แชร์

51 : หลินจื่อรั่วสตรีผู้เพียบพร้อม

ผู้แต่ง: หิมะที่ปลิดปลิว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-27 01:29:44

51 : หลินจื่อรั่วสตรีผู้เพียบพร้อม

เรือนตระกูลหลินสายรอง

หลินเต๋อ “เยว่เอ๋อร์ข้ากับพี่ชายเจ้าไปดูที่ปลูกสมุนไพรของเจ้าแล้ว คิดว่าปีหน้ากองทัพน่าจะงดรับสมุนไพรของเจ้าแล้วล่ะ พวกข้าศึกเสียหายหนักเช่นนี้”

“เช่นนั้นท่านพ่อจัดการตามเห็นสมควรได้เลย ข้าไม่ถนัดเรื่องค้าขายเท่าใดนัก”

“ได้ ๆ ข้าจะติดต่อพ่อค้าในเมืองดูก่อน ว่าพอจะมีที่ไหนรับซื้อสมุนไพรอีกหรือไม่” เพราะได้เห็นแปลงสมุนไพรหนึ่งร้อยหมู่นั่นแล้ว หลินเต๋อจึงวางมือจากร้านค้าอื่นเอาไว้ก่อน มีสมุนไพรพวกนั้นก็เหมือนมีเงินกองอยู่ตรงหน้าแล้ว

หลินซือเยว่คิดว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลา ในการติดต่อหาผู้รับซื้อสมุนไพรในจำนวนมากเช่นนี้ “หากไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ข้าพอมีตำรับยาอยู่บ้าง เราไม่ขายสมุนไพรตากแห้งก็ได้ แต่ขายเป็นยาที่ปรุงเสร็จแล้วแทน”

“เรื่องนี้ข้าเห็นด้วย ท่านพ่อเหตุใดไม่เปิดร้านขายโอสถเล่า ในเมื่อน้องรองมีความรู้เรื่องยา เราสามารถปรุงยาออกมาขายได้ ไม่ใช่ว่าเรามีสมุนไพรอยู่ในมือแล้วรึ” หลินซีฮันมองเห็นช่องทางการทำมาหากินของครอบครัว

“ร้านโอสถ ?” เถียนฮูหยินคิดไม่ออก สามีของนา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   52 : ตรุษจีนมาเยือน

    52 : ตรุษจีนมาเยือน ขณะที่ตระกูลหลินสายหลัก กำลังดิ้นรนสร้างชื่อเสียงให้หลินจื่อรั่ว ทางฝั่งของสายรองได้หาที่ทาง ทำการค้าขายได้แล้ว แต่เพราะเริ่มเข้าหน้าหนาว พวกเขาจึงทำได้เพียง รีบเก็บเกี่ยวสมุนไพรโตได้ที่ให้หมด หลินเต๋อได้ซื้อโรงเตี๊ยมเก่าสองชั้นแห่งหนึ่งเอาไว้ เขาตั้งใจให้ปรับปรุงเป็นหอโอสถ แต่เนื่องจากมีพื้นที่กว้างขวาง หลินซือเยว่จึงให้เขาทำเป็นโรงน้ำชา พร้อมของว่างเล็ก ๆ ภายในนั้นด้วย เทศกาลตรุษจีนมาเยือนหลินเต๋อพาบุตรและภรรยา ไปกราบไหว้บรรพบุรุษที่เรือนตระกูลหลินสายหลัก ยามนี้ถึงได้เห็นว่าภายในนั้น ยังด้อยกว่าเรือนของตนอยู่หลายขุม ป้ายบรรพบุรุษที่หลินเฉิน ให้คนไปนำมาจากจวนหลังเก่า ถูกตั้งไว้ในเรือนแห่งนี้ หลินซือเยว่กำชับทุกคนในบ้าน ไม่ต้องแต่งตัวสวยหรูหราไปโอ้อวด เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้น พวกเขาจึงแต่งตัวแบบเรียบง่าย ระหว่างที่ผู้ใหญ่นั่งคุยกันอยู่นั้น หลินซือเยว่ได้พาน้องสาวเดินเล่นไปรอบ ๆ บริเวณเรือน จึงได้พบหลินจื่อรั่วเข้า “นั่นไม่ใช่พี่น้องบ้านอารองหรอกหรือ เข้าไปทักทายพวกนางหน่อยก็แล้วกัน” หลินจื่อรั่วยามนี้งดงามดั่งบุปผาแรกแย้ม

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   53 : คู่หมั้นนางมาเยือน

    53 : คู่หมั้นนางมาเยือน จวนเหลียงอ๋อง ตะเกียบในมือหักเปาะ ยามได้ยินว่าหลินซือเยว่มีคู่หมั้นมาเยือน เซวียนหมิงยู่หันไปทางฮู่ตงหยาง พร้อมกับเอียงหน้าถามเขาอีกครั้ง “เจ้าว่าอันใดเมื่อครู่นี้” ฮู่ตงหยางลอบกลืนน้ำลายเบา ๆ “เรียนท่านอ๋อง โจวจื่อถงคู่หมั้นของคุณหนูหลิน มาเยือนที่เรือนของนางพ่ะย่ะค่ะ” “คู่หมั้น ! นางจะไปมีคู่หมั้นได้อย่างไร ไม่ใช่ว่า..” นั่นสิ เขารู้แค่ว่านางเคยหมั้นหมาย กับบุตรชายคนโตของแม่ทัพโจว แต่ว่าคนผู้นั้นป่วยนอนติดเตียงอยู่ไม่ใช่หรือไร “ยังไม่ตายอีกรึ !” “ท่านอ๋อง” ฮู่ตงหยางครวญเสียงเบา คนตายที่ไหนจะเดินทางมาถึงเมืองเหลียงได้ “ข้าสืบจากบ่าวรับใช้ในเรือนตระกูลหลินมา ได้ความว่าคุณหนูหลินเคยมอบตำรับยาไว้ให้ เขาถึงได้อาการดีขึ้นและเดินทางมา เพื่อเยี่ยมเยือนช่วงตรุษจีนพ่ะย่ะค่ะ” “ตรุษจีนไม่อยู่ตระกูลตัวเอง วิ่งแจ้นมาไกลถึงเมืองเหลียง” เซวียนหมิงยู่ไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก เขาตั้งหน้าตั้งตารอคอยเทศกาลหยวนเซียวที่จะมาถึง ไหนเลยจะคิดว่าคู่หมั้นของนางจะโผล่ออกมายามนี้ เส้นเลือดบนขมับนูนขึ้นด้วยความไม่พอใ

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   54 : มาไวไปไวเสียจริง ข้ายังไม่ได้ลงมือด้วยซ้ำ

    54 : มาไวไปไวเสียจริง ข้ายังไม่ได้ลงมือด้วยซ้ำ เผิงฉือมองพ่อบ้านให้คนขนของขวัญใส่เต็มคันรถ นางอยากถามว่าพวกเขาไม่เก็บเอาไว้บ้างหรืออย่างไร ผลไม้สด ๆ ใหม่ ๆ ที่มีคนมามอบให้ หรือว่าขนมหน้าตาสวยงามพวกนั้น ผ้าไหมผ้าแพรนับไม่ถ้วน “ท่านพ่อบ้านข้าว่าพอได้แล้วกระมัง ที่จวนของพวกท่านไม่มีคนกินหรืออย่างไร” นางอดถามไม่ได้จริง ๆ “ของพวกนี้ส่งมาจำนวนมากเหลือเกิน ไม่รับก็ไม่ได้จะหาว่าแล้งน้ำใจแก่กัน มอบให้คุณหนูหลินไปก็ใช่ว่าจะหมด เดี๋ยวข้าก็ต้องขนไปที่ค่ายทหาร แจกจ่ายให้พวกเขาได้กินด้วย ท่านก็รับ ๆ ไปเถอะ” พ่อบ้านจวนอ๋องทำหน้าคล้ายหนักใจ กับจำนวนของขวัญที่จวนเหลียงอ๋องได้รับ เผิงฉือแย้งไม่ออก หันไปมองกองของขวัญที่แทบจะล้นออกมาจากห้องโถง ก็พอเข้าใจพ่อบ้านผู้นี้อยู่ เหลียงอ๋องเป็นผู้ปกครองเมืองเหลียง คหบดีหรือเถ้าแก่ร้านค้าต่าง ๆ ในเมืองแห่งนี้ ต้องมอบของขวัญให้เขาตามธรรมเนียมปฏิบัติ นี่ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแม้แต่น้อย ทว่าของที่พ่อบ้านขนขึ้นรถให้นั้น ดูเหมือนถูกส่งมาจากเมืองหลวง คงเป็นพระญาติของท่านอ๋องเป็นแน่ หลินซือเยว่เลือกของในห้องคลังสมบัติไม่ถูก

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   55 : ปิ่นข้าไม่ได้เบี้ยว 

    55 : ปิ่นข้าไม่ได้เบี้ยว ก่อนหน้าเทศกาลหยวนเซียวสองวัน หลินซือเยว่ได้บอกเรื่องที่นางต้องเดินทางไปเมืองหยาง ให้ทุกคนในครอบครัวได้รู้ พวกเขาต่างตกใจที่ได้ยินว่าอีกไม่กี่วัน นางจะต้องเดินทางไกลไปเป็นร้อยลี้ แต่นางยกเรื่องจดหมายจากเซวียนเฟยฮุ่ย เสด็จลุงของเหลียงอ๋อง ที่แจ้งความประสงค์ต้องการตัวนางโดยเฉพาะ เมื่อเอ่ยถึงความต้องการของเชื้อพระวงศ์ หลินเต๋อกับภรรยาไหนเลยจะฝ่าฝืนได้ จำต้องยอมรับเรื่องการจากลากันในครั้งนี้ วันเทศกาลหยวนเซียวมาถึง หลินซือเยว่ไม่รู้จะบอกบิดามารดาอย่างไร ว่านางถูกมัดมือชกให้รับปากเหลียงอ๋อง ไปเที่ยวชมงานเทศกาลหยวนเซียว ยามที่น้องสาวเอ่ยชวนจึงมีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจขึ้นมา “พี่รองท่านไปด้วยกันกับข้ากับพี่ใหญ่สิ” “เอ่อ ข้า” นางอิดออดไม่กล้าเอ่ย “เจ้ามีนัดแล้วรึ” หลินซีฮันถามตรงไปตรงมา “อืม ข้ามีนัดแล้ว” หลินซือเยว่ตอบรับไม่เต็มเสียง “กับใคร ใครกันที่สำคัญกว่าน้องสาวอย่างข้า” หลินซูฮวาหน้างอหงิกไม่พอใจ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดเข้าไปไกล่เกลี่ยไม่ได้ “คุณหนูสามเจ้าคะ ท่านอย่าโกรธคุณหนูรองเลย

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   56 :เป็นไงเล่า เจ้าสะดุดล้มได้ ข้าก็ทำเป็น

    56 :เป็นไงเล่า เจ้าสะดุดล้มได้ ข้าก็ทำเป็น ทั้งคู่เดินเล่นภายในงานต่อ เพราะบุรุษน่าเกรงขามเดินเคียงคู่กับสตรีงดงาม ผู้คนที่เดินผ่านไปมาจึงอดเหลียวมองพวกเขาไม่ได้ ไม่เว้นกระทั่งหลินซือรั่ว นางรีบดึงมือพี่สะใภ้ของตนเองทันที “พี่สะใภ้นั่นไม่ใช่พี่ซือเยว่หรือไร” นางรีบเดินย้อนกลับไปทางเดิม แล้วแอบมองพวกเขาอยู่ไกล ๆ “บุรุษผู้นั้นเป็นใครกัน” เหตุใดถึงได้ดูอยู่เหนือผู้คนทั้งงาน ใบหน้าคมคาย รัศมีเปล่งประกายของความเป็นผู้มีอำนาจ เขาย่อมไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่ “ข้าว่าใช่ซือเยว่จริง ๆ นั่นเผิงฉือคนที่อยู่กับนาง” จีหวังลี่แอบตื่นเต้นเล็กน้อย วันนี้สามีให้นางมาเป็นเพื่อนน้องสาวเที่ยวชมงานเทศกาลหยวนเซียว เดิมทีนางไม่ค่อยเต็มใจเท่าใดนัก แต่ก็ขัดเขาไม่ได้ จึงได้แยกกันเป็นฝั่งบุรุษกับฝั่งสตรี สามีพาบุตรชายไปเดินอีกทาง ส่วนนางเดินตามหลังหลินจื่อรั่วมาทางนี้ “ข้าจะไปดูใกล้ ๆ ว่านางแพศยานั่นไปอ่อยบุรุษผู้นั้นมาจากไหน” “จื่อรั่วนี่ไม่ใช่เรื่องของเจ้า คนผู้นั้นดูแล้วไม่ธรรมดา ไม่เห็นรึเผิงฉือนั่นเดินไปพร้อมกับบุรุษอีกสองคน ให้ข้าเดาคงเป็นองครักษ์ของเขาแน่”

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   57 : เดินทางสู่เมืองหยาง   

    57 : เดินทางสู่เมืองหยาง ก่อนวันออกทางหลินซือเยว่ได้พาบิดากับพี่ชาย ไปขอเข้าพบคหบดีเมี่ยวที่จวน เพื่อฝากฝังเรื่องการค้าไว้กับเขา หากเปรียบในยุคปัจจุบัน คหบดีเมี่ยวก็คือนายทุนรายใหญ่ของเมือง หากครอบครัวของนางอยากทำการค้า ต้องเริ่มรู้จักผู้มิตรกับคนผู้นี้เอาไว้ ซึ่งทางคหบดีเมี่ยวนั้นเอาใจใส่นางมากกว่าเดิม “คุณหนูหลินวางใจได้ ข้าจะให้พ่อบ้านแนะนำพวกเขากับพวกเถ้าแก่ในเมืองเหลียง หากมีเรื่องเดือดร้อนหรือมีปัญหากัน ข้าจะออกปากช่วยเหลือเอง ท่านเดินทางไปเมืองหยางได้อย่างวางใจเถอะ” แม้ไม่รู้ว่านางเดินทางไปเมืองหยางด้วยเหตุใด แต่หากไปกับเหลียงอ๋องนั่นแล้ว คงเป็นเรื่องสำคัญเกินกว่าจะเปิดเผยได้ “ได้ยินเช่นนี้ข้าก็วางใจ” หลินซือเยว่ค้อมตัวให้เขา “ขอบคุณนายท่านเมี่ยวมากขอรับ” สองพ่อลูกประสานมือคำนับเขาพร้อมกัน “ในเมื่อคุณหนูหลินต้องเดินทางไปเมืองหยางแล้ว ไม่รู้เมื่อใดจะได้กลับมา เหตุใดท่านพี่ไม่คุยเรื่องนั้นกับนางเลยเล่า” เมี่ยวฮูหยินเอ่ยกับสามี “มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” คหบดีเมี่ยวทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย แต่พอมองหน้าของฮูหยิ

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   58 : เมืองหยาง

    58 : เมืองหยาง สองคนด้านหลังเหมือนรู้หน้าที่ ว่าต้องอยู่ในระยะที่ไร้ตัวตนเข้าไว้ ปล่อยให้พวกเขาได้เดินเล่นกันตามลำพัง อำเภอแห่งนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผู้คนใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส สินค้าที่นำมาวางขายล้วนแต่เป็นของดีราคาย่อมเยา “อากาศยังหนาวเย็นแต่ผู้คนกลับพลุกพล่านกันนัก” หลินซือเยว่ไม่รู้ว่าควรชวนเขาคุยเรื่องไหนดี จึงยกเรื่องสภาพอากาศขึ้นมาพูด เซวียนหมิงยู่ “ตอนออกมาข้ายังไม่ได้กินมื้อเย็น” “ข้าก็ยัง” นางเริ่มหิวแล้วด้วย “เยว่เอ๋อร์เจ้าว่าร้านบะหมี่เนื้อร้านนั้นเป็นอย่างไร” ร้านบะหมี่เนื้อที่มีชายชราเป็นเถ้าแก่ หญิงชราเป็นคนคอยบริการแขกของร้าน หลินซือเยว่มองเห็นโต๊ะที่วางอยู่บนพื้น กับเก้าอี้ทรงเตี้ย ๆ คงนั่งกินไม่สบายเท่าใดนัก ผู้คนจึงไปหาร้านที่นั่งสะดวกสบายกินกัน อุดหนุนพวกเขาหน่อยก็แล้วกัน “กินร้านนี้กันเถอะ” ภายในร้านมีโต๊ะนั่งเพียงห้าตัวเท่านั้น มีลูกค้าอยู่หนึ่งโต๊ะแล้ว พอเซวียนหมิงยู่เข้าไปอีกสองโต๊ะ ก็แออัดแทบจะเบียดกันอยู่แล้ว หญิงชราใบหน้าไม่ค่อยผ่องใสเท่าใดนัก เดินมารับคำสั่งที่โต๊ะของพวกเขา หลินซือเยว่อดดู

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   59 : ได้กลิ่นน้ำส้มสายชูเล็กน้อย

    59 : ได้กลิ่นน้ำส้มสายชูเล็กน้อย ผู้คนในเรือนของพระชายา ต่างออกมาต้อนรับหยางอ๋องกันหมด หลินซือเยว่สังเกตเห็นว่าหนึ่งในนั้น มีสตรีใบหน้างดงามท่าทางอ่อนโยนอยู่หนึ่งคน “ลุกขึ้นทั้งหมดนี่แหละ ให้ทุกคนออกไปเหลือไว้แค่แม่นมกับหรูเหรินเป็นพอ” “เพคะท่านอ๋อง” สาวใช้ทั้งหมดรีบออกจากห้องไป “นี่คือเซี่ยหรูเหรินเป็นหลานสาวของพระชายา นางมาดูแลท่านป้าของนางได้หลายเดือนแล้ว หรูเหรินมาทำความรู้จักกับเหลียงอ๋องไว้หน่อย” หยางอ๋องเอ่ยเหมือนแนะนำพวกเขาผ่าน ๆ แต่ในสายตาของหลินซือเยว่นั้น มองความคิดของเขาออกหมดทุกอย่าง นี่ไม่ใช่แค่แนะนำ แต่เป็นการดูตัวกันชัด ๆ “หม่อมฉันเซี่ยหรูเหรินถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ” เซี่ยหรูเหรินย่อตัวลงอย่างอ่อนช้อย นางสวมใส่อาภรณ์ที่ทำจากผ้าไหมเนื้อดี ปักลวดลายของราชวงศ์บ่งบอกฐานะ เครื่องประดับต่างเป็นทองคำแทบทุกชิ้น หลินซือเยว่มองนางยังเพลินตา มีหรือบุรุษจะเมินผ่านได้ นางเห็นเซวียนหมิงยู่ยกมือให้นางเงยหน้าขึ้นได้ ทว่าไม่ได้เอ่ยคำพูดใดออกมา หยางอ๋องเห็นหลานชายตนเองนิ่งเฉย จึงหันไปทางหลินซือเยว่แทน “นี่คือ

บทล่าสุด

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   81 : ตอนพิเศษ 10 : พวกเขาเกิดมาคู่กัน (จบตอนพิเศษ)

    10 : พวกเขาเกิดมาคู่กัน หลินซือเยว่ชวนน้องสาวมาเยือนที่เรือน เพื่อเปิดโอกาสให้ฮู่ตงหยางได้พูดคุยกับนางบ้าง อย่างน้อยได้ทำความรู้จักพูดคุยกันก่อน ยามออกเรือนไปแล้วจะได้ไม่เขินอายกันจนเกินไป แต่นางได้เอ่ยกับบิดามารดาไปแล้ว ว่าให้หมั้นหมายกันไปก่อนหนึ่งปี เพราะยามนี้น้องสาวของนางเพิ่งอายุสิบหกย่างสิบเจ็ดปีเอง แต่มารดาของนางกลับแย้ง ว่าอายุช่วงนี้กำลังเหมาะสม หากรอไปอีกหนึ่งปีฮู่ตงหยางก็สามสิบปีพอดี ในสายตาของผู้อื่นอาจคิดว่าอายุของทั้งคู่ไม่เหมาะสมกัน เพราะห่างกันร่วมสิบสองปี แต่ในสายตาของหลินซือเยว่ ฮู่ตงหยางอยู่ในวัยกำลังสร้างครอบครัวได้ มีแต่น้องสาวของนางนี่แหละที่เด็กน้อยเกินไป “น้องรอง” “เจ้าคะ” “เจ้าไม่คิดว่าองครักษ์ฮู่แก่ไปหรอกหรือ” หลินซูฮวาอมยิ้มเล็กน้อย “ไม่เจ้าค่ะ เขาดูแข็งแรงดี” “อ้อ เป็นข้าที่คิดมากไปเอง เจ้าดูเด็ก ๆ อยู่ตรงนี้ไปก่อนก็แล้วกัน ข้ามีงานไปคุยกับท่านอ๋องก่อน” “ได้เจ้าค่ะ” หลินซูฮวาชอบที่ได้เล่นกับหลานตัวน้อยทั้งสอง พวกเขาเลี้ยงง่าย แค่ได้วิ่งเล่นไปมาก็มีความสุขแล้ว นางเองได้นั่งมองเด

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   80 : ตอนพิเศษ 9 : “เป็นเจ้านี่เองที่ว่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล”

    9 : “เป็นเจ้านี่เองที่ว่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล” หลินซูฮวาไม่ได้โง่ นางมองปราดเดียวก็รู้ ว่าคนตรงหน้าได้ช่วยชีวิตนางเอาไว้ แต่ช่วยด้วยวิธีไหนนั้นนางไม่แน่ใจ ภายในรถม้าที่นั่งกลับเรือนด้วยกันสองต่อสอง นางจึงได้ใจกล้าเอ่ยถามเขา “ท่านผายปอดให้ข้ารึ” ฮู่ตงหยางตัวแข็งทื่อหลังได้ยิน “คุณหนูหลินท่านรู้จักการผายปอดด้วยรึ” เขาถามเสียงค่อยคล้ายคนหมดเรี่ยวแรง “รู้จักสิ พระชายามาสอนคนที่จวนอยู่เหมือนกัน ข้าก็ได้เรียนรู้ด้วย” นางเม้มปากแน่น พวงแก้มค่อย ๆ แดงระเรื่อขึ้นมา การที่เขาไม่ปฏิเสธย่อมหมายความว่าเป็นเรื่องจริง “คุณหนูหลินข้าล่วงเกินท่านแล้ว” ฮู่ตงหยางยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี “หมายความว่าอย่างไร พระชายาบอกว่าเป็นการช่วยเหลือชีวิตผู้คน ข้าไม่ควรคิดเล็กคิดน้อยสิ” หลินซูฮวาบิดปลายนิ้วใต้แขนเสื้อสุดแรง “ตอนข้า เอ่อ ผายปอดท่าน มีชาวบ้านอยู่แถวนั้นกันหลายคน เกรงว่าเรื่องนี้คงทำให้ท่านเสื่อมเสียชื่อเสียงไปแล้ว” “องครักษ์ฮู่ท่านหมายความว่า มีคนเห็นท่าน” หลินซูฮวาหยุดพูด แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ๆ “เป่าลมเข้าปากข้ารึ” ถาม

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   79 : ตอนพิเศษ 8 : “เท้า ไม่ใช่มือ !”

    8 : “เท้า ไม่ใช่มือ !” หลินซือเยว่จัดการเรื่องออกเรือน ให้สาวใช้สินเดิมทั้งสองเรียบร้อยแล้ว นางมอบของขวัญเป็นเรือนให้คนละหลัง พร้อมมอบกิจการร้านค้าให้อีกด้วย กระทั่งหนังสือขายตัวก็ฉีกทิ้งไป ปล่อยให้ทั้งคู่ได้เป็นอิสระในภายภาคหน้า “ข้าไม่เคยรู้ว่าเจ้าใจดีถึงเพียงนี้” เซวียนหมิงยู่โอบกอดนางจากด้านหลัง พร้อมหอมแก้มนุ่ม ๆ ของนางฟอดหนึ่ง “ยามเป็นโหย่วซิงเยียนพวกนางดีกับข้ามาก พอเป็นหลินซือเยว่ก็ตั้งใจเรียนรู้เรื่องยาสมุนไพร ยามนี้เลยได้ใช้ประโยชน์บ้าง ต่อไปภายภาคหน้าหากเกิดการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนางก็สามารถรักษาตัวเองหรือคนในครอบครัวได้ ไม่จำเป็นต้องเรียกร้องหาหมออย่างเดียว” หลินซือเยว่ได้วางแผนเรื่องการรักษาอาการบาดเจ็บเบื้องต้น ให้แก่คนในจวนไว้แล้ว เพียงแต่นางยังไม่มีเวลาได้ลงมือทำ “ข้าถึงได้ว่าเจ้าจิตใจดีอย่างไร” ไม่เพียงแต่กับบ่าวไพร่ในจวน กระทั่งชาวบ้านทั่วไปหลินซือเยว่ก็ใจดีต่อพวกเขา เซวียนหมิงยู่ได้รู้จากท่านหมอหลี่ ว่าพระชายาของตนได้ให้คนจากโรงสมุนไพร ออกไปถ่ายทอดความรู้เรื่องสมุนไพรพื้นฐานให้แก่ชาวบ้าน และสอนเรื่องการรักษาอาการบาดเจ็บเบื

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   78 : ตอนพิเศษ 7 : วาสนานำพารัก

    7 : วาสนานำพารัก หลินเต๋อให้คนไปเชิญพระชายามายังจวนของตน เพื่อหารือเรื่องสำคัญ ครั้นหลินซือเยว่ไปถึงก็ได้รู้ว่าพี่ชายของตนเอง กำลังจะมีข่าวดีเรื่องมงคล “ซีฮันสวมกวานมาหลายปีแล้ว สมควรคิดเรื่องออกเรือนได้เสียที” เถียนฮูหยินเป็นผู้เอ่ยเรื่องนี้ หลินซือเยว่รีบหันไปทางพี่ชายในทันที เห็นเขาใบหน้าแดงเถือกขึ้นอย่างชัดเจน นี่หมายความว่าไม่ปฏิเสธเป็นแน่แท้ “ท่านแม่หมายปองสตรีนางใดให้พี่ใหญ่หรือเจ้าคะ” “เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหวง ทำการค้าเหมือนกัน” “ท่านพ่อเห็นชอบว่าอย่างไรเจ้าคะ” นางหันไปทางบิดาบ้าง ส่วนตัวไม่ได้รู้จักคุณหนูผู้นี้มาก่อน “อืม คุณหนูใหญ่ผู้นี้ใช้ได้เหมือนกัน” หลินเต๋อย่อมเชื่อใจการมองคนของภรรยา หลินซือเยว่มองน้องสาวของตัวเองบ้าง เห็นนางพยักหน้าลงคล้ายพึงพอใจอยู่เหมือนกัน ทุกคนในบ้านล้วนพึงพอใจสตรีนางนี้ กระทั่งหลินซีฮันยังไม่มีท่าทีจะปฏิเสธ “พี่ใหญ่ ท่านไปแอบดูนางมาแล้วใช่ไหม” ทุกคนต่างอ้าปากค้างหลังได้ยิน โดยเฉพาะเถียนฮูหยิน นางไม่เคยรู้มาก่อนว่าบุตรชาย ไปแอบดูคุณหนูใหญ่ตระกูลหวงตอนไหน “ซีฮันนี่เจ้า

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   77 : ตอนพิเศษ 6 : “คลานดี ๆ อย่าให้ลูกชายข้าหล่นได้”

    6 : “คลานดี ๆ อย่าให้ลูกชายข้าหล่นได้” ยามนี้คุณชายกับคุณหนูทั้งสองอายุครบสองปี ทั้งคู่เริ่มเรียกชื่อบิดามารดาได้แล้ว อีกทั้งยังพูดคุยประโยคสั้น ๆ ได้บ้าง หลินซือเยว่ได้จัดงานแต่งให้สวีวั่งซูอย่างสมเกียรติไปเมื่อปีที่แล้ว ยามนี้ฮู่ตงหยางจึงกลายเป็นคนขี้อิจฉา ยามได้เห็นสหายรัก รีบร้อนกลับเรือนทุกครั้งหลังออกเวร พอหันกลับมาทางท่านอ๋องของตน แทบนึกช่วงเวลาเหลียงอ๋องผู้เกรียงไกรแทบไม่ออก เพราะยามนี้นั้น “บิน ๆ สูง ๆ” เป็นเสียงเล็ก ๆ ของคุณชายตัวน้อย ท่านอ๋องของตนกำลังให้คุณชายขี่คอแล้วพาวิ่งไปรอบ ๆ ลานหญ้า ส่วนพระชายานั้นกำลังนั่งถักเปียให้คุณหนูด้านข้างมีเผิงฉือกับสองสาวใช้คอยปรนนิบัติอยู่ “อี้เอ๋อร์อยากขี่ม้าใช่ไหม ได้ ๆ ตงหยางมานี่เร็ว !” “ท่านอ๋องคุณชายยังไม่ได้เอ่ยสักคำ” แม้ปากจะเอ่ยเช่นนั้น แต่เข่ากลับคุกคลานลงบนพื้น ไม่ช้าคุณชายตัวน้อย ก็ปีนขึ้นมานั่งอยู่บนหลังของเขา “คลานดี ๆ อย่าให้ลูกชายข้าหล่นได้” “พ่ะย่ะค่ะ” ฮู่ตงหยางก้มหน้าคลานไป ประคองคุณชายน้อยไปด้วย เขากลับมีความสุขเหลือเกินในยามนี้ คุณชายน้อยส่

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   76 : ตอนพิเศษ 5 : แฝดชายหญิง      

    5 : แฝดชายหญิง หนึ่งเดือนต่อมา เผิงฉือนั่งมองพระชายาของนาง ที่กำลังจ้องที่ข้อมือของตัวเองอย่างเงียบ ๆ บางครั้งพระนางก็เอานิ้วไปแตะ แล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ จากนั้นก็แตะข้อมืออีกครั้ง เป็นอยู่เช่นนี้จนน่าสงสัย “พระชายาเพคะ ท่านอ๋องให้แม่ครัวเคี่ยวน้ำแกงบำรุงร่างกายมาให้เพคะ” ลี่ถิงเดินยิ้มเข้ามาพร้อมกับถาดน้ำแกง หลินซือเยว่หันไปค้อนนางแรง ๆ อย่างไร้สาเหตุ “พระชายาเป็นอันใดเพคะ” เผิงฉือเห็นแล้วก็ไม่เข้าใจ โบกมือให้ลี่ถิงรีบวางถ้วยน้ำแกงลง แล้วให้รีบออกไปให้เร็วที่สุด “ป้าเผิงข้าไม่สบายใจเล็กน้อย” นางถอนหายใจหนัก ๆ ออกมา แววตามีความสับสนเล็กน้อย “มีเรื่องอันใดที่ทำให้พระชายาไม่สบายใจหรือเพคะ หากบอกได้ก็เอ่ยออกมาเถอะ” เผิงฉือเข้าไปยืนอยู่ใกล้ ๆ แววตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองนางเล็กน้อย ดันถ้วยน้ำแกงออกไปให้ไกลตัว “ต่อไปข้าคงกินน้ำแกงบำรุงนี่ไม่ได้อีกแล้ว ฤทธิ์มันแรงเกินไป ไม่ดีต่อเด็กในท้อง” “เช่นนั้นหรือเพคะ” เผิงฉือค้างชะงักไปหลังตัวเองเอ่ยจบ

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   75 : ตอนพิเศษ 4 : พระชายานางไม่คู่ควร

    4 : พระชายานางไม่คู่ควร ฮู่ตงหยางนำเรื่องสำคัญ มาขอคำชี้แนะจากพระชายา เดิมทีเผิงฉือไม่อยากให้เขาไปรบกวนหลินซือเยว่ แต่ทนเสียงอ้อนวอนไม่ไหว จึงได้เข้าไปรายงานพระชายาให้รับรู้ “หากไม่มีเรื่องสำคัญคงไม่มาหาข้า ป้าเผิงให้องครักษ์ฮู่เข้ามาเถอะ” หลินซือเยว่ยามนี้ใบหน้าอิ่มเอิบ เหมือนคนถูกเติมเต็มไปด้วยความรัก “เพคะพระชายา” เผิงฉือยามได้เห็นรอยยิ้มแห่งความสุข ผุดขึ้นเต็มใบหน้าของผู้เป็นนาย ราวกับก้อนหินหนักอึ้งในใจถูกวางลง เหลียงอ๋องยามนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ว่าได้มอบความรักให้พระชายาเพียงผู้เดียวจริง ๆ “พระชายา” ฮู่ตงหยางเข้าไปคำนับหลินซือเยว่ พร้อมกับเล่าความปรารถนาของตนเอง ให้พระนางฟังอย่างละเอียดทุกเรื่อง แต่กลายเป็นว่าไม่ใช่เรื่องของเขาแม้แต่น้อย กลับเป็นเรื่องราวความรักของสวีวั่งซูแทน “องครักษ์ฮู่ท่านกล้าเอาเรื่องเหลวไหลมาเอ่ยกับพระชายาเชียวรึ” เผิงฉือขึงตามองเขาอย่างไม่พอใจ “ท่านป้าเผิง ข้าแค่เป็นห่วงวั่งซูเกรงว่าเขาจะพบเจอคนไม่ดีเข้า” หลินซือเยว่เคาะนิ้วลงบนโต๊ะเบา ๆ ออกไปเที่ยวชมเมืองเล่นอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป “ร

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   74 : ตอนพิเศษ 3 : ข้าอยากได้ลูกชายตัวอ้วน ๆ    

    3 : ข้าอยากได้ลูกชายตัวอ้วน ๆ ชีวิตของการเป็นพระชายาของเหลียงอ๋อง ไม่ได้ทำให้หลินซือเยว่ถูกขังอยู่แต่ในจวนได้ บางวันนางออกไปท่องเที่ยวข้างนอก ทำให้นางได้รู้จักชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองเหลียงมากขึ้น เซวียนหมิงยู่รู้ว่าห้ามนางไม่ได้ จึงยอมปลอมตัวออกไปเที่ยวข้างนอกกับนางด้วย “ท่านอ๋อง ท่านจะไปข้างนอกกับพระชายาข้าไม่ว่า แต่เหตุใดไม่ให้ข้ากับตงหยางไปด้วยเล่า” สวีวั่งซูเป็นห่วงความปลอดภัยของผู้เป็นนาย “วั่งซูเจ้าคิดว่าในเมืองเหลียงแห่งนี้ มีใครทำอันตรายข้ากับพระชายาได้บ้าง ลำพังข้าไม่เป็นไรแต่พระชายานั้น อย่าได้ดูแคลนฝีมือนางเด็ดขาด” สวีวั่งซูหันไปมองสหายด้านข้าง ฮู่ตงหยางกระซิบเบา ๆ “ขนาดฟ้ายังเรียกมาผ่าจวนหยางอ๋องได้ ข้าว่าเจ้าวางใจเถอะ ให้ท่านอ๋องไปกับพระชายาสองต่อสองเถอะ” สวีวั่งซูคล้ายไม่ยินยอมแต่ทำอันใดไม่ได้ เพราะพระชายาในชุดปลอมตัวเป็นบุรุษ ได้เดินออกมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเขา พร้อมขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น “พระชายาหน้าข้ามีอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ” สวีวั่งซูแปลกใจเล็กน้อย พระชายาไม่เคยมองเขาแบบนี้มาก่อน นี่คล้ายกำลัง

  • หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว   73 : ตอนพิเศษ 2 : มอบจวนให้ท่านพ่อตา

    2 : มอบจวนให้ท่านพ่อตา ตระกูลหลินสายรอง หลังจากหลินซือเยว่ได้แต่งงานเข้าจวนเหลียงอ๋องได้สองเดือน ครอบครัวของนางต้องหารือกันครั้งใหญ่ เพราะการกระทำของพวกเขาทุกคน จะส่งผลต่อฐานะพระชายาของหลินซือเยว่ไปด้วย หลินซูฮวารับบทหนักกว่าผู้อื่น มารดาของนางถึงกับจ้างคนมาสั่งสอน เรื่องที่บุตรีตระกูลมีชื่อเสียงต้องร่ำเรียนกัน “เจ้าต้องจำเอาไว้ซูฮวา เจ้าคือน้องสาวของพระชายาเหลียงอ๋อง จะทำสิ่งใดต้องมีผู้คนจับตามอง ข้าไม่อยากให้พวกเราทุกคน ทำร้ายพระชายาไปมากกว่านี้” เถียนฮูหยินสั่งสอนบุตรสาวคนเล็ก ในยามที่นางโอดครวญไม่อยากร่ำเรียน “ท่านแม่ข้าก็บ่นไปเช่นนั้นเอง ความจริงข้าเข้าใจเรื่องนี้ดี” หลินซูฮวาเดินเข้าไปกอดแขนมารดาเอาไว้แน่น “ท่านพ่อก็เหมือนกัน ท่านอย่าได้ไปคบหาพวกอันธพาลเข้าล่ะ ห้ามไปบ่อนเด็ดขาด” หลินซีฮันรู้สึกว่าหากปล่อยปละละเลย บิดาของเขาคงถูกคนล่อลวงไปได้ง่าย ๆ “ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร” หลินเต๋อหลบสายตาบุตรชาย ต่อไปนี้ต้องใจแข็งให้มากกว่านี้แล้วล่ะ “ท่านพี่ต่อไปพวกเราไม่ต้องไปที่หอโอสถทุกวันแล้วล่ะ ข้าว่าให้ผู้ดูแลร้านเขา

DMCA.com Protection Status