"อา..อืม.. "เทียนชุนเพิ่งรู้ว่าเขาชอบท่านี้ เพราะมันทำให้นางกอดเขาแน่น “หลินเอ๋อร์เจ้าชอบท่านี้หรือไม่? “"อะ..อะ..อะ...อ๊าาา!! ""ไม่ตอบแสดงว่าพี่ยังทำได้ไม่ดี .... "หลินหลินที่ได้ยินดังนั้นก็จะรีบตอบเขา...แต่ยังไม่ทันได้ตอบ..!ก็ต้องร้องครางแทน"อร๊าา!...ซี๊ดดด.!..พี่..เทียน"เทียนชุนยึดต้นขาของนางแน่นกว่าเดิม ก่อนกระแทกตัวเข้ามาอย่างแรง เขาจับนางยกขึ้นและสวนกระแทกนางเป็นจังหวะแบบนั้น"ไม่...ไหว...อ๊ออค...อ๊า...... "ร่างบางกระตุกเกร็งสุขสมเป็นครั้งที่สองเทียนชุนชอบท่านนี้มากเขาจับนางยกขึ้นทั้งตัว และกระแทกลงมาในจังหวะที่เขาสวนท่อนเอ็นเสยขึ้นไป...เขารู้สึกจะเสร็จ..."อ้า..."ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ...."พี่จะเสร็จแล้ว...อีกนิด...ยอดรัก... ".ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ....เสียงเนื้อกระแทกกันดังกึกก้อง...ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ.."อีกนิด... "ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ...."อ้า... "ตั่บ...ตั่บ...ตั่บ....อืม...ในที่สุดร่างหนาก็เกร็งกระตุก ปลอดปล่อยน้ำรักจำนวนมากออกมาเต็มท้องนางจนอุ่นร้อน..."อ๊าา.. "หลินหลินเผลอครางออกไป"อ๊ะ! ท่าน......! "เทียนชุนสาวเท้าไปกระจกบานใหญ่ เขาให้นางหันหน้าเข้า
หลินหลิน เทียนชุน และเหล่าทหาร ก้าวเข้าไปในหมู่บ้านเอล์ฟอย่างระมัดระวัง เสียงฝีเท้าของพวกเขาเหยียบย่ำบนหิมะที่ปกคลุมพื้นเบา ๆความเงียบสงัดรอบข้างทำให้เสียงนั้นดังก้องอยู่ในใจราวกับกลัวว่าจะรบกวนความสงบสุขของสถานที่แห่งนี้แต่ทันทีที่พวกเขาเดินลึกเข้าไปในหมู่บ้าน ภาพเบื้องหน้าก็ทำให้ทั้งสองแทบลืมหายใจ หมู่บ้านเอล์ฟแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ลาดชัน บ้านเรือนน้อยใหญ่ปลูกสร้างจากไม้แกะสลักอย่างประณีต ประดับประดาด้วยลวดลายดอกไม้และเถาวัลย์ หลังคาบ้านแต่ละหลังประดับด้วยผลึกคริสตัลหลากสีสัน ระยิบระยับราวกับอัญมณี ยิ่งเมื่อต้องแสงอาทิตย์ยามเย็น คริสตัลเหล่านั้นก็ยิ่งเปล่งประกายเจิดจรัส สะท้อนแสงสีรุ้งทั่วทั้งหมู่บ้าน ลำธารใสสะอาดไหลผ่านหมู่บ้าน มีสะพานไม้เล็กๆ ทอดข้าม สองฝั่งลำธารเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่ ส่งกลิ่นหอมอบอวล ผีเสื้อหลากสีบินว่อน ราวกับภาพวาดในเทพนิยาย เหนือยอดไม้สูงมีแสงสว่างเรืองรอง หลินหลินและเทียนชุนเงยหน้าขึ้นมอง พบว่ามีดวงไฟนับร้อยดวงลอยอยู่กลางอากาศ ดวงไฟเหล่านั้นเปล่งแสงสีฟ้า เขียว และม่วง ส่องสว่างทั่วทั้งหมู่บ้านราวกับดวงดาวน้อยๆ ที่หลุดลงมาจากฟ
หลินหลินสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามสงบสติอารมณ์ก่อนจะเผชิญหน้ากับอสรพิษตรงหน้า นางจำได้ว่าดวงตาตรวจสอบบอกว่ามันคือ อสรพิษแสงอาทิตย์ งูพิษระดับ 5 ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการกินงูพิษอื่นเป็นอาหาร ถึงแม้จะมีพิษร้ายแรง แต่มันก็ขึ้นชื่อเรื่องนิสัยรักสงบ ไม่ดุร้าย"เจ้าพูดได้ไหม?" หลินหลินเอ่ยถามอย่างระมัดระวังดวงตาสีทองของอสรพิษหรี่ลงเล็กน้อย"ข้าย่อมสื่อสารกับมนุษย์ได้" เสียงของมันดังก้องอยู่ในหัวของหลินหลิน "เจ้าเก็บของวิเศษที่นี่ไปหรือ?”"ใช่ ข้าเก็บไป"หลินหลินตอบอย่างตรงไปตรงมา"เจ้าต้องการมันหรือ?"หลินหลินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ "ใช่"อสรพิษแสงอาทิตย์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง มันรู้ดีว่าไม่อาจต่อกรกับมนุษย์ตรงหน้าได้ ด้วยพลังเวทระดับสูงที่แผ่อยู่รอบกายนาง แต่นางมิใช่... นางมิใช่คนผู้นั้นที่ข้ารอคอย มันครุ่นคิดถึงคำทำนายโบราณ ที่กล่าวถึงคู่พันธะสัญญา ที่จะมาปลดปล่อยมันจากพันธนาการแห่ง บึงพิษ นับร้อยปีที่มันเฝ้ารอคอยคนผู้นั้น ผู้มีกลิ่นอายที่นางไม่เคยลืมเลือน มิใช่สตรีตรงหน้า ที่มีกลิ่นอายแห่งดวงจันทร์เช่นนี้แต่... เหตุใด มันจึงรู้สึกคุ้นเคยกับสตรีผู้นี้เช่นนี้? ราวกับเคยพบพาน
การเดินทางกลับค่ายอพยพเป็นไปอย่างราบรื่น ปราศจากอุปสรรคใดๆ ราวกับธรรมชาติเปิดทางให้เหล่านักเดินทางผู้กล้าหาญ เมื่อขบวนของหลินหลินมาถึง ทุกคนในค่ายต่างพากันออกมาต้อนรับด้วยความยินดี เหล่าทหารที่ร่วมเดินทางต่างเล่าขานถึงประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในการผจญภัยครั้งนี้ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่อยู่ค่ายหลินหลินประกาศเสียงดังฟังชัด"รอบหน้า ข้าจะพาคนอีก 10 คนที่ไม่ได้ไปรอบนี้ไป เลือกอาวุธประจำกายของตนเอง!"เสียงเชียร์ดังขึ้นทั่วค่าย ทุกคนต่างตื่นเต้นกับโอกาสที่จะได้สัมผัสกับสมบัติวิเศษจากหวาหวาและอาจินรออย่างใจจดใจจ่อจนหลินหลินพูดจบ ก่อนจะพุ่งเข้ามาหานางทันที"พี่รอง!"หวาหวาร้องเรียกด้วยดวงตาเป็นประกาย"หมีขาว!"อาจินโพล่งออกมาอย่างตื่นเต้นหลินหลินแกล้งทำเสียงน้อยใจ"น้องทั้งสองไม่คิดถึงพี่สาวคนนี้แล้วกระมัง"หวาหวารีบโผเข้ากอดหลินหลิน "ข้าคิดถึงพี่รองแทบแย่เจ้าค่ะ ไม่กินไม่นอนเลย"หลิวเคอที่ยืนอยู่ข้างหลังหลินหลินหลุดขำ เขาอยากจะแย้งเหลือเกินว่าคุณหนูของเขาทานวันละ 4 มื้อ แถมยังตื่นสายทุกวัน แต่เขาก็เลือกที่จะเก็บความลับนี้ไว้หลินหลินยิ้มขำเมื่อเห็นท่าทีของหลิวเคอ"น้ำตาลปั้นสำห
แสงอรุณของวันใหม่สาดส่องเข้ามาในค่าย หลินหลินตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น หลังจากได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม นางรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและพร้อมสำหรับวันใหม่"วันนี้อยากทานอะไรกันบ้างจ๊ะเด็กๆ?" หลินหลินถามทุกคนด้วยรอยยิ้ม"อะไรก็ได้ขอรับ/เจ้าค่ะ" เสียงตอบรับดังขึ้นพร้อมเพรียง"มีใครไม่ทานปลาบ้างไหม?"หลินหลินถามย้ำคราวนี้มีเสียงอึกอักดังขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่หลายคนจะส่ายหน้าปฏิเสธ แม้บางคนจะเม้มปากแน่น แต่ก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธอาหารจากนายหญิงของพวกเขาหลินหลินยิ้มกว้าง"งั้นวันนี้เราจะทำต้มยำปลากระพงกัน!"นางเริ่มลงมือเตรียมวัตถุดิบอย่างคล่องแคล่ว กลิ่นหอมของตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด และเครื่องเทศอื่นๆ เริ่มอบอวลไปทั่วบริเวณ ทำให้ทุกคนน้ำลายสอ แม้ตอนนี้พวกเขาจะไม่สามารถลบภาพความทรงจำแย่ๆของกลิ่นคาวปลาที่พวกเขาเคยกินไปได้....หลินหลินใช้ระบบช่วยแร่เนื้อปลาออกเป็นชิ้นพอดีคำ ก่อนจะนำไปต้มในน้ำซุปที่เดือดพล่านไม่นานนัก หม้อต้มยำขนาดใหญ่ก็ส่งกลิ่นหอมกรุ่นชวนหิว หลินหลินตักต้มยำใส่ถ้วยแจกจ่ายให้ทุกคน"อร่อยมากเลยเจ้าค่ะ!"หวาหวาร้องออกมาอย่างตื่นเต้น"เนื้อปลานุ่มละมุนลิ้นมากเลยขอรับ"ทหารนายหนึ
เมื่อกลับมาถึงมิติผันผวน หลินหลินก็สั่งให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน"ทุกคนเหนื่อยมามากแล้ว พรุ่งนี้หยุดพักผ่อน 1 วัน มะรืนค่อยมารวมตัวกันเพื่อรับของรางวัลนะ"นางพูดด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเหล่าทหารและสัตว์อสูรต่างแยกย้ายกันไป หลินหลินอุ้มหวาหวาขึ้น ส่วนเทียนชุนก็อุ้มอาจิน พวกเขามุ่งหน้ากลับไปยังเรือนไม้"คืนนี้พวกพี่จะนอนที่นี่กันนะ"หลินหลินบอกน้องๆ ของนางเทียนชุนพยักหน้ารับ "เจ้าอยู่ที่ไหน ข้าย่อมอยู่ที่นั่น"หลินหลินพาหวาหวาและอาจินกินข้าวนางเตรียมอาหารอร่อยๆ ไว้ให้พวกเขา ก่อนจะพาไปอาบน้ำอุ่นและส่งเข้านอน"ฝันดีนะเด็กๆ"หลินหลินบอกพร้อมกับหอมแก้มน้องๆ ทั้งสองหลังจากนั้น นางสั่งให้ระบบจัดเตรียมอาหารและสุราอย่างดีส่งไปให้เหล่าทหาร เพื่อให้พวกเขาได้เฉลิมฉลองความสำเร็จและพักผ่อนอย่างเต็มที่เหล่าทหารต่างปลื้มปิติในความใส่ใจของนายหญิงของพวกเขา ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคงไม่มีใครดูแลลูกน้องได้ดีเท่านายหญิงอีกแล้วเทียนชุนเดินสำรวจห้องนอนของหลินหลินอย่างเงียบๆ เขาไม่เคยมาที่นี่มาก่อน สายตาของเขาไปสะดุดกับกรอบรูปที่แขวนอยู่บนผนัง ในภาพมีชายหญิงวัยกลางคนและหญิงสาวยืนอยู่ด้วยกัน ใบหน้าของ
รถม้าเคลื่อนตัวผ่านถนนที่ปูด้วยหิน สะอาดสะอ้าน สองข้างทางเรียงรายไปด้วยจวนหลังใหญ่โอ่อ่า บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบและหรูหรา บ่งบอกถึงฐานะอันมั่งคั่งของผู้คนที่อาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้เมื่อรถม้ามาถึงจวนที่แพงที่สุด ทุกคนก็ลงจากรถม้าด้วยความตื่นเต้น ประตูจวนสูงใหญ่เปิดออก เผยให้เห็นสวนภายในที่งดงามราวกับภาพวาด ต้นไม้นานาพันธุ์ปลูกเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ สนามหญ้าเขียวขจีกว้างใหญ่ บ่อน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกขุดไว้ตรงกลางสวนสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ แม้ตอนนี้จะไม่มีน้ำมากนัก แต่ก็สามารถจินตนาการถึงความงดงามเมื่อมีน้ำเต็มบ่อได้ไม่ยากตัวจวนหลักตั้งตระหง่านอยู่กลางสวน สร้างด้วยไม้เนื้อดีแกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจง นอกจากนั้นยังมีเรือนเล็กอีกสองเรือนแยกออกไป ให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้อยู่อาศัย และยังมีพื้นที่ว่างเพียงพอสำหรับสร้างเรือนเพิ่มได้อีกสองหลัง"ที่นี่สวยงามมากเลยเจ้าค่ะพี่รอง"หวาหวากระซิบกับหลินหลิน"ใช่ สวยจริงๆ" หลินหลินพยักหน้าเห็นด้วยหัวหน้าฟ่านยิ้มอย่างภูมิใจ "ที่นี่ตั้งอยู่ใกล้จวนท่านแม่ทัพ ใกล้ตลาด และใกล้สถานศึกษาด้วยขอรับ"คำว่า "สถานศึกษา" ทำให้หลินหลินนึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ นางตำหนิตัว
หลินหลินออกจากมิติมาในรุ่งเช้าของอีกวัน ความทรงจำของเดือนที่ผ่านมาในมิติผันผวนยังคงสดใหม่ในใจนางเหลือบมองกำไลเวทที่ตอนนี้มีรอยร้าว ก็อดรู้สึกขุ่นเคืองไม่ได้ ตอนแรกนางคิดว่ามันคงร้าวเพราะเผลอไปกระแทกกับอะไร แต่พอถามไปยังร้านค้าในระบบ... นางถึงกับอยากจะมุดดินหนี"เรียนท่านผู้ซื้อกำไลเวทป้องกันครรภ์ของทางร้าน" "กำไลของทางร้านไม่สามารถทุบให้แตกได้เพราะลงเวทป้องกันไว้ หากกำไลจะร้าวมีเพียงสาเหตุเดียวคือ.....ถูกใช้งานเกินขีดจำกัด ขยายความคือลูกค้าใช้ในจำนวนครั้งที่มากเกินไปหรือถี่เกินไป""แต่กำไลรุ่นนี้มีระบบเวทผสาน ท่านผู้ซื้อสบายใจได้ กำไลจะกลับมาสมานตัวอีกครั้ง....ขอให้ท่านงดกิจกรรมการร่วมรัก หรือลดให้น้อยลงให้เป็นปกติ ไม่ต้องหักโหม""เพื่อให้พลังเวทได้มีเวลาผสานตัวกันก่อน หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถส่งข้อความมาได้ทุกเมื่อ ขอบคุณค่ะ"หลินหลินมองรอยร้าวที่แทบจะแตกหัก ก็ไม่กล้าตอบอะไรไป นางได้แต่ถามหาว่า "กำไลรุ่นนี้มีอีกไหม "แต่คำตอบที่ได้ก็ต้องทำให้นางผิดหวัง!กำไลรุ่นนี้ 1 ปีจะผลิตได้ 1 อันเท่านั้น!"หลินเอ๋อร์"เทียนชุนที่เห็นนางนิ่งเงียบไป ก็เรียกนางด้วยสายตากังวล"ท่านไม่ต้องมาเร
บทพิเศษเสี่ยวเฮย และ เสี่ยวหมี(หมีหิมะ)ภายในมิติ ทันทีที่หลินหลินจากไป เสี่ยวเฮยทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม"ฮือๆ นายหญิง... ทำไม... ทำไมถึงทิ้งข้า"เสี่ยวเฮยคร่ำครวญด้วยความเสียใจเสี่ยวหมีเดินเข้ามาใกล้ "เสี่ยวเฮย เจ้าอย่าเสียใจไปเลย นายหญิงคงมีเหตุผลของนาง""เหตุผลอะไรกัน ข้าไม่เข้าใจ!" เสี่ยวเฮยร้องไห้โฮ "ข้ารักนายหญิง ข้าอยากอยู่กับนายหญิงตลอดไป"เสี่ยวหมีมองเสี่ยวเฮยด้วยความสงสาร "เสี่ยวเฮย... " เสี่ยวหมีลังเล "ข้า.. ข้าอ่านตำราโบราณออก""แล้วอย่าไร" เสี่ยวเฮยเงยหน้ามองเสี่ยวหมี"ตำราโบราณกล่าวไว้ว่า หากต้องกำจัดอสูรหิมะ ต้องระเบิดพลังจากภายในด้วยพลังระดับ 8 สองสาย และระดับ 9 หนึ่งสาย"เสี่ยวหมีอธิบายเสี่ยวเฮยขมวดคิ้ว "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายหญิง""นายหญิงเป็นมนุษย์ นางมีพลังระดับ 9 ที่นายหญิงยกเลิกพันธะสัญญา ก็เพราะ... นางต้องการปกป้องเจ้า"เสี่ยวเฮยนิ่งอึ้ง "ปกป้องข้า?""ใช่ นางรู้ว่า หากเจ้ายังมีพันธะสัญญาอยู่ หากนางระเบิดพลังเจ้าจะตายไปด้วย "เสี่ยวหมีพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า "นางรักเจ้ามาก เสี่ยวเฮย"เสี่ยวเฮยเบิกตากว้าง หัวใจของมันรู้สึกอบอุ่น ใน
ภายในจวนท่านแม่ทัพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความคาดหวัง เสียงร้องโอดโอยของหลินหลินดังเล็ดลอดออกมาจากห้องคลอดเป็นระยะๆ ทำให้เทียนชุนที่ยืนรออยู่ด้านนอกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เขากำมือแน่น พยายามสะกดกลั้นความกังวลเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจหยุดความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวได้"หลินเอ๋อร์ เจ้าต้องปลอดภัยนะ"เขาพึมพำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าบิดามารดาของทั้งสองฝ่ายก็อยู่ในอาการไม่ต่างกัน พวกเขานั่งรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เสียงร้องของหลินหลินแต่ละครั้งทำให้หัวใจของพวกเขาแทบจะหยุดเต้น"ลูกต้องปลอดภัยนะ"มารดาของหลินหลินพึมพำภาวนา ทันใดนั้นเสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงัดในจวน ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องคลอดด้วยความตื่นเต้นไม่นาน หมอตำแยก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง "ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ฮูหยินคลอดลูกแฝดชายหญิง เป็นเด็กที่แข็งแรงมาก"เทียนชุนรีบพุ่งเข้าไปในห้องคลอดทันที เขาเห็นหลินหลินนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียวแต่ก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ข้างกายนางมีทารกน้อยสองคนนอนอยู่เทียนชุนทรุดตัวลงข้างเตียง จับมือภรรยาไว้แน่น"หลินเอ๋อร์ เจ้าเก่งมาก"
หลินหลินค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคยของเทียนชุน ทันทีที่สติกลับคืนมา ภาพเหตุการณ์สุดท้ายก่อนหมดสติก็ฉายชัดขึ้นในห้วงความคิด เสียงระเบิดดังสนั่น ภาพดวงตาที่ทั้งสองมองมาที่นาง…น้ำตาไหลอาบแก้มหลินหลินอีกครั้ง ความเจ็บปวดของความสูญเสียกัดกินหัวใจของนางอย่างรุนแรง นางพยายามสะกดกลั้นเสียงสะอื้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งมันได้"เสี่ยวเฮย... เสี่ยวหมี..."นางพึมพำชื่อของพวกมันซ้ำๆ ราวกับต้องการเรียกพวกเขากลับมาเทียนชุนตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากร่างกายของภรรยา เขามองหลินหลินที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก หัวใจของเขาเจ็บปวดไม่ต่างกัน เขาโอบกอดนางไว้แน่น พยายามปลอบโยน" หลินเอ๋อร์"เขาพูดเสียงแผ่วเบา "ทุกอย่างจบแล้ว"หลินหลินเงยหน้ามองสามี น้ำตาไหลอาบแก้ม "ข้า... ข้าทำไม่สำเร็จ"นางพูดเสียงสั่นเครือ "ข้าไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้"เทียนชุนส่ายหน้า "ไม่ใช่ความผิดของเจ้า พวกเขาเลือกที่จะเสียสละตัวเองเช่นเจ้าเลือกที่จะสละตัวเองเพื่อพวกเรา""แต่..."หลินหลินยังคงร้องไห้ไม่หยุดเทียนชุนเช็ดน้ำตาให้ภรรยาอย่างอ่อนโยน "เสี่ยวเฮยและเสี่ยวหมีคงภูมิใจในตัวเอง ที่พวกเขา
หลินหลินรีบร้อนเข้าสู่มิติเพื่อเตรียมตัวรับมือกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ แม้จะมีเวลาจำกัดเพียงสองชั่วยาม (สี่ชั่วโมง) แต่นางก็ไม่รอช้า มุ่งตรงไปยังหอตำราเวททันทีภายในหอตำรา บรรยากาศเงียบสงบและเคร่งขรึม อักษรโบราณสีทองเรียงรายอยู่บนผนังถ้ำสูงตระหง่าน หลินหลิน ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอสูรหิมะ สัตว์ในตำนานที่กำลังคุกคามพวกเขา ครั้งนี้อักษรไม่ได้พุงเข้ามาที่ตัวของนางแต่ปรากฏหนังสือโบราณเก่าแก่อสูรหิมะ... สัตว์ในตำนานที่ถือกำเนิดจากพายุหิมะอันรุนแรง ดูดกลืนพลังจากความหนาวเย็นจนกลายเป็นอสูรร้ายทรงพลัง มันออกตามล่านักเวทระดับ 9 เพื่อดูดกลืนพลังขั้นสุดท้ายของพวกเขาหลินหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตัวอักษรในตำราเต้นระริกราวกับจะตอกย้ำความจริงที่ว่า มีเพียงนางและสามีเท่านั้นที่อยู่ในระดับ 9 มือของนางเริ่มสั่นไหว ความกลัวกัดกินหัวใจนางพลิกหน้าตำราต่อไปอย่างรวดเร็ว ค้นหาวิธีที่จะหยุดยั้งอสูรตนนี้มีเพียงสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจ 9 ครั้งเท่านั้นที่จะสังหารมันได้ หรือ... การระเบิดพลังจากภายใน ต้องใช้พลังเวทระดับ9 หนึ่งขุม หรือระดับ 8 สองขุม ถึงจะจัดการกับอสูรหิมะตนนี้ได้หลินหลินหน้าซีดเผือด มือบางสั่นเทาจนเสี่ยวเ
"เราจะพักที่นี่เอาแรงก่อน" หลินหลินหันไปบอกกับทั้งสามคน ก่อนจะมอบน้ำทิพย์ให้พวกเขาคนละกระบอกนางใช้เวลาพูดคุยกับครอบครัวอีกหนึ่งเค่อ (30 นาที) ก่อนจะขอตัวกลับไปทำภารกิจต่อระบบแจ้งเตือนว่ายังมีผู้รอดชีวิตอีก 2 คน แต่ดวงตาตรวจสอบของนางกลับใช้การไม่ได้ในพายุหิมะที่รุนแรงเช่นนี้ นางต้องพึ่งดวงล้วนๆในการค้นหาพวกเขาหลินหลินและเหล่าทหารกลับมายังจวนแม่ทัพอีกครั้งครั้งนี้นางร่ายโล่เวทขึ้นมาเพื่อต้านทานพายุ นางจะเป็นผู้นำทัพหน้า ส่วนหลิวเคออยู่ซ้าย โหลกังอยู่ขวา และอิงหานคอยระวังหลัง ทุกคนต่างดึงพลังเวทของตนเองออกมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้กับพายุที่โหมกระหน่ำพวกเขาเดินฝ่าพายุหิมะไปอย่างยากลำบาก หิมะหนาแน่นจนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้า ลมพัดกระหน่ำจนแทบจะปลิวไปตามลม หลายครั้งที่พวกเขาเกือบจะล้มลง แต่ก็ยังคงประคองกันและกันไว้ได้ตอนนี้พวกเขาพบกับภาพที่น่าสลดใจที่สุด...เท่าที่เคยพบเจอ สองตายายนอนกอดกัน ร่างกายของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนา ราวกับกำลังหลับใหลอย่างสงบ แต่หลินหลินรู้ดีว่าพวกเขาจากไปแล้วหลินหลินทรุดตัวลงข้างๆ ร่างของสองตายาย น้ำตาไหลอาบแก้มของนางอย่างไม่อาจควบคุมได้ น
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เทียนชุนยังคงโอบกอดหลินหลินไว้แนบอก ความรู้สึกภายในของเขาลึกล้ำเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดในฐานะสามี เขาอยากปกป้องภรรยาสุดที่รักจากอันตรายข้างนอก แต่ในฐานะแม่ทัพ เขาก็ไม่อาจละทิ้งประชาชนในแดนเหนือได้เช่นกัน เขาติดอยู่ในวังวนของความขัดแย้งภายในใจ ปล่อยนางไปก็ห่วง กักตัวนางไว้ก็ผิดต่อหน้าที่หลินหลินที่จมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง เริ่มตั้งสติและรวบรวมความกล้า นางไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ และการเดิมพันครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยงเพื่อคนที่นางรักหลินหลินค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดที่อบอุ่นของสามี เงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างแน่วแน่"ท่านพี่" นางเอ่ยเสียงหนักแน่น"สำหรับข้า ท่านคือโลกทั้งใบ ดังนั้นข้าจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ กลับมาเคียงข้างท่านให้ได้ ข้าสัญญา"แววตาของหลินหลินเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความรักที่ล้นปรี่ เทียนชุนมองลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น เขาเห็นถึงความแข็งแกร่งและความเสียสละที่ซ่อนอยู่ภายใน แม้ใจจะแหลกสลายที่ต้องปล่อยนางไป แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งภรรยาของเขาได้เขาพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า รู้สึกถึงก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอ "พี่จะรอเจ้า...
ยามจื่อ (00.00 น.) ความมืดมิดปกคลุมราตรีไร้เสียง มองเห็นเพียงแสงเทียนริบหรี่จากบ้านเรือนบางหลัง ทว่าในเงามืดนั้น มีกลุ่มเงาเคลื่อนไหวอย่างว่องไวและเงียบเชียบ นำโดยหลิวเคอ และทหารฝีมือดีของหลินหลินอีกหลายสิบนาย ด้วยวรยุทธ์และพลังเวทที่สูงส่งถึงระดับ 7 พวกเขาเคลื่อนไหวราวกับภูตพราย ไร้ร่องรอย ไม่มีใครแม้แต่จะรู้สึกถึงการมีอยู่ของพวกเขา แต่ละคนล้วนมีถุงมิติขนาดเล็กที่หลินหลินกว้านซื้อมาจากระบบมากถึง 500 ใบบ้านเรือนทุกหลังในเมืองถูกเยี่ยมเยือนโดยกลุ่มเงาเหล่านี้ พวกเขาเข้าออกอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ของมีค่าทุกชิ้นถูกกวาดลงถุงมิติอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน เครื่องประดับ หรือของสำคัญอื่นๆ ล้วนถูกเก็บลงถุงมิติข้างตัวยามหยิน (03.00น.)ไม่มีบ้านเรือนหลังไหนที่พวกเขาไม่ไปเยือน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว ราวกับปฏิบัติการลับที่ได้รับการวางแผนมาอย่างดีรุ่งเช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับความโกลาหล เมื่อชาวเมืองทุกหลังคาเรือนตื่นขึ้นมาพบว่าของมีค่าภายในบ้านหายไปอย่างไร้ร่องรอย! แม้แต่โต๊ะรับแขกไม้เนื้อดีก็ยังอันตรธานไป สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวไปทั่วหลินหลินคาดกา
ขณะที่หลินหลินกำลังมุ่งหน้าไปยังถ้ำแห่งต่อไป นางก็สำลักเลือดออกมาจนเปรอะเปื้อนอาภรณ์ ทหารที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจ"นายหญิง!!"หลินหลินยกมือขึ้นเช็ดคราบเลือดอย่างไม่ใส่ใจ "ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นอะไร"นางฝืนยิ้มให้พวกเขา แต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้ง พลังเวทในตัวนางเหลือน้อยเต็มที การสร้างปราการครั้งใหญ่เมื่อครู่นี้ดูดพลังของนางไปมากมาย หลินหลินกัดฟันข่มความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาในอก พยายามรักษาท่าทีให้นิ่งสงบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นางรู้ดีว่าร่างกายของนางกำลังส่งสัญญาณเตือน"ไม่เป็นไรหลินหลิน เจ้าจะไม่เป็นอะไร"หลินหลินพูดเสียงแผ่วเบา เพื่อส่งกำลังใจให้ตัวเองข้าจะต้องเข้มแข็ง ข้าต้องทำได้ นางบอกตัวเองในใจภาพความฝันที่สองเมื่อคืนยังคงตามหลอกหลอนนาง ความรู้สึกผิดที่ไม่อาจปกป้องทุกคนได้ยังคงกัดกินหัวใจของนาง นางไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกในความฝันนั้น นางเห็นตัวเองเลือกสร้างปราการคุ้มกันเมืองแดนเหนือเอาไว้ เพราะคิดว่าเพียงแค่พายุผ่านไปทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ ค่ายทหารถูกพายุถล่มจนพังพินาศ และเมื่อพายุสงบลง กองกำลังศัตรูก็บุกเข้าโจมตีทันที แม้ว่าในท้ายที่สุด นางแล
เทียนชุนแทบไม่ได้ฟังที่หลินหลินพูด เขาจดจ้องอยู่แต่กับเรือนร่างตรงหน้า เทียนชุนประกบจูบหญิงสาวอย่างโหยหา หลายวันมานี้เขาคิดถึงนางแทบขาดใจ เมื่อคืนที่เห็นนางเหนื่อยจึงไม่อยากรบกวนนาง อยากให้นางได้พักผ่อน แต่ไม่คิดว่าเช้ามาเขาจะได้อาหารเช้าที่แสนวิเศษ "ท่านพี่...อ้า.. "นิ้วสากลูบไล้เนื้ออวบอูมอย่างช่ำชอง นิ้วหนาชำแหละกลีบชมพูเข้าไปในช่องทางรักอย่างโหยหา..เขาชักนิ้วเข้าออกระรัวจนร่างบางหวีดร้อง....."อะๆๆๆ..อ้า! " ร่างบางบิดเร้าด้วยความเสียว เทียนชุนดึงนิ้วที่เปียกย้อมด้วยน้ำรักของสตรีตรงหน้าออกมา เขาชูให้นางดูก่อนใช้ลิ้นเลียนิ้วหนา หลินหลินมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว เขาดูเซ็กซี่ขยี้ใจนางมาก..."อ้า... "ร่างกายเริ่มร้อนรุ่มหนัก เทียนชุนควักท่อนเอ็นที่พองโตออกมาชักรูดสองสามทีก่อนเสียบอัดเข้าไปจนมิดด้าม"อ้า..หลินเอ๋อร์... "ร่างหนาครางต่ำ..."อืมมมม!!! "พั่บ..พั่บ..พั่บ..พั่บ..เสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องห้องนอน หลินหลินตัวโยกไปตามแรงกระแทกของสามี"อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ! งื้อ... ""ใหญ่มากท่านพี่ของท่านใหญ่มาก..." เทียนชุนที่ได้ยินภรรยา