ เจ้าต้องปลอดภัยนะ"เขาพึมพำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าบิดามารดาของทั้งสองฝ่ายก็อยู่ในอาการไม่ต่างกัน พวกเขานั่งรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เสียงร้องของหลินหลินแต่ละครั้งทำให้หัวใจของพวกเขาแทบจะหยุดเต้น"ลูกต้องปลอดภัยนะ"มารดาของหลินหลินพึมพำภาวนา ทันใดนั้นเสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงัดในจวน ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องคลอดด้วยความตื่นเต้นไม่นาน หมอตำแยก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง "ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ฮูหยินคลอดลูกแฝดชายหญิง เป็นเด็กที่แข็งแรงมาก"เทียนชุนรีบพุ่งเข้าไปในห้องคลอดทันที เขาเห็นหลินหลินนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียวแต่ก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ข้างกายนางมีทารกน้อยสองคนนอนอยู่เทียนชุนทรุดตัวลงข้างเตียง จับมือภรรยาไว้แน่น"หลินเอ๋อร์ เจ้าเก่งมาก"
หลินหลินค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคยของเทียนชุน ทันทีที่สติกลับคืนมา ภาพเหตุการณ์สุดท้ายก่อนหมดสติก็ฉายชัดขึ้นในห้วงความคิด เสียงระเบิดดังสนั่น ภาพดวงตาที่ทั้งสองมองมาที่นาง…น้ำตาไหลอาบแก้มหลินหลินอีกครั้ง ความเจ็บปวดของความสูญเสียกัดกินหัวใจของนางอย่างรุนแรง นางพยายามสะกดกลั้นเสียงสะอื้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งมันได้"เสี่ยวเฮย... เสี่ยวหมี..."นางพึมพำชื่อของพวกมันซ้ำๆ ราวกับต้องการเรียกพวกเขากลับมาเทียนชุนตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากร่างกายของภรรยา เขามองหลินหลินที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก หัวใจของเขาเจ็บปวดไม่ต่างกัน เขาโอบกอดนางไว้แน่น พยายามปลอบโยน" หลินเอ๋อร์"เขาพูดเสียงแผ่วเบา "ทุกอย่างจบแล้ว"หลินหลินเงยหน้ามองสามี น้ำตาไหลอาบแก้ม "ข้า... ข้าทำไม่สำเร็จ"นางพูดเสียงสั่นเครือ "ข้าไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้"เทียนชุนส่ายหน้า "ไม่ใช่ความผิดของเจ้า พวกเขาเลือกที่จะเสียสละตัวเองเช่นเจ้าเลือกที่จะสละตัวเองเพื่อพวกเรา""แต่..."หลินหลินยังคงร้องไห้ไม่หยุดเทียนชุนเช็ดน้ำตาให้ภรรยาอย่างอ่อนโยน "เสี่ยวเฮยและเสี่ยวหมีคงภูมิใจในตัวเอง ที่พวกเขา
หลินหลินรีบร้อนเข้าสู่มิติเพื่อเตรียมตัวรับมือกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ แม้จะมีเวลาจำกัดเพียงสองชั่วยาม (สี่ชั่วโมง) แต่นางก็ไม่รอช้า มุ่งตรงไปยังหอตำราเวททันทีภายในหอตำรา บรรยากาศเงียบสงบและเคร่งขรึม อักษรโบราณสีทองเรียงรายอยู่บนผนังถ้ำสูงตระหง่าน หลินหลิน ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอสูรหิมะ สัตว์ในตำนานที่กำลังคุกคามพวกเขา ครั้งนี้อักษรไม่ได้พุงเข้ามาที่ตัวของนางแต่ปรากฏหนังสือโบราณเก่าแก่อสูรหิมะ... สัตว์ในตำนานที่ถือกำเนิดจากพายุหิมะอันรุนแรง ดูดกลืนพลังจากความหนาวเย็นจนกลายเป็นอสูรร้ายทรงพลัง มันออกตามล่านักเวทระดับ 9 เพื่อดูดกลืนพลังขั้นสุดท้ายของพวกเขาหลินหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตัวอักษรในตำราเต้นระริกราวกับจะตอกย้ำความจริงที่ว่า มีเพียงนางและสามีเท่านั้นที่อยู่ในระดับ 9 มือของนางเริ่มสั่นไหว ความกลัวกัดกินหัวใจนางพลิกหน้าตำราต่อไปอย่างรวดเร็ว ค้นหาวิธีที่จะหยุดยั้งอสูรตนนี้มีเพียงสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจ 9 ครั้งเท่านั้นที่จะสังหารมันได้ หรือ... การระเบิดพลังจากภายใน ต้องใช้พลังเวทระดับ9 หนึ่งขุม หรือระดับ 8 สองขุม ถึงจะจัดการกับอสูรหิมะตนนี้ได้หลินหลินหน้าซีดเผือด มือบางสั่นเทาจนเสี่ยวเ
"เราจะพักที่นี่เอาแรงก่อน" หลินหลินหันไปบอกกับทั้งสามคน ก่อนจะมอบน้ำทิพย์ให้พวกเขาคนละกระบอกนางใช้เวลาพูดคุยกับครอบครัวอีกหนึ่งเค่อ (30 นาที) ก่อนจะขอตัวกลับไปทำภารกิจต่อระบบแจ้งเตือนว่ายังมีผู้รอดชีวิตอีก 2 คน แต่ดวงตาตรวจสอบของนางกลับใช้การไม่ได้ในพายุหิมะที่รุนแรงเช่นนี้ นางต้องพึ่งดวงล้วนๆในการค้นหาพวกเขาหลินหลินและเหล่าทหารกลับมายังจวนแม่ทัพอีกครั้งครั้งนี้นางร่ายโล่เวทขึ้นมาเพื่อต้านทานพายุ นางจะเป็นผู้นำทัพหน้า ส่วนหลิวเคออยู่ซ้าย โหลกังอยู่ขวา และอิงหานคอยระวังหลัง ทุกคนต่างดึงพลังเวทของตนเองออกมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้กับพายุที่โหมกระหน่ำพวกเขาเดินฝ่าพายุหิมะไปอย่างยากลำบาก หิมะหนาแน่นจนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้า ลมพัดกระหน่ำจนแทบจะปลิวไปตามลม หลายครั้งที่พวกเขาเกือบจะล้มลง แต่ก็ยังคงประคองกันและกันไว้ได้ตอนนี้พวกเขาพบกับภาพที่น่าสลดใจที่สุด...เท่าที่เคยพบเจอ สองตายายนอนกอดกัน ร่างกายของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนา ราวกับกำลังหลับใหลอย่างสงบ แต่หลินหลินรู้ดีว่าพวกเขาจากไปแล้วหลินหลินทรุดตัวลงข้างๆ ร่างของสองตายาย น้ำตาไหลอาบแก้มของนางอย่างไม่อาจควบคุมได้ น
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เทียนชุนยังคงโอบกอดหลินหลินไว้แนบอก ความรู้สึกภายในของเขาลึกล้ำเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดในฐานะสามี เขาอยากปกป้องภรรยาสุดที่รักจากอันตรายข้างนอก แต่ในฐานะแม่ทัพ เขาก็ไม่อาจละทิ้งประชาชนในแดนเหนือได้เช่นกัน เขาติดอยู่ในวังวนของความขัดแย้งภายในใจ ปล่อยนางไปก็ห่วง กักตัวนางไว้ก็ผิดต่อหน้าที่หลินหลินที่จมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง เริ่มตั้งสติและรวบรวมความกล้า นางไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ และการเดิมพันครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยงเพื่อคนที่นางรักหลินหลินค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดที่อบอุ่นของสามี เงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างแน่วแน่"ท่านพี่" นางเอ่ยเสียงหนักแน่น"สำหรับข้า ท่านคือโลกทั้งใบ ดังนั้นข้าจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ กลับมาเคียงข้างท่านให้ได้ ข้าสัญญา"แววตาของหลินหลินเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความรักที่ล้นปรี่ เทียนชุนมองลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น เขาเห็นถึงความแข็งแกร่งและความเสียสละที่ซ่อนอยู่ภายใน แม้ใจจะแหลกสลายที่ต้องปล่อยนางไป แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งภรรยาของเขาได้เขาพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า รู้สึกถึงก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอ "พี่จะรอเจ้า...
ยามจื่อ (00.00 น.) ความมืดมิดปกคลุมราตรีไร้เสียง มองเห็นเพียงแสงเทียนริบหรี่จากบ้านเรือนบางหลัง ทว่าในเงามืดนั้น มีกลุ่มเงาเคลื่อนไหวอย่างว่องไวและเงียบเชียบ นำโดยหลิวเคอ และทหารฝีมือดีของหลินหลินอีกหลายสิบนาย ด้วยวรยุทธ์และพลังเวทที่สูงส่งถึงระดับ 7 พวกเขาเคลื่อนไหวราวกับภูตพราย ไร้ร่องรอย ไม่มีใครแม้แต่จะรู้สึกถึงการมีอยู่ของพวกเขา แต่ละคนล้วนมีถุงมิติขนาดเล็กที่หลินหลินกว้านซื้อมาจากระบบมากถึง 500 ใบบ้านเรือนทุกหลังในเมืองถูกเยี่ยมเยือนโดยกลุ่มเงาเหล่านี้ พวกเขาเข้าออกอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ของมีค่าทุกชิ้นถูกกวาดลงถุงมิติอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน เครื่องประดับ หรือของสำคัญอื่นๆ ล้วนถูกเก็บลงถุงมิติข้างตัวยามหยิน (03.00น.)ไม่มีบ้านเรือนหลังไหนที่พวกเขาไม่ไปเยือน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว ราวกับปฏิบัติการลับที่ได้รับการวางแผนมาอย่างดีรุ่งเช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับความโกลาหล เมื่อชาวเมืองทุกหลังคาเรือนตื่นขึ้นมาพบว่าของมีค่าภายในบ้านหายไปอย่างไร้ร่องรอย! แม้แต่โต๊ะรับแขกไม้เนื้อดีก็ยังอันตรธานไป สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวไปทั่วหลินหลินคาดกา
ขณะที่หลินหลินกำลังมุ่งหน้าไปยังถ้ำแห่งต่อไป นางก็สำลักเลือดออกมาจนเปรอะเปื้อนอาภรณ์ ทหารที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจ"นายหญิง!!"หลินหลินยกมือขึ้นเช็ดคราบเลือดอย่างไม่ใส่ใจ "ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นอะไร"นางฝืนยิ้มให้พวกเขา แต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้ง พลังเวทในตัวนางเหลือน้อยเต็มที การสร้างปราการครั้งใหญ่เมื่อครู่นี้ดูดพลังของนางไปมากมาย หลินหลินกัดฟันข่มความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาในอก พยายามรักษาท่าทีให้นิ่งสงบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นางรู้ดีว่าร่างกายของนางกำลังส่งสัญญาณเตือน"ไม่เป็นไรหลินหลิน เจ้าจะไม่เป็นอะไร"หลินหลินพูดเสียงแผ่วเบา เพื่อส่งกำลังใจให้ตัวเองข้าจะต้องเข้มแข็ง ข้าต้องทำได้ นางบอกตัวเองในใจภาพความฝันที่สองเมื่อคืนยังคงตามหลอกหลอนนาง ความรู้สึกผิดที่ไม่อาจปกป้องทุกคนได้ยังคงกัดกินหัวใจของนาง นางไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกในความฝันนั้น นางเห็นตัวเองเลือกสร้างปราการคุ้มกันเมืองแดนเหนือเอาไว้ เพราะคิดว่าเพียงแค่พายุผ่านไปทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ ค่ายทหารถูกพายุถล่มจนพังพินาศ และเมื่อพายุสงบลง กองกำลังศัตรูก็บุกเข้าโจมตีทันที แม้ว่าในท้ายที่สุด นางแล
เทียนชุนแทบไม่ได้ฟังที่หลินหลินพูด เขาจดจ้องอยู่แต่กับเรือนร่างตรงหน้า เทียนชุนประกบจูบหญิงสาวอย่างโหยหา หลายวันมานี้เขาคิดถึงนางแทบขาดใจ เมื่อคืนที่เห็นนางเหนื่อยจึงไม่อยากรบกวนนาง อยากให้นางได้พักผ่อน แต่ไม่คิดว่าเช้ามาเขาจะได้อาหารเช้าที่แสนวิเศษ "ท่านพี่...อ้า.. "นิ้วสากลูบไล้เนื้ออวบอูมอย่างช่ำชอง นิ้วหนาชำแหละกลีบชมพูเข้าไปในช่องทางรักอย่างโหยหา..เขาชักนิ้วเข้าออกระรัวจนร่างบางหวีดร้อง....."อะๆๆๆ..อ้า! " ร่างบางบิดเร้าด้วยความเสียว เทียนชุนดึงนิ้วที่เปียกย้อมด้วยน้ำรักของสตรีตรงหน้าออกมา เขาชูให้นางดูก่อนใช้ลิ้นเลียนิ้วหนา หลินหลินมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว เขาดูเซ็กซี่ขยี้ใจนางมาก..."อ้า... "ร่างกายเริ่มร้อนรุ่มหนัก เทียนชุนควักท่อนเอ็นที่พองโตออกมาชักรูดสองสามทีก่อนเสียบอัดเข้าไปจนมิดด้าม"อ้า..หลินเอ๋อร์... "ร่างหนาครางต่ำ..."อืมมมม!!! "พั่บ..พั่บ..พั่บ..พั่บ..เสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องห้องนอน หลินหลินตัวโยกไปตามแรงกระแทกของสามี"อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ! งื้อ... ""ใหญ่มากท่านพี่ของท่านใหญ่มาก..." เทียนชุนที่ได้ยินภรรยา