หลินเฟิงเรียกรถแท็กซี่สองคันไปที่บ้านของถังหว่านตอนที่ถึงวิลล่าของตระกูลถัง นอกจากถังหว่านกับและถังว่านหลี่ ยังมีคนอีกสองคนหญิงสาวสวยคนหนึ่งที่นั่งข้างถังหว่าน ด้านหลังเธอเป็นชายในชุดสูทที่ไหล่กว้างตัวกลมๆดูเหมือนเป็นบอดี้การ์ด“เพื่อนหลินตัวน้อย ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว” เมื่อเห็นหลินเฟิงกับถังว่านหลี่ก็ลุกขึ้นมาทักทาย “คุณถัง” หลินเฟิงพยักหน้าตอบคุณผู้หญิงที่นั่งข้างถังหว่านคนนั้น ครั้งนี้เธอดูนิ่งขึ้นมาก เหมือนเป็นผู้หญิงที่ว่านอนสอนง่าย“คุณคือหลินเฟิงใช่ไหม” ทันใดนั้นหญิงสาวก็เอ่ยปากถามในแววตาของก็มีความเหยียดหยามซ่อนอยู่หลินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาถามกลับว่า “คุณคือ”ก่อนที่ถังหว่านจะพูดได้ หญิงสาวสวยก็แนะนำตัวเองว่า “ฉันเป็นแม่ของถังหว่าน”“จริงๆแล้วเป็นนางถัง ขอโทษด้วย” หลินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อยไม่คิดว่าออร่าของแม่ของถังหว่านจะแข็งแกร่งขนาดนี้เธออาจเป็นลูกสาวของตระกูลใหญ่โตลองคิดมันก็จริง ตระกูลร่ำรวยอย่างตระกูลถัง จะไม่มีความเกี่ยวข้องทางการเมืองได้อย่างไรนางถังมองดูหลินเฟิงอย่างชัดๆ เธอพูดอย่างใจเย็น “ฉันฟังลูกสาวพูดว่า คุณเก่งมาก?”“ไม่เพียงทักษะทางกา
ทั้งหมดนี้ทำเกือบผ่านไปในพริบตาตอนแรกคิดว่าโจวเฉินจะยอมแพ้ถึงแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะดวลกันอยู่ แค่เขาก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าบอดี้การ์ดของตระกูลถังจริงๆคิดไม่ถึงว่าคนนี้สังเกตเห็นอะไรแปลกๆ เขายังจู่โจมหลินเฟิงต่อไป“หยุด ผ่านทั้งหมดสามครั้งแล้ว หลินเฟิงชนะแล้ว”ตอนช่วงสำคัญ ถังหว่านก็ตะโกนเสียงดังโจวเฉินได้ยินก็หยุดทันที อย่างไรก็ตามเจ้านายก็แค่ขอให้เขาเตือนเด็กคนนี้เขารู้ดีแก่ใจว่าไม่สามารถฆ่าหลินเฟิงได้จริงๆเขาก้าวถอยหลังไปอย่างเงียบๆ เขาจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ตอนนั้นเขาก็พึ่งรู้ว่ากระดุมที่คอเสื้อของเขาหายไปคำสาปแช่งในใจ “แม่งเอ้ย กระดุมหายไปไหนแล้ว?”“แม่ ตอนนี้เอาเสวียนหลิงโสมให้หลินเฟิงได้หรือยัง?”นางถังพยักหน้า “ไม่มีปัญหา”“ครั้งนี้ฉันอยู่เจียงโจวนานไม่ได้แล้ว โจวเฉินจะอยู่เคียงข้างคุณ เขารับผิดชอบในการปกป้องคุณ”“ปกป้องฉันเหรอ? มันไม่จำเป็น ตอนนี้หลินเฟิงเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉันแล้ว อีกอย่างเธอก็เป็นคนดูแลลูกสาวประธานฉินคุณไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของฉัน”ถังหว่านปฏิเสธทันทีมีมือคว้าแขนของหลินเฟิงไว้หลินเฟิงถึงกับพูดไม่ออกเล็กน้อยตัวเองเป็นบอดี้การ์ด
“โครงการอะไร?” หลินเฟิงถามด้วยความสงสัยถังหว่านมองไปที่หลินเฟิงด้วยสายตาคลุมเครือ “ฉันวางแผนที่จะจัดตั้งบริษัทยาอีกแห่ง แบบนี้ฉันจะได้รวบรวมยาอันล้ำค่าจากทั่วทุกมุมโลกให้กับคุณหลิน”“ฉันทำทั้งหมดนี้เพื่อคุณหลิน!”“เฮอเฮอ......”หลินเฟิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเขาเพิ่งรู้จักเธอได้ไม่กี่วัน เขาไม่เชื่อว่าถังหว่านผู้หญิงคนนี้จะทำอะไรเพื่อเขาได้“ทุกคนคงไม่ทำเรื่องลับๆ บอกมาสิ อยากให้ฉันทำอะไร”เขายังคงตื่นเต้นมากเกี่ยวกับบริษัทยาของถังหว่านแต่หลินเฟิงรู้ดีว่าไม่มีอาหารกลางวันฟรีในโลกการที่เอาของคนอื่นไป ก็ต้องจ่ายราคาบางส่วนไปตามธรรมชาติถังหว่านยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันอยากให้คุณเป็นแฟนของฉัน”“อืม?”หลินเฟิงสับสนไปหมด“อย่ามาล้อเล่นนะ”ถังหว่านหมั้นแล้ว เขาไม่อยากหาเหาใส่หัวและการสร้างศัตรูที่แข็งแกร่งให้กับตัวเขาเองเมื่อเห็นหลินเฟิงไม่เห็นด้วยถังหว่านจึงพูดว่า “ฉันแค่ล้อคุณเล่น”“จริงๆ แล้วตระกูลถังต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมยาในจงโจวด้วย ฉันรับผิดชอบโครงการนี้มาโดยตลอด"“แต่ตระกูลของฉันก็ส่งแทรกแซงในเรื่องนี้อย่างแน่นอน”“แต่ฉันอยากรับผิดชอบด้านการพัฒนาของบริษัทอย่างเต็มที่
หลี่ฮุ่ยหรานไม่กล้าล่าช้าเลยรีบมาที่ห้องผู้ป่วยของคุณปู่ห้องโบราณแต่เดิม ตอนนี้เต็มไปด้วยกลิ่นของยาฆ่าเชื้ออุปกรณ์ช่วยชีวิตวางอยู่เต็มห้องนางพยาบาลตัวน้อยสองกำลังยุ่งหน้ายุ่งหลังหลี่ฮุ่ยหรานวิ่งไปที่ข้างของหลี่ฮ่ายชาน มองดูคุณปู่ของตัวเองที่กำลังจะสิ้นลมเจ็บปวดหัวใจ “คุณปู่...”“เสี่ยวเฟิง? คือ... คุณใช่ไหม?” หลี่ไห่ชานลืมตาขึ้นช้าๆ เขาพึมพำชื่อของ หลินเฟิงหลี่ฮุ่ยหรานพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก “คุณปู่ ฉันเอง ฉันชื่อฮุ่ยหราน”“ฮุ่ยหราน?”ชายชราสะดุ้งเมื่อได้ยินสิ่งนี้ จากนั้นเขาก็ได้สติขึ้นแล้วพูดว่า “คุณมาแล้วหรอเหรอ? หลินเฟิง? ทำไมเขาไม่มากับคุณหละ?”หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกทำตัวไม่ถูกเลยพูดว่า “คุณปู่... หลินเฟิงกับฉันหย่ากันแล้ว ปกติเขาจะไม่มา”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ชายชราก็หายใจแรงขึ้น เสียงของเขาก็รีบเร่ง“ฮุ่ยหราน คุณไม่ควรหย่ากับหลินเฟิงจริงๆ... คุณไม่ควรจริงๆ…”หลี่ฮุ่ยหรานตกใจกับสถานการณ์ของปู่ของเขา “คุณปู่ อย่าทำให้ฉันกลัว อย่าตื่นตัวจนเกินไป”นางพยาบาลตัวน้อยที่อยู่ด้านข้างถอนหายใจ “คุณปู่มักจะพูดถึงหลินเฟิงตลอด แม้กระทั่งตอนเขาจะกินอาหารหรือดื่มชาตลอดทั้งวัน”หลี่ฮุ่ยหร
“หวางเส้าช่วยเรามากขนาดนี้ จะถือว่าเป็นคนนอกได้อย่างไร?” จางกุ้ยหลานไม่เห็นด้วยอย่างมากของคำพูดของหลี่ฮุ่ยหรานหลี่เหวินเชาที่อยู่ข้างๆก็พูดเสริม “ถูกต้อง เอาจริงนะทำไมไม่ให้หวางเส้าเป็นพี่เขยของฉันล่ะ? มันยังดีกว่าหลินเฟิงมากไม่ใช่หรอ?”“คุณหุบปากไปเถอะ”หลี่ฮุ่ยหรานจ้องมองไปที่พี่ชายของเขาและหยุดพูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หลินเฟิงก็รีบไปที่บ้านของตระกูลหลี่เมื่อทุกคนเห็นหลินเฟิง ไม่มีใครลุกขึ้นมาทักทายด้วยซ้ำอย่างไรก็ตามในสายตาของญาติเหล่านี้ หลินเฟิงไม่ได้ดีเท่ากับลูกเขยที่เข้ามาหาฝ่ายหญิงด้วยซ้ำมีเพียงหลี่ฮุ่ยหรานเท่านั้นที่ยืนขึ้นทักทาย แต่เพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เธอกับหลินเฟิงก็ยังเครืองกันอยู่ “คุณมาแล้วเหรอ?”หลินเฟิงรีบถาม “อาการของคุณปู่เป็นยังไงบ้าง?”“อาการหนักมากดูท่าไม่ค่อนดีนัก”หลินเฟิงพยักหน้า “ฉันไปพบคุณปู่ก่อน”เขาเดินผ่านกลุ่มคนตรงไปที่ห้องผู้ป่วยของหลี่ไห่ซาน“คุณปู่ คุณเป็นยังไงบ้าง?”คุณปู่รออยู่นาน สุดท้ายก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจึงรีบเงยหน้าขึ้นมองหลินเฟิง“เสี่ยวเฟิง คุณมาแล้วหรอ?”หลินเฟิงรีบจับคุณปู่ อีกทั้งยังจับ
ตอนนั้นประตูก็ถูกผลักคนถูกผลักอย่างกะทันหันจางกุ้ยหลานกับคนอื่นๆก็หลั่งไหลเข้ามาเมื่อเห็นหลินเฟิงกดคุณปู่ ก็รีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อหยุดเขาทันที “แซ่หลินหรอ?คุณจะทำอะไร?"หลินเฟิงขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ฉันกำลังช่วยคุณปู่รักษาโรคของเขา”“ช่วยคุณปู่รักษาโรคงั้นเหรอ?”จางกุ้ยหลานมีสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม “คนไร้ค่าอย่างคุณจะช่วยคุณปู่รักษาโรคงั้นหรอ?”“รีบไปซะ”หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ผลักหลินเฟิงออกไป“คุณ...” หลินเฟิงพูดถึงกลับไม่ออกคุณปู่ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เสี่ยวเฟิงกำลัง... กำลังรักษาฉันอยู่...”จางกุ้ยหลานถามว่า “เขาจะรักษาโรคอะไรได้”“คุณปู่ โปรดผ่อนคลายเถิด หวังเส้าได้ยินว่าคุณป่วย เขาจึงใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อเสวียนหลิงเพื่อยืดอายุของคุณ”คุณปู่กัดฟันแล้วพูดว่า “ฉันไม่ต้องการให้คนอื่นมารักษาฉัน มังกรตัวนั้น... รีบไปซะ”“คุณปู่คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร หวางเช่าช่วยครอบครัวของเราไว้มาก และเขาสนใจฮุ่ยหรานมาก”จางกุ้ยหลานพูดอย่างภาคภูมิใจ “อีกไม่นาน หวางเช่าจะเป็นลูกเขยของตระกูลหลี่ของเรา”“คุณ...” เมื่อคุณปู่ได้ยินว่าหลี่ฮุ่ยหรานกำลังจะแต่งงานกับหวางเช่า เขาก็โกรธมากจนเป็
หัวใจของหวางเส้าหลงเต้นรัวเมื่อวานฉันดื่มกับหลิวไฮ่เทา ยังได้ยินเรื่องยาอมตะเลือดราชันย์จากปากเขา แต่ไม่มีอันที่สองหลังจากได้ยินเรื่องอาการป่วยของคุณปู่ เขาเลยซื้อยาอาหารเสริม มันรักษาโรคไม่ได้ แต่แค่ไม่ได้เป็นอันตรายเขาโกหกว่าผู้ว่าการหลิวใช้ยาเป็นยาอมตะเลือดราชันย์แต่ยังไงก็รักษาหายแล้ว รักษาไม่หายก็เป็นจุดจบของคุณปู่ไม่คิดว่าหลินเฟิงจะพูดตรงๆว่าน้ำอมฤตของเขาเป็นของปลอมก่อนที่เขาจะพูดจางกุ้ยหลานดุ “หุบปากซะ คนไร้ค่าอย่างคุณจะรู้เรื่องงั้นหรอ?”“คุณยังสงสัยหวางเส้าอีกงั้นหรอ”หลี่เหวินเชาดูถูกเหยียดหยามมากขึ้น “ถูกต้อง คุณมีคุณสมบัติอะไรมาสงสัยหวางเส้า?”หวางเส้าหลงมีความสุขอย่างมาก ตราบใดมี่มีตระกูลหลี่อยู่ ฉันไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำพูดใดๆด้วยซ้ำฮ่าๆๆ......หลินเฟิงจ้องมองทั้งสองคนแล้วพูดว่า “ฉันขี้เกียจเกินกว่าจะเถียงกับคุณ ตอนนี้ฉันแค่อยากจะช่วยคุณปู่”ทั้งสองยืนอยู่ขวางไม่ยอมให้เขาเข้าเข้าใกล้จางกุ้ยหลานพูดอย่างเหยียดหยาม “ฉันก็สงสัยเหมือนกันว่าคุณอยากจะฆ่าคุณปู่”หลินเฟิงมองไปที่หลี่ฮุ่ยหรานอย่างเบื่อหน่าย “ฮุ่ยหรานให้ฉันไปรักษาคุณปู่เถอะ”หลี่ฮุ่ยหรานลังเลอย
แม้แต่หลี่ฮุ่ยหรานก็มองไปที่หวางเส้าหลงอย่างไม่น่าเชื่อ หวางเส้าหลงรู้สึกทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย ในใจก็รู้สึกเหลือเชื่อมากยิ่งขึ้นเขาไม่ได้ซื้อยาอมตะเลือดราชันย์ของจริงหรอกมั้ง?ดูเหมือนว่าฉันจะซื้อตุนเพิ่มตอนกลับ“ฮ่าฮ่า คุณปู่ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”จางกุ้ยหลานจ้องไปที่หลินเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆ “ฮึ่ม คุณไม่ได้บอกว่ายาอมตะเลือดราชันย์ของหวางเส้าเป็นของปลอมไม่ใช่เหรอ?”“ตอนนี้คุณปู่จากขีดอันตรายเป็นปลอดภัย คุณยังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”หลินเฟิงมองบน อาการคุณปู่จากขีดอันตรายแล้วปลอดถัยไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเม็ดนั้นเลยแต่ตอนนี้ตัวเองไม่ว่าจะพูดอะไรพวกเขาก็ไม่เชื่ออยู่ดีเขาก็ยังขี้เกียจจะอธิบายด้วยหลี่เหวินเชาพูดอย่างไร้ความปราณี “แม่ คุณคิดว่าเขาเป็นหมอมหัศจรรย์จริงๆ งั้นเหรอ?”“คำที่เขาพูดกับการตดมันแตกต่างกันอย่างไร”หลินเฟิงหันหลังกลับเพื่อจะจากไปคุณปู่เรียกเขาเพื่อให้หยุดทันที “เสี่ยวเฟิง คุณจะไปไหน? อยู่กินข้าวเย็นก่อนสิ”หลินเฟิงพูดอย่างขมขื่น “ไม่หรอก ฉันมีอย่างอื่นต้องทำงั้นไปก่อนนะ”“อย่าสิ”คุณปู่หลี่ไม่ต้องการให้หลินเฟิงจากไป แล้วพยายามอย่างเต็มที่เพื่อ
จางกุ้ยหลานถูกหลอกให้ซื้อที่ดินแห่งนี้เอาไว้ นั่นก็คือที่ดินที่ฉู่ฮวาจิ่นบอกหลินเฟิงก่อนหน้านี้ว่า มูลค่าจะเพิ่มขึ้นไม่ใช่แค่สิบเท่าอย่ามองว่าหลินเฟิงตอนนี้ใช้เงินสองพันห้าร้อยล้านบาทซื้อที่ดินเอาไว้ผ่านไปอีกสองเดือน เกรงว่ามูลค่าของที่ดินแห่งนี้จะพุ่งขึ้นสูงด้วยความเร็วจรวด ไม่ใช่แค่เพียงสองหมื่นห้าพันล้านบาท!จางกุ้ยหลานกับจางซินและคนอื่นๆ ยังหัวเราะเยาะหลินเฟิงว่าเป็นคนโง่ที่ถูกหลอกให้ใช้จ่ายเงินเมื่อดูแบบนี้แล้ว อันที่จริงพวกเธอต่างหากที่เป็นคนโง่มากที่สุด ถ้าหากพวกเธอได้รับรู้ข่าวสารนี้ภายหลัง จะต้องโมโหจนโรคหัวใจกำเริบหลินเฟิงบอกเรื่องนี้กับหลี่ฮุ่ยหรานช้าๆหลี่ฮุ่ยหรานอ้าปากกว้างในทันที และมีใบหน้าตกตะลึง“นี่มันเรื่องจริงเหรอ?!”“น่าจะผิดพลาดไม่ได้”หลินเฟิงพยักหน้า เพื่อเป็นการยืนยัน แถมยังโทรศัพท์ไปหาจ้าวเว่ย ต่อหน้าหลี่ฮุ่ยหรานจ้าวเว่ยถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ผู้จัดการที่ควบคุมงานประมูล แต่ในฐานะพนักงานภายในหน่วยงานพัฒนาเมืองเจิ้งเต๋อ ก็ยังสามารถได้ยินข่าวคราวนโยบายอยู่บ้างเขาได้ยินการสอบถามของหลินเฟิง พูดขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย:“คุณหลิน เรื่องพื้นที่พักอาศัยผมไม่ท
รับสมัครพวกแก๊งเขี้ยวเขียวเหล่านี้ หลังจากที่หลินเฟิงจัดแจงพวกเขาให้พักอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้เพิ่งขึ้นรถ บนใบหน้าก็เผยความดิ้นรนที่แปลกประหลาดออกมา“เป็นอะไรไปหลินเฟิง มีตรงไหนผิดปกติงั้นเหรอ?”หลี่ฮุ่ยหรานรีบถามขึ้นมา“ไม่ใช่”หลินเฟิงมองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความประหลาดใจ สุดท้ายก็ทำการตัดสินใจ ทอดถอนใจพูดว่า:“ฉันพูดความจริงกับนายแล้วกัน วันนั้นลูกค้าที่ชื่อคุณฉู่คนนั้นของคุณ อันที่จริงคือมือสังหารหญิงอันดับหนึ่งของลำดับมืด”“อะไรนะ?!”หลี่ฮุ่ยหรานงุนงง ถึงแม้เธอคิดว่าคุณฉู่คนนั้นจะท่าทางไม่ธรรมดา อีกทั้งดูก็รู้ว่าเป็นคนที่มีเบื้องหลัง แต่พูดว่าเป็นมือสังหารหญิงอันดับหนึ่งของลำดับมืดความแตกต่างของสถานะนี้มันมากเกินไปหน่อยแล้วหลี่ฮุ่ยหรานตกตะลึงจนพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่งผ่านไปครู่ใหญ่ เธอถึงได้รู้สึกคอแห้งผาก มองไปทางหลินเฟิง และพูดขึ้นอย่างยากลำบาก: “ความหมายของคุณก็คือ...หลี่ซื่อกรุ๊ปล้มเลิกการร่วมมือกับเธองั้นเหรอ?”“ไม่ ผมไม่ได้หมายความแบบนี้”หลินเฟิงส่ายหน้าแล้วพูดเสียงเคร่งขรึมว่า:“เธอไม่ได้ตั้งใจปิดบังสถานะของเธอต่อหน้าผม แต่กลับบอกผมโดยตรงผ่านวิธีบางอย่าง“งั้นเธอ
หลินเฟิงโบกมือพูดว่า: “ฉันไม่มีความคิดที่จะเป็นหัวหน้าแก๊งอะไรหรอกนะ เพียงแคร ต่อไปพวกนายห้ามทำความชั่วอีก”หลินเฟิงจับทรงผมโมฮอร์กของจิ่วเทา และสะบัดไปมาจากนั้นพูดว่า:“ตัดผมให้เรียบร้อย ฉันจะส่งคนมารับช่วงต่อ ส่งชุดฟอร์มที่เหมือนกันมาให้พวกนาย นับตั้งแต่วันนี้ พวกนายก็คือสมาชิกหน่วยใต้ดินของหน่วยรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว!”“ฮะ?”จิ่งเทาตั้งตัวไม่ทัน“ฮะอะไรกันล่ะ? หรือว่าพวกนายไม่เต็มใจ?”หลินเฟิงกวาดตามองพวกอันธพาลเหล่านี้ พวกอันธพาลส่วนหนึ่งในนั้นคุกเข่าให้หลินเฟิงด้วยความซาบซึ้งทันทีในเมื่อการเป็นอันธพาล บางครั้งไม่ใช่ว่าพวกเขาอยากเป็นจริงๆแต่เป็นเพราะเกิดมาฐานะไม่ดี ไม่มีความรู้อะไร และก็ไม่มีความสามารถ ดังนั้นทำได้เพียงใช้ชีวิตไปวันๆแบบนี้สู้รบฆ่าฟันแต่ได้ยินข่าวที่พวกเขาถูกบริษัทใหญ่รับจ้าง คนจำนวนไม่น้อยมีสีหน้าต่อต้าน แต่ก็มีคนเผยความหวังออกมาเช่นกัน“คือว่า…หัวหน้าหลิน มี…มีเงินเดินไหม?”อันธพาลคนหนึ่งถามขึ้นกล้าๆ กลัวๆ“พูดไร้สาระ ประกันสังคม 5 รายการ และกองทุนที่อยู่อาศัย 1 รายการ แล้วยังมีเงินเบี้ยเลี้ยง เงินค่าอาหาร หรือถ้าพวกนายอยากคลอดลูกข ก
หลินเฟิงคิดไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยว่า : ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันมีเงื่อนไขในการ่วมมืออย่างหนึ่ง ไม่รู้ว่านายจะยอมฟังหรือเปล่า?” “ เงื่อนไขอะไร?”ท่านจิ่วตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะมองไปทางหลินเฟิงด้วยแสงแห่งความหวังที่ผุดขึ้นในใจหากไม่ต้องออกจากเมืองเจิ้งเต๋อ พวกเขาก็คงไม่อยากออกไปอย่างแน่นอน“ฉันจะจัดการแก๊งอีกสองแก๊งให้พวกนาย ทำให้พวกนายยังอยู่ในเมืองเจิ้งเต๋อต่อไปได้”“แน่นอน เงื่อนไขก็คือพวกนายจะต้องยอมเชื่อฟังหลี่ซื่อกรุ๊ป ซึ่งก็คือ....”หลินเฟิงชี้ไปที่หลี่ฮุ่ยหราน ก่อนจะพูดอย่างยิ้ม ๆว่า :“คนนี้ ประธานของหลี่ซื่อกรุ๊ป ประธานหลี่”“อ่ะ?!”หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกสับสนอันธพาลที่อยู่โยรอบ รวมถึงท่านจิ่วต่างก็รู้สึกสับสน“ทำไม? พวกนายไม่ยอมรับงั้นเหรอ?”หลินเฟิงขมวดคิ้วอย่างจงใจ“ยอมสิ ยอมแน่นอน เพื่อนและครอบครัวของพวกพี่น้องหลายๆ คนของพวกเราต่างก็อยู่ในเมืองเจิ้งเต๋อ เว้นแต่ไม่มีทางเลือก พวกเราก็ไม่ยอมออกไปจากเมืองเจิ้งเต๋อหรอก เพียงแต่...”ท่านจิ่วรู้สึกลำบากใจ“เพียงแต่อะไร?”“เพียงแต่....”ท่านจิ่วจ้องมองไปที่หลินเฟิง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้จริง ๆเขาก็อยากจะพูดว
ดูเหมือนว่าอันธพาลแก๊งหมาป่าสีเลือดพวกนี้ต้องการที่จะหนีหลินเฟิงก้าวไปข้างหน้าขัดขวางทางหลบหนีของท่านจิ่วก็เลยได้แต่บอกว่าหลินเฟิงชื่นชมท่านจิ่วอย่างมากเขายอมรับว่า หมัดที่ตัวเขาเองเพิ่งจะปล่อยออกไปนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่เพราะหมดนี้ท่านจิ่วกลับสามารถรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของตัวเขาเองได้ในทันที และตัดสินว่าพวกเขานั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเฟิงการยอมรับความพ่ายแพ้อย่างไม่มีขอบเขตหากพูดจากมุมมองนี้ ท่านจิ่วก็เป็นคนที่ตรงไปตรงมาคนหนึ่ง“คิดจะหนี? จบแล้ว”หลินเฟิงพูดซ้ำกับสิ่งที่ท่านจิ่วเคยพูดไว้เหมือนเดิมทุกประการกลับคืนไป จากนั้นเขาก็ยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า :“ท่านจิ่ว...ที่นี่น่าจะไม่ใช่สมาชิกของแก๊งหมาป่าสีเลือดทั้งหมดหรอกใช่ไหม?”“อ่ะ?!”เมื่อได้ยินคำถามของหลินเฟิง ท่านจิ่วก็ถูกทำให้ตกใจจนเหงื่อแตกพลั่กหรือว่ายอดฝีมือคนนี้ต้องการจะจัดการกับแก๊งหมาป่าสีเลือด?เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากพร้อมกับกัดฟันและพูดขึ้นว่า:“ท่านยอดฝีมือพูดถูก ที่นี่....ที่นี่เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆของแก๊งหมาป่าสีเลือดของพวกเราเท่านั้น”“จริง ๆแล้ว....เมื่อเร็ว ๆนี้แก๊งหมาป่าของพวกเ
เมื่อท่านจิ่วออกคำสั่ง อันธพาลพวกนี้ก็รีบพุ่งเข้าไปเพื่อที่จะฉีกหลินเฟิงเป็นชิ้น ๆ โดยตรง“ไอ้หนู ฉันชื่นชมความกล้าหาญของนายมากนะ ไม่รู้ว่านายเป็นใครมาจากไหนงั้นเหรอ?”ท่านจิ่วหรี่ตาลง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ดูอวดดีและมั่นใจอย่างมากคนนี้ ในใจของเขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อยหรือว่าเขาจะเป็นลูกชายของตระกูลที่มีอิทธิพลหรือเปล่า?หรือว่าเป็นลูกศิษย์ของสำนักหนานไห่?“ฉันคือ หลินเฟิง เป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป”เมื่อหลินเฟิงตะโกนชื่อนี้ออกมาด้วยความมั่นใจ แม้แต่ท่านจิ่วก็เกิดภาพลวงตาบางอย่างขึ้นมาชั่วขณะหนึ่งหลี่ซื่อกรุ๊ป? หลี่ซื่อกรุ๊ปอะไร?หรือว่าที่เขาถึงก็คือหลี่ซื่อกรุ๊ปของเมืองเจิ้งเต๋อ? อ่ะ? หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัย?ท่านจิ่วตั้งสติอยู่นาน ถึงได้เข้าใจหลังจากเข้าใจถึงตัวตนของหลินเฟิงแล้ว ความรู้สึกอับอาบขายหน้าก็ผูดขึ้นมาในใจเป็นมอันดับแรก ไอ้หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าอะไรนั้น ก็เป็นแค่ยามเฝ้าประตูไม่ใช่เหรอ? แค่งยามคนเดียวก็กล้าข่มขู่ฉันงั้นเหรอ?ทันใดนั้นท่านจิ่วก็โกรธขึ้นมาทันที ก่อนจะตะโกนไปทางหลินเฟิงว่า:“ไปเลย
พวกเขาทั้งหมดต่างก็ถือไม้เบสบอลและมีดสปาต้า พร้อมกับปิดกั้นทางของหลินเฟิงและหลี่ฮุ่ยหรานไว้ในชั่วพริบตา อาคารที่พักอาศัยทั้งตึกก็เปลี่ยนจากอาคารร้างเป็นครึกครื้นทันที“ฮึ่ม ฮึ่ม ฮึ่ม!”พร้อมกับเสียงเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์และเสียงร้องไม่กี่ครั้ง ก็มีอันธพาลขี่รถจักรยานต์นับสิบคนพุ่งเข้ามาจากด้านนอกของเขตที่พักอาศัยยางล้อรถเสียดสีกับพื้น ก่อนที่สพวกเขาจะหยุดลงที่ข้าง ๆหลินเฟิงและหลี่ฮุ่ยหรานในตอนนี้ทั้งสองคนไม่มีที่ให้ถอยกลับอีกแล้ว ทั้งสี่ทิศทางก็ถูกล้อมไว้อย่างแน่นหนา“ติดจะไปตอนนี้ ก็สายเกินไปแล้ว!”แล้วอันธพาลที่มีทรงผมโมฮอร์กก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง“ฮ่าฮ่าฮ่า....”อันธพาลที่อยู่โดยรอบต่างก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะของผู้คนนับร้อย ดังมากจนทำให้อาคารที่พักอาศัยโดยรอบถึงกับสั่นสะเทือน“พวกคุณคิดจะทำอะไร?!”หลี่ฮุ่ยหรานเข้าใจว่า พวกเขาได้เข้ามาในถ้ำของพวกโจรแล้วถึงแม้ในใจจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของหลินเฟิง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนจำนวนมากขนาดนี้ในเวลาเดียว ก็ทำให้หลี่ฮุ่ยหรานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า
“ฮ่าฮ่าฮ่า....”แต่คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่หลินเฟิงสำรวจทั้งกลุ่มเสร็จแล้ว จู่ ๆก็หัวเราะออกมาเสียงดังรอยยิ้มนี้ กลับทำให้พวกอันธพาลที่เข้ามาใกล้ ๆตกใจแทน“หลินเฟิง คุณเป็นอะไร?”หลี่ฮุ่ยหรานมองไปทางหลินเฟิงด้วยความกังวล หรือเป็นเพราะว่าจ่ายเงินสองพันห้าร้อยล้านบาทเพื่อซื้อที่ดินแย่ ๆแบบนี้ ก็เลยโกรธจนสติมีปัญหางั้นเหรอ?หลี่ฮุ่ยหรานที่คาดเดาความเป็นไปได้ต่าง ๆอยู่ในใจแต่เธอเห็นหลินเฟิงหัวกลับมา พร้อมกับยิ้มและกระพริบตาให้เธอและพูดว่า :“ถ้าหากผมเดาไม่ผิดละก็ ครั้งนี้แม่ของคุณจะต้องขาดทุนครั้งใหญ่”“อะไรนะ?”หลี่ฮุ่ยหรานเบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจในตอนนี้เธอรู้สึกหวาดกลัวอยู่เล็กน้อยจริง ๆว่าหลินเฟิงอาจจะมีปัญหาทางจิต“ที่ดินนี้ ไม่ถึงครึ่งเดือนก็ต้องถูกรื้อแล้ว เมืองเจิ้งเต๋อจะสร้างทางหลวงพิเศษที่ต้องผ่านทางจากตรงนี้พอดี!”หลินเฟิงหันหน้าไปมองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพูดขึ้นว่า :“คุณรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร?”ไม่รอให้หลี่ฮุ่ยหรานตอบกลับ หลินเฟิงก็พูดขึ้นกับตัวเองว่า :“นี่หมายความว่า ราคาของที่ดินนี้จะต้องเพิ่มขึ้นมากว่าสิบเท่าอย่างแน่นอน! หึหึ ฮุ่ยหราน ครั้งนี้พวก
เมื่อเห็นที่อยู่ที่นี่ ใจของหลี่ฮุ่ยหรานก็จมดิ่งลงไปกว่าครึ่งการจราจรที่นี่ไม่ค่อยจะสะดวกสบายเท่าไหร่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาคารสำนักงานหรือโรงงานเลย มันไม่มีทางที่จะเปิดได้เช่นกันยิ่งไม่ต้องพูดว่า....หลี่ฮุ่ยหรานยืนอยู่หน้าที่ดินที่อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองแห่งนี้ และภายในต่างก็เต็มไปด้วยอาคารที่พักอาศัยเก่า ๆที่ทรุดโทรมอาคารที่พักอาศัยจำนวนไม่น้อยที่มีอายุการใช้งานที่เกินกำหนดแล้วแม้แต่กำแพงก็ยังมีรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ และมีบางรอยที่ยังเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันทรุดโทรมมาหลายปีโดยไร้การซ่อมแซม“หลินเฟิง ที่อยู่นี่ สองพันห้าร้อยล้านบาทนะ! และตอนนี้มันก็อยู่ในมือของพวกเราแล้ว”หลี่ฮุ่ยหรานถอนหายใจด้วยความหดหู่มองจากมุมของเธอ เดิมทีที่ดินนี่ก็ไม่ได้มีค่าอะไรเลยจนกระทั่งผู้อาศัยภายในอาคารพักอาศัยต่างก็อพยพออกไปมากกว่าครึ่งแล้ว ทำให้บ้านมากมายกลายเป็นบ้านผีสิงไป“หึหึ มันก็ไม่แน่นอนหรอก”หลินเฟิงยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปเขตที่อยู่อาศัยแห่งนี้“รีบวางไพ่เร็วเข้าสิ นายแม่งมองอะไรอยู่ได้?”“เฮยจื่อ นายเห็นผีหรือไง?”ทั้งสองคนยังเดินไปไม่เท่าไหร่ ก็เห