“เอิ๊ก”ฟ่านหลิงเยว่กินข้าวสองหม้อใหญ่เข้าไป เธอก็อิ่มจนตาเหลือกแม่ลูกจ้าวเฉียวอวิ๋นตกใจจนคิดว่าเธอเป็นอะไรไปหลินเฟิงกลับหาเหตุผลออกจากอ่าวเทียนสุ่ย และขับรถไปยังบริษัทเภสัชกรรมเชิงถังในห้องวิจัย หลินเฟิงใช้เตาที่ถังหว่านจัดแจงให้เขาเริ่มกลั่นไผ่กลืนทอง หลังจากผ่านความพยายามมาครึ่งค่อนคืน ในที่สุดหลินเฟิงก็นำไผ่กลืนทองกลั่นเป็นยาที่เปล่งประกายแสงสีทองได้สองเม็ดหลินเฟิงกลืนยาสองเม็ดเข้าไปทันทีโดยไม่มีความลังเลภายใต้การขับเคลื่อนของหยวนชี่ทั้งห้า ในดวงตาของหลินเฟิงมีแสงสีทองส่องออกมา อาการบาดเจ็บที่รุนแรงขึ้นจากการใช้ ปีศาจชั่วร้ายกลืนกินพลังสวรรค์ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง จุดตันเถียนที่เกือบจะแห้งเหือดก็มีกำลังภายในสีทองพุ่งออกมาไม่หยุดประสิทธิภาพของไผ่กลืนทอง ผลักดันร่างกายของเขากลับสู่จุดสูงสุดเมื่อสามปีที่แล้วอย่างต่อเนื่องผ่านไปเป็นเวลานาน หลินเฟิงตะโกนออกมาเสียงต่ำ สะเทือนทั่วทั้งตึกของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถังรปภ. ที่อยู่นอกตึกถึงกับตกใจอย่างมาก คิดว่าเกิดแผ่นดินไหวแต่ไม่รู้เลยว่า นี่เป็นเพียงแค่ผลพวงเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดจากการฟื้นตัวความแจ็งแกร่งของหลินเฟิงเม
“วางใจเถอะค่ะอาจารย์ พี่หลินเฟิงเก่งกาจมากจริง ๆ”หลินเสวี่ยฮุ่ยพูดเสริมอยู่ข้าง ๆ โจวเสี่ยวหางก็พยักหน้าพูด: “ฉันใช้ชื่อเสียงของสภานักเรียนของพวกเราเป็นเครื่องยืนยัน อาจารย์คะ คุณหลินท่านนี้ไม่มีทางทำให้คุณผิดหวังแน่นอน”“ก็ได้”หัวหน้าคณะพยักหน้า จากนั้นมองไปทางหลินเฟิงแล้วพูดขึ้น: “ไม่ทราบว่าวิชาเอกของคุณคือด้านไหน? เภสัชศาสตร์? การฝังเข็มรมยา? การเข้ากระดูก? หรือว่า...”“ผมพอเข้าใจทั้งหมด”หลินเสวี่ยฮุ่ยอยู่ตรงนี้ หลินเฟิงไม่มีทางทำให้เธอผิดหวังอยู่แล้ว จึงพยักหน้าพูดด้วยความมั่นใจ“พอเข้าใจทั้งหมด?”หัวหน้าคณะเผยสีหน้าแปลกประหลาดออกมา ก็ยิ่งคิดว่าวัยรุ่นคนนี้ที่อยู่ตรงหน้ากำลังพูดจาซี้ซั้วแพทย์แผนจีนในฐานะวิชาแพทย์แผนโบราณของประเทศมังกร แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องมีความซับซ้อนและกว้างใหญ่ต้องมีความรู้และประสบการณ์ในการลงมือจริงที่มากมาย วัยรุ่นคนนี้ที่อายุไม่ถึงสามสิบปี จะเข้าใจทั้งหมดได้อย่างไร?“หึ”เมื่อเห็นหัวหน้าคณะคนนี้ก้มหน้าครุ่นคิด หลินเฟิงก็รู้ว่าเขาไม่เชื่อตัวเองดังนั้นหลังจากที่ตรวจดูใบหน้าของหัวหน้าท่านนี้อย่างละเอียดหลินเฟิงก็พูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย: “ห
ขณะเดียวกัน หลินเฟิงในฐานะหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถังและหัวหน้าผู้ผลิตยา เขาก็อยากทำประโยชน์จริง ๆ บ้าง เลยรับสมัครวัยรุ่นที่มีพรสวรรค์มาให้บริษัทเภสัชกรรมเชิงถังเยอะ ๆนี่ก็ถือว่าได้ตอบแทนบุญคุณของถังหว่านไม่อย่างนั้น หลินเฟิงไม่มีทางเข้าร่วมการบรรยายแบบนี้เพื่อความสำเร็จและยศศักดิ์หรอกช่วงบ่ายหลินเฟิงมาถึงห้องโถงบรรยายตรงเวลา คิดไม่ถึงว่าตรงระเบียงทางเดินจะถูกนักศึกษาวัยรุ่นชายขวางเอาไว้คนผู้นี้ย้อมผมสีทอง เจาะหู แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไรเขายื่นมือไปค้ำกำแพง ขวางทางหลินเฟิงเอาไว้ และถามด้วยความเยาะหยัน: “นี่ นายชื่ออะไรน่ะ?”หลินเฟิงขี้เกียจจะสนใจนักศึกษาประพฤติไม่ดีแบบนี้ จึงอ้อมเขาเพื่อจะเดินจากไปนักศึกษาไม่ดีคนนี้เห็นหลินเฟิงมองข้างเขา ก็ระเบิดความโมโหออกมาทันที จากนั้นก็ท่อนไม้ที่อยู่ด้านหลังขึ้นมาฟาดไปทางแผ่นหลังของหลินเฟิง“แกแม่งกล้าเมินฉันเหรอวะ?”นักศึกษาผู้หญิงที่เดินทางมาฟังบรรยายที่อยู่ตรงระเบียงทางเดิน เห็นภาพนี้ก็ตกใจจนกรีดร้องออกมา“ผัวะ!”หลินเฟิงกำไม้เอาไว้ในมือด้วยมือข้างเดียวต่อให้นักศึกษาไม่ดีคนนั้นจะออกแรงดึงกลับอย่างไรก็ไม่ได้ใน
“อุ๊ย คนสวยคนนี้เป็นใคร? ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นที่คณะแพทย์มาก่อน?”“วางใจได้ หลิวฮ่าวไม่ใช่คนที่แล้งน้ำใจ คนสวยคนนี้ ถ้าหากคุณไม่มีเงินจ่ายค่าคุ้มครอง งั้นคืนนี้ไปนอนกับผมที่โรงแรมนอกมหาวิทยาลัยสักคืนก็พอใจ”มองดูสายตาหื่นกามของหลิวฮ่าวที่กวาดมองไปบนตัวหลินเสวี่ยฮุ่ย หลินเฟิงเดินเข้าไป จากนั้นจับไหล่ของหลิวฮ่าวเอาไว้เขาสัมผัสถูกจุดสำคัญของหลินเฟิงได้พอดี“เดิมอยากจะฝากความประทับใจที่ดีให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัย”“คิดไม่ถึงว่าในมหาวิทยาลัยก็มีสวะแบบนายอยู่ด้วย”ท่ามกลางสายตาที่งุนงงของหลิวฮ่าว หลินเฟิงเหวี่ยงฝ่ามือ ตบไปที่ใบหน้าของหลิวฮ่าวอย่างแรง ตบจนเขากลิ้งตัวไปบนพื้นทันที“ไสหัวไปซะ!”หลินเฟิงตะคอกด่าเสียงต่ำ ทันใดนั้นก็ทำให้พวกนักศึกษาที่ล้อมรอบอยู่แอบรู้สึกสะใจในเมื่อนักเรียนเหล่านี้ทนทุกข์ทรมานจากหลิวฮ่าวมานานแล้ว“แกกล้าตบฉันเหรอ? แกแม่งกล้าตบฉันเหรอวะ!”หลิวฮ่าวที่ล้มลุกคลุกคลานขึ้นมาจากบนพื้นชี้หน้าด่าหลินเฟิง: “แกรอฉันได้เลย แกแม่งอย่าไปไหนล่ะ รอฉันอยู่นี่!”ฟังหลิวฮ่าวทิ้งคำขู่เอาไว้ และกุมหน้าจากไป นักศึกษาที่อยู่รอบ ๆ ก็เผยสีหน้าเป็นกังวลออกมา“พี่หลินเฟิง ห
ในตอนที่หลินเฟิงกำลังคุมเชิงอยู่กับหลิวฮ่าวและคนอื่น ๆ ที่ตรงทางเดิน นักศึกษาที่อยู่ในห้องเรียนก็มองไปตรงทางเดินด้วยความอยากรู้อยากเห็นและยิ่งมีนักศึกษาผู้หญิงที่ขี้ขลาดจำนวนมากต่างตกใจจนหน้าซีดเซียวที่ผ่านมาภายในคณะแพทย์ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีคนแข็งข้อมาก่อนแต่ทุกครั้งคนที่กล้าแข็งข้อต่อกล่อนกับหลิวฮ่าว จุดจบต่างน่าอนาถอย่างมาก“หลิวฮ่าว นายพอแค่นี้เถอะ!”โจวเสี่ยวหางออกมาจากห้องเรียน เชิญหลินเฟิงมาที่คณะแพทย์เป็นความคิดของเธอ ถ้าหากหลินเฟิงเกิดอะไรขึ้น อย่าว่าแต่หลินเสวี่ยฮุ่ย แม้แต่เธอเองก็ไม่มีทางโน้มน้าวใจตัวเองได้โจวเสี่ยวหางแอบตำหนิบตัวเอง ทำไมถึงคิดถึงไอ้สารเลวหลิวฮ่าวคนนี้ไม่ได้นะ“เสี่ยวหาง อย่าโทษฉันเลย ถ้าจะโทษก็โทษไอ้หมอนี่ที่กำเริบเสิบสานเกินไป วันนี้ไม่ให้มันได้เห็นฝีมือหน่อย ก็คงจะคิดว่าฉันหลิวฮ่าวกระจอกงอกง่อย?”หลิวฮ่าวเลียริมฝีปาก จากนั้นผลักโจวเสี่ยวหางไปด้านข้าง“พี่หลินเฟิง”หลินเสวี่ยฮุ่ยวิ่งออกมาจากห้องเรียน ถึงแม้จะกระวนกระวายใจ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้เลยเธอที่รู้ความ รู้ว่าตัวเองเข้าไปมีแต่จะเป็นตัวถ่วงหลินเฟิง“ไม่ต้องกังวล ฉันจัดการได้”หลินเฟิงพยัก
หลิวหย่งหายใจหอบ“พี่ มีคนตบผม ที่มหาวิทยาลัยเจียงโจว”“ตบนาย?”หลิวหย่งหยุดการกระทำลง และขมวดคิ้วขึ้นมา: “ฉันบอกให้นายตั้งใจเรียน อย่าทำแบบนั้นที่ในมหาวิทยาลัยไม่ใช่เหรอ?“ไม่ใช่นะ คนคนนี้กำเริบเสิบสานมาก ไม่ไว้แม้แต่หน้าพี่”“ว่าอะไรนะ…”หลิวฮ่าวอยู่ในโทรศัพท์หยุดชะงักครู่หนึ่ง ดูท่ากลัวว่าจะทำให้พี่ชายที่อารมณ์ร้อนของตัวเองโมโหจากนั้นพูดเสียงเบามาก: “เขาบอกว่าต่อให้พี่มา เขาก็ตบไม่เว้น”“อะไรนะ?”หลิวฮ่าวโมโหอย่างมาก ไม่ไว้แม้แต่หน้าของฉันหลิวหย่ง?โมโหก็ส่วนโมโหหลิวหย่งคลุกคลีอยู่กับเซียวคุนที่เขตตงเฉิงหลายปีขนาดนี้ ไม่ใช่คนที่รู้จักแต่ใช้กำลังเท่านั้น เขาหยุดชะงักครู่หนึ่ง จากนั้นก็ข่มความโมโหของตัวเองและถามขึ้น: “เขาได้พูดไหมว่าเขาเป็นใคร?”“ชื่อ อย่างน้อยนายน่าจะรู้ชื่อของเขาสินะ?”“เขาชื่อ…หลินเฟิง”“หลินเฟิง?!”หลิวหย่งได้ยินชื่อนี้ก็นิ่งอึ้งทันที“หลินเฟิงไหน?”“เขาเหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าผู้ผลิตยาของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถัง…”คนที่ชื่อซ้ำกับหลินเฟิงเมืองเจียงโจวไม่ใช่ว่าจะไม่มีแต่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลถัง อีกทั้งยังกำเริบเสิบสานขนาดนี้ ในหัวของหลิวหย่งก็
ภายใต้การบีบบังคับของพี่ชายตัวเอง หลิวฮ่าวก้มหน้าขอโทษไปทางหลินเฟิงภาพนี้ ทำให้นักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนตกตะลึงพวกเขาอดไม่ได้ที่จะหันหน้ามองไปทางหลนเฟิงที่หน้าตานิ่งเฉย ในใจสงสัยว่าศาสตราจารย์บรรยายในคณะแพทย์ของพวกเขาที่เพิ่งมาใหม่มีสถานะอะไรกันแน่นะยิ่งกว่านั้น ในดวงตาของนักศึกษาสาวหลายคนเริ่มเกิดเป็นประกายออกมาเห็นหลิวหย่งก็ยังเกรงใจและเคารพต่อหลินเฟิงขนาดนี้ โจวเสี่ยวหางก็วางใจได้แล้ว แต่ก็ยิ่งสงสัยต่อพี่ชายคนนี้ของหลินเสวี่ยฮุ่ยมากยิ่งขึ้นหลินเสวี่ยฮุ่ยรู้สึกภาคภูมิใจอย่างบอกไม่ถูกถึงขั้นที่ผายอกขึ้นเล็กน้อย“เสวี่ยฮุ่ย เธอบอกว่าสุดหล่อคนนั้นเป็นพี่ชายของเธอไม่ใช่เหรอ? แนะนำให้พวกเราหน่อยสิ”“จริงด้วยเสวี่ยฮุ่ย เมื่อครู่ยังไม่ได้สังเกต ตอนนี้ดูแล้ว พี่ชายเธอหล่อระเบิดมากเลยนะ”“เสวี่ยฮุ่ย รีบไปถามพี่ชายเธอว่า นัดเดทไหม?”ได้ยินคำเอาอกเอาใจและสอบถามของเหล่านักศึกษาผู้หญิงที่อยู่รอบ ๆ หลินเสวี่ยฮุ่ยรู้สึกโมโหเล็กน้อย และรีบพูดขึ้น: “พวกเธอเลิกล้อเล่นเถอะ พี่ชายฉันไม่ใช่คนที่จะมีความสัมพันธ์ชู้สาวซี้ซั้ว”“อุ๊ย ๆ เสวี่ยฮุ่ย เธอเป็นแบบนี้ พวกเธอคงไม่ได้ไม่มีความส
“ได้ครับ ได้ครับ งั้นผมรอคุณอยู่ตรงนี้”หลิวหย่งก็ไม่รีบร้อน จุดบุหรี่แล้วนั่งยองตรงระเบียงทางเดินเพื่อรอหลินเฟิงก็ไม่ได้ไล่เขากลับ จากนั้นเข้าไปในห้อง เริ่มการบรรยายของตัวเองตอนนี้หลินเฟิงมีอำนาจชื่อเสียงในใจของกลุ่มนักศึกษาเป็นอย่างมาก ไม่เพียงนักศึกษาผู้หญิงที่ใฝ่ฝันต่อหลินเฟิง แม้แต่นักศึกษาชายก็รู้สึกซาบซึ้งและเลื่อมใสหลินเฟิงอย่างมากมีเพียงเสียงผู้หญิงที่แสบแก้วหูพูดเหน็บแนมอยู่ที่แถวหน้า“หึ ก็แค่ถือว่าเบื้องหลังตัวเองมีอำนาจนิดหน่อยไม่ใช่เหรอ? ดูเขาอวดดีซะ ยังจะพูดถึงการดูดมถามจับชีพจร ใครจะไปรู้ว่าเขารู้เรื่องแพทย์แผนจีนหรือเปล่า”ห้องเรียนที่เงียบสงบถูกประโยคนั้นของนักศึกษาสาวคนนั้นขัดจังหวะขึ้นหลินเฟิงมองไป พบว่าคนที่พูดก็คือผู้หญิงที่ย้อมผมสีทองเมื่อครู่นี้เขาก็คือผู้หญิงที่เข้าไปประคองหลิวฮ่าวเมื่อครู่นี้ ดูท่าเป็นเพราะเรื่องของหลิวฮ่าว จึงทำให้เธอไม่พอใจต่อหลินเฟิง“หือ?”“ดูท่านักศึกษาหญิงท่านนี้มีความสงสัยต่อวิชาแพทย์ของผม?”หลินเฟิงก็ไม่ได้โมโห เขายืนมือไขว้หลังและยิ้มพูด:“จากมุมมองของคำว่า “ดู” ในการแพทย์แผนจีน นักศึกษาหญิงท่านนี้ คุณมีถุงใต้ตา ร่องต